It's a project of high school student with Independent Study Subject. Thank you for watching and any comments"

1. Science project
candle cycle
Submitted by
Jarinya Charoenchasri No.1
Benyabha Maniklam No.11
Papichaya Sittikool No.12
Independent Study (IS)
Princess Sirindhorn’s College
Semester 1 year 201

2. ชือเรือง อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
ผุ้จัดทํา นางสาว จริณญา เจริญชาศรี
นางสาว เบญญาภา มณีกลํา
นางสาว ปพิชญา สิทธิกูล
ระดับชัน มัธยมศึกษาปีที 5
อาจารย์ทีปรึกษา อาจารย์ ออนจิลา บัวประเสริฐ
อาจารย์ทีปรึกษาร่วม อาจารย์กุหลาบ มิตตานนท์สกุล
อาจารย์ พงษ์ชาติ อิมอนุกูลกิจ
สถานศึกษา โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาทีสําคัญการประหยัดทรัพยากรถึงเป็นสิงทีควรทําอย่างยิงซึง
คณะผู้จัดทําได้ทําการประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ขึนมาเพือประหยัดค่าใช้จ่ายในการซือเทียน
และลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตเทียน โดยใช้โลหะสังกะสีเป็นวัสดุหลักในการทําอุปกรณ์เนืองจากมี
ความแข็งแรงสามารถรองรับนําหนักเทียนและอุปกรณ์ได้ ซึงเทียนทีได้จากอุปกรณ์หล่อเทียน และยังมี
ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเทียนทัวไป สามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้จริง แสดงว่าอุปกรณ์หล่อเทียน
candle cycle มีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์ทีตังไว้

3. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนีสําเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจาก อาจารย์ ออนจิลา บัวประเสริฐ อาจารย์ทีปรึกษา
โครงงาน อาจารย์กุหลาบ มิตตานนท์สกุล และ อาจารย์ พงษ์ชาติ อิมอนุกูลกิจ ทีได้ให้คําเสนอแนะ
แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนีเสร็จสมบูรณ์ ผู้ศึกษาจึงขอกราบ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอกล่าวขอบคุณผู้ปกครอง ทีให้คําปรึกษาในเรืองต่างๆ รวมทังเป็นกําลังใจทีดี
เสมอมา
สุดท้ายขอขอบคุณเพือนๆมัธยมศึกษาปีที 5/1 โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัยทีสนับสนุนด้านอุปกรณ์
และให้กําลังใจเสมอมา จนทําให้โครงงานสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
คณะผู้จัดทํา

4. บทที 1
บทนํา
1.1 ทีมาและความสําคัญชองโครงงาน
การดํารงชีวิตในปัจจุบัน จําเป็นต้องมีแสงไฟเข้ามาเกียวข้องทังสิน ไฟฟ้าจึงเป็นสิงสําคัญ
อันดับต้นๆทีมนุษย์ต้องการ แต่หากวันหนึงเมือไฟฟ้าเกิดความบกพร่องหรือดับ สิงทีเราจะนึกถึงก็
คือแหล่งต่างๆทีสามารถให้แสงไฟได้ทัง มอเตอร์หมุนไฟฟ้า ไฟฉาย ตะเกียง เทียน ซึงเทียนถือเป็น
แหล่งไฟทีนิยมมากในสมัยอดีต ส่วนในปัจจุบันการใช้เทียนอาจไม่เป็นทีนิยมมากนัก แต่ก็ยังมี
ความสําคัญอยู่เพราะ เทียนเป็นตัวแทนของพระธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา
ทางคณะผู้จัดทําจึงเล็งเห็นความสําคัญของเทียนไข และคิดว่าทรัพยากรทุกอย่างล้วนมี
จํากัด หากเราสามารถประหยัดได้ก็ควรทํา ซึงทางคณะผู้จัดทําได้คิดสิงประดิษฐ์ อุปกรณ์หล่อเทียน
candle cycle เป็นเครืองมือทีนําเทียนมาหล่อใหม่ได้ขณะทีเทียนยังจุดอยู่หรือใช้งานอยู่ โดยทาง
คณะผู้จัดทําได้ประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ขึนมาและทําการเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพการใช้งานของเทียนเล่มใหม่ทีได้จากการหล่อกับเทียนต้นแบบ เพือเป็นการยืนยันถึง
ประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ทีประดิษฐ์ขึน
1.2 จุดประสงค์
1.2.1 เพือออกแบบอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ได้
1.2.2 เพือศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle

5. 1.3 สมมติฐาน
อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle สามารถนําเทียนมาหล่อและกลับมาใช้ใหม่ได้โดยอุปกรณ์
หล่อเทียน candle cycleมีประสิทธิภาพดีสามารถนํามาใช้ได้จริง
1.4 ตัวแปรทีศึกษา
1.5.1 ตัวแปรต้น วัสดุทีเหมาะสมในการสร้างเครืองหล่อเทียน candle cycle
ตัวแปรตาม ความสูงของตัวอุปกรณ์ ความแข็งแรงของอุปกรณ์ การทนความร้อนของ
ตัวอุปกรณ์ ระยะเวลาการแข็งตัว การเกาะของเทียน
ตัวแปรควบคุม ขนาดของเเผ่นเหล็ก วัสดุย่อย กระบวนการประดิษฐ์
1.5.2 ตัวแปรต้น อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
ตัวแปรตาม ระยะเวลาแข็งตัวของเทียน รูปทรงของเทียนทีได้นําหนักของเทียน อัตราการ
แข็งตัวของนําตาเทียน รูปทรงของอุปกรณ์ทีได้เวลาในการเผาไหม้
ตัวแปรควบคุม ประเภทและความแรงของไฟทีใช้จุดเทียน
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ
เทียนทัวไป หมายถึง เทียนไขทําจากพาราฟิน ยาว 13 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง
2 เซนติเมตร

6. 1.6 นิยามเชิงปฏิบัติการ
ศึกษาประสิทธิภาพ หมายถึง ตรวจสอบระยะเวลาแข็งตัวของเทียน รูปทรงของเทียนทีได้
นําหนักของเทียน อัตราการแข็งตัวของนําตาเทียน รูปทรงของอุปกรณ์ทีได้และเวลาในการเผาไหม้
1.7 ขอบเขตของการดําเนินงาน
ประชากรทีใช้ในการศึกษาเป็นสิงไม่มีชีวิต คือ วัสดุต่างๆทีนํามาประดิษฐ์เครืองหล่อเทียน
candle cycle

7. บทที 2
เอกสารและงานวิจัยทีเกียวข้อง
ในการประดิษฐ์เครืองหล่อเทียน candle cycle จะต้องศึกษาถึง สารทีนํามาใช้ในการทําเทียน
กระบวนการผลิตเทียน รูปทรงของเทียนทีมีผลต่อการขึนรูปของเทียน วัสดุและอุปกรณ์ทีเหมาะสมในการ
นํามาประดิษฐ์ โดยทางคณะผู้จัดทําได้ทําการรวบรวมข้อมูล จากการสืบค้นข้อมูลและงานวิจัยทีเกียวข้อง
ดังนี
2.1 เทียนไข(อังกฤษ: candle)
2.1.1 ลักษณะทัวไปของเทียนไข
เทียนไขโดยทัวไป มีสีขาวขุ่นถึงสีเหลืองรูปทรงกระบอก ผิวมันวาวไม่ละลายใน
นํานิยมทําจากทังขีผึงและพาราฟิน
- ขีผึง (Beewax)
เป็นวัสดุสําคัญทีใช้ในการทําเทียนมาตังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึงขีผึงมาจากรังผึง
นันเอง โดยมากจะเก็บมาจากรังผึงร้าง ผึงงานจะสร้างขีผึงด้วยต่อมทีอยู่บริเวณท้องน้อย
ของผึง ขีผึงทีสร้างขึนมีลักษณะเป็นเกล็ดบาง ๆ ผึงงานจะนําขีผึงไปใช้ในการสร้างรังผึง
สีของขีผึงมีตังแต่สีเหลืองอ่อนไล่ไปจนถึงสีเหลืองแกมนําตาล ขึนอยู่กับความ
บริสุทธิของขีผึง สูตรทางเคมีของขีผึงโดยทัวไป จะเป็น C15H31COOC30H61 ประกอบด้วย
สารไฮโดรคาร์บอนหลายชนิด กรดอิสระตลอดจนแอลกอฮอล์
ขีผึงมีจุดหลอมเหลวทีอุณหภูมิ 62 – 64 องศาเซลเซียส และจะถึงจุดติดไฟเมือ
อุณหภูมิขึนไปถึง 204.4 องศาเซลเซียส ความหนาแน่นของขีผึงอยู่ระหว่าง 958 – 970
กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที 15 องศาเซลเซียส

8. ขีผึงเป็นสารทีมีความเหนียวและอ่อนตัวได้ง่ายเมือได้รับความร้อนไม่มากนัก จึง
นํามาเปลียนรูปร่างได้โดยใช้การออกแรงเช่น ใช้ในการฟันเทียน ซึงเป็นการคลึงก้อนขีผึง
รอบไส้ทีทําด้วยด้วยด้ายดิบหรือฝ้าย เมือนําไปจุดจะมีกลินหอมอ่อน ๆ จากขีผึงด้วย
- พาราฟิน (paraffin wax)
ชาวบ้านมักจะเรียกว่าขีผึงนํามันหรือขีผึงถ้วยตามรูปร่างทีมีจําหน่ายในท้องตลาด
ขีผึงพาราฟีนเป็นสารประกอบประเภทไฮโดรคาร์บอน จัดอยู่ในกลุ่มขีผึงปิโตรเลียมหรือ
ปิโตรเลียมแว็กซ์ (Petroleum wax) มีสูตรโครงสร้างทางเคมี คือ CnH2n+2 มีจํานวนคาร์บอน
ในห่วงโซ่โมเลกุลระหว่าง 19-36 อะตอม (C19-C36) มีลักษณะเป็นของแข็ง มีสีเหลืองอ่อน
ถึงขาว มีจุดหลอมเหลว อยู่ทีระหว่าง 48-68 องศาเซลเซียส จุดติดไฟอยู่ระหว่าง 204 – 271
องศาเซลเซียส ค่า pH ระหว่าง 5.8 – 6.3 มีความหนาแน่น 820 – 920 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์
เมตร
เนืองจากขีผึงในธรรมชาติมีน้อยลงและหาได้ยากมากขึน ทําให้มีราคาสูงมากขึน
จึงมีการนําขีผึงพาราฟินมาหลอมทําเป็นเทียน แต่ขีผึงพาราฟินจะแข็งและเปราะกว่าขีผึง
ธรรมชาติมาก ไม่สามารถนํามาฟันด้วยมือได้ ต้องใช้การหล่อโดยทําให้ขีผึงพาราฟิน
หลอมเหลวแล้วเทลงในแบบเท่านัน ช่างทําเทียนพยายามแก้ไขปัญหานี โดยใช้การหลอม
ขีผึงพาราฟินกับขีผึงธรรมชาติเข้าด้วยกันในสัดส่วนต่าง ๆ เพือเพิมความเหนียวให้กับ
เทียนทีผลิตขึน จนสามารถแกะสลักเป็นลวดลายได้ง่าย
ขีผึงพาราฟินไม่มีสี เมือเป็นของแข็งจะเห็นเป็นแผ่นหรือก้อนสีขาว มีการใส่สีทีละลาย
ในพาราฟินผสมลงไปทําให้มีสีต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
2.1.2 การหลอมเทียน
ขีผึงทีใช้ในการทําเทียนทังขีผึงแท้และพาราฟินหรือขีผึงนํามัน มีจุดหลอมเหลวไม่สูงนัก
เมือได้รับความร้อนจนมีอุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียสก็เปลียนสถานะเป็นของเหลวได้และขีผึงทัง 2
แบบติดไฟได้เมือได้รับความร้อนจนถึงประมาณ 204 องศาเซลเซียสซึงถือว่าไวไฟพอสมควร ดังนัน การ
หลอมขีผึงโดยนําขึนตังไฟโดยตรงจึงมีอันตรายจากการติดไฟของขีผึงได้มาก ผู้หลอมขีผึงจะต้องคอยระวัง
ควบคุมความร้อนจากเตาไฟตลอดเวลา

9. วิธีการทีปลอดภัยในการหลอมเทียนคือใช้การหลอมโดยให้ขีผึงได้รับความร้อนจากนํา
เดือดซึงอุณหภูมิสูงสุดจะไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส โดยใช้ภาชนะใส่นําวางบนเตาก่อน แล้วนําขีผึงใส่ใน
ภาชนะอีกใบหนึงวางลงในนําทีอยู่ในภาชนะใบแรก เมือนําร้อนขึน ขีผึงก็จะถูกหลอมเปลียนสถานะเป็น
ของเหลวได้โดยไม่เกิดอันตราย วิธีการนีเรียกว่า วิธี water bath
ภาพที 1 ขันตอนการหลอมเทียนแบบ water bath
ทีมา : http://fieldtrip.ipst.ac.th/intro_sub_content.php?content_id=19&content_folder_id=219
2.1.3 การติดไฟของเทียน
ขีผึงมีส่วนผสมของสารต่าง ๆ เช่น สารไฮโดรคาร์บอน สารโมโนเอสเทอร์ (monoesters)
สารไดเอสเทอร์ (diesters) และอืน ๆ อีกหลายอย่าง ส่วนขีผึงก็มีส่วนผสมของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
หลายชนิด ทังขีผึงแท้และขีผึงพาราฟินจึงมีไอระเหยทีติดไฟได้ง่าย
ส่วนประกอบสําคัญในการติดไฟของเทียน คือไส้เทียนนันเอง ไส้เทียนทําจากเส้นด้ายทีทํา
มาจากฝ้ายซึงเป็นวัสดุธรรมชาตินํามาฟันเป็นเกลียว ตัวไส้เทียนทําหน้าทีเป็นแหล่งเชือเพลิง โดยต้องมี
สมบัติของการเป็นตัวดูดซับ (absorbent) ทีดีด้วย เพราะขณะทีไส้เทียนติดไฟนัน ไส้เทียนจะดูดซับขีผึงเหลว
หรือพาราฟินเหลว ให้ขึนไปตามตัวไส้เทียน เพือให้เกิดการเผาไหม้อย่างต่อเนือง การดูดซับนําเทียนเหลวนี
เกิดจากแรงดึงผิวตามปรากฏการณ์ทีเรียกว่า "การซึมตามรูเล็ก (capillary action)" ซึงเป็นการเคลือนทีของ
ของเหลวขึนไปตามท่อหรือหลอดขนาดเล็ก ๆ
เมือเราจุดเทียน ไส้เทียนจะลุกไหม้ความร้อนของเปลวไฟ ทําให้เนือเทียนบริเวณโคนไส้
เทียนเกิดการหลอมเหลว และถูกดูดซับเข้าไปในตัวไส้เทียนโดยแรงซึมตามรูเล็ก (capillary force) เนือเทียน
ทีถูกดูดเข้าไปในตัวไส้เทียน บางส่วนจะระเหยกลายเป็นไอด้วยความร้อนจากเปลวไฟ และบางส่วนจะถูก
เผาไหม้ไปพร้อมกับไส้เทียน ขณะเทียนติดอยู่จะสังเกตเห็นว่า ไส้เทียนถูกเผาไหม้ช้ากว่าการนําเส้นด้าย
แบบเดียวกันมาจุดไฟมาก ตามอุณหภูมิได้ดังรูป

10. ภาพที 2 แสดงโซนอุณหภูมิของเปลวเทียน ภาพที 3 ลักษณะเปลวเทียนทีเผาไหม้อยู่
ทีมา : http://fieldtrip.ipst.ac.th/backend/images ทีมา : http://fieldtrip.ipst.ac.th/backend/images
/resources/candlefestival/content_pic/7-2.png/resources/candlefestival/content_pic/7-1.png
เหตุผลทีไส้เทียนเผาไหม้ช้านัน เกิดจากเนือเทียนทีกําลังหลอมเหลว ดึงความร้อนออกจากไส้เทียน
มาใช้ในการเผาไหม้ตัวเอง และใช้ในการเปลียนสถานะของพาราฟิน หรือขีผึงจากของเหลวให้กลายเป็น
แก๊สระเหยออกไป เปลวเทียนในสภาวะเกิดการเผาไหม้ทีอุณหภูมิห้อง ความดัน 1 บรรยากาศ ภายใต้สนาม
ความโน้มถ่วงปกติจะมีรูปร่างคล้ายหยดนํา แบ่งเป็นชัน ๆดังภาพที 2.2
Zone1 อุณหภูมิ 800องศาเซลเซียส
Zone2 อุณหภูมิ1,000 องศาเซลเซียส เรียกว่า Primary Reaction Zone
Zone3 อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส เรียกว่า Luminous Zone
Zone4 อุณหภูมิ1,400 องศาเซลเซียส เรียกว่า Main Reaction Zone
เมือจุดเทียนบนโลกความร้อนจะทําให้ไขละลายเป็นของเหลว ไขเหลวจะถูกดึงขึนไปตลอดความยาว
ของไส้เทียนด้วยกระบวนการทีเรียกว่า Capillary ไขเหลวนีจะถูกทําให้ร้อนขึนไปอีกจนกลายเป็นไอ เมือ
เข้าไปใกล้ปลายไส้ซึงเป็นจุดศูนย์รวดอุณหภูมิสูง ออกซิเจนในอากาศจะผสมกับไอดังกล่าว ผนวกกับอยู่ใน
ทีซึงมีอุณหภูมิสูงขึนข้างบนตามหลักแรงลอยตัว (bouyancy) อากาศทีเย็นกว่าจะเข้ามาแทนที เป็นการเติม
ออกซิเจนให้กับการเผาไม้อย่างต่อเนืองก๊าซร้อนทีลอยสูงขึนจะพาความร้อน (convection) และไอเทียนขึน
ไปด้วย การเผาไม้ก็จะลอยสูงขึนตามไป ผลทีปรากฏออกมาทําให้เห็นเปลวเทียนมีรูปคล้ายหยดนํา

11. 2.2 รูปทรงของเทียนทีมีผลต่อการขึนรูป
อ้างอิงจากโครงงาน เทียนหอม โรงเรียนกระแชงวิทยา ( สุพักตรา : 2553 ) เป็นโครงงานที
ได้ทําการทดลองเปรียบเทียบเทียนรูปทรงต่างๆในเรืองของอัตราการละลาย โดยกําหนดเทียนทุกรูปทรงมี
ปริมาตรเท่ากัน ส่วนผสมเดียวกันแต่แตกต่างเพียงรูปทรงของตัวเทียน
ผลการทดลองสรุปได้ว่า จากการศึกษาเวลาในการละลายของเทียนหอมของรูปทรงต่างๆ
ผลปรากฏว่า เทียนหอมรูปทรงกระบอกละลายได้ช้าทีสุด นันคือจุดได้นานทีสุด
2.3 วัสดุและอุปกรณ์ทีเหมาะสมในการนํามาประดิษฐ์
2.3.1 แผ่นสังกะสี
สังกะสีมีคุณสมบัติทีเด่นชัดทีสุดคือ ใช้ชุบเคลือบเหล็กป้ องกันการผุกร่อน ชัน
สังกะสีจะป้ องกันไม่ให้เหล็กผุกร่อนเป็นสนิมได้อย่างดีเยียม เนืองจากสังกะสีจะทําหน้าทีป้ องกัน
เหล็ก ใน 2 ทาง คือ เป็นชันป้ องกันไม่ให้เหล็กผุกร่อน (Barrier Protection) และ ผุกร่อนแทน
เหล็ก (Cathodic Protection)
สังกะสีมีอัตราการผุกร่อนทีช้ามาก ดังนันจึงป้ องกันเหล็กไม่ให้เจอกับ
สภาพแวดล้อม ทีจะทําให้เกิดสนิมได้เป็นเวลานาน จากการศึกษาของ ASTM แห่งสหรัฐอเมริกา
พบว่าในเขตเมืองอัตราส่วนการผุกร่อนของสังกะสีเมือเทียบกับเหล็กเท่ากับ 1 : 20 และจะเท่ากับ
1 : 80 ในบริเวณชายทะเลหรือเขตอุตสาหกรรม ดังนันการชุบเคลือบเหล็กด้วยสังกะสีจึงเหมือนกับ
การสร้างเกราะป้ องกันให้กับเหล็กนันเอง
เหล็กชุบสังกะสีเหมาะกับงานก่อสร้างสาธารณูปโภค สามารถป้ องกันเหล็กในระยะยาว โดย
ไม่ต้องมีการซ่อมบํารุง ได้แก่ ราวกันขอบทาง สะพาน เสาไฟฟ้า สถานีส่งไฟฟ้า ท่อเหล็กชุบ
สังกะสี แผ่นเหล็กชุบสังกะสี (มุงหลังคา ทําผนังอาคาร รัวบ้าน) ลวดเหล็กและตะปู เป็นต้น

12. 2.3.2 แผ่นอลูมิเนียม
อลูมิเนียมมีสีขาวเหมือนเงิน เนือเป็นมันวาวงดงามไม่หมองง่าย อาจถึงเป็นเส้น
ลวดขนาดเล็กยิงกว่าเส้นผม หรือ ตีแผ่เป็นแผ่นบางๆ ทีบางมากราวกับกระดาษได้อลูมิเนียมไม่สึก
กร่อนโดยง่าย และจะทําปฏิกิริยากับกรดและด่างบางชนิดเท่านัน เมือผสมโลหะอืนบางชนิดลงไป
ในเนืออลูมิเนียม จะได้โลหะผสม ซึงแข็งแรง ทนทาน และเหนียวกว่าอลูมิเนียมบริสุทธิมาก ใช้ทํา
สิงของเครืองใช้ได้อย่างดี เราใช้อลูมิเนียมทําเครืองครัว เพราะอลูมิเนียมนําความร้อนได้ดี ทําความ
สะอาดได้ง่าย กับเป็นเงางามอยู่เสมอนอกจากนันยังใช้ทําส่วนประกอบในเครืองใช้ไฟฟ้า เพราะ
อลูมิเนียมสามารถนําไฟฟ้าได้ดี เครืองบิน ละยานพาหนะหลายชนิด เช่น รถไฟ รถโดยสาร และ
รถยนต์ ก็นิยมใช้อลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ เนืองจากนําหนักเบา แข็งแรงทนทาน
อลูมิเนียมเป็นโลหะทีเกิดเป็นสารประกอบแทงบลูมิเนียมออกไซด์ ส่วนมากพบในดิน
เหนียว และดินต่างๆ วัตถุดิบสําคัญทีใช้ในการผลิตอลูมิเนียม คือสินแร่ โบไซต์หรือ บอกไซด์
(Bauxite) มีลักษณะเหมือนดินแดง หรือดินลูกรัง แต่มีความแข็งกว่าในสินแร่บอกไซด์จะมีดิน
เหนียวบริสุทธิ ( Al2 O3 อลูมิเนียมออกไซด์ ) ปนอยู่ประมาณ 55-60% เหล็กออกไซด์( Fe2O3 ) ไม่
เกิน 24% และนําในโมเลกุลสินแร่ประมาณ 12-31% แร่ซิลิกา(SiO2)ไม่เกิน 4% แหล่งแร่บอกไซด์
ทีสําคัญๆ คือทีประเทศ ฝรังเศสตอนใต้ฮังการี รัสเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย
อลูมิเนียมเป็นตัวนําความร้อนทีดีเยียม และนําความร้อนได้ดีกว่าเหล็กถึงสามเท่า ด้วย
คุณสมบัตินีทําให้อลูมิเนียมเป็นวัสดุทีมีความสําคัญกับทังงานทีใช้ความเย็น และความร้อน เช่น ตัว
แลกเปลียนความร้อน (heat-exchangers) เมือพูดถึงอลูมิเนียมทีไม่ผสมธาตุใดๆ แล้ว อลูมิเนียม
ประเภทนีจะถูกใช้อย่างกว้างขวางในการผลิตอุปกรณ์การทําอาหาร และชุดเครืองครัว
2.3.3 ไส้เทียน(Wick Tabs)
ต้องทําจากฝ้าย100% ต้องดูดซึมแว็กซ์ หรือ นําตาเทียนได้ดีเพือส่งผ่านนําเทียนซึง
ถือเป็นเชือเพลิงให้เทียนจุดสว่างได้อย่างต่อเนือง
ขนาดของไส้เทียนต้องให้เหมาะสมต้องกับขนาดของเทียน ถ้าไม่เหมาะสมจะทําให้การ
เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โดยดูได้จากควันมาก ดับง่าย มีนําตาเทียนมาก
สูตรคํานวณหาขนาดไส้เทียนทีเหมาะสม คือ 1/15x เส้นผ่าศูนย์กลางของเทียน

13. 2.4 งานวิจัยทีเกียวข้อง
2.4.1 การจําลองเชิงตัวเลขลักษณะการเผาไหม้ของเชือเพลิงอัดแท่งรูปทรงกระบอก
โดย นายดวงพหลลิมธรรมมหิศรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชา
วิศวกรรมเครืองกลภาควิชาวิศวกรรมเครืองกลบัณฑิตวิทยาลัย
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
การใช้ประโยชน์และการพัฒนาถ่านอัดแท่งรูปทรงกระบอกเพืออุตสาหกรรมต่างๆ
รวมทัง
สามารถใช้ในครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นโจทย์วิจัยทีซับซ้อนในการวิจัยนีจะใช้วิธีการ
จําลองเชิงตัวเลขเพือหาผลเฉลยต่อโจทย์วิจัยดังกล่าวโดยการคํานวณหารูปร่างเปลวไฟภายใต้เงือนไขสภาวะ
ทีกําหนดอัตราการสันดาปของถ่านอัดแท่งจากการวัดอัตราการสูญเสียเชิงมวลในการเผาไหม้ของถ่านอัด
แท่งรูปทรงกระบอกในเครืองวัดสมดุลความร้อนเพือนํามาเป็นข้อมูลในแบบจําลองเบิร์ค-ชูแมน(Burke -
Schmann) ถึงแม้ว่าแบบจําลองจะมีข้อจํากัดต่างๆมากมายแต่ผลของรูปร่างของเปลวไฟทีได้มานันมีความ
สมเหตุสมผลกันซึงได้จากผลจากการคํานวณรูปร่างเปลวไฟทีได้ถ่านเชือเพลิงอัดแท่งนีสองประเภทที
ต่อเนืองตามลําดับคือเปลวไฟแบบอันเดอร์เวนทิเลทเต็ดไซลินดริคอลเฟลม (Underventilated Cylindrical
Flame) ทีบริเวณช่องอากาศในตัวถ่านและเปลวไฟแบบโอเวอร์เวนติเลทเต็ดไซลินคอลเฟลม
(Overventilated
Cylindrical Flame) ทีด้านนอกบนผิวด้านบนของถ่านแบบจําลองและการแก้ปัญหาสามารถตรวจสอบได้
โดยการเปรียบเทียบกันการแก้ปัญหาเชิงตัวเลขกับการแก้ปัญหาผลแม่นตรงซึงผลทีได้จากการแก้ปัญหาทัง
สองวิธีนันพบว่าสอดคล้องกันได้ดีมากการเปรียบเทียบความสูงเปลวไฟทีได้จากการจําลองและการวัดจริง
แสดงให้เห็นว่าเปลวไฟทีได้จากการจําลองสันกว่าเปลวไฟของจริงซึงเป็นผลมาจากการตังสมมุติฐานทีไม่
เป็นจริงโดยเฉพาะการให้การสันดาปเป็นอย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะบริเวณการเผาไหม้ของแบบจําลองภายใน
ถ่านอย่างไรก็ตามผลของรูปร่างเปลวไฟทีได้นีจะนําข้อมูลในการออกแบบรูปร่างถ่านและเตาทีเหมาะสม
ต่อไป

14. 2.4.2 การพัฒนาเทียนหอมโดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง
โดย นายพลวริน พลยิงวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต (วิศวกรรมอุตสาหการ)
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
งานวิจัยฉบับนีได้ประยุกต์หลักการออกแบบและวิเคราะห์การทดลองเพือพัฒนาเทียนหอม
โดยหาค่าปัจจัยทีเหมาะสมของเทียนหอมแบบแท่งด้วยวิธี Combined Mixture-Process Design โดยมีปัจจัย
ในการศึกษา 7 ปัจจัยคือพาราฟินพีอีแวกซ์สเตียริคแอซิคนํามันหอมไมโครแวกซ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
ของเทียนและขนาดไส้เทียนโดยได้สูตรการทดลองทังหมด 55 สูตรและทําซํา 3 ซําหลังจากนันทําการ
วิเคราะห์จากค่าผลตอบหรือปริมาณนําตาเทียนของปัจจัยดังกล่าวพบว่าอัตราส่วนทีเหมาะสมคือพาราฟิน
74.43% พีอีแวกซ์ 9.95% สเตียริคแอซิค 2.68% นํามันหอม 4.97% ไมโครแวกซ์7.98% ขนาดเส้นผ่าน
ศูนย์กลางของเทียน 15.00 mm. และขนาดไส้เทียน 1.99 mm. เป็นอัตราส่วนทีเหมาะสมในการผลิตเทียน
หอมให้มีปริมาณนําตาเทียนน้อยทีสุดเมือเปรียบเทียบเทียนหอมทีได้จากการหาอัตราส่วนทีเหมาะสมกับ
ผลิตภัณฑ์เทียนหอมชนิดเดียวกันทีได้จากร้านค้าต่างๆพบว่าปริมาณนําตาเทียนลดลง 96%

15. บทที 3
วิธีดําเนินงาน
การดําเนินการประดิษฐ์ ต้องเริมต้นจากการออกแบบ และประดิษฐ์ด้วยวัสดุทีเหมาะสม
จากนันทําการผลิตเทียนหล่อใหม่ออกมา และนําเทียนทีได้มาทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับ
เทียนทัวไป โดยคาดหวังให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมากทีสุด ดังนี
3.1 หลักการทํางานของเครืองหล่อเทียน candle cycle
เครืองหล่อเทียน candle cycle เป็นเครืองมือทีสามารถหล่อเทียนใหม่ได้โดยใช้ประโยชน์จาก
นําตาเทียนของเทียนเล่มเก่าทีหยดลงมา มีวัตถุประสงค์เพือนําเทียนไขกลับมาใช้ใหม่ได้โดยมี
ส่วนประกอบดังนี
- ฐานเครือง เป็นรูปทรงสีเหลียมจัตุรัสขนาด 6x6x6 เซนติเมตร ผลิตจากแผ่นสังกะสีขึนรูปและ
มีการถ่วงนําหนักด้วยการนําดินนํามันติดไว้ทีบริเวณฐาน สามารถรองรับนําหนักได้ประมาณ
300 กรัม ด้านบนฐานมี สังกะสีรูปทรงพีระมิดยอดตัด ฐานสีเหลียมขนาด 6x6x6 เซนติเมตร
บริเวณยอดตัด จะเป็นลักษณะวงกลมทีสามารถต่อกับกระบอกหล่อเทียนได้พอดี
- ม้วนไส้เทียน ทําจากหลอดด้ายเก่า นําไส้เทียนมาพันรอบหลอดด้ายความยาวประมาณ 2 เมตร
จะบรรจุไว้ในฐานเครืองและมีการดึงขึนไปบนฐานเครืองและทําเป็นไส้เทียนทีกระบอกหล่อ
เทียน
- กระบอกหล่อเทียน ทําจากสังกะสี เป็นรูปทรงกระบอก ความสูง 16 เซนติเมตร เส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร รองรับนําหนัก 200 กรัม
- เข็มเหล็กยึดไส้เทียน ทําจากเข็มเหล็กทัวไปตามท้องตลาด โดยนํามาประยุกต์ให้มีลักษณะเป็น
ตะขอไว้สําหรับยึดไส้เทียนให้อยู่บริเวณปลายของกระบอกหล่อเทียน เพือเป็นไส้เทียนของ
เทียนเล่มใหม่ทีหล่อจากเครืองหล่อเทียน candle cycle
- แท่นวางเทียน เป็นแท่นกรวงลักษณะทรงกรวยตัดยอดหัวทิมลง มีขนาดปลายยอดตัดเส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร และฐานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร ใช้สําหรับวางเทียน

16. เทียนทีใช้ในการศึกษาครังนี คือ เทียนขนาด 3 บาทหรือ 45 กรัมโดยประมาณ เส้นผ่านศูนย์กลาง 2
เซนติเมตร ยาว 13 เซนติเมตร เป็นเทียนทีมีส่วนผสมหลักคือฟาราฟิน : แว็กซ์ เท่ากับ 100 : 30 กรัม
โดยหลักการทํางานของเครืองหล่อเทียน candle cycle เริมจากเราจะนําใส่เทียนผ่านฐานเครือง
ขึนมายึดไว้กับเข็มยึดไส้เทียนทําให้ไส้เทียนตังตรงอยู่ในกระบอกหล่อเทียน จากนันให้นําแท่นวาง
เทียนปิดลงบนกระบอกหล่อเทียน นําเทียนทีจะจุดวางบนกระบอกหล่อเทียน เมือเทียนเริมการเผา
ไหม้นําตาเทียนทีถูกละลายออกมาจะค่อยๆไหลลงในกระบอกหล่อเทียน เมือเทียนละลายจนหมด
เล่มในกระบอกหล่อเทียนจะมีนําตาเทียนอยู่เท่ากับเทียนเล่มเดิมทีจุดไป เมือเทียนกระบอกหล่อ
เทียนแข็งตัวเราจะถอดแท่นวางเทียนออก และแกะแผ่นสังกะสีออกจากเทียน ทําการตัดไส้เทียน
แล้วนําไปยึดไว้ทีเข็มยึดด้ายเหมือนเดิม ติดตังอุปกรณ์อีกครังเพือเตรียมใช้ในครังต่อไป ส่วนเทียน
ทีได้จากกระบอกหล่อ ก็จะสามารถนํามาจุดได้อีกครังโดยการนําไปวางไว้บนแท่นวางเทียนของ
เครือง

17. การทดลองมีทังหมด 3 ตอน ได้แก่ 1) ออกแบบอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
และหาวัสดุอุปกรณ์ทีเหมาะสมกกหกกเและหาวัสดุอุปกรณ์ทีเหมาะสม
2) ประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
3) ศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
candle cycle
การทดลองตอนที 1 ออกแบบเครืองหล่อเทียน candle cycle
และหาวัสดุอุปกรณ์ทีเหมาะสม
3.1 วัสดุอุปกรณ์และเครืองมือพิเศษ
3.1.1 วัสดุอุปกรณ์
- แผ่นตัวอย่างสังกะสีและอลูมิเนียม
- เทียนไขเบอร์สาม 1 เล่ม
3.2 ขันตอนการดําเนินงาน
1.ศึกษาชนิดของโลหะเพือหาวัสดุทีเหมาะสม โดยทดลองแผ่นสังกะสี และอลูมิเนียมใน
คุณสมบัติด้านต่างๆการทนความร้อน ความแข็งแรงในการรับนําหนัก การเกาะของตัวเทียน
2.ศึกษาการทนความร้อน ของแผ่นอลูมิเนียมและสังกะสีโดยนําไปเข้าเตาอบในอุณหภูมิ 34 , 44
, 54 องศาเซลเซียส จดบันทึกการเปลียนแปลง
3.ศึกษาความแข็งแรงในการรับนําหนักโดยนําแผ่นอลูมิเนียมและสังกะสีขนาด 5x5 เซนติเมตร
มารับนําหนักดินนํามัน 200 , 300 , 400 กรัม บันทึกการเปลียนแปลง
4.ศึกษาการเกาะของเทียน บนแผ่นอลูมิเนียมและสังกะสีโดยใช้เทียนเบอร์สามหยดลงบนแผ่น
โลหะทังคู่และจับเวลาการแข็งตัวสังเกตลักษณะของนําตาเทียน บันทึกข้อมูล

18. การทดลองตอนที 2 ประดิษฐ์เครืองหล่อเทียน candle cycle
3.1 วัสดุอุปกรณ์และเครืองมือพิเศษ
3.1.1 วัสดุอุปกรณ์
- แผ่นสังกะสีและอลูมิเนียม เรียบ หนา 0.1 เซนติเมตร ขนาด 1x1 เมตร
- หลอดด้าย 1 หลอด
- เข็มเหล็ก 2 เล่ม
- ไส้เทียน 2 เมตร
- เทียนไขหนัก 3 บาทหรือ 45 กรัม 1 เล่ม
- ดินนํามัน 1 ก้อน
3.2 ขันตอนการดําเนินงาน
1.ศึกษาชนิดของโลหะเพือหาวัสดุทีเหมาะสม โดยทดลองแผ่นสังกะสี และอลูมิเนียมในคุณสมบัติ
ด้าน การทนความร้อน ความแข็งแรงในการรับนําหนัก การเกาะของตัวเทียน
2.นําโลหะทีเหมาะสมขนาด 1x1เมตร มาตัดเป็นรูปทรงและขนาด ตามแบบแพลนทีวางไว้สําหรับ
ทําฐานเครือง กระบอกหล่อเทียน และ แท่นวางเทียน
2.นําไส้เทียนม้วนหลอดด้ายและติดไว้ทีฐานเครืองเจาะรูตรงฐานเครืองให้มีขนาดพอดีกับไส้เทียน
เพือนนําไส้เทียนขึนมาจากฐานเครืองได้
3.นําเข็มเหล็ก 2 ด้าม ฝังหัวทีเป็นช่องมาทับกันและนําปลายเข็มทัง 2 ไปติดกับกระบอกหล่อเทียน
ตัดเข็มส่วนเกินทิง
4.ประกอบส่วนต่างๆเข้าด้วยกันให้ได้ลักษณะตามแบบทีวางไว้
5.พร้อมใช้งานและทดสอบประสิทธิภาพของเครืองหล่อเทียน candle cycle
6.นําเทียนไขทัวไปมาวางทีเครืองและเริมหล่อเทียน
7.จับเวลาการแข็งตัวของเทียนทีหล่อจากเครืองหล่อเทียน candle cycle
การทดลองตอนที 3 ศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle

19. 3.1 วัสดุอุปกรณ์และเครืองมือพิเศษ
3.1.1 วัสดุอุปกรณ์
- อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
- เทียนไขทัวไป 1 เล่ม
- ไฟแช๊ก 1 อัน
- เครืองจับเวลา 1 เครือง
- เครืองชังกรัม 1 เครือง
3.2 ขันตอนการดําเนินงาน
1.ตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของเทียนไขทัวไปและไขทีได้จากเครืองหล่อเทียน
candle cycle บันทึกผลความเหมือนและความแตกต่างของเทียนทัง 2
2.ชังนําหนักเทียนทัง2 ด้วยเครืองชังกรัม
3.นําเทียนไขทัวไปไปหลอมแล้วจับเวลาการแข็งตัวของเทียน บันทึกผลไว้
4.จุดไฟบนเทียนทัง 2 แล้วจับระยะเวลาในการเผาไหม้ของเทียน บันทึกผล
5.นําข้อมูลทังหมดมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเทียนทีได้จากเครืองหล่อเทียน candle
cycle กับเทียนไขทัวไป โดยทําเป็นตาราง เพือให้ทราบถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน
candle cycle
6.สรุปผล อภิปรายผล และนําเสนอผลงาน

20. บทที 4
ผลการทดลอง
จากการทดลองออกแบบ ประดิษฐ์และศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ใน
เรืองความแข็งแรงของอุปกรณ์และประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ทังนีได้ผลการทดลองดังนี
ผลการทดลองตอนที 1 ออกแบบเครืองหล่อเทียน candle cycle
และหาวัสดุอุปกรณ์ทีเหมาะสม
ตารางที 4.1 ผลการทดลองประสิทธิภาพการทนความร้อนของโลหะ
ชนิดโลหะ
ลักษณะทีเปลียนไปเมือให้ความร้อนเป็นเวลา 5 นาที
34 องศาเซลเซียส 44 องศาเซลเซียส 54 องศาเซลเซียส
สังกะสี ไมเปลียนแปลง ร้อน ร้อนมีรอยดําเล็กน้อย
อลูมิเนียม ไม่เปลียนแปลง ร้อนกว่า ร้อนมากมีรอยดําเล็กน้อย
ตารางที 4.2 ผลการทดลองประสิทธิภาพความแข็งแรงในการรับนําหนัก
ชนิดโลหะ
ลักษณะทีเปลียนไปเมือให้รับนําหนักดินนํามัน
200 กรัม 300 กรัม 400 กรัม
สังกะสี ไม่เปลียนแปลง ไม่เปลียนแปลง หย่อนเล็กน้อย
อลูมิเนียม ไม่เปลียนแปลง ไม่เปลียนแปลง หย่อน

21. ตารางที 4.3 ผลการทดลองก้านการเกาะของเทียน
ชนิดโลหะ
ลักษณะนําตาเทียนทีเกาะเมือเวลาผ่านไป
10 วินาที 20 วินาที 30 นาที
สังกะสี สีเหลืองเหลวใส สีเหลืองหนืดขุ่น สีเหลืองแข็ง
อลูมิเนียม สีเหลืองเหลวใส สีเหลืองหนืดขุ่น สีเหลืองแข็ง
ผลการทดลองตอนที 2 ประดิษฐ์เครืองหล่อเทียน candle cycle
ภาพที 4 อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle หลังประดิษฐ์
เวลาทีเทียนจากอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ใช้ในการแข็งตัว คือ 3 ชัวโมง
ผลการทดลองตอนที 3 ศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
ตารางที 4.4 เปรียบเทียบประสิทธิภาพของเทียนทัวไปกับเทียนทีได้จากการหล่อด้วยอุปกรณ์หล่อเทียน
candle cyclcandle cycle
เทียน ลักษณะทางกายภาพ
นําหนัก
(กรัม)
เวลาการแข็งตัว
(ชัวโมง)
เวลาการเผาไหม้
(ชัวโมง)
เทียนทัวไป ผิวสีเหลือง เนียน มันวาว 45.7 3.2 3.56
เทียนจาก
อุปกรณ์
ผิวสีเหลือง มีรอยดํา
เล็กน้อย วาว ไม่เนียน
43.2 3 3.39

22. บทที 5
สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ
จากการออกแบบ ประดิษฐ์และศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle พบว่า เทียน
ไขทีได้จากการผ่านอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle มีประสิทธิภาพการใช้งานใกล้เคียงกับเทียนไขทัวไป
แสดงว่าอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle มีประสิทธิภาพดีและสามารถนํามาใช้งานได้จริง
5.1 สรุปผลการทดลอง
5.1.1 สังกะสีมีความเหมาะสมในการนํามาประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle
5.1.2 อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle สามรถประดิษฐ์ได้ตรงตามแบบทีวางไว้และเทียนทีหล่อมา
ได้ใช้ระยะเวลาในการแข็งตัว นาที
5.1.3 เทียนไขทีได้จากการหล่อด้วยอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ
เทียนไขทัวไปมาก สามารถนํามาใช้ใหม่ได้
5.2 อภิปรายผลการทดลอง
การประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle สามารถนําเทียนกลับมาหล่อแล้วใช้ได้ใหม่โดยเทียน
นันมีประสิทธิภาพการใช้งานใกล้เคียงกับเทียนทัวไปมาก ซึงเมือพิจารณาจากอุปกรณ์หล่อเทียนcandle
cycle วัสดุหลักทีใช้ในการประดิษฐ์คือ โลหะสังกะสี พบว่า โลหะสังกะสีมีลักษณะพืนผิวทีเรียบ และเป็น
มันวาว มีความสามารถในการทนความร้อนดี คงทนแข็งแรง และนําตาเทียนสามารถเกาะบนผิวโลหะ

23. ได้น้อยกว่า อลูมิเนียม ซึงถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานในการประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle
cycle และรูปทรงของอุปกรณ์ candle cycleทีมีฐานสําหรับวางเทียนไขเพือให้นําตาเทียนไหลลงตามแนวดิง
ได้โดยไม่เอียงตกผิดตําแหน่งของอุปกรณ์ ส่งผลให้เราสามารถประดิษฐ์อุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle ได้
และได้เทียนไขเล่มใหม่ทีมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเทียนไขทัวไปทีผลิตจากโรงงาน
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 การขึนรูปเทียนเล่มใหม่ยังมีลักษณะทางกายภาพทีแตกต่างจากเทียนไขทัวไปอยู่บ้าง
5.3.2 ระยะเวลาในการใช้งานของอุปกรณ์หล่อเทียน candle cycle

24. เอกสารอ้างอิง
คงรักษ์ สมัครกุล. เทียนไข. กรุงเทพมหานคร : อมรินทร์, 2543.
แม้น จําเรืองยุทธ. ประดิษฐ์เทียนหอม. พิมพ์ครังที 2. นนทบุรี : ดวงดาว, 2547
วัลลภ ณรงค์เดช และชูศักดิ สันติประชา. โลหะในโลก. พิมพ์ครังที 3. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชวน
พิมพ์ , ,ม,, 2551
บพิธ จารุพันธ์. การหล่อเทียนพรรษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน, 2537
จันท์จรี อมรสิทธ์. หลักการเผาไหม้. กรุงเทพมหานคร : ธุรกิจการพิมพ์, 2540
พลวริน พลยิง. การพัฒนาเทียนหอมโดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง. เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2551
Grandwork. คุณสมบัติอลูมิเนียม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.tgi.or.th
.or.th/forum/index.php?topic=354.0 (วันทีค้นข้อมูล : 16 พฤศจิกายน 2557).
ยินดี การเหล็ก. อลูมิเนียมคอมโพสิท. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.pettongtana
gtana.com/catalog.php?idp=13 (วันทีค้นข้อมูล : 3 ธันวาคม 2557).
Fieldtrip. การติดไฟของเทียน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://fieldtrip.ipst.ac.th/
ht.th/intro_sub_content.php?content_id=19&content_folder_id=218 (วันทีค้
(วันทีค้นข้อมูล : 18 ธันวาคม 2557).
Indwrpencil. ไส้เทียน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.indepencil.com /ไส้เทียน (วันทีค้
(วันทีค้นข้อมูล : 4 มกราคม 2557).