More Related Content Similar to การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
Similar to การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics) (20) More from Aiman Sadeeyamu
More from Aiman Sadeeyamu (20) การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)1. การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
วัตถุประสงค์
ทราบการเลือกใช้ยาทีเหมาะสมในเด็ก การคํานวณขนาดยาในเด็ก รวมถึงการให้คําแนะนําสําหรับโรคทีพบบ่อยใน
ร้านขายยา เช่น ไข้ผืนผ้าอ้อม โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนบน โรคในระบบทางเดินอาหาร
การกําหนดช่วงอายุของเด็ก
1. ทารกคลอดก่อนกําหนด (Premature) หมายถึง ทารกทีคลอดก่อนครบกําหนดอายุครรภ์ (อายุครรภ์< 38 สัปดาห์)
2. ทารกแรกเกิด (new born, neonate) หมายถึง เด็กทีมีอายุตังแต่แรกเกิด – 1 เดือน
3. ทารก (infant) หมายถึง เด็กทีมีอายุ 1 เดือน – 1 ปี
4. เด็กเล็ก (small child) หมายถึง เด็กทีมีอายุ 1 – 5 ปี
5. เด็กโต (old child) หมายถึง เด็กทีมีอายุ 6 – 12 ปี
6. วัยรุ่น (adolescents) หมายถึง เด็กทีมีอายุ 13 – 18 ปี
เนืองจาก Pharmacokinetic processes ของเด็กยังไม่สมบูรณ์ การใช้ยาในเด็กจึงต้องให้ความระมัดระวังในการใช้ให้
เหมาะสม มิฉะนัน อาจจะทําให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น
- Chloramphenicol ทําให้เกิดปัญหา Grey baby syndrome มีอาการคลืนไส้ อาเจียน ปวดท้อง ตัวสีเขียวคลําจน
คล้ายสีเทา เนืองจากขาด oxygen เนืองจาก Chloramphenicol มีการแปรสภาพทีตับโดยอาศัยเอนไซม์ และขับ
ออกทางไต แต่ในเด็ก เอนไซม์ยังทํางานไม่สมบูรณ์ และการขับออกทางไตก็ไม่สมบูรณ์ ทําให้เกิดการสะสมของ
ยาได้
- Sulfnamides ทําให้เกิดปัญหา Kernicterus มีอาการ encephalopathy เนืองจากการใช้ยาในเด็กเล็กเกินไป หรือใช้
ในขนาดไม่เหมาะสม อาการผิดปกติดังกล่าว เกิดขึนจากยาทีมีปริมาณมากไปแทนที billirubin ทีจับอยู่กับ
albumin ที albumin site ทําให้มีปริมาณ free billirubin เพิมมากขึน และกระจายเข้าไปในไขสันหลัง ผ่าน BBB
และเกิด encephalopathy ในทีสุด
- การดูดซึมยาผ่านทางผิวหนังของเด็กเกิดขึนได้ง่าย เนืองจากผิวมีความชุ่มชืนสูง และผิวบาง ทําให้ยาดูดซึมได้ง่าย
ดังนัน การใช้ยาทางผิวหนังจึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง เช่น การใช้ยากลุ่ม corticosteroid ต้องเลือกใช้ชนิดทีมี
potency ตํา ๆ
ข้อควรพิจารณาในการคํานวณขนาดยาในเด็ก
1. การปรับขนาดยาคิดตามนําหนักหรือพืนทีผิวของเด็ก ในช่วงขวบปีแรก
2. ขนาดยาควรปรับตามนําหนัก จะถึงเด็กมีนําหนัก50 kg ให้คิดเท่าขนาดทีใช้ในผู้ใหญ่
3. สําหรับยาทีมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง อาจกําหนดขนาดยาเป็นช่วงตามกลุ่มอายุ
4. อาจกําหนดขนาดยาในเด็ก โดยคํานวณจากขนาดยาในผู้ใหญ่ โดยใช้อายุ นําหนักตัว หรือพืนทีผิวร่างกาย โดยวิธีที
น่าเชือถือทีสุด คือ การใช้Body Surface Area (BSA)
การคํานวณขนาดยาในเด็ก
1. การคํานวณขนาดยาตามอายุ(กรณีไม่ทราบนําหนัก)
- Young’s Rule ใช้สําหรับเด็กอายุ 2 – 12 ปี
หญ่ขนาดยาผู้ใ
12(year)อายุ
(year)อายุ
◌็กขนาดยาในเด
** (ค่าโดยประมาณ เด็กอายุ6 ปี ~ 1/3 ของขนาดยาในผู้ใหญ่)
2. - Fried’s Rule ใช้สําหรับทารกแรกเกิด – 1 ปี
หญ่ขนาดยาผู้ใ
150
(month)อายุ
◌็กขนาดยาในเด
** (ค่าโดยประมาณ เด็กอายุ6 เดือน ~ 1/25 ของขนาดยาในผู้ใหญ่)
2. การคํานวณขนาดยาตามนําหนักร่างกาย
- Clark’s Weight Rule ใช้สําหรับเด็กอายุ 2 ปีขึนไป
150
หญ่ขนาดยาผู้ใ(lb)นําหนัก
◌็กขนาดยาในเด
** (ค่าโดยประมาณ เด็กนําหนัก 10 kg (10 x 2.2) ~ 11/75 ของขนาดยาในผู้ใหญ่)
- เภสัชตํารับมักระบุขนาดการใช้ยาเป็น mg/kg
ขนาดยา = นําหนักร่างกาย (kg) x mg/kg ของยา
frequency(mg/mL).conc
(kg)wt)(mg/kg/daydose
(mL)Dose
สูตรคํานวณนําหนักตัวเด็ก 1-12 ปี
- อายุ1-6 ปี
นําหนัก = [อายุ (year) x 2] + 8 kg
- อายุ6-12 ปี
kg
2
57(year)อายุ
นําหนัก
** Quick weight calculation = 2 x (age + 4)
ตัวอย่าง Paracetamol syrup 120 mg/5 mL ให้คํานวณขนาดยาในเด็กอายุ1 ปี
วิธีทํา จาก Quick weight calculation = 2 x (age + 4)
= 2 x (1 + 4) = 10 kg
ขนาดยา paracetamol 10-15 mg/kg/dose เด็กคนนีควรได้รับยาขนาด 100-150 mg/dose
จากโจทย์ Paracetamol syrup 120 mg/5 mL
ดังนัน ขนาดยาทีผู้ป่วยเด็กคนนีควรได้รับ = 120mg/5 mL คือ รับประทาน 1 ช้อนชา
3. การคํานวณขนาดยาตามพืนทีผิวร่างกาย
มีความเหมาะสมมากกว่า เนืองจาก ขนาดยาขึนกับอัตราเร็วของการเผาผลาญอาหาร มวลของร่างกาย ซึงสัมพันธ์กับ
พืนทีผิวมากกว่า แต่ต้องระวัง ในเด็กอ้วน เนืองจากอาจจะได้ขนาดยาทีสูงเกินจําเป็น ให้คํานวณจาก IBW
IBWMale = 50 + 2.3 (ht in inch over 5 ft) IBWFemale = 45 + 2.3 (ht in inch over 5 ft)
หญ่ขนาดยาผู้ใ
)(m1.73
)(mเด็กพืนทีผิว
◌็กขนาดยาในเด 2
2
สําหรับพืนทีผิวของเด็ก สามารถหาได้จากnomogram หรือ BSA (m2
) = 0.007184 x ht (m)0.725
x wt (kg)0.425
โดยทัวไปจะถือว่าเด็กอายุมากกว่า12 ปี จะใช้ยาขนาดเท่ากับผู้ใหญ่ (นําหนัก ≥ 50 kg)
3. ปัญหาทีพบบ่อยในเด็ก
1. อาการไข้ (Fever)
อาการไข้คือ ภาวะทีเด็กมีอุณหภูมิ > 37.4 C (oral), > 38 C (rectal), > 37.8 C (axillary) และสามารถเกิดอาการชัก
ได้หากมีอุณหภูมิสูงกว่า 39 C หรือเคยมีประวัติการชักจากไข้สูง
เมือเด็กมีไข้ควรพิจารณาอาการอืนร่วม เช่น ผืน ภาวะหายใจลําบาก ท้องเสีย ปวดหู เจ็บคอ ไอ นํามูก ปวดท้อง
สาเหตุของอาการไข้ อาจเกิดจากการติดเชือ URI, UTI, common cold, tonsillitis, otitis media, pneumonia,
meningitis, การตอบสนองต่อวัคซีน
การดูแลรักษา อาจให้ยาลดไข้ (Paracetamol, Ibuprofen, Aspirin) หรือรักษาทัว ๆ ไป เช่น เช็ดตัวด้วยนําอุ่น ดืม
นํามาก ๆ ไม่ใส่เสือผ้าหนา ๆ หรือห่มผ้าหนา ๆ
อย่าใช้ยาลดไข้นานเกิน 5 วันโดยไม่ทราบสาเหตุของไข้(ถ้ามีไข้สูงเกิน 5 วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ refer)
การใช้ยาลดไข้
1.1 Paracetamol
เป็นยาทีเลือกใช้เป็นอันดับแรก มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ aspirin ในการลดไข้ มีหลายรูปแบบและหลายความ
เข้มข้นให้เลือกใช้
Dose 10-15 mg/kg q 4-6 hr, max dose 75 mg/kg/day (5 ครังต่อวัน)
1.2 Aspirin
ไม่แนะนําให้ใช้ในเด็กอายุน้อยกว่า 16 ปี หรืออีสุกอีไส หรือ respiratory viral infections Reye’s Syndrome
(encephalopathy, hepatic dysfunction, death)
Dose 10-15 mg/kg q 4-6 hr, max dose 4 g/day รับประทานหลังอาหารทันที
1.3 Ibuprofen
มีประสิทธิภาพในการลดไข้ดีกว่า Paracetamol
ไม่แนะนําให้ใช้ในเด็กทีมีอุณหภูมิไม่สูงมาก หรืออายุน้อยกว่า 6 เดือน (ใช้Paracetamol)
Dose ในเด็ก 6 เดือน-2 ปี
- T < 39 C 5 mg/kg
- T > 39 C 10 mg/kg, max dose 40 mg/kg/day (4-6 ครัง)
2 Common cold, Acute rhinitis
เป็นโรคติดเชือของโพรงจมูกจากเชือไวรัส มีไข้ตํา ๆ หนาว ๆ ร้อน ๆ ปวดเมือยตามตัว ร่วมกับอาการนํามูกใส
(อาจเหลืองตอนเช้า) จาม คัดจมูก เจ็บคอ และไอ
การดูแลรักษา ไข้หวัดหายได้เองภายใน 1-5 วัน ไม่เกิน 1 wk ควรรักษาตามอาการโดยให้ยาลดไข้ ยาลดนํามูก
แนะนําให้สังนํามูกออกหรือใช้ลูกยางแดงดูดนํามูก หรือทําnasal irrigation (0.9% NaCl 5-10 cc) ถ้านํามูกเหนียว
แห้ง หยอด 0.9% NaCl 1-2 หยด
การใช้ยาบรรเทาอาการ
1.1 Antihistamines
1st
generation (CPM, brompheniramine, diphenhydramine, tripolidine), 3rd
generation (loratadine, cetirizine,
fexofenadine)
ยาทีมีฤทธิ anticholinergic (1st
gen) ให้ผลลดนํามูกได้ดีกว่า แต่หากใช้ในเด็กเล็กอาจเกิดอาการนอนไม่หลับ
กระวนกระวายได้
4. 1.2 Decongestants สําหรับลดอาการบวมของเยือบุจมูก
Oral decongestants เช่น pseudoephedrine 1 mg/kg tid-qid ไม่แนะนําให้ใช้ในเด็กเล็ก อายุ< 1 ปี
ยาพ่นจมูกหรือหยอดจมูก เช่น 0.5% ephedrine, phenylephrine, naphazoline ไม่แนะนําให้ใช้ในเด็กเล็ก
อายุ < 1 ปี การใช้ติดต่ดกันนานเกิน 5 วัน อาจทําให้เกิด rebound phenomenon (rhinitis medicamentosa, rebound
congestion, rhinorrhea)
1.3 ยาลดอาการไอ
Antitussive (diphenhydramine, dextromethorphan, codeine) ไม่ควรใช้ในเด็ก เพราะทําให้ไอไม่ออก เสมหะ
ค้างและอุดหลอดลมได้
Expectorants (guaifenesin, glyceryl guaiacolate, bromhexine, ambroxol)
Mucolytics (acetylcysteine, carbocysteine)
3. Acute Otitis Media (AOM)
เป็นอาการของหูชันกลางอักเสบ เนืองจากการติดเชือ พบได้บ่อยในเด็กอายุ 6 เดือน-3 ปี เนืองจากเด็กมีท่อ eustachine
สันและทํามุมมากกว่าผู้ใหญ่ เชือก่อโรคทีสําคัญ เช่น S. aureus, H. influenzae, Moraxella catarrhalis เป็นต้น อาการสําคัญ
ได้แก่ ปวดหู กวน จับใบหูหรือเอานิวแหย่รูหู กดเจ็บหลังหู นํามูกไหล หนองไหลออกจากหู ไข้ ถ้าส่องกล้องจะพบเยือแก้วหู
แดง โป่งออกหรือมีฝ่าขุ่น มีนําในหูชันกลาง ถ้าเป็นมากกว่า3 เดือน Chronic Otitis Media
การรักษา รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ 5-7 วัน (AOM ไม่มีภาวะแทรกซ้อน), 10-14 วัน (เด็กอายุ < 2 ปี เยือแก้วหูทะลุ มี
การกลับเป็นซํา immunocompromised)
AOM ไม่มีภาวะแทรกซ้อน Amoxicillin 40-50 mg/kg/day หากเชือเริมดือยา80-90 mg/kg/day bid-tid
กรณีไม่ตอบสนองต่อ Amoxicllin หรืออาการไม่ดีขึนใน 48 hr Amoxiciilin-clavulanic acid (amoxicillin
80-90 mg/kg/day) หรือ 2nd
gen Cephalosporins ชนิดกิน หรือ Ceftriaxone (IM) single dose
กรณีแพ้Beta-lactams azithromycin or clarithromycin or TMP-SMX
4. Acute rhinosinusitis
เป็นอาการติดเชือของโพรงอากาศรอบ ๆ จมูก โดยอาการใน 7 วันแรก ไม่สามารถแยกออกจาก common cold ได้ มัก
พบร่วมกับประวัติภูมิแพ้ อาการหลัก คือ facial pain, facial congestion, nasal obstruction, postnasal drip, fever รับกลินได้ลดลง
และอาการรอง (ทีอาจเกิดได้) คือ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บหู ปวดฟัน มีกลินปาก เชือสาเหตุหลักเหมือนAOM
ควรคํานึงถึง sinusitis เมือ เป็นหวัดนานกว่า 10 วัน และอาการไม่ดีขึน มีไข้สูง นํามูกข้นเขียว ปวดกระบอกตา แก้ม
หรือบริเวณเหนือลูกตา หรือบวมรอบตา มีอาการไอ มักไอมากตอนกลางคืน หายใจมีกลินเหม็น อาจไม่มีไข้หรือไข้ตํา ๆ โดย
แยกจาก allergic rhinitis ตรงที allergic rhinitis จะเป็นซํา ๆ คันจมูกหรือมีอาการภูมิแพ้อืน ๆ ร่วม
การรักษา ให้ Amoxicillin 10-14 วัน (หากแพ้ใช้ Macrolides) หากอาการไม่ดีขึนใน 3-5 วัน หรือกลับเป็นซําใน 2 wk
ใช้ Amoxiciilin-clavulanic acid หรือ 2nd
gen Cephalosporins ชนิดกิน อาจให้ร่วมกับ decongestants, antihistamine (ไม่ควรใช้
รุ่น 1)
5. Colic
เป็นอาการทีเด็กร้องไห้โยเยไม่หยุด โดยเฉพาะเวลาเย็นทุกวัน นานกว่า 2-3 hr/day, 3 day/week และเป็นอยู่นาน 3 wk
ในเด็กอายุ < 3 เดือน มักพบได้บ่อยในเด็กอายุ 1-4 เดือน โดยไม่มีสัญญาณของโรคหรือความเจ็บป่วยอืน ๆ อาจเกิดจากลําไส้
ทํางานหนักเกินไป อากาศไหลเข้าไปในลําไส้ กินเร็ว มากเกินไป หรือกลืนอากาศเข้าไปมาก
การรักษาป้องกัน เช่น การป้องกันการกลืนลมเข้าไป อย่าป้อนนมมากหรือน้อยเกินไป อุ้มทารกพาดบ่าในเรอหลังกิน
นม ใช้ทิงเจอร์มหาหิงคุ์ ทาบาง ๆ ทีหน้าท้อง ใช้ยา Simethicone, Gripe water, Charmomine tea
5. 6. Diarrhea
มีอาการถ่ายเหลว ถ่ายมาก มักเกิดจาก gastroenteritis การติดเชือ retroviruses (ระยะฟักตัว 1-2 วัน) แต่หากมีไข้ ถ่าย
เป็นมูกเลือด กลินเหม็น อาจเกิดจากการติดเชือแบคทีเรีย การตรวจร่างกายทีสําคัญ คือ การประเมินสภาวะขาดนํา (dehydration)
ซึงเป็นสาเหตุการตายทีสําคัญในเด็กอายุ< 4 ขวบ
การประเมินสภาวะขาดนํา สามารถประเมินได้จาก
Tachycardia moderate dehydration
Hypotension severe dehydration
Increase in respiratory rate higher degree of dehydration
กระหม่อมบุ๋ม ปากแห้ง นําลายข้นเหนียว ผิวหนังแห้ง เย็น ขาดความยืดหยุ่น ปัสสาวะน้อย ขุ่น มีความถ่วงจําเพาะมาก
สภาวะขาดนํา
Mild อาการไม่ชัดเจน อาจสังเกตจากการกระหายนํา
Moderate หิวนํา กระสับกระส่าย ร้องกวน ผิวหนังแห้ง ปากแห้ง ตาลึก กระหม่อมบุ๋ม ชีพจรเต้นเร็วขึน
Severe ชีพจรเต้นเร็ว ซึมไม่รู้สึกตัว shock
การรักษา
Rehydration and electrolyte replacement หากอยู่ในระดับ severe dehydration ให้ IV fluid infusion 20 CC of
NSS or lactate Ringer’s solution หากอยู่ในระดับ mild-moderate ให้ ORS สําหรับเด็ก (5-20 cc q 5-10 min)
โดยเฉพาะช่วง 4-6 ชัวโมงแรก ถ้าเด็กอาเจียนระหว่างดืม ORS ให้หยุดดืม 5-10 นาที แล้วค่อยดืมใหม่ ถ้ามีอาการ
อาเจียนร่วมด้วย ให้ค่อย ๆ จิบครังละ 1 ช้อนชา ทุก 5 นาที
หยุดให้นําเกลือ เมือระยะห่างของการถ่ายแต่ละครังมากกว่า 6-8 ชัวโมง หรืออาการขาดนําหายไป
ให้ยาลดการเคลือนไหวของลําไส้ เช่น Loperamide, diphenoxylate ไม่ควรใช้ในเด็กอายุ < 6 ปี และท้องเสียเนืองจาก
การติดเชือ
ให้ยาทีมีฤทธิดูดซับ เช่น Kaolin, pectin, activated charcoal ไม่ช่วยให้อาการดีขึน ถ้าใช้มากกว่า 2 วัน จะทําให้อุจจาระ
แข็งเป็นก้อน ถ่ายลําบาก และไม่ควรใช้ในเด็กอายุ< 3 ปี
ภาวะอุจจาระร่วงส่วนใหญ่หายได้เอง ไม่จําเป็นต้องใช้ยาต้านจุลชีพ ควรหาสาเหตุและแก้ไข ร่วมกับกับให้ ORS
สามารถให้นมแม่ต่อได้หรือให้นมผงชนิดไม่มี lactose ให้อาหารอ่อน
Refer กรณีเด็กอายุ < 3 เดือน
7. ท้องผูก (Constipation)
อาการ คือ ถ่ายลําบาก ปวดท้อง อุจจาระแข็ง หลายวันจึงจะถ่าย มักพบบ่อยในทารกและเด็ก สาเหตุเกิดจากการ
รับประทานอาหารหรือนําไม่เพียงพอ หรือมีการเปลียนจากนมแม่เป็นนมขวด สาเหตุทีเกิดจากโรคมักพบน้อย
การรักษา
แก้ทีสาเหตุ คือ ในเด็กทีสามารถรับประทานอาหารได้ให้เพิมอาหารทีมีกากใย ผัก ผลไม้อาจใช้ยาเหน็บหรือยาสวน
ควรหลีกเลียงยาระบายแบบ stimulant (Senna, Bisacodyl) ในเด็กทารก และไม่แนะนําให้ใช้แบบ chronic use
- ยาเหน็บ glycerin (hyperosmotic) ใช้สําหรับเด็กทารก
- Bisacodyl 5 mg (ยาเม็ด) ใช้ในเด็กอายุ> ปี
- ยาเหน็บทวาร ขนาด mg ใช้ในเด็กอายุ > 2 ปี
- ยาสวนทวาร เช่น Saline enema safe and efficacy เหมาะกับอุจจาระแข็ง ถ่ายยาก
- Bulk forming agents เช่น methylcellulose ใช้ในเด็กอายุ > 6 ปี
6. - Lubricants เช่น mineral oil ใช้ในเด็กอายุ> 6 ปี และให้ระวัง lipid pneumonia จาก GERD และการสําลัก
- Magnesium hydroxide ระวังการเกิดพิษในเด็กทารก และระวังการใช้ในผู้ป่วยเด็กโรคไต
8. ผืนผ้าอ้อม (Nappy rash/ Diaper rash)
พบการเกิดได้ในเด็กอายุ - เดือน สาเหตุเกิดจากการหมักหมมของ urine และ feces บนผิวหนัง โดยเชือแบคทีเรีย
ทําให้เกิดแอมโมเนีย เกิดการทําลายผิวหนัง อาการ คือ มีผืนแดง (erythema), สะเก็ด (scaling) , เป็นตุ่มหนอง (pustules) อาจเกิด
ภาวะแทรกซ้อนจากเชือ Candida ได้ภายใน วัน จะทําให้ผิวแฉะ ชืน และมีกลินเหม็น
การรักษา
รักษาความสะอาดโดยการเปลียนผ้าอ้อมบ่อย ๆ (อย่างน้อยทุก ชัวโมง) ล้างคราบสบู่ให้หมดหลังอาบนํา
First line therapy zinc oxide ointment เป็น antiseptic and astringent และไม่ทําให้เกิดผืนแพ้
Protective agent เช่น zinc oxide, Vaseline, caster oil ointment ให้ความชุ่มชืนแก่ผิวหนัง
Powdered protective agents Talcum
Low potency corticosteroid 1% hydrocortisone apply bid 1 wk สําหรับ severe inflammation
Anticandidal agents clotrimazole, miconazole, nystatin เมือมีการติดเชือ Candida