SlideShare a Scribd company logo
พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
                ิ




                                      โดย
                             นายจิตรภณ คิดอ่าน
                           นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย
                           นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์

                          นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7




การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ
                (Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286
       ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
                              ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
                                   โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
                ิ




                                      โดย
                             นายจิตรภณ คิดอ่าน
                           นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย
                           นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์

                          นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7




การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ
                (Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286
       ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
                              ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
                                   โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
ชื่องานวิจัย : พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม
ผู้จัดทา : 1.นายจิตรภณ คิดอ่าน            ชั้นม.5/7 เลขที่ 7
            2.นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย ชั้นม.5/7 เลขที่ 19
            3.นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์ ชั้นม.5/7 เลขที่ 37
โรงเรียน : โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ครู ทปรึกษา : คุณครู ยงศักดิ์ กระจ่างแจ้ง
      ี่              ิ่


                                             บทคัดย่ อ
           งานวิจยระดับชั้นมัธยมศึ กษาปี ที่ 5 มี จุดประสงค์ดงนี้ 1) ทราบถึ งระยะเวลาของการใช้
                   ั                                              ั
อินเตอร์ เน็ตส่ วนมากของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม 2) ทราบถึงพฤติกรรม
การใช้อินเตอร์ เน็ตว่าใช้เพื่ออะไร
            การดาเนิ นงานค้นคว้าและเรี ยบเรี ยงงานวิจยเรื่ องพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต มีข้ นตอน
                                                         ั                                    ั
1) กาหนดชื่ อเรื่ อง 2) กาหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า 3) วางโครงเรื่ อง 4) จัดทาแบบร่ าง
5) ตรวจทานและแก้ไข 6) จัดทาฉบับจริ ง
            ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่าในปั จจุบนอินเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิต ที่ช่วย
                                               ั
ในการติดต่อสื่ อสารผ่านทาง Social Network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้าม
ประเทศและในปั จจุ บ นอิ นเตอร์ เน็ ต ยัง ช่ วยอานวยความสะดวกสบายต่ า งๆ ในการสื บ ค้นข้อมู ล
                        ั
รวมทั้งการให้ความบันเทิงในรู ปแบบต่าง ๆ
บทที่ 1
                                                 บทนา
ความเป็ นมาและความสาคัญของงานวิจัย
          เนื่ องจากในปั จจุ บนอิ นเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิตช่ วยในการติดต่อสื่ อสาร
                              ั
ผ่านทาง Social network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้ามประเทศ และในปั จจุบน                    ั
อิ นเตอร์ เน็ ตยังช่ วยอานวยความสะดวกต่า งๆ ในการสื บค้นข้อมูล รวมทั้งการให้ความบันเทิ ง ใน
รู ปแบบต่างๆการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ จานวนมากทาให้เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ
การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ
มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก
วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ
                                                                            ่
ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด            ้
          ดังนั้นการใช้งานอินเตอร์ เน็ ตจึงมีผลอย่างมากต่อการศึ กษาของไทย โดยเฉพาะการใช้งาน
อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนภายในสถานศึกษา โดยส่ วนใหญ่แล้วการใช้งานอินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนจะ
เป็ นไปในแนวทางอื่ น ที่ ไ ม่ เ กี่ ย วข้อ งกับ การศึ ก ษา จึ ง ท าให้ ผู ้วิ จ ัย อยากจะทราบถึ ง การใช้ ง าน
อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนในด้านต่างๆ ที่เป็ นปั จจัย และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการศึกษาของนักเรี ยน

วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาความต้องการและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต
2. เพื่อศึกษาความหมาย ความสาคัญ ประเภท ของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต
                                                                    ้
3. เพื่อศึกษาถึงลักษณะความแตกต่างของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต
                                                            ้
4. เพื่อศึกษาแนวโน้มในการใช้งานอินเทอร์ เน็ต

สมมติฐานของงานวิจัย
1.ปัจจัยด้านคุณลักษณะของ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต
                   ่
2.ปั จจัยด้านที่อยูอาศัยมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
3.ปั จจัยเกี่ยวกับอุปนิสัยส่ วนตัวมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
4.ปัจจัยด้านการศึกษามีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
5.ผลกระทบจากการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต
ขอบเขตงานวิจัย
           นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมจานวน 50 คน
นิยามศัพท์เฉพาะ
1.พฤติ ก รรม (Behavior) คื อ กริ ย าอาการที่ แ สดงออกหรื อปฏิ กิ ริ ย าโต้ต อบเมื่ อ เผชิ ญ กับ สิ่ ง เร้ า
(Stimulus) หรื อสถานการณ์ ต่าง ๆ อาการแสดงออกต่าง ๆ เหล่านั้น อาจเป็ นการเคลื่อนไหวที่สังเกต
ได้หรื อวัดได้ เช่น การเดิน การพูด การเขียน การคิด การเต้นของหัวใจ เป็ นต้น ส่ วนสิ่ งเร้าที่มากระทบ
แล้วก่อให้เกิดพฤติกรรมก็อาจจะเป็ นสิ่ งเร้าภายใน (Internal Stimulus) และสิ่ งเร้าภายนอก (External
Stimulus)
2. อินเทอร์เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ
เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี
                                                   ่
เรี ยกว่า โพรโทคอล(Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้สามารถสื่ อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมลล์
                                  ้
เว็บบอร์ ดและสามารถสื บค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆรวมทั้งคัดลอกแฟ้ มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้
บทที่ 2
                         แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยที่เกียวข้ อง
                                               ั ่
ในการศึกษาวิจยเรื่ อง “พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน
             ั
พะเยาพิทยาคม” ผูวจยได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้องดังนี้
                      ้ิั                               ั
               1. ความรู ้เกี่ยวกับอินเตอร์ เน็ต
                          1.1 ความหมายของอินเตอร์เน็ต
                          1.2 ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต
                          1.3 บริ การของอินเตอร์เน็ต
               2. พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต

1 .อินเตอร์ เน็ตคืออะไร
        อินเทอร์ เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึ ง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ
เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี
                                            ่
เรี ยกว่า โปรโทคอล (Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้ ส ามารถสื่ อสารถึ งกันได้ใ นหลายๆ ทาง อาทิ เช่ น
                                    ้
อี เ มลล์ เว็บ บอร์ ด และสามารถสื บ ค้น ข้อ มู ล และข่ า วสารต่ า งๆ รวมทั้ง คัดลอกแฟ้ มข้อมู ล และ
โปรแกรมมาใช้ได้

2.ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต
        การเชื่ อมต่ อคอมพิ วเตอร์ จานวนมากท าให้เครื อข่ า ยอิ นเตอร์ เน็ ต มี ก ารแลกเปลี่ ย นข้อมู ล
ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ
การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ
มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก
วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ
                                                                  ่
ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด้

3.บริการบนอินเตอร์ เน็ต
                                  ่         ู้         ่
   ระบบอินเตอร์ เน็ตมีเครื อข่ายทัวโลกจึงมีผคนนิยมใช้ผานบริ การต่าง ๆ ดังนี้
      1. E-mail (Electronics mail) หรื อไปรษณี ยอิเล็กทรอนิ กส์ เป็ นบริ การรับส่ งข้อความผ่าน
                                                     ์
เครื อข่ ายคอมพิ วเตอร์ ผูใช้สามารถส่ งข้อมู ลข่ าวสารไปยัง ผูรับคนอื่ น ๆ ได้ ถ้าผูรับ มี ที่ อยู่ตาม
                           ้                                  ้                     ้
ข้อกาหนดการใช้ E-mail
2. World Wide Web หรื อ WWW เป็ นบริ การข้อมูลบนอินเตอร์ เน็ตที่ได้รับความนิยมสู ง ใน
ปั จจุบน จุดเด่นของ WWW ที่มีเหนื อบริ การอื่นๆ ในอินเตอร์ เน็ตได้แก่ความง่ายในการใช้งานและ
          ั
รู ปแบบการแสดงผลแบบไฮเปอร์ เท็กซ์ที่เชื่อมโยงจากข้อมูลชุดหนึ่งไปสู่ ขอมูลอีกชุดหนึ่ง ซึ่ งจะมีท้ ง
                                                                                 ้               ั
แบบข้อความปกติหรื อมัลติมีเดีย เสี ยง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
       3. IRC (Internet Relay Chat) เป็ นการสนทนาโต้ตอบกันบนอินเตอร์ เน็ต โดยใช้การพิมพ์
ข้อความหรื อใช้เสี ยง โดยอาจสนทนากันเป็ นกลุ่มหรื อระหว่างบุคคล 2 บุคคลก็ได้ การสนทนาใน
รู ปแบบนี้ เป็ นที่นิยมมาก เนื่ องจากเป็ นการแลกเปลี่ ยนความคิดเห็ นพูดคุ ยได้ทนที เรี ยกว่า Talks
                                                                                   ั
หรื อ Chat
 4. ประโยชน์ ของการใช้ อนเตอร์ เน็ต
                                ิ
       1. เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต ทาให้ระบบการเรี ยนการสอนในห้องเรี ยนเดิม เปลี่ยนไปเป็ นการเปิ ด
โลกของนักเรี ยนให้รับรู ้ข่าวสาร สังคม วัฒนธรรมทัวโลก    ่
        2. ทาให้ผูเ้ รี ย นจัดหาข้อมู ลสารสนเทศได้อย่างมากมาย หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็ นรู ป แบบ
ข้อความ ภาพ เสี ยง
        3. ทาให้ผเู้ รี ยนฝึ กทักษะการสื บค้นข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลาและมีอิสระ
        4. สนับสนุนการสื่ อสารและการร่ วมมือกันระหว่างผูเ้ รี ยนด้วยกัน ผูปกครอง ครู
                                                                             ้
        5. ฝึ กทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
5.โทษของการใช้ อนเตอร์ เน็ตติดต่ อกันหลายชั่วโมง
                         ิ
      1. อินเทอร์ เน็ตเป็ นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทาให้การควบคุมกระทาได้ยาก
                                       ่
      2. มีขอมูลที่มีผลเสี ยเผยแพร่ อยูปริ มาณมาก
            ้
      3. ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทาให้การค้นหากระทาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
      4. ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริ ง ต้องดูให้ดีเสี ยก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลันแกล้งจากเพื่อน
                                                                               ่
      5. ถ้าเล่นอินเทอร์ เน็ตมากเกินไปอาจเสี ยการเรี ยนได้
พฤติกรรมและสิ่ งทีมีอิทธิพลต่ อพฤติกรรม
                             ่
   พฤติกรรม
                                                                      ่
      กันยา สุ วรรณแสง ได้ให้ความหมายของคาว่าพฤติกรรมไว้วา คือกิริยา อาการ บทบาท ลี ลา ท่าที
การประพฤติ ปฏิบติ การกระทาที่แสดงออกให้ปรากฏสัมผัสได้ดวยประสาทสัมผัสทางใดทางหนึ่ ง
                           ั                                            ้
ของประสาทสัมผัสทั้งห้าซึ่ งสามารถวัดได้ดวยเครื่ องมือ
                                                 ้
 สิ่ งทีมีอทธิพลต่ อพฤติกรรม
        ่ ิ
1.พันธุ กรรม คือ การถ่ายทอดบุคลิกลักษณะจากปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่สู่ลูกหลาน มีลกษณะทางกายและ
                                                                                     ั
ทางสติปัญญา
่
2.สิ่ งแวดล้อม หมายถึง สิ่ งต่างๆ ที่อยูรอบตัวเป็ นสิ่ งเร้ากระตุนให้บุคคลแสดงออกโต้ตอบในลักษณะ
                                                                 ้
ต่างๆ กันซึ่ งมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ ได้แก่
          2.1. สิ่ งแวดล้อมทางบ้าน เช่น การอบรมเลี้ ยงดู ฐานะทางเศรษฐกิ จและสังคมของครอบครัว
               บรรยากาศภายในบ้าน สิ่ งเหล่านี้ลวนมีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของเด็กมาก
                                                  ้
          2.2. สิ่ งแวดล้อมทางโรงเรี ยน อันได้แก่ ครู อาจารย์ เพื่อนนักเรี ยน สภาพบรรยากาศภายใน
               โรงเรี ยน
          2.3. สิ่ ง แวดล้อมทางชุ ม ชน ได้แก่ ขนบธรรมเนี ย ม สื่ อสารมวลชนต่ า งๆ ก็ ล้วนแล้วแต่ มี
               อิทธิ พลต่อพฤติกรรม
                                  ่
          2.4. วัฒนธรรม คนที่อยูในชั้นของสังคมที่แตกต่างกัน มีพ้ืนฐานทางสังคมที่แตกต่างกัน จะมี
               พฤติกรรมต่างกัน เพศ อายุ ความเชื่อ ค่านิยม ฯลฯ
          2.5. ภูมิประเทศ มีอิทธิ พลโน้มนาให้ลกษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมต่างกัน
                                                ั

การจูงใจให้ เกิดพฤติกรรม
        พฤติ กรรมเป็ นผลมาจากมนุ ษย์แสดงปฏิ กิริยาตอบสนองต่อสิ่ งเร้ า หรื อแรงจูงใจ พฤติ กรรม
บางอย่างมีแรงจูงใจหลายอย่างรวมกัน ซึ่ งปั จจัยในการจูงใจให้เกิ ดพฤติ กรรม กันยา สุ วรรณแสง
ได้แก่
        1. แรงจูงใจทางกาย เป็ นแรงจูงใจที่ เกิดจากความต้องการทางร่ างกาย เช่น ความหิ ว ความ
กระหาย
       2. แรงจูงใจทางสังคม เป็ นสิ่ งที่เกิดขึ้นภายหลังการเรี ยนรู ้ อาจแบ่งออกได้หลายอย่าง ดังนี้
          2.1. แสดงความต้องการทางสังคมที่คล้อยตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมของชุมชน
               ของตน
          2.2. ความต้องการอย่างเดียวกัน อาจทาให้คนเรามีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน เช่น เมื่อต้องการ
               ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม บางคนเข้าห้องสมุด ในขณะที่บางคนค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
          2.3. พฤติกรรมอย่างเดียวกันอาจเนื่ องมาจากความต้องการที่แตกต่างกันได้ เช่น บางคนชอบ
               ใช้อินเตอร์เน็ตเพราะต้องการหาความรู้ ในขณะที่บางคนต้องการความบันเทิง
          2.4. พฤติ ก รรมอย่า งใดอย่า งหนึ่ ง อาจสนองความต้องการได้มากกว่า หนึ่ ง อย่า งในเวลา
               เดี ย วกัน เช่ น นั ก เรี ยนที่ ใ ช้ อิ น เตอร์ เ น็ ต เพราะต้อ งการข่ า วสารข้อ มู ล และความ
               เพลิดเพลิน
อย่างไรก็ตามสาหรับนักเรี ยนมัธยมศึกษา ซึ่ งอยู่ในช่วงวัยรุ่ น ยังมีปัจจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมอีก
ดังนี้
่ ้
         1. ปั จจัยทางบ้าน เนื่องจากนักเรี ยนใช้เวลาอยูบานเป็ นส่ วนมาก ปั จจัยทางบ้านจึงมีอิทธิ พล
ต่ อ พฤติ ก รรมของนัก เรี ย นวัย รุ่ นเป็ นอย่า งมากสิ่ ง ต่ า ง ๆ ที่ มี อ ยู่แ ละเกิ ดขึ้ น ในบ้า นล้วนส่ ง ผลถึ ง
พฤติกรรม เช่น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว จานวนสมาชิกภายในบ้าน ความพร้อมของครอบครัว
ฐานะทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สิ่ งอานวยความสะดวก เป็ นต้น
        2. ปั จจัยทางโรงเรี ยน เป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของนักเรี ยนเป็ นอย่างมาก ถึงแม้วา              ่
                       ่                     ่ ้
นักเรี ยนจะใช้เวลาอยูโรงเรี ยนน้อยกว่าอยูบาน แต่โรงเรี ยนก็เป็ นสถานที่ ที่นกเรี ยนได้เรี ยนรู ้สิ่งต่างๆ
                                                                                            ั
ปั จ จัย ทางโรงเรี ยน เช่ น ประเภทของโรงเรี ยน ขนาดของโรงเรี ยน ชื่ อ เสี ยงของโรงเรี ยน
สภาพแวดล้อมภายในโรงเรี ยน
                                      ่
       3. ปั จจัยทางชุมชน ถือได้วาเป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมที่สาคัญอีกประการหนึ่ งการที่
                ่
นักเรี ยนได้อยูในท่ามกลางชุมชนแบบใด ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมตามแบบอย่างที่ได้พบ
เห็น ปั จจัยทางชุมชน เช่น ขนาดของชุมชน ที่ต้ งและสภาพแวดล้อม เป็ นต้น
                                                   ั
        4. เพื่อน ถือได้วาเป็ นอิทธิ พลที่สาคัญที่สุดของวัยรุ่ น เพราะวัยรุ่ นเป็ นวัยที่ตองการ การยอมรับ
                          ่                                                                     ้
จากกลุ่มเพื่อน สังคมของวัยรุ่ นส่ วนใหญ่จึงเป็ นสังคมของเพื่อน โดยอิทธิ พลของกลุ่มเพื่อน

พฤติกรรมการสื่ อสาร
      ในการแสวงหาข้อมู ล ข่ า วสารผ่า นอิ นเตอร์ เน็ ต ผูใ ช้ส ามารถที่ จะควบคุ ม ข้อมู ล ข่ า วสารที่
                                                            ้
ต้องการเปิ ดรับหรื อเลือกปฏิเสธข้อมูลข่าวสารที่เห็นว่าไม่น่าสนใจได้อย่างสะดวก ปั จจัยที่สาคัญที่ใช้
ประกอบการตัดสิ นใจรับข่าวสารแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล มีดงนี้        ั
    1. ความสะดวกในการใช้ บุ คคลจะเลื อกใช้สื่อที่ อยู่ใกล้ตวและมี ความสะดวกในการใช้มาก
                                                                ั
        ที่สุด
    2. ความเด่น บุคคลเลือกให้ความสนใจกับสาร ที่มีจุดเด่นต่างไปจากสารอื่น
    3. ประสบการณ์ ทาให้ผรับสารแสวงหาข่าวสารต่างกัน
                              ู้
    4. การใช้ประโยชน์ของข่าวสาร ผูรับสารจะแสวงหาข่าวสารเพื่อสนองวัตถุ ประสงค์อย่างใด
                                         ้
        อย่างหนึ่ง
    5. การศึกษาและสถานะทางสังคม การศึกษาและชั้นทางสังคมมีอิทธิ พลอย่างยิ่งต่อการเลื อก
        ของ ผูรับสาร
                ้
งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้ อง
อินเตอร์ เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในสถาบันการศึกษา ซึ่ งก็ได้มีผทาการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้
                                                             ู้
อินเตอร์ เน็ต ไว้ดงนี้ั
   องอาจ ฤทธิ์ ทองพิทกษ์ (2539) ได้ศึกษาเรื่ อง พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บของ
                        ั
นักศึกษาในเขตกรุ งเทพมหานคร พบว่า
    1. นัก ศึ ก ษาส่ วนใหญ่ มี การใช้การสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไวด์เว็บที่ ม หาวิท ยาลัย และสนใจ
       เปิ ดรับเนื้อหาประเภทบันเทิงมากที่สุด

   2. นักศึกษาที่มีความแตกต่างกันในเรื่ อง เพศ อายุ และความเป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มี
      พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บแตกต่างกันอย่างมีนยสาคัญทางสถิติ โดยเพศ
                                                                       ั
      ชายมี พ ฤติ ก รรมการสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ มากกว่า เพศหญิ ง และนัก ศึ ก ษาที่ เป็ น
      เจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีพฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บมากกว่านักศึกษาไม่
      เป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์
   3. นักศึกษามีการใช้ประโยชน์จากระบบเวิลด์ไวด์เว็บ เพื่อการพัฒนาตนเองในด้านวิชาการและ
      ทัก ษะการใช้ง านระบบเวิล ด์ไ วด์เ ว็บ และใช้ระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ ในการตอบสนองความ
      ต้องการด้านข่าวสารและการพักผ่อนหย่อนใจ
บทที่ 3
                                         วิธีการดาเนินงาน
              การวิจยครั้งนี้เป็ นการวิจยเชิงสารวจ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยน
                         ั               ั
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา
วิธีดาเนินการวิจย โดยกล่าวถึงวิธีการศึกษาค้นคว้า
                           ั
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจย           ั
2. เครื่ องมือที่ใช้ในการวิจย     ั
3. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
4. การวิเคราะห์ขอมูล         ้
5. สถิติที่ใช้ในการวิจย        ั
โดยจะเสนอตามลาดับดังต่อไป
1.ประชากร
             ประชากรของการวิจยครั้งนี้ เป็ นนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษา 5 ปี การศึกษา 2555 ที่กาลัง
                                    ั
              ่
ศึกษาอยูในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม
กลุ่มตัวอย่ างทีใช้ ในการวิจัย
                       ่
             กลุ่มตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม ปี การศึกษา 2555
จานวน 50 คน
2.เครื่องมือทีใช้ ในการวิจัย
                     ่
          แบบสอบถาม ซึ่ งแบ่งออกเป็ น 2 ตอน คือ
การสร้ างเครื่องมือ
ผูวจยได้สร้างเครื่ องมือที่ใช้สาหรับการเก็บข้อมูลเพื่อการวิจย เป็ นลาดับขั้นตอนดาเนินการดังนี้
    ้ิั                                                             ั
              ขั้นวางแผนเพื่อสร้างแบบสอบถาม
              ผูวจยได้วางแผนในการสร้างแบบสอบถามตามขั้นตอน ดังนี้
                 ้ิั
ขั้ น ที่ 1 ศึ ก ษาบทบาทของอาจารย์ที่ ป รึ กษา ในสถาบัน ต่ า ง ๆ จากเอกสาร ต ารา และปรึ กษา
ผูทรงคุณวุฒิ เพื่อกาหนดกรอบแนวคิดเบื้องต้น
    ้
ขั้นที่2 ศึกษาปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติ กรรมการใช้อินเตอร์ เน็ ตทางสังคมตลอดจนภาพรวม ปั ญหา
และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และนาข้อมูลที่ได้รวมกับข้อมูลตอนที่ 1 มาพัฒนาเป็ นเครื่ องมือสาหรับ
การวิจยต่อไป
           ั
ขั้นที่ 3 รวบรวมข้อมูลที่ ได้จากขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 มากาหนดปั จจัยที่ มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมการใช้
อินเตอร์เน็ต
ตอนที่ 1 สอบถามข้อมูลทัวไปเกี่ยวกับผูตอบแบบสอบถา เป็ นแบบสอบถามแบบเลือกตอบ
                                     ่               ้
เติมคาในช่องว่างและประมาณค่า โดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ
1.1 เพศ แบ่งเป็ น เพศชายและเพศหญิง
1.2 ระดับชั้นที่ศึกษา แบ่งเป็ น ตอนปลาย
1.3 การใช้คอมพิวเตอร์ ต่อสัปดาห์
1.4 การมีคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อระบบอินเตอร์ เน็ตใช้ที่บาน ้
        ตอนที่ 2        เป็ นแบบสอบถามแบบประมาณค่าโดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั จจัยที่ส่งผลต่อ
พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ต
3.วิธีการเก็บรวบรวมข้ อมูล
การรวบรวมข้อมูลมีวธีการ ดังนี้
                        ิ
     1. ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต แล้วจึงออกแบบแบบสอบถาม
          พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต
     2. สร้ า งแบบสอบถาม โดยแบ่ ง ออกเป็ น 3 หั ว ข้อ หลัก ดัง นี้ สถานที่ ที่ นัก เรี ย นใช้บ ริ ก าร
          อินเทอร์เน็ต ช่วงเวลาที่นกเรี ยนใช้บริ การอินเทอร์ เน็ตของโรงเรี ยน บริ การทางอินเทอร์ เน็ตที่
                                   ั
          นักเรี ยนนิยมใช้ จานวน 50 ชุด
     3. แจกแบบสอบถามให้นกเรี ยนกรอก และเก็บรวบรวมมาวิเคราะห์ขอมูล
                                 ั                                           ้
4.การวิเคราะห์ ข้อมูล
          เมื่อ ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จึงได้นามาตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถาม
จากนั้น จึ ง แจ้ง ระดับ คะแนน วิ เ คราะห์ ข ้อ มู ล และน าเสนอ โดยผูวิ จ ัย นาข้อ มู ล ที่ เ ก็ บ รวบรวมมา
                                                                      ้
วิเคราะห์หาค่าสถิติ โดยใช้โปรแกรมสาเร็ จรู ป SPSS (Statistical Package for Social Sciences) โดยใช้
สถิติดงนี้
        ั
          ตอนที่ 1เป็ น แบบสอบถามเกี่ ย วกั บ สถานภาพและรายละเอี ย ดส่ วนตั ว ของผู้ต อบ
แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้ความถี่ ( Frequency ) และค่าร้อยละ ( Percentage )
          ตอนที่ 2 เป็ นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนโรงเรี ยนสิ ริน
ธรราชวิทยาลัย นครปฐม วิเคราะห์ขอมูลดังนี้
                                       ้
          วิ เ คราะห์ โดยการหาค่ า เฉลี่ ย ( Mean) และค่ า ส่ วนเบี่ ย งเบนมาตรฐาน( Standard
Deviation) พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต โดยนามาหาค่าเฉลี่ยและส่ วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน มี 5 ระดับ
ดังนี้
นาหนักการตัดสิ นใจ คะแนน
 ้
       มีความต้องการมากที่สุด 5
       มีความต้องการมาก 4
       มีความต้องการปานกลาง 3
       มีความต้องการน้อย 2
       มีความต้องการน้อยที่สุด 1

เกณฑ์ การแปลความหมายของคะแนน
         เพื่อ ให้การแปลความหมายของผลการวิเคราะห์ขอมูลสอดคล้องกับความเป็ นจริ ง ผูวจยจึง
                                                  ้                               ้ิั
กาหนดเกณฑ์การแปลความหมายของคะแนนเฉลี่ยตามหลักเกณฑ์ของประคอง กรรณสู ต ดังนี้
                           ่
4.50 – 5.00 หมายถึง อยูในระดับมากที่สุด
                         ่
3.50 - 4.49 หมายถึง อยูในระดับมาก
                             ่
2.50 – 3.49 หมายถึง อยูในระดับปานกลาง
                       ่
1.50– 2.49 หมายถึง อยูในระดับน้อย
                               ่
1.00 – 1.49 หมายถึง อยูในระดับน้อยที่สุด
       เปรี ยบ เทียบพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต ของนักเรี ยนโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ. พะเยา
เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างความคิดเห็นของนักเรี ยนมัธยมศึกษา เพศชายและเพศหญิงที่มี
พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต
         ตอนที่ 3 สรุ ปข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของผูตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้
                                               ้
อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนมัธยมศึกษา โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ.พะเยา
บทที่ 4
                                           ผลการสารวจ
1.เพศ ชาย คิดเป็ น 33.33 %
      หญิง คิดเป็ น 66.67%




ตอนที่ 2 พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ต
                         ิ
  2.ท่านใช้ บริการ Internet บ่ อยแค่ ไหน
       ทุกวัน            คิดเป็ น 80%
       2-3ครั้ ง/สัปดาห์ คิดเป็ น 20%
3.ระยะเวลาการใช้ อนเตอร์ เน็ตในแต่ ละครั้ง
                  ิ
               น้อยกว่า 1 ชัวโมง
                            ่          คิดเป็ น 3.34 %
               1-5 ชัวโมง
                      ่                คิดเป็ น 63.33%
               6-10 ชัวโมง
                        ่              คิดเป็ น 20%
               10 ชัวโมงขึ้นไป
                    ่                  คิดเป็ น 13.33%




       4.ท่านใช้ Internet จากสถานทีใด
                                    ่
                บ้าน           คิดเป็ น 99%
                Internet café คิดเป็ น 1%
5.ท่ านใช้ บริการ Internet เพือกิจกรรมใดบ้ าง
                              ่
       E-mail                    คิดเป็ น 10.48%
       ค้นหาข้อมูล               คิดเป็ น 12.38%
       Chat                      คิดเป็ น 13.33%
       ดูหนัง/ฟังเพลง            คิดเป็ น 18.1%
       ซื้ อ-ขายสิ นค้าออนไลน์   คิดเป็ น 3.87%
       เล่นเกมส์                 คิดเป็ น 12.38%
       Upload/Download           คิดเป็ น 12.38%
       อ่านข่าว                  คิดเป็ น 8.57%
       อ่านบันทึก                คิดเป็ น 1.9%
       อื่นๆ                     คิดเป็ น 1.9%
6.Website ใดทีท่านเข้ าใช้ บริ การบ่ อยทีสุด
              ่                          ่
       Hotmail             คิดเป็ น 10.86%
       Google              คิดเป็ น 41.3%
       Mthai               คิดเป็ น 2.17%
       Youtube             คิดเป็ น 26.08%
       Facebook            คิดเป็ น 36.95%
       อื่นๆ               คิดเป็ น 4.34%




7.ท่านใช้ Internet เพือวัตถุประสงค์ ใด
                      ่
         ติดต่อสอบถาม คิดเป็ น 13.33%
         ซื้ อ-ขาย        คิดเป็ น 8.47%
         ค้นหาข้อมูล คิดเป็ น 22.03%
         ดูข่าวสาร        คิดเป็ น 15.25%
         ความบันเทิง คิดเป็ น 38.98%
         อื่นๆ            คิดเป็ น 1.69%
บทที่ 5
                            สรุป อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ

สรุ ปผลการทดลอง
          จากการสารวจพบว่านักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมให้ความสนใจมาก
ที่สุดคือ เว็บไซต์ที่มีการเชื่ อมต่อกันกับสังคมออนไลน์ เช่ น www.facebook.com เว็บไซต์ที่ให้ความ
บันเทิง www.youtube.com และการสื บค้นข้อมูลผ่านทางอินเทอร์ เน็ต www.google.co.th ซึ่ งส่ วนมาก
มี จุดประสงค์เพื่อเข้าสังคมกับเพื่อน ความบันเทิ ง เล่ นเกมส์ เพื่อคลายเครี ยด และศึ กษาหาความรู ้
เพิ่มเติม หรื อหาข้อมูลข่าวสาร
          ดังนั้นจากการสารวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน
พะเยาพิทยาคม จึงเป็ นประโยชน์ต่อการปรับเปลี่ ยนการสอนของครู ผสอน โดยสามารถใช้เครื อข่าย
                                                                      ู้
ทางสังคมออนไลน์เป็ นตัวกลางในการเข้าหานักเรี ยนได้มากขึ้น เช่ น การใช้ Facebook เพื่อสั่งงาน
ส่ งงาน หรื อรวมไปถึงการสอนเพิ่มเติมผ่านทาง Youtube เป็ นต้น

อภิปรายผลการทดลอง
        จากการทดลองโดยใช้นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จานวน 30
คน เป็ นชาย 15 คน เป็ นหญิง 15 คน ในระหว่างวันที่ 5-7กันยายน พ.ศ. 2555ในการตอบแบบสอบถาม
พบว่า
        ระยะเวลาในการใช้อินเทอร์ เน็ตส่ วนมากใช้เวลาประมาณ 1-5 ชัวโมงต่อหนึ่ งวัน ส่ วนมากใช้
                                                                         ่
อินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านการ์ ตูน คือเป็ น 38.98%

ข้ อเสนอแนะ
     1. ควรตั้งจุดประสงค์ให้ครอบคลุมมากกว่านี้
   2. ควรมีการวางแผนงานที่ดีกว่านี้
   3. อาจจะต้องเพิ่มเวลาในการสารวจเพื่อให้ได้ขอมูลมากขึ้น
                                              ้

More Related Content

What's hot

รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
kruwaeo
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตdlled
 
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปิยะดนัย วิเคียน
 
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...Nuttapong Yongja
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำSarid Nonthing
 
ทดสอบ 2
ทดสอบ 2ทดสอบ 2
ทดสอบ 2
giggle036
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มSutin Yotyavilai
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตเขมิกา กุลาศรี
 
ณัฐ โครงงานคอม บทที่ 1 5 เบียร์
ณัฐ โครงงานคอม  บทที่ 1   5 เบียร์ณัฐ โครงงานคอม  บทที่ 1   5 เบียร์
ณัฐ โครงงานคอม บทที่ 1 5 เบียร์ยิ้ม' เเฉ่ง
 
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตpatchu0625
 
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นอินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นChantana Papattha
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำAugusts Programmer
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตnatlove220
 
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
Haprem HAprem
 
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตsombut
 
Librarian 1 to Librarian 2 - Lib CMU
Librarian 1 to Librarian 2 - Lib CMULibrarian 1 to Librarian 2 - Lib CMU
เฉลยแบบทดสอบ
เฉลยแบบทดสอบเฉลยแบบทดสอบ
เฉลยแบบทดสอบ
ปิยะดนัย วิเคียน
 
บทที่1 บทนำ ม.ต้น
บทที่1 บทนำ ม.ต้นบทที่1 บทนำ ม.ต้น
บทที่1 บทนำ ม.ต้น
chaiwat vichianchai
 

What's hot (20)

รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
เฉลยแบบทดสอบปลายภาค ม.5
เฉลยแบบทดสอบปลายภาค ม.5เฉลยแบบทดสอบปลายภาค ม.5
เฉลยแบบทดสอบปลายภาค ม.5
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
 
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
 
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
ทดสอบ 2
ทดสอบ 2ทดสอบ 2
ทดสอบ 2
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
 
ณัฐ โครงงานคอม บทที่ 1 5 เบียร์
ณัฐ โครงงานคอม  บทที่ 1   5 เบียร์ณัฐ โครงงานคอม  บทที่ 1   5 เบียร์
ณัฐ โครงงานคอม บทที่ 1 5 เบียร์
 
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการอินเทอร์เน็ต
 
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้นอินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำ
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ต
 
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
 
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
 
Librarian 1 to Librarian 2 - Lib CMU
Librarian 1 to Librarian 2 - Lib CMULibrarian 1 to Librarian 2 - Lib CMU
Librarian 1 to Librarian 2 - Lib CMU
 
เฉลยแบบทดสอบ
เฉลยแบบทดสอบเฉลยแบบทดสอบ
เฉลยแบบทดสอบ
 
บทที่1 บทนำ ม.ต้น
บทที่1 บทนำ ม.ต้นบทที่1 บทนำ ม.ต้น
บทที่1 บทนำ ม.ต้น
 

Similar to I smyresearch

โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1Thanyalux Kanthong
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1Thanyalux Kanthong
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1Thanyalux Kanthong
 
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
Arrat Krupeach
 
Ict และการบริหารงานวิชาการ
Ict และการบริหารงานวิชาการIct และการบริหารงานวิชาการ
Ict และการบริหารงานวิชาการsupphawan
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
โรงเรียนชุมชนโนนแดง
 
Chapter3 Information technology for education
Chapter3 Information technology for educationChapter3 Information technology for education
Chapter3 Information technology for educationChangnoi Etc
 
รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทJiraporn Chaimongkol
 
แผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธแผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธ
กัมปนาท สุขสงวน
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
โรงเรียนชุมชนโนนแดง
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6Meaw Sukee
 

Similar to I smyresearch (20)

โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
 
ShreetUnit4.1
ShreetUnit4.1ShreetUnit4.1
ShreetUnit4.1
 
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
Presentation สอบ 3 บท เรื่อง การรับรู้ข่าวออนไลน์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหว...
 
Is pre
Is preIs pre
Is pre
 
Ict และการบริหารงานวิชาการ
Ict และการบริหารงานวิชาการIct และการบริหารงานวิชาการ
Ict และการบริหารงานวิชาการ
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
2
22
2
 
Proposal ict2
Proposal ict2Proposal ict2
Proposal ict2
 
Proposal ict2
Proposal ict2Proposal ict2
Proposal ict2
 
2
22
2
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
 
Chapter3 Information technology for education
Chapter3 Information technology for educationChapter3 Information technology for education
Chapter3 Information technology for education
 
รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บท
 
แผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธแผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธ
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
 
Email system
Email systemEmail system
Email system
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
 

I smyresearch

  • 1. พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม ิ โดย นายจิตรภณ คิดอ่าน นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7 การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286 ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
  • 2. พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม ิ โดย นายจิตรภณ คิดอ่าน นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7 การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286 ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
  • 3. ชื่องานวิจัย : พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม ผู้จัดทา : 1.นายจิตรภณ คิดอ่าน ชั้นม.5/7 เลขที่ 7 2.นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย ชั้นม.5/7 เลขที่ 19 3.นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์ ชั้นม.5/7 เลขที่ 37 โรงเรียน : โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดพะเยา ครู ทปรึกษา : คุณครู ยงศักดิ์ กระจ่างแจ้ง ี่ ิ่ บทคัดย่ อ งานวิจยระดับชั้นมัธยมศึ กษาปี ที่ 5 มี จุดประสงค์ดงนี้ 1) ทราบถึ งระยะเวลาของการใช้ ั ั อินเตอร์ เน็ตส่ วนมากของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม 2) ทราบถึงพฤติกรรม การใช้อินเตอร์ เน็ตว่าใช้เพื่ออะไร การดาเนิ นงานค้นคว้าและเรี ยบเรี ยงงานวิจยเรื่ องพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต มีข้ นตอน ั ั 1) กาหนดชื่ อเรื่ อง 2) กาหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า 3) วางโครงเรื่ อง 4) จัดทาแบบร่ าง 5) ตรวจทานและแก้ไข 6) จัดทาฉบับจริ ง ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่าในปั จจุบนอินเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิต ที่ช่วย ั ในการติดต่อสื่ อสารผ่านทาง Social Network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้าม ประเทศและในปั จจุ บ นอิ นเตอร์ เน็ ต ยัง ช่ วยอานวยความสะดวกสบายต่ า งๆ ในการสื บ ค้นข้อมู ล ั รวมทั้งการให้ความบันเทิงในรู ปแบบต่าง ๆ
  • 4. บทที่ 1 บทนา ความเป็ นมาและความสาคัญของงานวิจัย เนื่ องจากในปั จจุ บนอิ นเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิตช่ วยในการติดต่อสื่ อสาร ั ผ่านทาง Social network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้ามประเทศ และในปั จจุบน ั อิ นเตอร์ เน็ ตยังช่ วยอานวยความสะดวกต่า งๆ ในการสื บค้นข้อมูล รวมทั้งการให้ความบันเทิ ง ใน รู ปแบบต่างๆการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ จานวนมากทาให้เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ ่ ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด ้ ดังนั้นการใช้งานอินเตอร์ เน็ ตจึงมีผลอย่างมากต่อการศึ กษาของไทย โดยเฉพาะการใช้งาน อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนภายในสถานศึกษา โดยส่ วนใหญ่แล้วการใช้งานอินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนจะ เป็ นไปในแนวทางอื่ น ที่ ไ ม่ เ กี่ ย วข้อ งกับ การศึ ก ษา จึ ง ท าให้ ผู ้วิ จ ัย อยากจะทราบถึ ง การใช้ ง าน อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนในด้านต่างๆ ที่เป็ นปั จจัย และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการศึกษาของนักเรี ยน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความต้องการและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต 2. เพื่อศึกษาความหมาย ความสาคัญ ประเภท ของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต ้ 3. เพื่อศึกษาถึงลักษณะความแตกต่างของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต ้ 4. เพื่อศึกษาแนวโน้มในการใช้งานอินเทอร์ เน็ต สมมติฐานของงานวิจัย 1.ปัจจัยด้านคุณลักษณะของ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต ่ 2.ปั จจัยด้านที่อยูอาศัยมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต 3.ปั จจัยเกี่ยวกับอุปนิสัยส่ วนตัวมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต 4.ปัจจัยด้านการศึกษามีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต 5.ผลกระทบจากการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต
  • 5. ขอบเขตงานวิจัย นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมจานวน 50 คน นิยามศัพท์เฉพาะ 1.พฤติ ก รรม (Behavior) คื อ กริ ย าอาการที่ แ สดงออกหรื อปฏิ กิ ริ ย าโต้ต อบเมื่ อ เผชิ ญ กับ สิ่ ง เร้ า (Stimulus) หรื อสถานการณ์ ต่าง ๆ อาการแสดงออกต่าง ๆ เหล่านั้น อาจเป็ นการเคลื่อนไหวที่สังเกต ได้หรื อวัดได้ เช่น การเดิน การพูด การเขียน การคิด การเต้นของหัวใจ เป็ นต้น ส่ วนสิ่ งเร้าที่มากระทบ แล้วก่อให้เกิดพฤติกรรมก็อาจจะเป็ นสิ่ งเร้าภายใน (Internal Stimulus) และสิ่ งเร้าภายนอก (External Stimulus) 2. อินเทอร์เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี ่ เรี ยกว่า โพรโทคอล(Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้สามารถสื่ อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมลล์ ้ เว็บบอร์ ดและสามารถสื บค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆรวมทั้งคัดลอกแฟ้ มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้
  • 6. บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยที่เกียวข้ อง ั ่ ในการศึกษาวิจยเรื่ อง “พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน ั พะเยาพิทยาคม” ผูวจยได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้องดังนี้ ้ิั ั 1. ความรู ้เกี่ยวกับอินเตอร์ เน็ต 1.1 ความหมายของอินเตอร์เน็ต 1.2 ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต 1.3 บริ การของอินเตอร์เน็ต 2. พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต 1 .อินเตอร์ เน็ตคืออะไร อินเทอร์ เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึ ง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี ่ เรี ยกว่า โปรโทคอล (Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้ ส ามารถสื่ อสารถึ งกันได้ใ นหลายๆ ทาง อาทิ เช่ น ้ อี เ มลล์ เว็บ บอร์ ด และสามารถสื บ ค้น ข้อ มู ล และข่ า วสารต่ า งๆ รวมทั้ง คัดลอกแฟ้ มข้อมู ล และ โปรแกรมมาใช้ได้ 2.ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต การเชื่ อมต่ อคอมพิ วเตอร์ จานวนมากท าให้เครื อข่ า ยอิ นเตอร์ เน็ ต มี ก ารแลกเปลี่ ย นข้อมู ล ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ ่ ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด้ 3.บริการบนอินเตอร์ เน็ต ่ ู้ ่ ระบบอินเตอร์ เน็ตมีเครื อข่ายทัวโลกจึงมีผคนนิยมใช้ผานบริ การต่าง ๆ ดังนี้ 1. E-mail (Electronics mail) หรื อไปรษณี ยอิเล็กทรอนิ กส์ เป็ นบริ การรับส่ งข้อความผ่าน ์ เครื อข่ ายคอมพิ วเตอร์ ผูใช้สามารถส่ งข้อมู ลข่ าวสารไปยัง ผูรับคนอื่ น ๆ ได้ ถ้าผูรับ มี ที่ อยู่ตาม ้ ้ ้ ข้อกาหนดการใช้ E-mail
  • 7. 2. World Wide Web หรื อ WWW เป็ นบริ การข้อมูลบนอินเตอร์ เน็ตที่ได้รับความนิยมสู ง ใน ปั จจุบน จุดเด่นของ WWW ที่มีเหนื อบริ การอื่นๆ ในอินเตอร์ เน็ตได้แก่ความง่ายในการใช้งานและ ั รู ปแบบการแสดงผลแบบไฮเปอร์ เท็กซ์ที่เชื่อมโยงจากข้อมูลชุดหนึ่งไปสู่ ขอมูลอีกชุดหนึ่ง ซึ่ งจะมีท้ ง ้ ั แบบข้อความปกติหรื อมัลติมีเดีย เสี ยง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว 3. IRC (Internet Relay Chat) เป็ นการสนทนาโต้ตอบกันบนอินเตอร์ เน็ต โดยใช้การพิมพ์ ข้อความหรื อใช้เสี ยง โดยอาจสนทนากันเป็ นกลุ่มหรื อระหว่างบุคคล 2 บุคคลก็ได้ การสนทนาใน รู ปแบบนี้ เป็ นที่นิยมมาก เนื่ องจากเป็ นการแลกเปลี่ ยนความคิดเห็ นพูดคุ ยได้ทนที เรี ยกว่า Talks ั หรื อ Chat 4. ประโยชน์ ของการใช้ อนเตอร์ เน็ต ิ 1. เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต ทาให้ระบบการเรี ยนการสอนในห้องเรี ยนเดิม เปลี่ยนไปเป็ นการเปิ ด โลกของนักเรี ยนให้รับรู ้ข่าวสาร สังคม วัฒนธรรมทัวโลก ่ 2. ทาให้ผูเ้ รี ย นจัดหาข้อมู ลสารสนเทศได้อย่างมากมาย หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็ นรู ป แบบ ข้อความ ภาพ เสี ยง 3. ทาให้ผเู้ รี ยนฝึ กทักษะการสื บค้นข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลาและมีอิสระ 4. สนับสนุนการสื่ อสารและการร่ วมมือกันระหว่างผูเ้ รี ยนด้วยกัน ผูปกครอง ครู ้ 5. ฝึ กทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ 5.โทษของการใช้ อนเตอร์ เน็ตติดต่ อกันหลายชั่วโมง ิ 1. อินเทอร์ เน็ตเป็ นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทาให้การควบคุมกระทาได้ยาก ่ 2. มีขอมูลที่มีผลเสี ยเผยแพร่ อยูปริ มาณมาก ้ 3. ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทาให้การค้นหากระทาได้ไม่ดีเท่าที่ควร 4. ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริ ง ต้องดูให้ดีเสี ยก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลันแกล้งจากเพื่อน ่ 5. ถ้าเล่นอินเทอร์ เน็ตมากเกินไปอาจเสี ยการเรี ยนได้ พฤติกรรมและสิ่ งทีมีอิทธิพลต่ อพฤติกรรม ่ พฤติกรรม ่ กันยา สุ วรรณแสง ได้ให้ความหมายของคาว่าพฤติกรรมไว้วา คือกิริยา อาการ บทบาท ลี ลา ท่าที การประพฤติ ปฏิบติ การกระทาที่แสดงออกให้ปรากฏสัมผัสได้ดวยประสาทสัมผัสทางใดทางหนึ่ ง ั ้ ของประสาทสัมผัสทั้งห้าซึ่ งสามารถวัดได้ดวยเครื่ องมือ ้ สิ่ งทีมีอทธิพลต่ อพฤติกรรม ่ ิ 1.พันธุ กรรม คือ การถ่ายทอดบุคลิกลักษณะจากปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่สู่ลูกหลาน มีลกษณะทางกายและ ั ทางสติปัญญา
  • 8. ่ 2.สิ่ งแวดล้อม หมายถึง สิ่ งต่างๆ ที่อยูรอบตัวเป็ นสิ่ งเร้ากระตุนให้บุคคลแสดงออกโต้ตอบในลักษณะ ้ ต่างๆ กันซึ่ งมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ ได้แก่ 2.1. สิ่ งแวดล้อมทางบ้าน เช่น การอบรมเลี้ ยงดู ฐานะทางเศรษฐกิ จและสังคมของครอบครัว บรรยากาศภายในบ้าน สิ่ งเหล่านี้ลวนมีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของเด็กมาก ้ 2.2. สิ่ งแวดล้อมทางโรงเรี ยน อันได้แก่ ครู อาจารย์ เพื่อนนักเรี ยน สภาพบรรยากาศภายใน โรงเรี ยน 2.3. สิ่ ง แวดล้อมทางชุ ม ชน ได้แก่ ขนบธรรมเนี ย ม สื่ อสารมวลชนต่ า งๆ ก็ ล้วนแล้วแต่ มี อิทธิ พลต่อพฤติกรรม ่ 2.4. วัฒนธรรม คนที่อยูในชั้นของสังคมที่แตกต่างกัน มีพ้ืนฐานทางสังคมที่แตกต่างกัน จะมี พฤติกรรมต่างกัน เพศ อายุ ความเชื่อ ค่านิยม ฯลฯ 2.5. ภูมิประเทศ มีอิทธิ พลโน้มนาให้ลกษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมต่างกัน ั การจูงใจให้ เกิดพฤติกรรม พฤติ กรรมเป็ นผลมาจากมนุ ษย์แสดงปฏิ กิริยาตอบสนองต่อสิ่ งเร้ า หรื อแรงจูงใจ พฤติ กรรม บางอย่างมีแรงจูงใจหลายอย่างรวมกัน ซึ่ งปั จจัยในการจูงใจให้เกิ ดพฤติ กรรม กันยา สุ วรรณแสง ได้แก่ 1. แรงจูงใจทางกาย เป็ นแรงจูงใจที่ เกิดจากความต้องการทางร่ างกาย เช่น ความหิ ว ความ กระหาย 2. แรงจูงใจทางสังคม เป็ นสิ่ งที่เกิดขึ้นภายหลังการเรี ยนรู ้ อาจแบ่งออกได้หลายอย่าง ดังนี้ 2.1. แสดงความต้องการทางสังคมที่คล้อยตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมของชุมชน ของตน 2.2. ความต้องการอย่างเดียวกัน อาจทาให้คนเรามีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน เช่น เมื่อต้องการ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม บางคนเข้าห้องสมุด ในขณะที่บางคนค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต 2.3. พฤติกรรมอย่างเดียวกันอาจเนื่ องมาจากความต้องการที่แตกต่างกันได้ เช่น บางคนชอบ ใช้อินเตอร์เน็ตเพราะต้องการหาความรู้ ในขณะที่บางคนต้องการความบันเทิง 2.4. พฤติ ก รรมอย่า งใดอย่า งหนึ่ ง อาจสนองความต้องการได้มากกว่า หนึ่ ง อย่า งในเวลา เดี ย วกัน เช่ น นั ก เรี ยนที่ ใ ช้ อิ น เตอร์ เ น็ ต เพราะต้อ งการข่ า วสารข้อ มู ล และความ เพลิดเพลิน อย่างไรก็ตามสาหรับนักเรี ยนมัธยมศึกษา ซึ่ งอยู่ในช่วงวัยรุ่ น ยังมีปัจจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมอีก ดังนี้
  • 9. ่ ้ 1. ปั จจัยทางบ้าน เนื่องจากนักเรี ยนใช้เวลาอยูบานเป็ นส่ วนมาก ปั จจัยทางบ้านจึงมีอิทธิ พล ต่ อ พฤติ ก รรมของนัก เรี ย นวัย รุ่ นเป็ นอย่า งมากสิ่ ง ต่ า ง ๆ ที่ มี อ ยู่แ ละเกิ ดขึ้ น ในบ้า นล้วนส่ ง ผลถึ ง พฤติกรรม เช่น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว จานวนสมาชิกภายในบ้าน ความพร้อมของครอบครัว ฐานะทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สิ่ งอานวยความสะดวก เป็ นต้น 2. ปั จจัยทางโรงเรี ยน เป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของนักเรี ยนเป็ นอย่างมาก ถึงแม้วา ่ ่ ่ ้ นักเรี ยนจะใช้เวลาอยูโรงเรี ยนน้อยกว่าอยูบาน แต่โรงเรี ยนก็เป็ นสถานที่ ที่นกเรี ยนได้เรี ยนรู ้สิ่งต่างๆ ั ปั จ จัย ทางโรงเรี ยน เช่ น ประเภทของโรงเรี ยน ขนาดของโรงเรี ยน ชื่ อ เสี ยงของโรงเรี ยน สภาพแวดล้อมภายในโรงเรี ยน ่ 3. ปั จจัยทางชุมชน ถือได้วาเป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมที่สาคัญอีกประการหนึ่ งการที่ ่ นักเรี ยนได้อยูในท่ามกลางชุมชนแบบใด ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมตามแบบอย่างที่ได้พบ เห็น ปั จจัยทางชุมชน เช่น ขนาดของชุมชน ที่ต้ งและสภาพแวดล้อม เป็ นต้น ั 4. เพื่อน ถือได้วาเป็ นอิทธิ พลที่สาคัญที่สุดของวัยรุ่ น เพราะวัยรุ่ นเป็ นวัยที่ตองการ การยอมรับ ่ ้ จากกลุ่มเพื่อน สังคมของวัยรุ่ นส่ วนใหญ่จึงเป็ นสังคมของเพื่อน โดยอิทธิ พลของกลุ่มเพื่อน พฤติกรรมการสื่ อสาร ในการแสวงหาข้อมู ล ข่ า วสารผ่า นอิ นเตอร์ เน็ ต ผูใ ช้ส ามารถที่ จะควบคุ ม ข้อมู ล ข่ า วสารที่ ้ ต้องการเปิ ดรับหรื อเลือกปฏิเสธข้อมูลข่าวสารที่เห็นว่าไม่น่าสนใจได้อย่างสะดวก ปั จจัยที่สาคัญที่ใช้ ประกอบการตัดสิ นใจรับข่าวสารแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล มีดงนี้ ั 1. ความสะดวกในการใช้ บุ คคลจะเลื อกใช้สื่อที่ อยู่ใกล้ตวและมี ความสะดวกในการใช้มาก ั ที่สุด 2. ความเด่น บุคคลเลือกให้ความสนใจกับสาร ที่มีจุดเด่นต่างไปจากสารอื่น 3. ประสบการณ์ ทาให้ผรับสารแสวงหาข่าวสารต่างกัน ู้ 4. การใช้ประโยชน์ของข่าวสาร ผูรับสารจะแสวงหาข่าวสารเพื่อสนองวัตถุ ประสงค์อย่างใด ้ อย่างหนึ่ง 5. การศึกษาและสถานะทางสังคม การศึกษาและชั้นทางสังคมมีอิทธิ พลอย่างยิ่งต่อการเลื อก ของ ผูรับสาร ้
  • 10. งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้ อง อินเตอร์ เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในสถาบันการศึกษา ซึ่ งก็ได้มีผทาการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ ู้ อินเตอร์ เน็ต ไว้ดงนี้ั องอาจ ฤทธิ์ ทองพิทกษ์ (2539) ได้ศึกษาเรื่ อง พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บของ ั นักศึกษาในเขตกรุ งเทพมหานคร พบว่า 1. นัก ศึ ก ษาส่ วนใหญ่ มี การใช้การสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไวด์เว็บที่ ม หาวิท ยาลัย และสนใจ เปิ ดรับเนื้อหาประเภทบันเทิงมากที่สุด 2. นักศึกษาที่มีความแตกต่างกันในเรื่ อง เพศ อายุ และความเป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มี พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บแตกต่างกันอย่างมีนยสาคัญทางสถิติ โดยเพศ ั ชายมี พ ฤติ ก รรมการสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ มากกว่า เพศหญิ ง และนัก ศึ ก ษาที่ เป็ น เจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีพฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บมากกว่านักศึกษาไม่ เป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ 3. นักศึกษามีการใช้ประโยชน์จากระบบเวิลด์ไวด์เว็บ เพื่อการพัฒนาตนเองในด้านวิชาการและ ทัก ษะการใช้ง านระบบเวิล ด์ไ วด์เ ว็บ และใช้ระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ ในการตอบสนองความ ต้องการด้านข่าวสารและการพักผ่อนหย่อนใจ
  • 11. บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน การวิจยครั้งนี้เป็ นการวิจยเชิงสารวจ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยน ั ั ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา วิธีดาเนินการวิจย โดยกล่าวถึงวิธีการศึกษาค้นคว้า ั 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจย ั 2. เครื่ องมือที่ใช้ในการวิจย ั 3. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวิเคราะห์ขอมูล ้ 5. สถิติที่ใช้ในการวิจย ั โดยจะเสนอตามลาดับดังต่อไป 1.ประชากร ประชากรของการวิจยครั้งนี้ เป็ นนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษา 5 ปี การศึกษา 2555 ที่กาลัง ั ่ ศึกษาอยูในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม กลุ่มตัวอย่ างทีใช้ ในการวิจัย ่ กลุ่มตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม ปี การศึกษา 2555 จานวน 50 คน 2.เครื่องมือทีใช้ ในการวิจัย ่ แบบสอบถาม ซึ่ งแบ่งออกเป็ น 2 ตอน คือ การสร้ างเครื่องมือ ผูวจยได้สร้างเครื่ องมือที่ใช้สาหรับการเก็บข้อมูลเพื่อการวิจย เป็ นลาดับขั้นตอนดาเนินการดังนี้ ้ิั ั ขั้นวางแผนเพื่อสร้างแบบสอบถาม ผูวจยได้วางแผนในการสร้างแบบสอบถามตามขั้นตอน ดังนี้ ้ิั ขั้ น ที่ 1 ศึ ก ษาบทบาทของอาจารย์ที่ ป รึ กษา ในสถาบัน ต่ า ง ๆ จากเอกสาร ต ารา และปรึ กษา ผูทรงคุณวุฒิ เพื่อกาหนดกรอบแนวคิดเบื้องต้น ้ ขั้นที่2 ศึกษาปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติ กรรมการใช้อินเตอร์ เน็ ตทางสังคมตลอดจนภาพรวม ปั ญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และนาข้อมูลที่ได้รวมกับข้อมูลตอนที่ 1 มาพัฒนาเป็ นเครื่ องมือสาหรับ การวิจยต่อไป ั ขั้นที่ 3 รวบรวมข้อมูลที่ ได้จากขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 มากาหนดปั จจัยที่ มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมการใช้ อินเตอร์เน็ต
  • 12. ตอนที่ 1 สอบถามข้อมูลทัวไปเกี่ยวกับผูตอบแบบสอบถา เป็ นแบบสอบถามแบบเลือกตอบ ่ ้ เติมคาในช่องว่างและประมาณค่า โดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ 1.1 เพศ แบ่งเป็ น เพศชายและเพศหญิง 1.2 ระดับชั้นที่ศึกษา แบ่งเป็ น ตอนปลาย 1.3 การใช้คอมพิวเตอร์ ต่อสัปดาห์ 1.4 การมีคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อระบบอินเตอร์ เน็ตใช้ที่บาน ้ ตอนที่ 2 เป็ นแบบสอบถามแบบประมาณค่าโดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั จจัยที่ส่งผลต่อ พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ต 3.วิธีการเก็บรวบรวมข้ อมูล การรวบรวมข้อมูลมีวธีการ ดังนี้ ิ 1. ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต แล้วจึงออกแบบแบบสอบถาม พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต 2. สร้ า งแบบสอบถาม โดยแบ่ ง ออกเป็ น 3 หั ว ข้อ หลัก ดัง นี้ สถานที่ ที่ นัก เรี ย นใช้บ ริ ก าร อินเทอร์เน็ต ช่วงเวลาที่นกเรี ยนใช้บริ การอินเทอร์ เน็ตของโรงเรี ยน บริ การทางอินเทอร์ เน็ตที่ ั นักเรี ยนนิยมใช้ จานวน 50 ชุด 3. แจกแบบสอบถามให้นกเรี ยนกรอก และเก็บรวบรวมมาวิเคราะห์ขอมูล ั ้ 4.การวิเคราะห์ ข้อมูล เมื่อ ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จึงได้นามาตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถาม จากนั้น จึ ง แจ้ง ระดับ คะแนน วิ เ คราะห์ ข ้อ มู ล และน าเสนอ โดยผูวิ จ ัย นาข้อ มู ล ที่ เ ก็ บ รวบรวมมา ้ วิเคราะห์หาค่าสถิติ โดยใช้โปรแกรมสาเร็ จรู ป SPSS (Statistical Package for Social Sciences) โดยใช้ สถิติดงนี้ ั ตอนที่ 1เป็ น แบบสอบถามเกี่ ย วกั บ สถานภาพและรายละเอี ย ดส่ วนตั ว ของผู้ต อบ แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้ความถี่ ( Frequency ) และค่าร้อยละ ( Percentage ) ตอนที่ 2 เป็ นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนโรงเรี ยนสิ ริน ธรราชวิทยาลัย นครปฐม วิเคราะห์ขอมูลดังนี้ ้ วิ เ คราะห์ โดยการหาค่ า เฉลี่ ย ( Mean) และค่ า ส่ วนเบี่ ย งเบนมาตรฐาน( Standard Deviation) พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต โดยนามาหาค่าเฉลี่ยและส่ วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน มี 5 ระดับ ดังนี้
  • 13. นาหนักการตัดสิ นใจ คะแนน ้ มีความต้องการมากที่สุด 5 มีความต้องการมาก 4 มีความต้องการปานกลาง 3 มีความต้องการน้อย 2 มีความต้องการน้อยที่สุด 1 เกณฑ์ การแปลความหมายของคะแนน เพื่อ ให้การแปลความหมายของผลการวิเคราะห์ขอมูลสอดคล้องกับความเป็ นจริ ง ผูวจยจึง ้ ้ิั กาหนดเกณฑ์การแปลความหมายของคะแนนเฉลี่ยตามหลักเกณฑ์ของประคอง กรรณสู ต ดังนี้ ่ 4.50 – 5.00 หมายถึง อยูในระดับมากที่สุด ่ 3.50 - 4.49 หมายถึง อยูในระดับมาก ่ 2.50 – 3.49 หมายถึง อยูในระดับปานกลาง ่ 1.50– 2.49 หมายถึง อยูในระดับน้อย ่ 1.00 – 1.49 หมายถึง อยูในระดับน้อยที่สุด เปรี ยบ เทียบพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต ของนักเรี ยนโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ. พะเยา เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างความคิดเห็นของนักเรี ยนมัธยมศึกษา เพศชายและเพศหญิงที่มี พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต ตอนที่ 3 สรุ ปข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของผูตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ ้ อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนมัธยมศึกษา โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ.พะเยา
  • 14. บทที่ 4 ผลการสารวจ 1.เพศ ชาย คิดเป็ น 33.33 % หญิง คิดเป็ น 66.67% ตอนที่ 2 พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ต ิ 2.ท่านใช้ บริการ Internet บ่ อยแค่ ไหน ทุกวัน คิดเป็ น 80% 2-3ครั้ ง/สัปดาห์ คิดเป็ น 20%
  • 15. 3.ระยะเวลาการใช้ อนเตอร์ เน็ตในแต่ ละครั้ง ิ น้อยกว่า 1 ชัวโมง ่ คิดเป็ น 3.34 % 1-5 ชัวโมง ่ คิดเป็ น 63.33% 6-10 ชัวโมง ่ คิดเป็ น 20% 10 ชัวโมงขึ้นไป ่ คิดเป็ น 13.33% 4.ท่านใช้ Internet จากสถานทีใด ่ บ้าน คิดเป็ น 99% Internet café คิดเป็ น 1%
  • 16. 5.ท่ านใช้ บริการ Internet เพือกิจกรรมใดบ้ าง ่ E-mail คิดเป็ น 10.48% ค้นหาข้อมูล คิดเป็ น 12.38% Chat คิดเป็ น 13.33% ดูหนัง/ฟังเพลง คิดเป็ น 18.1% ซื้ อ-ขายสิ นค้าออนไลน์ คิดเป็ น 3.87% เล่นเกมส์ คิดเป็ น 12.38% Upload/Download คิดเป็ น 12.38% อ่านข่าว คิดเป็ น 8.57% อ่านบันทึก คิดเป็ น 1.9% อื่นๆ คิดเป็ น 1.9%
  • 17. 6.Website ใดทีท่านเข้ าใช้ บริ การบ่ อยทีสุด ่ ่ Hotmail คิดเป็ น 10.86% Google คิดเป็ น 41.3% Mthai คิดเป็ น 2.17% Youtube คิดเป็ น 26.08% Facebook คิดเป็ น 36.95% อื่นๆ คิดเป็ น 4.34% 7.ท่านใช้ Internet เพือวัตถุประสงค์ ใด ่ ติดต่อสอบถาม คิดเป็ น 13.33% ซื้ อ-ขาย คิดเป็ น 8.47% ค้นหาข้อมูล คิดเป็ น 22.03% ดูข่าวสาร คิดเป็ น 15.25% ความบันเทิง คิดเป็ น 38.98% อื่นๆ คิดเป็ น 1.69%
  • 18.
  • 19. บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ สรุ ปผลการทดลอง จากการสารวจพบว่านักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมให้ความสนใจมาก ที่สุดคือ เว็บไซต์ที่มีการเชื่ อมต่อกันกับสังคมออนไลน์ เช่ น www.facebook.com เว็บไซต์ที่ให้ความ บันเทิง www.youtube.com และการสื บค้นข้อมูลผ่านทางอินเทอร์ เน็ต www.google.co.th ซึ่ งส่ วนมาก มี จุดประสงค์เพื่อเข้าสังคมกับเพื่อน ความบันเทิ ง เล่ นเกมส์ เพื่อคลายเครี ยด และศึ กษาหาความรู ้ เพิ่มเติม หรื อหาข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นจากการสารวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน พะเยาพิทยาคม จึงเป็ นประโยชน์ต่อการปรับเปลี่ ยนการสอนของครู ผสอน โดยสามารถใช้เครื อข่าย ู้ ทางสังคมออนไลน์เป็ นตัวกลางในการเข้าหานักเรี ยนได้มากขึ้น เช่ น การใช้ Facebook เพื่อสั่งงาน ส่ งงาน หรื อรวมไปถึงการสอนเพิ่มเติมผ่านทาง Youtube เป็ นต้น อภิปรายผลการทดลอง จากการทดลองโดยใช้นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จานวน 30 คน เป็ นชาย 15 คน เป็ นหญิง 15 คน ในระหว่างวันที่ 5-7กันยายน พ.ศ. 2555ในการตอบแบบสอบถาม พบว่า ระยะเวลาในการใช้อินเทอร์ เน็ตส่ วนมากใช้เวลาประมาณ 1-5 ชัวโมงต่อหนึ่ งวัน ส่ วนมากใช้ ่ อินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านการ์ ตูน คือเป็ น 38.98% ข้ อเสนอแนะ 1. ควรตั้งจุดประสงค์ให้ครอบคลุมมากกว่านี้ 2. ควรมีการวางแผนงานที่ดีกว่านี้ 3. อาจจะต้องเพิ่มเวลาในการสารวจเพื่อให้ได้ขอมูลมากขึ้น ้