More Related Content
More from Rajamangala University of Technology Rattanakosin (13)
EMI ข้อพึงปฏิบัติในการใช้เครื่องวัดทางไฟ้ฟ้า 03
- 1. ข้อพึงปฏิบัติในการข้อพึงปฏิบัติในการ
ใช้เครื่องวัดทางไฟฟ้ าใช้เครื่องวัดทางไฟฟ้ า
วิชา การวัดและเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า
Electrical Measurement and Instrumentation
ดร.ปรัชญา มงคลไวย์
Mr.PRATYA MONGKOLWAI
1 ปัญหาความปลอดภัย1.ปญหาความปลอดภย
2.ปัญหาการต่อกราวด์
์ ้ ั ไ ้
กล่าวถึงเทคนิคการต่อกราวด์ (Grounding)
3.อุปกรณ์ป้องกันวงจรไฟฟ้า
4.การรบกวนและการกําบัง
กลาวถงเทคนคการตอกราวด (Grounding)
ความปลอดภัยในการวัดทางไฟฟ้า การช็อต
ทางไฟฟ้า (Electric shock) การกําจัดทางไฟฟา (Electric shock) การกาจด
สัญญาณรบกวนภายนอก
PAT.M.
- 2. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
PAT.M.
- 3. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 1 รช็ ไฟฟ้ ( l t i h k)1.1 การชอตทางไฟฟา (electric shock)
ั ั ั ั ้สัมผัสทางตรง
(Direct Contact)
สัมผัสทางอ้อม
(Indirect Contact)
คือสัมผัสส่วนที่ปกติไม่มีไฟฟ้า แต่จะ
คือการสัมผัสส่วนที่ปกติมีไฟฟ้า เช่น
แหล่งกําเนิดไฟฟ้า หรือ สายไฟไม่มี
มีไฟฟ้าในกรณีเมื่อชํารุด หรือไฟรั่ว
แหลงกาเนดไฟฟา หรอ สายไฟไมม
ชนวน เป็นต้น
PAT.M.
- 4. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 1 รช็ ไฟฟ้ ( l t i h k)1.1 การชอตทางไฟฟา (electric shock)
“ ้ ็ ป็ สั ส่ ั“ความรายแรงของการชอตจะเปนสดสวนกบ
ปริมาณกระแสไฟฟ้า I (A) ที่ไหลผ่านส่วนนํา
ไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์”
การช็อตทางไฟฟ้าเนื่องจากแรงดัน 100v จึงอาจอันตรายร้ายแรงได้
็เท่ากับการช็อตจากแรงดัน 1kv
PAT.M.
- 5. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 1 รช็ ไฟฟ้ ( l t i h k)1.1 การชอตทางไฟฟา (electric shock)
ั ี่ ํ ใ ้ ์ ้ ึ โ ไ ้ ั้ ่ ี่“แรงดันทีทําให้มนุษย์รู้สึกโดนดูดได้นันอยู่ทีประมาณ
70v ขึ้นไป ส่วนกระแสนั้นบ่งบอกถึงความอันตราย”70v ขนไป สวนกระแสนนบงบอกถงความอนตราย
ex. ต่อให้มีกระแส แสนล้านA แต่แรงดันเป็น 0V ก็ไม่ทําให้รู้สึกการโดนดูดไดู้ ู
กลับกันต่อให้มีแรงดันสูง 20kV แต่ถ้ามีกระแสเป็น 0A ก็ไม่เป็นอันตราย
PAT.M.
- 6. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 1 รช็ ไฟฟ้ ( l t i h k)1.1 การชอตทางไฟฟา (electric shock)
PAT.M.
- 7. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 2 รปฐมพย บ ใน รณีเ ิ รช็ ไฟฟ้1.2 การปฐมพยาบาลในกรณเกดการชอตทางไฟฟา
แยกผู้เคราะห์ร้าย ต้องมีความชํานาญู
ออกจากแหล่งไฟฟ้า
ถ้าหยดหายใจและหมดสติอย่
และระมัดระวังอย่างสูง
ให้พยายามผายปอด
ถาหยุดหายใจและหมดสตอยู
ใหพยายามผายปอด
เพื่อช่วยให้ใจ
จนกว่าแพทย์จะมาตรวจแล้ว
ยืนยันว่าเสียชีวิต
PAT.M.
ยนยนวาเสยชวต
- 8. 1 ปั ป ั1.ปญหาความปลอดภย
1 3 ข้ พึ ป ิบั ิ ้ น มป ัย1.3 ขอพงปฏบตดานความปลอดภย
PAT.M.
- 9. 2 ปั ร ่ ร ์2.ปญหาการตอกราวด
ความสําคัญของการต่อกราวด์มีบทบาทต่อการวัดในประเด็นสําคัญดังต่อไปนี้
-วงจรการวัดและเครื่องวัดทางไฟฟ้า ต้องอาศัยการต่อกราวด์ให้ถูกต้องเพื่อจะได้
ทํางานและวัดได้อย่างถกต้องทางานและวดไดอยางถูกตอง
-การต่อกราวด์ที่ถูกต้อง เป็นหลักประกันสําคัญของความปลอดภัยจากการช็อต
ไฟฟ้าไฟฟา
-การต่อกราวด์ (grouding) หรือการกําบัง (shielding) สามารถลดทอนปัญหา
ของสัญญาณรบกวน (noise) หรือการรบกวน (interference) ได้ของสญญาณรบกวน (noise) หรอการรบกวน (interference) ได
PAT.M.
- 10. 2 ปั ร ่ ร ์2.ปญหาการตอกราวด
สัญญาณรบกวน (noise) “คือสัญญาณนอกเหนือจากที่เราต้องการ”
การรบกวน (interference) “คือการรบกวนอันเนื่องมาจากสัญญาณรบกวน”
กราวด์ลงดิน (earth ground)
กราวด์วงจร (circuit ground)
กราวด์
(ground)
กราวด์โครงเครื่อง (chassis ground)
(ground)
กราวดโครงเครอง (chassis ground)
PAT.M.
- 11. 2 ปั ร ่ ร ์2.ปญหาการตอกราวด
PAT.M.
- 12. 2 ปั ร ่ ร ์2.ปญหาการตอกราวด
PAT.M.
- 13. 2 ปั ร ่ ร ์2.ปญหาการตอกราวด
การต่อกราวด์กับปัญหาความปลอดภัย
กระแสที่ไหลเมื่อเกิด
ั ิ ึ ี ่ ่ ใ ้อุบตเหตุจงมคาสูงสงผลให
ฟิวส์ที่ติดตั้งขาดหรือเบรก
์ ปิ ํ ใ ้ ัเกอรเปด ทาใหตดขาด
ออกจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
ั ั้ ั ไฟฟ้ดงนน อนตรายจากไฟฟา
ช็อตจะไม่เกิดขึ้น
PAT.M.
- 14. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
ในบางครั้งอาจเกิดกระแสกระโชกเนื่องจากโหลดมากเกินไป หรือเกิดการ
ลัดวงจร ทําให้เกิดความเสียหายขึ้นได้เราจึงมีอปกรณ์ป้องกันบางอย่างที่ใช้กันลดวงจร ทาใหเกดความเสยหายขนไดเราจงมอุปกรณปองกนบางอยางทใชกน
กว้างขวางเช่น ฟิวส์และ เบรกเกอร์ ซึ่งจะหยุดการไหลของกระแสได้ทันที
PAT.M.
- 15. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
ฟิวส์ Fusesฟวส Fuses
“การที่ฟิวส์ในวงจรขาด เป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความผิดปกติขึ้นภายในวงจรที่ฟิวส์ทําการ
ป้อนกันอยู่ เราต้องตรวจหาตําแหน่งที่ผิดพลาดและทําการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน
ก่อนที่จะเปลี่ยนฟิวส์ใหม่แทนเข้าไป”
PAT.M.
- 16. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
ฟิวส์ Fusesฟวส Fuses
PAT.M.
- 17. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
“ความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ป้องกันแบบฟิวส์ กับแบบเบรกเกอร์
คือเมื่อมีโหลดเกินเบรกเกอร์จะไม่ถูกทําลายเหมือนฟิวส์”
PAT.M.
- 18. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
แบบกลไกทางแม่เหล็กไฟฟ้า
“อาศัยแรงดึง-ดูด ที่เกิดจากสนามแม่เหล็ก”
เมื่อกระแสไหลเกินค่าพิกัด
แบบกลไกโดยใช้แผ่นโลหะค่
ู
แบบกลไกโดยใชแผนโลหะคู
(bimetallic strip)
“อาศัยการโค้งตัวของแผ่นโลหะคู่ทําให้สวิตซ์คลายออก”
เมื่อความร้อนสูงเกินค่าพิกัด
PAT.M.
- 19. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
PAT.M.
- 20. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
PAT.M.
- 21. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
PAT.M.
- 22. 3 ป ร ์ป้ ั ร3.อุปกรณปองกนวงจร
เบรกเกอร์ Breakerเบรกเกอร Breaker
PAT.M.
- 25. 4.การรบกวนและการกําบัง
Interference and shielding
การรบกวนคาปาซีตีฟ (capacitive interference)การรบกวนคาปาซตฟ (capacitive interference)
กลไกการเกิดการรบกวน
ื่ ี ั ํ ไฟฟ้ ส ส้ ซึ่ ี ั ไฟฟ้ ่ ั ี ั ่ส ส้ ิเมอมตวนาไฟฟาสองเสนซงมแรงดนไฟฟาตางกนวางเรยงกนอยูสองเสนจะเกดความ
แตกต่างของประจุและสนามไฟฟ้าระหว่างตัวนําทั้งสอง และทําให้เกิดผลของการเก็บประจุ
(C iti ff t) ิ ้ ซึ่ ป็ ไ ํ ใ ้ ิ สั ี้(Capacitive effect) เกดตามมาดวย ซงเปนกลไกทาใหเกดสญญาณรบกวน การรบกวนน
ถูกเรียกว่า การรบกวนคาปาซิทีป
ในร บบการวัด ตัวนําตัวหนึ่งมักจ เป็น “แหล่ง” ของการรบกวน แล ตัวนําอีกตัวหนึ่งจในระบบการวด ตวนาตวหนงมกจะเปน “แหลง” ของการรบกวน และตวนาอกตวหนงจะ
เป็น “เป้า” ของการรบกวน สายไฟที่นําสัญญาณขนาดเล็กและต่อเข้าอุปกรณ์ที่มีอิมพีแดนซ์
ด้านอินพตสง มีโอกาสจ เป็น เป้า ของการรบกวนคาปาซิทีปนี้ได้มาก แหล่ง ของการดานอนพุตสูง มโอกาสจะเปน เปา ของการรบกวนคาปาซทปนไดมาก แหลง ของการ
รบกวนในห้องปฏิบัติการอาจจะเป็นสายไฟใด ๆ ก็ได้ที่มีแรงดันแปรเปลี่ยนตามเวลา
“เสียงการรบกวนที่เกิดจากการแปรเปลี่ยนแรงดันหรือกระแสในสายกําลังความถี่ 50 Hz เรียกรวมกันว่า ฮัม”
PAT.M.
- 32. 4.การรบกวนและการกําบัง
Interference and shielding
ิ ั ีฟการรบกวนอนดคตฟ
(inductive interference)
แหล่งสําคัญของการรบกวนชนิดนี้ก็คือ ตัวกําเนินสนามแม่เหล็ก เช่น ตัวลวดเหนี่ยวนํา หรือ
หม้อแปลงไฟฟ้า นอกจากนี้ลวดตัวนําที่มีกระแสขนาดใหญ่ไหลผ่าน ก็สามารถให้กําเนิดหมอแปลงไฟฟา นอกจากนลวดตวนาทมกระแสขนาดใหญไหลผาน กสามารถใหกาเนด
สนามแม่เหล็กที่เข้มข้นซึ่งสามารถรบกวนวงจรข้างเคียงได้
การป้อนกันสนามแม่เหล็กเรามักทําด้วยการ “กําบัง” ด้วยสนามแม่เหล็ก
จําพวกเฟอร์โรแมกเนติค (ferromagnetic)จาพวกเฟอรโรแมกเนตค (ferromagnetic)
PAT.M.
- 33. 4.การรบกวนและการกําบัง
Interference and shielding
(ก) กําบังด้วยสารเฟอร์โรแมกเนติค
(ข) กําบังด้วยสารเฟอร์โรแมกเนติค ซึ่งห้อมล้อมด้วยขดลวดที่มีกระแสความถี่ต่ําไหลผ่าน
ทําให้สนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้น แพร่ออกภายนอกขอบเขต กําบังได้ยาก การใช้ทองแดง
ทํากรอบหุ้มรอบ จะช่วยในการกําบังได้ดีกว่าใช้สารเฟอร์โรแมกเนติก
PAT.M.
- 38. 4.การรบกวนและการกําบัง
Interference and shielding
่ ์การรบกวนจากการตอกราวด
(ground-loop interference)
เป้าหมายสําคัญของการต่อกราวด์อาจแบ่งออกได้ สองประการคือ
- เป้าหมายทางไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยในการทํางาน ลดอันตรายจากการช็อคทาง
ไฟฟ้า
- เป้าหมายทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดทอนหรือกําจัดสัญญาณรบกวน รวมทั้งเพื่อให้วงจร
สามารถทํางานได้ตามปกติ
้การต่อกราวด์โดยมีเป้าหมายประการที่สองนี้ ถ้าหากจัดทําอย่างไม่ระมัดระวัง หรือไม่
เหมาะสมจะกลับกลายมาสร้างปัญหา ทําให้เกิดการรบกวนซึ่งเรารู้จักกันว่า การรบกวน
เนื่องจากอิมพิแดนซ์ร่วม และการรบกวนเนื่องจากกราวด์ลูป
PAT.M.
- 49. ReferenceReference
- เรืองยศ เกตุรักษา, “โครงการตําราทางวิชาการ เครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า”, สาขาวิชาวิศวกรรมการวัดคุม
คณะวิศวกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- ชัยบรณ์ กังสเจียรณ์ “การวัดและเครื่องมือวัด (Measurement and Instrumentation” ภาคสาขาวิศวกรรมศาสตร์ชยบูรณ กงสเจยรณ, การวดและเครองมอวด (Measurement and Instrumentation ,ภาคสาขาวศวกรรมศาสตร,
คณะวิศวกรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร, 2550.
- สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ, WWW.nimt.or.th
National Physical Laboratory WWW npl co uk- National Physical Laboratory, WWW.npl.co.uk
- มาตรฐานการวัดแห่งชาติ , WWW.academia.edu
PAT.M.