More Related Content
What's hot
Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...Hw2 53171615,53171617,53171640,53171705,53171718,53171731,53171750 เทคโนโลยีโ...Nuttapong Yongja
Similar to I smyresearch (20)
I smyresearch
- 1. พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
ิ
โดย
นายจิตรภณ คิดอ่าน
นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย
นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7
การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ
(Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286
ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
- 2. พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
ิ
โดย
นายจิตรภณ คิดอ่าน
นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย
นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/7
การศึกษาค้ นคว้ าอิสระนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาการสื่ อสารและการนาเสนอ
(Communication and Presentation) รหัสวิชา ว32286
ตามหลักสู ตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
- 3. ชื่องานวิจัย : พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม
ผู้จัดทา : 1.นายจิตรภณ คิดอ่าน ชั้นม.5/7 เลขที่ 7
2.นางสาวณัฐวรรณ จินาเฟย ชั้นม.5/7 เลขที่ 19
3.นางสาวสุ ทธิรัตน์ ปัญจขันธ์ ชั้นม.5/7 เลขที่ 37
โรงเรียน : โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม อาเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ครู ทปรึกษา : คุณครู ยงศักดิ์ กระจ่างแจ้ง
ี่ ิ่
บทคัดย่ อ
งานวิจยระดับชั้นมัธยมศึ กษาปี ที่ 5 มี จุดประสงค์ดงนี้ 1) ทราบถึ งระยะเวลาของการใช้
ั ั
อินเตอร์ เน็ตส่ วนมากของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี่ ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม 2) ทราบถึงพฤติกรรม
การใช้อินเตอร์ เน็ตว่าใช้เพื่ออะไร
การดาเนิ นงานค้นคว้าและเรี ยบเรี ยงงานวิจยเรื่ องพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต มีข้ นตอน
ั ั
1) กาหนดชื่ อเรื่ อง 2) กาหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า 3) วางโครงเรื่ อง 4) จัดทาแบบร่ าง
5) ตรวจทานและแก้ไข 6) จัดทาฉบับจริ ง
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่าในปั จจุบนอินเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิต ที่ช่วย
ั
ในการติดต่อสื่ อสารผ่านทาง Social Network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้าม
ประเทศและในปั จจุ บ นอิ นเตอร์ เน็ ต ยัง ช่ วยอานวยความสะดวกสบายต่ า งๆ ในการสื บ ค้นข้อมู ล
ั
รวมทั้งการให้ความบันเทิงในรู ปแบบต่าง ๆ
- 4. บทที่ 1
บทนา
ความเป็ นมาและความสาคัญของงานวิจัย
เนื่ องจากในปั จจุ บนอิ นเตอร์ เน็ตเป็ นปั จจัยหนึ่ งในการดาเนิ นชี วิตช่ วยในการติดต่อสื่ อสาร
ั
ผ่านทาง Social network ซึ่ งทาให้สะดวกสบายในการติดต่อสื่ อสารกันข้ามประเทศ และในปั จจุบน ั
อิ นเตอร์ เน็ ตยังช่ วยอานวยความสะดวกต่า งๆ ในการสื บค้นข้อมูล รวมทั้งการให้ความบันเทิ ง ใน
รู ปแบบต่างๆการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ จานวนมากทาให้เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ
การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ
มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก
วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ
่
ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด ้
ดังนั้นการใช้งานอินเตอร์ เน็ ตจึงมีผลอย่างมากต่อการศึ กษาของไทย โดยเฉพาะการใช้งาน
อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนภายในสถานศึกษา โดยส่ วนใหญ่แล้วการใช้งานอินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนจะ
เป็ นไปในแนวทางอื่ น ที่ ไ ม่ เ กี่ ย วข้อ งกับ การศึ ก ษา จึ ง ท าให้ ผู ้วิ จ ัย อยากจะทราบถึ ง การใช้ ง าน
อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนในด้านต่างๆ ที่เป็ นปั จจัย และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการศึกษาของนักเรี ยน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาความต้องการและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต
2. เพื่อศึกษาความหมาย ความสาคัญ ประเภท ของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต
้
3. เพื่อศึกษาถึงลักษณะความแตกต่างของความต้องการและพฤติกรรมผูใช้อินเทอร์ เน็ต
้
4. เพื่อศึกษาแนวโน้มในการใช้งานอินเทอร์ เน็ต
สมมติฐานของงานวิจัย
1.ปัจจัยด้านคุณลักษณะของ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต
่
2.ปั จจัยด้านที่อยูอาศัยมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
3.ปั จจัยเกี่ยวกับอุปนิสัยส่ วนตัวมีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
4.ปัจจัยด้านการศึกษามีความสัมพันธ์ในการใช้บริ การอินเทอร์ เน็ต
5.ผลกระทบจากการใช้บริ การอินเทอร์เน็ต
- 5. ขอบเขตงานวิจัย
นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมจานวน 50 คน
นิยามศัพท์เฉพาะ
1.พฤติ ก รรม (Behavior) คื อ กริ ย าอาการที่ แ สดงออกหรื อปฏิ กิ ริ ย าโต้ต อบเมื่ อ เผชิ ญ กับ สิ่ ง เร้ า
(Stimulus) หรื อสถานการณ์ ต่าง ๆ อาการแสดงออกต่าง ๆ เหล่านั้น อาจเป็ นการเคลื่อนไหวที่สังเกต
ได้หรื อวัดได้ เช่น การเดิน การพูด การเขียน การคิด การเต้นของหัวใจ เป็ นต้น ส่ วนสิ่ งเร้าที่มากระทบ
แล้วก่อให้เกิดพฤติกรรมก็อาจจะเป็ นสิ่ งเร้าภายใน (Internal Stimulus) และสิ่ งเร้าภายนอก (External
Stimulus)
2. อินเทอร์เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ
เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี
่
เรี ยกว่า โพรโทคอล(Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้สามารถสื่ อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมลล์
้
เว็บบอร์ ดและสามารถสื บค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆรวมทั้งคัดลอกแฟ้ มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้
- 6. บทที่ 2
แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยที่เกียวข้ อง
ั ่
ในการศึกษาวิจยเรื่ อง “พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน
ั
พะเยาพิทยาคม” ผูวจยได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้องดังนี้
้ิั ั
1. ความรู ้เกี่ยวกับอินเตอร์ เน็ต
1.1 ความหมายของอินเตอร์เน็ต
1.2 ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต
1.3 บริ การของอินเตอร์เน็ต
2. พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต
1 .อินเตอร์ เน็ตคืออะไร
อินเทอร์ เน็ต หมายถึง (อังกฤษ: Internet) หมายถึ ง เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาด ใหญ่ ที่มีการ
เชื่อมต่อระหว่างเครื อข่ายหลายๆ เครื อข่ายทัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ ท่ี
่
เรี ยกว่า โปรโทคอล (Protocol) ผูใช้เครื อข่ายนี้ ส ามารถสื่ อสารถึ งกันได้ใ นหลายๆ ทาง อาทิ เช่ น
้
อี เ มลล์ เว็บ บอร์ ด และสามารถสื บ ค้น ข้อ มู ล และข่ า วสารต่ า งๆ รวมทั้ง คัดลอกแฟ้ มข้อมู ล และ
โปรแกรมมาใช้ได้
2.ความสาคัญของอินเตอร์ เน็ต
การเชื่ อมต่ อคอมพิ วเตอร์ จานวนมากท าให้เครื อข่ า ยอิ นเตอร์ เน็ ต มี ก ารแลกเปลี่ ย นข้อมู ล
ข่ า วสารที่ เ ป็ นประโยชน์ อ ย่า งมากมาย กิ จ กรรมทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คม วัฒ นธรรมและ
การศึกษา ถูกเชื่อมโยงให้เข้าถึงกันและกันอินเตอร์ เน็ตเป็ นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญ มีเรื่ องราวต่างๆ
มากมายทั้งความรู ้ ความบันเทิงหลายรู ปแบบเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจสาหรับบุคคลทุก
วงการและทุกสาขาอาชี พ การเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต ทาให้คนทัวโลก ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเชื้ อชาติ
่
ศาสนา สามารถติดต่อสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างไม่มีขอจากัด้
3.บริการบนอินเตอร์ เน็ต
่ ู้ ่
ระบบอินเตอร์ เน็ตมีเครื อข่ายทัวโลกจึงมีผคนนิยมใช้ผานบริ การต่าง ๆ ดังนี้
1. E-mail (Electronics mail) หรื อไปรษณี ยอิเล็กทรอนิ กส์ เป็ นบริ การรับส่ งข้อความผ่าน
์
เครื อข่ ายคอมพิ วเตอร์ ผูใช้สามารถส่ งข้อมู ลข่ าวสารไปยัง ผูรับคนอื่ น ๆ ได้ ถ้าผูรับ มี ที่ อยู่ตาม
้ ้ ้
ข้อกาหนดการใช้ E-mail
- 7. 2. World Wide Web หรื อ WWW เป็ นบริ การข้อมูลบนอินเตอร์ เน็ตที่ได้รับความนิยมสู ง ใน
ปั จจุบน จุดเด่นของ WWW ที่มีเหนื อบริ การอื่นๆ ในอินเตอร์ เน็ตได้แก่ความง่ายในการใช้งานและ
ั
รู ปแบบการแสดงผลแบบไฮเปอร์ เท็กซ์ที่เชื่อมโยงจากข้อมูลชุดหนึ่งไปสู่ ขอมูลอีกชุดหนึ่ง ซึ่ งจะมีท้ ง
้ ั
แบบข้อความปกติหรื อมัลติมีเดีย เสี ยง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
3. IRC (Internet Relay Chat) เป็ นการสนทนาโต้ตอบกันบนอินเตอร์ เน็ต โดยใช้การพิมพ์
ข้อความหรื อใช้เสี ยง โดยอาจสนทนากันเป็ นกลุ่มหรื อระหว่างบุคคล 2 บุคคลก็ได้ การสนทนาใน
รู ปแบบนี้ เป็ นที่นิยมมาก เนื่ องจากเป็ นการแลกเปลี่ ยนความคิดเห็ นพูดคุ ยได้ทนที เรี ยกว่า Talks
ั
หรื อ Chat
4. ประโยชน์ ของการใช้ อนเตอร์ เน็ต
ิ
1. เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต ทาให้ระบบการเรี ยนการสอนในห้องเรี ยนเดิม เปลี่ยนไปเป็ นการเปิ ด
โลกของนักเรี ยนให้รับรู ้ข่าวสาร สังคม วัฒนธรรมทัวโลก ่
2. ทาให้ผูเ้ รี ย นจัดหาข้อมู ลสารสนเทศได้อย่างมากมาย หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็ นรู ป แบบ
ข้อความ ภาพ เสี ยง
3. ทาให้ผเู้ รี ยนฝึ กทักษะการสื บค้นข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลาและมีอิสระ
4. สนับสนุนการสื่ อสารและการร่ วมมือกันระหว่างผูเ้ รี ยนด้วยกัน ผูปกครอง ครู
้
5. ฝึ กทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
5.โทษของการใช้ อนเตอร์ เน็ตติดต่ อกันหลายชั่วโมง
ิ
1. อินเทอร์ เน็ตเป็ นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทาให้การควบคุมกระทาได้ยาก
่
2. มีขอมูลที่มีผลเสี ยเผยแพร่ อยูปริ มาณมาก
้
3. ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทาให้การค้นหากระทาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
4. ข้อมูลบางอย่างอาจไม่จริ ง ต้องดูให้ดีเสี ยก่อน อาจถูกหลอกลวง-กลันแกล้งจากเพื่อน
่
5. ถ้าเล่นอินเทอร์ เน็ตมากเกินไปอาจเสี ยการเรี ยนได้
พฤติกรรมและสิ่ งทีมีอิทธิพลต่ อพฤติกรรม
่
พฤติกรรม
่
กันยา สุ วรรณแสง ได้ให้ความหมายของคาว่าพฤติกรรมไว้วา คือกิริยา อาการ บทบาท ลี ลา ท่าที
การประพฤติ ปฏิบติ การกระทาที่แสดงออกให้ปรากฏสัมผัสได้ดวยประสาทสัมผัสทางใดทางหนึ่ ง
ั ้
ของประสาทสัมผัสทั้งห้าซึ่ งสามารถวัดได้ดวยเครื่ องมือ
้
สิ่ งทีมีอทธิพลต่ อพฤติกรรม
่ ิ
1.พันธุ กรรม คือ การถ่ายทอดบุคลิกลักษณะจากปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่สู่ลูกหลาน มีลกษณะทางกายและ
ั
ทางสติปัญญา
- 8. ่
2.สิ่ งแวดล้อม หมายถึง สิ่ งต่างๆ ที่อยูรอบตัวเป็ นสิ่ งเร้ากระตุนให้บุคคลแสดงออกโต้ตอบในลักษณะ
้
ต่างๆ กันซึ่ งมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ ได้แก่
2.1. สิ่ งแวดล้อมทางบ้าน เช่น การอบรมเลี้ ยงดู ฐานะทางเศรษฐกิ จและสังคมของครอบครัว
บรรยากาศภายในบ้าน สิ่ งเหล่านี้ลวนมีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของเด็กมาก
้
2.2. สิ่ งแวดล้อมทางโรงเรี ยน อันได้แก่ ครู อาจารย์ เพื่อนนักเรี ยน สภาพบรรยากาศภายใน
โรงเรี ยน
2.3. สิ่ ง แวดล้อมทางชุ ม ชน ได้แก่ ขนบธรรมเนี ย ม สื่ อสารมวลชนต่ า งๆ ก็ ล้วนแล้วแต่ มี
อิทธิ พลต่อพฤติกรรม
่
2.4. วัฒนธรรม คนที่อยูในชั้นของสังคมที่แตกต่างกัน มีพ้ืนฐานทางสังคมที่แตกต่างกัน จะมี
พฤติกรรมต่างกัน เพศ อายุ ความเชื่อ ค่านิยม ฯลฯ
2.5. ภูมิประเทศ มีอิทธิ พลโน้มนาให้ลกษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมต่างกัน
ั
การจูงใจให้ เกิดพฤติกรรม
พฤติ กรรมเป็ นผลมาจากมนุ ษย์แสดงปฏิ กิริยาตอบสนองต่อสิ่ งเร้ า หรื อแรงจูงใจ พฤติ กรรม
บางอย่างมีแรงจูงใจหลายอย่างรวมกัน ซึ่ งปั จจัยในการจูงใจให้เกิ ดพฤติ กรรม กันยา สุ วรรณแสง
ได้แก่
1. แรงจูงใจทางกาย เป็ นแรงจูงใจที่ เกิดจากความต้องการทางร่ างกาย เช่น ความหิ ว ความ
กระหาย
2. แรงจูงใจทางสังคม เป็ นสิ่ งที่เกิดขึ้นภายหลังการเรี ยนรู ้ อาจแบ่งออกได้หลายอย่าง ดังนี้
2.1. แสดงความต้องการทางสังคมที่คล้อยตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมของชุมชน
ของตน
2.2. ความต้องการอย่างเดียวกัน อาจทาให้คนเรามีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน เช่น เมื่อต้องการ
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม บางคนเข้าห้องสมุด ในขณะที่บางคนค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2.3. พฤติกรรมอย่างเดียวกันอาจเนื่ องมาจากความต้องการที่แตกต่างกันได้ เช่น บางคนชอบ
ใช้อินเตอร์เน็ตเพราะต้องการหาความรู้ ในขณะที่บางคนต้องการความบันเทิง
2.4. พฤติ ก รรมอย่า งใดอย่า งหนึ่ ง อาจสนองความต้องการได้มากกว่า หนึ่ ง อย่า งในเวลา
เดี ย วกัน เช่ น นั ก เรี ยนที่ ใ ช้ อิ น เตอร์ เ น็ ต เพราะต้อ งการข่ า วสารข้อ มู ล และความ
เพลิดเพลิน
อย่างไรก็ตามสาหรับนักเรี ยนมัธยมศึกษา ซึ่ งอยู่ในช่วงวัยรุ่ น ยังมีปัจจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมอีก
ดังนี้
- 9. ่ ้
1. ปั จจัยทางบ้าน เนื่องจากนักเรี ยนใช้เวลาอยูบานเป็ นส่ วนมาก ปั จจัยทางบ้านจึงมีอิทธิ พล
ต่ อ พฤติ ก รรมของนัก เรี ย นวัย รุ่ นเป็ นอย่า งมากสิ่ ง ต่ า ง ๆ ที่ มี อ ยู่แ ละเกิ ดขึ้ น ในบ้า นล้วนส่ ง ผลถึ ง
พฤติกรรม เช่น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว จานวนสมาชิกภายในบ้าน ความพร้อมของครอบครัว
ฐานะทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สิ่ งอานวยความสะดวก เป็ นต้น
2. ปั จจัยทางโรงเรี ยน เป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมของนักเรี ยนเป็ นอย่างมาก ถึงแม้วา ่
่ ่ ้
นักเรี ยนจะใช้เวลาอยูโรงเรี ยนน้อยกว่าอยูบาน แต่โรงเรี ยนก็เป็ นสถานที่ ที่นกเรี ยนได้เรี ยนรู ้สิ่งต่างๆ
ั
ปั จ จัย ทางโรงเรี ยน เช่ น ประเภทของโรงเรี ยน ขนาดของโรงเรี ยน ชื่ อ เสี ยงของโรงเรี ยน
สภาพแวดล้อมภายในโรงเรี ยน
่
3. ปั จจัยทางชุมชน ถือได้วาเป็ นปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมที่สาคัญอีกประการหนึ่ งการที่
่
นักเรี ยนได้อยูในท่ามกลางชุมชนแบบใด ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมตามแบบอย่างที่ได้พบ
เห็น ปั จจัยทางชุมชน เช่น ขนาดของชุมชน ที่ต้ งและสภาพแวดล้อม เป็ นต้น
ั
4. เพื่อน ถือได้วาเป็ นอิทธิ พลที่สาคัญที่สุดของวัยรุ่ น เพราะวัยรุ่ นเป็ นวัยที่ตองการ การยอมรับ
่ ้
จากกลุ่มเพื่อน สังคมของวัยรุ่ นส่ วนใหญ่จึงเป็ นสังคมของเพื่อน โดยอิทธิ พลของกลุ่มเพื่อน
พฤติกรรมการสื่ อสาร
ในการแสวงหาข้อมู ล ข่ า วสารผ่า นอิ นเตอร์ เน็ ต ผูใ ช้ส ามารถที่ จะควบคุ ม ข้อมู ล ข่ า วสารที่
้
ต้องการเปิ ดรับหรื อเลือกปฏิเสธข้อมูลข่าวสารที่เห็นว่าไม่น่าสนใจได้อย่างสะดวก ปั จจัยที่สาคัญที่ใช้
ประกอบการตัดสิ นใจรับข่าวสารแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล มีดงนี้ ั
1. ความสะดวกในการใช้ บุ คคลจะเลื อกใช้สื่อที่ อยู่ใกล้ตวและมี ความสะดวกในการใช้มาก
ั
ที่สุด
2. ความเด่น บุคคลเลือกให้ความสนใจกับสาร ที่มีจุดเด่นต่างไปจากสารอื่น
3. ประสบการณ์ ทาให้ผรับสารแสวงหาข่าวสารต่างกัน
ู้
4. การใช้ประโยชน์ของข่าวสาร ผูรับสารจะแสวงหาข่าวสารเพื่อสนองวัตถุ ประสงค์อย่างใด
้
อย่างหนึ่ง
5. การศึกษาและสถานะทางสังคม การศึกษาและชั้นทางสังคมมีอิทธิ พลอย่างยิ่งต่อการเลื อก
ของ ผูรับสาร
้
- 10. งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้ อง
อินเตอร์ เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในสถาบันการศึกษา ซึ่ งก็ได้มีผทาการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้
ู้
อินเตอร์ เน็ต ไว้ดงนี้ั
องอาจ ฤทธิ์ ทองพิทกษ์ (2539) ได้ศึกษาเรื่ อง พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บของ
ั
นักศึกษาในเขตกรุ งเทพมหานคร พบว่า
1. นัก ศึ ก ษาส่ วนใหญ่ มี การใช้การสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไวด์เว็บที่ ม หาวิท ยาลัย และสนใจ
เปิ ดรับเนื้อหาประเภทบันเทิงมากที่สุด
2. นักศึกษาที่มีความแตกต่างกันในเรื่ อง เพศ อายุ และความเป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มี
พฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บแตกต่างกันอย่างมีนยสาคัญทางสถิติ โดยเพศ
ั
ชายมี พ ฤติ ก รรมการสื่ อสารผ่า นระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ มากกว่า เพศหญิ ง และนัก ศึ ก ษาที่ เป็ น
เจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีพฤติกรรมการสื่ อสารผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บมากกว่านักศึกษาไม่
เป็ นเจ้าของเครื่ องคอมพิวเตอร์
3. นักศึกษามีการใช้ประโยชน์จากระบบเวิลด์ไวด์เว็บ เพื่อการพัฒนาตนเองในด้านวิชาการและ
ทัก ษะการใช้ง านระบบเวิล ด์ไ วด์เ ว็บ และใช้ระบบเวิล ด์ไ วด์เว็บ ในการตอบสนองความ
ต้องการด้านข่าวสารและการพักผ่อนหย่อนใจ
- 11. บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
การวิจยครั้งนี้เป็ นการวิจยเชิงสารวจ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยน
ั ั
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา
วิธีดาเนินการวิจย โดยกล่าวถึงวิธีการศึกษาค้นคว้า
ั
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจย ั
2. เครื่ องมือที่ใช้ในการวิจย ั
3. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
4. การวิเคราะห์ขอมูล ้
5. สถิติที่ใช้ในการวิจย ั
โดยจะเสนอตามลาดับดังต่อไป
1.ประชากร
ประชากรของการวิจยครั้งนี้ เป็ นนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษา 5 ปี การศึกษา 2555 ที่กาลัง
ั
่
ศึกษาอยูในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม
กลุ่มตัวอย่ างทีใช้ ในการวิจัย
่
กลุ่มตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม ปี การศึกษา 2555
จานวน 50 คน
2.เครื่องมือทีใช้ ในการวิจัย
่
แบบสอบถาม ซึ่ งแบ่งออกเป็ น 2 ตอน คือ
การสร้ างเครื่องมือ
ผูวจยได้สร้างเครื่ องมือที่ใช้สาหรับการเก็บข้อมูลเพื่อการวิจย เป็ นลาดับขั้นตอนดาเนินการดังนี้
้ิั ั
ขั้นวางแผนเพื่อสร้างแบบสอบถาม
ผูวจยได้วางแผนในการสร้างแบบสอบถามตามขั้นตอน ดังนี้
้ิั
ขั้ น ที่ 1 ศึ ก ษาบทบาทของอาจารย์ที่ ป รึ กษา ในสถาบัน ต่ า ง ๆ จากเอกสาร ต ารา และปรึ กษา
ผูทรงคุณวุฒิ เพื่อกาหนดกรอบแนวคิดเบื้องต้น
้
ขั้นที่2 ศึกษาปั จจัยที่มีอิทธิ พลต่อพฤติ กรรมการใช้อินเตอร์ เน็ ตทางสังคมตลอดจนภาพรวม ปั ญหา
และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และนาข้อมูลที่ได้รวมกับข้อมูลตอนที่ 1 มาพัฒนาเป็ นเครื่ องมือสาหรับ
การวิจยต่อไป
ั
ขั้นที่ 3 รวบรวมข้อมูลที่ ได้จากขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 มากาหนดปั จจัยที่ มีอิทธิ พลต่อพฤติกรรมการใช้
อินเตอร์เน็ต
- 12. ตอนที่ 1 สอบถามข้อมูลทัวไปเกี่ยวกับผูตอบแบบสอบถา เป็ นแบบสอบถามแบบเลือกตอบ
่ ้
เติมคาในช่องว่างและประมาณค่า โดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ
1.1 เพศ แบ่งเป็ น เพศชายและเพศหญิง
1.2 ระดับชั้นที่ศึกษา แบ่งเป็ น ตอนปลาย
1.3 การใช้คอมพิวเตอร์ ต่อสัปดาห์
1.4 การมีคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อระบบอินเตอร์ เน็ตใช้ที่บาน ้
ตอนที่ 2 เป็ นแบบสอบถามแบบประมาณค่าโดยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปั จจัยที่ส่งผลต่อ
พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ต
3.วิธีการเก็บรวบรวมข้ อมูล
การรวบรวมข้อมูลมีวธีการ ดังนี้
ิ
1. ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ต แล้วจึงออกแบบแบบสอบถาม
พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต
2. สร้ า งแบบสอบถาม โดยแบ่ ง ออกเป็ น 3 หั ว ข้อ หลัก ดัง นี้ สถานที่ ที่ นัก เรี ย นใช้บ ริ ก าร
อินเทอร์เน็ต ช่วงเวลาที่นกเรี ยนใช้บริ การอินเทอร์ เน็ตของโรงเรี ยน บริ การทางอินเทอร์ เน็ตที่
ั
นักเรี ยนนิยมใช้ จานวน 50 ชุด
3. แจกแบบสอบถามให้นกเรี ยนกรอก และเก็บรวบรวมมาวิเคราะห์ขอมูล
ั ้
4.การวิเคราะห์ ข้อมูล
เมื่อ ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จึงได้นามาตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถาม
จากนั้น จึ ง แจ้ง ระดับ คะแนน วิ เ คราะห์ ข ้อ มู ล และน าเสนอ โดยผูวิ จ ัย นาข้อ มู ล ที่ เ ก็ บ รวบรวมมา
้
วิเคราะห์หาค่าสถิติ โดยใช้โปรแกรมสาเร็ จรู ป SPSS (Statistical Package for Social Sciences) โดยใช้
สถิติดงนี้
ั
ตอนที่ 1เป็ น แบบสอบถามเกี่ ย วกั บ สถานภาพและรายละเอี ย ดส่ วนตั ว ของผู้ต อบ
แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้ความถี่ ( Frequency ) และค่าร้อยละ ( Percentage )
ตอนที่ 2 เป็ นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ตของนักเรี ยนโรงเรี ยนสิ ริน
ธรราชวิทยาลัย นครปฐม วิเคราะห์ขอมูลดังนี้
้
วิ เ คราะห์ โดยการหาค่ า เฉลี่ ย ( Mean) และค่ า ส่ วนเบี่ ย งเบนมาตรฐาน( Standard
Deviation) พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต โดยนามาหาค่าเฉลี่ยและส่ วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน มี 5 ระดับ
ดังนี้
- 13. นาหนักการตัดสิ นใจ คะแนน
้
มีความต้องการมากที่สุด 5
มีความต้องการมาก 4
มีความต้องการปานกลาง 3
มีความต้องการน้อย 2
มีความต้องการน้อยที่สุด 1
เกณฑ์ การแปลความหมายของคะแนน
เพื่อ ให้การแปลความหมายของผลการวิเคราะห์ขอมูลสอดคล้องกับความเป็ นจริ ง ผูวจยจึง
้ ้ิั
กาหนดเกณฑ์การแปลความหมายของคะแนนเฉลี่ยตามหลักเกณฑ์ของประคอง กรรณสู ต ดังนี้
่
4.50 – 5.00 หมายถึง อยูในระดับมากที่สุด
่
3.50 - 4.49 หมายถึง อยูในระดับมาก
่
2.50 – 3.49 หมายถึง อยูในระดับปานกลาง
่
1.50– 2.49 หมายถึง อยูในระดับน้อย
่
1.00 – 1.49 หมายถึง อยูในระดับน้อยที่สุด
เปรี ยบ เทียบพฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต ของนักเรี ยนโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ. พะเยา
เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างความคิดเห็นของนักเรี ยนมัธยมศึกษา เพศชายและเพศหญิงที่มี
พฤติกรรมการใช้อินเตอร์ เน็ต
ตอนที่ 3 สรุ ปข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของผูตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้
้
อินเตอร์เน็ตของนักเรี ยนมัธยมศึกษา โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จ.พะเยา
- 14. บทที่ 4
ผลการสารวจ
1.เพศ ชาย คิดเป็ น 33.33 %
หญิง คิดเป็ น 66.67%
ตอนที่ 2 พฤติกรรมการใช้ อนเตอร์ เน็ต
ิ
2.ท่านใช้ บริการ Internet บ่ อยแค่ ไหน
ทุกวัน คิดเป็ น 80%
2-3ครั้ ง/สัปดาห์ คิดเป็ น 20%
- 15. 3.ระยะเวลาการใช้ อนเตอร์ เน็ตในแต่ ละครั้ง
ิ
น้อยกว่า 1 ชัวโมง
่ คิดเป็ น 3.34 %
1-5 ชัวโมง
่ คิดเป็ น 63.33%
6-10 ชัวโมง
่ คิดเป็ น 20%
10 ชัวโมงขึ้นไป
่ คิดเป็ น 13.33%
4.ท่านใช้ Internet จากสถานทีใด
่
บ้าน คิดเป็ น 99%
Internet café คิดเป็ น 1%
- 16. 5.ท่ านใช้ บริการ Internet เพือกิจกรรมใดบ้ าง
่
E-mail คิดเป็ น 10.48%
ค้นหาข้อมูล คิดเป็ น 12.38%
Chat คิดเป็ น 13.33%
ดูหนัง/ฟังเพลง คิดเป็ น 18.1%
ซื้ อ-ขายสิ นค้าออนไลน์ คิดเป็ น 3.87%
เล่นเกมส์ คิดเป็ น 12.38%
Upload/Download คิดเป็ น 12.38%
อ่านข่าว คิดเป็ น 8.57%
อ่านบันทึก คิดเป็ น 1.9%
อื่นๆ คิดเป็ น 1.9%
- 17. 6.Website ใดทีท่านเข้ าใช้ บริ การบ่ อยทีสุด
่ ่
Hotmail คิดเป็ น 10.86%
Google คิดเป็ น 41.3%
Mthai คิดเป็ น 2.17%
Youtube คิดเป็ น 26.08%
Facebook คิดเป็ น 36.95%
อื่นๆ คิดเป็ น 4.34%
7.ท่านใช้ Internet เพือวัตถุประสงค์ ใด
่
ติดต่อสอบถาม คิดเป็ น 13.33%
ซื้ อ-ขาย คิดเป็ น 8.47%
ค้นหาข้อมูล คิดเป็ น 22.03%
ดูข่าวสาร คิดเป็ น 15.25%
ความบันเทิง คิดเป็ น 38.98%
อื่นๆ คิดเป็ น 1.69%
- 19. บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ
สรุ ปผลการทดลอง
จากการสารวจพบว่านักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยนพะเยาพิทยาคมให้ความสนใจมาก
ที่สุดคือ เว็บไซต์ที่มีการเชื่ อมต่อกันกับสังคมออนไลน์ เช่ น www.facebook.com เว็บไซต์ที่ให้ความ
บันเทิง www.youtube.com และการสื บค้นข้อมูลผ่านทางอินเทอร์ เน็ต www.google.co.th ซึ่ งส่ วนมาก
มี จุดประสงค์เพื่อเข้าสังคมกับเพื่อน ความบันเทิ ง เล่ นเกมส์ เพื่อคลายเครี ยด และศึ กษาหาความรู ้
เพิ่มเติม หรื อหาข้อมูลข่าวสาร
ดังนั้นจากการสารวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์ เน็ตของนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรี ยน
พะเยาพิทยาคม จึงเป็ นประโยชน์ต่อการปรับเปลี่ ยนการสอนของครู ผสอน โดยสามารถใช้เครื อข่าย
ู้
ทางสังคมออนไลน์เป็ นตัวกลางในการเข้าหานักเรี ยนได้มากขึ้น เช่ น การใช้ Facebook เพื่อสั่งงาน
ส่ งงาน หรื อรวมไปถึงการสอนเพิ่มเติมผ่านทาง Youtube เป็ นต้น
อภิปรายผลการทดลอง
จากการทดลองโดยใช้นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ในโรงเรี ยนพะเยาพิทยาคม จานวน 30
คน เป็ นชาย 15 คน เป็ นหญิง 15 คน ในระหว่างวันที่ 5-7กันยายน พ.ศ. 2555ในการตอบแบบสอบถาม
พบว่า
ระยะเวลาในการใช้อินเทอร์ เน็ตส่ วนมากใช้เวลาประมาณ 1-5 ชัวโมงต่อหนึ่ งวัน ส่ วนมากใช้
่
อินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านการ์ ตูน คือเป็ น 38.98%
ข้ อเสนอแนะ
1. ควรตั้งจุดประสงค์ให้ครอบคลุมมากกว่านี้
2. ควรมีการวางแผนงานที่ดีกว่านี้
3. อาจจะต้องเพิ่มเวลาในการสารวจเพื่อให้ได้ขอมูลมากขึ้น
้