More Related Content
Similar to ใบงานที่ 2-8 (20)
More from aomsin33834 (14)
ใบงานที่ 2-8
- 3. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการ
ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อืนๆ ใน
การศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ
เพือนาผลงานทีได้มาประยุกต์ใช้
งานจริง หรือเพือใช้ช่วยสร้างสือ
เสริมการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพยิงขึ้น โครงงาน
คอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทาง
วิทยาศาสตร์ทีช่วยให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครือง
คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อม
ทั้งเครืองมือต่างๆในการแก้ปัญหา
รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้าง
ผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึงทีผู้เรียน
สามารถศึกษาปัญหาทีตนสนใจ ซึงอาจเป็น
ปัญหาทีต้องใช้ความรู้ทีเกียวกับคอมพิวเตอร์มา
ผสมผสานกัน ซึงบางโครงงานอาจต้องใช้
ความรู้อืนๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวาง
แผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรือ
อุปกรณ์ทีเกียวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน
การพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรืองอาจ
ต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากทีมีอยู่ ซึง
ผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพือให้ใช้
งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนา
โครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและ
ให้คาปรึกษาของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้าน
ต่างๆ
- 6. โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานทีได้จากการศึกษาค้นคว้าตาม
ความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทีมีการเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานทีตนเองสนใจ รวมทั้งเชือมโยง
ความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพือสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที
ปรึกษาและให้คาแนะนา
ความสามารถทีเกิดจากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เป็น
กิจกรรมการเรียนรู้ทีทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ ทีสาคัญ 5ประการ
- 8. 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
-การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
-การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้
จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
-การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
-การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใด
และไม่ควรทาโครง งานใดเนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น
โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด
อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
-การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการ
พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือ
ประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี
ผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา
- 9. 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา
เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ
และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และ
กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียน
สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้
อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
- 11. 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดย
อาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์
และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้
ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษา
ค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
- 12. 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงาน
และการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ
ตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียน
ตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
- 17. ซึงรูปทีได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับ
ซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการ
ออกแบบสิงของต่าง ๆ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และ
ต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์
คานวณค่าและภาพทีควรจะเป็นมาให้ เพือพิจารณาและแก้ไขภาพ
แจกันทีออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เช่น โปรแกรมประเภท 3D
- 21. โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที
ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิงของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางาน
หรือทดสอบคุณภาพของสิงประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน
ประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกียวกับเครืองคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ
เครืองมือต่าง ๆ ทีเกียวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใน
การพัฒนาด้วย เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพือประยุกต์ใช้งานจริง
ในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับ
การผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการ
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึงอาจจะสร้างใหม่หรือ
ปรับปรุงดัดแปลงของเดิมทีมีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้