1. การสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน ทำอย่างไร ? เราถึงจะรักงาน ทำอย่างไร ? เราถึงจะทำงานที่รับผิดชอบได้ดี ทำอย่างไร ? เราถึงจะประสบความสำเร็จในงาน

2. การทำงานกับทัศนคติที่ดี ถ้า A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z เท่ากับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 ดังนั้น H + A + R + D + W + O + R + K 8 + 1 + 18 + 4 + 23 + 15 + 18 + 11 = 98 % เท่านั้น K + N +O + W + L + E + D + G + E 11 + 14 + 15 + 23 + 12 + 5 + 4 + 7 + 5 = 96 % เท่านั้น แต่ A + T + T + I +T + U + D + E 1 + 20 + 20 + 9 + 20 + 21 + 4 + 5 = 100 % ดังนั้นบุคคลที่มีทัศนคติที่ดี จะเป็นผู้ชนะตลอดกาล

3. จุดประสงค์หลักของการทำงาน 1. ให้มีรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว 2. เพื่อแสดงความสามารถในการทำงานนั้น ๆ ให้บรรลุความสำเร็จ " หากเราทำงานที่มีค่า และทำงานด้วยการเห็นคุณค่าของ งานจะส่งผลให้ทำงานอย่างมีความสุข และผลิตผลที่ได้ จากการทำงานนั้นจะเกิดตามมามากมาย"

4. หลักการทำงาน ต้องมีความรู้สึกอยากทำงาน ต้องมีความรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ในฐานะที่เรา เป็น พนักงาน หรือเป็นคนทำงาน เราจะทำงานในชีวิตประจำวันได้ดีเพียงใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจว่าเรารักที่จะทำงาน รักในบริษัท ฯ มากน้อยแค่ไหน

5. สิ่งสำคัญของการทำงาน จิตใจ มีความคิด มีความรู้ มีความสามารถ

6. การทำงานให้ประสบผลสำเร็จ ต้องเป็นนายตัวเอง เห็นความสำคัญของงาน เชื่อมั่น เคารพซึ่งกันและกัน ต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดใหม่ๆ ต้องสนุกกับงาน ต้องคิดว่างานนั้นคือของบริษัทเราเอง ขยัน อดทน และซื่อสัตย์

7. คุณภาพงานที่ทำต้องดีทุกคนยอมรับ ต้องมีเหตุผล ขยัน อดทน ต้องรู้จักเพื่อนร่วมงาน ร่วมมือประสานงานปรึกษาหารือกัน ต้องรู้จักลักษณะของงาน ต้องรู้จักประเมินผลงาน ต้องรู้จักตั้งความหวังในการทำงาน

8. การสร้างความสำเร็จ ในชีวิตการงาน

9. ความสำเร็จในการงาน และชีวิต หมายถึง กา ร ที่มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข มีความมั่นคง ก้าวหน้าในการงานตามเวลา และสถานภาพอันเหมาะสม

10. องค์ประกอบของความสำเร็จในชีวิตการงาน มีความสามารถ และเก่งในงาน รู้งาน รู้ตำแหน่งหน้าที่ มีความรับผิดชอบ รู้วิธีปฏิบัติงาน มีความขยัน อดทน พัฒนาตนเอง

11. 2. มีความสามารถ และเก่งในเรื่องคน รู้จักตนเอง เข้าใจคนอื่น ยอมรับความแตกต่าง ของคน เข้าใจการสื่อข้อ ความ

12. 3. มีความสามารถ และเก่งในการใช้ความคิด ควบคุมอารมณ์ได้ คิดอย่างมีเหตุผล คิดโดยยอมรับความจริง คิดอย่างเป็นระบบ

13. 4. มีความสามารถ และเก่งในการดำรงชีวิต ประหยัด อดออม ควบคุมความประพฤติปฏิบัติของตนเอง ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ น่าไว้ใจ จัดเวลาให้ตนเองได้อย่างเหมาะสม

14. คุณสมบัติของคนยุคใหม่ ภาวะผู้นำ อัจฉริยะภาพสูง - รอบรู้ / รู้รอบ เก่งให้จริง รู้ให้เท่า / รู้ให้ทัน วิสัยทัศน์ มองไกล ก้าวไปอย่างมีทิศทางที่ถูกต้อง เข้าใจเชิงระบบ และเรียนรู้ร่วมกัน สร้างสินค้า และหาตลาด บริหารให้มีกำไร สานประโยชน์ สร้างเครือข่าย มีวินัย ยึดถือกฎระเบียบ ยึดหยุ่นได้ตามกาลเทศะ

15. วัตถุประสงค์ขององค์กร ( บริษัท ) ผลผลิตตามเป้าหมาย ผลผลิตมีคุณภาพ ลดต้นทุน – ลดความสูญเสีย กำไร

16. ความปรารถนาของนายจ้างจากลูกจ้าง 1. การทำงานเต็มเวลา 2. การทำงานเต็มประสิทธิภาพ 3. การทำงานตามคำสั่ง 4. การรักษาผลประโยชน์ของนายจ้าง 5. ความสามัคคีระหว่างผู้ปฏิบัติงาน 6. ความจงรักภักดี 7. ความเคารพ และยอมรับนับถือ 8. ความซื่อสัตย์สุจริต ความอุสาห และขยันขันแข็ง 10. ความคิดสร้างสรรค์ และเอาใจใส่พัฒนาตนเอง

17. ประเภทของพนักงาน ประเภทไฟแรง งานดี ประเภทไฟไม่แรง แต่งานดี ประเภทไฟแรง แต่งานไม่ดี ประเภทไฟไม่แรง งานไม่ดี

18. “ เซ็งวันจันทร์ รักวันศุกร์ สนุกวันเสาร์ เริ่มเหงาวันอาทิตย์แล้วกลับมาเซ็งอีกทีในวันจันทร์ ” พนักงานที่จะมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ดี จะต้องตรวจสอบตัวเราเองว่าจัดอยู่ในประเภทใด เราต้องรีบแก้ไขจุดอ่อนของเรา และพัฒนาเสริมสร้างจุดดี ให้เกิดขึ้น เพื่อความสำเร็จในการทำงาน

19. พนักงานดีเด่น ทำงานแบบเฮงซวย ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำการงานชอบเลี่ยง ส่งเสียงชวนคุย ทำชุ่ยอยู่เสมอ ชอบเผลอนอนหลับ มักกลับก่อนเวลา มาสายตลอดปี ธุระมีตลอดวัน หน้าด้านเอาเงินเดือน ใครเตือนก็ไม่ฟัง ซ้ำนั่งไม่ติดที่ งานมีทำไม่สำเร็จ บำเหน็จก็จะเอา หน้าเง้าเมื่อไม่ได้

20. วินัย และ คุณธรรมในการทำงาน การที่เราจะรักบริษัท ฯ ของเรา รักในงานที่เราทำได้นั้น เราจะต้องมีความรู้สึกว่า เรามีความสุข และสนุกกับงานที่ทำ และที่สำคัญต้องมีวินัย และคุณธรรมในการทำงานด้วยคือ ต้องมีความซื่อสัตย์ ทั้งต่อตัวเอง และบริษัท ฯ บุคคลที่มีความซื่อสัตย์จะได้รับการยอมรับความเชื่อถือจากผู้บังคับบัญชา และได้ความรักจากเพื่อนร่วมงาน ผลคือจะได้รับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความรับผิดชอบ ไม่ละทิ้งงาน และทำงานจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดูแลและอาใจใส่มีความรอบคอบในการทำงาน มีระเบียบวินัย ดูแล และให้คำปรึกษาแก่ผู้บังคับบัญชา

21. 3. มีความเสียสละ ต้องเสียสละเวลาให้กับการทำงาน ไม่เห็นแก่ตัว 4. มีความอดทน ต้องมีความอดกลั้น ใจคอหนักแน่นใช้สติปัญญาในการแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ อดทนต่อความยากลำบากในการทำงานต้องยอมรับการถูกตำหนิ หรือต่อว่าในกรณีเกิดความผิดพลาด 5. ตรงต่อเวลา ทำงานให้บรรลุผลสำเร็จตามกำหนดเวลา ทั้งเวลาเข้างาน ขณะทำงาน หลังทำงาน หรือการนัดหมายต่าง ๆ

22. การสร้างทัศนคติที่ดี การที่พนักงานจะมีความรักต่อองค์กร และมีความก้าวหน้าที่การงานของตัวเองได้นั้นจะต้องมีทัศนคติที่ดีทั้งต่อบริษัท และต่อผู้บังคับบัญชารวมทั้งต้องมีความตั้งใจในการทำงาน

23. ทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำงาน ทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับตนเอง ทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับงานของตน ทัศนคติที่ดีต่อลูกค้า

24. ทัศนคติต่อตนเอง ตรงต่อเวลา ทำงานให้คุ้มค่าจ้าง ทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่ รับผิดชอบงานจนสำเร็จ

25. ทัศนคติต่อบริษัทฯ ปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติของบริษัทฯ รักษาผลประโยชน์ และชื่อเสียงของบริษัทฯ เป็นมิตร และเป็นกันเองกับทุกคน

26. ทัศนคติต่อหัวหน้างาน ต้องรู้ใจและเข้าใจผู้บังคับบัญชา ซื่อสัตย์ต่อผู้บังคับบัญชา กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบในหน้าที่ ให้ความเคารพนับถือ

27. จิตสำนึกในการทำงาน การปลูกจิตสำนึก ต้องกระตุ้นเตือนตนเองให้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ โดย พิจารณาตนเอง คือสำรวจความบกพร่องของตนเองก่อน เช่น การมาสาย ไม่อดทนในการทำงาน หรือขาดงานบ่อย ฯลฯ หาสาเหตุ ว่าข้อบกพร่องของตนเองนั้นสาเหตุมาจากอะไร ขาดงานบ่อยเพราะสุขภาพ ความอดทนในการทำงาน ให้นึกถึงอนาคตของครอบครัว ความตั้งใจ เพื่อต้องการความก้าวหน้าของตนเอง

28. 3. หาทางแก้ไข เช่น - มาทำงานให้ทันเวลา - ใช้เวลาทำงานอย่างเต็มเวลา - รับผิดชอบเพื่อให้งานสำเร็จ - ดูแล เป็นหูเป็นตาเพื่อป้องกันการทุจริต 4. พิจารณาประเมินตนเอง ดูว่าการแก้ไขนั้นทำให้การทำงานดีขึ้นหรือไม่ หัวหน้างานพอใจหรือไม่ งานเสร็จทันกำหนดเวลา หรือไม่ ยอมรับการตักเตือนของหัวหน้า

29. การทำงานเป็นทีม ความสำเร็จของงานต้องได้รับความร่วมมือ และยอมรับจากหลาย ๆ ฝ่าย คนที่ทำงานประสบความสำเร็จต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม การสร้างทีมที่ดีต้องมีหลักการทำงานร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน หากเราไม่ได้รับการยอมรับ การยอมรับจากผู้อื่นย่อมเป็นเรื่องยาก ต่อการก้าวไปสู่เป้าหมายได้ ทุกคนทำงานต้องมีเพื่อน ไม่มีใครทำงานโดยปราศจากเพื่อน เพื่อนฝูงจะมีส่วนสำคัญต่อการทำงาน และความสำเร็จ

30. หลักการทำงานร่วมกับผู้อื่น พัฒนาลักษณะนิสัยที่ดี รับผิดชอบต่อตนเอง รู้จักกาละเทศะ และคำวิจารณ์ มีความคิดริเริ่ม ควบคุมอารมณ์ได้ดี มีสติ ความจำดี ยอมรับในตัวเอง ปรับตัวเก่ง

31. สิ่งที่เพื่อนร่วมงานต้องการ ความร่วมมือ ความซื่อสัตย์ต่อกลุ่ม ความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักถ่อมตน มีจิตสำนึกในการทำงาน มีจิตใจที่เปิดกว้าง

32. การสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการจูงใจคนให้ร่วมมือกันทำงาน โดยมีความพอใจของแต่ละคนเป็นพื้นฐาน จะต้องมีทั้งมนุษย์ สัมพันธ์ ภายในและภายนอกบริษัท งานถึงจะประสบผลสำเร็จสูงสุด

33. เทคนิคในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ต้องเข้าใจตนเองและผู้อื่น มีทักษะในการติดต่อสื่อสาร เข้าใจในบทบาทหน้าที่และลักษณะงานของงานที่รับผิดชอบ

34. ลักษณะของผู้ทีมีนุษยสัมพันธ์ที่ดี ต้องรู้จักทักทาย ไม่ยกตนข่มท่าน พูดจาดี รู้จักการกล่าวขอบคุณ ขอโทษ ฯลฯ ต้องพยายามจำชื่อให้ได้ และจำเรื่องที่เขาพูดถึงบ่อยๆ เพื่อจะได้มีเรื่องในการสนทนา ยกย่อง ชมเชย หาส่วนที่ดีมาพูด มีมารยาทดี การวางตัวในสังคมดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

35. สิ่งที่จำเป็น และสำคัญสำหรับการทำงานในแต่ละวันอีก คือ ในการทำงานในแต่ละวัน ไม่ใช่เราทำไปวัน ๆ ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่คำนึงถึงงาน ว่าจะมีปัญหาหรือไม่อย่างไร เมื่อเราทำงาน เราต้องมีผู้บังคับบัญชา งานทุกงานของเราต้องได้รับคำสั่งจากหัวหน้างาน และต้องมีขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่พนักงานทุกคนควรจะต้องใช้ตลอดการทำงานคือ หลักการทำงานแบบ โฮ (HO) เรน (REN) โซ (SOU) หลักการทำงานแบบ โฮ (HO) เรน (REN) โซ (SOU)

36. HO – HOUKOKU = REPORT = การรายงาน REN – RENRAKU = INFORMATION = การติดต่อประสานงาน โฮ - เรน - โซ คืออะไร SO – SOUDAN = CONSULTATION = การปรึกษาหารือ ดังนั้น โฮ - เรน - โซ หมายถึง การรายงาน - การติดต่อ - การปรึกษา

37. การรายงาน (HO) หมายถึง การแจ้งข้อมูลข่าวสาร หรือสถาน การณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานให้หัวหน้าได้ทราบ ไม่ว่าผลงานนั้น จะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม การรายงานจะช่วยในการแก้ไขปรับปรุงงานไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา

38. การติดต่อประสานงาน (REN) หมายถึง การพบปะพูดคุยในเรื่องของงาน ข้อมูลในงาน ความเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้น ข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน ทั้งภายในและภายนอกบริษัท ซึ่งข้อมูลนั้นๆ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน

39. การปรึกษาหารือ (SOU) หมายถึง การที่ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในปัญหาที่เกิดขึ้นจากงาน มีการอธิบาย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อหาจุดของปัญหา และช่วยกันแก้ไขปัญหานั้นๆ

40. ความสำคัญของการรายงาน-การติดต่อ-การปรึกษา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยลดความสูญเสีย

41. เราจะใช้เมื่อใด เมื่อทำงานเสร็จ การรายงานความคืบหน้า เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน เมื่องานเกิดปัญหา เมื่อมีข้อผิดพลาด เมื่อมีสิ่งผิดปกติ เมื่อได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์

42. ข้อควรระวัง ในเรื่องของความถูกต้อง สั้นๆ ได้ใจความ กระชับ ต้องรวดเร็ว ต้องเช็คข้อมูลนั้นให้แน่ใจก่อนเสมอ

43. "คนที่จะทำงานได้ดีและเก่ง จะต้องคอยตรวจสอบและ ปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง" ถูกต้อง รวดเร็ว กระชับได้ใจความ และชัวว์

44. พลังกาย และพลังใจที่เข็มแข็ง เป็นแรงส่งให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ พลังใจ เป็นเหมือนเชื้อเพลิงผลักดันให้ร่างกายทำสิ่งต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ พลังกาย เป็นยานพาหนะที่นำไปสู่ความสำเร็จ เราจึงต้องคอยสำรวจตรวจเช็คอยู่เสมอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

45. คาถากันเจ้านายเกลียด ทำ งานให้ได้ตามเจ้านายสอน งาน มาก่อนเรื่องส่วนตัวไม่มัวหมอง ให้ ความรักนับถือ ซื่อสัตย์ครอง เป็น ที่ ต้องใจมิตร ใกล้ชิดกัน ไว้ วางใจใบหน้าอย่าเย่อหยิ่ง ใจ รักจริงงานที่ทำพร่ำขยัน ได้ ผลงานได้วิธี ทุกวี่วัน จริง ใจกันอย่าระแวง แกล้งทำลาย ไม่ ทำตนเป็นคนน้ำปริ่มแก้ว ละ ความเป็นผู้รู้โลกทั้งหลาย ทิ้ง โมหะ สะสาง สร้างใจ กาย นาย เข้าใจ ใกล้ชิด ไม่บิดเบียน

46. ข้อเตือนใจในการทำงาน สำนึกในหน่วยงาน ปฏิบัติงานอย่างจริงจัง จิตมุ่งมั่นความริเริ่ม อย่าเหิมเกริมวิจารณ์นาย ตั้งจิตใจถือความสัตย์ 6. จงยืนหยัดการคบเพื่อน 7. ไม่เลอะเลือนเสมอต้นเสมอปลาย 8. อย่ามองไกลมองตัวเรา 9. หมั่นเรียนเอาความรู้รอบ 10. รับผิดชอบมองไว้เอย

47. สรุปความคิดของท่าน ... คุณคิดว่าคุณจะทำอะไรให้องค์กรบ้าง ? ……………………………………… . มาสายให้น้อยลง ทำงานให้มากขึ้น และดีกว่าที่เป็นอยู่ที่คิดว่า “ ดีที่สุด ” ............................................................