ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อื่นๆ

1. หน่วยที่ 2 ฮาร์ดแวร์
(Hardware)

2. ความหมายของฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์ (Hardware) แยกได้2 ส่วน
Hard แปลว่า ของแข็ง
Ware แปลว่า ผลิตภัณฑ์
เมื่อมารวมกัน ฮาร์ดแวร์
(Hardware)หมายถึง อุปกรณ์หรือ
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแข็ง ซึ่งได้แก่
ส่วนประกอบทุกชิ้นส่วนของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ หรือเป็นอุปกรณ์ที่จับต้องได้

3. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ส่วน
ที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง
อุปกรณ์ต่อพ่วง ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
คอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและ
สัมผัสได้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการ
ประมวลผลข้อมูลตามชุดคาสั่งที่ป้อนเข้าสู่
ระบบ เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด
และเมาส์ เป็นต้น

4. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง
อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานร่วมกับ
คอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่มองเห็นและจับต้อง
ได้ โดยมีทั้งที่ติดตั้งอยู่ภายในและภายนอก
ตัวเครื่อง บางครั้งนิยมเรียกว่า
“device” ซึ่งจะทางานประสานกัน
ตั้งแต่การป้อนข้อมูลเข้า (input) การ
ประมวลผล (process) และการ
แสดงผลลัพธ์ (output) ตามระบบการ
ทางานของคอมพิวเตอร์

5. ส่วนประกอบฮาร์ดแวร์
ตัวเครื่อง (Case) หรือคนส่วนใหญ่มักเรียกว่า ซีพียู ซึ่งเป็นความ
เข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากซีพียูเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่อยู่ภายใน
ตัวเครื่องเท่านั้น มีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาจากอุปกรณ์
ต่าง ๆ โดยภายในตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์หลัก ๆ ได้แก่
แผงวงจรหลัก (Main board)
หม้อแปลงไฟฟ้า (Power supply)
ซีพียู (CPU)
ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)
หน่วยความจา (RAM)
การ์ดแสดงผล (VGA)
การ์ดเสียง (Sound card) เป็นต้น

6. 1.หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทาหน้าที่รับโปรแกรมคาสั่ง
และข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
2.หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing
Unit - CPU) ทาหน้าที่เกี่ยวกับการคานวณทั้ง ทางตรรรกะ
และคณิตศาสตร์ รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคาสั่งที่ได้รับ
3.หน่วยความจา (Memory Unit) ทาหน้าที่เก็บข้อมูลหรือ
คาสั่งที่เก็บ มาจากหน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งไปประมวลผล
ยังหน่วยประมวลผลกลาง และ เก็บผลลัพธ์ ที่ได้มาจากการ
ประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
4.หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทาหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่
คอมพิวเตอร์ทาการประมวลผลหรือผ่านการคานวณแล้ว
5.อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ เป็นอุปกรณ์ที่นามาต่อพ่วงเข้ากับ
คอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานให้

7. 5.1.1 คีย์บอร์ด (Keyboard) เป็นอุปกรณ์หลักของ
คอมพิวเตอร์จะรับข้อมูลจากการกดแป้น แล้วทาการเปลี่ยนรหัส
เพื่อส่งต่อไปให้กับคอมพิวเตอร์เพื่อบอกให้คอมพิวเตอร์รู้ว่ามี
การกดตัวอักษรอะไร
ภายในคีย์บอร์ดจะมีแผงวงจรเพื่อแปลงตัวอักษรที่ผู้ใช้กดลงไป
เป็นรหัส ASCII (แอสกี) ที่เครื่องสามารถแปลความหมายได้
การจัดวงปุ่ มตัวอักษรเป็นไปตามหลักของเครื่องพิมพ์ดีด
คีย์บอร์ดสาหรับเครื่อง PC โดยทั่วไปจะมีประมาณ 101 –
108 ปุ่ ม ส่วนคีย์บอร์ดสาหรับเครื่องโน้ตบุ๊คจะมีจานวนน้อย
กว่า ปุ่ มบนแป้นคีย์บอร์ดจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่
Numeric Key , Fuck Key , Arrow
Key

8. ตัวอย่างคีย์บอร์ด

9. Serial port Parallel Port
PS/2 port USB port

10. เมาส์ (Mouse)
เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้ตาแหน่ง
(Pointer) หรือใช้กาหนดตาแหน่งของ Cursor นาเข้า
ข้อมูลโดยการเลื่อนเมาส์ เพื่อบังคับตัวชี้ไปยังตาแหน่งต่าง ๆ บน
หน้าจอและทาการคลิก (Click) หรือ ดับเบิลคลิก (Double
Click) เช่น แบบทางกล(ไก) (Mechanical Mouse)
, แบบใช้แสง (Optical mouse) , แบบไร้สาย
(Wireless mouse) เป็นต้น

11. เมาส์แบบทางกล(ไก) (Mechanical Mouse)
เมาส์แบบใช้แสง (Optical mouse)
เมาส์แบบ Trackball

12. Touch Pad (Track Pad) มีลักษณะ
เป็นรูปสี่เหลี่ยมแบนราบ พื้นที่สี่เหลี่ยมใช้ควบคุมการ
เคลื่อนที่ของ Pointer โดยการใช้นิ้วมือสัมผัสไปมา
น้าหนักที่กดลงไปจะถูกเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้า ส่วนใหญ่
จะใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค

13. Pointing Stick มีรูปร่างคล้ายยางลบดินสอติด
อยู่บนแป้นคีย์บอร์ด ใช้วิธีการกดที่ปุ่มเพื่อควบคุมการ
เคลื่อนที่ของ Pointer ส่วนมากจะพบบนเครื่อง
โน้ตบุ๊ค

14. Light Pen
Light Pen เป็นอุปกรณ์ไวแสง มีลักษณะคล้าย
กับปากกา ลักษณะการทางานคล้ายกับเมาส์ในการ
ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ ที่ปลายปากกาจะประกอบไปด้วย
เซลล์ที่ไวต่อแสง ส่วนตอนท้ายของปากกาจะมีสายเพื่อ
ต่อไปไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่งข้อมูลเข้าสู่เครื่องด้วย
สัญญาณแสง บางประเภทจะต้องใช้คู่กับจอภาพที่
ออกแบบมาเป็นพิเศษ จึงจะสามารถระบุตาแหน่งที่
ต้องการได้

15. Stylus มีลักษณะคล้ายกับปากกาทั่วไปใช้เขียน
ข้อความหรือวาดเส้นลงบนพื้นผิวที่จัดไว้ให้ แต่เดิม
Stylus ใช้เพื่องานกราฟฟิก แต่ปัจจุบันถูกนามาใช้
กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา

16. Joystick และ Wheel ใช้ควบคุมวัตถุที่อยู่บน
จอภาพ ส่วนใหญ่จะใช้ในการเล่นเกม
Joystick จะมีลักษณะเหมือนคันโยก ส่วน
Wheel จะมีลักษะคล้ายกับพวงมาลัยรถ

17. Microphone เป็นอุปกรณ์นาเข้าด้วยเสียงแล้ว
ขยายเสียงออกทางลาโพง โดยจะทาการแปลง
สัญญาณเสียงเป็นสัญญาณดิจิทัลแล้วส่งไปยัง
คอมพิวเตอร์ การใช้งานให้นาแจ๊คไปเสียบเข้ากับช่อง
ต่อเชื่อมกับการ์ดเสียงบนคอมพิวเตอร์

18. Scanner เป็นอุปกรณ์นาเข้าข้อมูลที่ใช้
การจับหรือตัด (Capture) เฉพาะ
บางส่วนของเอกสารต้นฉบับ (Source
Document) เพื่อนาเข้าข้อมูลแทน

19. Optical Reader
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสงในการอ่านตัวอักขระ
เครื่องหมาย และบาร์โค้ด (Bar Code) ทา
การแปลงสัญญาณข้อมูลให้เป็นสัญญาณ
ดิจิตอล เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทาการ
ประมวลผลได้ทันที
Optical Character Recognition : OCR Optical Mark Recognition : OMR

20. Bar Code Scanner

21. กล้องดิจิตอล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์นาเข้า
ข้อมูลที่เป็นรูปภาพและวิดีโอ แล้วทาการบันทึกภาพในรูปแบบ
ของสัญญาณดิจิตอลลงหน่วยจัดเก็บข้อมูลของกล้องแทนการ
บันทึกลงฟิล์ม เหมาะสาหรับผู้ที่ไม่ต้องการรอดูรูปโดยต้องล้าง
ฟิล์มก่อน เนื่องจากแสดงผลได้ทันทีที่ถ่ายภาพ โดยจะแสดงผล
ผ่านทางหน้าจอที่อยู่บนกล้อง

22. Video PC Camera เป็นกล้องถ่ายวิดีโอดิจิตอลที่
ใช้กับเครื่อง PC ใช้บันทึกภาพและจับภาพเพื่อนา
ข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่เครื่อง เพื่อทาเป็น Web Cam
หรือทาเป็น Video Telephone Call ผ่านเครือข่าย
อินเตอร์เน็ตได้ สามารถพูดคุยและมองเห็นหน้า
ของคู่สนทนาได้

23. Digitizer เป็นอุปกรณ์นาเข้าข้อมูลประเภทพิกัดแผนที่
โดยจะทาการแปลงค่าพิกัดแผนที่ให้เป็นข้อมูลดิจิตอล เพื่อ
นาเข้าสู่หน่วยประมวลผลของเครื่อง

24. Terminal เป็นเครื่องที่รับข้อมูลจากคีย์บอร์ดและเมาส์เพื่อ
ส่งเข้าไปประมวลผลที่เครื่องแม่ข่าย แล้วจะส่งมาแสดงผลที่จอภาพ
หรือทางกระดาษ บางครั้งกล่าวได้ว่า Terminal เป็นทั้ง
อุปกรณ์นาเข้า และแสดงผลข้อมูล ส่วนใหญ่จะพบใน
ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร เช่น เครื่อง POS (Point of
Sale) และตู้ATM
ATM (Automated teller machine)POS (Point of Sale)

25. CPU ปัจจุบัน CPU ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ
มากขึ้น มีความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น แต่มีขนาด
เล็กลง และราคาถูกลง โดย CPU ที่ได้รับความนิยมใน
ท้องตลาดเป็นของบริษัท Intel และ AMD ซึ่งมีความเร็ว
สูงกว่า 2GHz

26. platform
M/B ：ASUS P5B Deluxe
MEM ：G.SKILL 2GBZX Dual Channel
HDD ：Seagate 250g SATAII 16Mb Cache
VGA CARD ：MSI 7900GTO Flash 7900GTX BIOS
POWER: Zippy 850WG1
OS ：WIN XP SP2
CPU COOLER：Tower 120
CPU ：Intel Core 2 Duo Conroe E6600 Retail L628B121

28. เมนบอร์ด (Main board)
เป็นฮาร์ดแวร์ที่สาคัญชิ้นหนึ่งของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็นแผงวงจรหลักที่
ใช้
สาหรับรองรับฮาร์ดแวร์ชิ้นอื่น ๆ ของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น CPU, Memory
และการ์ดต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อเป็นสื่อกลางใน
การติดต่อสื่อสารระหว่างฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้น
จึงเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ Motherboard
”

30. MSI P6NGM (NVIDIA GeForce
7150/nForce 630i)

31. RAM
แรมเป็นหน่วยความจาที่ค่อนข้างมีความสาคัญไม่
น้อยไปกว่าหน่วยความจาอื่น ๆ เนื่องจากใช้เป็นที่
พักข้อมูลชั่วคราวหลังจากนาเข้าผ่าน Input Unit
แรมจาแนกได้หลายประเภทตามการพัฒนาเพื่อ
เพิ่มประสิทธิภาพของแรม ตัวอย่างเช่น
SDRAM และ DDR SDRAM
SDRAM DDRAM

32. อุปกรณ์แสดงผล
หน่วยแสดงผลของระบบคอมพิวเตอร์จะต้องอาศัยอุปกรณ์
แสดงผลชนิดต่าง ๆ เพื่อสื่อสารให้ผู้ใช้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ
อุปกรณ์แสดงผลในปัจจุบันมีดังนี้
Monitor ทาหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่ผ่านการ
ประมวลผลแล้ว ซึ่งอาจอยู่ในรูปของข้อความหรือ
รูปภาพ และจะเรียกผลลัพธ์เหล่านี้ว่า “Soft
Copy” หรือสาเนาชั่วคราว เนื่องจากเป็นการ
แสดงผลแบบชั่วคราวนั่นเอง จอภาพของเครื่อง
คอมพิวเตอร์มีหลายชนิดตามพัฒนาการ

33. VGA (Video Graphic Adapter) จอภาพ VGA คือ
จอภาพที่มีแผงวงจร VGA มีความสามารถในการ
แสดงภาพได้ชัดเจนและสมจริง มาตรฐานของ
จอภาพได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นลาดับ ทั้งในด้าน
ความละเอียด และจานวนสีในการสร้างภาพ จอภาพ
VGA รองรับมาตรฐาน VESA (Video Electronics
Standard Association) ในแต่ละประเภท VGA แบ่ง
ออกเป็น 2 ประเภท คือ CRT และ LCD

34. จอภาพ แบบ CRT
จอภาพแบบ LCD

35. จอภาพแบบสัมผัส (Touch Screen)
จอภาพแบบก๊าซพลาสมา
(Gas Plasma Monitor)

36. ลาโพง (Speaker) เป็นอุปกรณ์แสดงผลด้วย
เสียง ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาคุณภาพเสียง
ของลาโพงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนมีการใช้
“Sub Woofer” เพื่อเพิ่มความหนักแน่นของ
เสียง

37. หูฟัง (Headphone) หูฟังคือลาโพง
ขนาดเล็ก จึงจัดเป็นหน่วยแสดงผล
ข้อมูลด้วย โดยเมื่อต้องการใช้งานให้นา
แจ็คของหูฟังเสียบเข้าที่ช่องต่อเชื่อมกับ
การ์ดเสียงบนคอมพิวเตอร์

38. เครื่องพิมพ์ ทาหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่ได้จากการ
ประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ลงบนกระดาษ
ไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือรูปภาพ เรียกผลลัพธ์นั้น
ว่า “Hard Copy” หรือ “สาเนาถาวร” เครื่องพิมพ์
ถูกพัฒนาประสิทธิภาพในการพิมพ์เรื่อยมาทั้งด้าน
ความเร็วในการพิมพ์ ความละเอียด และความ
ชัดเจนของข้อความหรือรูปภาพที่ได้ จากอดีตจนถึง
ปัจจุบัน เครื่องพิมพ์แบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่น
Impact Printer , Line Printer , Nonimpact
Printer , Thermal Printer , Photo Printer ,
Label Printer , Portable Printer ,

39. Ink Jet Laser Printer
Label Printer Photo Printer

40. Thermal Printer
Portable Printer

41. Plotter จัดเป็นเครื่องพิมพ์ชนิดหนึ่ง แต่จะใช้
เฉพาะกับงานด้านกราฟฟิก เช่น CAD/CAM การ
เขียนแบบ การเขียนผัง แผนที่ และงานกราฟฟิก
ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าเครื่องพิมพ์ธรรมดาจะ
รองรับได้ Plotter จะรับสัญญาณข้อมูลจาก
คอมพิวเตอร์ ที่ส่งมาควบคุมการเคลื่อนที่ของ
ปากกาหรือตลับหมึกพิมพ์ลงบนกระดาษ โดย
สามารถเลือกสีหรือปากกา และกาหนดขนาดของ
เส้นได้

42. Projector โปรเจคเตอร์ เป็นหน่วยแสดงผลข้อมูลที่
สามารถรับสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้ว
แสดงผลแบบขยายขนาดบนฉากรับ ช่วยให้มองเห็นได้
ไกลขึ้น โปรเจคเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้
สะดวก แบ่งเป็น 2 ประเภท
LCD Projector
DLP Projector (Digital Light Processing Protector)
LCD Projector
DLP Projector

43. สื่อบันทึกข้อมูล สื่อหรืออุปกรณ์บันทึก
ข้อมูล จัดเป็นหน่วยความจาสารองที่
ช่วยเสริมศักยภาพให้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เพื่อจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้
ได้มากขึ้น ปัจจุบันอุปกรณ์บันทึก
ข้อมูลมีหลายชนิด เช่น
Floppy Disk , Hard Disk , CD
(Compact Disc) ,

46. Removable Driveเป็นอุปกรณ์จัดเก็บที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
มีขนาดเล็ก แต่มีความจุมากกว่า Floppy Disk หลายเท่า มี
ความจุตั้งแต่ 64 , 128 ไปจนถึง 4 GB ใช้งานสะดวกเพียง
เสียบเข้ากับพอร์ต USB ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้
งานได้ ในปัจจุบัน Removable Drive สามารถใช้เป็น
เครื่องรับฟังวิทยุและเพลงประเภท MP3 ได้ด้วย
Removable Drive มีชื่อเรียกไปหลายแบบ ได้แก่ Pen
Drive , Flash Drive , Handy Drive และ Thumb Drive

47. Magnetic Tape และ Tape Drive
เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) ส่วนใหญ่จะใช้สารอง
(Back Up) ข้อมูลสาหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีความจุ
ประมาณ 20 GB เทปที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต
เพลงจะใช้เทปประเภท ๐Digital Audio Tape : DAT”
ซึ่งเป็นเทปแม่เหล็กที่มีคุณภาพสูงมาก มีขนาด 2 หรือ 3
นิ้ว และมีความจุตั้งแต่ 2 – 24 GB เทปอีกประเภทหนึ่งที่
มีประสิทธิภาพสูงและราคาสูงเช่นกัน คือ “Digital
Linear Tape: DLT” ซึ่งมีความจุตั้งแต่ 10 – 70 GB
ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านข้อมูลจากเทปแม่เหล็ก
เรียกว่า “Tape Drive”

48. Magnetic Tape
และ
Tape Drive

49. Memory Stick มีจุดประสงค์เพื่อจัดเก็บข้อมูล
ดิจิตอลประเภทภาพ เสียง และข้อมูลอื่น ๆ แล้ว
นาไปใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต่างชนิดกันได้
บันทึกข้อมูลลงบนแผ่นทองเหลือง (IC Chip) โดย
นิยมใช้กับกล้องดิจิตอล กล้องถ่ายวิดิโอระบบ
ดิจิตอล โน้ตบุ๊ค เครื่องวอล์กแมน เครื่อง PDA
เครื่อง Play Station และอื่น ๆ มากมาย

50. อุปกรณ์อื่น ๆ
การ์ดแสดงผล (Display Card) เป็นการ์ดที่ทา
หน้าที่แปลงสัญญาณดิจิตอลไปเป็นสัญญาณอะ
นาล็อก ประมวลผลภาพกราฟฟิกทั้งหมด เพื่อ
ส่งไปแสดงผลที่จอภาพ ดังนั้นเนื้อที่บางส่วนของ
RAM จึงต้องถูกแบ่งมาใช้ประมวลผลนี้ด้วย
การ์ดแสดงผลจะเสียบไว้ที่สล็อตที่เมนบอร์ดผ่าน
พอร์ตประเภท AGP (Accelerate Graphic Port:
เป็นพอร์ตเร่งความเร็วกราฟฟิก ซึ่งพัฒนาต่อจาก
พอร์ต PCI)

51. การ์ดแสดงผล

52. การ์ดเสียง (Sound Card) ทาหน้าที่รับ
สัญญาณเสียงจากภายนอกมาประมวลผล แล้ว
เก็บบันทึกไว้เป็นไฟล์เสียง เช่น MPEG , WAV ,
REM เป็นต้น จากนั้นอาศัยซอฟต์แวร์บางชนิด
เพื่อส่งสัญญาณเสียงออกมาทางลาโพงหรือหูฟัง
เช่นเดียวกับการ์ดแสดงผล คือ การ์ดเสียงจะเสียบ
เข้ากับสล็อตของเมนบอร์ด เมนบอร์ดบางรุ่นก็
มีการ์ดเสียงมาให้ (Built in หรือOn Board)

53. Floppy Drive เป็นเครื่องอ่านข้อมูลที่
บันทึกอยู่ในแผ่นดิสก์เก็ต รวมทั้งเขียน
บันทึกข้อมูลลงบนแผ่นดิสก์ได้

54. เครื่องอ่านแผ่น CD (CD-ROM Drive)
ใช้อ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ในแผ่น CD-
ROM โดยมีอัตราการส่งผ่านข้อมูล
หลายระดับด้วยกัน เช่น 40x , 48x ,
และ 52x

55. เครื่องเขียนแผ่น CD (CD Writer) ใช้เขียนหรือบันทึก
ข้อมูลลงบนแผ่น CD และอ่านข้อมูลจากแผ่นได้ จุดสังเกต
ของเครื่องเขียน CD คือ มีตัวเลขแสดงอัตราการส่งผ่าน
ข้อมูล 3 ชุด เรียงต่อกันโดยคั่นตัวเลขแต่ละชุดด้วย
เครื่องหมาย “/” เช่น 8x/4x/32x หมายความว่า อัตราการ
ส่งผ่านข้อมูลในการเขียนแผ่นเป็น 4 เท่า และอัตราการ
ส่งผ่านข้อมูลในการอ่านแผ่นซีดีเป็น 32 เท่า ของอัตราการ
ส่งผ่านข้อมูล 150 KBps เป็นต้น

56. เครื่องอ่านแผ่น DVD (DVD Drive) เป็น
อุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านแผ่น DVD , VCD
หรือ CD ก็ได้ แต่ไม่สามารถเขียนข้อมูลลง
แผ่น DVD , VCD หรือ CD ได้

57. Combo Drive เป็น Drive ที่รวมเอกความสามารถ
ของ DVD Drive และ CD-Writer เข้าด้วยกัน ทาให้
สามารถอ่านแผ่น CD, VCD และ DVD ตลอดจนสามารถ
เขียนแผ่น CD-R , CD-RW ได้ด้วย

58. การ์ดหน่วยความจา (Memory Card) การ์ด
หน่วยความจาแฟลช (Flash Memory Card)
เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พกพา
ได้คล้ายกับ Memory Stick นิยมใช้กับ
โน้ตบุ๊ค

59. การ์ดพีซี (PC Card) หรือเรียกกว่า “PCMCIA” (Personal
Computer Memory Card International Association) เป็น
การ์ดหน่วยความจาเช่นเดียวกับ Memory Stick และ
Memory Card แต่ PCMCIA จะใช้เพื่อเพิ่มหน่วยความจา
ให้กับเครื่อง PC หรือเพื่อเป็นอุปกรณ์ต่อเชื่อมเข้ากับเครื่อง
แบ่งออกเป็น 3 ชนิด เพื่อใช้ในงานที่แตกต่างกันได้แก่
-PCMCIA Type I ใช้เป็นหน่วยความจาเพื่อบันทึกข้อมูลได้
นิยมใช้กับโน้ตบุ๊ค
-PCMCIA Type II ใช้เป็นการ์ด LAN หรือการ์ด Modem
ในโน้ตบุ๊ค เนื่องจากยุคแรก ๆ โน้ตบุ๊คไม่มีการ์ดดังกล่าวอยู่ใน
เครื่อง
-PCMCIA Type III ใช้เป็นการ์ดฮาร์ดดิสก์แบบ ATA

61. การ์ดเครือข่าย (Network Card / LAN Card)
เรียกว่า “NIC (Network Interface Card)” คือ
การ์ด LAN ใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่าย
- โมเด็ม (Modem) “External Modem” ใช้
สื่อสารผ่านทางระบบโทรศัพท์ เพื่อให้เชื่อมต่อเข้า
กับอินเตอร์เน็ต ได้ ปัจจุบันมี Internal Modem ที่
ติดมากับเครื่อง PC
External Modem

62. การ์ดโมเด็ม (Modem Card) “Internal
Modem” คือ โมเด็มที่มีลักษณะเป็น
การ์ด จะติดตั้งมาบนเมนบอร์ดของ
เครื่อง PC ให้แล้ว แต่สาหรับโน้ตบุ๊คจะ
ใช้ PC Card เป็น Modem แทน

63. Fax/Modem Card ทาหน้าที่เป็นเครื่อง
แฟกซ์ และโมเด็มภายในการ์ดเดียวกัน
แต่จะต้องใช้ควบคู่กับซอฟต์แวร์เฉพาะ

64. เครื่อง MFD (Multifunction Device)
เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รวม
ความสามารถของเครื่องแฟกซ์
เครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร และ
เครื่องสแกน เข้าไว้ด้วยกันภายในเครื่อง
เดียว

65. เครื่องจ่ายไฟ (Power Supply) เป็น
อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในเคสของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ใช้แปลงระดับแรงดันไฟฟ้า
ตามอาคารบ้านเรือนให้เหมาะกับเครื่อง
แล้วจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายใน
เครื่อง

66. เครื่องสารองไฟ (UPS) UPS (Uninterruptable Power
Supply) แปลตรงตัวแปลว่า แหล่งจ่ายไฟฟ้าที่ไม่
สามารถขัดขวางได้ (ที่มา : http://se-ed.net/sanambin/h-
ups.html) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาระดับแรงดันของ
กระแสไฟฟ้า และกรองสัญญาณรบกวนจากไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังช่วยจ่ายไฟฟ้าสารองในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับ
ได้ ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทางานต่อไปได้อีก
ประมาณ 10 – 30 นาที ทาให้มีเวลาในการบันทึกข้อมูลได้
ทัน

67. การบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
• การเปิด – ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์บ่อย ๆ เมื่อมีการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
เพื่อใช้งาน จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปในตัวเครื่องทันที ทาให้เกิด
การกระชากของกระแสไฟฟ้าขึ้น ซึ่งหากการกระชากไฟนี้เกินกว่าที่ชิ้น
ส่วนบนแผงวงจรจะรับได้ จะทาให้แผงวงจรนั้นเสียไม่สามารถทางาน
ได้ ดังนั้นถ้าไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ก็
ควรเปิด – ปิดเครื่องให้น้อยที่สุด
• ความร้อน ความร้อนที่เกิดในตัวเครื่อง มาจากการทางานของอุปกรณ์แต่
ละชิ้น หากเกิดความร้อนมากเกินไปจะส่งผลเสียต่ออุปกร์เเหล่านั้นได้
หรืออาจทาให้อุปกร์เเสื่อมสภาพได้เร็วขั้น ดังนั้น ควรมีวิรีระบายความ
ร้อนออกจากเครื่องคอมพิวเตอรเ เช่น การติดพัดลมเพิ่มใน Case
เลือกใช้ Case ที่มีระบบระบายความร้อนที่ดี เช่น Case
แบบ ATX จัดวางเครื่องในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
หลีกเลี่ยงแสงแดด

68. •ฝุ่นละออง ฝุ่นละอองจะเข้าไปขัดขวางทางเดินของกระแสไฟ
บนแผงวงจร ทาให้การทางานติดขัด อีกทั้งฝุ่นละอองยังเป็นตัว
ปิดกั้นไม่ให้ความร้อนระบายออกไปได้
•น้า น้าหรือของเหลว เป็นสาเหตุสาคัญที่สุดที่ทาให้อุปกรณ์ต่าง
ๆ เสียหายได้ เนื่องจากน้าทาให้กระแสไฟฟ้าลดวงจร ดังนั้น จึง
ไม่ควรนาน้าหรือของเหลวใด ๆ เข้าใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่
หากต้องใช้น้าทาความสะอาดควรถอดปลั๊กไฟก่อน และใช้ผ้าชุบ
น้าหมาด ๆ เช็ดทาความสะอาด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้า
•กระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่หล่อเลี้ยงคอมพิวเตอร์ให้สามารถ
ทางานได้ ก็เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน เช่น ไฟตก
ไฟเกิน และไฟกระชาก เป็นต้น

69. •สนามแม่เหล็กไฟฟ้า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจาก
อุปกรณ์ชิ้นอื่นที่วางใกล้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
จะเป็นสัญญาณรบรวนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้
เช่น รบกวนหลอดภาพในจอคอมพิวเตอร์ทาให้
การแสดงสีผิดเพี้ยนไป เป็นต้น

70. การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ
ก่อนการซ่อมบารุงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกครั้ง ต้องปิดสวิตซ์เครื่อง
และดึงปลั๊กไฟออกจากเต้าเสียบ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจาก
กระแสไฟฟ้า และสิ่งต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้เครื่อง
คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ชิ้นต่าง ๆ เสียหาย
•ควรปิดเครื่องให้สนิทอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้หนูหรือ
แมลงสาบเข้าไปทาความเสียหายภายใน

71. •ด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีพัดลมระบายอากาศ
อยู่หนึ่งตัว ซึ่งจะหมุนตลอดเวลาที่เปิดเครื่อง พัดลมตัวนี้จะทา
หน้าที่ดูดอากาศออกจากตัวเครื่องเพื่อระบายความร้อนให้กับ
ระบบจ่ายไฟ จึงควรตรวจที่บริเวณหลังเครื่องเป็นครั้งคราว เพื่อ
ดูว่ามีลมเป่าออกมาหรือไม่ หากไม่มีควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน
มิฉะนั้นจะทาให้อุณหภูมิในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงเกินไปและจะ
มีผลเสียต่อตัวเครื่อง
•ควรเปิดฝาครอบเครื่องออกมาเป่าฝุ่นที่เกาะอยู่ตามแผงวงจร 2
เดือนต่อครั้ง แต่หากเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นมาก ๆ
อาจจะต้องเป่าเดือนละครั้ง ถ้าไม่มีเครื่องเป่าลมก็ให้ใช้แปรงทาสี
ที่มีขนนุ่ม ๆ มาปัดทาความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะบนแผงวงจร
ภายในเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้การระบายความร้อนดีขึ้น

72. •ควรต่อสายดินจากเคสส่วนที่เป็นโลหะ แล้วนาไปต่อกับโลหะ
ชิ้นอื่นที่ตั้งอยู่บนพื้น เช่น ท่อน้าเหล็ก ประตูเหล็ก โครงฝ้าที่
เป็นอลูมิเนียม เพื่อให้สามารถระบายกระแสไฟฟ้าลงดินได้ การ
ต่อสายดินนี้จะช่วยแก้ปัญหาไฟรั่วจากตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทา
ให้ไม่ถูกไฟดูดเวลาเผลอไปแตะตัวเครื่อง รวมทั้งช่วยลดความ
รุนแรงจากปัญหาไฟกระชากได้อีกด้วย
•ในพื้นที่ที่มีปัญหาไฟดับ ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชากอยู่บ่อย ๆ
ควรซื้อยูพีเอส (UPS) มาใช้งาน
•อุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางชิ้นต้องใช้ปลั๊ก 3 ตา ดังนั้น ควรใช้
ปลั๊กรางสาหรับคอมพิวเตอร์ 1 ชุด (ไม่ควรใช้ตลับไฟที่เป็น
ม้วนกลมเนื่องจากไม่ปลอดภัย)

73. •เมื่อปิดเครื่องแล้วต้องการเปิดใหม่ ควรรออย่างน้อย 10 วินาที แล้ว
จึงจะเปิดเครื่องอีกครั้ง เพื่อให้กระแสไฟไหลออกจากตัวเครื่องให้
หมดก่อน เนื่องจากหากปิดแล้วเปิดเครื่องทันทีจะทาให้จอภาพเสีย
เร็ว
•ควรนาคีย์บอร์ดมาคว่าแล้วเคาะฝุ่นละอองที่ติดตามซอก ออกเดือน
ละครั้ง หรือใช้น้ายาเช็ดทาความสะอาดเพื่อให้สามารถกดปุ่มได้
อย่างไม่มีปัญหา
•การดูแลรักษาเมาส์ ควรถอดลูกกลิ้งในเมาส์มาล้างในน้าอุ่น และ
ขูดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่แกนหมุนภายในเมาส์ เนื่องจากหากแกนนี้
สกปรกจะทาให้เมาส์เคลื่อนที่ได้ไม่สม่าเสมอ ควรทาความสะอาด
ประมาณ 1 – 2 เดือนต่อครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้ารู้สึกว่าเมาส์
เคลื่อนที่ไม่ราบเรียบ นอกจากนี้ควรใช้แผ่นรองเมาส์และทาความ
สะอาดแผ่นรองเมาส์ให้สะอาดอยู่เสมอ

74. Elements