More Related Content More from samaitiger (11) กติกาบาสเกตบอล1. กติกาบาสเกตบอล(แบบย่อ)
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นระหว่างผู้เล่น 2 ชุด ชุดละ 5 คน โดยมีจุดมุ่งหมายว่า แต่ละชุดต้องนาลูกบอลไปโยน
ให้ลงห่วงประตูของคู่แข่งขัน และพยายามป้ องกันมิให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ครอบครองลูกบอล หรือทาคะแนน ทั้งนี้ผู้
เล่นอาจจะส่ง โยน ปัดกลิ้ง หรือเลี้ยงลูกบอลไปยังทิศทางใดก็ได้ให้ถูกต้องตามกติกา
ทีม
แต่ละทีมจะประกอบไปด้วยผู้เล่นไม่เกิน 10 คน และโค้ช 1 คน ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งจะเป็นหัวหน้าทีม แต่ละทีม
อาจจะมีผู้ช่วยโค้ชอีก 1 คน สาหรับทัวร์นาเมนต์ที่ทีมนั้นจะต้องแข่งขันมากกว่า 3 ครั้ง จานวนผู้เล่นในแต่ละทีม
อาจจะเพิ่มเป็น 12 คนก็ได้ผู้เล่น 5 คนของแต่ละทีมจะต้องอยู่ในสนามแข่งขันระหว่างเวลาการแข่งขัน และ
สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ตามที่ระบุไว้ในกติกา ผู้เล่นของทีมคือผู้เล่นที่อยู่ในสนามแข่งขัน และถูกกาหนดว่า
จะลงแข่งขันนอกเหนือจากนี้แล้วจะเป็นผู้เล่นสารอง ดังนั้นผู้เล่นสารองจะกลายเป็นผู้เล่นเมื่อผู้ตัดสินได้ให้
สัญญาณแจ้งให้เขาเข้าไปในสนามแข่งขัน และผู้เล่นจะกลายเป็นผู้เล่นสารองทันทีที่ผู้ตัดสินได้ส่งสัญญาณแก่ผู้
ที่จะเข้ามาแทนผู้เล่นคนนั้นให้เข้าไปในสนามแข่งขัน ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องมีหมายเลขที่ด้านหน้าและด้านหลัง
ของเสื้อที่ตนสวมใส่ โดยมีลักษณะเรียบธรรมดา (ไม่มีลวดลาย) และมีสีทึบติดกับเสื้อ หมายเลขจะต้องเด่นชัด
สาหรับหมายเลขที่ติดด้านหลังจะต้องสูงไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร และหมายเลขที่ติดด้านหน้าจะต้องสูงไม่
น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ทาด้วยวัสดุที่กว้างไม่น้อยกว่า 2 เซนติเมตร ทีมหนึ่ง ๆ จะต้องใช้หมายเลขตั้งแต่ 4 ถึง
15 ผู้เล่นในทีมเดียวกันจะต้องไม่ใช้หมายเลขซ้ากัน
ชุดที่ผู้เล่นสวมใส่จะต้องประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้
- เสื้อทีม จะเป็นสีเดียว มีลักษณะทึบสม่าเสมอเหมือนกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ต้องสวมใส่โดยผู้เล่นทุกคน
ในทีมนั้นเสื้อที่มีลายทางแบบริ้วลายจะไม่อนุญาตให้ใช้
- กางเกงขาสั้น จะเป็นสีเดียว มีลักษณะทึบสม่าเสมอเหมือนกันทั้งทีม และจะต้องสวมใส่โดยผู้เล่นทุกคนในทีม
นั้น
- เสื้อคอกลม (ทีเชิ้ต) อาจจะสวมใส่ได้ภายในเสื้อทีม แต่ถ้าสวมเสื้อคอกลมจะต้องใช้เสื้อคอกลมมีสีเดียว และ
ให้เหมือนกับสีของเสื้อทีม
- ชุดชั้นในของกางเกง ที่ยื่นเลยต่ากว่ากางเกงขาสั้น อาจจะสวมใส่ได้โดยมีข้อกาหนดว่าจะต้องมีสีเดียว และ
เหมือนกับกางเกงขาสั้น
ในกรณีที่เสื้อทีมมีสีตรงกันให้ทีมเหย้าเปลี่ยนสีเสื้อทีมเมื่อแข่งขันที่สนามกลาง หรือในทัวร์นาเมนต์ทีมที่มีชื่อ
แรกในโปรแกรมการแข่งขัน และต้องเป็นชื่อแรกในใบบันทึกจะต้องเปลี่ยนสีเสื้อทีม เพราะในทัวร์นาเมนต์
หนึ่งๆ แต่ละทีมจะต้องมีเสื้อทีมอย่างน้อย 2 ชุด คือชุดที่เป็นสีจาง และชุดที่เป็นสีเข้ม
สาหรับการแข่งขันที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ให้ทีมที่มีชื่อแรกในโปรแกรมการแข่งขัน (ทีมเหย้า) สวมเสื้อสีจาง
และทีมที่มีชื่อที่สอง (ทีมเยือน) สวมเสื้อสีเข้ม
สาหรับการแข่งขันระดับสาคัญๆ ของฟีบ้า ผู้เล่นในทีมเดียวกันจะต้องปฏิบัติดังนี้
1. สวมรองเท้าซึ่งมีสีเหมือนกัน
2. สวมถุงเท้าซึ่งมีสีเหมือนกัน
2. ผู้เล่นออกจากเขตสนามแข่งขัน
จะไม่อนุญาตให้ผู้เล่นออกจากเขตสนาม เพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่งขันอย่างไม่ยุติธรรม
หัวหน้าทีม หน้าที่ และอานาจ
เมื่อมีเหตุจาเป็น หัวหน้าทีมจะต้องเป็นผู้แทนของทีมในสนามแข่งขันสามารถพูดกับผู้ตัดสินเพื่อขอคาอธิบาย
หรือเพื่อขอทราบข้อมูลที่จาเป็น แต่ต้องกระทาด้วยความสุภาพ ก่อนออกจากสนามแข่งขันด้วยเหตุอันควรใดๆ
ก็ตาม หัวหน้าทีมต้องแจ้งต่อผู้ตัดสินที่หนึ่งว่าผู้เล่นคนใดจะทาหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมแทนขณะที่เขาออกจาก
สนามแข่งขัน
คาอธิบายกติกา ในกรณีบาดเจ็บของผู้เล่น
" ถ้าผู้เล่นที่บาดเจ็บได้รับการพยาบาล เขาต้องถูกเปลี่ยนตัว ถ้าไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่นที่บาดเจ็บในกรณีดังกล่าว ทีม
นั้นจะถูกปรับเป็นเวลานอก "
จุดประสงค์ในกติกาข้อนี้คือ โค้ชมีสิทธิ์ยอมเสียเวลานอก เพื่อให้ผู้เล่นที่บาดเจ็บได้เข้าแข่งขันต่อไป แต่ทีมจะ
ไม่ได้รับเวลานอกเต็ม 60 วินาที เท่ากับเวลานอกปกติ แต่ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่บาดเจ็บภายในเวลา 1
นาที เขาจะไม่มีสิทธิ์แข่งขันต่อและจะต้องถูกเปลี่ยนตัว
ลักษณะของการดาเนินการแข่งขันต่อ
ภายหลังที่มีบอลตายด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม ให้ดาเนินการแข่งขันต่อไปนี้
1. ถ้าทีมใดทีมหนึ่งได้ครอบครองลูกบอลมาก่อน ให้ผู้เล่นของทีมนั้นได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้างใกล้
กับจุดที่ บอลตายมากที่สุด
2. ถ้าไม่มีทีมใดได้ครอบครองลูกบอลมาก่อน ให้เล่นลูกกระโดดที่วงกลมใกล้กับจุดที่บอลตายมากที่สุด
3. หลังการฟาวล์
4. ภายหลังลูกยึด
5. ภายหลังการหมดเวลาแต่ละครึ่งหรือเวลาเพิ่มพิเศษ
6. ภายหลังลูกบอลออกนอกเขตสนาม
7. ภายหลังการทาผิดระเบียบ
ผู้เล่นสารอง
ผู้เล่นสารองก่อนที่จะเข้าไปในสนามต้องรายงานตัวต่อผู้บันทึก และต้องพร้อมที่จะทาการแข่งขันได้ทันที โดยผู้
บันทึกจะต้องให้สัญญาณทันทีที่มีบอลตาย และหยุดเวลาการแข่งขัน แต่ต้องกระทาก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การ
เล่นอีกครั้งหนึ่งภายหลังการทาผิดระเบียบ เฉพาะทีมที่ไม่ได้ทาผิดระเบียบคือ ทีมที่จะส่งลูกบอลเข้าเล่นจาก
นอกเขตสนามทางเส้นข้างมีสิทธิ์เปลี่ยนตัวผู้เล่น ถ้าได้มีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งจะมีสิทธิ์
เปลี่ยนตัวได้ผู้เล่นสารองจะต้องรออยู่นอกเส้นข้างจนกว่าผู้ตัดสินได้ให้สัญญาณจึงจะเข้าไปในสนามแข่งขันได้
อย่างทันที การเปลี่ยนตัวต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้ถ้าผู้ตัดสินเห็นว่ามีการชักช้าโดยไร้เหตุผลอัน
ควร ก็ให้เป็นเวลานอกแก่ทีมที่ล่าช้านั้นผู้เล่นที่จะเล่นลูกกระโดดจะไม่ให้เปลี่ยนตัวกับผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นที่ได้
3. เปลี่ยนตัวออกไปแล้วจะไม่ให้เข้าไปในสนามแข่งขันอีกในช่วงการเปลี่ยนตัวเดียวกันจะไม่ให้มีการเปลี่ยนตัว
ในกรณีต่อไป
1. ภายหลังการทาประตูได้ เว้นแต่ว่าได้มีการให้เวลานอก หรือมีการขานฟาวล์ หรือ
2. จากช่วงเวลาตั้งแต่ลูกบอลเข้าสู่การเล่นเพื่อการโยนโทษครั้งแรก หรือครั้งเดียว กระทั่งได้มีบอลตายอีกครั้ง
หนึ่งของช่วงเวลาการเดินนาฬิกาจับเวลาการแข่งขัน หรือกระทั่งมีการขานฟาวล์ หรือมีการกระทาผิดระเบียบ
ก่อนจะเดินนาฬิกา การลงโทษสาหรับการโยนโทษ การเล่นลูกกระโดด หรือการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอก
สนามทางเส้นข้าง
ข้อยกเว้น ในกรณีที่มีการทาฟาวล์ระหว่างการโยนโทษ จะอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวได้แต่เฉพาะเมื่อการ
ดาเนินการโยนโทษและการฟาวล์ก่อนหน้านั้นได้เสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น และก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การเล่น
สาหรับโทษของการฟาวล์ครั้งใหม่ ภายหลังการโยนโทษครั้งเดียวหรือครั้งสุดท้ายได้ผล เฉพาะผู้โยนโทษ
เท่านั้น จะอนุญาตให้เปลี่ยนตัวได้โดยมีข้อแม้ว่าต้องขอเปลี่ยนตัวไว้ก่อนลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นเพื่อโยนโทษ
ครั้งแรกหรือครั้งเดียวเท่านั้น ในกรณีนี้อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะเปลี่ยนตัวได้คนหนึ่ง โดยมีข้อแม้ว่าได้ขอเปลี่ยนตัวไว้
ก่อนที่ลูกบอลจะเข้าสู่การเล่นก่อนการโยนโทษครั้งสุดท้ายหรือครั้งเดียวนั้น ภายหลังจากที่ผู้บันทึกได้ให้
สัญญาณเพื่อการเปลี่ยนตัว ไม่อาจจะบอกยกเลิกการขอเปลี่ยนตัวได้อีก อย่างไรก็ตาม จะขอยกเลิกการขอ
เปลี่ยนตัวได้ทุกเวลา ก่อนที่ผู้บันทึกจะให้สัญญาณว่ามีการขอเปลี่ยนตัว
คาอธิบายกติกา
การเปลี่ยนตัว
1. เมื่อเกิดการฟาวล์ การโยนโทษจะพิจารณาเป็นชุดหรือเป็นกลุ่มของการฟาวล์
คานิยาม
ชุด อาจจะมีลักษณะดังนี้ คือ โยนโทษ 1 ครั้ง หรือโยนโทษ 1+1 หรือ โยนโทษ 2 ครั้ง หรือโยนโทษ 3 ครั้ง
กลุ่ม อาจจะมีลักษณะดังนั้น คือ
- โยนโทษ 1+1 และโยนโทษ 2 ครั้ง
- โยนโทษ 2 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง + การครอบครองบอล
- โยนโทษ 1 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง
- และการโยนโทษลักษณะผสมใด ๆ ของกลุ่มที่นอกเหนือจากนี้
2. ถ้าภายหลังได้เริ่มดาเนินการโยนโทษของกลุ่มการโยนโทษ แล้วปรากฎว่ามีการฟาวล์ หรือการทาผิดระเบียบ
เกิดขึ้นก่อนจะเริ่มเดินเวลาการแข่งขัน การลงโทษคือ การโยนโทษ (ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง) การเล่นลูก
กระโดด หรือการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้างอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็ให้เปลี่ยนตัวเพิ่มได้อีก
ตาแหน่งของผู้เล่นและผู้ตัดสิน
ตาแหน่งของผู้ตัดสินจะถูกกาหนดโดยจุดสัมผัสกับพื้นสนามเมื่ออยู่ในอากาศจากการกระโดด จะมีสภาพ
เช่นเดียวกับตอนสัมผัสพื้นสนามครั้งสุดท้ายเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับเส้นขอบของสนามเส้นกลาง เส้นเขต
กาหนดการยิงประตูเพื่อทา 3 คะแนนเส้นโยนโทษ หรือเส้นกาหนดเขตโยนโทษ
4. ตาแหน่งของผู้ตัดสินจะถูกกาหนดเหมือนกับผู้เล่น เมื่อลูกบอลถูกตัวผู้ตัดสินก็เสมือนกับถูกพื้นสนามใน
ตาแหน่งที่ผู้ตัดสินยืน
วิธีเล่นลูกบอล
กีฬาบาสเกตบอลคือ การเล่นลูกบอลด้วยมือ แต่การพาลูกบอลวิ่ง การเตะลูกบอล หรือการชกลูกบอล เป็นการ
ทาผิดกติกา การเตะลูกบอลหรือสกัดลูกบอลด้วยส่วนหนึ่งส่วนใดของผู้เล่นเป็นการทาผิดกติกาได้เมื่อการ
กระทาโดยจงใจเท่านั้นและการที่เท้าหรือขาถูกลูกบอลโดยไม่ถือเป็นการทาผิดกติกา การครอบครองลูกบอล ผู้
เล่นได้ครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นถือลูกบอลหรือเลี้ยงลูกบอลดี หรือในกรณีที่ครอบครองลูกบอลนอกเขต
สนามก็ต่อเมื่อลูกบอลอยู่ในมือของผู้เล่นเพื่อส่งลูกบอลเข้าเล่น ทีมครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นของทีมนั้นได้
ครอบครองลูกบอล รวมทั้งเมื่อลูกบอลถูกส่งไปมาระหว่างผู้เล่นของทีมนั้น ซึ่งทีมจะได้ครอบครองลูกบอล
ต่อไปจนกระทั่งคู่แข่งขันได้แย่งการครอบครองลูกบอล หรือเกิดมีบอลตาย หรือได้มีการยิง
ประตูตอนที่ลูกบอลหลุดออกจากมือผู้ยิงประตูไปแล้ว
- ผู้เล่นออกนอกเขตสนาม-ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
- ผู้เล่นจะออกนอกเขตสนามเมื่อสัมผัสพื้นบนเส้นขอบสนาม หรือนอกเขตสนาม
- ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เมื่อถูกสิ่งต่อไปนี้
1. ผู้เล่นหรือบุคคลอื่นผู้ซึ่งอยู่นอกเขตสนาม หรือ
2. พื้นหรือวัตถุอื่นใดนอกเขตสนาม หรือ
3. สิ่งค้ายันหรือด้านหลังของกระดานหลัง
การที่ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
ลูกบอลถูกทาให้ออกนอกเขตสนาม โดยผู้เล่นคนสุดท้ายที่ถูกลูกบอลก่อนที่ลูกบอลจะออกนอกเขตสนาม โดย
ถูกสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากผู้เล่น ผู้ตัดสินจะต้องแสดงสัญญาณอย่างชัดเจนว่าทีมใดจะได้ส่งลูกบอลเข้าเล่น
จากนอกเขตสนามการทาให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เป็นการทาผิดกติกา ผู้ตัดสินต้องขานลูกยึดเมื่อไม่แน่ใจ
ว่าทีมใดทาให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
การเลี้ยงลูกบอล
การเลี้ยงลูกบอลจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นได้ครอบครองลูกบอล แล้วทาให้ลูกบอลเคลื่อนที่โดยการโยน ปัด หรือกลิ้ง
ลูกบอลแล้วไปถูกลูกบอลอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะไปถูกผู้เล่นคนอื่น ในการเลี้ยงลูกบอลนั้น ลูกบอลจะต้องถูกพื้น
สนามภายหลังจากการทาให้ลูกบอลเคลื่อนที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นจะสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอลทันทีที่เขาได้สัมผัสลูก
บอลด้วยสองมือพร้อมๆ กัน หรือทาให้ลูกบอลพักอยู่ในมือใดมือหนึ่งหรือทั้งสองมือ ไม่จากัดว่าผู้เล่นจะต้อง
ก้าวเท้ากี่ก้าว ขณะที่ลูกบอลไม่สัมผัสมือของเขา ผู้เล่นจะต้องไม่เลี้ยงลูกบอลครั้งที่สองภายหลังการเลี้ยงลูกบอล
ครั้งแรกสิ้นสุดลง เว้นแต่ว่าได้เสียการครอบครองลูกบอลเพราะเหตุต่อไปนี้
1. ทาการยิงประตู หรือ
2. ถูกคู่แข่งปัดลูกบอลออกจากการครอบครอง หรือ
5. 3. การส่งหรือการทาลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ แล้วลูกบอลไปถูกผู้เล่นคนอื่น หรือผู้เล่นคนอื่นถูกลูกบอล
ผู้เล่นที่โยนลูกบอลใส่กระดานหลังแล้วไปถูกลูกบอลอีกก่อนที่ลูกบอลจะถูกผู้เล่นคนอื่น เป็นการทาผิดกติกา
เว้นแต่ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการยิงประตู
ข้อยกเว้น ต่อไปนี้ไม่ใช่การเลี้ยงลูกบอล
1. การยิงประตูต่อเนื่องกัน
2. เสียการครอบครองลูกบอลโดยบังเอิญ (การที่ลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ) ตอนเริ่มต้นหรือตอนสิ้นสุด
การเลี้ยงลูกบอล และได้ครอบครองลูกบอลอีกครั้ง
3. ความพยายามที่จะครอบครองลูกบอล โดยการปัดลูกบอลจากผู้เล่นคนอื่นที่พยายามครอบครองลูกบอล
4. ปัดลูกบอลจากการครอบครองของผู้เล่นคนอื่น
5. สกัดกั้นการส่งเพื่อให้ได้ลูกบอลไว้ครอบครอง หรือ
6. โยนลูกบอลไปมาจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่ง (หรือทั้งสองมือ) และถือลูกบอลไว้ก่อนที่ลูกบอลจะถูกพื้น
สนาม โดยมีข้อแม้ว่าผู้เล่นคนนั้นไม่ได้ทาผิดกติกาว่าด้วยการเคลื่อนที่พร้อมลูกบอล การเลี้ยงลูกบอลครั้งที่สอง
เป็นการทาผิดกติกา
บทลงโทษ
ให้คู่แข่งขันได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้าง ณ จุดที่ใกล้กับการทาผิดกติกามากที่สุด
การหมุนตัว
การหมุนตัวจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นที่กาลังถือลูกบอลก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งเพียงเท้าเดียว 1 ก้าว หรือหลายๆ ก้าวใน
ทิศทางต่างๆ โดยเท้าอีกข้างหนึ่งจะเป็นเท้าหลัก (หรือเท้าหมุน) ซึ่งยังคงสัมผัสพื้น ณ จุดที่ตนยืนอยู่นั้น
การเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอล (วอคกิ้ง)
ผู้เล่นอาจจะเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอลไปในทิศทางใดก็ได้ภายใต้ระเบียบต่อไปนี้
ระเบียบข้อที่ 1 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ยืนอยู่นิ่ง ๆ อาจจะหมุนตัวโดยเท้าใดเท้าหนึ่งเป็นเท้าหลักก็ได้
ระเบียบข้อที่ 2 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ตนเองกาลังเคลื่อนที่ หรือเมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอล อาจจะใช้การ
นับสองจังหวะเพื่อหยุด หรือเพื่อส่งลูกบอลให้พ้นจากตัวไป
การนับจังหวะที่หนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อ
1. เมื่อผู้เล่นได้ลูกบอล ถ้าเท้าใดเท้าหนึ่งถูกพื้นสนามในตอนที่ได้รับลูกบอล หรือ
2. เมื่อเท้าใดเท้าหนึ่ง หรือทั้งสองเท้าถูกพื้นสนามพร้อมกัน ภายหลังจากผู้เล่นได้รับลูกบอล ขณะที่เท้าทั้งสอง
ข้างของผู้เล่นไม่ถูกพื้น (เท้าพ้นพื้น เช่น ลอยตัวในอากาศ)
การนับจังหวะที่สอง จะเกิดขึ้นภายหลังจากการนับจังหวะที่หนึ่งแล้ว เมื่อเท้าใดเท้าหนึ่งหรือทั้งสองเท้าถูกพื้น
สนามพร้อม ๆ กัน ผู้เล่นที่ได้หยุดในจังหวะที่หนึ่งของการนับช่วงจังหวะ จะไม่มีสิทธิ์เคลื่อนที่ต่อในจังหวะที่
สอง เมื่อผู้เล่นได้หยุดตามกติกาแล้ว ถ้าเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ล้าหน้ากัน ก็อาจจะหมุนตัวได้ แต่เท้าหลังเท่านั้นที่จะ
เป็นเท้าหลัก อย่างไรก็ตาม ถ้าเท้าทั้งสองอยู่ในแนวเดียวกัน อาจจะใช้เท้าใดเท้าหนึ่งเป็นเท้าหลักในการหมุน
6. ระเบียบข้อที่ 3 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ยืนนิ่ง ๆ หรือได้หยุดตามกติกาขณะที่ถูกลูกบอล
1. อาจจะยกเท้าหลักหรือกระโดดขึ้นเพื่อยิงประตู หรือส่งลูกบอล แต่ลูกบอลจะต้องหลุดจากมือก่อนเท้าที่ยก
พ้นพื้นหรือทั้งสองเท้าถูกพื้นสนามอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าผู้เล่นฝ่ายปกป้ องกันจะถูกลูกบอลด้วยมือใดมือหนึ่ง
หรือทั้งสองมือก็ตาม ถ้ามือที่จับลูกบอลนั้นยึดลูกบอลแน่นจนไม่มีใครจะได้ครอบครองลูกบอลโดยปราศจาก
ความรุนแรง ผู้ตัดสินต้องขานลูกยึด หรือ
2. ไม่อาจจะยกเท้าหลัก เมื่อเริ่มต้นการเลี้ยงลูกบอลก่อนที่ลูกบอลจะหลุดจากมือการเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอล
นอกเหนือจากกติกาเหล่านี้เป็นการทาผิดระเบียบ
บทลงโทษ
ให้คู่แข่งขันได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้าง ณ จุดที่ใกล้กับการทาผิดกติกามากที่สุด
ลูกยึด
ผู้ตัดสินไม่ควรขานลูกยึดเร็วเกินไป ซึ่งจะทาให้การแข่งขันหยุดชะงัก และทาให้ขาดความยุติธรรมที่ผู้เล่นต้อง
เสียลูกบอลที่ตนกาลังครอบครอง หรือกาลังจะได้ครอบครอง ผู้ตัดสินจะขานลูกยึดก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นอย่างน้อย
ฝ่ายละหนึ่งคนยึดลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือไว้อย่างมั่นคง จนกระทั่งไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถจะ
ครอบครองลูกบอลได้โดยปราศจากความรุนแรง และไม่ควรขานลูกยึดโดยเพียงพิจารณาจากเหตุผลที่ว่า ฝ่าย
ป้ องกันได้ใช้มือสัมผัสลูกบอลเท่านั้น การขานในลักษณะเช่นนี้จะไม่ยุติธรรมต่อผู้เล่นที่ได้ครอบครองลูกบอล
อย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
การเล่นลูกกระโดด จะเกิดขึ้นเมื่อ
1. เมื่อมีการขานลูกยึด ถ้ามีผู้เล่นมากกว่า 2 คน เกี่ยวข้องให้โยนลูกบอลเพื่อเล่นลูกกระโดดระหว่างผู้เล่น
ดังกล่าวฝ่ายละคนที่มีความสูงใกล้เคียงกัน
2. ถ้าลูกบอลออกนอกเขตสนาม และผู้เล่นทั้งสองฝ่ายถูกลูกบอลพร้อมๆ กัน ก่อนที่ลูกบอลจะออกนอกเขต
สนาม หรือถ้าผู้ตัดสินไม่แน่ใจว่าใครถูกลูกบอลเป็นคนสุดท้าย หรือผู้ตัดสินขัดแย้งกันเอง ก็ให้ดาเนินการเล่น
ต่อไปด้วยลูกกระโดดระหว่างผู้เล่นสองคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ณ วงกลมที่ใกล้ที่สุด
3. เมื่อลูกบอลติดค้างที่ก้านห่วง ให้ดาเนินการเล่นต่อไปด้วยลูกกระโดดที่เส้นโยนโทษที่ใกล้ที่สุดระหว่างผู้เล่น
สองคนใดก็ได้จากทั้งสองฝ่าย
ผู้เล่นอยู่ในลักษณะการยิงประตู เมื่อผู้ตัดสินได้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้เล่นคนนั้นได้เริ่มพยายามที่จะทาประตูโดย
การโยนยังห่วงหรือปัดลูกบอล และลักษณะความพยายามนี้จะต้องต่อเนื่องจนกระทั่งลูกบอลได้หลุดมือเขาไป
ข้อยกเว้น
ผู้เล่นที่ปัดลูกบอลจากการเล่นลูกกระโดดให้ตรงไปยังห่วงประตู ไม่ใช่อยู่ในลักษณะการยิงประตู
คานิยาม การโยน การยัดห่วง และการปัดลูกบอล
การโยน คือการถือลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือ แล้วส่งแรงให้ลูกบอลลอยไปยังห่วงประตู
การยัดห่วง คือการออกแรง หรือความพยายามที่จะออกแรงยัดลูกบอลลงห่วงประตูด้วยมือเดียวหรือสองมือ
การปัดลูกบอล คือการตีลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือให้ไปยังห่วงประตู
7. ผู้เล่นอยู่ในลักษณะยิงประตู
สาหรับการฟาวล์ที่กระทาต่อผู้เล่นที่อยู่ในลักษณะการยิงประตู ผู้ตัดสินพึงพิจารณาว่าการฟาวล์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้
เกิดขึ้นภายหลังที่ผู้ยิงประตูได้เริ่มต้นการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของแขน (ข้างเดียวหรือสองข้าง) เพื่อการยิง
ประตู
การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง คือ
1. เริ่มต้นภายหลังที่ลูกบอลได้พักอยู่ในมือ (มือเดียวหรือสองมือ) ของผู้เล่น และเริ่มต้นเคลื่อนที่เพื่อยิงประตู
2. อาจจะรวมทั้งการเคลื่อนไหวของแขน (ข้างเดียวหรือสองข้าง) และ / หรือลาตัวที่ผู้เล่นได้พยายามเพื่อยิง
ประตู
กติกาว่าด้วย 3 วินาที
ผู้เล่นจะต้องไม่อยู่ภายในเขตกาหนดเวลาของคู่แข่งขันต่อเนื่องกันเกินกว่า 3 วินาที เขตนี้อยู่ระหว่างเส้นหลัง
และขอบนอกของเส้นโยนโทษ ในขณะที่ทีมของตนกาลังครอบครองลูกบอล กติกาว่าด้วย 3 วินาที จะใช้บังคับ
ทุกกรณี เช่น ลูกบอลออกนอกเขตสนาม จะเริ่มการนับเวลาตั้งแต่งผู้เล่นจะส่งบอลเข้า เล่นได้ยืนอยู่นอกสนาม
และมีลูกบอลอยู่ในครอบครอง ซึ่งกติกาทั้งหมดเกี่ยวกับการสิ้นสุดเวลาของการแข่งขันจะถูกบังคับใช้เกี่ยวกับ
การทาผิดกติกาว่าด้วย 30 วินาที
ข้อเสนอแนะ
การที่คู่แข่งขันเพียงแต่สัมผัสลูกบอล จะไม่ทาให้ต้องเริ่มเวลา 30 วินาทีใหม่ ถ้าทีมเดิมยังคงได้ครอบครองลูก
บอลต่อไป
ลูกบอลกลับสู่แดนหลัง (pass back)
ผู้เล่นที่ทีมของตนได้ครอบครองลูกบอลในแดนหน้า ต้องไม่ทาให้ลูกบอลกลับสู่แดนหลังของตน นอกจากลูก
บอลจะถูกทาให้กลับสู่แดนหลังโดยผู้เล่นคนสุดท้ายของทีมที่ได้ครอบครองลูกบอล ได้ถูกก่อนที่ลูกบอลจะ
กลับสู่แดนหลัง ระเบียบนี้บังคับใช้กับทุกกรณีที่เกิดขึ้นในแดนหน้าของทีม รวมทั้งการส่งลูกบอลเข้าเล่นจาก
นอกเขตสนามด้วย อย่างไรก็ตาม จะไม่รวมไปถึงการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากกึ่งกลางสนามที่เส้นข้าง ลูกบอล
กลับสู่แดนหลังของทีม เมื่อลูกบอลถูกผู้เล่นในทีมเดียวกันซึ่งมีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายสัมผัสกับเส้นกลาง
หรือพื้นสนามต่ากว่าเส้นกลาง หรือผู้เล่นของทีมนั้นได้ถูกลูกบอลเป็นคนแรกภายหลังจากที่ลูกบอลถูกพื้น
สนามในแดนหลัง
บทลงโทษ
ให้คู่แข่งขันได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเขตสนามตรงกึ่งกลางเส้นข้างโดยผู้ส่งต้องยืนคร่อมเส้นกลางที่ยื่น
ออกนอกเขตสนาม และมีสิทธิ์ที่จะส่งลูกบอลไปยังผู้เล่น ณ จุดใดก็ได้ในสนามแข่งขัน
ข้อเสนอแนะ
ผู้เล่นที่อยู่ในแดนหน้า และได้รับครอบครองลูกบอลโดยตรงจากการเล่นลูกกระโดดที่วงกลมกลางสนาม ไม่
สามารถจะส่งลูกบอลหรือเลี้ยงลูกบอลกลับสู่แดนหลัง
8. ข้อยกเว้น
จะไม่เป็นการทาผิดกติกา เมื่อมีการเล่นลูกกระโดดที่วงกลมกลาง ผู้เล่นได้กระโดดจากแดนหน้าไปครอบครอง
ลูกบอลในอากาศโดยตรงจากการเล่นลูกกระโดด และลงสู่พื้นสนามในแดนหลังด้วยเท้าเดียว หรือทั้งสองเท้า
คาอธิบายกติกา
ลูกบอลกลับสู่แดนหลัง ภายใต้กติกาข้อนี้ " ขณะเล่นลูกกระโดดที่วงกลมกลาง ผู้เล่นอาจจะกระโดดจากแดน
หน้าของตนเพื่อครอบครองลูกบอลที่ยังอยู่ในอากาศ และลงสู่พื้นสนามในแดนหลังด้วยเท้าเดียวหรือสองเท้าก็
ได้" เพื่ออธิบายสถานการณ์ให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น ฉะนั้น
1. ถ้าผู้เล่นลงสู่พื้นสนามด้วยสองเท้า อาจจะส่งลูกบอลหรือเลี้ยงลูกบอลในแดนหลัง
2. ถ้าผู้เล่นลงสู่พื้นสนามด้วยเท้าหนึ่งในแดนหลัง และอีกเท้าหนึ่งในแดนหน้า (คร่อมเส้นกลาง) จะไม่อนุญาต
ให้ทาสิ่งต่อไปนี้
2.1 ยกเท้าที่อยู่ในแดนหน้า
2.2 เลี้ยงลูกบอลในแดนหลัง
2.3 ส่งลูกบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมในแดนหลัง
การทาผิดระเบียบ
การทาผิดระเบียบ คือการทาผิดกติกา ซึ่งบทลงโทษคือเสียสิทธิ์การครอบครองลูกบอล
การทาฟาวล์
การฟาวล์ คือการทาผิดกติกา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถูกต้องตัวกัน (ปะทะกัน) กับคู่แข่งขัน หรือแสดงมารยาทที่ไม่
มีน้าใจนักกีฬา ทั้งนี้จะถูกขานต่อผู้กระทาผิด และถูกลงโทษตามที่ระบุไว้ในกติกาที่เกี่ยวข้อง
การฟาวล์ มีทั้งหมด 5 แบบ
1. ฟาวล์บุคคล
2. ฟาวล์เจตนา
3. ฟาวล์คู่
4. ฟาวล์ซ้อน
5. ฟาวล์เทคนิค
การผิดระเบียบการเล่น
1. วอคกิ้ง
2. เบิ้ลบอล
3. พาสแบค(ส่งบอลกลับแดนหลัง)
4. 3 วินาที
5. เลี้ยงผิดวิธี(พักบอล)
6. เหยียบเส้นส่งบอลเข้าสนาม
7. 30 วินาที(ไม่ทาประตู)
8. 5 วินาที(ไม่ส่ง,เลี้ยง,ยิง) 10 วินาที(ไม่พาบอลไปแดนคู่ต่อสู้) ครูเสือการพิมพ์ 2546