More Related Content
Similar to Projectm6 2-2556
Similar to Projectm6 2-2556 (20)
Projectm6 2-2556
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร 6
่
่
ปีการศึกษา 2556
ชือโครงงาน พิมเสน คลายสมอง
่
ชือผู้ทาโครงงาน
่
1.นางสาวอริศรา สุทธาชัย เลขที่ 5
2.นางสาวศศินภา พรมแก้ว เลขที่ 15
ิ
3.นางสาวจิราพร แก้วทิมบุตร เลขที่ 29
ชืออาจารย์ทปรึกษาโครงงาน
่
ี่
ครูเขือนทอง มูลวรรณ์
่
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
้
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาวอริศรา สุทธาชัย เลขที่ 5
2.นางสาวศศินิภา พรมแก้ว เลขที่ 15
3.นางสาวจิราพร แก้วทิมบุตร เลขที่ 29
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) พิมเสนคลายสมอง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Borneol Relax
ประเภทโครงงาน สิ่งประดิษฐ์
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวอริศรา สุทธาชัย เลขที่ 5
2.นางสาวศศินิภา พรมแก้ว เลขที่ 15
3.นางสาวจิราพร แก้วทิมบุตร เลขที่ 29
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
- 3. 3
ระยะเวลาดาเนินงาน 2 เดือน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการ
ทาโครงงาน)
โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก การอุตสาหกรรมรมก็เยอะ มลพิษก็
มากมายเป็นเหตุให้ร่างกายของคนในปัจจุบันเริ่มเสื่อมโทรม เกิดโรคต่างๆ
มากมายในตอนนี้ ยากับสมุนไพรก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนสนใจนิยมนามาใช้
รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ทั้งสามารถหาได้ง่ายตามทองถิ่นและราคาก็ไม่
แพง
สมุนไพรเป็นพืชที่สามารถขึ้นได้ตามท้องถิ่น หาได้ง่าย ราคาไม่แพงเหมือนกับยา
ที่ได้จากการสังเคราะห์ ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงกับร่างกายมาก สมุนไพรยังสามารถ
ใช้ประโยชน์ได้อีกมาก สามารถนามาหารายได้เป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่งด้วย
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อนาสมุนไพรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. เพื่อนาสมุนไพรมาใช้รักษาอาการเวียนศีรษะ
3. เพื่อเป็นการเผยแพร่ว่าสมุนไพรนั้นมีประโยชน์มากมายขนาดไหน
4. เพื่อให้คนรู้จักอนุรักษ์ภมิปัญญาของตนเอง
ู
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. เพื่อใช้สมุนไพรที่มอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ี
2. เพื่อให้รู้จักอนุรักษ์สิ่งทีอยู่ในประเทศไทย
่
- 4. 4
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ตารายาแผนโบราณ: ใช้พิมเสนเป็นยาขับเหงื่อ ขับเสมหะ กระตุ้นการหายใจ
กระตุ้นสมอง บารุงหัวใจ ใช้เป็นยาระงับความกระวนกระวาย ทาให้ง่วงซึม แก้ลม
วิงเวียน หน้ามืด หัวใจอ่อน บารุงหัวใจ ทาให้ชุ่มชื่น ทาให้เรอ ขับผายลม แก้จุกเสียด
แน่นเฟ้อ แก้ปวดท้อง แก้บาดแผลสด แผลเรื้อรัง แผลกามโรค แผลเนือร้าย ผสมใน
้
ตารับยาหอม เช่น ยาหอมเทพจิตร ยาหอมนวโกฐ มีสรรพคุณโดยรวมคือแก้ลมวิงเวียน
หน้ามืดตาลาย
การกลั่นใบและยอดอ่อนของหนาดด้วยไอน้า จะได้พิมเสนตกผลึกออกมา
นามาทาเป็นยากิน แก้ปวดท้อง ท้องร่วง หรือใช้ขับลม ใช้ภายนอกเป็นผงใส่บาดแผล
แก้แผลอักเสบ แก้กลากเกลื้อน และแผลฟกช้า
ตาราพระโอสถพระนารายณ์: ระบุ “ตารับยาทรงนัตถุ” เข้าเครื่องยา 17 สิ่ง
์
ใช้ปริมาณเท่าๆกัน รวมทั้ง พิมเสนด้วย ผสมกัน บดเป็นผงละเอียด ใช้นัตถุ์แก้ลม
ทั้งหลาย ตลอดจนโรคที่เกิดในศีรษะ ตา และจมูก อีกขนานหนึ่งเข้าเครื่องยา 15 สิ่ง
รวมทั้งพิมเสนด้วย บดเป็นผงละเอียด ห่อผ้าบาง ทาเป็นยาดม แก้ปวดหัว วิงเวียน แก้
สลบ แก้ริดสีดวงจมูก คอ และตา นอกจากนี้พมเสนยังใช้เป็นส่วนผสมใน “ตารับยาสีผึ้ง
ิ
บี้พระเส้น” ใช้ถูนวดเส้นที่แข็งให้หย่อนได้ และในตารับ “สีผึ้งขาวแก้พิษแสบร้อนให้
เย็น”