ระดับชั้นเน็ตเวิร์ก
หน้าที่โดยทั่วไปของชั้นเน็ตเวิร์ก
นำาข้อมูลจากผู้ส่งไปส่งผ่านโหนดต่าง ๆ เพื่อ
ให้ไปถึงเป้าหมายได้ถูกต้องและมี
ประสิทธิภาพ
เป็นการให้บริการแก่ชั้นทรานสปอร์ตและ
เรียกใช้บริการชั้นดาต้าลิงค์
การบริการให้แก่ชั้นทรานสปอร์ต
ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั้นเช่นเครือข่าย
อินเตอร์เน็ตนั้นเรามองว่าระดับชั้นเน็ตเวิร์ก
ทำางานในเครือข่ายย่อยส่วนการให้บริการ
และการทำางานในระดับชั้นทรานสปอร์ตจะ
ทำางานในเครือข่ายย่อยส่วนผู้ใช้
เนื่องจากการทำางานของชั้นเน็ตเวิร์กเป็น
เครือข่ายย่อยในส่วนของผู้ให้บริการดังนั้น
จึงมีความต้องการดังนี้
– การทำางานจะต้องไม่ขึ้นอยู่กับเครือข่ายกล่าวคือ
ไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีอันใดอันหนึ่ง
– ผู้ใช้บริการไม่จำาเป็นต้องทราบลักษณะของการ
การบริการแบบ connection
oriented และ connectionless
ในการทำางานของเครือข่ายส่วนการบริการจะมีการ
แบ่งออกเป็น 2 ค่ายได้แก่
(connection oriented)ค่ายที่ต้องการความน่า
เชื่อถือของการส่งเช่น PTT มีความต้องการการ
สื่อสารดังนี้
– ก่อนการส่งข้อมูลจะต้องมีการสร้างการสื่อสาร
ระหว่าง entity ของทั้งผู้ส่งและผู้รับและใช้
หมายเลขการติดต่อนั้นไปจนหมดการสื่อสาร
– การสร้างการติดต่อจะมีการตกลงในเรื่องของ
ลักษณะการสื่อสาร คุณภาพเป็นต้น
– หลังการติดต่อแล้วข้อมูลจะเดินทางได้ 2 ทิศทาง
(connectionless)อีกค่ายได้แก่ความคิดว่า
เครือข่ายส่วนการบริการควรทำาหน้าที่เพียง
การจัดส่งข้อมูลไปให้ถึงปลายทางก็พอแล้ว
โดยไม่ต้องรับประกันความถูกต้อง ส่วนการ
ตรวจสอบความถูกต้องควรเป็นหน้าที่ของ
เครือข่ายส่วนผู้ใช้ทำาหน้าที่ไป
ความแตกต่างของทั้งสองแสดงดังตารางที่
10.1
Connection Connectionle
ss
การสร้างการ
ติดต่อ
ต้องการ ไม่ต้องการ
แอดเดรสปลาย
ทาง
ต้องการตอน
ติดต่อ
ต้องการทุกแพ็ก
เกต
ลำาดับของแพ็ก
เกต
รับประกัน ไม่รับประกัน
ควบคุมความผิด
พลาด
หน้าที่ของชั้น
เน็ตเวิร์ก
หน้าที่ของชั้น
ทรานสปอร์ต
ควบคุมการไหล
ของข้อมูล
ระดับเน็ตเวิร์ก
ทำาให้
ระดับเน็ตเวิร์กไม่
ทำาให้
เจรจาตกลง ได้ ไม่ได้
การทำางานภายในเครือข่ายย่อย
ของผู้ให้บริการ
การส่งข้อมูลผ่านไปในเครือข่ายย่อยของผู้
ให้บริการมี 2 แบบได้แก่ Virtual Circuit
และ Datagram
Virtual Circuit เป็นการบริการแบบ
connection oriented โดยเมื่อมีการติดต่อ
ได้แล้วจะทำาการสื่อสารระหว่างต้นทางปลาย
ทางแบบจุดต่อจุด โดยมีการหาเส้นทางที่ดี
ที่สุดให้ และจะทำาการส่งไปจนสิ้นสุดแล้วจึง
ยกเลิกช่องทางการสื่อสาร ตัวอย่างการ
ส่วน Datagramนั้นจะไม่มีการค้นหาเส้น
ทางล่วงหน้า เมื่อแต่ละโหนดได้รับ packet
มาจะทำาการหาว่าเส้นทางขณะนั้นเส้นทางใด
ดีที่สุดก็จะส่งต่อไป ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่
packet จะไม่เรียงลำาดับกันไปถึงปลายทาง
โดยหากเป็น connecttion oriented แล้ว
จะให้ โหนดปลายทางทำาหน้าที่จัดเรียงข้อมูล
เอง และ หากเป็น connectionless จะให้
โฮสต์ที่รับข้อมูลทำาหน้าที่
การเปรียบเทียบระหว่าง virtual
circuit และ datagram
ในการส่งข้อมูลผ่านเครื่อข่ายด้วยวิธี virtual
circuit นอกจากจะต้องมีการสร้างการติดต่อ
และยกเลิกการติดต่อแล้วจะต้องเสียที่ของ
ตารางการหาเส้นทางสำาหรับทุก ๆ หลายเลข
เซอร์กิต
ส่วนดาต้าแกรมไม่ต้องมีตารางการหาเส้น
ทาง แต่อาจจะต้องมีตารางซึ่งใช้ในการ
คำานวณหาแพ็กเกตที่เข้ามาว่าควรจะไปยัง
เส้นทางใดบ้างเพื่อให้การเดินทางไปได้
หมายเลขแอดเดรสของตัวแรกในแต่ละเครือข่าย
จะเป็นหมายเลขของเครือข่ายเพื่อการค้นหาเส้น
ทาง และหมายเลขตัวสุดท้ายแต่ละเครือข่ายจะ
เป็นหมายเลขของ broadcast เพื่อการส่งข้อมูล
ไปหาทุกๆ โหนดในเครือข่าย
127.xx.xx.xx จะสงวนไว้เป็นลูปแบ็กแอดเดรส
แพ็กเกตที่ส่งไปในหมายเลขดังกล่าวจะไม่ส่งไป
ข้างนอกเครื่อง ปกติใช้ทดสอบซอฟต์แวร์ที่ทำางาน
บนเครื่องของตนเอง
การแปลงไอพีแอดเดรสเป็น
แอดเดรสในระดับชั้นดาต้าลิงค์
ในการส่งข้อมูลจากชั้นเน็ตเวิร์กซึ่งใช้ ip
address เป็นตัวบ่งบอกถึงต้นทางและปลาย
ทางนั้น จะมีการเรียกใช้งานผ่านไปยังชั้น
ดาต้าลิงค์ซึ่งในชั้นดาต้าลิงค์เช่นเครือข่ายอี
เธอเน็ตจะมีการส่งข้อมูลด้วยหมายเลข MAC
ซึ่งในรายละเอียดของเฟรมอีเธอเน็ตมีดังรูปที่
10.7 ก และแอดเดรสของการ์ดจะมีราย
ละเอียดดังรูปที่ 10.17 ข
ในการสื่อสารระหว่างผู้ส่งและผู้รับจะต้องมี
ในกรณีของเครือข่ายแบบอีเธอเน็ตจะใช้
Address Resolution Protocol ทำาการ
แพร่กระจายข้อมูลไปยังเครือข่ายเพื่อถามว่า
ip address ที่ต้องการสื่อสารด้วยเป็นใคร
เมื่อผู้รับที่มีไอพีตรงกับที่มีคนร้องขอมา จะ
ทำาการตอบกลับโดยส่งฟิสิคอลหรือ MAC
address กลับไปให้ผู้ร้อง และทำาการสื่อสาร
ด้วยชั้นดาต้าลิงค์ต่อไป
การแบ่งเครือข่ายออกเป็นเครือ
ข่ายย่อย
การแบ่งเครือข่ายออกเป็นเครือข่ายย่อยนั้นก็
เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้
– ลดภาระการแน่นขนัด
– ลดการใช้งานของ CPU เพราะการแพร่ข้อมูลของ
แพ็กเกต ARP ไปยังทุก ๆ โหนด โหนดแต่ละ
โหนดต้องเสียเวลาในการตรวจสอบว่าเป็น ip
address ของตนหรือไม่ ทำาให้ต้องเสียเวลา
ทำางานไป
– เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น
…การแบ่งเครือข่ายย่อยมีดังนี้ ฟังคำาอธิบาย
การแพร่ข้อมูลเฉพาะกลุ่มภายใน
อินเตอร์เน็ต
ในการติดต่อสื่อสารเป็นกลุ่มพร้อม ๆ กันนั้น
จะใช้ไอพีคลาส D ซึ่งขึ้นต้นด้วย
224.x.x.x โดยจะมีหมายเลขทั้งหมด กว่า
250 ล้านกลุ่ม
CIDR (Classless Inter
Domain Routing)
การแบ่งไอพีของคลาส C ออกเป็นกลุ่ม ๆตาม
ความต้องการแต่จะโดยการแบ่งจะแบ่งตาม
จำานวนเลขสองยกกำาลัง
เมื่อทำาการจัดสรรแล้วจะมีการกำาหนด
netmask ของแต่ละเครือข่ายเพื่อทำาการ
ค้นหาว่าหากมีใครจะสื่อสารกับเครือข่ายดัง
กล่าวจะส่งไปในช่องทางใด

ระดับชั้นเน็ตเวิร์ก