ประวัติความเป็นมาของการทำปลิงบำบัดทั้งในและต่างประเทศ ขั้นตอนการทำปลิงบำบัด ประโยชน์และผลข้างเคียงที่จะตามมาหลังจากการทำปลิงบำบัด

1. ปลิงบำบัดโรค
(leech
Therapy)

2. ที่มำและควำมสำคัญ
เนื่องจากในปัจจุบันวิธีการรักษาโรคมีหลากหลายวิธีการทั้งด้านการแพทย์
สมัยใหม่แบบทางตะวันตกการแพทย์แผนโบราณที่เน้นการรักษาจากธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือ สัตว์หลากหลายชนิด รวมทั้งสิ่งที่เราคิดว่าน่ากลัวทั้งหลาย
แท้จริงล้วนมีประโยชน์กับเราทั้งสิ้น รวมทั้งปลิงที่นามาใช้ในการรักษาโรคต่างๆได้
อย่างมากมาย ตั้งแต่โบราณทั้งในและต่างประเทศ วิธีการใช้ปลิงบาบัดซึ่งรู้จักกัน
อย่างแพร่หลายและช้านาน ซึ่งพบว่าน้าลายของปลิงมีเอนไซม์ที่มีสารประกอบ
สามารถช่วยในการรักษาโรค มีสมบัติช่วยในการยับยั้งการแข็งตัวของเลือด โดยมี
จุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มพูนความรู้ โดยธรรมชาติของมนุษย์อยากทราบเหตุผลและ
ปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ผู้จัดทาจึงทาการศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้

3. วัตถุประสงค์ของกำรศึกษำค้นคว้ำ
เพื่อศึกษำรูปแบบกำรรักษำโดยใช้วิทยำกำรทำงกำรแพทย์แบบ
แผนปัจจุบัน
 เพื่อศึกษำประโยชน์ของปลิงและสำรที่มีอยู่ในตัวปลิง
 เพื่อทรำบประวัติควำมเป็นมำของปลิงบำบัด

4.  ขอบเขตของกำรศึกษำ
ประวัติความเป็นมาของการทาปลิงบาบัดทั้งในและ
ต่างประเทศ ขั้นตอนการทาปลิงบาบัด ประโยชน์และ
ผลข้างเคียงที่จะตามมาหลังจากการทาปลิงบาบัด

5. วิธีกำรศึกษำค้นคว้ำ
1.จับฉลากหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
 2.หาข้อมูลโดยทั่วไปของการรักษาโรคด้วยการทาปลิงบาบัด
ข้อมูลทั่วไปของปลิง
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะได้ข้อมูลจากแหล่ง
ออนไลน์เป็นจานวนมากเนื่องจากหาสะดวกและรวดเร็ว

6. 3.วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับหัวข้อรายงานที่ต้องการจะค้นคว้า
มากน้อยเพียงใด และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่
4.นามาเรียบเรียงด้วยภาษาของผู้จัดทา เรียบเรียงตามหัวข้อที่น่าสนใจ
และปะติดปะต่อกันให้เข้าใจง่ายขึ้น
5.ศึกษารูปแบบของรายงานที่ถูกต้อง นาเนื้อหาและข้อมูลที่เรียบเรียง
เรียบร้อยแล้ว ใส่ตามรูปแบบของรายงานที่ถูกต้อง

7. ผลกำรศึกษำค้นคว้ำ
ปลิง หลำยคนอำจจะรู้จักปลิงในฐำนะของปรสิตที่ดูด
เลือดกินเป็นอำหำรและคิดว่ำปลิงเป็นสัตว์ที่เป็นอันตรำย
ต่อมนุษย์ แต่ทรำบหรือไม่ว่ำที่จริงแล้วปลิงถูกนำมำใช้
ช่วยรักษำโรคได้ ปลิงเป็นสัตว์ที่อำศัยอยู่ตำมหนองน้ำ
หรือลำธำร จะหำกินด้วยกำรดูดเลือดจำกสัตว์อื่น ๆ ไม่
เว้นแม้คน ในทำงกำรแพทย์โบรำณมีกำรนำปลิงมำใช้ใน
กำรดูดสำรพิษหรือเลือดเสียออกจำกร่ำงกำย

8. ประวัติกำรใช้ปลิงในกำรรักษำโรคในประเทศต่ำงๆ
สมัยอียิปต์โบรำณ ใช้ปลิงรักษำโดยกำรเอำเลือดเสียออกจำกร่ำงกำย เป็น
จุดเริ่มต้นของกำรนำปลิงมำช่วยรักษำโรค ช่วยรักษำอำกำรโรคไขข้อ
อักเสบ ช่วยบรรเทำอำกำรไข้ และช่วยในกำรผ่ำตัดหลอดเลือดดำ
 ประเทศอินโดนีเซีย ใช้ปลิงในกำรรักษำขั้นแรกคือทำควำมสะอำด
ผิวหนังบริเวณนั้น จำกนั้นก็นำปลิงมำดูดเลือด โดยให้ผู้ป่ วยนั่งเก้ำอี้2-
3 ชั่วโมง รอจนกว่ำปลิงจะดูดเลือดเสร็จ และหลุดออกมำเอง ใช้รักษำ
โรคควำมดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง เบำหวำน ไมเกรนเรื้อรัง คนที่
ขำไม่ดี และคนที่เพิ่งหำยจำกโรคสมองขำดเลือด

9.  ประเทศไทยนำปลิงมำแช่เหล้ำขำวก่อนแล้วนำขึ้นมำ นำดินมำทำเป็นกระบอก
วิธีกำรก็คือจับปลิงใส่ในกระบอกดิน นำไปวำงตำมจุดต่ำง ๆ ที่ปวด หรือที่เรียกว่ำ”
กอกปลิง”หมำยถึง เอำตัวปลิงมำเกำะที่ตัวเรำแล้วก็ให้ดูดเลือดออกจำกตัวเรำหรือ
จุดที่จะรักษำ พอปลิงกินเลือดจนอิ่มตัวเปล่งก็หลุด ใช้ในกำรรักษำโรคตำได้แก่
ปวดตำ ตำต้อ หรือปัญหำต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นผิดปกติกับตำ ปวดศีรษะ กำรรักษำฝี
 จำกข้อมูลดังกล่ำว อำจสรุปได้ว่ำวิธีกำรบำบัดโรคด้วยปลิง มีวิธีกำรรักษำขั้น
พื้นฐำนที่คล้ำยๆกันคือนำปลิงมำมำวำงไว้จุดที่ต้องกำรรักษำ แล้วให้ปลิงดูด
เลือดเสียออกจำกร่ำงกำยส่วนนั้น

10.  1.ไม่ปลิงนามาใช้ซ้า เพราะจะทาให้เสี่ยงต่อการนาเชื้อในตัวผู้ป่วย
รายหนึ่งไปยังอีกรายหนึ่งได้
 2.แพทย์ต้องทำกำรทดสอบผู้ป่วยก่อนว่ำมีอำกำรแพ้สำรฮิรูดีนที่มีอยู่
ในตัวปลิงหรือไม่ ทุกครั้งก่อนที่จะนำปลิงมำใช้ รักษำทั้งนี้เพื่อควำม
ปลอดภัยของตัวผู้ป่วยเอง
ข้อควรระวังจำกกำรทำกำรรักษำโดยใช้ปลิงบำบัด

11. ผู้จัดทา
• นางสาวปองกมล ประยงค์กุล ม.4/5 เลขที่32
• นางสาวบัณฑิตา ชูมณี ม.4/5 เลขที่ 43
โรงเรียนอามาตย์พานิชนุกูล จังหวัดกระบี่
ครูที่ปรึกษา
อาจารย์หทัยทิพย์ ศึกขะชาติ