More Related Content
PDF
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน PDF
แนวทางการดูแลรักษากลุ่มอาการสูงอายุ PPTX
Slide อจ.นพ.วินัย ลีสมิทธิ์ PDF
DOC
PDF
PDF
" Loadแนวข้อสอบ ผู้ดูแลเด็ก เทศบาลตำบลบางปู PPTX
What's hot
PPT
PPTX
PPT
PDF
อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยสูงอายุ PPSX
PDF
แบบฝึกเสริมทักษะ ความน่าจะเป็น DOCX
กลยุทธ์บริหารการเงินการคลังโรงพยาบาลEdit PDF
PDF
PPTX
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก PDF
pathophysiology of lower gastrointestinal for nursing students PDF
DOC
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ PDF
PDF
กิจกรรมสะเต็มศึกษา (สสวท.) PDF
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058 PDF
PDF
PPTX
แผ่นสไลด์ - ความหมายและความสำคัญของอาหารและโภชนาการ PDF
Similar to การดูแลสุขภาพ
PPT
Khim past-present-future fr blog PPT
PPT
Power point งานสุขศึกษา 2 PPT
Power point งานสุขศึกษา 2 PPT
PPT
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PPS
PPT
PPT
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
More from Surapee Sookpong
การดูแลสุขภาพ
- 1.
การดูแลสุขภาพ<br /> ก่อนอื่นมาทำการรู้จักกับโภชขบัญญัติ 9 ประการ และสุขบัญญัติแห่งชาติ 10ประการ กันก่อน<br />โภชนบัญญัติ 9 ประการ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยข้อปฎิบัติการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยหรือ โภชนบัญญัติ 9 ประการ เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมการกินของคนไทยให้ถูกต้องเพื่อการมีภาวะโภชนาการและสุขภาพอนามัยที่ดี ดังต่อไปนี้ 1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว 2. กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ 3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม่เป็นประจำ 4. กินปลา กินเนื้อไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ 5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย 6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร 7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัด 8. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน 9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว ในอาหารแต่ละชนิดจะประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่มากน้อยต่างกัน ไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่จะมีสารอาหารต่างๆ ครบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกินอาหารหลายๆชนิดหรือให้ครบทั้ง 5 หมู่ และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลายเพื่อให้ได้สารอาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ \"
น้ำหนักตัว\"
เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภาวะสุขภาพของร่างกาย จึงควรชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้งและนำมาประเมินดูว่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่โดยใช้ดัชนีมวลกายเป็นเกณฑ์ ดังนี้ดัชนีมวลกาย= น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)/ส่วนสูง2 (เมตร)ค่าปกติอยู่ระหว่าง 18.5-14.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร2. กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยที่ให้พลังงานและสารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ ควรกินเป็นประจำและอาจจะสลับกับอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน บะหมี่ เผือก มัน ก็ได้3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ พืชผักและผลไม้ นอกจากจะให้วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ซึ่งช่วยให้การขับถ่ายดีแล้วยังมีสารแคโรทีนและวิตามินซี ซึ่งป้องกันการเกิดมะเร็งบางประเภทได้4. กินปลา กินเนื้อไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ปลา เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่ดี ย่อยง่ายมีไขมันต่ำ หากกินปลาเป็นประจำจะช่วยลดไขมันในเลือดและในปลาทะเลทุกชนิดมีสารไอโอดีนที่ช่วยป้องกันการเป็นคอพอก รวมทั้งหากกินปลาเล็กปลาน้อยจะได้แคลเซียม ซึ่งทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง เนื้อสัตว์ทุกชนิดมีโปรตีน แต่ควรกินชนิดไม่ติดมันเพื่อลดการสะสมไขมันในร่างกายและโลหิต ไข่ เป็นอาหารโปรตีนราคาถูก มีแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นเด็กกินได้ทุกวัน แต่ผู้ใหญ่ควรกินไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง ถั่วเมล็ดแห้ง และผลิตภัณฑ์ เป็นโปรตีนที่ดี ราคาถูกควรกินสลับกับเนื้อสัตว์เป็นประจำ5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย นม เป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่มีโปรตีน วิตามินบี2 และแคลเซียม ซึ่งช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ควรดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว แต่สำหรับคนอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนยแทน6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร ไขมัน ให้พลังงานและความอบอุ่นกับร่างกาย ทั้งช่วยดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี เค แต่ไม่ควรกินมากเกินไปจะทำให้อ้วน และเกิดโรคอื่นๆตามมา จึงควรกินแต่พอควร แต่ไม่ควรงดอย่างเด็ดขาด การประกอบอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง อบ จะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารได้7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัด การกินอาหารรสจัดมากจนเป็นนิสัยจะเกิดโทษต่อร่างกายอาหารรสหวานจัดทำให้ได้รับพลังงานเพิ่มทำให้อ้วน รสเค็มจัดเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยกินผัก ผลไม้ และชอบกินอาหารรสเค็มจัด จะมีโอากาสเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารด้วย8. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน อาหารปนเปื้อนจะเกิดจากเชื้อโรค พยาธิต่างๆ สารเคมีที่เป็นพิษหรือโลหะหนักที่เป็นอันตราย จะเป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษ และเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงควรเลือกกินอาหารที่สด สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ มีการปกปิดป้องกันแมลงวัน หรือบรรจุในภาชนะที่สะอาด และที่สำคัญคือ ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารทุกครั้ง9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำเป็นโทษต่อร่างกายทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็ง แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ มะเร็จหลอดอาหาร และโรคความดันโลหิตสูงการจะมีโภชนาการดี สุขภาพดี และคุณภาพชีวิตดี ต้องคำนึงถึงหลักใหญ่ดังนี้1. กินอาหารและปฎิบัติตามโภชนบัญญัติ 9 ประการ2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ3. ผ่อนคลายจิตใจ4. หลีกเลี่ยงสิ่งซึ่งเป็นพิษภัย เช่น บุหรี่ เหล้า และสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ<br />1. ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด2. รักษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง3. ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังขับถ่าย4. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตรายและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด5. งดบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนันและการสำส่อนทางเพศ6. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น7. ป้องกันอุบัติเหตุด้วยการไม่ประมาท8. ออกกำลังกายสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี9. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ10. มีสำนึกต่อส่วนรวมร่วมสร้างสังคม<br />การเจริญเติบโตและพัฒนาการของตนเอง<br /> <br /> เมื่อผู้เรียนทราบเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโต แล้ว ลองนำมาเปรียบเทียบ กับอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของตนเองว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตหรือไม่ ถ้าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หรือสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถือว่าเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามีน้ำหนักและส่วนสูงต่ำกว่า ค่าต่ำสุดของเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ก็ควรมีการปรับปรุงพัฒนาตนเองให้มีน้ำหนักและส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์อายุของคนหรือเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโต <br />การเจริญเติบโตของตนเอง ในการสำรวจการเจริญเติบโตของนักเรียนนั้นจะใช้วิธีการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง เป็นหลักซึ่งควรกระทำอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยอาจบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ลงในแบบบันทึกน้ำหนักและส่วนสูง <br />เกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตและพัฒนาของมนุษย์<br />เมื่อคนเราเจริญเติบโต จะมีการพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เติบโตตามมาด้วยคนเราต้องรู้จักรักษาสมดุลของร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ผลของการเจริญเติบโตที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเจริญเติบโตทางด้านร่างกายทั้งน้ำหนักและส่วนสูง เราควรรู้จักรักษาสุขภาพของตนเอง โดยเปรียบเทียบน้ำหนักเกณฑ์มาตรฐานได้ถูกต้อง<br />การเจริญเติบโตของเด็กตั้งแต่แรกเกิด-6 ปี<br />right0เด็กในวัยทารกและวัยเด็กจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ เช่น พัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ตามขั้นตอนที่เป็นแบบแผนและมีทิศทางเฉพาะ ซึ่งการเรียนรู้พัฒนาการในวัยทารกและวัยเด็ก จะช่วยให้เราสามารถเสริมสร้างพัฒนาการของ เด็กได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นเราจึงควรศึกษาถึงพัฒนาการของเด็กในแต่ละวัย เพื่อ ให้เข้าใจถึงการเจริญเติบโตและสามารถทำกิจกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ ของ เด็กในวัยต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ<br /> <br />วัยเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตและพัฒนาการเด็กแรกเกิด - 1 ปีเริ่มใช้ขาพยุงตัวให้ลุกขึ้น และเกาะสิ่งต่าง เพื่อเดิน สามารถเลียนแบบ พฤติกรรมที่พบเห็น และเลียนแบบการใช้ภาษา วัย 1 - 3 ปีใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น ดู สัมผัส ชิมรส ได้ยิน ดมกลิ่น เด็กจะทำ พฤติกรรมซ้ำกันบ่อยๆ ใช้ภาษาที่เป็นคำโดด หรือภาษา 2 คำ ในช่วงอายุ 18-24 เดือน จะเป็นระยะเริ่มคิด จดจำคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ใน ช่วงอายุ 24-36 เดือน เด็กจะสามารถเปลี่ยนทิศทางในการเดินได้ วัยนี้จึง เป็นวัยสำคัญที่ เด็กจะพัฒนาความเป็นตัวเอง และรู้จักตนเอง วัย 3-6 ปีมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม มีการแบ่งปันของเล่นทั้งเด็ก หญิง และชาย โดยดูวิธีการเล่นที่เพื่อนยอมรับมากที่สุด เด็กวัยนี้จะกระทำ ตาม เพื่อนไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการกระทำ เพื่อให้กลุ่มเพื่อนยอมรับ <br />พัฒนาการไม่ได้หยุดนิ่งเพียงแค่ช่วงใดช่วงหนึ่งของการเจริญเติบโตทางร่างกายเท่านั้น แต่พัฒนาการจะยังคงมีต่อไปจนตลอดชีวิตของมนุษย์<br />www.thaigoodview.com/library/contest2551/health03/05/2/contents/grows03.html<br />รูปภาพของฉันในอดีตตั้งแต่แรกคลอด วัยทารก จนถึงวัยเด็กตอนปลาย<br /> วัยแรกคลอด วัยทารก วัยเด็กตอนปลาย<br />ตารางที่ 2 ตารางบันทึกการเจริญเติบโตของนักเรียนในวัยแรกเกิดจนถึง ชั้นวัยเด็กตอนปลาย(ป.6) และการแสดงกราฟ<br />ชั้น/ภาคเรียน อายุ ส่วนสูง/น้ำหนัก แรกคลอด วัยทารกอนุบาลอนุบาลอนุบาลอนุบาล อายุ(ปี/เดือน) แรกเกิด 1 ขวบ-2 ขวบ 3 ปี4 ปี 5 ปี 6 ปีส่วนสูง(ซ.ม.) 50 cm 75 cm 89 cm 98 cm 102 cm 109.5 cmน้ำหนัก(กก.) 3 (กก.) 10(กก.) 13 (กก.) 15 (กก.) 16 (กก.) 17.8 (กก.)<br />ชั้น/ภาคเรียน อายุ ส่วนสูง/น้ำหนัก ป.1 ป.2ป.3ป.4ป.5 ป.6 อายุ(ปี/เดือน) 7 ปี8 ปี9 ปี 10 ปี 11 ปี 12 ปีส่วนสูง(ซ.ม.) 114cm119cm 124cm 129cm 132 cm143 cmน้ำหนัก(กก.) 21 (กก.) 23 (กก.) 26 (กก.) 29 (กก.)32 (กก.)37 (กก.)<br />แนวตั้งแสดงถึง น้ำหนัก แนวนอนแสดงถึง ส่วนสูง<br />การเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตราฐาน (ฉันในอดีต)<br />ถ้าเทียบการเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานแล้ว(ตามตารางที่ 1) จะต่ำกว่าเกณฑ์เพียงเล็กน้อย แต่จากการนำข้อมูลที่นำมาทำเป็นกราฟ จะเห็นว่า เส้นกราฟจะค่อยๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆเป็นไปในทิศทางที่พอเหมาะ<br /> ในวงการแพทย์นิยมใช้ค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index : BMI) ในการประเมินมากกว่า โดยมีสูตรจำนวน ดังนี้<br />ตัวอย่างน้ำหนักตัว(กิโลกรัม)BMI = -------------------- <br />ส่วนสูง (เมตร)<br />ตารางที่ 1 ตารางเปรียบเทียบส่วนสูงมาตรฐานของเด็กและเยาวชนไทยใน พ.ศ.2534 ซึ่งกรมอนามัยคาดหวังไว้<br /> <br />อายุ(ปี)ชาย(ส่วนสูงไม่น้อยกว่า)เซนติเมตรหญิง(ส่วนสูงไม่น้อยกว่า)เซนติเมตร5109.0108.36114.6114.07119.6119.38124.6124.69129.4129.610134.2135.511139.2142.612145.8149.613153.8153.514160.5155.815164.8157.316167.7157.517168.8157.618169.4157.619169.5157.620169.6157.7<br /> <br /> รูปภาพฉันในปัจจุบัน<br /> <br />บันทึกการเจริญเติบโตของนักเรียนในวัย ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เทอม 1 <br />น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ส่วนสูง 145 เมตร BMI = 19 ลุก-นั่ง 30 ครั้ง วิดพื้น 26 ครั้ง <br />ตารางที่ 3 ตารางบันทึกการเจริญเติบโตของนักเรียนในวัย ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เทอม 2<br />ชั้น/ภาคเรียน อายุ ส่วนสูง/น้ำหนัก ม.1 เทอม2 อายุ13 ปี(ปี/เดือน) 01/11/5308/11/5315/11/5322/11/5329/11/5306/12/5313/12/5320/12/5327/12/5331/12/53ส่วนสูง(ซ.ม.) 147 cm 147 cm 147 cm148 cm148 cm148.5 cm148.5 cm149 cm149.5 cm150 cmน้ำหนัก(กก.) 3939.539.540404040404040<br /> <br /> แนวตั้งแสดงถึง น้ำหนัก แนวนอนแสดงถึง ส่วนสูง<br />ในวงการแพทย์นิยมใช้ค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index : BMI) ในการประเมินมากกว่า โดยมีสูตรจำนวน ดังนี้<br />ตัวอย่างน้ำหนักตัว(กิโลกรัม)BMI = -------------------- <br />ส่วนสูง (เมตร)<br />เมื่อนำข้อมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตราฐาน (ฉันในปัจจุบัน)<br />จากข้อมูลของภาคเรียนที่ 1 และ ที่2 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นว่าเกือบจะไม่เห็นความแตกต่างกันเลยในด้านของน้ำหนักตัว ส่วนความสูงก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบกันเกณฑ์มาตรฐานแล้วถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก ดังนั้นจะต้องมีการพัฒนาและเสริมสร้างสมรรถภาพของตนเอง<br />การเสริมสร้างสมรรถภาพตนเอง<br />พัฒนาการของตนเอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นวัยที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ต้องมีการปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย จึงควรเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเองโดยเฉพาะพัฒนาการทางเพศและพัฒนาการทางสังคม เพราะถ้าไม่เข้าใจอาจทำให้เกิด ความสับสนได้ <br />ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ คนเรามีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่แตกต่างกันไปทั้งๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังที่จะกล่าวต่อไป ดังนี้ <br />1 พันธุกรรม <br />2 สิ่งแวดล้อม <br />3 การอบรมเลี้ยงดู <br />แนวทางในการพัฒนาตนเองให้เติบโตสมวัย การพัฒนาตน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น การทำชีวิตให้มี ความเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จและมีความสุขในการดำรงชีวิต ดังนั้น การพัฒนาตนเองจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติอยู่เป็นประจำ เพราะคงไม่มีใคร ที่มีความสมบูรณ์เพียบพร้อมทุกอย่างจนไม่ต้องมีการพัฒนาสิ่งใดของตนเลย และไม่มีใครที่มี แต่สิ่งไม่ดีจนไม่สามารถพัฒนาได้ เพราะทุกคนมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีอยู่ในตนเองด้วยกันทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าตนเองรู้จักตนเองดีพอหรือรู้จักตนเองมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยอมรับหรือไม่ว่าตนเองมีข้อบกพร่องที่จำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้และ จะนำไปสู่การมีชีวิตที่มีความสุข <br />ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเองมีปัจจัยที่สำคัญ ดังนี้ 1. การรู้จักและเข้าใจตนเองอย่างถูกต้อง บางคนอาจจะเข้าใจว่าตนเองรู้จักและเข้าใจตนเองดี แต่ความจริงแล้วยังมีบุคคลอยู่เป็นจำนวนมากที่ไม่รู้จักและเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง อาจคิดว่าตนเองดีเลิศไม่มีสิ่งใดบกพร่อง หรือบางคนอาจจะตีค่าตนเองต่ำเกินไป เห็นแต่ข้อไม่ดีของตนเอง จนเกิดความหมดอาลัยในชีวิต ถ้าบุคคลใดไม่รู้จักตนเองดีพอก็จะทำให้การพัฒนาตนเองเป็นไปได้ยาก <br /> 2. การยอมรับในความบกพร่องของตนเอง การรู้จักและเข้าใจตนเองเพียงอย่างเดียว คงยังไม่พอ ต้องยอมรับในความบกพร่องของตนเอง เพื่อจะได้พัฒนาส่วนที่บกพร่องให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ยอมรับความบกพร่องของตนเองก็จะทำให้ไม่มีการพัฒนาตนเอง อาจทำให้ชีวิตล้มเหลวได้และไม่สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข <br /> 3. การรู้จักเข้าใจผู้อื่นและยอมรับผู้อื่น การที่คนเรารู้จักเข้าใจและยอมรับผู้อื่น เป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับบุคคลอื่นได้ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเองเช่นกัน <br />การพัฒนาตนด้านการเจริญเติบโต กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำเพื่อการเจริญเติบโตที่สมวัยไว้ 3 ประการ ดังนี้ 1. การรับประทานอาหารเช้า รับประทานอาหารมื้อหลักให้ครบ 3 มื้อ และครบ 5 หมู่ ในแต่ละวัน อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญของวัยเรียนเพราะอยู่ในวัยเจริญเติบโตและสมองต้องใช้พลังงานในการเรียนรู้ตลอดทั้งวัน นักเรียนจึงไม่ควรงดอาหารเช้า <br />2. การดื่มนม ดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว (แก้วละ 200 ซีซี) เป็นประจำ เพราะนมมีคุณค่า ทางโภชนาการสูง คือ มีโปรตีน แคลเซียม เพราะแคลเซียมในนมเป็นแคลเซียมที่มีคุณภาพ นมจึงช่วยให้นักเรียนมีรูปร่างเติบโต สูงใหญ่ และแข็งแรง <br />3. การออกกำลังกาย ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน อย่างต่อเนืองเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และที่สำคัญ จะช่วยให้ร่างกายสูงใหญ่ เสริมความแข็งแรงของกระดูก กล้ามเนื้อ และจิตใจร่าเริงแจ่มใส <br />การพัฒนาจิตของตนเอง การพัฒนาจิต เป็นการส่งเสริมการบริการจัดการความเครียด ฝึกการมีสมาธิ มีปัญญา ส่งเสริมการฝึกจิต การควบคุมอารมณ์ การพัฒนาจิตจะช่วยให้บุคคลมีสุขภาพจิตที่ดี มีศีลธรรม จะสร้างแต่ความดี ถ้าในสังคมเรามีบุคคลประเภทนี้มากๆ สังคมจะสงบรมเย็น ไม่มีปัญหาดังเช่นทุกวันนี้ การพัฒนาจิตของตนเอง อาจทำได้โดยการฟังธรรม อ่านหนังสือธรรมะ นั่งสมาธิ นึกคิดแต่เรื่องดีๆ รู้จักผ่อนคลายความตึงเครียด การช่วยเหลือผู้อื่น บำเพ็ญประโยชน์แก่ส่วนรวม ทำบุญตักบาตร ลดละความโลภ ความโกรธ ความหลง พยายามทำจิตใจของตนเองให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ <br /> ฉันในอนาคต<br /> <br />วิธีการดูแลตนเอง<br /> จากที่ได้มีการบันทึก และรวบรวมข้อมูลมาสักระยะหนึ่ง ทั่งเรื่องน้ำหนักและความสูง จนกระทั่งได้เอามาทำเป็นกราฟการเจริญเติบโต จะเห็นว่ายังต้องมีการพัฒนาอีกมากถ้าจะให้เป็นดังคนในภาพ ทั้งในเรื่องอาหารควรทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ครบทั่ง 5หมู่ ตามหลักของโภชนบัญญติ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ตามหลักของสุขบัญญติแห่งชาติ<br />สุขภาพครอบครัวของฉัน<br /> สมาชิกครอบครัวของฉัน มีทั้งหมด 5คน มี คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว ตัวของกระผม และคุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว และตัวกระผมเอง มีสุขภาพร่างกายที่ดี ส่วนคุณย่า จะมีโรคประจำตัว คือท่านเป็นโรคเบาหวาน การดูแลสุขภาพของท่านก็คือ จะต้องค่อยระวังเรื่องอาหารการกิน และไปหาหมอตามเวลา ที่คุณหมอนับ และที่สำคัญ ควรทำตามสุขบัญญติแห่งชาติและตามหลักโภชนบัญญติก็จะทำให้ครอบครัวของเรามีสุขภาพที่ดีตลอดไป<br />สรุป การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ไม่ว่าจะทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกาย ทางด้านจิตใจ และการพัฒนาการทางสังคมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพล ได้แก่พันธุกรรม สิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดู ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาตนด้านการเจริญเติบโตและการพัฒนาจิตของตนเป็นสำคัญและที่ขาดไม่ได้ คือ ควรจะปฏิบัติและทำตามสุขบัญญติแห่งชาติและตามหลักโภชนบัญญติก็จะทำให้ชีวิตของเรามีสุขขึ้น<br />แหล่งอ้างอิง<br />www.thaigoodview.com/library/contest2551/health03/05/2/... www.thaigoodview.com/library/contest2551/health03/05/2/contents/grows03.html<br />www.tungsong.com/Healthlife/Healthlife.htm -<br />www.vcharkarn.com/varticle/39513<br />กองส่งเสริมสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานครhttp://www.phpd.cjb.net<br />