SlideShare a Scribd company logo
1 of 21
Download to read offline
โครงงานคอมพิวเตอร์
COMPUTER
PROJECT
01
ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
02
ขันตอนการทําโครงงาน
คอมพิวเตอร์
TWO TOPICS
ประเภทโครงงาน
คอมพิวเตอร์
01
1.โครงงานพัฒนาสือเพือการ
ศึกษา (Educational Media)
เปนโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสือ
เพือการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือ
หน่วยการเรียน ซึงอาจจะต้องมีภาคแบบฝกหัด บท
ทบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถ
เรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยนี ถือว่าเครืองคอมพิวเตอร์เปน
อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เปนครูผู้สอน ซึงอาจ
เปนการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้า
มาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนีสามารถพัฒนาขึนเพือใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปนสาขา
คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์
วิชาสังคม วิชาชีพอืน ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัด
เลือกหัวข้อทีนักเรียนทัวไปทีทําความเข้าใจยาก มา
เปนหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง
เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะ
จักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
2..โครงงานพัฒนาเครืองมือ
(Tools Development)
เปนโครงงานเพือพัฒนาเครืองมือมาใช้ช่วย
สร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึงโดยส่วนใหญ่จะเปน
ในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครืองมือช่วยงาน
เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน
ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เปนต้น
สําหรับซอฟต์แวร์เพือการพิมพ์งานนันสร้างขึน
เปนโปรแกรม-
ประมวลผลภาษา ซึงจะเปนเครืองมือให้เราใช้งาน
ในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครืองคอมพิวเตอร์เปนไป
ได้โดยง่าย ซึงรูปทีได้สามารถนําไปใช้งานต่าง ๆได้
มากมาย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุใน
มุมต่าง ๆ ใช้สําหรับช่วยในการออกแบบสิงของ
ต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
3. โครงงานประเภทจําลองทฤษฎี (Theory
Experiment)
เปนโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจําลองการทดลองของสาขา
ต่าง ๆ เปนโครงงานทีผู้ทําต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อ
เท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึงในเรืองทีต้องการศึกษา
แล้วเสนอเปนแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของ
สมการสูตรหรือคําอธิบายก็ได้ พร้อมทังนําเสนอวิธีการจําลอง
ทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทําโครงงานประเภทนีมีจุดสําคัญอยู่ทีผู้
ทําต้องมีความรู้เรืองนัน ๆ เปนอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลอง
เรืองการไหลของเหลว
การทดลองเรืองพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยก
ดีเอ็นเอ เปนต้น
Item 1 Item 2 Item 3 Item 4
40
30
20
10
0
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้
งาน(Application)
เปนโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพือประยุกต์ใช้งาน
จริงในชีวิตประจําวันโครงงานงานประเภทนีจะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึงอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุง
ดัดแปลงของเดิมทีมีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึนก็ได้
โครงงานลักษณะนีจะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้
ก่อนแล้วนําข้อมูลทีได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิงของนัน ๆ
ต่อจากนันต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิง
ประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์
โครงงานประเภทนีนักเรียนต้องใช้ความรู้เกียวกับเครืองคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรม และเครืองมือต่าง ๆ ทีเกียวข้อง รวมทังอาจใช้วิธีทาง
วิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใน
การพัฒนาด้วย
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
เปนโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพือความรู้หรือความเพลิดเพลิน
เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคํานวณเลข ซึงเกมทีพัฒนาขึนนี
น่าจะเน้นให้เปนเกมทีไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพือฝกคิดอย่างมีหลักการ
โครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น
เพือให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อมทังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ
ได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียวกับเกมต่างๆทีมีอยู่ทัวไปและนํามา
ปรับปรุงหรือพัฒนาขึนใหม่เพือให้ปนเกมทีแปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html
https://sites.google.com/site/khorngngankhomphiwtexr/4-khorng-ngan-prapheth-kar-prayukt-chi-ngan-application
ขันตอนการทํา
โครงงาน
คอมพิวเตอร์
02
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานทีสนใจจะทํา
โดยทัวไปเรืองทีจะมาพัฒนาเปนโครงงานคอมพิวเตอร์
มักได้จากปญหา คําถาม หรือความสนใจในเรืองต่าง ๆ
จากการสังเกตสิงต่างๆทีเกียวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์
หรือสิงต่างๆ ทีอยู่รอบตัวจากแหล่งข้อมูลทีเชือถือได้ ในการ
ตัดสินใจเลือกหัวข้อทีจะนํามาพัฒนาเปนโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบทีสําคัญดังต่อไปนี
1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพืนฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรือง
ทีจะศึกษา
1.2 สามารถจัดหาเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุ
อุปกรณ์ทีเกียวข้องได้
1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอทีจะค้นคว้าหรือขอคําปรึกษา
1.4 มีเวลาเพียงพอ
1.5 มีงบประมาณเพียงพอ
1.6 มีความปลอดภัย
2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงการขอคําปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วย
ให้นักเรียนได้แนวคิดทีใช้ในการกําหนดขอบเขต
ของเรืองทีจะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิงขึน
รวมทังได้ความรู้เพิมเติมในเรืองทีจะศึกษา จน
สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดําเนินการทํา
โครงงานนันได้
3. จัดทําเค้าโครงข้อเสนอโครงงานทีจะทํา ดังนี
3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลทีได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
3.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพือกําหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการทีจะพัฒนา
3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกําหนดลักษณะของเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และ
ตัวแปลภาษา โปรแกรม และวัสดุต่าง ๆ ทีต้องใช้
3.4 กําหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทําเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทําโครงงาน
และสรุปรายงานโครงงาน โดยกําหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ
3.5 ทําการพัฒนาโครงงานขันต้น เพือศึกษาความเปนไปได้เบืองต้น
โดยอาจจะทําการพัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามทีได้ออกแบบไว้แล้ว
นําผลจากการศึกษาในช่วงนีไปปรับปรุงแผนการทดลองทีออกแบบไว้ในครังแรกให้เหมาะ
สมมากยิงขึน
3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ทีปรึกษา
เพือขอคําแนะนําและปรับปรุงแก้ไข เพือให้การวางแผนและดําเนินการทําโครงงานเปนไป
อย่างเหมาะสมเปนขันตอนตังแต่เริมต้นจนสินสุด
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
เมือเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ทีปรึกษาแล้ว ก็
เสมือนว่าการจัดทําโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึง ขันตอนต่อไปจะเปนการ
ลงมือพัฒนาตามขันตอนทีวางแผนไว้ ดังนี
4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ต้องเตรียมเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์
และวัสดุอืนๆ ทีจะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือ
บันทึกเปนแฟมข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สําหรับบันทึกการทํากิจกรรมต่างๆ
ระหว่างทําโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปญหาและแก้ไขได้หรือ
ไม่อย่างไร รวมทังข้อสังเกตต่างๆ ทีพบ
4.2 การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตามแผนงานทีวางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลียนแปลงหรือเพิมเติมได้
ถ้าพบว่าจะช่วยทําให้ผลงานดีขึน
2. จัดระบบการทํางานโดยทําส่วนทีเปนหลักสําคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อย
ทํา ส่วนทีเปนส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพือให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึน
และถ้ามีการแบ่งงานกันทํา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชือมชินงานทีชัดเจน
ด้วย
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเปน
ระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เปน
ความจําเปนเพือให้แน่ใจว่าผลงานทีพัฒนาขึนทํางานได้ถูกต้องตรงกับความ
ต้องการ ทีระบุไว้ในเปาหมายและทําด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมือพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทําสรุป
ด้วยข้อความทีสันกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพือช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิงทีค้น
พบจากการทําโครงงาน และทําการอภิปรายผลด้วย เพือพิจารณาข้อมูลและผลที
ได้ พร้อมกับนํา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานทีผู้อืนได้ศึกษา
ไว้แล้ว ทังนียังรวมถึงการนําหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อืนมาใช้ประกอบ
การอภิปรายผลทีได้ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมือทําโครงงานเสร็จ
สินลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นทีสําคัญ หรือปญหา ซึงสามารถ
เขียนเปนข้อเสนอแนะและสิงทีควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5. การจัดทํารายงาน
การเขียนรายงานเปนวิธีการสือความหมายเพือให้ผู้อืนได้เข้าใจแนวคิด วิธี
ดําเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลทีได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ
เกียวกับโครงงานนัน ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาทีอ่านง่าย
ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี
5.1 ส่วนนํา ส่วนนํา เปนการให้ข้อมูลเกียวกับโครงงานนันซึงประกอบ
ด้วย
1. ชือโครงงาน
2. ชือผู้ทําโครงงาน
3. ชืออาจารย์ทีปรึกษา
4. คําขอบคุณ เปนคํากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ทีมีส่วนช่วย
ทําให้โครงงานสําเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบายถึงทีมา ความสําคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดําเนินการ และ
ผลทีได้โดยย่อ
5.2 บทนํา บทนําเปนส่วนรายละเอียดของเนือหาของโครงงานซึงประกอบ
ด้วย
1. ทีมาและความสําคัญของโครงงาน
2. เปาหมายของการศึกษาค้นคว้า
3. ขอบเขตของโครงงาน
5.3 หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เปนส่วนสรุป
ข้อมูลทีได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธี
การทีจะนํามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึงรวมถึงการระบุผล
งานของผู้อืนทีนักเรียนนํามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิมเติม
ด้วย
5.4 วิธีดําเนินการ วิธีดําเนินการ อธิบายขันตอนการดําเนิน
งานโดยละเอียด พร้อมทังระบุปญหาหรืออุปสรรคทีพบพร้อม
ทังวิธีการทีใช้แก้ไข พร้อมทังระบุวัสดุอุปกรณ์ทีต้องใช้ในการ
ทํางาน
5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นําเสนอข้อมูลหรือระบบที
พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเปนตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ
ทังนีให้คํานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเปนหลัก
http://158.108.203.7/elearning/
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที
ได้จากการทํา งาน ถ้ามีการตังสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลทีได้
สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานทีตังไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนัน
ยังควรกล่าวถึงการนํา ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์
อุปสรรคของการทําโครงงาน หรือข้อสังเกตทีสําคัญ หรือข้อผิดพลาด
บางประการทีเกิดขึนจากการทํา โครงงานนี รวมทังข้อเสนอแนะเพือ
การปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรืองทํานองนีต่อไปใน
อนาคตด้วย
5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ทีได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ทีนักเรียนได้
รับจากการพัฒนาโครงงานนัน และประโยชน์ทีผู้ใช้จะได้รับจากการนํา
ผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
5.8 บรรณานุกรม รวบรวมรายชือหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บ
ไซด์ต่างๆ ทีผู้ทํา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพือศึกษาข้อมูลและราย
ละเอียดต่างๆ ทีนํามาใช้ประโยชน์ในการทํา โครงงานนีการเขียนเอกสาร
บรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.ht
6. การนําเสนอและแสดงโครงงาน
โดยทัวไปเมือโครงงานเสร็จสินแล้วต้องมีการนําเสนอโครงงาน
ให้กับผู้ทีต้องการใช้งานหรือครูทีปรึกษาโครงงาน
ดังนันควรเตรียมเอกสารนําเสนอให้สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อ
ข้อความทีสําคัญมาจากการรายงานก็ได้ การนําเสนอในรูปแบบ
ใดนันต้องเลือกให้เหมาะสมโดยพิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนํา
เสนอ ชือ สืออิเล็กทรอนิกส์ ปายนิทรรศการ เอกสารรายงาน
แผ่นพับ นอกจากนียังต้องวางแผนในการนําเสนอและสาธิต
โครงงาน และควรฝกตอบคําถามทีเกียวข้องไว้ด้วย
6.1 ชือโครงงาน
6.2 ชือผู้จัดทําโครงงาน
6.3 ชือทีปรึกษา
6.4 คําอธิบายถึงทีมาและความสําคัญของโครงงาน
6.5 วิธีการดําเนินการทีสําคัญ
6.6 การสาธิตผลงาน
6.7 ผลการสังเกตและข้อสรุปสําคัญทีได้จากการทําโครง
งาน
ถ้าเปนการรายงานด้วยคําพูดต่อทีประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี
1) จัดลําดับความคิดในการนําเสนออย่างมีระบบ และนําเสนออย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาทีชัดเจน
เข้าใจง่าย
2) ทําความเข้าใจกับเรืองทีจะอธิบาย รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลทีอาจจะต้องใช้ในการตอบคําถาม
3) หลีกเลียงการอ่านรายงาน
4) ควรมองไปยังผู้ฟงรายงาน
5) ตอบคําถามอย่างตรงไปตรงมา
6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาทีกําหนด
7) ควรใช้สือ เช่น สไลด์ แผ่นใส ประกอบการรายงาน
8) ความเหมาะสมของเนือหาต่อผู้ฟง
9) ถ้าเปนโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนันควรอยู่ในสภาพทีทํางานได้เปนอย่างดี
การทําโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเปนกิจกรรมทีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นําความรู้ทางคอมพิวเตอร์มาใช้
แก้ปญหา พัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเปนกิจกรรมทีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสนใจทีจะทํางานวิจัย
และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์มากยิงขึนด้วย ดังนันจึงน่าทีจะจัดให้การทําโครงงานคอมพิวเตอร์เปน
กิจกรรมในทุกระดับชันเพือนําไปสู่การพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
Made By
น.ส.อริสา หาญขว้าง
เลขที 39 ม.6/9
น.ส.อมรรัตน์ วงศ์ซือ
เลขที 44 ม.6/9

More Related Content

What's hot

Computer project 3
Computer project 3 Computer project 3
Computer project 3 ibukionigami
 
Project 3 type of computer
Project 3 type of computerProject 3 type of computer
Project 3 type of computerssuserb6b789
 
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2Ploy Pony
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมCharisma An
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมCharisma An
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Stn PT
 
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไข
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไขใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไข
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไขPak Ubss
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Sippapas Wathanapinanachai
 
Computer Project
Computer ProjectComputer Project
Computer ProjectPanidaling
 
ป๊อก 5555
ป๊อก 5555 ป๊อก 5555
ป๊อก 5555 aonaon080
 

What's hot (19)

Work3 comclass
Work3 comclassWork3 comclass
Work3 comclass
 
12
1212
12
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
Computer project 3
Computer project 3 Computer project 3
Computer project 3
 
Project 3 type of computer
Project 3 type of computerProject 3 type of computer
Project 3 type of computer
 
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2
ประเภทและขั้นตอนของโครงงาน2
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Commmm mm 3
Commmm mm 3Commmm mm 3
Commmm mm 3
 
Project 3 presentation
Project 3 presentationProject 3 presentation
Project 3 presentation
 
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไข
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไขใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไข
ใบความรู้1โครงงานคอมพิวเตอร์แก้ไข
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Computer Project
Computer ProjectComputer Project
Computer Project
 
ป๊อก 5555
ป๊อก 5555 ป๊อก 5555
ป๊อก 5555
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
Projectcom2
Projectcom2Projectcom2
Projectcom2
 

Similar to presentation 3

กิจกรรม3
กิจกรรม3กิจกรรม3
กิจกรรม3dolnapa49826
 
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์Noo Jed'za Thefaew
 
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_พรนิภา ม้าจีน
 
Computer project3
Computer project3Computer project3
Computer project3ning1414
 
Com3 602 1718
Com3 602 1718Com3 602 1718
Com3 602 1718KUMBELL
 
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์Thanatchaya21
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานChanon Saiatit
 
ประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงานประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงานyanee saechoeng
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์aonaon080
 

Similar to presentation 3 (20)

กิจกรรม3
กิจกรรม3กิจกรรม3
กิจกรรม3
 
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
 
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_
การพ ฒนาโครงงานคอมพ วเตอร_
 
Computer project3
Computer project3Computer project3
Computer project3
 
Com3 602 1718
Com3 602 1718Com3 602 1718
Com3 602 1718
 
Work 3
Work 3Work 3
Work 3
 
Work 3
Work 3Work 3
Work 3
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
Com
ComCom
Com
 
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Comp2 4
Comp2 4Comp2 4
Comp2 4
 
Comp2 4
Comp2 4Comp2 4
Comp2 4
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
Kk3
Kk3Kk3
Kk3
 
3
33
3
 
ประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงานประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงาน
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
Computrproject
ComputrprojectComputrproject
Computrproject
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 

presentation 3

  • 4. 1.โครงงานพัฒนาสือเพือการ ศึกษา (Educational Media) เปนโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสือ เพือการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือ หน่วยการเรียน ซึงอาจจะต้องมีภาคแบบฝกหัด บท ทบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถ เรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยนี ถือว่าเครืองคอมพิวเตอร์เปน อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เปนครูผู้สอน ซึงอาจ เปนการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้า มาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนีสามารถพัฒนาขึนเพือใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปนสาขา คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอืน ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัด เลือกหัวข้อทีนักเรียนทัวไปทีทําความเข้าใจยาก มา เปนหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะ จักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
  • 5. 2..โครงงานพัฒนาเครืองมือ (Tools Development) เปนโครงงานเพือพัฒนาเครืองมือมาใช้ช่วย สร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึงโดยส่วนใหญ่จะเปน ในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครืองมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เปนต้น สําหรับซอฟต์แวร์เพือการพิมพ์งานนันสร้างขึน เปนโปรแกรม- ประมวลผลภาษา ซึงจะเปนเครืองมือให้เราใช้งาน ในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครืองคอมพิวเตอร์เปนไป ได้โดยง่าย ซึงรูปทีได้สามารถนําไปใช้งานต่าง ๆได้ มากมาย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุใน มุมต่าง ๆ ใช้สําหรับช่วยในการออกแบบสิงของ ต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
  • 6. 3. โครงงานประเภทจําลองทฤษฎี (Theory Experiment) เปนโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจําลองการทดลองของสาขา ต่าง ๆ เปนโครงงานทีผู้ทําต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อ เท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึงในเรืองทีต้องการศึกษา แล้วเสนอเปนแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของ สมการสูตรหรือคําอธิบายก็ได้ พร้อมทังนําเสนอวิธีการจําลอง ทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทําโครงงานประเภทนีมีจุดสําคัญอยู่ทีผู้ ทําต้องมีความรู้เรืองนัน ๆ เปนอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลอง เรืองการไหลของเหลว การทดลองเรืองพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยก ดีเอ็นเอ เปนต้น Item 1 Item 2 Item 3 Item 4 40 30 20 10 0
  • 7. 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้ งาน(Application) เปนโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพือประยุกต์ใช้งาน จริงในชีวิตประจําวันโครงงานงานประเภทนีจะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึงอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุง ดัดแปลงของเดิมทีมีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึนก็ได้ โครงงานลักษณะนีจะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ ก่อนแล้วนําข้อมูลทีได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิงของนัน ๆ ต่อจากนันต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิง ประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนีนักเรียนต้องใช้ความรู้เกียวกับเครืองคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครืองมือต่าง ๆ ทีเกียวข้อง รวมทังอาจใช้วิธีทาง วิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใน การพัฒนาด้วย
  • 8. 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เปนโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพือความรู้หรือความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคํานวณเลข ซึงเกมทีพัฒนาขึนนี น่าจะเน้นให้เปนเกมทีไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพือฝกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพือให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อมทังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ ได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียวกับเกมต่างๆทีมีอยู่ทัวไปและนํามา ปรับปรุงหรือพัฒนาขึนใหม่เพือให้ปนเกมทีแปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html https://sites.google.com/site/khorngngankhomphiwtexr/4-khorng-ngan-prapheth-kar-prayukt-chi-ngan-application
  • 10. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานทีสนใจจะทํา โดยทัวไปเรืองทีจะมาพัฒนาเปนโครงงานคอมพิวเตอร์ มักได้จากปญหา คําถาม หรือความสนใจในเรืองต่าง ๆ จากการสังเกตสิงต่างๆทีเกียวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิงต่างๆ ทีอยู่รอบตัวจากแหล่งข้อมูลทีเชือถือได้ ในการ ตัดสินใจเลือกหัวข้อทีจะนํามาพัฒนาเปนโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบทีสําคัญดังต่อไปนี 1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพืนฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรือง ทีจะศึกษา 1.2 สามารถจัดหาเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุ อุปกรณ์ทีเกียวข้องได้ 1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอทีจะค้นคว้าหรือขอคําปรึกษา 1.4 มีเวลาเพียงพอ 1.5 มีงบประมาณเพียงพอ 1.6 มีความปลอดภัย
  • 11. 2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคําปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วย ให้นักเรียนได้แนวคิดทีใช้ในการกําหนดขอบเขต ของเรืองทีจะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิงขึน รวมทังได้ความรู้เพิมเติมในเรืองทีจะศึกษา จน สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดําเนินการทํา โครงงานนันได้
  • 12. 3. จัดทําเค้าโครงข้อเสนอโครงงานทีจะทํา ดังนี 3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลทีได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพือกําหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการทีจะพัฒนา 3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกําหนดลักษณะของเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และ ตัวแปลภาษา โปรแกรม และวัสดุต่าง ๆ ทีต้องใช้ 3.4 กําหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทําเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทําโครงงาน และสรุปรายงานโครงงาน โดยกําหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ 3.5 ทําการพัฒนาโครงงานขันต้น เพือศึกษาความเปนไปได้เบืองต้น โดยอาจจะทําการพัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามทีได้ออกแบบไว้แล้ว นําผลจากการศึกษาในช่วงนีไปปรับปรุงแผนการทดลองทีออกแบบไว้ในครังแรกให้เหมาะ สมมากยิงขึน 3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ทีปรึกษา เพือขอคําแนะนําและปรับปรุงแก้ไข เพือให้การวางแผนและดําเนินการทําโครงงานเปนไป อย่างเหมาะสมเปนขันตอนตังแต่เริมต้นจนสินสุด
  • 13. 4. การลงมือพัฒนาโครงงาน เมือเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ทีปรึกษาแล้ว ก็ เสมือนว่าการจัดทําโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึง ขันตอนต่อไปจะเปนการ ลงมือพัฒนาตามขันตอนทีวางแผนไว้ ดังนี 4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ต้องเตรียมเครืองคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอืนๆ ทีจะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือ บันทึกเปนแฟมข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สําหรับบันทึกการทํากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทําโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปญหาและแก้ไขได้หรือ ไม่อย่างไร รวมทังข้อสังเกตต่างๆ ทีพบ 4.2 การลงมือพัฒนา 1. ปฏิบัติตามแผนงานทีวางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลียนแปลงหรือเพิมเติมได้ ถ้าพบว่าจะช่วยทําให้ผลงานดีขึน 2. จัดระบบการทํางานโดยทําส่วนทีเปนหลักสําคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อย ทํา ส่วนทีเปนส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพือให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึน และถ้ามีการแบ่งงานกันทํา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชือมชินงานทีชัดเจน ด้วย 3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเปน ระบบและครบถ้วน
  • 14. 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เปน ความจําเปนเพือให้แน่ใจว่าผลงานทีพัฒนาขึนทํางานได้ถูกต้องตรงกับความ ต้องการ ทีระบุไว้ในเปาหมายและทําด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมือพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทําสรุป ด้วยข้อความทีสันกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพือช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิงทีค้น พบจากการทําโครงงาน และทําการอภิปรายผลด้วย เพือพิจารณาข้อมูลและผลที ได้ พร้อมกับนํา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานทีผู้อืนได้ศึกษา ไว้แล้ว ทังนียังรวมถึงการนําหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อืนมาใช้ประกอบ การอภิปรายผลทีได้ด้วย 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมือทําโครงงานเสร็จ สินลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นทีสําคัญ หรือปญหา ซึงสามารถ เขียนเปนข้อเสนอแนะและสิงทีควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
  • 15. 5. การจัดทํารายงาน การเขียนรายงานเปนวิธีการสือความหมายเพือให้ผู้อืนได้เข้าใจแนวคิด วิธี ดําเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลทีได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกียวกับโครงงานนัน ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาทีอ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี 5.1 ส่วนนํา ส่วนนํา เปนการให้ข้อมูลเกียวกับโครงงานนันซึงประกอบ ด้วย 1. ชือโครงงาน 2. ชือผู้ทําโครงงาน 3. ชืออาจารย์ทีปรึกษา 4. คําขอบคุณ เปนคํากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ทีมีส่วนช่วย ทําให้โครงงานสําเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบายถึงทีมา ความสําคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดําเนินการ และ ผลทีได้โดยย่อ 5.2 บทนํา บทนําเปนส่วนรายละเอียดของเนือหาของโครงงานซึงประกอบ ด้วย 1. ทีมาและความสําคัญของโครงงาน 2. เปาหมายของการศึกษาค้นคว้า 3. ขอบเขตของโครงงาน
  • 16. 5.3 หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เปนส่วนสรุป ข้อมูลทีได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธี การทีจะนํามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึงรวมถึงการระบุผล งานของผู้อืนทีนักเรียนนํามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิมเติม ด้วย 5.4 วิธีดําเนินการ วิธีดําเนินการ อธิบายขันตอนการดําเนิน งานโดยละเอียด พร้อมทังระบุปญหาหรืออุปสรรคทีพบพร้อม ทังวิธีการทีใช้แก้ไข พร้อมทังระบุวัสดุอุปกรณ์ทีต้องใช้ในการ ทํางาน 5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นําเสนอข้อมูลหรือระบบที พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเปนตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทังนีให้คํานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเปนหลัก http://158.108.203.7/elearning/
  • 17. 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที ได้จากการทํา งาน ถ้ามีการตังสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลทีได้ สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานทีตังไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนัน ยังควรกล่าวถึงการนํา ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทําโครงงาน หรือข้อสังเกตทีสําคัญ หรือข้อผิดพลาด บางประการทีเกิดขึนจากการทํา โครงงานนี รวมทังข้อเสนอแนะเพือ การปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรืองทํานองนีต่อไปใน อนาคตด้วย 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ทีได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ทีนักเรียนได้ รับจากการพัฒนาโครงงานนัน และประโยชน์ทีผู้ใช้จะได้รับจากการนํา ผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย 5.8 บรรณานุกรม รวบรวมรายชือหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บ ไซด์ต่างๆ ทีผู้ทํา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพือศึกษาข้อมูลและราย ละเอียดต่างๆ ทีนํามาใช้ประโยชน์ในการทํา โครงงานนีการเขียนเอกสาร บรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E- Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.ht
  • 18. 6. การนําเสนอและแสดงโครงงาน โดยทัวไปเมือโครงงานเสร็จสินแล้วต้องมีการนําเสนอโครงงาน ให้กับผู้ทีต้องการใช้งานหรือครูทีปรึกษาโครงงาน ดังนันควรเตรียมเอกสารนําเสนอให้สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อ ข้อความทีสําคัญมาจากการรายงานก็ได้ การนําเสนอในรูปแบบ ใดนันต้องเลือกให้เหมาะสมโดยพิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนํา เสนอ ชือ สืออิเล็กทรอนิกส์ ปายนิทรรศการ เอกสารรายงาน แผ่นพับ นอกจากนียังต้องวางแผนในการนําเสนอและสาธิต โครงงาน และควรฝกตอบคําถามทีเกียวข้องไว้ด้วย
  • 19. 6.1 ชือโครงงาน 6.2 ชือผู้จัดทําโครงงาน 6.3 ชือทีปรึกษา 6.4 คําอธิบายถึงทีมาและความสําคัญของโครงงาน 6.5 วิธีการดําเนินการทีสําคัญ 6.6 การสาธิตผลงาน 6.7 ผลการสังเกตและข้อสรุปสําคัญทีได้จากการทําโครง งาน
  • 20. ถ้าเปนการรายงานด้วยคําพูดต่อทีประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี 1) จัดลําดับความคิดในการนําเสนออย่างมีระบบ และนําเสนออย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาทีชัดเจน เข้าใจง่าย 2) ทําความเข้าใจกับเรืองทีจะอธิบาย รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลทีอาจจะต้องใช้ในการตอบคําถาม 3) หลีกเลียงการอ่านรายงาน 4) ควรมองไปยังผู้ฟงรายงาน 5) ตอบคําถามอย่างตรงไปตรงมา 6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาทีกําหนด 7) ควรใช้สือ เช่น สไลด์ แผ่นใส ประกอบการรายงาน 8) ความเหมาะสมของเนือหาต่อผู้ฟง 9) ถ้าเปนโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนันควรอยู่ในสภาพทีทํางานได้เปนอย่างดี การทําโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเปนกิจกรรมทีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นําความรู้ทางคอมพิวเตอร์มาใช้ แก้ปญหา พัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเปนกิจกรรมทีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสนใจทีจะทํางานวิจัย และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์มากยิงขึนด้วย ดังนันจึงน่าทีจะจัดให้การทําโครงงานคอมพิวเตอร์เปน กิจกรรมในทุกระดับชันเพือนําไปสู่การพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
  • 21. Made By น.ส.อริสา หาญขว้าง เลขที 39 ม.6/9 น.ส.อมรรัตน์ วงศ์ซือ เลขที 44 ม.6/9