จิบลิ
- 3. 3
ประเภทโครงงาน โครงงานที่เป็นการสารวจ รวบรวมข้อมูล
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย ฐิติกรณ์ มูลลิ
ชื่อที่ปรึกษา อ. เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 สัปดาห์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล
ของการทาโครงงาน)
สตูดิโอจิบลิได้ก่อตั้งใน ค.ศ. 1985 โดยผู้กากับอย่างฮะยะโอะ มิยะซะกิ
ร่วมกับผู้เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและพี่เลี้ยงอย่าง อิซะโอะ ทะกะฮะตะ และ
ผู้จัดการฝ่ายบริหารและผู้อานวยการสร้างที่มีผลงานมายาวนานอย่าง โทชิ
โอะ ซูซึกิ จุดเริ่มต้นทั้งหมดต้องย้อนไปปี ค.ศ. 1984 ภาพยนตร์เรื่อง
Nausicaä of the Valley of the Wind ซึ่งได้รับความนิยมจากมังงะที่ตีพิมพ์
ต่อเนื่องในนิตยสารอะนิเมจ (Animage) ของ โทคุมะ โชเท็น หลังจากบท
ดั้งเดิมถูกปฏิเสธ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการอานวยการสร้างโดย ท็อป
คราฟต์ (Topcraft) และความสาเร็จของภาพยนตร์กระตุ้นให้เกิดการรวมตัว
ของกลุ่มจิบลิ โทคุมะเป็นบริษัทแม่ของสตูดิโอจิบลิ และให้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์
กับ ดิสนีย์ ในการจัดจาหน่ายทั่วโลกถึง 8 เรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
Princess Mononoke หรือ Spirited Away ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของมิยะ
ซะกิ Howl's Moving Castle นาเค้าโครงเรื่องมาจากหนังสือของนักเขียน
ชาวอังกฤษ ชื่อ Diana Wynne Jones ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในหลายๆ
ประเทศ รวมทั้ง แคนาดา และสหรัฐอเมริกา นักประพันธ์เพลงอย่าง โจ ฮิไซ
ชิ จะเป็นผู้แต่งเพลงประกอบให้กับภาพยนตร์ในสตูดิโอจิบลิของมิยะซะกิทุก
เรื่อง
ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการชื่นชมมากที่สุดของสตูดิโอ ไม่ได้กากับ
โดยมิยะซะกิ คือ สุสานหิ่งห้อย แต่กากับโดย อิซะโอะ ทะคะฮะตะ ภาพยนตร์
โศกนาฏกรรมของสองชีวิตกาพร้าในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองในญี่ปุ่น
จิบลิมักเป็นที่รู้จักดีในนโยบาย "no-edits" ในสัญญาอนุญาตฉายภาพยนตร์
ของพวกเขาในต่างประเทศ ต้นตอก็มาจากการอัดเสียงเพิ่มเติมอย่างเสียๆ
หายๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Nausicaä of the Valley of Wind ของมิยะซะกิ
- 4. 4
เมื่อครั้งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา (ถูกตัดต่อและใส่
ความเป็นอเมริกันเข้าไป) ดังนั้น สัญญาการให้ลิขสิทธิ์ของ Princess
Mononoke มิยะซะกิจะขีดเส้นใต้นโยบาย "no-editing" ไปในเอกสารทุก
ฉบับ
ข้อมูลจาก https://sites.google.com/site/it5620117110/home/phl-
ngan-cak-stu-di-xo-cib-li
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1 ทาเพื่อสรุปประวัติความเป็นมาของสตูดิโอจิบลิ ให้ผู้อื่นเข้าใจ
2 การ์ตูนของ จิบลิ เป็นศิลปะที่สวยงานฉันจึงอยากเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้เห็น
3 ทาเพื่อศึกษาขอมูลของสตูดิโอจิบลิเพิ่มเติม
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทา
โครงงาน)
ลักษณะของโครงงานเป็น โครงงานที่อยากเผยแพร่ ความสวยงานความ
สนุก ความเป็นมาของการ์ตูนจิบลิ ว่ากว่าจะมาเป็นการ์ตูนที่เราดูอย่าทุกวันนี้
ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ผู้สร้างเป็นใคร ประวัติผู้สร้างเป็นใคร ฉันเจาะลึกหา
รายระเอียดเกือบทุกๆอย่างของ สตูดิโอจิบลิ หลายๆคนอาจมองว่าเป็นแค่
การ์ตูนธรรมดา แต่การ์ตูนของจิบลิ มันมีทั้งคาสอน เป็นทั้งงานศิลปะที่
สวยงาม
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทา
โครงงาน)
หลักการและทฤษฎีของโครงงาน ฉันค้นหาข้อมูลทุกๆอย่างทั้งประวัติของ
สตูดิโอ ประวัติของคนก่อตั้ง ประวัติของการ์ตูนแต่ละเรื่อง เช่น
สตูดิโอจิบลิได้ก่อตั้งใน ค.ศ. 1985 โดยผู้กากับฮะยะโอะ มิยะซะกิ ร่วมกับ
เพื่อนร่วมงานอย่างอิซะโอะ ทะกะฮะตะ และผู้จัดการฝ่ายบริหารและ
ผู้อานวยการสร้างที่มีผลงานมายาวนานอย่างโทชิโอะ ซูซึกิ จุดเริ่มต้น
ทั้งหมดต้องย้อนไปปี ค.ศ. 1983 ภาพยนตร์เรื่อง Nausicaä of the Valley
- 5. 5
of the Wind ซึ่งได้รับความนิยมจากมังงะที่ตีพิมพ์ต่อเนื่องในนิตยสารอะ
นิเมจของโทคุมะ โชเท็น หลังจากบทดั้งเดิมถูกปฏิเสธ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการอานวยการสร้างโดย ท็อปคราฟต์ และ
ความสาเร็จของภาพยนตร์กระตุ้นให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มจิบลิ โทคุมะเป็น
บริษัทแม่ของสตูดิโอจิบลิ และให้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์กับดิสนีย์ ในการจัด
จาหน่ายทั่วโลกถึง 8 เรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Princess Mononoke หรือ
Spirited Away
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของมิยะซะกิ Howl's Moving Castle นาเค้าโครงเรื่อง
มาจากหนังสือของนักเขียนชาวอังกฤษชื่อ Diana Wynne Jones ซึ่งได้รับ
การตีพิมพ์ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้ง แคนาดา และสหรัฐอเมริกา นัก
ประพันธ์เพลงอย่างโจ ฮิไซชิ จะเป็นผู้แต่งเพลงประกอบให้กับภาพยนตร์ใน
สตูดิโอจิบลิของมิยะซะกิทุกๆ เรื่อง
ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการชื่นชมมากที่สุดของสตูดิโอ ไม่ได้กากับ
โดยมิยะซะกิคือ สุสานหิ่งห้อย แต่กากับโดยอิซะโอะ ทะคะฮะตะ ภาพยนตร์
โศกนาฏกรรมของสองชีวิตกาพร้าในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองในญี่ปุ่น
หลายปีที่ผ่านมา มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างสตูดิโอจิบลิและนิตยสารอนิ
เมจ ดังจะได้พบได้จากบทความในเซ็คชั่นที่ชื่อ "Ghibli Notes"
อาร์ตเวิร์กจากภาพยนตร์ต่างๆ และงานอื่นๆ ของจิบลิมักจะได้ลงเป็นภาพปก
ของนิตยสารอยู่เสมอๆ
จิบลิมักเป็นที่รู้จักดีในนโยบาย "no-edits" ในสัญญาอนุญาตฉายภาพยนตร์
ของพวกเขาในต่างประเทศ ต้นตอก็มาจากการอัดเสียงเพิ่มเติมอย่างเสียๆ
หายๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Nausicaä of the Valley of Wind ของมิยะซะกิ
เมื่อครั้งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา (ถูกตัดต่อและใส่
ความเป็นอเมริกันเข้าไป) ดังนั้น สัญญาการให้ลิขสิทธิ์ของ Princess
Mononoke มิยะซะกิจะขีดเส้นใต้นโยบาย "no-editing" ไปในเอกสารทุก
ฉบับ
ขอมูลจาก https://sites.google.com/site/it5620117110/home/phl-
ngan-cak-stu-di-xo-cib-li