Antiretroviral (ARV)
ยาต้านไวรัสเอชไอวี
ภญ.ดวงแก้ว อังกูรสิทธิ์
22 พฤษภาคม 2555
AIDs & HIV
•  เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น เพราะร่างกาย
ได้รับเชื้อไวรัสเอชไอ วี (HIV) ซึ่งจะเข้าไป
ทำาลายแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำาให้เซลล์
เม็ดเลือดขาวลดลง (CD4) จนเกิดอาการ
โรคเอดส์ (AIDs) คือทำาให้ติดเชื้อโรคฉวย
โอกาส (OI) แทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกาย
• เช่น วัณโรคในปอด หรือต่อมนำ้าเหลือง เยื่อหุ้ม
สมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด
หรือเป็นมะเร็งบางชนิด ได้ง่ายกว่าคนปกติ
ทำาให้อาการจะรุนแรง และเสียชีวิตอย่าง
HIV และ AIDS ต่างกันอย่างไร
• Human Immunodeficiency Virus disease (HIV)
– ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ HIV
– ยังไม่เกิดอาการจากเชื้อฉวยโอกาส
– มีจำานวนเซลล์ CD4+ lymphocytes มากกว่า 200
cells/mm3 ( ค่าปกติมากกว่า 1000 cell/mm)
(แม้ว่าจะไม่มีอาการ แต่เชื้อก็ยังคงแบ่งตัวและทำาลาย
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย)
• Acquired Immunodeficiency Syndrome
(AIDs)หรือโรคเอดส์ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ HIV และ
โรคได้ลุกลามจนภูมิคุ้นกันบกพร่อง และอาจจะทำาให้
เกิดโรคฉวยโอกาสและมะเร็ง
อาการของโรคติดเชื้อ HIV
• มีความหลากหลายขึ้นกับระยะของโรค อาการเริ่มต้นจะ
เหมือนอาการของไข้หวัดคือ มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่น
อ่อนเพลีย แม้ไม่มีอาการ แต่สามารถติดต่อกันได้
• ในช่วงแรกของการติดเชื้อ HIV คุณอาจจะมีอาการดัง
ต่อไปนี้
– ต่อมนำ้าเหลืองโต ตับม้ามโต
– ท้องร่วง บางคนอาจจะเรื้อรัง
– นำ้าหนักลด.
– มีไข้
– ไอและหายใจลำาบาก
• ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรได้รับการเจาะเลือด หาภูมิต่อ
เชื้อ HIV สามารถทำาได้หลายวิธี การตรวจที่ให้ผลเร็ว
สามารถตรวจจากเลือด นำ้าลาย และปัสสาวะ ก่อนการ
การติดต่อของโรคเอดส์ 3 วิธี
หลายกิจกรรมที่ไม่ติดต่อเชื้อ HIV
• การจับมือหรือการสัมผัสภายนอก
• การดื่มนำ้าแก้วเดียวกัน
• การใช้ถ้วยชามร่วมกัน
• สัมผัสกับเหงื่อหรือนำ้าตาก็ไม่ติดต่อ
• การว่ายนำ้าในสระเดียวกัน
• การใช้โถส้วมเดียวกัน
• ถูกแมลงหรือยุงกัด
• การจูบกัน
• การบริจาคเลือด
กลุ่มเสี่ยงที่ควรจะต้องเจาะเลือดหา
เชื้อHIV
• ผู้ที่ได้รับเลือดและหรือนำ้าเหลืองก่อนปี คศ.1970-1980
• กลุ่มรักร่วมเพศ
• ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นโดยไม่ได้ป้องกัน
• ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ HIV
• มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น
• ผู้ที่ตัดสินใจจะแต่งงาน
• ผู้ที่มีคู่ขาหลายคน
• ผู้ติดยาเสพติดเข้าเส้น
• คนท้องเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก 
• ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน
• ผู้ที่ต้องการไปทำางานในต่างประเทศ (บางประเทศ)
ยาต้านไวรัส : ยับยั้งการแบ่งตัว
ของเชื้อไวรัส
• เมื่อเม็ดเลือดขาว (CD4) ลดลงจนตำ่ากว่า
200 ถือว่าเป็นโรคเอดส์ จะเริ่มสู่การรักษา
ด้วยยาต้านไวรัสโดยการเลือกใช้ยาต้าน
ไวรัสร่วมกันอย่างน้อย 3 ชนิด
ยาต้านไวรัสที่มีในโรงพยาบาล
สมุทรสาคร
มีมากกว่า 30 รายการ มีหลาย
ความแรง หลายรูปแบบ
รายการยาต้านไวรัสในโรง
พยาบาลสมุทรสาครNRTI
• Lamivudine ชื่อ
ย่อ 3TC 150 mg
• Stavudine ชื่อ
ย่อ d4T 15, 20 ,
30 mg
• Zidovudine ชื่อ
ย่อ AZT 100 ,
300 mg
• Didanosine ชื่อ
ย่อ 125 ,200 ,
250 ,400 mg
• Tenofovir 300
mg
NNRTI
• Nevirapine
ชื่อย่อ NVP
200 mg
• Efavirenz
ชื่อย่อ EFV
50,200 ,600
mg
PI
• Ritonavir ชื่อย่อ
RTV 100 mg
• Indinavir ชื่อย่อ
IDV 200, 300,
400 mg
• Nelfinavir ชื่อย่อ
NFV 250 mg
• Azatanavir 300
mg
• Saquinavir ชื่อ
ย่อ SQV 500
mg
•เป็นการให้ยาต้านไวรัส
•ร่วมกันอย่างน้อย 3 ชนิด
ยาสูตรผสม 3 ชนิด
• GPO vir®
S30
d4T 30 mg + 3TC 150 mg + NVP 200 mg
• GPO vir®
Z250
AZT 250 mg + 3TC 150 mg + NVP 200
mg
ยาสูตรผสมหลายชนิดในเม็ด
เดียว
ZILARVIR ALUVIA KALETRA LASTAVIR TRUVADA
ยาสูตรผสม 2 ชนิด
• Zilarvir® = AZT 300 mg + 3TC 150 mg
• Aluvia ® = LPV 100 mg + RTV 25 mg
• Kaletra® = LPV 200 mg + RTV 50 mg
• Lastavir® = d4T 30 mg + 3TC 150 mg
• Truvada® = Tenofovir 300 mg +
Emtricitabine 200 mg
***เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการใช้ยา
รายการยาต้านไวรัสชนิดนำ้า
เชื่อมสำาหรับเด็ก
• Stavudine syr 10 mg/ml
• Zidovudine syr 10 mg/ml
• Lamivudine syr 10 mg / ml
• Kaletra syr LPV 80 /RTV 20
•Bactrim
(co trimoxazole)
กินครั้งละ 2 เม็ด วัน
ละ 1 ครั้ง หลังอาหาร
เช้า ทุกวัน
ห้ามใช้ในคนที่แพ้
ซัลฟา
ใส่ซองสีชา ป้องกัน
แสง++
ยาป้องกันโรคติดเชื้อ
ฉวยโอกาส
(ป้องกันปอดติดเชื้อ)
•Fluconazole
(Diflucan) มี 2 ขนาด
200 mg สำาหรับ
ผู้ใหญ่
50 mg สำาหรับเด็ก
แบบที่ 1 กิน 1 เม็ด
เฉพาะวันจันทร์ พฤหัส
แบบที่ 2 กิน 1 เม็ด ทุก
วัน
ยาป้องกันโรคติดเชื้อ
ฉวยโอกาส
(ป้องกันเชื้อราขึ้นสมอง)
รายชื่อโครงการที่สนับสนุนยา
ต้านไวรัส– ประกันสังคม สำาหรับผู้ป่วย
ประกันสังคม
– PATC / ATC สำาหรับผู้ป่วย
เด็กและผู้ใหญ่ หญิงตั้ง
ครรภ์
– NAPHA-EXTENSION
สำาหรับผู้ป่วยต่างด้าว
– บัญชียาโรงพยาบาล สำาหรับ
ผู้ป่วยอื่นที่ไม่มีโครงการ
– เจ้าหน้าที่ถูกเข็มตำา และ
Rape***
สำาหรับป้องกันการติดเชื้อ
– รายการยาที่นอก
KEY/จัดให้
ถูกโครงการถูกโครงการ
เพื่อการเบิกเบิก
จ่ายยาถูกจ่ายยาถูก
ต้องต้อง
NAPHA extension
• ใช้เฉพาะกับคนไข้ เชื้อชาติพม่า
• มีรายการยาน้อยกว่า ไม่มี GPO vir S30
• ถ้าอยู่ในโครงการ napha ex แล้วให้เปลี่ยน
สถานะการเงิน
*** บางรายการต้องเสียเงิน  ส่งการเงินทุก
case ***
เจ้าหน้าที่ และ Rape***
• AZT 100 mg 2 tab q 12 hr
• 3TC 150 mg 1 tab q 12 hr
• Kaletra 2 tab q 12 hr
กินทั้งหมด 28 วัน โดยแบ่งทานก่อน 7 วันและ
นัดมาพบแพทย์ก่อนรับต่อจนครบ มีผลข้างเคียง
คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
• คนไข้พม่าเปลี่ยน kaletra เป็น IDV , RTV
กินยาตรงเวลาให้ครบ 28 วัน
และพบแพทย์ตามนัด
การใช้ยาป้องกันการติดเชื้อ
จากแม่สู่ลูก
แม่ขณะตั้ง
ครรภ์
• AZT 100 mg กิน
2-3 เม็ด ทุก 12
ชั่วโมง
• NVP กิน 1 เม็ด
ตอนเจ็บท้องคลอด
เด็กทารก
หลังคลอด
• AZT syrup
• NVP syrup
ตามนำ้าหนักตัวของ
เด็ก
เป็นเวลา1-4 สัปดาห์
ทุกบ่ายวันศุกร์ OPD
medHIV Clinic
ป้อนข้อมูล Hos XP ใส่โครงการที่
ช่องห้องตรวจ
 เช่น 102 = ARV ปกส , 096
?
?
พบเภสัชกร ให้คำาแนะนำา HM
clinic
คนไข้ใหม่
• เข้ากลุ่มให้ความรู้
เตรียมความพร้อม
ก่อนรับยาต้านไวรัส
คนไข้เก่า
• ประเมินความร่วมมือ
ในการใช้ยา กินยา
ตรงเวลา
• ติดตามอาการไม่พึง
25
ระวังเรื่องแพ้ยา  ส่งปรึกษา
เภสัชกร
เช่น แพ้ Sulfa ไม่ควรใช้
Bactrim
คู่ยาที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน
• POP up : AZT vs d4T
***ปรึกษาเภสัชกรทุกครั้ง***
การป้อนข้อมูล OPD
จ่ายตามจำานวนที่แพทย์สั่ง ตามวัน
นัด1-3 เดือน
การป้อนข้อมูล IPD
ใช้ยาเดิมของผู้ป่วย หรือจ่ายยาให้ทุก
5 วัน
168 เม็ด = (2
กระปุก x 60 เม็ด)
+ 48 เม็ด(ใส่ซอง)
*ไม่แกะกระปุกเติม
ยาลงไป*
***โปรดระวัง เม็ดยาเปลี่ยน
บ่อย***
ชื่อยาคล้ายกัน  แก้ไขฉลาก
 ป้องกันจัดยาผิด
Z250-GPOvir Z250
โปรดสังเกต... GPO vir S หรือ
Z
เดิม GPO vir s30 กับ GPO vir Z250
ใหม่ GPO vir s30 กับ Z250 GPO vir
ตัวอย่างฉลากยาสูตรผสมอื่น
3TC-LAMIVUDINE
zilarvir (AZT150+3TC150)
เครื่องหมาย ++ ต้องใส่ซองสี
ชา ป้องกันแสงแดด
มีตัวอักษร X ห้ามใช้ในคนท้องมี
ผลต่อเด็ก เช่น EFV
การเก็บรักษา
ยาที่ต้องเก็บสภาวะเย็น
• Ritonavir
ยาที่ต้องป้องกันความชื้น
• Indinavir
แนวทางการใช้ยาต้านไวรัส
เอดส์
•สูตรยาต้านไวรัสเริ่มต้นสูตรยาต้านไวรัสเริ่มต้น 1414 วันแรกวันแรก
• GPO vir®
s30 1 tab 8.00 -14 tab
3TC 1 tab 20.00 -14 tab
d4T 1 tab 20.00 -14 tab
ทานไป 2 สัปดาห์ ถ้าปกติและไม่มีผื่นให้ทาน
เป็น
GPO vir®
s30 1 tab q 12 hr
(เวลา 8.00,20.00 หรือตามความเหมาะสม )
แนวทางการใช้ยาต้านไวรัส
เอดส์
• ส่วนใหญ่วิธีบริหารเป็น “……tab
q 12 hr”
• กรณีแพทย์สั่งยา เป็น “….. tab x
2” !!!!!!
•ข้อควรจำาข้อควรจำา !!!!!! ยาที่มีวิธีบริหารยา
วันละ 1 ครั้ง
– EFAVIRENZ (EFV) -
โปรดระวัง...ความคลาดเคลื่อน
ทางยา
– ผิดชนิด (ชื่อยาคล้ายกัน เม็ดยาคล้ายกัน)
 ไม่ได้ประสิทธิภาพ เกิดการแพ้ยา
– ผิดจำานวน  ได้ยาไม่พอกิน
– ผิดวิธีบริหาร ทำาให้กินยาไม่ตรงเวลา
– ผิดขนาดยา ระดับยาในเลือดไม่เพียง
พอ
– ผิดโครงการ เบิกยาไม่ได้ ไม่มียาใช้
“ทำาให้คนไข้ดื้อยา หมดโอกาส
”รักษา
เม็ดยาคล้ายกัน
ยามีหลายความแรง
การแพ้ยา
• เป็นผลข้างเคียงของยาแต่ละตัว ซึ่งออกอาการ
ให้เห็นอย่างชัดเจน แต่อาการออกจะรุนแรง
• ลักษณะแบบนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ไม่
เฉพาะยาต้านเท่านั้น ยาชนิดอื่นๆ ก็มีโอกาสแพ้
ยาได้เหมือนกัน
• ถ้าเป็นแบบนี้ ให้นำายาทุกตัวที่เรากินไปพบหมอ
หรือหมอที่จ่ายยาให้ เพื่อจะได้แก้ไขอาการ
หรือเปลี่ยนยาตัวใหม่ได้
ผลข้างเคียง
1. อาการข้างเคียงที่จัดว่าไม่รุนแรง
คืออาการที่ไม่รุนแรงมักจะเป็นในช่วงแรก
ของการกินยาต้าน และอาการจะค่อยๆดีขึ้น
ภายใน 2 เดือน เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้
อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ฝัน
แปลกๆ มึนงง
2. อาการข้างเคียงที่จัดว่ารุนแรง อาจ
ทำาให้เสียชีวิตหรือพิการ เช่น ซีด ตับอักเสบ
ตับอ่อนอักเสบ ภาวะกรดในเลือด ชาปลายมือ
ผลข้างเคียง
3. อาการข้างเคียงระยะยาว หลังจากกินยา
ประมาณ 1 ปี มักเกิดไขมันกระจายตัวผิด
ปกติ(เช่น ลงพุง ไขมันพอกที่ต้นคอ หน้าอก
แต่หน้าตอบและแขนขาลีบ) หรือถ้ากินยานาน
3-4 ปี อาจพบ ไขมันในเลือดสูง นำ้าตาลใน
เลือดสูง
การดื้อยา
• หลังจากที่ผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยเอดส์ ได้รับการ
รักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ไประยะหนึ่งแล้ว
(ขึ้นอยู่กับการกินยาตรงตามเวลา กินยาครบทุก
มื้อที่กำาหนด กินยาอย่างสมำ่าเสมอและต่อเนื่อง
หรือไม่ )
• เชื้อโรคเอดส์ที่เกิดขึ้นมาใหม่และเพิ่มจำานวนขึ้น
มาแล้ว มันพยายามที่จะปรับตัวมันใหม่รูปร่าง
หน้าตาก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ทำาให้ยาที่กิน
ไปนั้นไม่รู้จักมัน และฆ่ามันไม่ได้
• โดยการป้องกันโอกาสการดื้อยาจะเพิ่มขึ้นเมื่อ
1. การกินยาไม่สมำ่าเสมอ กินผิดเวลาบ่อยๆ ถือ
เป็นปัจจัยที่สำาคัญที่สุด
2. ขนาดที่กิน ถ้ากินขนาดที่ตำ่ากว่ามาตรฐาน
เช่น กินยาไม่ครบเม็ดตามที่หมอสั่ง
3. สูตรยาที่กินตำ่ากว่ามาตรฐาน เช่น กินเพียง 1
ชนิด หรือ 2 ชนิด
4. ระยะเวลาที่กิน ยิ่งมีระยะเวลานานหลายปี ก็มี
โอกาสที่เชื้อจะดื้อยาตามธรรมชาติ
วิธีการป้องกันดื้อยา
เคารพสิทธิผู้ป่วย  รักษาความ
ลับผู้ป่วย
ผู้ที่เป็น โรคเอดส์ สามารถดำาเนินชีวิตได้ตาม
ปกติ และควรดูแลสุขภาพให้ดี ไม่ควรวิตกกังวล เพราะ
หากไม่มีโรคแทรกซ้อนจะสามารถมีชีวิตยืนยาวไปได้อีก
หลายปี โดยมีข้อปฏิบัติคือ
- ปรึกษาแพทย์ ไปตามนัด รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำาลังกาย
สมำ่าเสมอ พักผ่อนให้เต็มที่
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือหากมีเพศสัมพันธ์ ควร
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- งดการบริจาคเลือด อวัยวะ และงดใช้สิ่งเสพติดทุกชนิด
หยุดสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
การป้องกันการติดเชื้อ HIV
• วิธีการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ที่ดีที่สุด คือ
การลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์
เช่น
– ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์
– รักเดียว ใจเดียว
– ควรตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ก่อนแต่งงาน หรือมี
         บุตร  
– งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดใช้สารเสพติดทุก
ชนิด
• เนื่องจากยังไม่มีการรักษาหรือวัคซีนที่ป้องกัน
โรค ดังนั้นทุกคนจะต้องเรียนรู้วิธีป้องกันโรค

สอนการใช้ยาต้านไวรัสเอซไอวีสำหรับเจ้าหน้าที่ห้องยาใหม่