SlideShare a Scribd company logo
1 of 77
The structure and function of
macromolecules
สารประกอบขนาดใหญ่
(macromolecules) ในสิ่ง มีช ว ิต จัด เป็น 4
ี
กลุ่ม ตามลัก ษณะโครงสร้า งของโมเลกุล
ได้แ ก่
Carbohydrate ประกอบด้ว ยธาตุ
H, O

C,

Protein

“

C, H, O, N

Lipid

“

C, H, O

Nucleic acid

“

C, H, O, N, P
Building models to study the structure of macromolecules

Linus Pauling (1901-1994)

Today, scientists use
computer
ปฏิก ิร ิย าเคมีข อง macromolecules
ได้แ ก่
Condensation เป็น ปฏิก ิร ิย า
สัง เคราะห์ macromolecules จาก
monomers เล็ก ๆเป็น จำา นวนมาก
และได้ผ ลผลิต H2O ด้ว ย ดัง นั้น อาจ
เรีย กว่า ปฏิก ิร ิย า dehydration
Hydrolysis เป็น ปฏิก ิร ิย าย่อ ย
สลาย macromolecules ให้เ ล็ก ลง
เพือ ให้ส ามารถนำา ผ่า นเยือ หุ้ม เซลล์
่
่
The synthesis of a polymer
The Breakdown of a polymer
Carbohydrates
Carbohydrates เป็น สารประกอบ
จำา พวก
นำ้า ตาล และ polymer
ของนำ้า ตาล
แบ่ง กลุ่ม carbohydrates ได้เ ป็น 3
กลุ่ม ตามจำา นวนโมเลกุล ของนำ้า ตาล
ที่เ ป็น องค์ป ระกอบ ได้แ ก่
Monosaccharide
Disaccharide
Monosaccharide เป็น นำ้า ตาล
โมเลกุล เดี่ย ว ที่ป ระกอบด้ว ย C, O
และ H มีส ูต รคือ (CH2O)n
โดยมีอ ะตอมของ C ต่อ กัน เป็น
สาย และมี Carbonyl group และ
hydroxy group ต่อ กับ อะตอมของ C
Carbonyl
group
aldehydes

ketones
The structure and classification of some monosaccharides
Linear and ring forms of glucose
นำ้า ตาลโมเลกุล คู่ (Disaccharides)
เกิด จากการรวมตัว ของนำ้า ตาล
โมเลกุล เดีย ว 2 โมเลกุล โดยปฏิก ิร ิย า
่
condensation
Covalent bond ที่เ กิด ขึ้น เรีย กว่า
Glycosidic linkage
Examples of disaccharides synthesis
Polysaccharide เป็น carbohydrate ที่
มีข นาดใหญ่ม าก ประกอบด้ว ย
monosaccharides จำา นวนมากต่อ กัน ด้ว ย
glycosidic linkage
ชนิด ของ polysaccharide ขึ้น อยูก ับ
่
1. ชนิด ของ monosaccharide
2. ชนิด ของ Glycosidic linkage
ตัว อย่า ง polysaccharide ได้แ ก่
starch, glycogen, cellulose และ chitin
Storage polysaccharides
Starch: 1-4 linkage of
α glucose monomers

Cellulose: 1-4 linkage
of β glucose monomers
Cellulose มี glucose เป็น องค์
ประกอบเช่น เดีย วกับ แป้ง แต่ม ีพ ัน ธะ
แบบ 1-4 glycosidic linkage ผนัง เซลล์
ของพืช ประกอบด้ว ย cellulose เป็น
จำา นวนมาก
The arrangement of cellulose in plant cell walls
Chitin, a structural polysaccharide

Chitin forms the
exoskeleton of
Arthropods

Chitin is used to make a strong
and flexible surgical thread
Chitin มีโ ครงสร้า งคล้า ยกับ Cellulose
ต่า งกัน ที่ว ่า หน่ว ยย่อ ยเป็น Nacetylglucosamine ต่อ กัน เป็น โมเลกุล
สายยาว
หน้า ที่ข อง carbohydrate
Sugars :
ทำา หน้า ที่ใ ห้พ ลัง งานและเป็น แหล่ง
คาร์บ อนแก่ส ง มีช ว ิต
ิ่
ี
ribose และ deoxyribose เป็น องค์
ประกอบของ nucleic acid
Polysaccharide :
เป็น แหล่ง สะสมพลัง งานของสิง มีช ว ิต
่
ี
โดยพืช เก็บ สะสมพลัง งานในรูป ของ
starch ส่ว นสัต ว์เ ก็บ สะสมพลัง งานในรูป
ของ glycogen
Lipids
Diverse Hydrophobic molecules
Lipids เป็น สารที่ไ ม่เ ป็น polymer
Lipids ไม่ล ะลายนำ้า เนือ งจากโครงสร้า ง
่
ของ lipids ประกอบด้ว ย nonpolar covalent
bonds เป็น ส่ว นมาก
Lipids ได้แ ก่
ไขมัน (Fat)
Phospholipid
Steroid
ขี้ผ ง (Wax)
ึ้
Fats : เป็น แหล่ง สะสมพลัง งาน
Fats ถึง แม้จ ะไม่เ ป็น polymer แต่เ ป็น สาร
ที่ม โ มเลกุล ขนาดใหญ่ ประกอบด้ว ยสารที่
ี
มีโ มเลกุล ขนาดเล็ก กว่า มาต่อ กัน ด้ว ย
ปฏิก ิร ิย า Dehydration
Fats ประกอบด้ว ย Glycerol และ กรดไข
มัน (Fatty acid)
ส่ว น “tail” ของ fatty acid ที่เ ป็น
hydrocarbon ที่ม ก มีอ ะตอมคาร์บ อนต่อ กัน
ั
ประมาณ 16-18 อะตอม เป็น ส่ว นที่ท ำา ให้ fats
ไม่ล ะลายนำ้า (hydrophobic)
Triglycerol
ไขมัน 1 โมเลกุล ประกอบด้ว ย
Glycerol 1 โมเลกุล และ กรดไขมัน 3
โมเลกุล
กรดไขมัน แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แ ก่
ตัว )

Saturated fatty acid (กรดไขมัน ชนิด อิม
่

Unsaturated fatty acid (กรดไขมัน ชนิด
ไม่อ ิ่ม ตัว )
ไขมัน ที่ไ ด้จ ากสัต ว์ เช่น เนย มี saturated
fatty acid เป็น องค์ป ระกอบ มีล ัก ษณะเป็น
ของแข็ง ที่อ ณ หภูม ิห ้อ ง
ุ
ไขมัน จากพืช มี unsaturated fatty acid
เป็น องค์ป ระกอบ มีล ัก ษณะเป็น ของเหลวที่
Saturated fat
and fatty acid

Unsaturated fat
and fatty acid
Phospholipids
เป็น องค์ป ระกอบหลัก ของ cell
membrane
ประกอบด้ว ย glycerol 1 โมเลกุล
fatty acid 2 โมเลกุล และ phosphate
group (phosphate group มีป ระจุ -)
มีส ว นหัว ที่ม ีป ระจุ และเป็น ส่ว นที่
่
ชอบนำ้า (hydrophilic) และส่ว นหางที่
ไม่ช อบนำ้า (hydrophobic)
The structure of phospholipid
Phospolipid in aqueous environments
เมื่อ เติม phospholipids ลงในนำ้า
phospholipids จะรวมตัว กัน โดยเอา
ส่ว นหางเข้า หากัน และส่ว นหัว หัน ออก
ทางด้า นนอก กลายเป็น หยดเล็ก ๆ
เรีย กว่า micelle
Micelle
ที่ cell membrane ของสิง มีช ีว ิต
่
Phospholipids จะเรีย งตัว เป็น 2 ชัน
้
โดย hydrophilic head จะหัน ออก
ทางด้า นนอกเข้า หากัน ส่ว น
hydrophobic tail อยูต รงกลาง
่
Phospholipid
bilayer
Steroids
เป็น lipids ประกอบด้ว ย คาร์บ อน
เรีย งตัว เป็น วงแหวน 4 วง
Steroids ชนิด ต่า งๆ มีห มู่ functional
group ที่ต ่อ กับ วงแหวนแตกต่า งกัน
Cholesterol เป็น steroid ที่เ ป็น องค์
ประกอบของ cell membrane
Cholesterol, a steroid
Cholesterol ยัง เป็น precusor
สำา หรับ การสัง เคราะห์ steroid อื่น ๆ
หลายชนิด เช่น hormones
Protein
เป็น polypeptide ของ amino acid ที่ต ่อ
กัน เป็น ลำา ดับ เฉพาะตัว สำา หรับ โปรตีน
แต่ล ะชนิด
โปรตีน สามารถทำา งานได้ ต้อ งมีร ูป
ร่า ง (conformation) ที่เ ป็น ลัก ษณะ
เฉพาะตัว
มนุษ ย์ม ีโ ปรตีน มากกว่า 10,000 ชนิด
แต่ล ะชนิด มีโ ครงสร้า งและหน้า ที่แ ตก
Amino acid เป็น สารอิน ทรีย ท ม ห มู่ carboxyl
์ ี่ ี
และหมู่ amino ต่อ กับ อะตอมคาร์บ อนทีเ ป็น ศูน ย์ก ลาง
่
อะตอมทีเ ป็น ศูน ย์ก ลางยัง ต่อ กับ อะตอม hydrogen
่
และหมู่ R group 1 หมูท แ ตกต่า งกัน
่ ี่

H

H
N
H
Amino
group

C
R

O
C
OH
Carboxyl
group
Amino acid แบ่ง ออกเป็น กลุ่ม ตาม
คุณ สมบัต ิข อง R group
R group ที่แ ตกต่า งกัน นี้ ทำา ให้เ กิด
amino acid แตกต่า งกัน 20 ชนิด
แต่ล ะชนิด มีค ุณ สมบัต ิท างเคมีแ ละ
ชีว วิท ยาแตกต่า งกัน
Amino acid กลุม Nonpolar
่
กลุม Polar
่
กลุม Electrically charged
่
Making a polypeptide chain

Amino acid ต่อ กัน เป็น สายยาวด้ว ย
covalent bond เรีย กว่า peptide bond
ปลายที่ม ีห มู่ amino เรีย กว่า Nterminus
ปลายที่ม ีห มู่ carboxyl เรีย กว่า Cterminus
สาย polypeptide ประกอบด้ว ย
amino acid ทั้ง 20 ชนิด เรีย งต่อ กัน เป็น
อิส ระ สาย polypeptide จึง สามารถมีร ูป
แบบที่ไ ม่เ หมือ นกัน นับ หมืน ชนิด ได้
่
โปรตีน สามารถทำา งานได้ต ้อ งมีร ูป
ร่า ง (conformation) ที่เ ป็น ลัก ษณะ
เฉพาะตัว
โปรตีน ที่ท ำา งานได้ป ระกอบด้ว ย
polypeptide 1 สายหรือ มากกว่า ซึ่ง ม้ว น
พับ ไปมาตามแรงยึด เหนี่ย วระหว่า ง
side chain ของ amino acid
รูป ร่า งของโปรตีน จึง ขึ้น อยูก ับ ลำา ดับ
่
ของ amino acid ที่เ รีย งกัน อยู่
A protein’s function depends on its specific
conformation

Ribbon model

Space filling model
โครงสร้า งของโปรตีน ถูก แบ่ง ออก
เป็น
Primary structure
Secondary structure
Tertiary structure
Quaternary structure สำา หรับ
โปรตีน ที่ประกอบด้ว ย polypeptide
มากกว่า 1 สาย
The primary
structure of a protein
Primary structure คือ
ลำา ดับ ของ amino acid
ที่ป ระกอบขึ้น เป็น
โปรตีน
Primary structure ถูก
กำา หนดโดยข้อ มูล ทาง
พัน ธุก รรม (DNA)
การเปลี่ย นแปลงลำา ดับ amino
acid ในโปรตีน อาจมีผ ลให้ร ูป ร่า ง
ของโปรตีน เปลี่ย นไป และอาจมีผ ล
ต่อ การทำา งานของโปรตีน ชนิด นั้น ๆ
ตัว อย่า งเช่น โรค sickle-cell anemia
A single amino acid substitution in a
protein causes sickle-cell disease
The secondary structure of a protein
Secondary structure เป็น
โครงสร้า งทีเ กิด ขึ้น จาก H่
bond ระหว่า งหมู่
carboxylและหมู่ amino
Secondary

structure ทีพ บ
่
บ่อ ยในธรรมชาติ
ได้แ ก่ Helix และ
 Pleated sheet
ตัว อย่า งเช่น เส้น ใยแมงมุม มี
โครงสร้า งแบบ  Pleated sheet ทำา ให้
เส้นSpider silk: a structural protein
ใยแมงมุม มีค วามแข็ง แรงมาก
Tertiary structure of a protein
Tertiary structure เป็น รูป ร่า งของ
polypeptide สายหนึ่ง ตลอดสาย ซึ่ง การม้ว น
พบไปมาขึ้น อยู่ก ับ แรงยึด เหนีย วระหว่า ง R
่
group ด้ว ยกัน เอง หรือ R group กับ โครงสร้า ง
หลัก
แรงยึด เหนี่ย วหมายถึง
H-bond
ionic bond
Hydrophobic interaction
Van der Waals interaction
นอกจากนีบ างตอนยึด ติด กัน ด้ว ย
้
covalent bond ทีแ ข็ง แรง เรีย กว่า disulfide
่
The Quaternary structure of proteins
เป็น โครงสร้า งของโปรตีน ที่ป ระกอบ
ด้ว ย polypeptide มากกว่า 1 สายเท่า นัน เกิด
้
จาก tertiary structure ของ polypeptide
แต่ล ะสายมารวมกัน ตัว อย่า งเช่น :
Polypeptide
Collagen เป็น fibrous
chain

protein ประกอบด้ว ย
polypeptide 3 สายพัน
กัน อยู่ ซึ่ง ทำา ให้โ ปรตีน
ชนิด นีม ีค วามแข็ง แรง
้
และพบใน connective
tissue
Hemoglobin ประกอบด้ว ย polypeptide
4 สายรวมกัน กลายเป็น โปรตีน ที่ม ีร ูป
ร่า งเป็น ก้อ น
The four levels of protein structure
Denaturation and renaturation of a protein
รูป ร่า งของโปรตีน บางชนิด สามารถ
เปลี่ย นแปลงได้ ถ้า สภาพแวดล้อ มของ
โปรตีน เปลี่ย นไป เช่น pH อุณ หภูม ิ ตัว
ทำา ลาย เป็น ต้น เนื่อ งจากแรงยึด เหนีย ว
่
ต่า งๆระหว่า ง amino acid ในสาย polypeptide
ถูก ทำา ลาย การเปลี่ย นแปลงนีเ รีย กว่า
้
Denaturation
โปรตีน บางชนิด เมื่อ เกิด denaturation แล้ว
ยัง สามารถกลับ คืน สูส ภาพเดิม ได้ เรีย กว่า
่
Renaturation
A chaperonin in action
X-ray crystallography
หน้า ที่ข องโปรตีน
เป็น โครงสร้า งเยื่อ หุ้ม เซลล์แ ละเยื่อ หุ้ม
oganelles
เป็น โครงสร้า งสำา คัญ ของสิง มีช ว ิต เช่น
่
ี
keratin เป็น องค์ป ระกอบของ เล็บ ผม
เป็น ต้น
Haemoglobin ทำา หน้า ที่ข นส่ง ออกซิเ จน
Hormones ต่า งๆ ทำา หน้า ที่ค วบคุม การ
ทำา งานของร่า งกาย
Acin และ myosin ในกล้า มเนื้อ ทำา หน้า ที่
เกี่ย วกับ การเคลื่อ นไหว
Enzymes ทำา หน้า ที่เ ป็น ตัว เร่ง ปฏิก ิร ิย าเคมี
Nucleic acid
(Informational polymer)
1. Nucleic acid เป็น แหล่ง เก็บ
ข้อ มูล ทางพัน ธุก รรมและ
ถ่า ยทอดลัก ษณะของสิ่ง มีช ีว ิต
Nucleic acid มี 2 ชนิด ได้แ ก่
Ribonucleic acid (RNA)
Deoxyribonucleic acid (DNA)
DNA ถูก ใช้เ ป็น แม่แ บบในการสัง เคราะห์
mRNA ซึ่ง ถูก ใช้เ ป็น ตัว กำา หนดในการ
สัง เคราะห์โ ปรตีน อีก ทอดหนึง
่

DNA

RNA

protein
สิ่ง มีช ีว ิต ได้ร ับ การถ่า ยทอด DNA จาก
รุ่น พ่อ แม่
โมเลกุล ของ DNA เป็น สายยาวมีย น
ี
เป็น จำา นวนมากเป็น องค์ป ระกอบ
DNA อาจเกิด การเปลี่ย นแปลงได้
เนือ งจากสาเหตุต ่า งๆ เช่น ฤทธิข องสาร
่
์
เคมี หรือ รัง สีจ ากสารกัม มัน ตรัง สี
การเปลีย นลำา ดับ nucleotide ใน DNA
่
อาจมีผ ลให้ส ง มีช ว ิต มีล ัก ษณะ
ิ่
ี
เปลี่ย นแปลงไปจากเดิม ได้
2. สายของ nucleic acid ประกอบด้ว ย
polymer ของ nucleotides
แต่ล ะ nucleotide ประกอบด้ว ย 3
ส่ว น ได้แ ก่
Nitrogen base
Pentose sugar
Phosphate group
Nitrogen base แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม ตาม
โครงสร้า งทางเคมี ได้แ ก่

Pyrimidines

Purines
ใน DNA และ RNA มีเ บสอยู่ 4
ชนิด เท่า นั้น
DNA มีเ บส A, G, C, T
RNA มีเ บส A, G, C, U
นำ้า ตาล pentose
ใน RNA คือ ribose
ใน DNA คือ deoxyribose
ตรงตำา แหน่ง อะตอมคาร์บ อนที่ 5 (5’) ของ
นำ้า ตาล pentose มีห มู่ phosphate group มาต่อ
รวมเรีย ก pentose + nitrogen base +
phosphate group ว่า nucleotide
The components of nucleic acids
Nucleotide หลายโมเลกุล
มาเชือ มต่อ กัน ได้ส ายยาว
่
ของ polynucleotide ที่ม ห มู่
ี
phosphate และ pentose เรีย ง
ต่อ กัน เป็น สาย โดย nitrogen
base ยื่น ออกมาจากส่ว นยาว
ของ nucleic acid
Bond ที่ม าเชือ มต่อ ระหว่า ง
่
nucleotide 2 โมเลกุล เรีย กว่า
Phosphodiester linkage
ลำา ดับ ของ nitrogen base บนสาย DNA
หรือ mRNA มีล ัก ษณะเฉพาะตัว
ลำา ดับ ของ base ในยีน จะเป็น ตัว กำา หนด
ลำา ดับ ของ amino acid ของ polypeptide
ของโปรตีน
3. การถ่า ยทอดลัก ษณะทางกรรมพัน ธุ์
เกิด ขึ้น เนื่อ งจาก DNA มีก ารจำา ลอง
ตัว เอง
RNA ประกอบด้ว ยสาย polynucleotide
เพีย งสายเดีย ว
DNA ประกอบด้ว ยสาย polynucleotide 2
สายเรีย งต่อ ขนานกัน และมีโ ครงสร้า ง
เป็น เกลีย ว เรีย กว่า double helix
สายทั้ง สองของ DNA มี
การเรีย งตัว สลับ ปลายกัน
คือ ปลายด้า น 5’ ของ
DNA สายหนึง จะเข้า คูก ับ
่
่
ปลายด้า น 3’ ของอีก สาย
หนึง โดยยึด ติด กัน ด้ว ย
่
H-bond ระหว่า ง A กับ T
และ G กับ C (ดัง รูป )
ลัก ษณะการเข้า คูก ัน
่
ของ base เรีย กว่า
complementary
The DNA double helix and its replication

เมื่อ เซลล์จ ะมีก าร
แบ่ง ตัว DNA จะ
จำา ลองตัว เอง
และถ่า ยทอดต่อ
ไปให้เ ซลล์ใ หม่
การสร้า ง DNA
โมเลกุล ใหม่
เรีย กว่า DNA
replication
ปัจ จุบ น นัก วิท ยาศาสตร์พ ยายาม
ั
เปรีย บเทีย บลำา ดับ nucleotide ของยีน
ชนิด เดีย วกัน จากสิง มีช ีว ิต ต่า งๆ เพือ
่
่
ใช้ใ นการจำา แนกกลุ่ม ของสิ่ง มีช ีว ิต
และศึก ษาเรื่อ งวิว ัฒ นาการของสิง มี
่
ชีว ิต ชนิด ต่า งๆ
www.sc.chula.ac.th/courseware/bio-u2/pp

More Related Content

What's hot

ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมAomiko Wipaporn
 
โครงการนิเทศภายในโรงเรียน
โครงการนิเทศภายในโรงเรียนโครงการนิเทศภายในโรงเรียน
โครงการนิเทศภายในโรงเรียนMontira Butyothee
 
ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 krurutsamee
 
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละชายชรา ริมทะเลสาบ
 
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการsupaporn2516mw
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6teerachon
 
SAR ปีการศึกษา 2555
SAR ปีการศึกษา 2555SAR ปีการศึกษา 2555
SAR ปีการศึกษา 2555Teacher Sophonnawit
 
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียนแบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียนKansinee Kosirojhiran
 
การจัดหมู่
การจัดหมู่การจัดหมู่
การจัดหมู่supamit jandeewong
 
ข้อกำหนด กติกา และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...
ข้อกำหนด  กติกา  และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...ข้อกำหนด  กติกา  และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...
ข้อกำหนด กติกา และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...Totsaporn Inthanin
 
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องกริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องWann Rattiya
 
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมคำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมniralai
 
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56krupornpana55
 
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565MungMink2
 
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัขใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัขThanapol Pacharapha
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์kruthai40
 

What's hot (20)

ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
 
โครงการนิเทศภายในโรงเรียน
โครงการนิเทศภายในโรงเรียนโครงการนิเทศภายในโรงเรียน
โครงการนิเทศภายในโรงเรียน
 
ชุดที่ 1
ชุดที่ 1 ชุดที่ 1
ชุดที่ 1
 
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
 
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
 
การเทียบสระภาษาไทยอังกฤษ
การเทียบสระภาษาไทยอังกฤษการเทียบสระภาษาไทยอังกฤษ
การเทียบสระภาษาไทยอังกฤษ
 
SAR ปีการศึกษา 2555
SAR ปีการศึกษา 2555SAR ปีการศึกษา 2555
SAR ปีการศึกษา 2555
 
แผ่นพับIs...
แผ่นพับIs...แผ่นพับIs...
แผ่นพับIs...
 
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียนแบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
แบบระบายสีดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
การจัดหมู่
การจัดหมู่การจัดหมู่
การจัดหมู่
 
ข้อกำหนด กติกา และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...
ข้อกำหนด  กติกา  และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...ข้อกำหนด  กติกา  และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...
ข้อกำหนด กติกา และเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ สมาคม...
 
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
 
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่องกริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง
 
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมคำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
 
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
 
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565
ปฏิทินปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2565
 
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัขใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
ใบงานเรื่องเมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์
 

Similar to The structure and function of macromolecules

เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2
เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2
เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2kasidid20309
 
สารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลสารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลkruaoijaipcccr
 
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)kruaoijaipcccr
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
Protein
Protein Protein
Protein 34361
 
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transport
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์  cell transportชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์  cell transport
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transportkasidid20309
 
M.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวM.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวWeeraphon Parawach
 
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...kasidid20309
 
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t) ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)kasidid20309
 
Hr3 Lipid Fth 467 4
Hr3 Lipid Fth 467 4Hr3 Lipid Fth 467 4
Hr3 Lipid Fth 467 4off5230
 
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุลบทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุลoraneehussem
 
การสังเคราะห์ด้วยแสง
การสังเคราะห์ด้วยแสงการสังเคราะห์ด้วยแสง
การสังเคราะห์ด้วยแสงNokko Bio
 
Bio About Cell
   Bio About Cell    Bio About Cell
Bio About Cell prapassri
 
Energy of cell mutipoint
Energy of cell mutipointEnergy of cell mutipoint
Energy of cell mutipointsupreechafkk
 

Similar to The structure and function of macromolecules (20)

เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2
เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2
เรื่องสารเคมีภายในเซลล์ cytochemistry ตอนที่ 2
 
สารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุลสารชีวโมเลกุล
สารชีวโมเลกุล
 
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
สารชีวโมเลกุล(Biomolecule)
 
ชีวเคมี
ชีวเคมีชีวเคมี
ชีวเคมี
 
Chemical acr56
Chemical acr56Chemical acr56
Chemical acr56
 
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
 
Protein
Protein Protein
Protein
 
Protein
ProteinProtein
Protein
 
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transport
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์  cell transportชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์  cell transport
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transport
 
M.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวM.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติว
 
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...
เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular rispiration น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ...
 
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t) ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 
Hr3 Lipid Fth 467 4
Hr3 Lipid Fth 467 4Hr3 Lipid Fth 467 4
Hr3 Lipid Fth 467 4
 
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุลบทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 13 สารชีวโมเลกุล
 
การสังเคราะห์ด้วยแสง
การสังเคราะห์ด้วยแสงการสังเคราะห์ด้วยแสง
การสังเคราะห์ด้วยแสง
 
Bio About Cell
   Bio About Cell    Bio About Cell
Bio About Cell
 
ใบงานที่7.1
ใบงานที่7.1ใบงานที่7.1
ใบงานที่7.1
 
Energy of cell mutipoint
Energy of cell mutipointEnergy of cell mutipoint
Energy of cell mutipoint
 
สมร
สมรสมร
สมร
 
สมร
สมรสมร
สมร
 

More from Issara Mo

การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์Issara Mo
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์Issara Mo
 
natural resources 201114
natural resources 201114 natural resources 201114
natural resources 201114 Issara Mo
 
Responseของพืช
ResponseของพืชResponseของพืช
ResponseของพืชIssara Mo
 
ประชากร
ประชากรประชากร
ประชากรIssara Mo
 
Animal kingdom
Animal kingdomAnimal kingdom
Animal kingdomIssara Mo
 
Animal kingdom
Animal kingdomAnimal kingdom
Animal kingdomIssara Mo
 
Calvin cycle
Calvin cycleCalvin cycle
Calvin cycleIssara Mo
 
Kingdom protista by issara
Kingdom protista by issaraKingdom protista by issara
Kingdom protista by issaraIssara Mo
 
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงIssara Mo
 
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิตปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิตIssara Mo
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตIssara Mo
 
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิตหลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิตIssara Mo
 
Modern bio ii bact,fung,prot
Modern bio ii   bact,fung,protModern bio ii   bact,fung,prot
Modern bio ii bact,fung,protIssara Mo
 
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์Issara Mo
 
โครงสร้างของใบ
โครงสร้างของใบโครงสร้างของใบ
โครงสร้างของใบIssara Mo
 
รากและลำต้น
รากและลำต้นรากและลำต้น
รากและลำต้นIssara Mo
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตIssara Mo
 
การศึกษาเซลล์
การศึกษาเซลล์การศึกษาเซลล์
การศึกษาเซลล์Issara Mo
 

More from Issara Mo (20)

การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์การหายใจระดับเซลล์
การหายใจระดับเซลล์
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
natural resources 201114
natural resources 201114 natural resources 201114
natural resources 201114
 
Responseของพืช
ResponseของพืชResponseของพืช
Responseของพืช
 
ประชากร
ประชากรประชากร
ประชากร
 
Immune2551
Immune2551Immune2551
Immune2551
 
Animal kingdom
Animal kingdomAnimal kingdom
Animal kingdom
 
Animal kingdom
Animal kingdomAnimal kingdom
Animal kingdom
 
Calvin cycle
Calvin cycleCalvin cycle
Calvin cycle
 
Kingdom protista by issara
Kingdom protista by issaraKingdom protista by issara
Kingdom protista by issara
 
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
 
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิตปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิตหลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
หลักการทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
 
Modern bio ii bact,fung,prot
Modern bio ii   bact,fung,protModern bio ii   bact,fung,prot
Modern bio ii bact,fung,prot
 
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์
การเคลื่อนที่ของสารผ่านเซลล์
 
โครงสร้างของใบ
โครงสร้างของใบโครงสร้างของใบ
โครงสร้างของใบ
 
รากและลำต้น
รากและลำต้นรากและลำต้น
รากและลำต้น
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
 
การศึกษาเซลล์
การศึกษาเซลล์การศึกษาเซลล์
การศึกษาเซลล์
 

The structure and function of macromolecules

  • 1. The structure and function of macromolecules
  • 2. สารประกอบขนาดใหญ่ (macromolecules) ในสิ่ง มีช ว ิต จัด เป็น 4 ี กลุ่ม ตามลัก ษณะโครงสร้า งของโมเลกุล ได้แ ก่ Carbohydrate ประกอบด้ว ยธาตุ H, O C, Protein “ C, H, O, N Lipid “ C, H, O Nucleic acid “ C, H, O, N, P
  • 3. Building models to study the structure of macromolecules Linus Pauling (1901-1994) Today, scientists use computer
  • 4. ปฏิก ิร ิย าเคมีข อง macromolecules ได้แ ก่ Condensation เป็น ปฏิก ิร ิย า สัง เคราะห์ macromolecules จาก monomers เล็ก ๆเป็น จำา นวนมาก และได้ผ ลผลิต H2O ด้ว ย ดัง นั้น อาจ เรีย กว่า ปฏิก ิร ิย า dehydration Hydrolysis เป็น ปฏิก ิร ิย าย่อ ย สลาย macromolecules ให้เ ล็ก ลง เพือ ให้ส ามารถนำา ผ่า นเยือ หุ้ม เซลล์ ่ ่
  • 5. The synthesis of a polymer
  • 6. The Breakdown of a polymer
  • 7. Carbohydrates Carbohydrates เป็น สารประกอบ จำา พวก นำ้า ตาล และ polymer ของนำ้า ตาล แบ่ง กลุ่ม carbohydrates ได้เ ป็น 3 กลุ่ม ตามจำา นวนโมเลกุล ของนำ้า ตาล ที่เ ป็น องค์ป ระกอบ ได้แ ก่ Monosaccharide Disaccharide
  • 8. Monosaccharide เป็น นำ้า ตาล โมเลกุล เดี่ย ว ที่ป ระกอบด้ว ย C, O และ H มีส ูต รคือ (CH2O)n โดยมีอ ะตอมของ C ต่อ กัน เป็น สาย และมี Carbonyl group และ hydroxy group ต่อ กับ อะตอมของ C Carbonyl group aldehydes ketones
  • 9. The structure and classification of some monosaccharides
  • 10. Linear and ring forms of glucose
  • 11. นำ้า ตาลโมเลกุล คู่ (Disaccharides) เกิด จากการรวมตัว ของนำ้า ตาล โมเลกุล เดีย ว 2 โมเลกุล โดยปฏิก ิร ิย า ่ condensation Covalent bond ที่เ กิด ขึ้น เรีย กว่า Glycosidic linkage
  • 13. Polysaccharide เป็น carbohydrate ที่ มีข นาดใหญ่ม าก ประกอบด้ว ย monosaccharides จำา นวนมากต่อ กัน ด้ว ย glycosidic linkage ชนิด ของ polysaccharide ขึ้น อยูก ับ ่ 1. ชนิด ของ monosaccharide 2. ชนิด ของ Glycosidic linkage ตัว อย่า ง polysaccharide ได้แ ก่ starch, glycogen, cellulose และ chitin
  • 15. Starch: 1-4 linkage of α glucose monomers Cellulose: 1-4 linkage of β glucose monomers
  • 16. Cellulose มี glucose เป็น องค์ ประกอบเช่น เดีย วกับ แป้ง แต่ม ีพ ัน ธะ แบบ 1-4 glycosidic linkage ผนัง เซลล์ ของพืช ประกอบด้ว ย cellulose เป็น จำา นวนมาก
  • 17. The arrangement of cellulose in plant cell walls
  • 18. Chitin, a structural polysaccharide Chitin forms the exoskeleton of Arthropods Chitin is used to make a strong and flexible surgical thread
  • 19. Chitin มีโ ครงสร้า งคล้า ยกับ Cellulose ต่า งกัน ที่ว ่า หน่ว ยย่อ ยเป็น Nacetylglucosamine ต่อ กัน เป็น โมเลกุล สายยาว
  • 20. หน้า ที่ข อง carbohydrate Sugars : ทำา หน้า ที่ใ ห้พ ลัง งานและเป็น แหล่ง คาร์บ อนแก่ส ง มีช ว ิต ิ่ ี ribose และ deoxyribose เป็น องค์ ประกอบของ nucleic acid Polysaccharide : เป็น แหล่ง สะสมพลัง งานของสิง มีช ว ิต ่ ี โดยพืช เก็บ สะสมพลัง งานในรูป ของ starch ส่ว นสัต ว์เ ก็บ สะสมพลัง งานในรูป ของ glycogen
  • 22. Lipids เป็น สารที่ไ ม่เ ป็น polymer Lipids ไม่ล ะลายนำ้า เนือ งจากโครงสร้า ง ่ ของ lipids ประกอบด้ว ย nonpolar covalent bonds เป็น ส่ว นมาก Lipids ได้แ ก่ ไขมัน (Fat) Phospholipid Steroid ขี้ผ ง (Wax) ึ้
  • 23. Fats : เป็น แหล่ง สะสมพลัง งาน Fats ถึง แม้จ ะไม่เ ป็น polymer แต่เ ป็น สาร ที่ม โ มเลกุล ขนาดใหญ่ ประกอบด้ว ยสารที่ ี มีโ มเลกุล ขนาดเล็ก กว่า มาต่อ กัน ด้ว ย ปฏิก ิร ิย า Dehydration Fats ประกอบด้ว ย Glycerol และ กรดไข มัน (Fatty acid)
  • 24. ส่ว น “tail” ของ fatty acid ที่เ ป็น hydrocarbon ที่ม ก มีอ ะตอมคาร์บ อนต่อ กัน ั ประมาณ 16-18 อะตอม เป็น ส่ว นที่ท ำา ให้ fats ไม่ล ะลายนำ้า (hydrophobic)
  • 25. Triglycerol ไขมัน 1 โมเลกุล ประกอบด้ว ย Glycerol 1 โมเลกุล และ กรดไขมัน 3 โมเลกุล
  • 26. กรดไขมัน แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แ ก่ ตัว ) Saturated fatty acid (กรดไขมัน ชนิด อิม ่ Unsaturated fatty acid (กรดไขมัน ชนิด ไม่อ ิ่ม ตัว ) ไขมัน ที่ไ ด้จ ากสัต ว์ เช่น เนย มี saturated fatty acid เป็น องค์ป ระกอบ มีล ัก ษณะเป็น ของแข็ง ที่อ ณ หภูม ิห ้อ ง ุ ไขมัน จากพืช มี unsaturated fatty acid เป็น องค์ป ระกอบ มีล ัก ษณะเป็น ของเหลวที่
  • 27. Saturated fat and fatty acid Unsaturated fat and fatty acid
  • 28. Phospholipids เป็น องค์ป ระกอบหลัก ของ cell membrane ประกอบด้ว ย glycerol 1 โมเลกุล fatty acid 2 โมเลกุล และ phosphate group (phosphate group มีป ระจุ -) มีส ว นหัว ที่ม ีป ระจุ และเป็น ส่ว นที่ ่ ชอบนำ้า (hydrophilic) และส่ว นหางที่ ไม่ช อบนำ้า (hydrophobic)
  • 29. The structure of phospholipid
  • 30. Phospolipid in aqueous environments เมื่อ เติม phospholipids ลงในนำ้า phospholipids จะรวมตัว กัน โดยเอา ส่ว นหางเข้า หากัน และส่ว นหัว หัน ออก ทางด้า นนอก กลายเป็น หยดเล็ก ๆ เรีย กว่า micelle Micelle
  • 31. ที่ cell membrane ของสิง มีช ีว ิต ่ Phospholipids จะเรีย งตัว เป็น 2 ชัน ้ โดย hydrophilic head จะหัน ออก ทางด้า นนอกเข้า หากัน ส่ว น hydrophobic tail อยูต รงกลาง ่ Phospholipid bilayer
  • 32. Steroids เป็น lipids ประกอบด้ว ย คาร์บ อน เรีย งตัว เป็น วงแหวน 4 วง Steroids ชนิด ต่า งๆ มีห มู่ functional group ที่ต ่อ กับ วงแหวนแตกต่า งกัน Cholesterol เป็น steroid ที่เ ป็น องค์ ประกอบของ cell membrane
  • 33. Cholesterol, a steroid Cholesterol ยัง เป็น precusor สำา หรับ การสัง เคราะห์ steroid อื่น ๆ หลายชนิด เช่น hormones
  • 34. Protein เป็น polypeptide ของ amino acid ที่ต ่อ กัน เป็น ลำา ดับ เฉพาะตัว สำา หรับ โปรตีน แต่ล ะชนิด โปรตีน สามารถทำา งานได้ ต้อ งมีร ูป ร่า ง (conformation) ที่เ ป็น ลัก ษณะ เฉพาะตัว มนุษ ย์ม ีโ ปรตีน มากกว่า 10,000 ชนิด แต่ล ะชนิด มีโ ครงสร้า งและหน้า ที่แ ตก
  • 35. Amino acid เป็น สารอิน ทรีย ท ม ห มู่ carboxyl ์ ี่ ี และหมู่ amino ต่อ กับ อะตอมคาร์บ อนทีเ ป็น ศูน ย์ก ลาง ่ อะตอมทีเ ป็น ศูน ย์ก ลางยัง ต่อ กับ อะตอม hydrogen ่ และหมู่ R group 1 หมูท แ ตกต่า งกัน ่ ี่ H H N H Amino group C R O C OH Carboxyl group
  • 36. Amino acid แบ่ง ออกเป็น กลุ่ม ตาม คุณ สมบัต ิข อง R group R group ที่แ ตกต่า งกัน นี้ ทำา ให้เ กิด amino acid แตกต่า งกัน 20 ชนิด แต่ล ะชนิด มีค ุณ สมบัต ิท างเคมีแ ละ ชีว วิท ยาแตกต่า งกัน
  • 37. Amino acid กลุม Nonpolar ่
  • 40. Making a polypeptide chain Amino acid ต่อ กัน เป็น สายยาวด้ว ย covalent bond เรีย กว่า peptide bond
  • 41. ปลายที่ม ีห มู่ amino เรีย กว่า Nterminus ปลายที่ม ีห มู่ carboxyl เรีย กว่า Cterminus
  • 42. สาย polypeptide ประกอบด้ว ย amino acid ทั้ง 20 ชนิด เรีย งต่อ กัน เป็น อิส ระ สาย polypeptide จึง สามารถมีร ูป แบบที่ไ ม่เ หมือ นกัน นับ หมืน ชนิด ได้ ่
  • 43. โปรตีน สามารถทำา งานได้ต ้อ งมีร ูป ร่า ง (conformation) ที่เ ป็น ลัก ษณะ เฉพาะตัว โปรตีน ที่ท ำา งานได้ป ระกอบด้ว ย polypeptide 1 สายหรือ มากกว่า ซึ่ง ม้ว น พับ ไปมาตามแรงยึด เหนี่ย วระหว่า ง side chain ของ amino acid รูป ร่า งของโปรตีน จึง ขึ้น อยูก ับ ลำา ดับ ่ ของ amino acid ที่เ รีย งกัน อยู่
  • 44. A protein’s function depends on its specific conformation Ribbon model Space filling model
  • 45. โครงสร้า งของโปรตีน ถูก แบ่ง ออก เป็น Primary structure Secondary structure Tertiary structure Quaternary structure สำา หรับ โปรตีน ที่ประกอบด้ว ย polypeptide มากกว่า 1 สาย
  • 46. The primary structure of a protein Primary structure คือ ลำา ดับ ของ amino acid ที่ป ระกอบขึ้น เป็น โปรตีน Primary structure ถูก กำา หนดโดยข้อ มูล ทาง พัน ธุก รรม (DNA)
  • 47. การเปลี่ย นแปลงลำา ดับ amino acid ในโปรตีน อาจมีผ ลให้ร ูป ร่า ง ของโปรตีน เปลี่ย นไป และอาจมีผ ล ต่อ การทำา งานของโปรตีน ชนิด นั้น ๆ ตัว อย่า งเช่น โรค sickle-cell anemia
  • 48. A single amino acid substitution in a protein causes sickle-cell disease
  • 49. The secondary structure of a protein Secondary structure เป็น โครงสร้า งทีเ กิด ขึ้น จาก H่ bond ระหว่า งหมู่ carboxylและหมู่ amino Secondary structure ทีพ บ ่ บ่อ ยในธรรมชาติ ได้แ ก่ Helix และ  Pleated sheet
  • 50. ตัว อย่า งเช่น เส้น ใยแมงมุม มี โครงสร้า งแบบ  Pleated sheet ทำา ให้ เส้นSpider silk: a structural protein ใยแมงมุม มีค วามแข็ง แรงมาก
  • 52. Tertiary structure เป็น รูป ร่า งของ polypeptide สายหนึ่ง ตลอดสาย ซึ่ง การม้ว น พบไปมาขึ้น อยู่ก ับ แรงยึด เหนีย วระหว่า ง R ่ group ด้ว ยกัน เอง หรือ R group กับ โครงสร้า ง หลัก แรงยึด เหนี่ย วหมายถึง H-bond ionic bond Hydrophobic interaction Van der Waals interaction นอกจากนีบ างตอนยึด ติด กัน ด้ว ย ้ covalent bond ทีแ ข็ง แรง เรีย กว่า disulfide ่
  • 53. The Quaternary structure of proteins เป็น โครงสร้า งของโปรตีน ที่ป ระกอบ ด้ว ย polypeptide มากกว่า 1 สายเท่า นัน เกิด ้ จาก tertiary structure ของ polypeptide แต่ล ะสายมารวมกัน ตัว อย่า งเช่น : Polypeptide Collagen เป็น fibrous chain protein ประกอบด้ว ย polypeptide 3 สายพัน กัน อยู่ ซึ่ง ทำา ให้โ ปรตีน ชนิด นีม ีค วามแข็ง แรง ้ และพบใน connective tissue
  • 54. Hemoglobin ประกอบด้ว ย polypeptide 4 สายรวมกัน กลายเป็น โปรตีน ที่ม ีร ูป ร่า งเป็น ก้อ น
  • 55. The four levels of protein structure
  • 57. รูป ร่า งของโปรตีน บางชนิด สามารถ เปลี่ย นแปลงได้ ถ้า สภาพแวดล้อ มของ โปรตีน เปลี่ย นไป เช่น pH อุณ หภูม ิ ตัว ทำา ลาย เป็น ต้น เนื่อ งจากแรงยึด เหนีย ว ่ ต่า งๆระหว่า ง amino acid ในสาย polypeptide ถูก ทำา ลาย การเปลี่ย นแปลงนีเ รีย กว่า ้ Denaturation โปรตีน บางชนิด เมื่อ เกิด denaturation แล้ว ยัง สามารถกลับ คืน สูส ภาพเดิม ได้ เรีย กว่า ่ Renaturation
  • 58. A chaperonin in action
  • 60. หน้า ที่ข องโปรตีน เป็น โครงสร้า งเยื่อ หุ้ม เซลล์แ ละเยื่อ หุ้ม oganelles เป็น โครงสร้า งสำา คัญ ของสิง มีช ว ิต เช่น ่ ี keratin เป็น องค์ป ระกอบของ เล็บ ผม เป็น ต้น Haemoglobin ทำา หน้า ที่ข นส่ง ออกซิเ จน Hormones ต่า งๆ ทำา หน้า ที่ค วบคุม การ ทำา งานของร่า งกาย Acin และ myosin ในกล้า มเนื้อ ทำา หน้า ที่ เกี่ย วกับ การเคลื่อ นไหว Enzymes ทำา หน้า ที่เ ป็น ตัว เร่ง ปฏิก ิร ิย าเคมี
  • 62. 1. Nucleic acid เป็น แหล่ง เก็บ ข้อ มูล ทางพัน ธุก รรมและ ถ่า ยทอดลัก ษณะของสิ่ง มีช ีว ิต Nucleic acid มี 2 ชนิด ได้แ ก่ Ribonucleic acid (RNA) Deoxyribonucleic acid (DNA)
  • 63. DNA ถูก ใช้เ ป็น แม่แ บบในการสัง เคราะห์ mRNA ซึ่ง ถูก ใช้เ ป็น ตัว กำา หนดในการ สัง เคราะห์โ ปรตีน อีก ทอดหนึง ่ DNA RNA protein
  • 64. สิ่ง มีช ีว ิต ได้ร ับ การถ่า ยทอด DNA จาก รุ่น พ่อ แม่ โมเลกุล ของ DNA เป็น สายยาวมีย น ี เป็น จำา นวนมากเป็น องค์ป ระกอบ DNA อาจเกิด การเปลี่ย นแปลงได้ เนือ งจากสาเหตุต ่า งๆ เช่น ฤทธิข องสาร ่ ์ เคมี หรือ รัง สีจ ากสารกัม มัน ตรัง สี การเปลีย นลำา ดับ nucleotide ใน DNA ่ อาจมีผ ลให้ส ง มีช ว ิต มีล ัก ษณะ ิ่ ี เปลี่ย นแปลงไปจากเดิม ได้
  • 65. 2. สายของ nucleic acid ประกอบด้ว ย polymer ของ nucleotides แต่ล ะ nucleotide ประกอบด้ว ย 3 ส่ว น ได้แ ก่ Nitrogen base Pentose sugar Phosphate group
  • 66. Nitrogen base แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม ตาม โครงสร้า งทางเคมี ได้แ ก่ Pyrimidines Purines
  • 67. ใน DNA และ RNA มีเ บสอยู่ 4 ชนิด เท่า นั้น DNA มีเ บส A, G, C, T RNA มีเ บส A, G, C, U
  • 68. นำ้า ตาล pentose ใน RNA คือ ribose ใน DNA คือ deoxyribose
  • 69. ตรงตำา แหน่ง อะตอมคาร์บ อนที่ 5 (5’) ของ นำ้า ตาล pentose มีห มู่ phosphate group มาต่อ รวมเรีย ก pentose + nitrogen base + phosphate group ว่า nucleotide
  • 70. The components of nucleic acids
  • 71. Nucleotide หลายโมเลกุล มาเชือ มต่อ กัน ได้ส ายยาว ่ ของ polynucleotide ที่ม ห มู่ ี phosphate และ pentose เรีย ง ต่อ กัน เป็น สาย โดย nitrogen base ยื่น ออกมาจากส่ว นยาว ของ nucleic acid Bond ที่ม าเชือ มต่อ ระหว่า ง ่ nucleotide 2 โมเลกุล เรีย กว่า Phosphodiester linkage
  • 72. ลำา ดับ ของ nitrogen base บนสาย DNA หรือ mRNA มีล ัก ษณะเฉพาะตัว ลำา ดับ ของ base ในยีน จะเป็น ตัว กำา หนด ลำา ดับ ของ amino acid ของ polypeptide ของโปรตีน
  • 73. 3. การถ่า ยทอดลัก ษณะทางกรรมพัน ธุ์ เกิด ขึ้น เนื่อ งจาก DNA มีก ารจำา ลอง ตัว เอง RNA ประกอบด้ว ยสาย polynucleotide เพีย งสายเดีย ว DNA ประกอบด้ว ยสาย polynucleotide 2 สายเรีย งต่อ ขนานกัน และมีโ ครงสร้า ง เป็น เกลีย ว เรีย กว่า double helix
  • 74. สายทั้ง สองของ DNA มี การเรีย งตัว สลับ ปลายกัน คือ ปลายด้า น 5’ ของ DNA สายหนึง จะเข้า คูก ับ ่ ่ ปลายด้า น 3’ ของอีก สาย หนึง โดยยึด ติด กัน ด้ว ย ่ H-bond ระหว่า ง A กับ T และ G กับ C (ดัง รูป ) ลัก ษณะการเข้า คูก ัน ่ ของ base เรีย กว่า complementary
  • 75. The DNA double helix and its replication เมื่อ เซลล์จ ะมีก าร แบ่ง ตัว DNA จะ จำา ลองตัว เอง และถ่า ยทอดต่อ ไปให้เ ซลล์ใ หม่ การสร้า ง DNA โมเลกุล ใหม่ เรีย กว่า DNA replication
  • 76. ปัจ จุบ น นัก วิท ยาศาสตร์พ ยายาม ั เปรีย บเทีย บลำา ดับ nucleotide ของยีน ชนิด เดีย วกัน จากสิง มีช ีว ิต ต่า งๆ เพือ ่ ่ ใช้ใ นการจำา แนกกลุ่ม ของสิ่ง มีช ีว ิต และศึก ษาเรื่อ งวิว ัฒ นาการของสิง มี ่ ชีว ิต ชนิด ต่า งๆ