More Related Content
Similar to Bdc412 พม่า (7)
Bdc412 พม่า
- 1. ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของพม่า
ประเทศพม่า
พม่าหรือ เมียนมา (อังกฤษ: Myanmar, พม่า: မြန် )
มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับอินเดีย บังกลาเทศ จีน ลาว และไทย
หนึ่งในสามของพรมแดนพม่าที่มีความยาว 1,930 กิโลเมตรเป็นแนวชายฝั่งตามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน
ประวัติศาสตร์ของพม่านั้นมีความยาวนานและซับซ้อน มีประชาชนหลายเผ่าพันธุ์เคยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้
เผ่าพันธุ์เก่าแก่ที่สุดที่ปรากฏได้แก่ชาวมอญ ต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ 13
ชาวพม่าได้อพยพลงมาจากบริเวณพรมแดนระหว่างจีนและทิเบต เข้าสู่ที่ราบลุ่มแม่น้ําอิรวดี
และได้กลายเป็นชนเผ่าส่วนใหญ่ที่ปกครองประเทศในเวลาต่อมา
ช่องว่างรายได้ของประเทศพม่ากว้างที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
เพราะเศรษฐกิจสัดส่วนใหญ่ถูกผู้สนับสนุนอดีตรัฐบาลทหารควบคุม[14][15] ใน ค.ศ. 2013 จากดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI)
ประเทศพม่ามีระดับการพัฒนามนุษย์ต่ํา โดยจัดอยู่อันดับที่ 150 จาก 187 ประเทศ
เชื้อชาติ
จํานวนประชากรประมาณ 56,400,000 คน มีชาติพันธุ์พม่า 68% ไทใหญ่ 9% กะเหรี่ยง 7% ยะไข่ 3.50% จีน 2.50% มอญ 2% คะฉิ่น
1.50% อินเดีย 1.25% ชิน 1% คะยา 0.75% อื่น ๆ 4.50%
ศาสนา
ศาสนาพุทธเผยแผ่เข้ามาในเมียนมาร์ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
และยังคงนับถือสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจําชาติสัดส่วนของกา
รนับถือศาสนามีดังนี้
ศาสนาพุทธ 89 เปอร์เซ็นต์ คริสต์ทุกนิกายรวมกัน 5.6 เปอร์เซ็นต์ อิสลาม 3.8 เปอร์เซ็นต์ ฮินดู 0.5 เปอร์เซ็นต์
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมของพม่าได้รับอิทธิพลทั้งจากจีน อินเดีย และไทยมาช้านาน ดังสะท้อนให้เห็นในด้านภาษา ดนตรี
และอาหาร
สําหรับศิลปะของพม่านั้นได้รับอิทธิพลจากวรรณคดีและพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทมาตั้งแต่ครั้งโบราณ
ในปัจจุบันนี้วัฒนธรรมพม่ายังได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากเขตชนบทของประเทศ
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้ง : ประเทศพม่าตั้งอยู่ที่ละติจูดที่ 28 องศา 30 ลิปดา ถึง 10 องศา 20
ลิปดาเหนือ
ภูมิประเทศตั้งอยู่ตามแนวอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามันทําให้มีชายฝั่งทะเลยา
วถึง 2,000 ไมล์ และมีหาดที่สวยงามเก่าแก่บริสุทธิ์อยู่หลายแห่ง
พม่ามีชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือติดกับบังคลาเทศและอินเดีย
และทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับธิเบตและจีน ส่วนทางตะวันออกติดกับลาว
และทางตอนใต้ติดกับไทย
- 2. ลักษณะภูมิประเทศ
ภาคเหนือ – เทือกเขาปัตไก เป็นพรมแดนระหว่างพม่าและอินเดีย
ภาคตะวันตก – เทือกเขาอาระกันโยมากั้นเป็นแนวยาว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – เป็นที่ราบสูงชาน
ภาคใต้ – มีทิวเขาตะนาวศรี กั้นระหว่างไทยกับพม่า
ภาคกลาง – เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ําอิรวดี
ลักษณะภูมิอากาศ
- มรสุมเมืองร้อน
- ด้านหน้าภูเขาอาระกันโยมา ฝนตกชุกมาก
- ภาคกลางตอนบนแห้งแล้งมาก เพราะมีภูเขากั้นกําบังลม
- ภาคกลางตอนล่าง เป็นดินดอนสามเหลี่ยวปากแม่น้ําขนาดใหญ่
ปลูกข้าวเจ้า ปอ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศค่อนข้างเย็น และค่อนข้างแห้งแล้ง
- 3. การแต่งกาย เรียกว่า "ลองยี “
หญิง :
สวมเสื้อข้างในเป็นคอกลม เอวสั้น โดยมีเสื้อนอกแขนกระบอกยาว
ซึ่งนิยมใช้ผ้าเนื้อบางลายลูกไม้สีสดเข้ากับสีของ "ลองยี" หรือโสร่ง
ที่ยาวจรดข้อเท้าที่ต้องเหน็บชายผ้าไว้ที่เอวให้แน่นโดยไม่ใช้เข็มขัด
อาจมีผ้าบางคล้องไหล่และสวมรองเท้าแตะ
ชาย :
สวมเสื้อคอกลม แขนสั้น ติดกระดุมป้ายมาดานข้างแบบจีนที่เรียกว่า "กุยตั๋ง"
หรืออาจจะใส่เสื้อตัวยาวถึงสะโพก ติดกระดุมตรงกลางที่เรียกว่า "กุยเฮง" นุ่งโสร่งลองยี
และมีผ้าแพรสีขาวหรือสีชมพูโพกศีรษะ และสวมรองเท้าแตะ
- 4. ประเพณี
ประเพณีปอยส่างลอง (Poy Sang Long):
หรืองานบวชลูกแก้ว เป็นงานบวชเณรที่สืบทอดกันมานาน
และชาวเมียนมาร์ให้ความสําคัญมาก เพราะถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว
งานไหว้พุทธเจดีย์ประจําปี”
ซึ่งแต่ละที่มักนิยมจัดในเดือนหลังออกพรรษา ถือเป็นงานเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและได้ทําบุญสร้างกุสลด้วย
- 5. ดอกไม้ประจําชาติ : เมียนมาร์
ดอกประดู่ (Padauk)
อาหารประจําชาติ
หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า คือใบชาหมักทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่าง ๆ งาคั่ว กุ้งแห้ง ขิง
มะพร้าวคั่ว จัดว่าเป็นอาหารว่างคล้ายกับยําเมี่ยงบ้านเรานั่นเอง หล่าเพ็ดเป็นจานที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสําคัญ
- 6. อาหารยอดนิยมของเมียนมาร์
ยําใบบัวบก
โมฮิงยา (Mo Hin Ga)” คือขนมจีนน้ํายาที่ทําจากปลา ไม่มีกระทิ จะเรียกว่าน้ํายาป่าก็ได้ มีทานทุกภาค
เรียกว่าเป็นอาหารประจําชาติก็ได้ ชาวพม่าจะทานในตอนกลางวัน ร้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นแผงลอย อยู่ตามข้างถนน
บางทีก็ทานเป็นอาหารเช้าด้วย
- 7. รูปแบบการปกครองของประเทศสหภาพเมียนมาร์ในปัจจุบัน
ปกครองโดยคณะรัฐบาลทหารพม่า (Military Council)โดยสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (State Peace and
Development Council - SPDC) โดยมี ประมุข พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย (Senior General Than Shwe)
ประธานสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หัวหน้ารัฐบาล พลเอกขิ่น ยุ้น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ อู วิน
อ่อง
สกุลเงิน
ของประเทศพม่า คือ จัต (Kyat) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 31.41 จัตต่อ 1 บาท หรือประมาณ 1030.10 จัตต่อ 1
ดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลเดือนมกราคม พ.ศ. 2558) [27]
ประเทศพม่าอุดมด้วยหยกและอัญมณี น้ํามัน
แก๊สธรรมชาติและทรัพยากรแร่อื่น ใน ค.ศ. 2013 จีดีพี
(ราคาตลาด) อยู่ที่ 56,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจีดีพี
(อํานาจซื้อ) อยู่ที่ 221,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การคมนาคม
การขนส่งทางบก ได้แก่ ทางถนนและทางรถไฟ ทางถนน ถนนในพม่าส่วนใหญ่ขนานไปกับภูเขาและแม่น้ํา
ทอดไปตามความยาวของประเทศ เช่นเดียวกับทางรถไฟ ถนนสายต่าง ๆ ที่สําคัญมีดังนี้ ถนนสายพม่า
เป็นถนนสายสําคัญที่เชื่อมต่อระหว่างย่างกุ้งกับเมืองคุนหมิง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน
การขนส่งทางน้ํา การคมนาคมขนส่งทางน้ําภายในประเทศ
นับว่ามีความสําคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศพม่าเป็นอย่างมาก และยังเป็นเส้นทางคมนาคมหลักมาตั้งแต่อดีต
เนื่องจากพื้นที่บริเวณปากแม่น้ําอิรวดีมีทางน้ําอยู่มากมาย และเป็นเขตที่มีประชาชนพลเมืองอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด
ประกอบกับเส้นทางถนนและทางรถไฟยังมีจํากัด
- 8. เศรษฐกิจของประเทศพม่า
เกษตรกรรม เป็นอาชีพหลัก เขตเกษตรกรรมคือบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ําอิรวดี
แม่น้ําสะโตง แม่น้ําทวาย-มะริด ปลูกข้าวเจ้า ปอกระเจา อ้อย และพืชเมืองร้อนอื่น ๆ ส่วนเขตฉาน
อยู่ติดแม่น้ําโขงปลูกพืชผักจํานวนมาก และทําเหมืองแร่
อุตสาหกรรม กําลังพัฒนา อยู่บริเวณตอนล่าง เช่น ย่างกุ้ง และ มะริด และทวาย
เป็นอุตสาหกรรมต่อเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ของพม่า
แร่ธาตุ ภาคกลางตอนบน มีน้ํามันปิโตรเลียม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขุดแร่ หิน สังกะสี
ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ทําเหมืองดีบุก ทางตอนใต้เมืองมะริดมีเพชร และหยกจํานวนมาก
ป่าไม้ มีการทําป่าไม้สักทางภาคเหนือ ส่งออกขายและล่องมาตามแม่น้ําอิรวดีเข้าสู่ย่างกุ้ง
สไตล์หรือแนวทางการโฆษณาที่นิยมของประเทศพม่า
ไลฟ์สไตล์การเสพสื่อของผู้บริโภค "สื่อโทรทัศน์"
ยังเป็นสื่อหลักที่เข้าถึงชาวพม่าได้มากที่สุด เฉลี่ยคนพม่าดูทีวี 27 วันต่อเดือน
โดยมีสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน "ฟรีทีวี" 4 ช่องหลัก ได้แก่ MRTV, MWD, MRTV4
และ Channel 7 ซึ่งแต่ละช่องมีความชัดของสัญญาณแตกต่างกันในแต่ละเมือง
โดยช่อง MRTV4 และ Channel 7 เป็น 2 ช่องมีเรทติ้งผู้ชมสูงสุดทั้งในย่างกุ้ง
และมัณฑะเลย์ โดยช่อง MRTV4 มีสัดส่วนผู้ชม 86.3% ,Channel 7 สัดส่วน 83%
,MRTV สัดส่วน 68.4% และ MWD สัดส่วน 46.2%
ช่วงเวลาไพร์มไทม์ (Prime time) การดูทีวีในพม่า จะอยู่ที่ 19.00 - 22.00 น.
ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ยไพร์มไทม์ทั่วโลกที่อยู่ในช่วง 20.00 - 23.00
น.สําหรับรายการยอดนิยมในประเทศพม่า คือ ซีรีส์ต่างประเทศจากเกาหลี
รองลงมาคือละครโทรทัศน์จากจีน และรายการประเภทวาไรตี้ต่างประเทศ อาทิ Ain Mat
Soneyar หรือ Where dream meet (รายการลักษณะเดียวกับ The voice) และ Are you
smarter than 5th grade ซึ่งเป็นรายการบันเทิงเกือบทั้งสิ้น
รูปแบบการโฆษณาทางทีวีในพม่า จะเป็นโฆษณาความยาว 1.30-3 นาที
ต่างจากโฆษณาไทยที่ใช้เวลา 30 วินาที
โดยผู้บริโภคพม่าให้ความสนใจโฆษณาที่สื่อสารผ่านพรีเซ็นเตอร์พม่า
เน้นนําเสนอผ่านเพลงที่สนุกสนาน มากกว่าโฆษณาฟอร์แมทเดียวกันจากต่างประเทศ
ตัวอย่างโฆษณา
- โฆษณา ไส้กรอกซีพี
https://www.youtube.com/watch?v=DlWfJhVcb10
- โฆษณา ดัชมิลล์
https://www.youtube.com/watch?v=08WYDENprB4
- 9. Myanmar
ผลงานวิจัยในประเทศพม่า
จากการสํารวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนชาวพม่า ณ เมืองย่างกุ้ง
พบว่า ชาวพม่าสามารถแบ่งลักษณะตามอุปนิสัยได้เป็น 3 กลุ่ม
ได้แก่
กลุ่มที่ค่อนข้าง Conservative 28% คือ ยังยึดมั่นและอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวพม่า ที่มีลักษณะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มีความสันโดษ
ไม่ชอบการสังสรรค์นอกบ้าน ชอบที่จะอยู่กับบ้าน สวดมนต์ คนกลุ่มนี้จะมีอายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป
กลุ่มที่สอง เป็นพวก Contemporary 26% ได้แก่ กลุ่มที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมเดิม แต่ก็มองหาความทันสมัย ยอมเปิดรับสิ่งใหม่มากขึ้น
ชอบทดลองของใหม่ มีการใช้สินค้ามากกว่า 1 แบรนด์ในบางผลิตภัณฑ์ และยังมีความเชื่อว่า
สินค้าแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศมีคุณภาพดีกว่าสินค้าที่เป็นแบรนด์ของพม่า คนกลุ่มนี้มีอายุอยู่ในช่วง 25-34 ปี
กลุ่มสุดท้าย ที่จําแนกและให้คําจํากัดความว่าเป็น Cosmopolitan 46% เป็นกลุ่มที่ชอบปาร์ตี้ ตามแฟชั่น เล่นอินเทอร์เน็ต มีอายุระหว่าง 15-24 ปี
นอกเหนือจากนั้น จะเห็นว่า โดยพื้นฐานของชาวพม่า ในสายตาของคนทั่วไป ชาวพม่ามีการดําเนินชีวิตที่เรียบง่าย สันโดษ ต้องการความมั่นคง
ทําให้ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนัก แต่จะยอมรับหากการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ความถี่ในการจับจ่ายซื้อของ
จะไปเลือกซื้อของใช้เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นอาหารจะนิยมจับจ่ายตลาดกันแทบทุกวัน
คือไม่ได้มีการเลือกซื้ออาหารมาเก็บตุนไว้ในตู้เย็น นอกจากนั้น ถ้าพิจารณาตามกลุ่ม (Segment) จะพบว่ากลุ่ม Conservative นั้น
จะไปซื้อของตามร้านค้าท้องถิ่น และตลาดสดเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงของใช้ในบ้านที่จําเป็นเท่านั้น จึงจะไปซื้อที่ศูนย์การค้า
ส่วนที่เหลืออีกสองกลุ่มมักจะไปซื้อของที่ศูนย์การค้า มีเพียงเรื่องอาหารเท่านั้นที่จะไปซื้อที่ตลาดท้องถิ่นเหมือนๆ กัน เพราะฉะนั้นตลาดท้องถิ่น (Local
Market) จึงเป็นอีกช่องทางที่เราสามารถจะสื่อกับผู้บริโภคได้ ถึงแม้ว่าตลาดท้องถิ่นจะไม่ใช่เป้าหมายสําคัญของทุกกลุ่ม แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่หลัก
ที่ทุกกลุ่มไปเดินจับจ่ายซื้อของ และใช้เวลามากที่สุด
อีกปัจจัยที่นักการตลาดจะต้องคํานึงถึงพฤติกรรมของชาวพม่า คือ ชาวพม่าค่อนข้างรอบคอบในการจับจ่ายใช้สอย จะคิดก่อนซื้อ
และพิจารณาสินค้าด้วยเรื่องของราคา ความคุ้มค่า และคุณภาพเป็นหลัก ดังนั้น สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
จะต้องตอบโจทย์ความต้องการของชาวพม่าได้ เนื่องจากยังมีกลุ่มคนลักษณะอนุรักษ์นิยมเป็นจํานวนมาก
ฉะนั้น สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ ควรหลีกเลี่ยงการทําลายวัฒนธรรม รวมถึงการใช้โปรโมชั่นเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้
หากนักการตลาดสามารถทําความเข้าใจกับพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ก็จะสามารถตอบสนองความต้องการ
และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการได้ตรงใจจนสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจชาวพม่าได้
ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพม่า มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
และกําลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติเป็นจํานวนมาก
ตัวอย่าง
mobile apps
- 11. สายการบินYangon Airways
นโยบาย
Yangon Airways นําเอาแนวทางก้าวหน้าสําหรับการอัพเกรดบริการและประสิทธิภาพ
รักษาเครื่องบินของเราให้มีมาตรฐานสูงสุดของความพร้อมในการปฏิบัติงานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
โรงแรมห้าดาวที่ขึ้นชื่อในพม่า Mandalay Hotels
- 12. ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของพม่า
ทานาคา หรือ กาซาน่า (ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า LICODIA ACIDISSIMA ) มีที่มาจากต้นทานาคา
ซึ่งมีมากในแถบตอนกลางของพม่า
ทานาคามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมาก และมีสาร OPC และ Curcuminoid
ทําให้ทานาคามีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะต่อต้านความเสื่อมของเซลล์และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว
และยังช่วยป้องกันการทําลายผิวจากรังสียูวีอีกด้วย
แบบผง