SlideShare a Scribd company logo
แผนการจัดการเรียนรู้ แบบ CBI
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ/วิชา ภาษาอังกฤษ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที1 เวลา 4 ชั่วโมง
่

Unit: Health
Topic: Nutrition

สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวจันจิรา จันทร์ โพธิ์
2. นางสาวชไมพร เชตุราช
3. นางสาวดาราพร มุลทา
4. นางสาวเบญจภรณ์ สะผาย

5301051301
53010513017
53010513023
53010513027

นิสิตชั้นปี ที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ ENระบบปกติ
Mentors
ชื่อ – สกุล

ลงชื่อ

1. นายโกวิท ฮุยเสนา

52010513009

2. นายอดุลย์ อุดมบัว

52010513039

3. นายอาทิตย์ เวียงสิ มา

52010513043

4. นางสาวนริศรา จันทะคัด 52010513048
ส่ งครั้งที่ 1 วันที่ 26 กรกฎาคม 2555
ส่ งครั้งที่ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2555
ส่ งครั้งที่ 3 วันที่ 31 กรกฎาคม 2555
ส่ งครั้งที่ 4 วันที่ 6 สิ งหาคม 2555
1. Listening

2. Reading

1. ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกภาพให้ตรงกับคาศัพท์ได้อย่างถูกต้อง
1. ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเขียนตอบสารอาหารแต่ละชนิดได้อย่าง
ถูกต้อง

1. อ่านเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกคาตอบได้อย่างถูกต้อง
2. อ่านเรื่ องTypes of nutrients แล้วสรุ ปความรู้เรื่ องชนิดของสารอาหารที่
เรี ยนมาได้

Unit: Health
Topic: Nutrition

3. Speaking

1. พูดอธิ บายชนิดของสารอาหารได้อย่างถูกต้อง
2. แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการ
รับประทานอาหาร

4. Writing

เขียนบรรยายชนิดของสารอาหารจากรู ปภาพได้อย่างถูกต้อง
2. เขียนบรรยายวิถีชีวตของบุคคลที่กาหนดให้ ว่าควรหรื อไม่ควร
ิ
รับประทานอาหารชนิดใด เพราะเหตุใดได้
1.
Text 1
Vocabulary
energy(n.) internal or inherent power; capacity of acting, operating, or producing an ef
fect, whether exerted or not;as, men possessing energies may suffer them to lie inactive

active (adj.) always busy doing things, especially physical activities

nutrients (n.) a source of nourishment, especially a nourishing ingredient in a food

require (v.) to ask, force or order to do something

growth (n.) An increase in the size of an organism or part of an organism, usually as a
result of an increase in the number of cells
minerals (n.) a naturally occurring, homogeneous inorganic solid substance having a
definite chemical composition and characteristic crystalline structure, color, and
hardness
function (n.) the action for which a person or thing is particularly fitted or employed

important (adj.) strongly affecting the course of events or the nature of things
Text 2
Structure: Auxiliary Verbs "Shall/Should"
Shall
Mainly used in American English to ask questions politely (it has more
usages in British English). For the future tense, will is more frequently
used in American English than shall.
For example:
Shall we dance?
Let’s drink, shall we?
Often used in formal settings to deliver obligation or requirement:
For example:
There shall be no trespassing on this property.
Students shall not enter this room.

Should (past form of shall)
Often used in auxiliary functions to express an opinion, suggestion,
preference, or idea.
For example:
A person should take in 70 to 80 g of protein every day.
We should drink about eight cups of water a day.
Used to express that you wish something had happened but it didn’t or
couldn’t (should + have + past participle).
For example:
You should have seen it. It was really beautiful.
We should have visited the place on the way.
Used to ask for someone’s opinion.
For example:
What should we do now?
Should we continue our meeting?

Used to say something expected or correct.
For example:
There should be an old city hall building here.
Everybody should arrive by 6 p.m.
Text 3
Types of nutrients
1. Carbohydrates
These are nutrients made up of sugars. Carbohydrates are found in food
sources such as rice, potatoes and wheat. They provide us with energy to allow
us to do work. A person who is more active and who more strenuous work will
require a larger intake of carbohydrates. On the other hand, a person who is not
as active will require less carbohydrates.
2. Proteins
Proteins are nutrients found in food sources such as milk, meat and fish.
Proteins are required for growth and the building of muscles. A person should
take in about 70 to 80 g of protein every day. Protein is especially important for
growing children.
3. Fats
Fats are nutrients found in food sources such as full-cream milk,
cooking oil, animal skin and nuts. Fats are a source of energy and are also
required for absorption of some vitamins (A, D, E and K) and maintaining
healthy skin and hair.
4. Dietary minerals
Dietary minerals are nutrients found in very small amounts in food such
as fish, meat and vegetables. Examples of dietary minerals are copper, iron and
manganese. Dietary minerals are required for maintaining important life
processes such as aerobic respiration.
5. Vitamins
Vitamins are nutrients required to support various functions in our
bodies. They are required in very small amounts. Example of vitamins include
vitamin A, vitamin B, vitamin C, vitamin D, vitamin K. Almost all food
sources contain some vitamins.
6. Water
Water is very important for our body. It is required for all the chemical
processes that take place in our body. We should drink about eight cups of
water a day. If we do not get enough water, we will be dehydrated.
แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการฟัง
1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1.1 ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกภาพให้ตรงกับความหมายได้อย่างถูกต้อง
1.2 ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเขียนตอบสารอาหารแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง
2. ตัวชี้วด
ั
ต.1.1ม.1/1 ปฏิบติตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจงง่ายๆที่ฟังและอ่าน
ั
ต.1.2ม.1/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอมูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่ องที่ฟังหรื ออ่านอย่าง
้
เหมาะสม
ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยง และกิริยาท่าทางสุ ภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้ารวบรวมและสรุ ปข้อมูล/ข้อเท็จจริ งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ
เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/เขียน
ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและสถานศึกษา
3. เนือหา
้
3.1 Vocabulary: energy, active nutrients, require, growth , minerals, function, important
3.2 structure: Modal verb (shall, should)
Example: Shall we dance?
Let’s drink, shall we?
You should have seen it. It was really beautiful.
We should have visited the place on the way.
4. สื่ อการสอน
4.1 VDO เกี่ยวกับเรื่ อง “Nutrients”
4.2 Power Point คาศัพท์และไวยากรณ์
4.3 Power Pointแผ่นป้ ายหมายเลข
4.4 เสี ยงเรื่ อง “Types of nutrients”
4.5 กระดาษบรู๊ ฟ
Teaching Procedures
Presentation
ขั้นที่ 1 ครู นาเข้าสู่ บทเรี ยนโดยครู เปิ ดVDO เรื่ อง Nutrientsให้นกเรี ยนดูแล้วถามคาถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่ อง
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจก Text 1 แล้วเปิ ด Power point อธิ บายคาศัพท์และความหมายพร้อมทั้งให้นกเรี ยน
ั
ออกเสี ยงตาม
ขั้นที่ 3 ครู แจก Text 2 แล้วอธิบายโครงสร้างการใช้ modal verb เรื่ อง shall, should
ขั้นที่ 4 ครู เปิ ดเสี ยง Types of nutrients ให้นกเรี ยนฟัง 1 รอบ และถามคาถาม
ั
-How many types of nutrients?
-What types of nutrients are required for growth?
-How much of water should we drink a day?
Activity 1
ขั้นที่ 1 ครู แจก activity 1 ให้นกเรี ยนทุกคน
ั
ขั้นที่ 2 ครู เปิ ดเสี ยงของคาศัพท์ ให้นกเรี ยนฟังข้อละ2รอบ แล้วให้นกเรี ยนเลือกภาพที่ตรงกับคาศัพท์
ั
ั
ขั้นที่ 3 ครู เก็บ activity 1 คืนเพื่อตรวจให้คะแนน
ขั้นที่ 4 ครู เฉลยคาตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้อให้นกเรี ยนฟัง
ั
Activity 2
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจก activity2 ให้นกเรี ยนคู่ละ 1แผ่น
ั
ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนคู่แรกเลือกแผ่นป้ ายรู ปภาพ types of nutrients ใน power point มา 1 รู ป ซึ่ง
ั
ประกอบด้วย Carbohydrates, Proteins, Fats, Dietary minerals, Vitamins and Water
ขั้นที่ 4 ครู เปิ ดเสี ยง Types of nutrients ที่นกเรี ยนเลือกให้นกเรี ยนฟัง
ั
ั
ขั้นที่ 5 ครู ให้นกเรี ยนเขียนชนิดของอาหารที่ได้ฟัง ให้ตรงกับภาพในกระดาษ activity1
ั
ขั้นที่ 6 ครู ให้นกเรี ยนคู่ต่อไปเลือกแผ่นป้ ายต่อไปและทากิจกรรมเหมือนเดิม
ั
ขั้นที่ 7 ครู เก็บ activity1 คืนเพื่อตรวจให้คะแนน
การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมทีจะประเมิน
่
ทักษะการฟัง
1. Activity 1

วิธีการประเมิน
1.ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ
และให้คะแนน

2. Activity 2

2.ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ
และให้คะแนน

เครื่องมือประเมิน

-
Activity 1
1. Listen to the vocabulary sound.
2. Then, match the picture that relates with each vocabulary

you hear by marking
3. active

4. growth

5. energy

6. function

.
7. minerals

8. require

9. nutrients

10. important
Activity 2
1. Work in pair.
2. Choose one picture.
3. Then, try to listen types of nutrients sound.
4. Answer what kind of food in each nutrients.
carbohydrates
guideline
rice, potatoes and wheat

proteins

fats

dietary minerals

vitamins

water
แผนการจัดเรียนรู้ ทกษะการอ่าน
ั
1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1.1 1. อ่านเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกคาตอบได้อย่างถูกต้อง
1.2 อ่านเรื่ องTypes of nutrients แล้วสรุ ปความรู้เรื่ องชนิดของสารอาหารที่เรี ยนมาได้
2. ตัวชี้วด
ั
ั
ต.1.1ม.1/3 เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กบสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยง (non-text information) ที่
อ่าน
ต.1.4ม.1/4 ระบุหวข้อเรื่ อง (topic) ใจความสาคัญ (main idea) และตอบคาภามจากการฟั งและอ่านบท
ั
สนทนา นิทาน และเรื่ องสั้น
ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยง และกิริยาท่าทางสุ ภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้ารวบรวมและสรุ ปข้อมูล/ข้อเท็จจริ งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ
เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต.4.2ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้าความรู ้/ข้อมูลต่างๆจากสื่ อและแหล่งการเรี ยนรู ้ต่างๆ
ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ
3.เนือหา
้
3.1บทอ่านเรื่ อง Types of nutrients
4. สื่ อการเรี ยนรู้
4.1 กระดาษบรู๊ ฟ
4.2 ปากกาเมจิก
Teaching Procedures
Activity 1
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่เพื่อทากิจกรรม True or false
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจก ป้ าย ถูก- ผิดให้นกเรี ยนแต่ละคู่
ั
ขั้นที่ 3 ครู เปิ ดดาถามใน Power point
ขั้นที่ 4 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่หาคาตอบใน Text3
ั
ขั้นที่5 ครู นบ one, two, three แล้วให้นกเรี ยนชูป้ายคาตอบขึ้น
ั
ั
ขั้นที่ 6 ครู เฉลยคาตอบที่ถูกต้องให้นกเรี ยนฟัง และให้คะแนนนักเรี ยน
ั

Activity 2
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจก text 3 ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ และให้เวลา 5 นาทีในการอ่านเรื่ อง Type of nutrients
ั
ขั้นที่ 3 ครู ให้ตวแทนแต่ละคู่ออกมาจับสลากเกี่ยวกับชนิดของสารอาหาร
ั
ขั้นที่ 4 ครู ให้เวลา 3 นาที ให้นกเรี ยนแต่ละคู่สรุ ปความรู ้ตามหัวข้อที่จบสลากได้
ั
ั
ขั้นที่ 5 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ออกไปนาเสนอหน้าชั้นเรี ยน
ั
ขั้นที่ 6 ครู ให้คะแนนนักเรี ยนแต่ละคู่
การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมทีจะประเมิน
่
ทักษะการอ่าน
1. Activity 1
2. Activity 2

วิธีการประเมิน

เครื่องมือประเมิน

1. ตรวจสอบความถูกต้องของคาศัพท์

-

และให้คะแนน
2.ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ
และให้คะแนน

-
Activity 1
1. Work in pair.
2. Then look at the questions on Power point.
3. Read text3, then raise true or false label to answer the
question.
4. The pair that answers correctly will get the point.
1. Carbohydrates are found in food sources such as rice, potatoes and
meat.____
2. A person who is not as active will require less carbohydrate. ____
3.Proteins are nutrients found in food sources such as milk, meat and
fish. ____
4.Protein is especially important for growing adults. ____
5.Fats are a source of energy and are also required for absorption of
some vitamins (A, D, E and K) ____
6. Dietary minerals are nutrients found in quite big amounts in food
such as fish, meat and vegetables. ____
7.Examples of dietary minerals are copper, calcium and manganese.
8. Almost all food sources contain some vitamins.____
9.Fat is very important for our body. ____
10.We should drink about five cups of water a day. ____

Name…………………………………….Number..………Class……………
Name…………………………………….Number..………Class……………
Activity 2
1. Work in pair.
2. A representative from each group draws a lot to get a type of
nutrients; carbohydrates, proteins, fats, dietary minerals, and
vitamins.
3. Read text 3 and discuss with your partner to summarize from
a slot that you have gotten.
4. Then, come up and present your answer in front of the class.

Guideline

Carbohydrates are found in food sources such as rice,
potatoes and wheat. They provide us with energy to allow us to
do work.
แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการพูด
1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1.1 พูดอธิบายชนิดของสารอาหารได้อย่างถูกต้อง
1.2 แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการรับประทานอาหาร
2. ตัวชี้วด
ั
ต.1.1ม.1/2 อ่านออกเสี ยงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้นๆถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.2ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู ้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่ องต่างๆใกล้ตว กิจกรรม
ั
ต่างๆพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบอย่างเหมาะสม
ต.1.3.ม.1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรื อเรื่ องต่างๆใกล้ตวพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ
ั
ประกอบ
ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยงและกิริยาท่าทางสุ ภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม สรุ ปข้อมูล/ ข้อเท็จจริ ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ
เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาในการสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและ
สถานศึกษา
3.สื่ อการเรี ยนรู้
3.1 Power point ป้ ายหมายเลข
3.2 Power point สถานการณ์บทบาทสมมุติ
Teaching Procedures
Activity 1
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับกลุ่มๆละ 3 คน
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจกอาหาร/เครื่ องดื่ม ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มๆละ 1 ชนิด
ั
ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ปรึ กษากัน 1 นาที เพื่ออธิบายอาหาร/เครื่ องดื่มที่ได้รับ
ั
ขั้นที่ 4 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มออกมาอธิ บายอาหาร/เครื่ องดื่ม ที่ได้รับหน้าชั้นเรี ยน
ั
ขั้นที่ 5 ครู ให้คะแนนและประเมินทักษะการพูดของนักเรี ยน

Activity 2
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่ เพื่อแสดงบทบาทสมมติ
ั
ขั้นที่ 2 ครู กาหนดสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการรับประทานอาหาร
ขั้นที่ 3 ครู กาหนดเวลาให้นกเรี ยนเตรี ยมตัว 5 นาที
ั
ขั้นที่ 4 นักเรี ยนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติหน้าชั้นเรี ยน
ขั้นที่ 5 ครู สังเกตและประเมินทักษะการพูดและการออกเสี ยงของนักเรี ยนโดยใช้แบบประเมินการพูด
การวัดผลและประเมินผล

กิจกรรมทีจะประเมิน
่
ทักษะการพูด
1. Activity 1
2. Activity 2

วิธีการประเมิน
1.สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน
แบบประเมิน
2. สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน
แบบประเมิน

เครื่องมือประเมิน
1. แบบประเมินทักษะการพูด
2. แบบประเมินทักษะการพูด
Activity 1
1. Make a group of three people.
2. Each group gets a food/drink from teacher.
3. Then each group has 1 minute to prepare description of the
food/drink that got.
4. Come up to describe your food/drink in front of the class.
Guideline

Oranges have high vitamin C. We feel fresh when we eat orange …………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
Activity 2
1. Work in pair.
2. Supposing a member of each pair has a problem about
his/her health and another has to give some suggestion about
eating for good health.
3. Then discuss with your partner to complete the script role
play. Thinking of the situation that given. (5 minutes)
4. Come up to act out your play in front of the class.
Guide line
A: Today, I feel very tired and I want some energy food. What
should I eat?
B: You should have _________________
A: Thanks. If I want _________________
B: Well, you should _________________
A: You are very excellent.
………………………………………………………………………
……………………………………………………...........................
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
Name……………………………….Number..………Class………
Name……………………………….Number..………Class………
แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการเขียน
1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
1.1 เขียนบรรยายรู ปภาพพร้อมทั้งบอกประโยชน์ของสารอาหารได้
1.2 เขียนแนะนาการเลือกรับประทานอาหารของแต่ละบุคคลโดยใช้ should/shall เข้าช่วยได้

2. ตัวชี้วด
ั
ต.1.1ม.1/1 ปฏิบติตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนาและคาชี้แจงง่ายๆที่ได้ฟังและอ่าน
ั
ต.1.1ม.1/2 อ่านออกเสี ยงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้นๆถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต.1.2ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู ้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่ องต่างๆใกล้ตว
ั
กิจกรรมต่างๆพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบอย่างเหมาะสม
ต.1.3ม.1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรื อเรื่ องต่างๆใกล้ตว พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ
ั
ประกอบ
ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยงและกิริยาท่าทางสุ ภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม สรุ ปข้อมูล/ ข้อเท็จจริ ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ
เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน
ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาในการสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและ
สถานศึกษา
3.สื่ อการเรี ยนรู้
3.1 กระดาษบรู๊ ฟ
3.2 ปากกาเมจิก
Teaching Procedures
Activity 1
ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อทากิจกรรม your favorite food
ั
ขั้นที่ 2 ครู แจกกระดาษ และปากกา ให้นกเรี ยนทุกกลุ่ม
ั
ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มวาดภาพอาหาร 1 ชนิด และบรรยายรู ปภาพพร้อมทั้งบอกสารอาหาร
ั
ขั้นที่ 4ครู ให้นกเรี ยนทุกกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรี ยน
ั
ขั้นที่ 5 ครู สังเกตและประเมินทักษะการเขียน

Activity 2
ขั้นที่ 1ครู ให้นกเรี ยนจับคู่เพื่อทากิจกรรม what should they do?
ั
ขั้นที่ 2ครู แจก activity2 ซึ่ งกาหนดวิถีชีวตของคน 3 คนมาให้
ิ
ขั้นที่3 ครู ให้นกเรี ยนเลือกวิถีชีวตของคน 1 คน แล้วเขียนบรรยายว่าเขาควร หรื อไม่ควรรับประทานอาหาร
ั
ิ
ชนิดใด เพราะเหตุใด โดยใช้ should/should not เข้าช่วย
ขั้นที่ 4 ครู เก็บ activity 2 คืน
ขั้นที่5 ครู ให้คะแนนและประเมินทักษะการเขียน
การวัดผลและประเมินผล
กิจกรรมทีจะประเมิน
่
ทักษะเขียน
1.Activity 1
2. Activity 2

วิธีการประเมิน
1.สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน
แบบประเมิน
2. สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน
แบบประเมิน

เครื่องมือประเมิน
1. แบบประเมินทักษะการเขียน
2. แบบประเมินทักษะการเขียน
Activity 1
1. Make a group of three people. Then draw your favorite food.
2. Write description about its type of nutrient for 5 minutes.
3. Come up to present in front of the class.

I like fried rice because it is delicious. This dish has meat, rice
and cucumber. ….. ……………………………….. ……………………….. ……….

…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
Activity 2
1. Work in pair.
2. Choose one habit of Tom, Jane and Alice that given.
3. Then, describe what should or should not be included in the
diets of his/her. Give your reasons for the item you have chosen.

Tom: Tom is an active individual who enjoys daily
runs. He visits the gymnasium three times a week to
lift weights to build up his muscles.

Jane: Jane is an office worker. In a normal work day,
she remains seated for about 6 hours. After work, Jane
returns home and sits down in front of the television
for a few hours before going to bed.

Alice: Alice has signed up for a marathon in the
coming week. She will need to run for a very long
distance during the marathon and has decided to
start eating food that can give her enough energy for
the whole run.
Activity 2
Guideline

Tom: Tom is an active individual who enjoys daily
runs. He visits the gymnasium three times a week to
lift weights to build up his muscles.

Tom should eat……………………………………………………….
………………………………………………………………………..
because………………………………………………………….…….
………………………………………………………………………...
He should not eat………………………………………………….…..
…………………………………………………………………….…..
because……………………………………………………………..…
………………………………………………………………….….….

Name……………………………….Number..………Class………
Name……………………………….Number..………Class………
แบบประเมินทักษะการพูด(Activity 1)

การออก
เสี ยง (3)
กลุ่มที่

3

ความถูกต้อง
ของเนื้ อหา
(คาศัพท์ และ
โครงสร้าง
ไวยากรณ์) (3)
2 1 3 2 1

ประเด็น/คะแนน
ความ
ความ
พยายามใน คล่องแคล่ว รวม
การสื่ อสาร
(2)
คะแนน สรุ ปการประเมิน
(2)
(10)
2

1

2

1

ผ่าน

่
ไม่ผาน

(ลงชื่อ)..............................................ผูประเมิน
้
(..............................................)
วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ...........
หมายเหตุ ระดับคุณภาพ

8-10
6-7
4-5
1-3

คะแนน หมายถึง
คะแนน หมายถึง
คะแนน หมายถึง
คะแนน หมายถึง

ดีมาก
ดี
พอใช้
ปรับปรุ ง

เกณฑ์ การประเมิน ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
้
เกณฑ์ การให้ คะแนนทักษะการพูด ( 10 คะแนน)
การออกเสี ยง ( 3 คะแนน)
3 คะแนน
หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักถูกต้องเป็ นส่ วนใหญ่ ทา
ให้สื่อสารชัดเจน
2 คะแนน
หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนัก ผิดเป็ นบางคาแต่ยงพอ
ั
สื่ อสารได้
1 คะแนน
หมายถึง เสี ยงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งทาให้เกิดการสื่ อสาร
การนาเสนอเรื่อง ( 3 คะแนน)
3 คะแนน
หมายถึง นาเสนอเรื่ องได้อย่างน่าสนใจ ผูฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตามขั้นตอน
้
ตลอดเรื่ อง
2 คะแนน
หมายถึง นาเสนอเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้าง แต่ผฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตลอด
ู้
1 คะแนน
หมายถึง นาเสนอเรื่ องไม่ต่อเนื่อง ไม่ชวนติดตาม
ความคล่องแคล่ว ( 2 คะแนน)
2 คะแนน
หมายถึง พูดต่อเนื่องไม่ติดขัดทาให้เกิดการสื่ อสาร
1 คะแนน
หมายถึง พูดเป็ นคาๆ หยุดเป็ นระยะๆ ทาให้การสื่ อสารไม่ต่อเนื่อง
ท่าทางประกอบการสนทนา ( 2 คะแนน)
2 คะแนน
หมายถึง แสดงท่าทางประกอบ/อารมณ์อย่างแนบเนียนเหมาะสมกับ
เรื่ อง/บทบาทที่ได้รับ
1 คะแนน
หมายถึง พูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ

เกณฑ์ การประเมิน ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
้
แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ (Activity 2)
ประเด็น/คะแนน

กลุ่มที่

การออกเสี ยง
(3)

การนาเสนอ
ความ
เรื่องได้ ตรง คล่องแคล่วใน
ประเด็น
การใช้ ภาษา
(3)
(2)

ท่าทาง
ประกอบ
สนทนา
(2)

รวมคะแนน

(10)

ลงชื่อ.......................................................ผูประเมิน
้
(.....................................................................)
วันที่.........เดือน...........................พ.ศ. ............
เกณฑ์การประเมิน
7 – 10 คะแนน ดีมาก
5 – 6 คะแนน ดี
3 – 4 คะแนน ปานกลาง
1 – 2 คะแนน พอใช้
0 คะแนน ปรับปรุ ง
หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์
้
เกณฑ์ การให้ คะแนนการพูดตามบทสนทนา
1. การออกเสี ยง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักถูกต้องเป็ นส่ วนใหญ่ ทาให้
สื่ อสารชัดเจน
2 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักผิดเป็ นบางคา แต่ยงพอ
ั
สื่ อสารได้
1 คะแนน หมายถึง เสี ยงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่ง ทาให้เกิดการสื่ อสาร
2. การนาเสนอเรื่ อง (3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง นาเสนอเรื่ องได้อย่างน่าสนใจ ผูฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตามขั้นตอน
้
ตลอดเรื่ องและตรงประเด็น
2 คะแนน หมายถึงนาเสนอเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้าง แต่ผฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตลอด
ู้
1 คะแนน หมายถึงนาเสนอเรื่ องไม่ต่อเนื่อง ไม่ชวนติดตาม
3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึง พูดต่อเนื่องไม่ติดขัดทาให้เกิดการสื่ อสาร
1คะแนน หมายถึง พูดเป็ นคาๆ หยุดเป็ นระยะๆ ทาให้การสื่ อสารไม่ต่อเนื่ อง
4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน)
2 คะแนน หมายถึง แสดงท่าทางประกอบ/อารมณ์อย่างแนบเนียนเหมาะสมกับเรื่ อง/บทบาทที่
ได้รับ
1 คะแนน หมายถึง พูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ
หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์
้
แบบประเมินทักษะการเขียน (Activity 1, Activity 2)
ประเด็น/คะแนน
เกณฑ์การประเมิน
ลาดับ
ชื่อ-สกุล

โครงสร้าง
ไวยากรณ์
(3)
3

2

การใช้ภาษา ลาดับเรื่ อง รวม
(เล่าเรื่ องได้ ได้อย่างมี คะแนน
ตรงประเด็น) ขั้นตอน
(9)
(3)
(3)
1 3 2 1 3 2 1
9

ลงชื่อ.......................................................ผูประเมิน
้
(..................................................................... )
วันที่.........เดือน........................... พ.ศ. ...........
เกณฑ์การประเมิน
7 – 10 คะแนน ดีมาก
5 – 6 คะแนน ดี
3 – 4 คะแนน ปานกลาง
1 – 2 คะแนน พอใช้
หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์
้
เกณฑ์ การให้ คะแนนทักษะการเขียน ( 9 คะแนน)
ก. โครงสร้างไวยากรณ์ ( 3 คะแนน)
3 คะแนน หมายถึง ไวยากรณ์/การสะกดคา/เครื่ องหมายต่างๆ ถูกต้องทุกประโยค
2 คะแนน หมายถึง ไวยากรณ์/การสะกดคา/เครื่ องหมายต่างๆ ผิดเป็ นบางแห่ง
1 คะแนนหมายถึง มีที่ผดมากในเรื่ องไวยากรณ์/การสะกดคา และเครื่ องหมายต่างๆ
ิ
ข. การใช้ภาษา ( 3 คะแนน)
3 คะแนน
หมายถึง ใช้คาสละสลวย เล่าเรื่ องตรงประเด็น
2 คะแนน
หมายถึง ใช้คาสละสลวยเป็ นบางตอน แต่สามารถเล่าเรื่ องได้ตรงประเด็น
1 คะแนน
หมายถึง เล่าเรื่ องไม่ตรงประเด็นและใช้คาศัพท์ผดความหมายที่ตองการสื่ อ
ิ
้
ค. ลาดับเรื่ อง ( 3 คะแนน)
3 คะแนน
หมายถึง ลาดับเรื่ องอย่างมีข้ นตอน ทาให้เรื่ องสื่ อได้อย่างน่าสนใจ
ั
2 คะแนน
หมายถึง ลาดับเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้างแต่ยงสื่ อสารเป็ นที่เข้าใจ
ั
1 คะแนน
หมายถึง เนื้อเรื่ องขาดตอนทาให้ไม่น่าสนใจ

หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์
้
Cbi ผ าน

More Related Content

Similar to Cbi ผ าน

agi inter #good health
agi inter #good healthagi inter #good health
agi inter #good health
Nim Kotarak
 
CBI Lesson Plan
CBI Lesson PlanCBI Lesson Plan
CBI Lesson Plan
Silence Aholic
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมPignoi Chimpong
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารBank Kitsana
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plan
khanidthakpt
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียนUbonpan Sornsakul
 
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
Aiwilovekao
 
Listening lesson plan
Listening lesson plan Listening lesson plan
Listening lesson plan
Areeya Hongsuwan
 
สุขภาพ
สุขภาพสุขภาพ
แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food
Nim Kotarak
 
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
aphithak
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้krunoony
 
Thai daily life activities-week1 ฟรี
Thai daily life activities-week1 ฟรีThai daily life activities-week1 ฟรี
Thai daily life activities-week1 ฟรี
Sopa Aruncharoenkit
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1Thipa Srichompoo
 
Reading
ReadingReading
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
Thidarat Termphon
 
แผนการสอน CBI
แผนการสอน CBIแผนการสอน CBI
แผนการสอน CBISuccess SC Slac
 

Similar to Cbi ผ าน (20)

agi inter #good health
agi inter #good healthagi inter #good health
agi inter #good health
 
CBI Lesson Plan
CBI Lesson PlanCBI Lesson Plan
CBI Lesson Plan
 
หน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถมหน่วยการเรียนรู้ประถม
หน่วยการเรียนรู้ประถม
 
สุขศึกษา
สุขศึกษาสุขศึกษา
สุขศึกษา
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
 
Sickness lesson plan
Sickness lesson planSickness lesson plan
Sickness lesson plan
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียน
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8aแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
 
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
Lesson plan listening will sky ครั้งที่ 6
 
Listening lesson plan
Listening lesson plan Listening lesson plan
Listening lesson plan
 
สุขภาพ
สุขภาพสุขภาพ
สุขภาพ
 
แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food
 
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...Chapter 2   การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
Chapter 2 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย...
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้
 
Thai daily life activities-week1 ฟรี
Thai daily life activities-week1 ฟรีThai daily life activities-week1 ฟรี
Thai daily life activities-week1 ฟรี
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
Reading
ReadingReading
Reading
 
บทที่ ๓
บทที่ ๓บทที่ ๓
บทที่ ๓
 
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ม.ต้น พต.21001
 
แผนการสอน CBI
แผนการสอน CBIแผนการสอน CBI
แผนการสอน CBI
 

More from DaraAlice Edu

B slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดB slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดDaraAlice Edu
 
Pppแก ล าส_ด3กค
Pppแก ล าส_ด3กคPppแก ล าส_ด3กค
Pppแก ล าส_ด3กคDaraAlice Edu
 
Reading คร งท__4
Reading คร  งท__4Reading คร  งท__4
Reading คร งท__4DaraAlice Edu
 
Speaking plan
Speaking planSpeaking plan
Speaking plan
DaraAlice Edu
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_านDaraAlice Edu
 

More from DaraAlice Edu (7)

B slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดB slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุด
 
Pppแก ล าส_ด3กค
Pppแก ล าส_ด3กคPppแก ล าส_ด3กค
Pppแก ล าส_ด3กค
 
Teaching writing1
Teaching writing1Teaching writing1
Teaching writing1
 
Reading คร งท__4
Reading คร  งท__4Reading คร  งท__4
Reading คร งท__4
 
Speaking plan
Speaking planSpeaking plan
Speaking plan
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_านแผน Listening ม.1 คร  งท__3 ผ_าน
แผน Listening ม.1 คร งท__3 ผ_าน
 

Cbi ผ าน

  • 1. แผนการจัดการเรียนรู้ แบบ CBI กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่ างประเทศ/วิชา ภาษาอังกฤษ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที1 เวลา 4 ชั่วโมง ่ Unit: Health Topic: Nutrition สมาชิกในกลุ่ม 1. นางสาวจันจิรา จันทร์ โพธิ์ 2. นางสาวชไมพร เชตุราช 3. นางสาวดาราพร มุลทา 4. นางสาวเบญจภรณ์ สะผาย 5301051301 53010513017 53010513023 53010513027 นิสิตชั้นปี ที่ 3 สาขาภาษาอังกฤษ ENระบบปกติ Mentors ชื่อ – สกุล ลงชื่อ 1. นายโกวิท ฮุยเสนา 52010513009 2. นายอดุลย์ อุดมบัว 52010513039 3. นายอาทิตย์ เวียงสิ มา 52010513043 4. นางสาวนริศรา จันทะคัด 52010513048 ส่ งครั้งที่ 1 วันที่ 26 กรกฎาคม 2555 ส่ งครั้งที่ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2555 ส่ งครั้งที่ 3 วันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ส่ งครั้งที่ 4 วันที่ 6 สิ งหาคม 2555
  • 2. 1. Listening 2. Reading 1. ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกภาพให้ตรงกับคาศัพท์ได้อย่างถูกต้อง 1. ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเขียนตอบสารอาหารแต่ละชนิดได้อย่าง ถูกต้อง 1. อ่านเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกคาตอบได้อย่างถูกต้อง 2. อ่านเรื่ องTypes of nutrients แล้วสรุ ปความรู้เรื่ องชนิดของสารอาหารที่ เรี ยนมาได้ Unit: Health Topic: Nutrition 3. Speaking 1. พูดอธิ บายชนิดของสารอาหารได้อย่างถูกต้อง 2. แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการ รับประทานอาหาร 4. Writing เขียนบรรยายชนิดของสารอาหารจากรู ปภาพได้อย่างถูกต้อง 2. เขียนบรรยายวิถีชีวตของบุคคลที่กาหนดให้ ว่าควรหรื อไม่ควร ิ รับประทานอาหารชนิดใด เพราะเหตุใดได้ 1.
  • 3. Text 1 Vocabulary energy(n.) internal or inherent power; capacity of acting, operating, or producing an ef fect, whether exerted or not;as, men possessing energies may suffer them to lie inactive active (adj.) always busy doing things, especially physical activities nutrients (n.) a source of nourishment, especially a nourishing ingredient in a food require (v.) to ask, force or order to do something growth (n.) An increase in the size of an organism or part of an organism, usually as a result of an increase in the number of cells minerals (n.) a naturally occurring, homogeneous inorganic solid substance having a definite chemical composition and characteristic crystalline structure, color, and hardness function (n.) the action for which a person or thing is particularly fitted or employed important (adj.) strongly affecting the course of events or the nature of things
  • 4. Text 2 Structure: Auxiliary Verbs "Shall/Should" Shall Mainly used in American English to ask questions politely (it has more usages in British English). For the future tense, will is more frequently used in American English than shall. For example: Shall we dance? Let’s drink, shall we? Often used in formal settings to deliver obligation or requirement: For example: There shall be no trespassing on this property. Students shall not enter this room. Should (past form of shall) Often used in auxiliary functions to express an opinion, suggestion, preference, or idea. For example: A person should take in 70 to 80 g of protein every day. We should drink about eight cups of water a day. Used to express that you wish something had happened but it didn’t or couldn’t (should + have + past participle). For example: You should have seen it. It was really beautiful. We should have visited the place on the way.
  • 5. Used to ask for someone’s opinion. For example: What should we do now? Should we continue our meeting? Used to say something expected or correct. For example: There should be an old city hall building here. Everybody should arrive by 6 p.m.
  • 6. Text 3 Types of nutrients 1. Carbohydrates These are nutrients made up of sugars. Carbohydrates are found in food sources such as rice, potatoes and wheat. They provide us with energy to allow us to do work. A person who is more active and who more strenuous work will require a larger intake of carbohydrates. On the other hand, a person who is not as active will require less carbohydrates. 2. Proteins Proteins are nutrients found in food sources such as milk, meat and fish. Proteins are required for growth and the building of muscles. A person should take in about 70 to 80 g of protein every day. Protein is especially important for growing children. 3. Fats Fats are nutrients found in food sources such as full-cream milk, cooking oil, animal skin and nuts. Fats are a source of energy and are also required for absorption of some vitamins (A, D, E and K) and maintaining healthy skin and hair. 4. Dietary minerals Dietary minerals are nutrients found in very small amounts in food such as fish, meat and vegetables. Examples of dietary minerals are copper, iron and manganese. Dietary minerals are required for maintaining important life processes such as aerobic respiration. 5. Vitamins Vitamins are nutrients required to support various functions in our bodies. They are required in very small amounts. Example of vitamins include vitamin A, vitamin B, vitamin C, vitamin D, vitamin K. Almost all food sources contain some vitamins. 6. Water Water is very important for our body. It is required for all the chemical processes that take place in our body. We should drink about eight cups of water a day. If we do not get enough water, we will be dehydrated.
  • 7. แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการฟัง 1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1.1 ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกภาพให้ตรงกับความหมายได้อย่างถูกต้อง 1.2 ฟังเรื่ อง Types of nutrients แล้วเขียนตอบสารอาหารแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง 2. ตัวชี้วด ั ต.1.1ม.1/1 ปฏิบติตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจงง่ายๆที่ฟังและอ่าน ั ต.1.2ม.1/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอมูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่ องที่ฟังหรื ออ่านอย่าง ้ เหมาะสม ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยง และกิริยาท่าทางสุ ภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้ารวบรวมและสรุ ปข้อมูล/ข้อเท็จจริ งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/เขียน ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและสถานศึกษา 3. เนือหา ้ 3.1 Vocabulary: energy, active nutrients, require, growth , minerals, function, important 3.2 structure: Modal verb (shall, should) Example: Shall we dance? Let’s drink, shall we? You should have seen it. It was really beautiful. We should have visited the place on the way. 4. สื่ อการสอน 4.1 VDO เกี่ยวกับเรื่ อง “Nutrients” 4.2 Power Point คาศัพท์และไวยากรณ์ 4.3 Power Pointแผ่นป้ ายหมายเลข 4.4 เสี ยงเรื่ อง “Types of nutrients” 4.5 กระดาษบรู๊ ฟ
  • 8. Teaching Procedures Presentation ขั้นที่ 1 ครู นาเข้าสู่ บทเรี ยนโดยครู เปิ ดVDO เรื่ อง Nutrientsให้นกเรี ยนดูแล้วถามคาถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่ อง ั ขั้นที่ 2 ครู แจก Text 1 แล้วเปิ ด Power point อธิ บายคาศัพท์และความหมายพร้อมทั้งให้นกเรี ยน ั ออกเสี ยงตาม ขั้นที่ 3 ครู แจก Text 2 แล้วอธิบายโครงสร้างการใช้ modal verb เรื่ อง shall, should ขั้นที่ 4 ครู เปิ ดเสี ยง Types of nutrients ให้นกเรี ยนฟัง 1 รอบ และถามคาถาม ั -How many types of nutrients? -What types of nutrients are required for growth? -How much of water should we drink a day? Activity 1 ขั้นที่ 1 ครู แจก activity 1 ให้นกเรี ยนทุกคน ั ขั้นที่ 2 ครู เปิ ดเสี ยงของคาศัพท์ ให้นกเรี ยนฟังข้อละ2รอบ แล้วให้นกเรี ยนเลือกภาพที่ตรงกับคาศัพท์ ั ั ขั้นที่ 3 ครู เก็บ activity 1 คืนเพื่อตรวจให้คะแนน ขั้นที่ 4 ครู เฉลยคาตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้อให้นกเรี ยนฟัง ั Activity 2 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่ ั ขั้นที่ 2 ครู แจก activity2 ให้นกเรี ยนคู่ละ 1แผ่น ั ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนคู่แรกเลือกแผ่นป้ ายรู ปภาพ types of nutrients ใน power point มา 1 รู ป ซึ่ง ั ประกอบด้วย Carbohydrates, Proteins, Fats, Dietary minerals, Vitamins and Water ขั้นที่ 4 ครู เปิ ดเสี ยง Types of nutrients ที่นกเรี ยนเลือกให้นกเรี ยนฟัง ั ั ขั้นที่ 5 ครู ให้นกเรี ยนเขียนชนิดของอาหารที่ได้ฟัง ให้ตรงกับภาพในกระดาษ activity1 ั ขั้นที่ 6 ครู ให้นกเรี ยนคู่ต่อไปเลือกแผ่นป้ ายต่อไปและทากิจกรรมเหมือนเดิม ั ขั้นที่ 7 ครู เก็บ activity1 คืนเพื่อตรวจให้คะแนน
  • 10. Activity 1 1. Listen to the vocabulary sound. 2. Then, match the picture that relates with each vocabulary you hear by marking 3. active 4. growth 5. energy 6. function .
  • 11. 7. minerals 8. require 9. nutrients 10. important
  • 12. Activity 2 1. Work in pair. 2. Choose one picture. 3. Then, try to listen types of nutrients sound. 4. Answer what kind of food in each nutrients. carbohydrates guideline rice, potatoes and wheat proteins fats dietary minerals vitamins water
  • 13. แผนการจัดเรียนรู้ ทกษะการอ่าน ั 1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1.1 1. อ่านเรื่ อง Types of nutrients แล้วเลือกคาตอบได้อย่างถูกต้อง 1.2 อ่านเรื่ องTypes of nutrients แล้วสรุ ปความรู้เรื่ องชนิดของสารอาหารที่เรี ยนมาได้ 2. ตัวชี้วด ั ั ต.1.1ม.1/3 เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กบสื่ อที่ไม่ใช่ความเรี ยง (non-text information) ที่ อ่าน ต.1.4ม.1/4 ระบุหวข้อเรื่ อง (topic) ใจความสาคัญ (main idea) และตอบคาภามจากการฟั งและอ่านบท ั สนทนา นิทาน และเรื่ องสั้น ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยง และกิริยาท่าทางสุ ภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้ารวบรวมและสรุ ปข้อมูล/ข้อเท็จจริ งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ต.4.2ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสื บค้น/ค้นคว้าความรู ้/ข้อมูลต่างๆจากสื่ อและแหล่งการเรี ยนรู ้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 3.เนือหา ้ 3.1บทอ่านเรื่ อง Types of nutrients 4. สื่ อการเรี ยนรู้ 4.1 กระดาษบรู๊ ฟ 4.2 ปากกาเมจิก
  • 14. Teaching Procedures Activity 1 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่เพื่อทากิจกรรม True or false ั ขั้นที่ 2 ครู แจก ป้ าย ถูก- ผิดให้นกเรี ยนแต่ละคู่ ั ขั้นที่ 3 ครู เปิ ดดาถามใน Power point ขั้นที่ 4 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่หาคาตอบใน Text3 ั ขั้นที่5 ครู นบ one, two, three แล้วให้นกเรี ยนชูป้ายคาตอบขึ้น ั ั ขั้นที่ 6 ครู เฉลยคาตอบที่ถูกต้องให้นกเรี ยนฟัง และให้คะแนนนักเรี ยน ั Activity 2 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่ ั ขั้นที่ 2 ครู แจก text 3 ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ และให้เวลา 5 นาทีในการอ่านเรื่ อง Type of nutrients ั ขั้นที่ 3 ครู ให้ตวแทนแต่ละคู่ออกมาจับสลากเกี่ยวกับชนิดของสารอาหาร ั ขั้นที่ 4 ครู ให้เวลา 3 นาที ให้นกเรี ยนแต่ละคู่สรุ ปความรู ้ตามหัวข้อที่จบสลากได้ ั ั ขั้นที่ 5 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ออกไปนาเสนอหน้าชั้นเรี ยน ั ขั้นที่ 6 ครู ให้คะแนนนักเรี ยนแต่ละคู่
  • 15. การวัดผลและประเมินผล กิจกรรมทีจะประเมิน ่ ทักษะการอ่าน 1. Activity 1 2. Activity 2 วิธีการประเมิน เครื่องมือประเมิน 1. ตรวจสอบความถูกต้องของคาศัพท์ - และให้คะแนน 2.ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ และให้คะแนน -
  • 16. Activity 1 1. Work in pair. 2. Then look at the questions on Power point. 3. Read text3, then raise true or false label to answer the question. 4. The pair that answers correctly will get the point. 1. Carbohydrates are found in food sources such as rice, potatoes and meat.____ 2. A person who is not as active will require less carbohydrate. ____ 3.Proteins are nutrients found in food sources such as milk, meat and fish. ____ 4.Protein is especially important for growing adults. ____ 5.Fats are a source of energy and are also required for absorption of some vitamins (A, D, E and K) ____ 6. Dietary minerals are nutrients found in quite big amounts in food such as fish, meat and vegetables. ____ 7.Examples of dietary minerals are copper, calcium and manganese. 8. Almost all food sources contain some vitamins.____ 9.Fat is very important for our body. ____ 10.We should drink about five cups of water a day. ____ Name…………………………………….Number..………Class…………… Name…………………………………….Number..………Class……………
  • 17. Activity 2 1. Work in pair. 2. A representative from each group draws a lot to get a type of nutrients; carbohydrates, proteins, fats, dietary minerals, and vitamins. 3. Read text 3 and discuss with your partner to summarize from a slot that you have gotten. 4. Then, come up and present your answer in front of the class. Guideline Carbohydrates are found in food sources such as rice, potatoes and wheat. They provide us with energy to allow us to do work.
  • 18. แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการพูด 1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1.1 พูดอธิบายชนิดของสารอาหารได้อย่างถูกต้อง 1.2 แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการรับประทานอาหาร 2. ตัวชี้วด ั ต.1.1ม.1/2 อ่านออกเสี ยงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้นๆถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู ้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่ องต่างๆใกล้ตว กิจกรรม ั ต่างๆพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบอย่างเหมาะสม ต.1.3.ม.1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรื อเรื่ องต่างๆใกล้ตวพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ั ประกอบ ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยงและกิริยาท่าทางสุ ภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม สรุ ปข้อมูล/ ข้อเท็จจริ ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาในการสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและ สถานศึกษา 3.สื่ อการเรี ยนรู้ 3.1 Power point ป้ ายหมายเลข 3.2 Power point สถานการณ์บทบาทสมมุติ
  • 19. Teaching Procedures Activity 1 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับกลุ่มๆละ 3 คน ั ขั้นที่ 2 ครู แจกอาหาร/เครื่ องดื่ม ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มๆละ 1 ชนิด ั ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละคู่ปรึ กษากัน 1 นาที เพื่ออธิบายอาหาร/เครื่ องดื่มที่ได้รับ ั ขั้นที่ 4 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มออกมาอธิ บายอาหาร/เครื่ องดื่ม ที่ได้รับหน้าชั้นเรี ยน ั ขั้นที่ 5 ครู ให้คะแนนและประเมินทักษะการพูดของนักเรี ยน Activity 2 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนจับคู่ เพื่อแสดงบทบาทสมมติ ั ขั้นที่ 2 ครู กาหนดสถานการณ์เกี่ยวกับการให้คาแนะนาในการรับประทานอาหาร ขั้นที่ 3 ครู กาหนดเวลาให้นกเรี ยนเตรี ยมตัว 5 นาที ั ขั้นที่ 4 นักเรี ยนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติหน้าชั้นเรี ยน ขั้นที่ 5 ครู สังเกตและประเมินทักษะการพูดและการออกเสี ยงของนักเรี ยนโดยใช้แบบประเมินการพูด
  • 20. การวัดผลและประเมินผล กิจกรรมทีจะประเมิน ่ ทักษะการพูด 1. Activity 1 2. Activity 2 วิธีการประเมิน 1.สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน แบบประเมิน 2. สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน แบบประเมิน เครื่องมือประเมิน 1. แบบประเมินทักษะการพูด 2. แบบประเมินทักษะการพูด
  • 21. Activity 1 1. Make a group of three people. 2. Each group gets a food/drink from teacher. 3. Then each group has 1 minute to prepare description of the food/drink that got. 4. Come up to describe your food/drink in front of the class.
  • 22. Guideline Oranges have high vitamin C. We feel fresh when we eat orange ………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
  • 23. Activity 2 1. Work in pair. 2. Supposing a member of each pair has a problem about his/her health and another has to give some suggestion about eating for good health. 3. Then discuss with your partner to complete the script role play. Thinking of the situation that given. (5 minutes) 4. Come up to act out your play in front of the class. Guide line A: Today, I feel very tired and I want some energy food. What should I eat? B: You should have _________________ A: Thanks. If I want _________________ B: Well, you should _________________ A: You are very excellent. ……………………………………………………………………… ……………………………………………………........................... ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… Name……………………………….Number..………Class……… Name……………………………….Number..………Class………
  • 24. แผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการเขียน 1. จุดประสงค์ การเรี ยนรู้ 1.1 เขียนบรรยายรู ปภาพพร้อมทั้งบอกประโยชน์ของสารอาหารได้ 1.2 เขียนแนะนาการเลือกรับประทานอาหารของแต่ละบุคคลโดยใช้ should/shall เข้าช่วยได้ 2. ตัวชี้วด ั ต.1.1ม.1/1 ปฏิบติตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนาและคาชี้แจงง่ายๆที่ได้ฟังและอ่าน ั ต.1.1ม.1/2 อ่านออกเสี ยงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้นๆถูกต้องตามหลักการอ่าน ต.1.2ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู ้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่ องต่างๆใกล้ตว ั กิจกรรมต่างๆพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบอย่างเหมาะสม ต.1.3ม.1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรื อเรื่ องต่างๆใกล้ตว พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ั ประกอบ ต.2.1ม.1/1 ใช้ภาษา น้ าเสี ยงและกิริยาท่าทางสุ ภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา ต.3.1ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม สรุ ปข้อมูล/ ข้อเท็จจริ ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้อื่นจากแหล่งการ เรี ยนรู้และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ต.4.1ม.1/1 ใช้ภาษาในการสื่ อสารในสถานการณ์จริ ง/สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรี ยนและ สถานศึกษา 3.สื่ อการเรี ยนรู้ 3.1 กระดาษบรู๊ ฟ 3.2 ปากกาเมจิก
  • 25. Teaching Procedures Activity 1 ขั้นที่ 1 ครู ให้นกเรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อทากิจกรรม your favorite food ั ขั้นที่ 2 ครู แจกกระดาษ และปากกา ให้นกเรี ยนทุกกลุ่ม ั ขั้นที่ 3 ครู ให้นกเรี ยนแต่ละกลุ่มวาดภาพอาหาร 1 ชนิด และบรรยายรู ปภาพพร้อมทั้งบอกสารอาหาร ั ขั้นที่ 4ครู ให้นกเรี ยนทุกกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรี ยน ั ขั้นที่ 5 ครู สังเกตและประเมินทักษะการเขียน Activity 2 ขั้นที่ 1ครู ให้นกเรี ยนจับคู่เพื่อทากิจกรรม what should they do? ั ขั้นที่ 2ครู แจก activity2 ซึ่ งกาหนดวิถีชีวตของคน 3 คนมาให้ ิ ขั้นที่3 ครู ให้นกเรี ยนเลือกวิถีชีวตของคน 1 คน แล้วเขียนบรรยายว่าเขาควร หรื อไม่ควรรับประทานอาหาร ั ิ ชนิดใด เพราะเหตุใด โดยใช้ should/should not เข้าช่วย ขั้นที่ 4 ครู เก็บ activity 2 คืน ขั้นที่5 ครู ให้คะแนนและประเมินทักษะการเขียน
  • 26. การวัดผลและประเมินผล กิจกรรมทีจะประเมิน ่ ทักษะเขียน 1.Activity 1 2. Activity 2 วิธีการประเมิน 1.สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน แบบประเมิน 2. สังเกตแล้วให้คะแนนตามเกณฑ์ใน แบบประเมิน เครื่องมือประเมิน 1. แบบประเมินทักษะการเขียน 2. แบบประเมินทักษะการเขียน
  • 27. Activity 1 1. Make a group of three people. Then draw your favorite food. 2. Write description about its type of nutrient for 5 minutes. 3. Come up to present in front of the class. I like fried rice because it is delicious. This dish has meat, rice and cucumber. ….. ……………………………….. ……………………….. ………. ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
  • 28. Activity 2 1. Work in pair. 2. Choose one habit of Tom, Jane and Alice that given. 3. Then, describe what should or should not be included in the diets of his/her. Give your reasons for the item you have chosen. Tom: Tom is an active individual who enjoys daily runs. He visits the gymnasium three times a week to lift weights to build up his muscles. Jane: Jane is an office worker. In a normal work day, she remains seated for about 6 hours. After work, Jane returns home and sits down in front of the television for a few hours before going to bed. Alice: Alice has signed up for a marathon in the coming week. She will need to run for a very long distance during the marathon and has decided to start eating food that can give her enough energy for the whole run.
  • 29. Activity 2 Guideline Tom: Tom is an active individual who enjoys daily runs. He visits the gymnasium three times a week to lift weights to build up his muscles. Tom should eat………………………………………………………. ……………………………………………………………………….. because………………………………………………………….……. ………………………………………………………………………... He should not eat………………………………………………….….. …………………………………………………………………….….. because……………………………………………………………..… ………………………………………………………………….….…. Name……………………………….Number..………Class……… Name……………………………….Number..………Class………
  • 30. แบบประเมินทักษะการพูด(Activity 1) การออก เสี ยง (3) กลุ่มที่ 3 ความถูกต้อง ของเนื้ อหา (คาศัพท์ และ โครงสร้าง ไวยากรณ์) (3) 2 1 3 2 1 ประเด็น/คะแนน ความ ความ พยายามใน คล่องแคล่ว รวม การสื่ อสาร (2) คะแนน สรุ ปการประเมิน (2) (10) 2 1 2 1 ผ่าน ่ ไม่ผาน (ลงชื่อ)..............................................ผูประเมิน ้ (..............................................) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ........... หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 8-10 6-7 4-5 1-3 คะแนน หมายถึง คะแนน หมายถึง คะแนน หมายถึง คะแนน หมายถึง ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุ ง เกณฑ์ การประเมิน ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ ้
  • 31. เกณฑ์ การให้ คะแนนทักษะการพูด ( 10 คะแนน) การออกเสี ยง ( 3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักถูกต้องเป็ นส่ วนใหญ่ ทา ให้สื่อสารชัดเจน 2 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนัก ผิดเป็ นบางคาแต่ยงพอ ั สื่ อสารได้ 1 คะแนน หมายถึง เสี ยงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่งทาให้เกิดการสื่ อสาร การนาเสนอเรื่อง ( 3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง นาเสนอเรื่ องได้อย่างน่าสนใจ ผูฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตามขั้นตอน ้ ตลอดเรื่ อง 2 คะแนน หมายถึง นาเสนอเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้าง แต่ผฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตลอด ู้ 1 คะแนน หมายถึง นาเสนอเรื่ องไม่ต่อเนื่อง ไม่ชวนติดตาม ความคล่องแคล่ว ( 2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง พูดต่อเนื่องไม่ติดขัดทาให้เกิดการสื่ อสาร 1 คะแนน หมายถึง พูดเป็ นคาๆ หยุดเป็ นระยะๆ ทาให้การสื่ อสารไม่ต่อเนื่อง ท่าทางประกอบการสนทนา ( 2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง แสดงท่าทางประกอบ/อารมณ์อย่างแนบเนียนเหมาะสมกับ เรื่ อง/บทบาทที่ได้รับ 1 คะแนน หมายถึง พูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ เกณฑ์ การประเมิน ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ ้
  • 32. แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ (Activity 2) ประเด็น/คะแนน กลุ่มที่ การออกเสี ยง (3) การนาเสนอ ความ เรื่องได้ ตรง คล่องแคล่วใน ประเด็น การใช้ ภาษา (3) (2) ท่าทาง ประกอบ สนทนา (2) รวมคะแนน (10) ลงชื่อ.......................................................ผูประเมิน ้ (.....................................................................) วันที่.........เดือน...........................พ.ศ. ............ เกณฑ์การประเมิน 7 – 10 คะแนน ดีมาก 5 – 6 คะแนน ดี 3 – 4 คะแนน ปานกลาง 1 – 2 คะแนน พอใช้ 0 คะแนน ปรับปรุ ง หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์ ้
  • 33. เกณฑ์ การให้ คะแนนการพูดตามบทสนทนา 1. การออกเสี ยง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักถูกต้องเป็ นส่ วนใหญ่ ทาให้ สื่ อสารชัดเจน 2 คะแนน หมายถึง ออกเสี ยงคาศัพท์/ประโยคด้วยเสี ยงเน้นหนักผิดเป็ นบางคา แต่ยงพอ ั สื่ อสารได้ 1 คะแนน หมายถึง เสี ยงเน้นหนักในคาศัพท์/ประโยคผิดหลายแห่ง ทาให้เกิดการสื่ อสาร 2. การนาเสนอเรื่ อง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง นาเสนอเรื่ องได้อย่างน่าสนใจ ผูฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตามขั้นตอน ้ ตลอดเรื่ องและตรงประเด็น 2 คะแนน หมายถึงนาเสนอเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้าง แต่ผฟังสามารถติดตามเรื่ องได้ตลอด ู้ 1 คะแนน หมายถึงนาเสนอเรื่ องไม่ต่อเนื่อง ไม่ชวนติดตาม 3. ความคล่องแคล่ว (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง พูดต่อเนื่องไม่ติดขัดทาให้เกิดการสื่ อสาร 1คะแนน หมายถึง พูดเป็ นคาๆ หยุดเป็ นระยะๆ ทาให้การสื่ อสารไม่ต่อเนื่ อง 4. ท่าทางประกอบการสนทนา (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง แสดงท่าทางประกอบ/อารมณ์อย่างแนบเนียนเหมาะสมกับเรื่ อง/บทบาทที่ ได้รับ 1 คะแนน หมายถึง พูดโดยปราศจากท่าทางประกอบ หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์ ้
  • 34. แบบประเมินทักษะการเขียน (Activity 1, Activity 2) ประเด็น/คะแนน เกณฑ์การประเมิน ลาดับ ชื่อ-สกุล โครงสร้าง ไวยากรณ์ (3) 3 2 การใช้ภาษา ลาดับเรื่ อง รวม (เล่าเรื่ องได้ ได้อย่างมี คะแนน ตรงประเด็น) ขั้นตอน (9) (3) (3) 1 3 2 1 3 2 1 9 ลงชื่อ.......................................................ผูประเมิน ้ (..................................................................... ) วันที่.........เดือน........................... พ.ศ. ........... เกณฑ์การประเมิน 7 – 10 คะแนน ดีมาก 5 – 6 คะแนน ดี 3 – 4 คะแนน ปานกลาง 1 – 2 คะแนน พอใช้ หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์ ้
  • 35. เกณฑ์ การให้ คะแนนทักษะการเขียน ( 9 คะแนน) ก. โครงสร้างไวยากรณ์ ( 3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง ไวยากรณ์/การสะกดคา/เครื่ องหมายต่างๆ ถูกต้องทุกประโยค 2 คะแนน หมายถึง ไวยากรณ์/การสะกดคา/เครื่ องหมายต่างๆ ผิดเป็ นบางแห่ง 1 คะแนนหมายถึง มีที่ผดมากในเรื่ องไวยากรณ์/การสะกดคา และเครื่ องหมายต่างๆ ิ ข. การใช้ภาษา ( 3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง ใช้คาสละสลวย เล่าเรื่ องตรงประเด็น 2 คะแนน หมายถึง ใช้คาสละสลวยเป็ นบางตอน แต่สามารถเล่าเรื่ องได้ตรงประเด็น 1 คะแนน หมายถึง เล่าเรื่ องไม่ตรงประเด็นและใช้คาศัพท์ผดความหมายที่ตองการสื่ อ ิ ้ ค. ลาดับเรื่ อง ( 3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง ลาดับเรื่ องอย่างมีข้ นตอน ทาให้เรื่ องสื่ อได้อย่างน่าสนใจ ั 2 คะแนน หมายถึง ลาดับเรื่ องข้ามขั้นตอนบ้างแต่ยงสื่ อสารเป็ นที่เข้าใจ ั 1 คะแนน หมายถึง เนื้อเรื่ องขาดตอนทาให้ไม่น่าสนใจ หมายเหตุ ได้ คะแนน 6 คะแนนขึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์ ้