1. บทที 1
บทนํา
1.หลักการและเหตุผล
การทํานาของเกษจรกรตังแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยังเป็นอาชีพทีเกษตรกรยังไม่ภ่คภูมิใจในอาชีพ
ของตนเอง การทํานายังทํากันแบบขาดการพัฒนาความรู้ การให้การสนับสนุนจากภาครัฐไม่
ต่อเนืองและไม่แสดงผลชัดเจนทําให้เกษตรกรรู้สึกขาดทีพึง ยิงเงินทุนทีใช้ในการประกอบอาชีพทํา
นาสูงขึน และต้องใช้จํานวนมากขึน ผลผลิตทีได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ทําให้เกษตรกรเบือหน่ายต่อ
การทํานา ทียังทํากันอยู่ส่วนใหญ่เพราะไม่มีอาชีพอืน เทคโนโลยีใหม่ทีเกษตรกรใช้ในการทํานา
แม้จะทําให้เกษตรกรได้รับความสะดวกสบายมากขึน แต่ก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิมสูงขึน รายได้ที
สูงขึนก็เป็นเพียงแค่จํานวนเงินเพิมขึน แต่ข้าวของก็ราคาสูงขึนไปตามรายได้วิถีชีวิตทีเปลียนไปจาก
อยู่อย่างพอเพียงในอดีตกลายเป็นดินรน เอาเงินเป็นมาตรฐานในการตัดสินความเจริญของแต่ละคน
ทําให้เกิดการขาดความสามัคคีในหมู่บ้าน มีการคอรัปชันตังแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับผู้บริหาร
ประชาชนในหมู่บ้านแบ่งเป็นพรรคพวกไม่ให้ความร่วมมือซึงกันและกันคนทีด้อยโอกาสส่วนใหญ่
จะไม่ขวานขวายกลับเป็นคนติดเหล้า เป็นคนเกียจคร้าน แม้คนทีเคยมีโอกาสก็หลงไปกับการพัฒนา
ทีรวดเร็ว ต้องการมีรถมอเตอร์ไซค์ มีรถปิคอัพโดยไม่มีความจําเป็นในการประกอบอาชีพรับรอง
จึงขายทีดินทํากินซือสิงอํานวยความสะดวกเหล่านีแล้วบริหารไม่ได้กลายเป็นหนีสิน หมดทีทํากิน
โอกาสทีจะให้เกษตรกรได้รับการพัฒนาต้องอาศัยความสนับสนุนอย่างจริงจังทังทางด้านการศึกษา
และเงินลงทุนจากภาครัฐ การศึกษาควรเป็นการศึกษาทีผู้ศึกษาสามารถนํากลับไปใช้ในท้องถินได้
เงินสนับสนุนจากภาครัฐควรเป็นเงินให้ทีมีดอกเบียตําหรือไม่มีดอกเบีย เน้นไปเพือให้เกษตรกรเกิด
ความภาคภูมิใจในอาชีพตน สามารถเลียงตนเองได้ ไม่เน้นการส่งเสริมการวัดค่าความสุขของ
ประชาชนด้วยเงินรายได้ปัญหาสําคัญของเกษตรกร คือ ปัญหาความยากจน กับขาดการศึกษา หาก
สามารถพัฒนาได้อย่างรอบคอบครบวงจรจนทําให้เกษตรกรเกิดความภาคภมิใจในอาชีพตน
สามารถกําหนดราคาสินค้าของตนได้ เลียงตัวเองได้สังคมแห่งความสงบสุขเหมือนอย่างทีเคยมีมา
ในอดีตก็คงจะเกิดขึนได้ง่าย
จากการสํารวจพบว่าเกษตรกรไม่มีความรู้เกียวกับรายรับ – รายจ่าย หรือการทําเกษตรกรว่า
ได้กําไรหรือขาดทุน และรู้ว่าต้นทุนของการทําเกษตรเท่าไร เลยถือว่าเป็นส่วนปประกอบสําคัญใน
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรูปแบบการพัฒนานันส่วนหนึงเพือนํามาพัฒนา
ประเทศชาติ อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพทีเราไม่ควรจะมองข้ามเพราะเกษตรกรถือเป็นอาชีพหลัก
ของคนไทย เกษตรกรมีหลายรูปแบบ เช่น ปลูกผัก เลียงสัตว์ ปลูกข้าว ฯลฯ แล้วแต่สภาพแวดล้อม
ของแต่ละจังหวัดแต่ละชุมชน ว่าสภาพดิน นํา อากาศ เป็นอย่างไรเหมาะกับการทําอาชีพอะไร
เกษตรกรจึงมีความสําคัญกับคนไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนีการจัดโครงการนีเพือการพัฒนา

2. เกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ทีดีขึนเกษตรกรได้รับรู้เกียวกับรายรับ – รายจ่าย ว่าการทํานาครัง
หนึงมีการลงทุนไปเท่าไร ได้กําไรหรือขาดทุน เราจะมาสรุปว่าสาเหตุทีขาดทุนเกิดจากอะไรและ
สาเหตุทีได้กําไรเกิดจากอะไร และเหมือนเป็นการเพิมพูนความรู้ให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
2. วัตถุประสงค์ของโครงการ
2.1 เพือให้กลุ่มเป้ าหมายมีความรู้เกียวกับการทําบัญชีรายรับ – รายจ่าย
2.2 เพือให้กลุ่มเป้ าหมายมีความรู้เกียวกับการทําบัญชีทีถูกต้อง
2.3 กลุ่มเป้ าหมายอาจยังไม่มีความสนใจในการจดบันทึกบัญชี
3. ขอบเขตของโครงการ
การดําเนินงานโครงการนีเป็นการเพิมความรู้เกียวกับการจัดทําบัญชีรายรับ – รายจ่าย ให้แก่
เกษตรกรผู้ทํานาให้มีความรู้เรืองการทําบัญชีรายรับ – รายจ่าย ได้อย่างถูกต้องตามหลักการบัญชี
โดยมีกลุ่มเป้ าหมาย คือ เกษตรกร ผู้ทํานาบ้านฟากทุ่งจํานวน 10 ราย ประกอบด้วย
1. นายบุญลือ สารีนาค
ทีอยู่บ้านเลขที 78/4 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
2. นายทรัพย์นาเอก
ทีอยู่บ้านเลขที 34/3 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
3. นางขวัญเรือน ใจไหม
ทีอยู่บ้านเลขที 47 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
4. นายประสิทธิ บุญนาค
ทีอยู่บ้านเลขที 34/3 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
5. นางสาววาสนา คิดรอบ
ทีอยู่บ้านเลขที 59/1 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
6. นางสุรินทร์ แตงตะโนด
ทีอยู่บ้านเลขที 77 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
7. นายกิมเอง สิงห์สนิด
ทีอยู่บ้านเลขที 77/2 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
8. นายประทีบ รอดกสิกํา
ทีอยู่บ้านเลขที 74 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
9. นายเสรี บุญนาค
ทีอยู่บ้านเลขที 34/1 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร
10. นายพายับ เกาะแก้ว
ทีอยู่บ้านเลขที 66 หมู่ 3 ตําบลคลองพิไกร อําเภอพรานกระต่าย จังหวัดกําแพงเพชร

3. 4. ประโยชน์ทีคาดว่าจะได้รับจากการทําโครงการ
4.1 เพือให้กลุ่มเป้ าหมายมีความรู้เกียวกับการทําบัญชีรายรับ – รายจ่าย
4.2 เพือให้กลุ่มเป้ าหมายมีการบันทึกบัญชีรายรับ – รายจ่ายทีถูกต้อง
4.3 เพือให้กลุ่มเป้ าหมายทราบถึงผลกําไรขาดทุนทีแท้จริง