SlideShare a Scribd company logo
1 of 98
Download to read offline
1
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ชื่อ สุชาดา เจียมจิตตน ชั้น ม.6/2 เลขที่ 18
2
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เรื่องที่ 1 ลักษณะเดํนของคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร๎างขึ้นมาเพื่อให๎มีจุดเดํน 4 ประการ เพื่อทดแทนข๎อจากัด
ของมนุษย์ เรียกวํา 4 S special ดังนี้
1. หน่วยเก็บ (Storage)
หมายถึง ความสามารถในการเก็บข๎อมูลจานวนมากและเป็นเวลานาน นับเป็น
จุดเดํนทางโครงสร๎างและเป็นหัวใจของการทางานแบบอัตโนมัติของเครื่องคอมพิวเตอร์
ทั้งเป็นตัวบํงชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แตํละเครื่องด๎วย
2. ความเร็ว (Speed)
หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข๎อมูล (Processing Speed)
โดยใช๎เวลาน๎อย เป็นจุดเดํนทางโครงสร๎างที่ผู๎ใช๎ทั่วไปมีสํวนเกี่ยวข๎องน๎อยที่สุด
เป็นตัวบํงชี้ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สาคัญสํวนหนึ่งเชํนกัน
3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting)
3
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข๎อมูลตามลาดับขั้นตอนได๎อยํางถูกต๎องและ
ตํอเนื่องอยํางอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีสํวนเกี่ยวข๎องเฉพาะในขั้นตอนการกาหนดโปรแกรม
คาสั่งและข๎อมูลกํอนการประมวลผลเทํานั้น
4. ความน่าเชื่อถือ (Sure)
หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให๎เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต๎อง ความนําเชื่อถือนับเป็น
สิ่งสาคัญที่สุดในการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้เกี่ยวข๎องกับโปรแกรม
คาสั่งและข๎อมูลที่มนุษย์กาหนดให๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กลําวคือ หากมนุษย์
ป้อนข๎อมูลที่ไมํถูกต๎องให๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ยํอมได๎ผลลัพธ์ที่ไมํถูกต๎องด๎วยเชํนกัน
เรื่องที่ 2 วิวัฒนาการกํอนจะมาเป็นคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์นั้นมีวิวัฒนาการที่รวดเร็วมาก ตั้งแตํยุคสมัยดึกดาบรรพ์เป็นต๎นมา
มนุษย์เรามีความพยายามที่จะคิดค๎นเครื่องมือให๎มาชํวยในการคานวณและการนับ ตั้งแตํ
เริ่มต๎นใช๎นิ้วมือนับ จนมาใช๎ก๎อนกรวด หิน มนุษย์จึงคิดค๎นวิธีการที่งํายกวํานี้ จนกลายมา
เป็นกลไกที่ใช๎ในการคานวณ จนวิวัฒนาการมาเป็นคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน โดยแบํงเป็น
4 ยุค
4
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
1.ยุคกํอนเครื่องจักรกล
2.ยุคเครื่องจักรกล
3.ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์
4. ยุคเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
คอมพิวเตอร์ในยุคเริ่มแรก
คอมพิวเตอร์ในยุคเริ่มแรกยังไมํมีชิปประมวลผลหรือระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน
โดยถ๎าย๎อนกลับไปเมื่อประมาณ 400 กวําปีที่แล๎วสํวนใหญํ คอมพิวเตอร์เหลํานี้มักใช๎ใน
การคานวณมากกวํา
อุปกรณ์ชนิดแรกของโลกที่เป็นเครื่องมือในการคานวณก็คือลูกคิดนั่นเองซึ่งถือได๎
วําเป็นอุปกรณ์ใช๎ชํวยการคานวณที่เกําแกํที่สุดในโลกและคงยังใช๎งานมาจนถึงปัจจุบัน ใน
ปี พ.ศ. 2158 นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John Napier ได๎สร๎างอุปกรณ์ใช๎
ชํวยการคานวณขึ้นมา เรียกวําNapier's Bones มีรูปรํางคล๎ายสูตรคูณในปัจจุบัน ในปี
พ.ศ. 2185 นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Blaise Pascal คิดวํานําจะมีวิธีที่จะคานวณ
ตัวเลขได๎งํายกวํา เขาได๎ออกแบบ เครื่องมือชํวยในการคานวณโดย ใช๎หลักการหมุนของ
5
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ฟันเฟืองหนึ่งอันถูกหมุนครบ 1 รอบ ฟันเฟืองอีกอันหนึ่งซึ่งอยูํ ทางด๎านซ๎ายจะถูกหมุนไป
ด๎วยในเศษ 1 สํวน 10 รอบ เครื่องมือของปาสคาลนี้ถูกเผยแพรํ
ออกสูํสาธารณะชน เมื่อ พ.ศ. 2188 แตํไมํประสบความสาเร็จเทําที่ควรเนื่องจากราคา
แพง และเมื่อใช๎งานจริงจะเกิดฟันเฟืองติดขัดบํอยๆ ทาให๎ผลลัพธ์ที่ได๎ไมํคํอยถูกต๎องตรง
ความเป็นจริง
ในสมัยนั้นยังไมํมีเครื่องจักรใดที่สามารถทาตามคาสั่งหรือทางานเองโดยอัตโนมัติได๎
แตํในพ.ศ.2344นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Joseph Marie Jacquard ได๎พยายาม
พัฒนาเครื่องทอผ๎าโดย ใช๎ บัตรเจาะรูในการใสํคาสั่งให๎ควบคุมเครื่องทอผ๎าให๎ทาตาม
แบบที่กาหนดไว๎ และแบบดังกลําวสามารถนามา สร๎างซ้าๆ ได๎อีกหลายครั้ง ความ
พยายามของ Jacquard สาเร็จลงใน พ.ศ. 2348 เครื่องทอผ๎านี้ถือวําเป็น เครื่อง
ทางานตามคาสั่งเป็นเครื่องแรก และตั้งแตํ Jacquard ได๎ประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมาทาให๎มี
เครื่องกลเกิดขึ้นมาหลายอยําง และได๎มีเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ได๎เปลี่ยนวงการของเครื่อง
คอมพิวเตอร์และการ คานวณ โดยอุปกรณ์ที่วํานี้มีชื่อวําเครื่องหาผลตําง (Difference
Engine) โดยเจ๎าเครื่องนี้มีความคล๎ายกับเครื่องคิดเลขในปัจจุบันนั่นเอง โดย Chales
Babbage เป็นผู๎สร๎างเครื่องนี้ขึ้นมา ในปี พ.ศ. 2373 เขาได๎รับความชํวยเหลือจาก
6
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
รัฐบาลอังกฤษเพื่อ สร๎างเครื่องDifference Engine ขึ้นมาจริงๆ แตํในขณะที่
Babbage ทาการสร๎างเครื่อง Difference Engine อยูํนั้น ได๎พัฒนาความคิดไปถึง
เครื่องมือในการคานวณที่มีความสามารถสูงกวํานี้ ซึ่งก็คือเครื่องที่เรียกวําเครื่องวิเคราะห์
(Analytical Engine) และได๎ยกเลิกโครงการสร๎างเครื่อง Difference Engine ลง
แล๎วเริ่มต๎นงานใหมํ คือ งานสร๎างเครื่องวิเคราะห์ ในความคิดของเขา
โดยที่เครื่องดังกลําวประกอบไปด๎วยชิ้นสํวนที่สาคัญ 4 สํวน
1.สํวนเก็บข๎อมูลเป็นสํวนที่ใช๎ในการเก็บข๎อมูลนาเข๎าและผลลัพธ์ที่ได๎จากการ
คานวณ
2.สํวนประมวลผลเป็นสํวนที่ใช๎ในการประมวลผลทางคณิตศาสตร์
3.สํวนควบคุมเป็นสํวนที่ใช๎ในการเคลื่อนย๎ายข๎อมูลระหวํางสํวนเก็บข๎อมูลและสํวน
ประมวลผล
4.สํวนรับข๎อมูลเข๎าและแสดงผลลัพธ์เป็นสํวนที่ใช๎รับทราบข๎อมูลจากภายนอก
เครื่องเข๎าสูํสํวนเก็บและแสดงผลลัพธ์ที่ได๎จากการคานวณให๎ผู๎ใช๎ได๎รับทราบ
7
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เป็นที่นําสังเกตวําสํวนประกอบตํางๆ ของเครื่อง Alaytical Engine มีลักษณะ
ใกล๎เคียงกับสํวนประกอบ ของระบบคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันมาก แตํนําเสียดายที่เครื่อง
Alalytical Engine ของ Babbage นั้นไมํสามารถ สร๎างให๎สาเร็จขึ้นมาได๎ ทั้งนี้
เนื่องจากเทคโนโลยี สมัยนั้นไมํสามารถสร๎างสํวนประกอบตํางๆ ดังกลําว และอีก
ประการหนึ่งก็คือ สมัยนั้นไมํมีความจาเป็น ต๎องใช๎เครื่องที่มีความสามารถสูงขนาด
นั้น ดังนั้นรัฐบาล อังกฤษจึงหยุดให๎ความสนับสนุนโครงการของ Babbage ทาให๎ไมํมี
ทุนที่จะทาการวิจัยตํอไป สืบเนื่องจากมาจากแนวความคิดของ Analytical Engine
เชํนนี้จึงทาให๎Charles Babbage ได๎รับการยกยํอง ให๎เป็น บิดาของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ และหลังจากนั้นอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ก็เริ่มพัฒนาขึ้น แตํมีอยํางหนึ่งที่ยัง
ไมํมีในยุคนั้น สิ่งนั้นก็คือโปรแกรมนั้นเอง เนื่องจากในสมัยนั้นไมํมีใครคิดที่จะทา
คอมพิวเตอร์สาหรับทางานขึ้นมา แตํใน พ.ศ. 2385 ชาวอังกฤษ ชื่อ Lady Auqusta
Ada Byron ได๎ทาการแปลเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่อง Anatical Engine จากภาษา
ฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษใน ระหวํางการแปลทาให๎ Lady Ada เข๎าใจถึงหลักการ
ทางาน ของเครื่อง Analytical Engine และได๎เขียนรายละเอียดขั้นตอนของคาสั่งให๎
เครื่องนี้ทาการคานวณที่ยุํงยาก ซับซ๎อนไว๎ในหนังสือทางคณิตศาสตร์เลํมหนึ่ง ซึ่งถือวํา
เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมแรกของโลก และจากจุดนี้จึงถือวํา Lady Ada
เป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก (มีภาษาที่ใช๎เขียนโปรแกรมที่เกําแกํ อยูํหนึ่งภาษา
8
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
คือภาษา Ada มาจาก ชื่อของ Lady Ada) นอกจากนี้ Lady Adaยังค๎นพบ
อีกวําชุดบัตรเจาะรูที่บรรจุคาสั่งไว๎สามารถนากลับมาทางานซ้าได๎ถ๎า ต๎องการ นั่นคือหลัก
ของการทางานวนซ้า หรือเรียกวํา Loop เครื่องมือที่ใช๎ในการคานวณที่ถูกพัฒนาขึ้นใน
ศตวรรษที่ 19 นั้น ทางานกับเลขฐานสิบ (Decimal Number) แตํเมื่อเริ่มต๎น
ของศตวรรษที่ 20 ระบบคอมพิวเตอร์ได๎ถูกพัฒนาขึ้นจึงทาให๎มีการเปลี่ยนแปลงมาใช๎
เลขฐานสอง (Binary Number) กับระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจาก
หลักของพีชคณิต
เครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละยุค
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2497-2501)
อยูํระหวํางปี พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช๎หลอด
สุญญากาศ (Vacuum tube)ซึ่งใช๎กาลังไฟฟ้าสูงมาก ถึงแม๎จะมีระบบระบายความร๎อนที่
ดี แตํจะมีปัญหาในเรื่องความร๎อนและไส๎หลอดขาดบํอย การสั่งงานใช๎ภาษาเครื่องซึ่งเป็น
รหัสตัวเลขที่ยุํงยากและซับซ๎อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญํ เชํน มาร์ค วัน
(MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC
9
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502-2507)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และใช๎
วงแหวนแมํเหล็กเป็นหนํวยความจา คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกวํายุคแรก ต๎นทุนต่ากวํา
ใช๎กระแสไฟฟ้าและมีความแมํนยามากกวํา มีอุปกรณ์เก็บข๎อมูลสารองในรูปแบบของสื่อ
แมํเหล็ก สามารถเขียนโปรแกรมระดับสูงได๎
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2508-2513)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็นสารกึ่งตัวนาที่
สามารถบรรจุวงจรทางตรรกะไว๎แล๎วพิมพ์บนแผํนซิลิกอน (Silicon) เรียกวํา "ชิป"
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2514-2523)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ วงจร LSI (Large Scale Integration) เป็นการรวม
วงจรไอซีจานวนมากลงในแผํนซิลิกอนชิป 1 แผํน สามารถบรรจุได๎มากกวํา 1 ล๎านวงจร
ด๎วยเทคโนโลยีใหมํนี้ทาให๎เกิดแนวคิดในการบรรจุวงจรที่สาคัญสาหรับการทางาน
พื้นฐานของคอมพิวเตอร์นั่นคือ CPU ลงชิปตัวเดียว เรียกวํา "ไมโครโพรเซสเซอร์"
10
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 (พ.ศ. 2524-ปัจจุบัน)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎วงจรVLSI (Very-large-scale integration) เป็นการ
พัฒนาไมโครโพรเซสเซอร์ให๎มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เรื่องที่ 3 ยุคกํอนเครื่องจักรกล(Premechanical)
วิวัฒนาการของเครื่องมือชํวยนับและการคานวณในยุคกํอนเครื่องจักรกล เมื่อ
วิวัฒนาการทางสังคมของมนุษย์มีความเจริญมากขึ้น การใช๎นิ้วมือหรือก๎อนหินมา
ชํวยนับนั้นมีข๎อจากัดอยูํเชํนกัน เนื่องจากไมํสามารถนับหรือคานวณหาคําตัวเลขที่
มาก ๆ ได๎ มนุษย์จึงได๎มีความพยายามคิดค๎นเครื่องมือชํวยนับที่ดีกวําเดิมด๎วยการ
สร๎างระบบตัวเลขขึ้นมา ซึ่งพอจะยกตัวอยํางเครื่องมือในยุคนี้ ได๎แกํ
11
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
แผํนหินอํอนซาลามิส ( Salamis Tablet)
ลูกคิด ( Abacus)
12
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
แทํงคานวณของเนเปียร์ ( Napier’s bone)
ไม๎บรรทัดคานวณ ( Slide Rule)
เรื่องที่ 4 ยุคเครื่องจักรกล (Mechanical)
13
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ยุคเครื่องจักรกล (Mechanical Age) (1450 A.D. – 1840 A.D.)
ชุมชนเป็นชุมชนทางการเกษตรต๎องการแรงงานคนจานวนมาก สํงผลตํอการเพิ่ม
ของประชากรอยํางมากและรวดเร็ว สิ่งที่ตามมาคือความต๎องการ เครื่องใช๎ เสื้อผ๎า เครื่อง
อุปโภค บริโภค ปริมาณมากขึ้น จนการผลิตด๎วยแรงงานคนไมํทัน มนุษย์จึงพยายาม
ประดิษฐ์เครื่องมือมาชํวยในการผลิตนั่นก็คือ เครื่องจักรกล มาชํวยแบํงเบาแรงงานคน
ค . ศ . 1450
มีการประดิษฐ์แทํนพิมพ์และหนังสือพิมพ์ กลุํมคนรับรู๎ขําวสารมากขึ้น จากที่เคยจากัดอยูํ
ในพระคัมภีร์และกฎหมาย ภายใต๎การดูแลของนักบวช และขุนนางชั้นปกครอง ขําวสาร
ทาให๎มนุษย์เกิดความรู๎ และความรู๎ก็นามาซึ่งอานาจ (knowledge is the power)
ค . ศ . 1642
นาย Blaise Pascal ชาวฝรั่งเศสเมื่ออายุ 18 ปีได๎ประดิษฐ์ pascaline เครื่อง
คานวณจักรกลที่บวกลบเลขได๎อัตโนมัติ ชํวยงานคานวณของบิดาที่เป็นเจ๎าเจ๎าหน๎าที่เก็บ
ภาษี การทางาน ใช๎หลักฟันเฟือง (gear) เมื่อวงล๎อเล็กหมุน ครบรอบจะทาให๎
14
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ฟันเฟืองไปเกี่ยววงล๎อใหญํถัดไป ให๎หมุนสามารถ คานวณเลขจานวนเต็มได๎ 8
หลัก แตํเทคโนโลยี ในการผลิตชิ้นสํวนที่มีขนาด ไมํตรงตามที่ต๎องการและ ไมํเทํากัน
ทาให๎การทางานผิดพลาด
เครื่อง Pascaline
ค . ศ . 1804
นาย Joseph Marie Jacquard ชํางทอผ๎าชาวฝรั่งเศสสร๎าง หูกทอผ๎าที่ทอ
ผ๎าได๎กึ่งอัตโนมัติ Jacquard loom มีบัตร เจาะรู (punched) ที่ถูกเจาะรูตามรหัสที่
กาหนดขึ้น ควบคุม ลวดลายผ๎าและสีด๎ายที่ต๎องการ มีกลไกอํานบัตรไปควบคุม การ
ทางานของเครื่องฯ นับเป็นจุดเริ่มต๎นสูํยุคอุตสาหกรรม เปลี่ยนจากการผลิตทีละชิ้นด๎วย
มือ มาเป็นการผลิตด๎วย เครื่องจักรกลคราวละมากชิ้น (mass products)
กี่เจาะรูในยุคแรกๆ
15
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ค . ศ . 1822
นาย Charies Baddage นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษสร๎างเครื่องคานวณจักรกลดเพื่อ
คานวณ และพิมพ์ตารางทางคณิตศาสตร์ ชื่อ Difference engine แตํสร๎างไมํเสร็จก็
ไปสร๎างเครื่อง Analytical engine ที่ทางานคานวณตามชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่
กาหนดไว๎ นับเป็นเครื่องที่มีโครงสร๎างการทางานคล๎ายเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งมี
หนํวยความจาภายในเรียกวํา store เก็บตัวเลข 50 หลัก ได๎ 1000 คํา และแสดงผล
ลัพท์โดยการพิมพ์ออกมาทางกระดาษ ใช๎การทางานของ gear และ พลังงานไอน้า
เครื่องมีขนาดใหญํโตรางกับหัวรถจักรไอน้า แตํสร๎างไมํเสร็จเนื่องจากเทคโนโลยีการผลิต
เชํนเดียวกับเครื่อง pascaline เครื่องนี้ถ๎าสร๎างเสร็จจะสามารถทาการ คูณเลข 50
หลักในเวลา 1 นาที การหารเลข 100 หลักด๎วยเลข 50 หลักใช๎เวลา 1 นาที หลาย
ร๎อยปีตํอมาเครื่องในจินตนาการของ Buddage จึงเกิดขึ้นจริงนั่นก็คือ เครื่อง
คอมพิวเตอร์ เขาจึงได๎รับการยกยํองวําเป็น “ บิดาแหํงคอมพิวเตอร์ ” (Father of
computing) สํวนผู๎ชํวยที่ทาหน๎าที่เขียนเอกสารอธิบายการทางานของเครื่อง เขียนและ
ตรวจสอบชุดคาสั่งงานของเครื่อง หรือโปรแกรม คือ ทํานผู๎หญิง Augusta Ada ก็;;
16
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ได๎รับการยกยํองให๎เป็น “ นักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลก ” (The first
programmer) ยุคนี้มนุษย์พอข๎อจากัดของกล๎ามเนื้อในการผลิต และประมวลผล จึง
พยายามสร๎างเครื่องมือมาเสริมความสามารถของกล๎ามเนื้อ เกิดเครื่องจักรกล หรือ
กล๎ามเนื้อเหล็กขึ้น แตํยังใช๎แรงงานมนุษย์ในการผลิตอยูํดี
เครื่อง Difference engine
เรื่องที่ 5 ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์
(Electromechanical)
คอมพิวเตอร์ในยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์
17
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เครื่องมือทั้งหลายที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในยุคกํอนนั้นสํวนมากประกอบด๎วยฟนั เฟือง
รอก คาน ซึ่งเป็นวัสดุ ที่มีขนาดใหญํ และมีน้าหนักมากทาให๎การทางานลําช๎าและ
ผิดพลาดอยูํเสมอ ดังนั้นในยุคตํอมาจึงพยายาม พัฒนาเครื่องมือ ให๎มีขนาดเล็กลง แตํมี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนี้
พ.ศ. 2480ศาสตราจารย์ HowardAiken แหํงมหาลัยวิทยาลัยฮาวาร์ด ได๎พัฒนา
เครื่องคา นวณตามแนวคิด ของBabbage รํวมกับวิศวะกรของบริษัท IBMสร๎างเครื่อง
คา นวณตามความคิดของBabbage ได๎ สาเร็จ โดยเครื่องดังกลําวทางานแบบ
เครื่องจักรกลปนไฟฟ้า และใช๎บัตรเจาะรูเป็นสื่อในการนาเข๎าข๎อมูลสูํ เครื่องเพื่อทาการ
ประมวลผล การพัฒนาดังกลําวมาเสร็จสิ้นในปีพ.ศ. 2487 โดยเครื่องมือนี้มีชื่อวํา MARK
1 และเนื่องจากเครื่องนี้สาเร็จได๎จากการสนับสนุน ด๎านการเงินและบุคลากรจากบริษัท
IBM ดังนั้นจึงมีอีกชื่อ หนึ่งวํา IBM Automatic Sequence Controlled
Calculator และนับเป็นเครื่องคานวณแบบอัตโนมัติเครื่องแรกของโลกพ.ศ. 2486 ซึ่ง
เป็นชํวงสงครามโลกครั้งที่ 2 ศูนย์วิจัยของกองทัพบกสหรัฐอเมริกามีความจาเป็นที่จะต๎อง
คิดค๎นเครื่องชํวยคานวณ เพื่อใช๎คานวณหาทิศทางและระยะทางในการสํงขีปนาวุธซึ่งถ๎าใช๎
เครื่องคานวณที่มี อยูํในสมัยนั้นจะต๎องใช๎เวลาถึง 12 ชัวํ โมงในการคานวณ การยิง 1
18
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ครัง๎ ดังนั้นกองทัพจึงให๎กองทุนอุดหนุนแกํ John W. Mauchly และ Persper
Eckertจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ในการสร๎างคอมพิวเตอร์จากอุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา โดยนาหลอดสุญยากาศ(Vacuum Tube) จานวน 18,000
หลอด มาใช๎ในการสร๎างซึ่งมีข๎อดีคือ ทาให๎เครื่องมความเร็ว และมีความถูกต๎องแมํนยา
ในการคานวณมากขึ้น ในด๎านของความเร็วนั้นเครื่องจักกลมีความเฉื่อยของการเคลื่อนที่
ของชิ้นสํวนประกอบ แตํคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ จะใช๎อิเล็กตรอนเป็นตัวเคลื่อนที่ ทา
ให๎สามารถสํงข๎อมูลด๎วยกระแสไฟฟ้าได๎ ด๎วยความเร็วใกล๎เคียงกับความเร็วของแสงสํวน
ความถูกต๎องแมํนยาในการทางานของเครื่องจักรกลอาศัยฟันเฟือง รอก คาน ในการ
ทางาน ทาให๎ทางานได๎ช๎า และเกิดความผิดพลาดได๎งําย
พ.ศ. 2489 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ Mauchly และ Eckert คิดค๎นขึ้นได๎มีชื่อวํา
ENIAC ยํอมจาก(Electronic Numberical Integrater and Caculator)
ประสบความสาเร็จในปี
พ.ศ. 2489 ถึงแม๎วําจะไมํทันใช๎ในสงครามโลกครั้งที่สอง แตํความเร็วในการ
คานวณของ ENIAC ทาให๎วงการคอมพิวเตอร์ขณะนั้นยอมรับความสามารถของเครื่อง
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ แตํอยํางไรก็ตาม ENIAC ทางานด๎วยไฟฟ้าทั้งหมดทาให๎ใน
การทางานแตํละครั้งจึงทาให๎เกิดความร๎อนสูงมาก จาเป็นต๎องติดตั้งไว๎ในห๎องที่มี
19
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เครื่องปรับอากาศด๎วย นอกจากนี้ ENIAC ยังเก็บได๎เฉพาะข๎อมูลที่เป็นตัวเลข
ขนาด 10 หลัก และเก็บได๎เพียง 20 จานวน เทํานั้น สํวนชุดคาสังํ นั้นยังไมํสามารถ
เก็บไว๎ใน
เครื่องได๎ การสํงชุดคาสังํ เข๎าเครื่องจะต๎องใช๎วิธีการเดินสายไฟสร๎างวงจรถ๎ามีการ
แก๎ไขโปรแกรม ก็ต๎องมีการเดินสายไฟกันใหมํ ซึ่งใช๎เวลาเป็นวัน
คอมพิวเตอร์ในยุคเครื่องจักระบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ เชํน ENIAC เวลา
โปรแกรมต๎องใช๎วิธีการเปลี่ยนสายเชื่อมตํออุปกรณ์ตํางๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ยุํงยากมาก จึง
เกิดแนวคิดวําตัวโปรแกรมนําจะจัดเก็บอยูํในสํวนที่สามารถปรับเปลี่ยนแก๎ไขได๎งําย เป็น
ที่มาของแนวคิดที่ทาการจัดเก็บข๎อมูลตํางๆรวมถึงโปรแกรมไว๎ในหนํวยความจา หรือ
memory ทาให๎คอมพิวเตอร์จะได๎รับคาสังํ โดยการอํานคาสังํ จากหนํวยความจา และ
การปรับเปลี่ยนโปรแกรมสามารถทาได๎โดยการเปลี่ยนแปลงคําภายในหนํวยความจาโดย
มีแนวคิดที่รู๎จักในชื่อวํา"Stored-Program Concept" หรือ อีกชื่อวําสถาปตั ยกรรม
von Neumann โดยเข๎าใจวํา J. Presper Eckert และJohn William Mauchly
ซึ่งเป็นนักออกแบบ ENIAC เป็นผู๎คิดค๎นขึ้นตํอมาได๎นา แนวคิดการทางานแบบ
Stored-Program เป็นแนวคิดหลักของการทางานในคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน โดย
แนวคิดนี้จะแบํงการทางานของ
20
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
คอมพิวเตอร์เป็น 4 สํวนหลักได๎แกํ
สํวนที่ 1 หนํวยประมวลผลในรูปแบบข๎อมูล Binary หรือที่เรียกวํา
Arithmetic-Logical Unit (ALU) เปรียบเสมือนหัวใจของคอมพิวเตอร์ หน๎าที่หลัก
ของมันคือทาการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ขัน๎ พื้นฐานอันได๎แกํการบวกและลบ
และการทาการเปรียบเทียบข๎อมูลสองข๎อมูลวํามีคําเทํากันหรือไมํถ๎าไมํจะมีคํามากกวําหรือ
น๎อยกวํา
สํวนที่ 2 หนํวยความจา หรือ Memory ใช๎สาหรับเก็บข๎อมูล (Data) และ คา
สังํ (Instructions) โดยข๎อมูลภายในหนํวยความจาจะถูกแบํงเป็นสํวนๆเล็กๆเทําๆกัน
แตํละสํวนมีที่อยูํ (address) เพื่อใช๎เข๎าถึงข๎อมูลที่ถูกจัดเก็บเอาไว๎
สํวนที่ 3 อุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต หรือ I/O Device เป็นสํวนที่ใช๎นาข๎อมูล
จากโลกภายนอกเข๎ามาภายในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อนามาประมวลผล และเมื่อได๎ผล
ลัพธ์ก็จะนาข๎อมูลที่ได๎มาแสดงผลให๎โลกภายนอกคอมพิวเตอร์ได๎รับทราบ
สํวนที่ 4 หนํวยควบคุมการทางาน หรือ Control Unit เป็นสํวนที่ใช๎เชื่อมตํอแตํ
ละสํวนเข๎าด๎วยกัน หน๎าที่หลักๆคือทาการอํานข๎อมูลคาสังํ ที่อยูํภายในหนํวยความจาหรือ
ที่ได๎จากอุปกรณ์อินพุต ทาการแปลความหมายและสํงไปประมวลผลใน ALU จากนั้นนา
21
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ผลที่ได๎ไปจัดเก็บในหนํวยความจาหรืออุปกรณ์เอาต์พุต หน๎าที่หลักอีกประการ คือ
ควบคุมลาดับการทางานของแตํละขัน๎ ตอนให๎อยูํในเวลาที่เหมาะสม
เรื่องที่ 6 ยุคคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Machine)
ประเภทของคอมพิวเตอร์ถ๎าจาแนกตามลักษณะ วิธีการทางานภายในเครื่อง
คอมพิวเตอร์แบํงได๎เป็น2ประเภท คือ แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer)
22
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
และดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog
computer)เป็นเครื่องคานวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ไมํได๎ใช๎คําตัวเลขเป็นหลักของ
การคานวณ แตํจะใช๎คําระดับแรงดันไฟฟ้าแทน แอนะล็อกคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะ
เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกสํวนทาหน๎าที่เป็นตัวกระทาและเป็นฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์
จึงเหมาะสาหรับงานคานวณทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมที่อยูํในรูปของสมการทาง
คณิตศาสตร์ เชํน การจาลองการบิน การศึกษาการสันํ สะเทือนของตึกเนื่องจาก
แผํนดินไหว เป็นต๎น ในปจั จุบันไมํคํอยพบเห็นแอนะล็อกคอมพิวเตอร์เพราะผลการ
คานวณมีความละเอียดน๎อย ทาให๎มีขีดจากัดใช๎ได๎กับงานเฉพาะบางอยํางเทํานั้น
ค
Analog computer
23
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer)
เป็นเครื่องคานวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช๎งานเกี่ยวกับตัวเลข คําตัวเลขของการคานวณ
ในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะแสดงเป็นหลัก แตํจะเป็นระบบเลขฐานสองที่มีสัญลักษณ์ตัวเลข
เพียงสองตัว คือ 0 และ 1 เทํานั้น โดยสัญลักษณ์ทั้งสองตัวนี้จะแทนลักษณะการทางาน
ภายในซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้ าที่ตํางกัน การคานวณภายในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะเป็นการ
ประมวลผลด๎วยระบบเลขฐานสองทั้งหมด เครื่องดิจิทัลคอมพิวเตอร์หรือนิยมเรียกสั้น วํา
คอมพิวเตอร์ กาลังได๎รับความนิยมกันมากในขณะนี้ และพบเห็นอยูํทัวํ ไปในปัจจุบัน
Digital computer
24
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
c
เรื่องที่ 7 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์
(Transistor)
ระหวํางปี พ.ศ.2502 – 2506 มีการนาทรานซิสเตอร์ (transistor) ผู๎ที่คิดค๎น
คือนักวิทยาศาสตร์ของห๎องปฏิบัติการเบลล์ (Bell laboratories) แหํงสหรัฐอเมริกา
ได๎แกํ บาร์ดีน (J.Bardeen) แบรทเทน (H.W.Brattain)และชอคเลย์
(W.Shockley) ทาให๎เครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพใน
การทางานให๎มีความรวดเร็วและแมํนยามากยิ่งขึ้น โดยทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นครัง๎
แรกมีขนาด 1 ใน 100 ของหลอดสุญญากาศเทํานั้น นอกจากนี้ในยุคนี้ยังได๎มีการคิด
ภาษาเพื่อใช๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์เชํน ภาษาฟอร์แทน (FORTRAN) จึงทาให๎งํายตํอการ
เขียนโปรแกรมสาหรับใช๎กับเครื่อง
25
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
c
เรื่องที่ 8 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวม (IC)
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวม (IC) เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคตํอมาได๎รับการ
พัฒนาให๎มีขีดความสามารถที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แตํการผลิตเครื่องโดยใช๎ทรานซิสเตอร์แยก
เป็นตัว ๆ ทาให๎ต๎นทุนในการผลิตสูงมาก ตํอมาจึงได๎มีการเปลี่ยนมาใช๎แผงวงจรรวม
หรือที่เรียกวํา IC (Integrated Curcuit) ที่ประกอบด๎วยทรานซิสเตอร์นับพันตัว
รวมกันขึ้นในปี ค.ศ.1965
แผงวงจรรวมหรือ IC (Integrated curcuit)
26
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
c
IC แตํละตัวสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได๎มากถึงกวํา 1,000 ตัว ทาให๎ลดต๎นทุน
ในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ลงไปได๎มาก อีทั้งยังคานวณงานที่ซับซ๎อนขึ้นได๎เป็นอยํางดี
สํงผลให๎มีการผลิตเครื่องเพื่อจาหนํายอยํางแพรํหลาย โดยตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลง หรือ
ที่นิยมเรียกวํา “ มินิคอมพิวเตอร์” (Minicomputer) ซึ่งใช๎กระแสไฟฟ้าน๎อยกวําเดิม
ตัวอยํางเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ ได๎แกํ IBM 360, PDP1, CDC 3300, BURROUGH
7500 เป็นต๎น
เรื่องที่ 9 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญํ
(LSI และ VLSI)
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญํ ( LSI และ LVSI) ในยุคนี้คือ
ปลายศตวรรษ 1970 มีการนาไมโครโปรเซสเซอร์ ( microprocessor) ซึ่งเป็นวงจร
รวมขนาดใหญํที่ผลิตโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เรียกวํา LSI (Large Scale
Integrated) และ VLSI (Very Large Scale Integrated) เข๎ามาแทน
แผงวงจรรวมหรือ IC แบบเดิม เนื่องจากสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได๎มากกวํา โดย
บรรจุวงจรทรานซิสเตอร์นับหมื่น แสน หรือล๎านตัว ลงในชิ้นสารซิลิกอน (silicon) เล็ก
ๆ ไมโครโปรเซสเซอร์นี้คิดค๎นขึ้นโดยบริษัทอินเทล (Intel) ซึ่งยังเป็นผู๎ผลิต
27
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
c
ไมโครโปรเซสเซอร์ชั้นนาในปัจจุบันและทาให๎เกิดการผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
สาหรับการใช๎งานทั่วไปที่เรียกวํา “ ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer)” ซึ่งได๎รับ
ความนิยมแพรํหลายไปทั่วโลกในเวลาตํอมา
เรื่องที่ 10 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคเครือขําย (Network)
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคเครือขําย ( Network) การใช๎งานไมโครคอมพิวเตอร์ได๎รับ
ความนิยามอยํางแพรํหลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด๎วย มีการออกแบบและพัฒนา
เครื่องคอมพิวเตอร์ให๎มีขนาดเล็กลงพร๎อม ๆ กับประสิทธิภาพในการใช๎งานที่มุํงเน๎นให๎
เกิดการเชื่อมตํอเป็นเครือขําย (Network) มากยิ่งขึ้น บริษัทหรือองค์กรธุรกิจได๎นาเอา
28
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ไมโครคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัวมาเชื่อมตํอและแลกเปลี่ยนข๎อมูลกันในบริเวณใกล๎
หรือในสานักงานเดียวกัน เรียกวํา “ เครือขํายเฉพาะที่” หรือ LAN (Local Area
Network) จากนั้นก็ได๎พัฒนาให๎การเชื่อมตํอเข๎าหากันได๎มากขึ้นโดยกระจายบริเวณ
ออกไปในระยะที่กว๎างกวําเดิม เรียกวํา “ เครือขํายระยะไกล” หรือ WAN (Wide
Area Network) และในที่สุดก็พัฒนาไปสูํการเชื่อมตํอกันโดยไมํจากัดระยะทางไปยัง
ผู๎ใช๎งานทั่วโลกที่เรียกวํา “ เครือขํายอินเทอร์เน็ต” (Internet) ในที่สุด
การเชื่อมตํอคอมพิวเตอร์เข๎าเป็นเครือขํายเพื่อแลกเปลี่ยนข๎อมูลระหวํางกัน
สาหรับประเทศไทยเองโดยเฉพาะในปี พ.ศ.2546 ได๎รับการสํงเสริมจากรัฐบาลให๎
คนไทยมีคอมพิวเตอร์ใช๎กันแทบทุกครัวเรือน หรือที่เรียกวํา “ โครงการคอมพิวเตอร์เอื้อ
อาทร” สํงผลให๎จานวนผู๎ใช๎คอมพิวเตอร์โดยทั่วไปในประเทศสูงขึ้นอยํางมาก ซึ่งแตํเดิม
การใช๎งานคอมพิวเตอร์มักจะอยูํในวงแคบ ๆ และจากัดเฉพาะกลุํมผู๎มีรายได๎สูงเพียง
29
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
cc
เทํานั้น เมื่อได๎รับการสํงเสริมจากภาครัฐ ประกอบกับราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ใน
ตลาดที่ถูกลงมากอยํางเห็นได๎ชัด กลุํมผู๎ใช๎คอมพิวเตอร์จึงได๎แผํขยายวงกว๎างมากยิ่งขึ้นไปสูํ
กลุํมผู๎มีรายได๎น๎อยและปานกลางด๎วย นอกจากนี้การใช๎งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันยังไมํได๎
จากัดการใช๎งานอยูํเพียงสถานที่ที่ใดสถานที่หนึ่งอีกตํอไป เครือขํายคอมพิวเตอร์ที่เรียกวํา
เครือขํายไร๎สาย(Wireless LAN และ Wireless network ) ได๎เกิดขึ้นแล๎วในยุคนี้
และได๎ติดตามผลการแขํงขันกีฬา รับชมรายการโทรทัศน์ เป็นต๎น โดยอาศัยการทางาน
ผํานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดเล็กลงนั่นเอง
เรื่องที่ 11 ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเดํนหลายประการ ทาให๎ถูกนามาใช๎ประโยชน์ตํอ
การดาเนินชีวิตประจาวันในสังคมเป็นอยํางมาก ที่พบเห็นได๎บํอยที่สุดก็คือ การใช๎ใน
การพิมพ์เอกสารตํางๆ เชํน พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารตํางๆ ซึ่งเรียกวํางาน
ประมวลผล ( word processing ) นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช๎คอมพิวเตอร์ในด๎าน
ตํางๆ อีกหลายด๎าน ดังตํอไปนี้
30
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
1. งานธุรกิจ เชํน บริษัท ร๎านค๎า ห๎างสรรพสินค๎า ตลอดจนโรงงานตํางๆ ใช๎
คอมพิวเตอร์ในการทาบัญชี งานประมวลคา และติดตํอกับหนํวยงานภายนอกผําน
ระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม สํวนใหญํก็ใช๎คอมพิวเตอร์มาชํวย
ในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นสํวนของอุปกรณ์ตํางๆ เชํน โรงงาน
ประกอบรถยนต์ ซึ่งทาให๎การผลิตมีคุณภาพดีขึ้นบริษัทยังสามารถรับ หรืองาน
ธนาคาร ที่ให๎บริการถอนเงินผํานตู๎ฝากถอนเงินอัตโนมัติ ( ATM ) และใช๎
คอมพิวเตอร์คิดดอกเบี้ยให๎กับผู๎ฝากเงิน และการโอนเงินระหวํางบัญชี เชื่อมโยงกัน
เป็นระบบเครือขําย
2.งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ใน
นามาใช๎ในสํวนของการคานวณที่คํอนข๎างซับซ๎อน เชํน งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถี
การโคจรของการสํงจรวดไปสูํอวกาศ หรืองานทะเบียน การเงิน สถิติ และเป็น
อุปกรณ์สาหรับการตรวจรักษาโรคได๎ ซึ่งจะให๎ผลที่แมํนยากวําการตรวจด๎วยวิธีเคมี
แบบเดิม และให๎การรักษาได๎รวดเร็วขึ้น
3. งานคมนาคมและสื่อสาร ในสํวนที่เกี่ยวกับการเดินทาง จะใช๎คอมพิวเตอร์ในการ
จองวันเวลา ที่นั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได๎ ทาให๎
สะดวกตํอผู๎เดินทางที่ไมํต๎องเสียเวลารอ อีกทั้งยังใช๎ในการควบคุมระบบการจราจร
31
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เชํน ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการสื่อสารก็ใช๎ควบคุม
วงโคจรของดาวเทียมเพื่อให๎อยูํในวงโคจร ซึ่งจะชํวยสํงผลตํอการสํงสัญญาณให๎
ระบบการสื่อสารมีความชัดเจน
4.งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช๎คอมพิวเตอร์ใน
การออกแบบ หรือ จาลองสภาวการณ์ ตํางๆ เชํน การรับแรงสั่นสะเทือนของ
อาคารเมื่อเกิดแผํนดินไหว โดยคอมพิวเตอร์จะคานวณและแสดงภาพสถานการณ์
ใกล๎เคียงความจริง รวมทั้งการใช๎ควบคุมและติดตามความก๎าวหน๎าของโครงการ
ตํางๆ เชํน คนงาน เครื่องมือ ผลการทางาน
5.งานราชการ เป็นหนํวยงานที่มีการใช๎คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช๎หลาย
รูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยูํกับบทบาทและหน๎าที่ของหนํวยงานนั้นๆ เชํน
กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช๎ระบบประชุมทางไกลผํานคอมพิวเตอร์ ,
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได๎จัดระบบเครือขํายอินเทอร์เน็ตเพื่อ
เชื่อมโยงไปยังสถาบันตํางๆ , กรมสรรพากร ใช๎จัดในการจัดเก็บภาษี บันทึกการ
เสียภาษี เป็นต๎น
การศึกษา ได๎แกํ การใช๎คอมพิวเตอร์ทางด๎านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนา
คอมพิวเตอร์มาชํวยการสอนในลักษณะบทเรียน CAI หรืองานด๎านทะเบียน ซึ่งทาให๎
สะดวกตํอการค๎นหาข๎อมูลนักเรียน การเก็บข๎อมูลยืมและการสํงคืนหนังสือห๎องสมุด
32
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
cc
เรื่องที่ 12 คอมพิวเตอร์กับการใช๎งานภาครัฐ
หนํวยงานราชการ (Government) ในสํวนของราชการมีการนาเอาระบบคอมพิวเตอร์
เข๎าไปชํวยใน การทางาน การจัดเก็บข๎อมูล การจัดทาสามะโนประชากร และบริการ
ประชาชนให๎รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังมีรายละเอียด คือ
เว็บไซต์เรื่อง e-goverment
นโยบายการบริหาร (Administering Policies) ลักษณะนี้เป็นนาเอาคอมพิวเตอร์
มาใช๎ในการ จัดเก็บข๎อมูลด๎านการตัดสินคดีความตํางๆ ในศาล รวมไปถึงหลักนิติบัญญัติ
ด๎วย ในประเทศไทยเราเองก็จะเห็นอยูํโดยทั่วไป เชํน การบัญญัติกฎหมาย หรือการรําง
กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งต๎องผํานความเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา การจัดเก็บข๎อมูล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติ เป็นต๎น
การจ๎างงาน (Employment) ในปัจจุบัน รูปแบบการรับคนเข๎าทางาน
สะดวกสบายกวําแตํกํอนมาก ผู๎สมัครงานสามารถกรอกใบสมัครงานด๎วยตนเองผําน
อินเตอร์เน็ตได๎ โดยที่ไมํต๎องเดินทางไปสมัครเอง ซึ่งทาให๎ประหยัดทั้งเวลา และ
คําใช๎จํายในการเดินทาง พอสิ้นเดือนทางบริษัทก็พิมพ์ใบสมัครออกมาทาการคัดเลือกวํา
ผู๎สมัครคนใดมีความเหมาะสมกับตาแหนํงงาน จากนั้นจะเรียกมาสัมภาษณ์ เมื่อได๎ผู๎สมัคร
33
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ตามต๎องการ แล๎วก็จะมีการจัดเก็บประวัติเอาไว๎เพื่อใช๎ในการบริหารงานตํอไป บาง
บริษัทพัฒนาโปรแกรมการทดสอบผู๎สมัครงานขึ้นมา เพื่อให๎ผู๎สมัครเข๎าไปทดสอบความรู๎
ความสามารถ ความถนัดของตนเอง เชํนเว็บไซต์ www.testMe.com เมื่อเสร็จสิ้นการ
ทดสอบ จะมีผลคะแนนรายงานออกมา และนายจ๎างสามารถพิจารณาได๎วํา จะเลือก
ผู๎สมัครคนใดเข๎ามาทางานในบริษัท
จัดเก็บภาษีอากร (Tax) ได๎แกํการเอาคอมพิวเตอร์เข๎าไปจัดเก็บข๎อมูลด๎าน
ภาษีอากรของ ประเทศ หรือพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีอากรขึ้นมา ตัวอยําง
ประเทศไทย คือ กรมสรรพากร ได๎พัฒนาระบบการจัดเก็บภาษี และการชาระ
ภาษีรายได๎ผํานอินเตอร์เน็ต ทาให๎ผู๎เสียภาษีได๎รับเงินคืนภาษีภายใน 1 สัปดาห์
ซึ่งรวดเร็วกวําแตํกํอนมาก แม๎ผู๎ใช๎บางคนอาจบอกวํา มีความยุํงยากตํอการใช๎ หรือ
ผู๎เสียภาษีบางคนอาจมีปัญหาเรื่องการขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งกรมสรรพากรแจ๎งให๎
สํงผํานโทรสารมาให๎ แทนที่จะทาให๎เร็ว บางคนบอกยิ่งลําช๎าไปอีก เป็นต๎น ซึ่ง
ข๎อบกพรํองตรงนี้ กรมสรรพากรต๎องรีบเรํงแก๎ปัญหาอยํางเรํงดํวนตํอไป อยํางไรก็ดี
กลําวในเรื่องของคุณประโยชน์คอมพิวเตอร์อานวยประโยชน์ให๎มากกวําสํวนที่เป็น
ข๎อเสีย
34
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ด๎านสามะโนประชากร (Registration Census) คือ การนาเอาคอมพิวเตอร์มาชํวย
จัดเก็บข๎อ มูลของประชากรทั้งประเทศ เชํน สานักงานสถิติแหํงชาติ ตลอดระยะเวลาที่
ผํานมา มีความยุํงยากเหมือนกัน เพราะวํา ประชากรในประเทศทวีจานวนเพิ่มสูงขึ้น
เรื่อยๆ รัฐบาลจึงมีนโยบายนาเอาข๎อมูลของประชากรจัดเก็บลงในบัตรอัจฉริยะ (Smart
Card) โดยเฉพาะมีการริเริ่มทาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต๎ ซึ่งกาลังมีปัญหาด๎านการ
กํอการร๎าย และการกํอความไมํสงบเกิดขึ้นรายวัน สาเหตุเพราะมีประชาชนบางคน ถือ
2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทย และสัญชาติมาเลเซีย เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทาให๎การติดตาม
คนร๎ายเกิดความยุํงยากลาบาก เนื่องจากมีการหลบหนีข๎ามแดนไปอยูํฝั่งมาเลเซีย เป็น
ต๎น
เว็บไซต์แสดงฐานข๎อมุลหนํวยงานของรัฐ
35
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
cc
เว็บไซต์กรมสรรพากรบริการการจัดเก็บภาษี
เรื่องที่ 13 คอมพิวเตอร์กับการใช๎งานทางด๎านธุรกิจทั่วไป
สาหรับชีวิตประจาวันของคนเราในปัจจุบันนี้โดยสํวนใหญํแล๎วจะใช๎คอมพิวเตอร์เพื่อ
การทางานจัดเก็บข๎อมูลสาคัญไว๎และจะใช๎ระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการติดตํอสื่อสารกันเพราะ
สามารถทาได๎สะดวกและรวดเร็วรวมทั้งการรับสํงขอมูลที่ใช๎ระยะเวลาอันสั้นจึงจะเห็นได๎
วําองค์กร ห๎างร๎าน หรือแทบจะทุกหนํวยงานสํวนใหญํล๎วนแล๎วแตํนาระบบคอมพิวเตอร์
และอินเตอร์เน็ตมาใช๎กัน ซึ่งในที่นี้จะยกตัวอยํางธุรกิจที่นาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานธุรกิจ
ครําวๆดังนี้
36
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
การใช๎คอมพิวเตอร์ในวงการอุตสาหกรรม นับได๎วําคอมพิวเตอร์ได๎เข๎ามามีบทบาทเป็น
อยํางมาก ตั้งแตํการวางแผนการผลิต กาหนดเวลาการผลิตจนกระทั่งถึงการผลิตสินค๎า
ควบคุมระบบการผลิตทั้งหมด ในรายงานทางอุตสาหกรรมได๎มีการนาคอมพิวเตอร์มาใช๎
ในการควบคุมการทางานของเครื่องจักร
การใช๎คอมพิวเตอร์ในธุรกิจธนาคารคอมพิวเตอร์ ได๎เข๎ามามีบทบาทในการบริหาร
และการให๎บริการในด๎านธุรกิจธนาคาร ทาให๎ธุรกิจธนาคารเจริญรุดหน๎าอยํางรวดเร็ว
โดยการให๎บริการแกํลูกค๎าที่มาติดตํอด๎วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต๎อง
สาหรับความสารมารถและประโยชน์ในการนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช๎ในธุรกิจมีดังนี้
1.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการศึกษา เชํน การรับสมัครนักศึกษาเข๎าเรียน
การชาระคําลงทะเบียนเรียนผํานทางธนาคาร
2.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานทางด๎านการธนาคาร เชํน การให๎บริการกับลูกค๎า
การฝากเงิน และการถอนเงิน การชาระคําบริการตําง ๆ
3.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านโรงแรม เชํน การบันทึกข๎อมูลการเข๎าพัก และการ
แจ๎งคืนห๎องพักของลูกค๎า การชาระคําห๎องพัก
37
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
4.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านธุรกิจสายการบินที่เกี่ยวข๎องกับธุรกิจ เชํน การ
ตรวจดูตารางการบิน การจองตั๋วเครื่องบิน การยกเลิกเที่ยวบินและการสารองที่นั่ง
ลํวงหน๎า
5.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการแพทย์ที่เกี่ยวข๎องกับธุรกิจ เชํน การค๎นหา
ประวัติของคนไข๎ การวินิจฉัยโรค การเอ็กซเรย์และการชาระเงินคํารักษา
6.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการสื่อสาร เชํน การนาอินเตอร์เน็ตเข๎ามามีสํวน
รํวมในงาน
จะเห็นได๎วําการนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช๎ในงานธุรกิจมีความสาคัญเป็นอยําง
มาก เพราะมีความเกี่ยวข๎องกับธุรกิจ ทั้งนี้ถ๎าไมํมีคอมพิวเตอร์เข๎ามาชํวยในงานด๎านตําง
ๆ ก็อาจจะทาให๎งานขาดประสิทธิภาพก็ได๎ เพราะเนื่องจากในปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์ได๎มี
บทบาทเข๎ามาเกี่ยวข๎องเป็นอยํางมาก และทาให๎ผู๎ใช๎เกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จน
คอมพิวเตอร์ได๎เข๎ามาเป็นสํวนหนึ่งของชีวิตคนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
เรื่องที่ 14 คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน
38
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
การใช๎คอมพิวเตอร์ในธุรกิจสายการบิน
ธุรกิจสายการบินมีความจาเป็นต๎องนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ด๎วยเหตุผลหลายประการ
ประการแรก เพื่อให๎สามารถให๎บริการได๎รวดเร็ว ประการที่สอง เพื่อแขํงขันกับสายการ
บินอื่นๆ และประการที่สาม เพื่อรักษาความปลอดภัยในการบิน โดยชํวยให๎สามารถ
ตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และอุปกรณ์ได๎อยํางถูกต๎องแนํนอน และสม่าเสมอ
ธุรกิจที่มีการนาเอาคอมพิวเตอร์มาใช๎ อาจแบํงเป็นประเภทใหญํๆ ได๎ ๓ ประเภท
คือ ประเภทที่หนึ่ง ผู๎โดยสาร ประเภทที่สอง สินค๎าพัสดุภัณฑ์ และประเภทที่สาม
บริการอื่น ๆ เชํน ครัวการบิน สินค๎าปลอดภาษี และบริการรับสํงผู๎โดยสารภาคพื้นดิน
เป็นต๎น
ธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจ ที่ต๎องคานึงถึง
ความปลอดภัยมาก คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทอยําง
สาคัญ ในการตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และ
อุปกรณ์
39
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ระบบบริการผู๎โดยสารอาจจะเริ่มด๎วยระบบบันทึกตารางการบิน ซึ่งบันทึกและ
เปลี่ยนแปลงแก๎ไขข๎อมูลเที่ยวบิน เส๎นทางบิน เวลาออก และเวลาถึง จานวนที่นั่ง ซึ่ง
สามารถขายได๎ และอื่นๆ เพื่อใช๎เป็นฐานข๎อมูลในระบบที่เกี่ยวข๎อง เชํน ระบบงาน
สารวจที่นั่งผู๎โดยสาร ระบบงานสารวจจะวางบรรทุก และระบบตรวจรับผู๎โดยสาร เป็น
ต๎น
ระบบบริการ และโดยสาร อาจจะแยกเป็นระบบงานสารวจที่นั่งผู๎โดยสาร ระบบ
ควบคุมการสารองที่นั่ง ระบบพิมพ์ตั๋วอัตโนมัติ ระบบสารองห๎องพักโรงแรม ระบบชาระ
คําโดยสารที่นั่งกลุํมทํองเที่ยว และระบบติดตามกระเป๋า และสัมภาระ เป็นต๎น
ธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจที่ต๎องคานึงถึงความปลอดภัยอยํางมาก คอมพิวเตอร์จึงมี
บทบาทอยํางสาคัญ ในการตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และอุปกรณ์
40
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ระบบงานขนสํงสินค๎าพัสดุภัณฑ์ อาจจะประกอบด๎วยระบบจัดสาร และควบคุม
ระวางบรรทุก ระบบสารอง ระวางบรรทุก ระบบตรวจสินค๎า ระบบควบคุมคลังเก็บ
สินค๎า ระบบตระเตรียมขนสํงขนสํงสินค๎า ระบบงานสินค๎าขาเข๎า และระบบควบคุมและ
ติดตามอุปกรณ์ขนสํง เป็นต๎น
ระบบครัวการบิน เป็นระบบ ซึ่งชํวยให๎การดาเนินงานครัวการบินเป็นไปอยํางมี
ประสิทธิภาพ โดยเก็บข๎อมูลของลูกค๎าวํา ใครต๎องการอาหารอะไรพิเศษหรือไมํ เก็บ
ข๎อมูลตารางบินของแตํละรายการบินที่มาใช๎บริการ รายการอาหาร และเครื่องดื่มบน
เครื่องบิน สูตรและวัตถุดิบที่ใช๎ในการปรุงอาหาร ทั้งนี้เพื่อคานวณต๎นทุนในการผลิต
และตั้งราคาวิเคราะห์คาดการสั่งซื้อวัตถุดิบให๎เพียงพอแกํความต๎องการ อานวยความ
สะดวกในการจัดและควบคุมวัตถุดิบ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ตั้งแตํการจัดซื้อ การเบิกจําย
และรับของ ไปจนถึงการบรรจุ และขนย๎ายไปยังเครื่องบิน เป็นต๎น
การพิมพ์ตั๋วเครื่องบินด๎วยระบบอัตโนมัติ
41
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ระบบงานสินค๎าปลอดภาษี เป็นระบบ เพื่อชํวยจัดการ และควบคุมการเบิกจําย
จัดหาสินค๎าให๎เพียงพอกับความต๎องการของลูกค๎า บันทึกยอดขาย ตัดบัญชี และทาสถิติ
รายงานตํางๆ เสนอผู๎บริหาร เป็นต๎น
บริการรับสํงผู๎โดยสารภาคพื้นดิน เป็นระบบ เพื่อชํวยให๎การบริหารการใช๎รถ
โดยสารเป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ โดยเก็บประวัติการใช๎ และการซํอมของรถแตํละคัน
ระยะทาง และเชื้อเพลิงที่ใช๎ในการรับสํงแตํละเที่ยว ควบคุมการเบิกจําย และจัดซื้อ
อะไหลํสาหรับการซํอม เป็นต๎น
เรื่องที่ 15 คอมพิวเตอร์กับงานทางด๎านการศึกษา
โดยหลักการแล๎ว การใช๎คอมพิวเตอร์ในด๎านการศึกษาอาจแบํงเป็นประเภทใหญํๆ
ได๎ ๒ ประเภท คือ ใช๎เป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช๎เป็นเครื่องมือในการสอน การ
บริหารการศึกษา เป็นเรื่องที่มีความจาเป็นอยํางยิ่งทางด๎านการศึกษา โดยเฉพาะอยํางยิ่ง
ในสถาบันการศึกษา ที่มีนักศึกษาจานวนมาก หรือมีวิชาจานวนมากที่เปิดให๎นักศึกษา
42
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เลือกเรียนตามความถนัด และความต๎องการ ดังนั้น ผู๎บริหารการศึกษาจึงมีความ
จาเป็นที่จะต๎องทราบข๎อมูลตํางๆ เพื่อใช๎ในการจัดเตรียมงบประมาณ จัดเตรียมห๎องเรียน
ได๎ตามความต๎องการ จัดครูหรืออาจารย์ผู๎สอนได๎ตามความถนัดของผู๎สอน และมีชั่วโมงการ
สอนพอเหมาะทุกคน รวมทั้งการวิเคราะห์คําใช๎จํายในแตํละสาขาวิชา เพื่อที่จะได๎ทราบ
วํา ในปีตํอๆ ไป ถ๎าเราจะผลิตนักศึกษาเหลํานั้น จะต๎องลงทุนอีกเทําใด และถ๎าเพิ่ม
จานวนนักศึกษาขึ้นอีก จะมีผลทาให๎ต๎องเพิ่มบุคลากร อาคาร ห๎องเรียน และ
งบประมาณเป็นเทําใด นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาได๎วํา วิชาการประเภทใดบ๎าง ที่
นักศึกษาไมํคํอยนิยมเรียน อาจจะต๎องหาทางชี้แจงให๎นักศึกษาเข๎าใจ หรือพิจารณาปิด
วิชาเหลํานั้น โดยทั่วไปแล๎ว ในการนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ทางการบริหารการศึกษานั้น
จะแบํงข๎อมูลออกเป็น ๕ ด๎าน คือ ด๎านนักศึกษา ด๎านแผนการเรียน ด๎านบุคลากร ด๎าน
การเงิน และด๎านอาคารสถานที่และอุปกรณ์
ข๎อมูลด๎านนักศึกษา เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับประวัติสํวนตัวของนักศึกษาวํา เกิดเมื่อใด
ที่ไหน ชื่อบิดามารดา อาชีพบิดามารดา เคยเรียนมาจากที่ไหนบ๎าง เป็นต๎น อีกสํวนหนึ่ง
เป็นประวัติการศึกษาในระหวํางศึกษาอยูํ ณ สถาบันนั้นๆ วํา เคยลงทะเบียนเรียนวิชา
อะไร ผลการศึกษาเป็นอยํางไรในแตํละภาคการศึกษา เพื่อให๎ได๎ข๎อมูลดังกลําวครบถ๎วน
สํวนใหญํเขาจะนิยมใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยในงานลงทะเบียน
43
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ข๎อมูลด๎านแผนการเรียน เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับวิชาที่เปิดสอนวํา แตํละวิชามีรหัสชื่อ
วิชาหนํวยกิต เวลาเรียนและสอนที่ไหน และวิธีสอนเป็นบรรยาย หรือปฏิบัติ เป็นต๎น
ข๎อมูลด๎านบุคลากร เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับครูผู๎สอนวํา มีวุฒิอะไร มาจากที่ไหน เพศหญิง
หรือเพศชาย สอนวิชาอะไรบ๎าง กาลังวิจัย หรือเขียนตาราเรื่องอะไร และเงินเดือน
เทําใด เป็นต๎น
ข๎อมูลด๎านการเงิน เป็นข๎อมูลที่สถานการศึกษานั้นได๎รับเงินจากอะไรบ๎าง ได๎ใช๎เงิน
เหลํานั้นแตํละเดือนเทําไร ใช๎ซื้ออะไรบ๎าง และยังเหลือเงินอยูํเป็นจานวนเทําใด เป็นต๎น
ข๎อมูลด๎านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับอาคาร ห๎องแตํละห๎อง
เป็นห๎องปฏิบัติการ หรือห๎องบรรยาย ห๎องพักนักศึกษา ห๎องทางาน ความจุของแตํละ
ห๎อง มีโต๏ะและเก๎าอี้กี่ตัว ขนาดห๎องกว๎างและยาวเทําใด และในแตํละห๎องมีอุปกรณ์
เครื่องมืออะไรบ๎าง เป็นต๎น
จากข๎อมูลทั้ง ๕ ด๎านที่ได๎จากคอมพิวเตอร์นี้ ผู๎บริหารการศึกษาสามารถนามาใช๎
ชํวยในการตัดสินใจได๎ เชํน อยากจะทราบวํา ผลการเรียนในแตํละวิชามีการให๎เกรด
ผู๎สอบอยํางไร คอมพิวเตอร์ก็สามารถวิเคราะห์ออกมาได๎ เพื่อใช๎พิจารณาความยากงํายของ
ข๎อสอบ หรือการให๎คะแนนสอบ เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน ถ๎าต๎องการทราบวํา ใน
สถานศึกษาของตนเองสอนวิชาหนักไปทางไหนบ๎าง ถ๎าจะเพิ่มวิชาอีกจะมีอาจารย์ผู๎มี
44
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
ความรู๎ด๎านนั้นๆ หรือไมํ ทางด๎านอาคารสถานที่ก็สามารถวิเคราะห์ได๎วํา มีการใช๎
ห๎องเต็มที่หรือไมํ ถ๎าเพิ่มนักศึกษาอีก จะมีปัญหาเรื่องอาคารเรียนอยํางไรบ๎าง เป็นต๎น
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีบทบาทสาคัญในการชํวยให๎การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ
คอมพิวเตอร์จึงเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่สถาบันการศึกษาเปิดสอนให๎แกํนิสิตนักศึกษา
การใช๎คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสอนนี้ มีผู๎เกรงกลัวกันเป็นอันมากวํา จะทา
ให๎ครูตกงาน แตํตามความเป็นจริงแล๎ว คอมพิวเตอร์อาจชํวยครูทางานบางอยํางได๎ดีกวํา
ครู แตํก็มีงานหลายอยํางที่คอมพิวเตอร์ทาไมํได๎ ยังคงจาเป็นที่จะต๎องให๎ครูทาอยูํอยําง
แนํนอน โดยเฉพาะอยํางยิ่งงานที่คอมพิวเตอร์ชํวยทาได๎ดีกวําครูนั้น เป็นงานจาเจ ซึ่งครู
เองคงไมํตื่นเต๎นสนใจ หรือต๎องการที่จะทาอยูํตลอดไปนัก ฉะนั้น คอมพิวเตอร์จะชํวยให๎
ครูใช๎ความรู๎ความสามารถพิเศษ ให๎เป็นประโยชน์แกํระบบการศึกษาได๎มากขึ้น
45
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights
Reserved
เพื่อให๎เข๎าใจวําคอมพิวเตอร์จะชํวยในการสอนได๎ อยํางไรนั้น สิ่งแรกที่ควรทาก็คือ
ศึกษาและพิจารณาระบบ การศึกษาปัจจุบันวํา เป็นอยํางไร มีข๎อดีข๎อเสียอะไรบ๎าง จะ
ใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยได๎หรือไมํ ข๎อเสียที่สาคัญๆ ของระบบ การศึกษาที่ยังไมํได๎ใช๎
คอมพิวเตอร์ชํวยในการสอน มีอยูํสองประการ คือ
๑. ความไมํยืดหยุํนของระบบ เมื่อพบวําอะไร ควรจะแก๎ไขปรับปรุง กวําจะปรับปรุง
เสร็จก็ใช๎เวลานานมาก อาจเป็นเวลา ๒-๓ ปี และเมื่อปรับปรุงเสร็จก็มักจะกลําววํา สิ่ง
ที่ได๎ปรับปรุงแล๎วนั้นไมํเหมาะสม ไมํทันตํอเหตุการณ์ แล๎วจาเป็นต๎องแก๎ไขปรับปรุงใหมํ
อีก
๒. ความไมํสามารถของระบบที่จะจัดให๎นักเรียน แตํละคนได๎มีโอกาสเลือกเรียนได๎ช๎า
หรือเรียนได๎เร็วตามความชอบ ความเฉลียวฉลาด และความสามารถของเด็ก เชํน เด็ก
คนใดมีความชอบหรือมีความคลํองในวิชาใดเป็นพิเศษ ควรจะเรียนวิชานั้น ให๎เข๎าใจได๎
ในระยะเวลาอันสั้น และรวดเร็ว กวําเด็กคนอื่น แตํในปัจจุบันเด็กทุกคนจะต๎องมานั่งทน
เรียนวิชานั้น ไปจนสิ้นสุดภาคการศึกษา ตามที่กาหนดไว๎ให๎ ซึ่งอาจ จะทาให๎เด็กคนนั้น
เบื่อมาก จนอาจกํอกวนให๎เด็กคนอื่นเสียการเรียนไปด๎วย
ข๎อเสียทั้งสองประการข๎างบนนี้ พอจะมีทางแก๎ไขได๎ ไมํยากนัก โดยการใช๎
คอมพิวเตอร์ชํวย ซึ่งถ๎าจะให๎ได๎ผลดีเต็มที่ จะต๎องใช๎คอมพิวเตอร์แบบที่ใช๎พร๎อมๆ กันได๎
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18
work3-18

More Related Content

What's hot

ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์Nichapa Paktanadechanon
 
เสนอผลงานว ชา งานกล _ม
เสนอผลงานว ชา งานกล _มเสนอผลงานว ชา งานกล _ม
เสนอผลงานว ชา งานกล _มNaetima Mudcharase
 
ประวัติของคอมพิวเตอร์
ประวัติของคอมพิวเตอร์ ประวัติของคอมพิวเตอร์
ประวัติของคอมพิวเตอร์ Pingsdz Pingsdz
 
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูล
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูลคอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูล
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูลเกวลิน แก้ววิจิตร
 
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์Timmy Printhong
 

What's hot (10)

ประวัติคอมพิวเตอร์
ประวัติคอมพิวเตอร์ประวัติคอมพิวเตอร์
ประวัติคอมพิวเตอร์
 
ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาและประเภทของคอมพิวเตอร์
 
เสนอผลงานว ชา งานกล _ม
เสนอผลงานว ชา งานกล _มเสนอผลงานว ชา งานกล _ม
เสนอผลงานว ชา งานกล _ม
 
ประวัติของคอมพิวเตอร์
ประวัติของคอมพิวเตอร์ ประวัติของคอมพิวเตอร์
ประวัติของคอมพิวเตอร์
 
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูล
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูลคอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูล
คอมพิวเตอร์กับการประมวลผลข้อมูล
 
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 21
บทที่ 21บทที่ 21
บทที่ 21
 
14
1414
14
 
Chapter1
Chapter1Chapter1
Chapter1
 
Computer system
Computer systemComputer system
Computer system
 

Viewers also liked

The Arts + Healthcare Initiative
The Arts + Healthcare InitiativeThe Arts + Healthcare Initiative
The Arts + Healthcare InitiativeCatherine Toben
 
Business presentation copy
Business presentation   copyBusiness presentation   copy
Business presentation copyNidhi Pandya
 
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...jxycruz
 
Mobile application development company imobdev
Mobile application development company   imobdevMobile application development company   imobdev
Mobile application development company imobdevDev Patel
 
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologies
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologiesAwarded travalarm app delivered by i mobdev technologies
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologiesDev Patel
 
ClientConnection2016-01
ClientConnection2016-01ClientConnection2016-01
ClientConnection2016-01Vic Hemard
 
The AGENCY Inc. - Our Work
The AGENCY Inc. - Our WorkThe AGENCY Inc. - Our Work
The AGENCY Inc. - Our WorkNicole Norris
 
About The AGENCY Inc.
About The AGENCY Inc.About The AGENCY Inc.
About The AGENCY Inc.Nicole Norris
 

Viewers also liked (14)

The Arts + Healthcare Initiative
The Arts + Healthcare InitiativeThe Arts + Healthcare Initiative
The Arts + Healthcare Initiative
 
Resume
ResumeResume
Resume
 
Bs pai sma kelas xi
Bs pai sma kelas xiBs pai sma kelas xi
Bs pai sma kelas xi
 
Business presentation copy
Business presentation   copyBusiness presentation   copy
Business presentation copy
 
Secondary evidence
Secondary evidenceSecondary evidence
Secondary evidence
 
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...
Question 6: What have you learned about technologies from the process of cons...
 
Mobile application development company imobdev
Mobile application development company   imobdevMobile application development company   imobdev
Mobile application development company imobdev
 
work4 18
work4 18work4 18
work4 18
 
CONTABILIDAD
CONTABILIDADCONTABILIDAD
CONTABILIDAD
 
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologies
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologiesAwarded travalarm app delivered by i mobdev technologies
Awarded travalarm app delivered by i mobdev technologies
 
KNOWLEDGE IS POWER
KNOWLEDGE IS POWERKNOWLEDGE IS POWER
KNOWLEDGE IS POWER
 
ClientConnection2016-01
ClientConnection2016-01ClientConnection2016-01
ClientConnection2016-01
 
The AGENCY Inc. - Our Work
The AGENCY Inc. - Our WorkThe AGENCY Inc. - Our Work
The AGENCY Inc. - Our Work
 
About The AGENCY Inc.
About The AGENCY Inc.About The AGENCY Inc.
About The AGENCY Inc.
 

Similar to work3-18

คอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นคอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นTonic Junk
 
คอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นคอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นTonic Junk
 
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการdollar onohano
 
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์devilp Nnop
 
คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์เบื้องต้นWithawat Na Wanma
 
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1Sindy Lsk
 
งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..jurinthip
 
Computer
ComputerComputer
Computernuting
 
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์Pokypoky Leonardo
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์sommat
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์Nantawoot Imjit
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นะนาท นะคะ
 
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์konkamon
 

Similar to work3-18 (20)

คอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นคอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้น
 
คอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้นคอมพิวเตอรเบื้องต้น
คอมพิวเตอรเบื้องต้น
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
 
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
Ppp.
Ppp.Ppp.
Ppp.
 
คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์1
 
งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..งานนำเสนอ..
งานนำเสนอ..
 
Work3-25
Work3-25Work3-25
Work3-25
 
Ch1 com tech
Ch1 com techCh1 com tech
Ch1 com tech
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Computer2
Computer2Computer2
Computer2
 
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
 

work3-18

  • 1. 1 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ชื่อ สุชาดา เจียมจิตตน ชั้น ม.6/2 เลขที่ 18
  • 2. 2 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เรื่องที่ 1 ลักษณะเดํนของคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร๎างขึ้นมาเพื่อให๎มีจุดเดํน 4 ประการ เพื่อทดแทนข๎อจากัด ของมนุษย์ เรียกวํา 4 S special ดังนี้ 1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข๎อมูลจานวนมากและเป็นเวลานาน นับเป็น จุดเดํนทางโครงสร๎างและเป็นหัวใจของการทางานแบบอัตโนมัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งเป็นตัวบํงชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แตํละเครื่องด๎วย 2. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข๎อมูล (Processing Speed) โดยใช๎เวลาน๎อย เป็นจุดเดํนทางโครงสร๎างที่ผู๎ใช๎ทั่วไปมีสํวนเกี่ยวข๎องน๎อยที่สุด เป็นตัวบํงชี้ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สาคัญสํวนหนึ่งเชํนกัน 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting)
  • 3. 3 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข๎อมูลตามลาดับขั้นตอนได๎อยํางถูกต๎องและ ตํอเนื่องอยํางอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีสํวนเกี่ยวข๎องเฉพาะในขั้นตอนการกาหนดโปรแกรม คาสั่งและข๎อมูลกํอนการประมวลผลเทํานั้น 4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให๎เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต๎อง ความนําเชื่อถือนับเป็น สิ่งสาคัญที่สุดในการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้เกี่ยวข๎องกับโปรแกรม คาสั่งและข๎อมูลที่มนุษย์กาหนดให๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กลําวคือ หากมนุษย์ ป้อนข๎อมูลที่ไมํถูกต๎องให๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ยํอมได๎ผลลัพธ์ที่ไมํถูกต๎องด๎วยเชํนกัน เรื่องที่ 2 วิวัฒนาการกํอนจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์นั้นมีวิวัฒนาการที่รวดเร็วมาก ตั้งแตํยุคสมัยดึกดาบรรพ์เป็นต๎นมา มนุษย์เรามีความพยายามที่จะคิดค๎นเครื่องมือให๎มาชํวยในการคานวณและการนับ ตั้งแตํ เริ่มต๎นใช๎นิ้วมือนับ จนมาใช๎ก๎อนกรวด หิน มนุษย์จึงคิดค๎นวิธีการที่งํายกวํานี้ จนกลายมา เป็นกลไกที่ใช๎ในการคานวณ จนวิวัฒนาการมาเป็นคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน โดยแบํงเป็น 4 ยุค
  • 4. 4 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved 1.ยุคกํอนเครื่องจักรกล 2.ยุคเครื่องจักรกล 3.ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์ 4. ยุคเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ในยุคเริ่มแรก คอมพิวเตอร์ในยุคเริ่มแรกยังไมํมีชิปประมวลผลหรือระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน โดยถ๎าย๎อนกลับไปเมื่อประมาณ 400 กวําปีที่แล๎วสํวนใหญํ คอมพิวเตอร์เหลํานี้มักใช๎ใน การคานวณมากกวํา อุปกรณ์ชนิดแรกของโลกที่เป็นเครื่องมือในการคานวณก็คือลูกคิดนั่นเองซึ่งถือได๎ วําเป็นอุปกรณ์ใช๎ชํวยการคานวณที่เกําแกํที่สุดในโลกและคงยังใช๎งานมาจนถึงปัจจุบัน ใน ปี พ.ศ. 2158 นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John Napier ได๎สร๎างอุปกรณ์ใช๎ ชํวยการคานวณขึ้นมา เรียกวําNapier's Bones มีรูปรํางคล๎ายสูตรคูณในปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2185 นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Blaise Pascal คิดวํานําจะมีวิธีที่จะคานวณ ตัวเลขได๎งํายกวํา เขาได๎ออกแบบ เครื่องมือชํวยในการคานวณโดย ใช๎หลักการหมุนของ
  • 5. 5 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ฟันเฟืองหนึ่งอันถูกหมุนครบ 1 รอบ ฟันเฟืองอีกอันหนึ่งซึ่งอยูํ ทางด๎านซ๎ายจะถูกหมุนไป ด๎วยในเศษ 1 สํวน 10 รอบ เครื่องมือของปาสคาลนี้ถูกเผยแพรํ ออกสูํสาธารณะชน เมื่อ พ.ศ. 2188 แตํไมํประสบความสาเร็จเทําที่ควรเนื่องจากราคา แพง และเมื่อใช๎งานจริงจะเกิดฟันเฟืองติดขัดบํอยๆ ทาให๎ผลลัพธ์ที่ได๎ไมํคํอยถูกต๎องตรง ความเป็นจริง ในสมัยนั้นยังไมํมีเครื่องจักรใดที่สามารถทาตามคาสั่งหรือทางานเองโดยอัตโนมัติได๎ แตํในพ.ศ.2344นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Joseph Marie Jacquard ได๎พยายาม พัฒนาเครื่องทอผ๎าโดย ใช๎ บัตรเจาะรูในการใสํคาสั่งให๎ควบคุมเครื่องทอผ๎าให๎ทาตาม แบบที่กาหนดไว๎ และแบบดังกลําวสามารถนามา สร๎างซ้าๆ ได๎อีกหลายครั้ง ความ พยายามของ Jacquard สาเร็จลงใน พ.ศ. 2348 เครื่องทอผ๎านี้ถือวําเป็น เครื่อง ทางานตามคาสั่งเป็นเครื่องแรก และตั้งแตํ Jacquard ได๎ประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมาทาให๎มี เครื่องกลเกิดขึ้นมาหลายอยําง และได๎มีเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ได๎เปลี่ยนวงการของเครื่อง คอมพิวเตอร์และการ คานวณ โดยอุปกรณ์ที่วํานี้มีชื่อวําเครื่องหาผลตําง (Difference Engine) โดยเจ๎าเครื่องนี้มีความคล๎ายกับเครื่องคิดเลขในปัจจุบันนั่นเอง โดย Chales Babbage เป็นผู๎สร๎างเครื่องนี้ขึ้นมา ในปี พ.ศ. 2373 เขาได๎รับความชํวยเหลือจาก
  • 6. 6 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved รัฐบาลอังกฤษเพื่อ สร๎างเครื่องDifference Engine ขึ้นมาจริงๆ แตํในขณะที่ Babbage ทาการสร๎างเครื่อง Difference Engine อยูํนั้น ได๎พัฒนาความคิดไปถึง เครื่องมือในการคานวณที่มีความสามารถสูงกวํานี้ ซึ่งก็คือเครื่องที่เรียกวําเครื่องวิเคราะห์ (Analytical Engine) และได๎ยกเลิกโครงการสร๎างเครื่อง Difference Engine ลง แล๎วเริ่มต๎นงานใหมํ คือ งานสร๎างเครื่องวิเคราะห์ ในความคิดของเขา โดยที่เครื่องดังกลําวประกอบไปด๎วยชิ้นสํวนที่สาคัญ 4 สํวน 1.สํวนเก็บข๎อมูลเป็นสํวนที่ใช๎ในการเก็บข๎อมูลนาเข๎าและผลลัพธ์ที่ได๎จากการ คานวณ 2.สํวนประมวลผลเป็นสํวนที่ใช๎ในการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ 3.สํวนควบคุมเป็นสํวนที่ใช๎ในการเคลื่อนย๎ายข๎อมูลระหวํางสํวนเก็บข๎อมูลและสํวน ประมวลผล 4.สํวนรับข๎อมูลเข๎าและแสดงผลลัพธ์เป็นสํวนที่ใช๎รับทราบข๎อมูลจากภายนอก เครื่องเข๎าสูํสํวนเก็บและแสดงผลลัพธ์ที่ได๎จากการคานวณให๎ผู๎ใช๎ได๎รับทราบ
  • 7. 7 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เป็นที่นําสังเกตวําสํวนประกอบตํางๆ ของเครื่อง Alaytical Engine มีลักษณะ ใกล๎เคียงกับสํวนประกอบ ของระบบคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันมาก แตํนําเสียดายที่เครื่อง Alalytical Engine ของ Babbage นั้นไมํสามารถ สร๎างให๎สาเร็จขึ้นมาได๎ ทั้งนี้ เนื่องจากเทคโนโลยี สมัยนั้นไมํสามารถสร๎างสํวนประกอบตํางๆ ดังกลําว และอีก ประการหนึ่งก็คือ สมัยนั้นไมํมีความจาเป็น ต๎องใช๎เครื่องที่มีความสามารถสูงขนาด นั้น ดังนั้นรัฐบาล อังกฤษจึงหยุดให๎ความสนับสนุนโครงการของ Babbage ทาให๎ไมํมี ทุนที่จะทาการวิจัยตํอไป สืบเนื่องจากมาจากแนวความคิดของ Analytical Engine เชํนนี้จึงทาให๎Charles Babbage ได๎รับการยกยํอง ให๎เป็น บิดาของเครื่อง คอมพิวเตอร์ และหลังจากนั้นอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ก็เริ่มพัฒนาขึ้น แตํมีอยํางหนึ่งที่ยัง ไมํมีในยุคนั้น สิ่งนั้นก็คือโปรแกรมนั้นเอง เนื่องจากในสมัยนั้นไมํมีใครคิดที่จะทา คอมพิวเตอร์สาหรับทางานขึ้นมา แตํใน พ.ศ. 2385 ชาวอังกฤษ ชื่อ Lady Auqusta Ada Byron ได๎ทาการแปลเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่อง Anatical Engine จากภาษา ฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษใน ระหวํางการแปลทาให๎ Lady Ada เข๎าใจถึงหลักการ ทางาน ของเครื่อง Analytical Engine และได๎เขียนรายละเอียดขั้นตอนของคาสั่งให๎ เครื่องนี้ทาการคานวณที่ยุํงยาก ซับซ๎อนไว๎ในหนังสือทางคณิตศาสตร์เลํมหนึ่ง ซึ่งถือวํา เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมแรกของโลก และจากจุดนี้จึงถือวํา Lady Ada เป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก (มีภาษาที่ใช๎เขียนโปรแกรมที่เกําแกํ อยูํหนึ่งภาษา
  • 8. 8 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved คือภาษา Ada มาจาก ชื่อของ Lady Ada) นอกจากนี้ Lady Adaยังค๎นพบ อีกวําชุดบัตรเจาะรูที่บรรจุคาสั่งไว๎สามารถนากลับมาทางานซ้าได๎ถ๎า ต๎องการ นั่นคือหลัก ของการทางานวนซ้า หรือเรียกวํา Loop เครื่องมือที่ใช๎ในการคานวณที่ถูกพัฒนาขึ้นใน ศตวรรษที่ 19 นั้น ทางานกับเลขฐานสิบ (Decimal Number) แตํเมื่อเริ่มต๎น ของศตวรรษที่ 20 ระบบคอมพิวเตอร์ได๎ถูกพัฒนาขึ้นจึงทาให๎มีการเปลี่ยนแปลงมาใช๎ เลขฐานสอง (Binary Number) กับระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจาก หลักของพีชคณิต เครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละยุค คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2497-2501) อยูํระหวํางปี พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช๎หลอด สุญญากาศ (Vacuum tube)ซึ่งใช๎กาลังไฟฟ้าสูงมาก ถึงแม๎จะมีระบบระบายความร๎อนที่ ดี แตํจะมีปัญหาในเรื่องความร๎อนและไส๎หลอดขาดบํอย การสั่งงานใช๎ภาษาเครื่องซึ่งเป็น รหัสตัวเลขที่ยุํงยากและซับซ๎อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญํ เชํน มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC
  • 9. 9 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502-2507) คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และใช๎ วงแหวนแมํเหล็กเป็นหนํวยความจา คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกวํายุคแรก ต๎นทุนต่ากวํา ใช๎กระแสไฟฟ้าและมีความแมํนยามากกวํา มีอุปกรณ์เก็บข๎อมูลสารองในรูปแบบของสื่อ แมํเหล็ก สามารถเขียนโปรแกรมระดับสูงได๎ คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2508-2513) คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็นสารกึ่งตัวนาที่ สามารถบรรจุวงจรทางตรรกะไว๎แล๎วพิมพ์บนแผํนซิลิกอน (Silicon) เรียกวํา "ชิป" คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2514-2523) คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎ วงจร LSI (Large Scale Integration) เป็นการรวม วงจรไอซีจานวนมากลงในแผํนซิลิกอนชิป 1 แผํน สามารถบรรจุได๎มากกวํา 1 ล๎านวงจร ด๎วยเทคโนโลยีใหมํนี้ทาให๎เกิดแนวคิดในการบรรจุวงจรที่สาคัญสาหรับการทางาน พื้นฐานของคอมพิวเตอร์นั่นคือ CPU ลงชิปตัวเดียว เรียกวํา "ไมโครโพรเซสเซอร์"
  • 10. 10 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 (พ.ศ. 2524-ปัจจุบัน) คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช๎วงจรVLSI (Very-large-scale integration) เป็นการ พัฒนาไมโครโพรเซสเซอร์ให๎มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรื่องที่ 3 ยุคกํอนเครื่องจักรกล(Premechanical) วิวัฒนาการของเครื่องมือชํวยนับและการคานวณในยุคกํอนเครื่องจักรกล เมื่อ วิวัฒนาการทางสังคมของมนุษย์มีความเจริญมากขึ้น การใช๎นิ้วมือหรือก๎อนหินมา ชํวยนับนั้นมีข๎อจากัดอยูํเชํนกัน เนื่องจากไมํสามารถนับหรือคานวณหาคําตัวเลขที่ มาก ๆ ได๎ มนุษย์จึงได๎มีความพยายามคิดค๎นเครื่องมือชํวยนับที่ดีกวําเดิมด๎วยการ สร๎างระบบตัวเลขขึ้นมา ซึ่งพอจะยกตัวอยํางเครื่องมือในยุคนี้ ได๎แกํ
  • 11. 11 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved แผํนหินอํอนซาลามิส ( Salamis Tablet) ลูกคิด ( Abacus)
  • 12. 12 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved แทํงคานวณของเนเปียร์ ( Napier’s bone) ไม๎บรรทัดคานวณ ( Slide Rule) เรื่องที่ 4 ยุคเครื่องจักรกล (Mechanical)
  • 13. 13 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ยุคเครื่องจักรกล (Mechanical Age) (1450 A.D. – 1840 A.D.) ชุมชนเป็นชุมชนทางการเกษตรต๎องการแรงงานคนจานวนมาก สํงผลตํอการเพิ่ม ของประชากรอยํางมากและรวดเร็ว สิ่งที่ตามมาคือความต๎องการ เครื่องใช๎ เสื้อผ๎า เครื่อง อุปโภค บริโภค ปริมาณมากขึ้น จนการผลิตด๎วยแรงงานคนไมํทัน มนุษย์จึงพยายาม ประดิษฐ์เครื่องมือมาชํวยในการผลิตนั่นก็คือ เครื่องจักรกล มาชํวยแบํงเบาแรงงานคน ค . ศ . 1450 มีการประดิษฐ์แทํนพิมพ์และหนังสือพิมพ์ กลุํมคนรับรู๎ขําวสารมากขึ้น จากที่เคยจากัดอยูํ ในพระคัมภีร์และกฎหมาย ภายใต๎การดูแลของนักบวช และขุนนางชั้นปกครอง ขําวสาร ทาให๎มนุษย์เกิดความรู๎ และความรู๎ก็นามาซึ่งอานาจ (knowledge is the power) ค . ศ . 1642 นาย Blaise Pascal ชาวฝรั่งเศสเมื่ออายุ 18 ปีได๎ประดิษฐ์ pascaline เครื่อง คานวณจักรกลที่บวกลบเลขได๎อัตโนมัติ ชํวยงานคานวณของบิดาที่เป็นเจ๎าเจ๎าหน๎าที่เก็บ ภาษี การทางาน ใช๎หลักฟันเฟือง (gear) เมื่อวงล๎อเล็กหมุน ครบรอบจะทาให๎
  • 14. 14 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ฟันเฟืองไปเกี่ยววงล๎อใหญํถัดไป ให๎หมุนสามารถ คานวณเลขจานวนเต็มได๎ 8 หลัก แตํเทคโนโลยี ในการผลิตชิ้นสํวนที่มีขนาด ไมํตรงตามที่ต๎องการและ ไมํเทํากัน ทาให๎การทางานผิดพลาด เครื่อง Pascaline ค . ศ . 1804 นาย Joseph Marie Jacquard ชํางทอผ๎าชาวฝรั่งเศสสร๎าง หูกทอผ๎าที่ทอ ผ๎าได๎กึ่งอัตโนมัติ Jacquard loom มีบัตร เจาะรู (punched) ที่ถูกเจาะรูตามรหัสที่ กาหนดขึ้น ควบคุม ลวดลายผ๎าและสีด๎ายที่ต๎องการ มีกลไกอํานบัตรไปควบคุม การ ทางานของเครื่องฯ นับเป็นจุดเริ่มต๎นสูํยุคอุตสาหกรรม เปลี่ยนจากการผลิตทีละชิ้นด๎วย มือ มาเป็นการผลิตด๎วย เครื่องจักรกลคราวละมากชิ้น (mass products) กี่เจาะรูในยุคแรกๆ
  • 15. 15 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ค . ศ . 1822 นาย Charies Baddage นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษสร๎างเครื่องคานวณจักรกลดเพื่อ คานวณ และพิมพ์ตารางทางคณิตศาสตร์ ชื่อ Difference engine แตํสร๎างไมํเสร็จก็ ไปสร๎างเครื่อง Analytical engine ที่ทางานคานวณตามชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่ กาหนดไว๎ นับเป็นเครื่องที่มีโครงสร๎างการทางานคล๎ายเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งมี หนํวยความจาภายในเรียกวํา store เก็บตัวเลข 50 หลัก ได๎ 1000 คํา และแสดงผล ลัพท์โดยการพิมพ์ออกมาทางกระดาษ ใช๎การทางานของ gear และ พลังงานไอน้า เครื่องมีขนาดใหญํโตรางกับหัวรถจักรไอน้า แตํสร๎างไมํเสร็จเนื่องจากเทคโนโลยีการผลิต เชํนเดียวกับเครื่อง pascaline เครื่องนี้ถ๎าสร๎างเสร็จจะสามารถทาการ คูณเลข 50 หลักในเวลา 1 นาที การหารเลข 100 หลักด๎วยเลข 50 หลักใช๎เวลา 1 นาที หลาย ร๎อยปีตํอมาเครื่องในจินตนาการของ Buddage จึงเกิดขึ้นจริงนั่นก็คือ เครื่อง คอมพิวเตอร์ เขาจึงได๎รับการยกยํองวําเป็น “ บิดาแหํงคอมพิวเตอร์ ” (Father of computing) สํวนผู๎ชํวยที่ทาหน๎าที่เขียนเอกสารอธิบายการทางานของเครื่อง เขียนและ ตรวจสอบชุดคาสั่งงานของเครื่อง หรือโปรแกรม คือ ทํานผู๎หญิง Augusta Ada ก็;;
  • 16. 16 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ได๎รับการยกยํองให๎เป็น “ นักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลก ” (The first programmer) ยุคนี้มนุษย์พอข๎อจากัดของกล๎ามเนื้อในการผลิต และประมวลผล จึง พยายามสร๎างเครื่องมือมาเสริมความสามารถของกล๎ามเนื้อ เกิดเครื่องจักรกล หรือ กล๎ามเนื้อเหล็กขึ้น แตํยังใช๎แรงงานมนุษย์ในการผลิตอยูํดี เครื่อง Difference engine เรื่องที่ 5 ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electromechanical) คอมพิวเตอร์ในยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์
  • 17. 17 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เครื่องมือทั้งหลายที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในยุคกํอนนั้นสํวนมากประกอบด๎วยฟนั เฟือง รอก คาน ซึ่งเป็นวัสดุ ที่มีขนาดใหญํ และมีน้าหนักมากทาให๎การทางานลําช๎าและ ผิดพลาดอยูํเสมอ ดังนั้นในยุคตํอมาจึงพยายาม พัฒนาเครื่องมือ ให๎มีขนาดเล็กลง แตํมี ประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนี้ พ.ศ. 2480ศาสตราจารย์ HowardAiken แหํงมหาลัยวิทยาลัยฮาวาร์ด ได๎พัฒนา เครื่องคา นวณตามแนวคิด ของBabbage รํวมกับวิศวะกรของบริษัท IBMสร๎างเครื่อง คา นวณตามความคิดของBabbage ได๎ สาเร็จ โดยเครื่องดังกลําวทางานแบบ เครื่องจักรกลปนไฟฟ้า และใช๎บัตรเจาะรูเป็นสื่อในการนาเข๎าข๎อมูลสูํ เครื่องเพื่อทาการ ประมวลผล การพัฒนาดังกลําวมาเสร็จสิ้นในปีพ.ศ. 2487 โดยเครื่องมือนี้มีชื่อวํา MARK 1 และเนื่องจากเครื่องนี้สาเร็จได๎จากการสนับสนุน ด๎านการเงินและบุคลากรจากบริษัท IBM ดังนั้นจึงมีอีกชื่อ หนึ่งวํา IBM Automatic Sequence Controlled Calculator และนับเป็นเครื่องคานวณแบบอัตโนมัติเครื่องแรกของโลกพ.ศ. 2486 ซึ่ง เป็นชํวงสงครามโลกครั้งที่ 2 ศูนย์วิจัยของกองทัพบกสหรัฐอเมริกามีความจาเป็นที่จะต๎อง คิดค๎นเครื่องชํวยคานวณ เพื่อใช๎คานวณหาทิศทางและระยะทางในการสํงขีปนาวุธซึ่งถ๎าใช๎ เครื่องคานวณที่มี อยูํในสมัยนั้นจะต๎องใช๎เวลาถึง 12 ชัวํ โมงในการคานวณ การยิง 1
  • 18. 18 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ครัง๎ ดังนั้นกองทัพจึงให๎กองทุนอุดหนุนแกํ John W. Mauchly และ Persper Eckertจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ในการสร๎างคอมพิวเตอร์จากอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา โดยนาหลอดสุญยากาศ(Vacuum Tube) จานวน 18,000 หลอด มาใช๎ในการสร๎างซึ่งมีข๎อดีคือ ทาให๎เครื่องมความเร็ว และมีความถูกต๎องแมํนยา ในการคานวณมากขึ้น ในด๎านของความเร็วนั้นเครื่องจักกลมีความเฉื่อยของการเคลื่อนที่ ของชิ้นสํวนประกอบ แตํคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ จะใช๎อิเล็กตรอนเป็นตัวเคลื่อนที่ ทา ให๎สามารถสํงข๎อมูลด๎วยกระแสไฟฟ้าได๎ ด๎วยความเร็วใกล๎เคียงกับความเร็วของแสงสํวน ความถูกต๎องแมํนยาในการทางานของเครื่องจักรกลอาศัยฟันเฟือง รอก คาน ในการ ทางาน ทาให๎ทางานได๎ช๎า และเกิดความผิดพลาดได๎งําย พ.ศ. 2489 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ Mauchly และ Eckert คิดค๎นขึ้นได๎มีชื่อวํา ENIAC ยํอมจาก(Electronic Numberical Integrater and Caculator) ประสบความสาเร็จในปี พ.ศ. 2489 ถึงแม๎วําจะไมํทันใช๎ในสงครามโลกครั้งที่สอง แตํความเร็วในการ คานวณของ ENIAC ทาให๎วงการคอมพิวเตอร์ขณะนั้นยอมรับความสามารถของเครื่อง คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ แตํอยํางไรก็ตาม ENIAC ทางานด๎วยไฟฟ้าทั้งหมดทาให๎ใน การทางานแตํละครั้งจึงทาให๎เกิดความร๎อนสูงมาก จาเป็นต๎องติดตั้งไว๎ในห๎องที่มี
  • 19. 19 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เครื่องปรับอากาศด๎วย นอกจากนี้ ENIAC ยังเก็บได๎เฉพาะข๎อมูลที่เป็นตัวเลข ขนาด 10 หลัก และเก็บได๎เพียง 20 จานวน เทํานั้น สํวนชุดคาสังํ นั้นยังไมํสามารถ เก็บไว๎ใน เครื่องได๎ การสํงชุดคาสังํ เข๎าเครื่องจะต๎องใช๎วิธีการเดินสายไฟสร๎างวงจรถ๎ามีการ แก๎ไขโปรแกรม ก็ต๎องมีการเดินสายไฟกันใหมํ ซึ่งใช๎เวลาเป็นวัน คอมพิวเตอร์ในยุคเครื่องจักระบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ เชํน ENIAC เวลา โปรแกรมต๎องใช๎วิธีการเปลี่ยนสายเชื่อมตํออุปกรณ์ตํางๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ยุํงยากมาก จึง เกิดแนวคิดวําตัวโปรแกรมนําจะจัดเก็บอยูํในสํวนที่สามารถปรับเปลี่ยนแก๎ไขได๎งําย เป็น ที่มาของแนวคิดที่ทาการจัดเก็บข๎อมูลตํางๆรวมถึงโปรแกรมไว๎ในหนํวยความจา หรือ memory ทาให๎คอมพิวเตอร์จะได๎รับคาสังํ โดยการอํานคาสังํ จากหนํวยความจา และ การปรับเปลี่ยนโปรแกรมสามารถทาได๎โดยการเปลี่ยนแปลงคําภายในหนํวยความจาโดย มีแนวคิดที่รู๎จักในชื่อวํา"Stored-Program Concept" หรือ อีกชื่อวําสถาปตั ยกรรม von Neumann โดยเข๎าใจวํา J. Presper Eckert และJohn William Mauchly ซึ่งเป็นนักออกแบบ ENIAC เป็นผู๎คิดค๎นขึ้นตํอมาได๎นา แนวคิดการทางานแบบ Stored-Program เป็นแนวคิดหลักของการทางานในคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน โดย แนวคิดนี้จะแบํงการทางานของ
  • 20. 20 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved คอมพิวเตอร์เป็น 4 สํวนหลักได๎แกํ สํวนที่ 1 หนํวยประมวลผลในรูปแบบข๎อมูล Binary หรือที่เรียกวํา Arithmetic-Logical Unit (ALU) เปรียบเสมือนหัวใจของคอมพิวเตอร์ หน๎าที่หลัก ของมันคือทาการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ขัน๎ พื้นฐานอันได๎แกํการบวกและลบ และการทาการเปรียบเทียบข๎อมูลสองข๎อมูลวํามีคําเทํากันหรือไมํถ๎าไมํจะมีคํามากกวําหรือ น๎อยกวํา สํวนที่ 2 หนํวยความจา หรือ Memory ใช๎สาหรับเก็บข๎อมูล (Data) และ คา สังํ (Instructions) โดยข๎อมูลภายในหนํวยความจาจะถูกแบํงเป็นสํวนๆเล็กๆเทําๆกัน แตํละสํวนมีที่อยูํ (address) เพื่อใช๎เข๎าถึงข๎อมูลที่ถูกจัดเก็บเอาไว๎ สํวนที่ 3 อุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต หรือ I/O Device เป็นสํวนที่ใช๎นาข๎อมูล จากโลกภายนอกเข๎ามาภายในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อนามาประมวลผล และเมื่อได๎ผล ลัพธ์ก็จะนาข๎อมูลที่ได๎มาแสดงผลให๎โลกภายนอกคอมพิวเตอร์ได๎รับทราบ สํวนที่ 4 หนํวยควบคุมการทางาน หรือ Control Unit เป็นสํวนที่ใช๎เชื่อมตํอแตํ ละสํวนเข๎าด๎วยกัน หน๎าที่หลักๆคือทาการอํานข๎อมูลคาสังํ ที่อยูํภายในหนํวยความจาหรือ ที่ได๎จากอุปกรณ์อินพุต ทาการแปลความหมายและสํงไปประมวลผลใน ALU จากนั้นนา
  • 21. 21 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ผลที่ได๎ไปจัดเก็บในหนํวยความจาหรืออุปกรณ์เอาต์พุต หน๎าที่หลักอีกประการ คือ ควบคุมลาดับการทางานของแตํละขัน๎ ตอนให๎อยูํในเวลาที่เหมาะสม เรื่องที่ 6 ยุคคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Machine) ประเภทของคอมพิวเตอร์ถ๎าจาแนกตามลักษณะ วิธีการทางานภายในเครื่อง คอมพิวเตอร์แบํงได๎เป็น2ประเภท คือ แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer)
  • 22. 22 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved และดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer)เป็นเครื่องคานวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ไมํได๎ใช๎คําตัวเลขเป็นหลักของ การคานวณ แตํจะใช๎คําระดับแรงดันไฟฟ้าแทน แอนะล็อกคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะ เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกสํวนทาหน๎าที่เป็นตัวกระทาและเป็นฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ จึงเหมาะสาหรับงานคานวณทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมที่อยูํในรูปของสมการทาง คณิตศาสตร์ เชํน การจาลองการบิน การศึกษาการสันํ สะเทือนของตึกเนื่องจาก แผํนดินไหว เป็นต๎น ในปจั จุบันไมํคํอยพบเห็นแอนะล็อกคอมพิวเตอร์เพราะผลการ คานวณมีความละเอียดน๎อย ทาให๎มีขีดจากัดใช๎ได๎กับงานเฉพาะบางอยํางเทํานั้น ค Analog computer
  • 23. 23 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) เป็นเครื่องคานวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช๎งานเกี่ยวกับตัวเลข คําตัวเลขของการคานวณ ในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะแสดงเป็นหลัก แตํจะเป็นระบบเลขฐานสองที่มีสัญลักษณ์ตัวเลข เพียงสองตัว คือ 0 และ 1 เทํานั้น โดยสัญลักษณ์ทั้งสองตัวนี้จะแทนลักษณะการทางาน ภายในซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้ าที่ตํางกัน การคานวณภายในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะเป็นการ ประมวลผลด๎วยระบบเลขฐานสองทั้งหมด เครื่องดิจิทัลคอมพิวเตอร์หรือนิยมเรียกสั้น วํา คอมพิวเตอร์ กาลังได๎รับความนิยมกันมากในขณะนี้ และพบเห็นอยูํทัวํ ไปในปัจจุบัน Digital computer
  • 24. 24 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved c เรื่องที่ 7 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์ (Transistor) ระหวํางปี พ.ศ.2502 – 2506 มีการนาทรานซิสเตอร์ (transistor) ผู๎ที่คิดค๎น คือนักวิทยาศาสตร์ของห๎องปฏิบัติการเบลล์ (Bell laboratories) แหํงสหรัฐอเมริกา ได๎แกํ บาร์ดีน (J.Bardeen) แบรทเทน (H.W.Brattain)และชอคเลย์ (W.Shockley) ทาให๎เครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพใน การทางานให๎มีความรวดเร็วและแมํนยามากยิ่งขึ้น โดยทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นครัง๎ แรกมีขนาด 1 ใน 100 ของหลอดสุญญากาศเทํานั้น นอกจากนี้ในยุคนี้ยังได๎มีการคิด ภาษาเพื่อใช๎กับเครื่องคอมพิวเตอร์เชํน ภาษาฟอร์แทน (FORTRAN) จึงทาให๎งํายตํอการ เขียนโปรแกรมสาหรับใช๎กับเครื่อง
  • 25. 25 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved c เรื่องที่ 8 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวม (IC) เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวม (IC) เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคตํอมาได๎รับการ พัฒนาให๎มีขีดความสามารถที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แตํการผลิตเครื่องโดยใช๎ทรานซิสเตอร์แยก เป็นตัว ๆ ทาให๎ต๎นทุนในการผลิตสูงมาก ตํอมาจึงได๎มีการเปลี่ยนมาใช๎แผงวงจรรวม หรือที่เรียกวํา IC (Integrated Curcuit) ที่ประกอบด๎วยทรานซิสเตอร์นับพันตัว รวมกันขึ้นในปี ค.ศ.1965 แผงวงจรรวมหรือ IC (Integrated curcuit)
  • 26. 26 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved c IC แตํละตัวสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได๎มากถึงกวํา 1,000 ตัว ทาให๎ลดต๎นทุน ในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ลงไปได๎มาก อีทั้งยังคานวณงานที่ซับซ๎อนขึ้นได๎เป็นอยํางดี สํงผลให๎มีการผลิตเครื่องเพื่อจาหนํายอยํางแพรํหลาย โดยตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลง หรือ ที่นิยมเรียกวํา “ มินิคอมพิวเตอร์” (Minicomputer) ซึ่งใช๎กระแสไฟฟ้าน๎อยกวําเดิม ตัวอยํางเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ ได๎แกํ IBM 360, PDP1, CDC 3300, BURROUGH 7500 เป็นต๎น เรื่องที่ 9 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญํ (LSI และ VLSI) เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญํ ( LSI และ LVSI) ในยุคนี้คือ ปลายศตวรรษ 1970 มีการนาไมโครโปรเซสเซอร์ ( microprocessor) ซึ่งเป็นวงจร รวมขนาดใหญํที่ผลิตโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เรียกวํา LSI (Large Scale Integrated) และ VLSI (Very Large Scale Integrated) เข๎ามาแทน แผงวงจรรวมหรือ IC แบบเดิม เนื่องจากสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได๎มากกวํา โดย บรรจุวงจรทรานซิสเตอร์นับหมื่น แสน หรือล๎านตัว ลงในชิ้นสารซิลิกอน (silicon) เล็ก ๆ ไมโครโปรเซสเซอร์นี้คิดค๎นขึ้นโดยบริษัทอินเทล (Intel) ซึ่งยังเป็นผู๎ผลิต
  • 27. 27 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved c ไมโครโปรเซสเซอร์ชั้นนาในปัจจุบันและทาให๎เกิดการผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก สาหรับการใช๎งานทั่วไปที่เรียกวํา “ ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer)” ซึ่งได๎รับ ความนิยมแพรํหลายไปทั่วโลกในเวลาตํอมา เรื่องที่ 10 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคเครือขําย (Network) เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคเครือขําย ( Network) การใช๎งานไมโครคอมพิวเตอร์ได๎รับ ความนิยามอยํางแพรํหลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด๎วย มีการออกแบบและพัฒนา เครื่องคอมพิวเตอร์ให๎มีขนาดเล็กลงพร๎อม ๆ กับประสิทธิภาพในการใช๎งานที่มุํงเน๎นให๎ เกิดการเชื่อมตํอเป็นเครือขําย (Network) มากยิ่งขึ้น บริษัทหรือองค์กรธุรกิจได๎นาเอา
  • 28. 28 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ไมโครคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัวมาเชื่อมตํอและแลกเปลี่ยนข๎อมูลกันในบริเวณใกล๎ หรือในสานักงานเดียวกัน เรียกวํา “ เครือขํายเฉพาะที่” หรือ LAN (Local Area Network) จากนั้นก็ได๎พัฒนาให๎การเชื่อมตํอเข๎าหากันได๎มากขึ้นโดยกระจายบริเวณ ออกไปในระยะที่กว๎างกวําเดิม เรียกวํา “ เครือขํายระยะไกล” หรือ WAN (Wide Area Network) และในที่สุดก็พัฒนาไปสูํการเชื่อมตํอกันโดยไมํจากัดระยะทางไปยัง ผู๎ใช๎งานทั่วโลกที่เรียกวํา “ เครือขํายอินเทอร์เน็ต” (Internet) ในที่สุด การเชื่อมตํอคอมพิวเตอร์เข๎าเป็นเครือขํายเพื่อแลกเปลี่ยนข๎อมูลระหวํางกัน สาหรับประเทศไทยเองโดยเฉพาะในปี พ.ศ.2546 ได๎รับการสํงเสริมจากรัฐบาลให๎ คนไทยมีคอมพิวเตอร์ใช๎กันแทบทุกครัวเรือน หรือที่เรียกวํา “ โครงการคอมพิวเตอร์เอื้อ อาทร” สํงผลให๎จานวนผู๎ใช๎คอมพิวเตอร์โดยทั่วไปในประเทศสูงขึ้นอยํางมาก ซึ่งแตํเดิม การใช๎งานคอมพิวเตอร์มักจะอยูํในวงแคบ ๆ และจากัดเฉพาะกลุํมผู๎มีรายได๎สูงเพียง
  • 29. 29 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved cc เทํานั้น เมื่อได๎รับการสํงเสริมจากภาครัฐ ประกอบกับราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ใน ตลาดที่ถูกลงมากอยํางเห็นได๎ชัด กลุํมผู๎ใช๎คอมพิวเตอร์จึงได๎แผํขยายวงกว๎างมากยิ่งขึ้นไปสูํ กลุํมผู๎มีรายได๎น๎อยและปานกลางด๎วย นอกจากนี้การใช๎งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันยังไมํได๎ จากัดการใช๎งานอยูํเพียงสถานที่ที่ใดสถานที่หนึ่งอีกตํอไป เครือขํายคอมพิวเตอร์ที่เรียกวํา เครือขํายไร๎สาย(Wireless LAN และ Wireless network ) ได๎เกิดขึ้นแล๎วในยุคนี้ และได๎ติดตามผลการแขํงขันกีฬา รับชมรายการโทรทัศน์ เป็นต๎น โดยอาศัยการทางาน ผํานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดเล็กลงนั่นเอง เรื่องที่ 11 ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเดํนหลายประการ ทาให๎ถูกนามาใช๎ประโยชน์ตํอ การดาเนินชีวิตประจาวันในสังคมเป็นอยํางมาก ที่พบเห็นได๎บํอยที่สุดก็คือ การใช๎ใน การพิมพ์เอกสารตํางๆ เชํน พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารตํางๆ ซึ่งเรียกวํางาน ประมวลผล ( word processing ) นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช๎คอมพิวเตอร์ในด๎าน ตํางๆ อีกหลายด๎าน ดังตํอไปนี้
  • 30. 30 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved 1. งานธุรกิจ เชํน บริษัท ร๎านค๎า ห๎างสรรพสินค๎า ตลอดจนโรงงานตํางๆ ใช๎ คอมพิวเตอร์ในการทาบัญชี งานประมวลคา และติดตํอกับหนํวยงานภายนอกผําน ระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม สํวนใหญํก็ใช๎คอมพิวเตอร์มาชํวย ในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นสํวนของอุปกรณ์ตํางๆ เชํน โรงงาน ประกอบรถยนต์ ซึ่งทาให๎การผลิตมีคุณภาพดีขึ้นบริษัทยังสามารถรับ หรืองาน ธนาคาร ที่ให๎บริการถอนเงินผํานตู๎ฝากถอนเงินอัตโนมัติ ( ATM ) และใช๎ คอมพิวเตอร์คิดดอกเบี้ยให๎กับผู๎ฝากเงิน และการโอนเงินระหวํางบัญชี เชื่อมโยงกัน เป็นระบบเครือขําย 2.งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ใน นามาใช๎ในสํวนของการคานวณที่คํอนข๎างซับซ๎อน เชํน งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถี การโคจรของการสํงจรวดไปสูํอวกาศ หรืองานทะเบียน การเงิน สถิติ และเป็น อุปกรณ์สาหรับการตรวจรักษาโรคได๎ ซึ่งจะให๎ผลที่แมํนยากวําการตรวจด๎วยวิธีเคมี แบบเดิม และให๎การรักษาได๎รวดเร็วขึ้น 3. งานคมนาคมและสื่อสาร ในสํวนที่เกี่ยวกับการเดินทาง จะใช๎คอมพิวเตอร์ในการ จองวันเวลา ที่นั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได๎ ทาให๎ สะดวกตํอผู๎เดินทางที่ไมํต๎องเสียเวลารอ อีกทั้งยังใช๎ในการควบคุมระบบการจราจร
  • 31. 31 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เชํน ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการสื่อสารก็ใช๎ควบคุม วงโคจรของดาวเทียมเพื่อให๎อยูํในวงโคจร ซึ่งจะชํวยสํงผลตํอการสํงสัญญาณให๎ ระบบการสื่อสารมีความชัดเจน 4.งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช๎คอมพิวเตอร์ใน การออกแบบ หรือ จาลองสภาวการณ์ ตํางๆ เชํน การรับแรงสั่นสะเทือนของ อาคารเมื่อเกิดแผํนดินไหว โดยคอมพิวเตอร์จะคานวณและแสดงภาพสถานการณ์ ใกล๎เคียงความจริง รวมทั้งการใช๎ควบคุมและติดตามความก๎าวหน๎าของโครงการ ตํางๆ เชํน คนงาน เครื่องมือ ผลการทางาน 5.งานราชการ เป็นหนํวยงานที่มีการใช๎คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช๎หลาย รูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยูํกับบทบาทและหน๎าที่ของหนํวยงานนั้นๆ เชํน กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช๎ระบบประชุมทางไกลผํานคอมพิวเตอร์ , กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได๎จัดระบบเครือขํายอินเทอร์เน็ตเพื่อ เชื่อมโยงไปยังสถาบันตํางๆ , กรมสรรพากร ใช๎จัดในการจัดเก็บภาษี บันทึกการ เสียภาษี เป็นต๎น การศึกษา ได๎แกํ การใช๎คอมพิวเตอร์ทางด๎านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนา คอมพิวเตอร์มาชํวยการสอนในลักษณะบทเรียน CAI หรืองานด๎านทะเบียน ซึ่งทาให๎ สะดวกตํอการค๎นหาข๎อมูลนักเรียน การเก็บข๎อมูลยืมและการสํงคืนหนังสือห๎องสมุด
  • 32. 32 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved cc เรื่องที่ 12 คอมพิวเตอร์กับการใช๎งานภาครัฐ หนํวยงานราชการ (Government) ในสํวนของราชการมีการนาเอาระบบคอมพิวเตอร์ เข๎าไปชํวยใน การทางาน การจัดเก็บข๎อมูล การจัดทาสามะโนประชากร และบริการ ประชาชนให๎รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังมีรายละเอียด คือ เว็บไซต์เรื่อง e-goverment นโยบายการบริหาร (Administering Policies) ลักษณะนี้เป็นนาเอาคอมพิวเตอร์ มาใช๎ในการ จัดเก็บข๎อมูลด๎านการตัดสินคดีความตํางๆ ในศาล รวมไปถึงหลักนิติบัญญัติ ด๎วย ในประเทศไทยเราเองก็จะเห็นอยูํโดยทั่วไป เชํน การบัญญัติกฎหมาย หรือการรําง กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งต๎องผํานความเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา การจัดเก็บข๎อมูล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหํงชาติ เป็นต๎น การจ๎างงาน (Employment) ในปัจจุบัน รูปแบบการรับคนเข๎าทางาน สะดวกสบายกวําแตํกํอนมาก ผู๎สมัครงานสามารถกรอกใบสมัครงานด๎วยตนเองผําน อินเตอร์เน็ตได๎ โดยที่ไมํต๎องเดินทางไปสมัครเอง ซึ่งทาให๎ประหยัดทั้งเวลา และ คําใช๎จํายในการเดินทาง พอสิ้นเดือนทางบริษัทก็พิมพ์ใบสมัครออกมาทาการคัดเลือกวํา ผู๎สมัครคนใดมีความเหมาะสมกับตาแหนํงงาน จากนั้นจะเรียกมาสัมภาษณ์ เมื่อได๎ผู๎สมัคร
  • 33. 33 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ตามต๎องการ แล๎วก็จะมีการจัดเก็บประวัติเอาไว๎เพื่อใช๎ในการบริหารงานตํอไป บาง บริษัทพัฒนาโปรแกรมการทดสอบผู๎สมัครงานขึ้นมา เพื่อให๎ผู๎สมัครเข๎าไปทดสอบความรู๎ ความสามารถ ความถนัดของตนเอง เชํนเว็บไซต์ www.testMe.com เมื่อเสร็จสิ้นการ ทดสอบ จะมีผลคะแนนรายงานออกมา และนายจ๎างสามารถพิจารณาได๎วํา จะเลือก ผู๎สมัครคนใดเข๎ามาทางานในบริษัท จัดเก็บภาษีอากร (Tax) ได๎แกํการเอาคอมพิวเตอร์เข๎าไปจัดเก็บข๎อมูลด๎าน ภาษีอากรของ ประเทศ หรือพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีอากรขึ้นมา ตัวอยําง ประเทศไทย คือ กรมสรรพากร ได๎พัฒนาระบบการจัดเก็บภาษี และการชาระ ภาษีรายได๎ผํานอินเตอร์เน็ต ทาให๎ผู๎เสียภาษีได๎รับเงินคืนภาษีภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งรวดเร็วกวําแตํกํอนมาก แม๎ผู๎ใช๎บางคนอาจบอกวํา มีความยุํงยากตํอการใช๎ หรือ ผู๎เสียภาษีบางคนอาจมีปัญหาเรื่องการขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งกรมสรรพากรแจ๎งให๎ สํงผํานโทรสารมาให๎ แทนที่จะทาให๎เร็ว บางคนบอกยิ่งลําช๎าไปอีก เป็นต๎น ซึ่ง ข๎อบกพรํองตรงนี้ กรมสรรพากรต๎องรีบเรํงแก๎ปัญหาอยํางเรํงดํวนตํอไป อยํางไรก็ดี กลําวในเรื่องของคุณประโยชน์คอมพิวเตอร์อานวยประโยชน์ให๎มากกวําสํวนที่เป็น ข๎อเสีย
  • 34. 34 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ด๎านสามะโนประชากร (Registration Census) คือ การนาเอาคอมพิวเตอร์มาชํวย จัดเก็บข๎อ มูลของประชากรทั้งประเทศ เชํน สานักงานสถิติแหํงชาติ ตลอดระยะเวลาที่ ผํานมา มีความยุํงยากเหมือนกัน เพราะวํา ประชากรในประเทศทวีจานวนเพิ่มสูงขึ้น เรื่อยๆ รัฐบาลจึงมีนโยบายนาเอาข๎อมูลของประชากรจัดเก็บลงในบัตรอัจฉริยะ (Smart Card) โดยเฉพาะมีการริเริ่มทาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต๎ ซึ่งกาลังมีปัญหาด๎านการ กํอการร๎าย และการกํอความไมํสงบเกิดขึ้นรายวัน สาเหตุเพราะมีประชาชนบางคน ถือ 2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทย และสัญชาติมาเลเซีย เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทาให๎การติดตาม คนร๎ายเกิดความยุํงยากลาบาก เนื่องจากมีการหลบหนีข๎ามแดนไปอยูํฝั่งมาเลเซีย เป็น ต๎น เว็บไซต์แสดงฐานข๎อมุลหนํวยงานของรัฐ
  • 35. 35 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved cc เว็บไซต์กรมสรรพากรบริการการจัดเก็บภาษี เรื่องที่ 13 คอมพิวเตอร์กับการใช๎งานทางด๎านธุรกิจทั่วไป สาหรับชีวิตประจาวันของคนเราในปัจจุบันนี้โดยสํวนใหญํแล๎วจะใช๎คอมพิวเตอร์เพื่อ การทางานจัดเก็บข๎อมูลสาคัญไว๎และจะใช๎ระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการติดตํอสื่อสารกันเพราะ สามารถทาได๎สะดวกและรวดเร็วรวมทั้งการรับสํงขอมูลที่ใช๎ระยะเวลาอันสั้นจึงจะเห็นได๎ วําองค์กร ห๎างร๎าน หรือแทบจะทุกหนํวยงานสํวนใหญํล๎วนแล๎วแตํนาระบบคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตมาใช๎กัน ซึ่งในที่นี้จะยกตัวอยํางธุรกิจที่นาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานธุรกิจ ครําวๆดังนี้
  • 36. 36 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved การใช๎คอมพิวเตอร์ในวงการอุตสาหกรรม นับได๎วําคอมพิวเตอร์ได๎เข๎ามามีบทบาทเป็น อยํางมาก ตั้งแตํการวางแผนการผลิต กาหนดเวลาการผลิตจนกระทั่งถึงการผลิตสินค๎า ควบคุมระบบการผลิตทั้งหมด ในรายงานทางอุตสาหกรรมได๎มีการนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ ในการควบคุมการทางานของเครื่องจักร การใช๎คอมพิวเตอร์ในธุรกิจธนาคารคอมพิวเตอร์ ได๎เข๎ามามีบทบาทในการบริหาร และการให๎บริการในด๎านธุรกิจธนาคาร ทาให๎ธุรกิจธนาคารเจริญรุดหน๎าอยํางรวดเร็ว โดยการให๎บริการแกํลูกค๎าที่มาติดตํอด๎วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต๎อง สาหรับความสารมารถและประโยชน์ในการนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช๎ในธุรกิจมีดังนี้ 1.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการศึกษา เชํน การรับสมัครนักศึกษาเข๎าเรียน การชาระคําลงทะเบียนเรียนผํานทางธนาคาร 2.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานทางด๎านการธนาคาร เชํน การให๎บริการกับลูกค๎า การฝากเงิน และการถอนเงิน การชาระคําบริการตําง ๆ 3.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านโรงแรม เชํน การบันทึกข๎อมูลการเข๎าพัก และการ แจ๎งคืนห๎องพักของลูกค๎า การชาระคําห๎องพัก
  • 37. 37 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved 4.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านธุรกิจสายการบินที่เกี่ยวข๎องกับธุรกิจ เชํน การ ตรวจดูตารางการบิน การจองตั๋วเครื่องบิน การยกเลิกเที่ยวบินและการสารองที่นั่ง ลํวงหน๎า 5.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการแพทย์ที่เกี่ยวข๎องกับธุรกิจ เชํน การค๎นหา ประวัติของคนไข๎ การวินิจฉัยโรค การเอ็กซเรย์และการชาระเงินคํารักษา 6.การนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ในงานด๎านการสื่อสาร เชํน การนาอินเตอร์เน็ตเข๎ามามีสํวน รํวมในงาน จะเห็นได๎วําการนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช๎ในงานธุรกิจมีความสาคัญเป็นอยําง มาก เพราะมีความเกี่ยวข๎องกับธุรกิจ ทั้งนี้ถ๎าไมํมีคอมพิวเตอร์เข๎ามาชํวยในงานด๎านตําง ๆ ก็อาจจะทาให๎งานขาดประสิทธิภาพก็ได๎ เพราะเนื่องจากในปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์ได๎มี บทบาทเข๎ามาเกี่ยวข๎องเป็นอยํางมาก และทาให๎ผู๎ใช๎เกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จน คอมพิวเตอร์ได๎เข๎ามาเป็นสํวนหนึ่งของชีวิตคนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เรื่องที่ 14 คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน
  • 38. 38 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved การใช๎คอมพิวเตอร์ในธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสายการบินมีความจาเป็นต๎องนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ด๎วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก เพื่อให๎สามารถให๎บริการได๎รวดเร็ว ประการที่สอง เพื่อแขํงขันกับสายการ บินอื่นๆ และประการที่สาม เพื่อรักษาความปลอดภัยในการบิน โดยชํวยให๎สามารถ ตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และอุปกรณ์ได๎อยํางถูกต๎องแนํนอน และสม่าเสมอ ธุรกิจที่มีการนาเอาคอมพิวเตอร์มาใช๎ อาจแบํงเป็นประเภทใหญํๆ ได๎ ๓ ประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง ผู๎โดยสาร ประเภทที่สอง สินค๎าพัสดุภัณฑ์ และประเภทที่สาม บริการอื่น ๆ เชํน ครัวการบิน สินค๎าปลอดภาษี และบริการรับสํงผู๎โดยสารภาคพื้นดิน เป็นต๎น ธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจ ที่ต๎องคานึงถึง ความปลอดภัยมาก คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทอยําง สาคัญ ในการตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และ อุปกรณ์
  • 39. 39 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ระบบบริการผู๎โดยสารอาจจะเริ่มด๎วยระบบบันทึกตารางการบิน ซึ่งบันทึกและ เปลี่ยนแปลงแก๎ไขข๎อมูลเที่ยวบิน เส๎นทางบิน เวลาออก และเวลาถึง จานวนที่นั่ง ซึ่ง สามารถขายได๎ และอื่นๆ เพื่อใช๎เป็นฐานข๎อมูลในระบบที่เกี่ยวข๎อง เชํน ระบบงาน สารวจที่นั่งผู๎โดยสาร ระบบงานสารวจจะวางบรรทุก และระบบตรวจรับผู๎โดยสาร เป็น ต๎น ระบบบริการ และโดยสาร อาจจะแยกเป็นระบบงานสารวจที่นั่งผู๎โดยสาร ระบบ ควบคุมการสารองที่นั่ง ระบบพิมพ์ตั๋วอัตโนมัติ ระบบสารองห๎องพักโรงแรม ระบบชาระ คําโดยสารที่นั่งกลุํมทํองเที่ยว และระบบติดตามกระเป๋า และสัมภาระ เป็นต๎น ธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจที่ต๎องคานึงถึงความปลอดภัยอยํางมาก คอมพิวเตอร์จึงมี บทบาทอยํางสาคัญ ในการตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และอุปกรณ์
  • 40. 40 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ระบบงานขนสํงสินค๎าพัสดุภัณฑ์ อาจจะประกอบด๎วยระบบจัดสาร และควบคุม ระวางบรรทุก ระบบสารอง ระวางบรรทุก ระบบตรวจสินค๎า ระบบควบคุมคลังเก็บ สินค๎า ระบบตระเตรียมขนสํงขนสํงสินค๎า ระบบงานสินค๎าขาเข๎า และระบบควบคุมและ ติดตามอุปกรณ์ขนสํง เป็นต๎น ระบบครัวการบิน เป็นระบบ ซึ่งชํวยให๎การดาเนินงานครัวการบินเป็นไปอยํางมี ประสิทธิภาพ โดยเก็บข๎อมูลของลูกค๎าวํา ใครต๎องการอาหารอะไรพิเศษหรือไมํ เก็บ ข๎อมูลตารางบินของแตํละรายการบินที่มาใช๎บริการ รายการอาหาร และเครื่องดื่มบน เครื่องบิน สูตรและวัตถุดิบที่ใช๎ในการปรุงอาหาร ทั้งนี้เพื่อคานวณต๎นทุนในการผลิต และตั้งราคาวิเคราะห์คาดการสั่งซื้อวัตถุดิบให๎เพียงพอแกํความต๎องการ อานวยความ สะดวกในการจัดและควบคุมวัตถุดิบ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ตั้งแตํการจัดซื้อ การเบิกจําย และรับของ ไปจนถึงการบรรจุ และขนย๎ายไปยังเครื่องบิน เป็นต๎น การพิมพ์ตั๋วเครื่องบินด๎วยระบบอัตโนมัติ
  • 41. 41 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ระบบงานสินค๎าปลอดภาษี เป็นระบบ เพื่อชํวยจัดการ และควบคุมการเบิกจําย จัดหาสินค๎าให๎เพียงพอกับความต๎องการของลูกค๎า บันทึกยอดขาย ตัดบัญชี และทาสถิติ รายงานตํางๆ เสนอผู๎บริหาร เป็นต๎น บริการรับสํงผู๎โดยสารภาคพื้นดิน เป็นระบบ เพื่อชํวยให๎การบริหารการใช๎รถ โดยสารเป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ โดยเก็บประวัติการใช๎ และการซํอมของรถแตํละคัน ระยะทาง และเชื้อเพลิงที่ใช๎ในการรับสํงแตํละเที่ยว ควบคุมการเบิกจําย และจัดซื้อ อะไหลํสาหรับการซํอม เป็นต๎น เรื่องที่ 15 คอมพิวเตอร์กับงานทางด๎านการศึกษา โดยหลักการแล๎ว การใช๎คอมพิวเตอร์ในด๎านการศึกษาอาจแบํงเป็นประเภทใหญํๆ ได๎ ๒ ประเภท คือ ใช๎เป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช๎เป็นเครื่องมือในการสอน การ บริหารการศึกษา เป็นเรื่องที่มีความจาเป็นอยํางยิ่งทางด๎านการศึกษา โดยเฉพาะอยํางยิ่ง ในสถาบันการศึกษา ที่มีนักศึกษาจานวนมาก หรือมีวิชาจานวนมากที่เปิดให๎นักศึกษา
  • 42. 42 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เลือกเรียนตามความถนัด และความต๎องการ ดังนั้น ผู๎บริหารการศึกษาจึงมีความ จาเป็นที่จะต๎องทราบข๎อมูลตํางๆ เพื่อใช๎ในการจัดเตรียมงบประมาณ จัดเตรียมห๎องเรียน ได๎ตามความต๎องการ จัดครูหรืออาจารย์ผู๎สอนได๎ตามความถนัดของผู๎สอน และมีชั่วโมงการ สอนพอเหมาะทุกคน รวมทั้งการวิเคราะห์คําใช๎จํายในแตํละสาขาวิชา เพื่อที่จะได๎ทราบ วํา ในปีตํอๆ ไป ถ๎าเราจะผลิตนักศึกษาเหลํานั้น จะต๎องลงทุนอีกเทําใด และถ๎าเพิ่ม จานวนนักศึกษาขึ้นอีก จะมีผลทาให๎ต๎องเพิ่มบุคลากร อาคาร ห๎องเรียน และ งบประมาณเป็นเทําใด นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาได๎วํา วิชาการประเภทใดบ๎าง ที่ นักศึกษาไมํคํอยนิยมเรียน อาจจะต๎องหาทางชี้แจงให๎นักศึกษาเข๎าใจ หรือพิจารณาปิด วิชาเหลํานั้น โดยทั่วไปแล๎ว ในการนาคอมพิวเตอร์มาใช๎ทางการบริหารการศึกษานั้น จะแบํงข๎อมูลออกเป็น ๕ ด๎าน คือ ด๎านนักศึกษา ด๎านแผนการเรียน ด๎านบุคลากร ด๎าน การเงิน และด๎านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ ข๎อมูลด๎านนักศึกษา เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับประวัติสํวนตัวของนักศึกษาวํา เกิดเมื่อใด ที่ไหน ชื่อบิดามารดา อาชีพบิดามารดา เคยเรียนมาจากที่ไหนบ๎าง เป็นต๎น อีกสํวนหนึ่ง เป็นประวัติการศึกษาในระหวํางศึกษาอยูํ ณ สถาบันนั้นๆ วํา เคยลงทะเบียนเรียนวิชา อะไร ผลการศึกษาเป็นอยํางไรในแตํละภาคการศึกษา เพื่อให๎ได๎ข๎อมูลดังกลําวครบถ๎วน สํวนใหญํเขาจะนิยมใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยในงานลงทะเบียน
  • 43. 43 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ข๎อมูลด๎านแผนการเรียน เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับวิชาที่เปิดสอนวํา แตํละวิชามีรหัสชื่อ วิชาหนํวยกิต เวลาเรียนและสอนที่ไหน และวิธีสอนเป็นบรรยาย หรือปฏิบัติ เป็นต๎น ข๎อมูลด๎านบุคลากร เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับครูผู๎สอนวํา มีวุฒิอะไร มาจากที่ไหน เพศหญิง หรือเพศชาย สอนวิชาอะไรบ๎าง กาลังวิจัย หรือเขียนตาราเรื่องอะไร และเงินเดือน เทําใด เป็นต๎น ข๎อมูลด๎านการเงิน เป็นข๎อมูลที่สถานการศึกษานั้นได๎รับเงินจากอะไรบ๎าง ได๎ใช๎เงิน เหลํานั้นแตํละเดือนเทําไร ใช๎ซื้ออะไรบ๎าง และยังเหลือเงินอยูํเป็นจานวนเทําใด เป็นต๎น ข๎อมูลด๎านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ เป็นข๎อมูลที่เกี่ยวกับอาคาร ห๎องแตํละห๎อง เป็นห๎องปฏิบัติการ หรือห๎องบรรยาย ห๎องพักนักศึกษา ห๎องทางาน ความจุของแตํละ ห๎อง มีโต๏ะและเก๎าอี้กี่ตัว ขนาดห๎องกว๎างและยาวเทําใด และในแตํละห๎องมีอุปกรณ์ เครื่องมืออะไรบ๎าง เป็นต๎น จากข๎อมูลทั้ง ๕ ด๎านที่ได๎จากคอมพิวเตอร์นี้ ผู๎บริหารการศึกษาสามารถนามาใช๎ ชํวยในการตัดสินใจได๎ เชํน อยากจะทราบวํา ผลการเรียนในแตํละวิชามีการให๎เกรด ผู๎สอบอยํางไร คอมพิวเตอร์ก็สามารถวิเคราะห์ออกมาได๎ เพื่อใช๎พิจารณาความยากงํายของ ข๎อสอบ หรือการให๎คะแนนสอบ เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน ถ๎าต๎องการทราบวํา ใน สถานศึกษาของตนเองสอนวิชาหนักไปทางไหนบ๎าง ถ๎าจะเพิ่มวิชาอีกจะมีอาจารย์ผู๎มี
  • 44. 44 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved ความรู๎ด๎านนั้นๆ หรือไมํ ทางด๎านอาคารสถานที่ก็สามารถวิเคราะห์ได๎วํา มีการใช๎ ห๎องเต็มที่หรือไมํ ถ๎าเพิ่มนักศึกษาอีก จะมีปัญหาเรื่องอาคารเรียนอยํางไรบ๎าง เป็นต๎น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีบทบาทสาคัญในการชํวยให๎การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ คอมพิวเตอร์จึงเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่สถาบันการศึกษาเปิดสอนให๎แกํนิสิตนักศึกษา การใช๎คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสอนนี้ มีผู๎เกรงกลัวกันเป็นอันมากวํา จะทา ให๎ครูตกงาน แตํตามความเป็นจริงแล๎ว คอมพิวเตอร์อาจชํวยครูทางานบางอยํางได๎ดีกวํา ครู แตํก็มีงานหลายอยํางที่คอมพิวเตอร์ทาไมํได๎ ยังคงจาเป็นที่จะต๎องให๎ครูทาอยูํอยําง แนํนอน โดยเฉพาะอยํางยิ่งงานที่คอมพิวเตอร์ชํวยทาได๎ดีกวําครูนั้น เป็นงานจาเจ ซึ่งครู เองคงไมํตื่นเต๎นสนใจ หรือต๎องการที่จะทาอยูํตลอดไปนัก ฉะนั้น คอมพิวเตอร์จะชํวยให๎ ครูใช๎ความรู๎ความสามารถพิเศษ ให๎เป็นประโยชน์แกํระบบการศึกษาได๎มากขึ้น
  • 45. 45 Document Name Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved เพื่อให๎เข๎าใจวําคอมพิวเตอร์จะชํวยในการสอนได๎ อยํางไรนั้น สิ่งแรกที่ควรทาก็คือ ศึกษาและพิจารณาระบบ การศึกษาปัจจุบันวํา เป็นอยํางไร มีข๎อดีข๎อเสียอะไรบ๎าง จะ ใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยได๎หรือไมํ ข๎อเสียที่สาคัญๆ ของระบบ การศึกษาที่ยังไมํได๎ใช๎ คอมพิวเตอร์ชํวยในการสอน มีอยูํสองประการ คือ ๑. ความไมํยืดหยุํนของระบบ เมื่อพบวําอะไร ควรจะแก๎ไขปรับปรุง กวําจะปรับปรุง เสร็จก็ใช๎เวลานานมาก อาจเป็นเวลา ๒-๓ ปี และเมื่อปรับปรุงเสร็จก็มักจะกลําววํา สิ่ง ที่ได๎ปรับปรุงแล๎วนั้นไมํเหมาะสม ไมํทันตํอเหตุการณ์ แล๎วจาเป็นต๎องแก๎ไขปรับปรุงใหมํ อีก ๒. ความไมํสามารถของระบบที่จะจัดให๎นักเรียน แตํละคนได๎มีโอกาสเลือกเรียนได๎ช๎า หรือเรียนได๎เร็วตามความชอบ ความเฉลียวฉลาด และความสามารถของเด็ก เชํน เด็ก คนใดมีความชอบหรือมีความคลํองในวิชาใดเป็นพิเศษ ควรจะเรียนวิชานั้น ให๎เข๎าใจได๎ ในระยะเวลาอันสั้น และรวดเร็ว กวําเด็กคนอื่น แตํในปัจจุบันเด็กทุกคนจะต๎องมานั่งทน เรียนวิชานั้น ไปจนสิ้นสุดภาคการศึกษา ตามที่กาหนดไว๎ให๎ ซึ่งอาจ จะทาให๎เด็กคนนั้น เบื่อมาก จนอาจกํอกวนให๎เด็กคนอื่นเสียการเรียนไปด๎วย ข๎อเสียทั้งสองประการข๎างบนนี้ พอจะมีทางแก๎ไขได๎ ไมํยากนัก โดยการใช๎ คอมพิวเตอร์ชํวย ซึ่งถ๎าจะให๎ได๎ผลดีเต็มที่ จะต๎องใช๎คอมพิวเตอร์แบบที่ใช๎พร๎อมๆ กันได๎