SlideShare a Scribd company logo
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ผลเสียของการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ เลขที่ 16 ชั้น ม.6 ห้อง 11
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
2
สมาชิกในกลุ่ม
1นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ เลขที่ 16
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ผลเสียของการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-Bad effects from computer
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 ภาคเรียน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
โครงงานนี้จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้ทราบและได้รับความรู้เกี่ยวกับผลเสียของการที่เราจ้องคอมพิวเตอร์นาน
เกินไป ซึ่งการที่เราจะเล่นคอมพิวเตอร์นั้นก็ต้องมีขอบเขตของการเล่นคอมพิวเตอร์ด้วยเช่น การแบ่งเวลาในการเล่น
ให้เหมาะสมและถูกต้อง การไม่เอาหน้าเข้าไปจ้องคอมพิวเตอร์มากเกินไป ควรมองให้ห่างในระยะที่พอดี เป็นต้น ถ้า
หากเราเล่นหรือใช้คอมพิวเตอร์อย่างผิดวิธี จะมีผลต่อสุขภาพและร่างกายของเราโดยอาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ตามมาได้ และโครงงานนี้ยังได้รวบรวมความรู้ในการป้องกันและรักษาอาการต่างๆที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์
นานๆอีกด้วย
วัตถุประสงค์
1. ต้องการให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงภัยจากคอมพิวเตอร์
2. บอกผลดีและผลเสียจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน
3. บอกแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี
4. บอกอาการที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป
5. แนวทางการป้องกันและรักษาสุขภาพของตนเองในการใช้คอมพิวเตอร์ย่างเหมาะสม
ขอบเขตโครงงาน
กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
3
หลักการและทฤษฎี
โรคที่มากับคอมพิวเตอร์ในที่นี้ไม่ใช่ “ไวรัสคอมพิวเตอร์” หรือ “โปรแกรมตัวหนอน” ซึ่งเป็นบ่อนทาลายข้อมูลใน
คอมพิวเตอร์ แต่หมายถึงความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทางานเกือบทุกอย่าง รวมทั้งใช้เพื่อความเพลิดเพลิน การศึกษาและการติดต่อสื่อสาร
ต่างๆ ในอนาคตคอมพิวเตอร์จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจาวันจนแทบขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่มี
ประโยชน์มากก็อาจมีโทษมหันต์ ในแง่สุขภาพของเราการใช้คอมพิวเตอร์อาจมีพิษภัยต่อสุขภาพได้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่ง
ความเจ็บป่วยที่ว่าอาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยเกิดขึ้นได้กับอวัยวะต่างๆ และทาให้เกิดโรค
ได้
1.ตา ในขณะที่จ้องดูจอคอมพิวเตอร์จะมีส่วนของนัยน์ตาอย่างน้อย 2 ส่วนที่ต้องทางานส่วนแรกคือ กล้ามเนื้อตาที่
จะต้องคอยหดเกร็งตัวเพื่อปรับเลนส์ตาให้มีความหนาเหมาะสมให้แสงจากจอไปตกบนฉากรับภาพด้านหลังตาหรือที่
เรียกว่า เรตินา (retina) เพื่อให้ได้ภาพคมชัด ดังนั้น ถ้าดูจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันนานๆ กล้ามเนื้อตาจะต้องทางาน
หนักจนกล้ามเนื้ออาจเกิดอาการล้าได้นานวันก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของสายตา เช่น สายตาสั้นหรือสายตายาว
อีกส่วนที่ต้องทางานหนักคือ จอรับภาพด้านหลังตาหรือเรตินา ซึ่งประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นแท่ง
ทาหน้าที่รับแสงไม่สว่างมากเช่น ภาพดาขาว อีกชนิดหนึ่งเป็นรูปโคนรับแสงที่สว่าง เช่น ภาพสีต่างๆ แล้วส่งสัญญาณ
ไปยังสมอง สองส่วนนี้ หากใช้งานหนักหรือจ้องจอนานเกิน 2 ชั่วโมงบ่อยๆ อาจทาให้การทางานของเรตินาเสื่อมก่อน
เวลาอันควร ดังนั้น การใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องจึงไม่ควรใช้สายตาดูหน้าจอนานเกินไป และควรมีการพักสายตา โดย
การเปลี่ยนไปมองระยะไกลๆ บ้างสัก 10-15 นาที จึงค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ใหม่
2.สมอง ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ อาจเกิดอาการมึนหรือปวดศีรษะได้ แต่บางครั้งอาจไม่รู้ตัวเนื่องจากทางานเพลิน
ทาให้อาการเตือนของสมองไม่ว่าจะเป็นอาการมึนหรือปวดศีรษะไม่ได้รับการรับรู้และอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสมองใน
ภายหลัง ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรใช้สมองทางานกับเครื่องคอมพิวเตอร์
ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานเกินไป
3.คอ การใช้งานคอมพิวเตอร์โดยการนั่งมองจอต่อเนื่องกันนานๆ ศีรษะจะอยู่ในตาแหน่งและมุมเดิมเป็นเวลานาน คอ
ซึ่งเป็นอวัยวะที่ตั้งของศีรษะก็จะอยู่นิ่งๆ กล้ามเนื้อของคอต้องเกร็งตัวเพื่อรักษาท่าและตาแหน่งของศีรษะเป็น
เวลานานโดยที่เราไม่รู้ตัว และจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีอาการปวดเมื่อยคอ คอตึงจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อคอ หากมีการ
ใช้งานลักษณะนี้หลายปีโดยไม่มีการบริหารคอที่เหมาะสม อาจทาให้กระดูกคอเสื่อมก่อนเวลาอันควร ดังนั้น จึงควร
ขยับศีรษะและคอไปมา ขยับกล้ามเนื้อคอหรือหมุนศีรษะไปมาขณะทางานกับเครื่องคอมพิวเตอร์จะช่วยให้อาการปวด
เมื่อยคอหรือโอกาสเกิดกระดูกคอเสื่อมน้อยลง
4.ปวดไหล่ สาหรับท่านที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ชนิดพกพา โดยส่วนมากจะใส่เครื่อง
คอมพิวเตอร์ในกระเป๋าที่สามารถถือหรือสะพายไหล่ได้ ซึ่งแต่ละเครื่องก็มีขนาดและน้าหนักต่างกัน ตั้งแต่เครื่องเล็ก
น้าหนักเบาประมาณ 1 กิโลกรัม จนถึงเครื่องค่อนข้างใหญ่น้าหนักมากถึง 4 กิโลกรัม ซึ่งถ้าพกพาโดยการสะพายไหล่
เป็นเวลานานอาจทาให้ปวดไหล่เพราะกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณไหล่อักเสบ รวมถึงกล้ามเนื้อหลังที่ต้องเกร็งตัว
ตลอดเวลาด้วย วิธีที่ช่วยได้คือการเปลี่ยนมาเป็นใส่ในกระเป๋าที่มีล้อลากหรือพยายามลดให้น้าหนักเบาลงด้วยใช้เครื่อง
ที่มีน้าหนักเบาหรือนาของไปด้วยเท่าที่จาเป็นก็อาจช่วยหลีกเลี่ยงการอักเสบของไหล่ได้ระดับหนึ่ง
5.ปวดหลัง หลายท่านที่นั่งทางานกับคอมพิวเตอร์นานๆ จะรู้สึกปวดหลัง ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทั้งนี้ เนื่องจากการ
นั่งในท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับเปลี่ยนท่า กล้ามเนื้อหลังตั้งแต่บ่า สะบักและกล้ามเนื้อ 2 ข้างของกระดูกสัน
หลังจะมีการหดเกร็งตัวเพื่อรักษาร่างกายให้อยู่ท่าเดิมตลอดเวลา โดยปกติเวลาเรานั่งท่าเดิมระยะหนึ่งจะรู้สึกปวด
เมื่อย แล้วเราก็มักจะขยับเปลี่ยนท่าเอง แต่ระหว่างการใช้คอมพิวเตอร์ เรามักจะให้ความสนใจหรือมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่
ในจอจนละเลยความรู้สึกปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อหลังจนลืมเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกาย กว่าจะรู้ตัว กล้ามเนื้อหลังซึ่ง
มีการเกร็งตัวเป็นเวลานานจะรู้สึกปวดมาก การแก้ไขคือพยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ในระหว่างการทางานกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์
4
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าแม้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สมัยใหม่ที่ประกอบไปด้วยหน้าจอจะมีประโยชน์มาก
และกาลังกลายเป็นสิ่งจาเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจาวัน แต่โทษของการใช้งานมากเกินไปโดยไม่ระมัดระวังก็อาจ
ก่อให้เกิดโทษมหันต์ในสัปดาห์หน้าเราจะกลับมาว่ากันต่อว่ามีอวัยวะส่วนใดอีกที่จะได้รับผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์
สารพัดประโยชน์นี้นานๆ
การใช้คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นสิ่งปกติของคนจานวนมากไปแล้ว ไม่ว่าจะในรูปแบบของเดสก์ทอปหรือแล็ปท็อป
งานประจาวันส่วนใหญ่ทาบนคอมพิวเตอร์และส่วนมากเวลาของเราถูกใช้ไปกับการมองภาพที่หน้าจอ และยังรวมถึง
การใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และเนื่องจากการสัมผัสกับหน้าจอเหล่านี้เป็นเวลานานเราจึงมีความเสี่ยงต่อปัญหา
สายตามากขึ้นและปัญหาเกี่ยวกับสายตาเหล่านี้เรียกว่า Computer Vision Syndrome การป้องกันปัญหาสุขภาพใน
เรื่องนี้เป็นสิ่งสาคัญ ซึ่งสามารถทาได้โดยวิธีต่อไปนี้
ไปทดสอบสายตาและตรวจสุขภาพ : ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเมื่อคุณสังเกตเห็นว่าตัวเองมีน้าตาไหลบ่อยๆ ปวด
ศีรษะและตาพร่ามัว แจ้งหมอที่ทาการตรวจเกี่ยวกับเวลาที่คุณใช้ไปบนหน้าจอทั้งที่บ้านและที่ทางาน
ออกกาลังกายให้ดวงตา : คนที่ใช้คอมพิวเตอร์มีโอกาสสูงที่จะมีสายตาเบลอหรือเกิดการระคายเคืองในดวงตา ฝึกการ
ออกกาลังกายแบบเรียบง่ายเช่นกระพริบซ้า ๆ กลิ้งตาไปมา และมองไปที่วัตถุที่ห่างไกลเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายตาที่
เกิดขึ้นเนื่องจากการสัมผัสกับหน้าจอดิจิตอลเป็นเวลานาน
หยุดพักทุกๆ 20 นาที : หลีกเลี่ยงการทางานด้วยการมองไปที่หน้าจอเป็นเวลานาน หยุดพัก 20 วินาทีหลังจากผ่านไป
ทุกๆ 20 นาที ถ้าคุณต้องทางานเป็นเวลานาน เพื่อจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงโรคเกี่ยวกับสายตาได้ในระดับหนึ่ง
ให้แน่ใจว่าคุณนั่งอยู่ในแสงที่ดีในการทางาน : เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดของสายตา แสงที่ดีจึงมีความสาคัญมาก ใน
การนั่งทางานจึงมีควรแสงสว่างในระดับที่พอดีไม่มืดหรือจ้ามากเกินไป
ลดเวลาที่คุณใช้จ่ายไปกับหน้าจอ : คุณสามารถลดการใช้สายตาได้ด้วยการตัดเวลาที่คุณใช้ไปบนหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ
หลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนของคุณเมื่อไปที่เตียงเพื่อจะนอน หลีกเลี่ยงการจ้องมองที่หน้าจอในที่มืดเท่าที่จะเป็นไปได้
ให้ใช้เวลาบนหน้าจอเพื่อการทางานเท่านั้น
จัดเรียงคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าจอแล็ปท็อป / เดสก์ท็อปมีระดับต่ากว่า
ระดับสายตาเล็กน้อยถ้าและหน้าจอห่างจากใบหน้าประมาณ 20-28 นิ้ว
สวมแว่นตาป้องกันแสงสะท้อนและปรับการตั้งค่าหน้าจอของคุณ : คุณรู้ว่าในท้องตลาดมีแว่นตาคอมพิวเตอร์ที่
ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อลดความเมื่อยล้าตา ปวดตา ปวดศีรษะ ใช้แก้วเช่นซึ่งจะช่วยให้การทางานอย่างต่อเนื่องได้ดี
แว่นตาเหล่านี้กรองแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากแท็บเล็ต เดสก์ท็อป แล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน รวมทั้งปรับความสว่าง
หน้าจอ ขนาดตัวอักษรและความคมชัดจนกว่าคุณจะพบการตั้งค่าที่ดีที่สุดสาหรับคุณ
ทั้งหมดนี้คือการดูแลสุขภาพสายตาของคนในยุคใหม่อย่าง Computer Vision Syndrome เพื่อป้องกันปัญหาสายตา
ที่เกิดขึ้นได้หากใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-รวบรวมและสารวจข้อมูล พิจารณาและเรียบเรียงข้อมูล นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-200 บาท
5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ผู้ที่ได้อ่านโครงงานของข้าพเจ้าแล้วได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับภัยที่มาพร้อมกับการใช้คอมพิวเตอร์ และ
วิธีการป้องกัน โดยข้าพเจ้ามีความคาดหวังว่าผู้ที่เข้ามาอ่านโครงงานจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยจากโครงงานของ
ข้าพเจ้าและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
คอมพิวเตอร์ สุขศึกษา วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://www.poinsettcountyfair.com/วิธีป้องกันสายตาเสีย/
https://www.thairath.co.th/content/399914

More Related Content

What's hot

2560 project 20
2560 project 202560 project 20
2560 project 20
Nink Siriluk
 
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
Nuttida Meepo
 
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
KTPH2348
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
aomchowder
 
2562-final-project_17
2562-final-project_172562-final-project_17
2562-final-project_17
ssusera79710
 
น้องหมา
น้องหมาน้องหมา
น้องหมา
Tangmo Kanokpit
 
2562 final-project 30
2562 final-project 302562 final-project 30
2562 final-project 30
teerathai
 
Project มหัศจรรย์โลมา
Project มหัศจรรย์โลมาProject มหัศจรรย์โลมา
Project มหัศจรรย์โลมา
mind jirapan
 
2562 final-project -m
2562 final-project -m2562 final-project -m
2562 final-project -m
Likhasiri
 
2562 final-project (1)
2562 final-project  (1)2562 final-project  (1)
2562 final-project (1)
ssuser6e9093
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
thunniti
 
2562 final-project 1
2562 final-project 12562 final-project 1
2562 final-project 1
NuntarikarUtsar
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1
achirayaRchi
 
แบบร่างโครงงานคอม
แบบร่างโครงงานคอมแบบร่างโครงงานคอม
แบบร่างโครงงานคอม
ภูมิพัฒน์ ใจคำลือ
 
2562 final-project 46-609_chitsanupa
2562 final-project 46-609_chitsanupa2562 final-project 46-609_chitsanupa
2562 final-project 46-609_chitsanupa
SaiparnChitsanupa
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
isaka123
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
Pansa Suwannayot
 

What's hot (19)

2560 project 20
2560 project 202560 project 20
2560 project 20
 
At1
At1At1
At1
 
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
เครื่องบินที่บินไวกว่าเสียง1
 
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
 
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอมแบบเสนอโครงร่างงานคอม
แบบเสนอโครงร่างงานคอม
 
2562-final-project_17
2562-final-project_172562-final-project_17
2562-final-project_17
 
น้องหมา
น้องหมาน้องหมา
น้องหมา
 
607_07
607_07607_07
607_07
 
2562 final-project 30
2562 final-project 302562 final-project 30
2562 final-project 30
 
Project มหัศจรรย์โลมา
Project มหัศจรรย์โลมาProject มหัศจรรย์โลมา
Project มหัศจรรย์โลมา
 
2562 final-project -m
2562 final-project -m2562 final-project -m
2562 final-project -m
 
2562 final-project (1)
2562 final-project  (1)2562 final-project  (1)
2562 final-project (1)
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
 
2562 final-project 1
2562 final-project 12562 final-project 1
2562 final-project 1
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1
 
แบบร่างโครงงานคอม
แบบร่างโครงงานคอมแบบร่างโครงงานคอม
แบบร่างโครงงานคอม
 
2562 final-project 46-609_chitsanupa
2562 final-project 46-609_chitsanupa2562 final-project 46-609_chitsanupa
2562 final-project 46-609_chitsanupa
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
 

Similar to 2562 final-project

2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
TeerapatSrilom
 
2562 final-project 02
2562 final-project 022562 final-project 02
2562 final-project 02
pattarawutkuhamanee
 
work 1 fix
work 1 fixwork 1 fix
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
pattarawutkuhamanee
 
2562 final-project 612-33
2562 final-project 612-332562 final-project 612-33
2562 final-project 612-33
fauunutcha
 
Influenza
 Influenza Influenza
Influenza
Nutvipa
 
2562 final-project-615-33
2562 final-project-615-332562 final-project-615-33
2562 final-project-615-33
ssusere69edb
 
at1
at1at1
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
Piyarat Kuljittipruet
 
Tinnitus
TinnitusTinnitus
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
KrataeBenjarat
 
2560 project -3
2560 project -32560 project -3
2560 project -3
Nattarika Pijan
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
Dduang07
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
Oui Sudalak
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
Oui Sudalak
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
Oui Sudalak
 
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
KorntawatSuwanwong
 
2562 final-project 27
2562 final-project  272562 final-project  27
2562 final-project 27
lapasradatechata
 
2559 project2
2559 project22559 project2
2559 project2
Pitakpong Raisara
 

Similar to 2562 final-project (20)

2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project 02
2562 final-project 022562 final-project 02
2562 final-project 02
 
work 1 fix
work 1 fixwork 1 fix
work 1 fix
 
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project 612-33
2562 final-project 612-332562 final-project 612-33
2562 final-project 612-33
 
Influenza
 Influenza Influenza
Influenza
 
2562 final-project-615-33
2562 final-project-615-332562 final-project-615-33
2562 final-project-615-33
 
at1
at1at1
at1
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
Tinnitus
TinnitusTinnitus
Tinnitus
 
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2560 project -3
2560 project -32560 project -3
2560 project -3
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1
 
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
 
Alopecia
AlopeciaAlopecia
Alopecia
 
2562 final-project 27
2562 final-project  272562 final-project  27
2562 final-project 27
 
2559 project2
2559 project22559 project2
2559 project2
 

2562 final-project

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน ผลเสียของการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ เลขที่ 16 ชั้น ม.6 ห้อง 11 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 2. 2 สมาชิกในกลุ่ม 1นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ เลขที่ 16 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ผลเสียของการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) -Bad effects from computer ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวนภัสชา ชุ่มใจ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม ระยะเวลาดาเนินงาน 1 ภาคเรียน ที่มาและความสาคัญของโครงงาน โครงงานนี้จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้ทราบและได้รับความรู้เกี่ยวกับผลเสียของการที่เราจ้องคอมพิวเตอร์นาน เกินไป ซึ่งการที่เราจะเล่นคอมพิวเตอร์นั้นก็ต้องมีขอบเขตของการเล่นคอมพิวเตอร์ด้วยเช่น การแบ่งเวลาในการเล่น ให้เหมาะสมและถูกต้อง การไม่เอาหน้าเข้าไปจ้องคอมพิวเตอร์มากเกินไป ควรมองให้ห่างในระยะที่พอดี เป็นต้น ถ้า หากเราเล่นหรือใช้คอมพิวเตอร์อย่างผิดวิธี จะมีผลต่อสุขภาพและร่างกายของเราโดยอาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมาได้ และโครงงานนี้ยังได้รวบรวมความรู้ในการป้องกันและรักษาอาการต่างๆที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์ นานๆอีกด้วย วัตถุประสงค์ 1. ต้องการให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงภัยจากคอมพิวเตอร์ 2. บอกผลดีและผลเสียจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน 3. บอกแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี 4. บอกอาการที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป 5. แนวทางการป้องกันและรักษาสุขภาพของตนเองในการใช้คอมพิวเตอร์ย่างเหมาะสม ขอบเขตโครงงาน กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  • 3. 3 หลักการและทฤษฎี โรคที่มากับคอมพิวเตอร์ในที่นี้ไม่ใช่ “ไวรัสคอมพิวเตอร์” หรือ “โปรแกรมตัวหนอน” ซึ่งเป็นบ่อนทาลายข้อมูลใน คอมพิวเตอร์ แต่หมายถึงความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทางานเกือบทุกอย่าง รวมทั้งใช้เพื่อความเพลิดเพลิน การศึกษาและการติดต่อสื่อสาร ต่างๆ ในอนาคตคอมพิวเตอร์จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจาวันจนแทบขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่มี ประโยชน์มากก็อาจมีโทษมหันต์ ในแง่สุขภาพของเราการใช้คอมพิวเตอร์อาจมีพิษภัยต่อสุขภาพได้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่ง ความเจ็บป่วยที่ว่าอาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยเกิดขึ้นได้กับอวัยวะต่างๆ และทาให้เกิดโรค ได้ 1.ตา ในขณะที่จ้องดูจอคอมพิวเตอร์จะมีส่วนของนัยน์ตาอย่างน้อย 2 ส่วนที่ต้องทางานส่วนแรกคือ กล้ามเนื้อตาที่ จะต้องคอยหดเกร็งตัวเพื่อปรับเลนส์ตาให้มีความหนาเหมาะสมให้แสงจากจอไปตกบนฉากรับภาพด้านหลังตาหรือที่ เรียกว่า เรตินา (retina) เพื่อให้ได้ภาพคมชัด ดังนั้น ถ้าดูจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันนานๆ กล้ามเนื้อตาจะต้องทางาน หนักจนกล้ามเนื้ออาจเกิดอาการล้าได้นานวันก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของสายตา เช่น สายตาสั้นหรือสายตายาว อีกส่วนที่ต้องทางานหนักคือ จอรับภาพด้านหลังตาหรือเรตินา ซึ่งประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นแท่ง ทาหน้าที่รับแสงไม่สว่างมากเช่น ภาพดาขาว อีกชนิดหนึ่งเป็นรูปโคนรับแสงที่สว่าง เช่น ภาพสีต่างๆ แล้วส่งสัญญาณ ไปยังสมอง สองส่วนนี้ หากใช้งานหนักหรือจ้องจอนานเกิน 2 ชั่วโมงบ่อยๆ อาจทาให้การทางานของเรตินาเสื่อมก่อน เวลาอันควร ดังนั้น การใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องจึงไม่ควรใช้สายตาดูหน้าจอนานเกินไป และควรมีการพักสายตา โดย การเปลี่ยนไปมองระยะไกลๆ บ้างสัก 10-15 นาที จึงค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ใหม่ 2.สมอง ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ อาจเกิดอาการมึนหรือปวดศีรษะได้ แต่บางครั้งอาจไม่รู้ตัวเนื่องจากทางานเพลิน ทาให้อาการเตือนของสมองไม่ว่าจะเป็นอาการมึนหรือปวดศีรษะไม่ได้รับการรับรู้และอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสมองใน ภายหลัง ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรใช้สมองทางานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานเกินไป 3.คอ การใช้งานคอมพิวเตอร์โดยการนั่งมองจอต่อเนื่องกันนานๆ ศีรษะจะอยู่ในตาแหน่งและมุมเดิมเป็นเวลานาน คอ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ตั้งของศีรษะก็จะอยู่นิ่งๆ กล้ามเนื้อของคอต้องเกร็งตัวเพื่อรักษาท่าและตาแหน่งของศีรษะเป็น เวลานานโดยที่เราไม่รู้ตัว และจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีอาการปวดเมื่อยคอ คอตึงจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อคอ หากมีการ ใช้งานลักษณะนี้หลายปีโดยไม่มีการบริหารคอที่เหมาะสม อาจทาให้กระดูกคอเสื่อมก่อนเวลาอันควร ดังนั้น จึงควร ขยับศีรษะและคอไปมา ขยับกล้ามเนื้อคอหรือหมุนศีรษะไปมาขณะทางานกับเครื่องคอมพิวเตอร์จะช่วยให้อาการปวด เมื่อยคอหรือโอกาสเกิดกระดูกคอเสื่อมน้อยลง 4.ปวดไหล่ สาหรับท่านที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ชนิดพกพา โดยส่วนมากจะใส่เครื่อง คอมพิวเตอร์ในกระเป๋าที่สามารถถือหรือสะพายไหล่ได้ ซึ่งแต่ละเครื่องก็มีขนาดและน้าหนักต่างกัน ตั้งแต่เครื่องเล็ก น้าหนักเบาประมาณ 1 กิโลกรัม จนถึงเครื่องค่อนข้างใหญ่น้าหนักมากถึง 4 กิโลกรัม ซึ่งถ้าพกพาโดยการสะพายไหล่ เป็นเวลานานอาจทาให้ปวดไหล่เพราะกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณไหล่อักเสบ รวมถึงกล้ามเนื้อหลังที่ต้องเกร็งตัว ตลอดเวลาด้วย วิธีที่ช่วยได้คือการเปลี่ยนมาเป็นใส่ในกระเป๋าที่มีล้อลากหรือพยายามลดให้น้าหนักเบาลงด้วยใช้เครื่อง ที่มีน้าหนักเบาหรือนาของไปด้วยเท่าที่จาเป็นก็อาจช่วยหลีกเลี่ยงการอักเสบของไหล่ได้ระดับหนึ่ง 5.ปวดหลัง หลายท่านที่นั่งทางานกับคอมพิวเตอร์นานๆ จะรู้สึกปวดหลัง ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทั้งนี้ เนื่องจากการ นั่งในท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับเปลี่ยนท่า กล้ามเนื้อหลังตั้งแต่บ่า สะบักและกล้ามเนื้อ 2 ข้างของกระดูกสัน หลังจะมีการหดเกร็งตัวเพื่อรักษาร่างกายให้อยู่ท่าเดิมตลอดเวลา โดยปกติเวลาเรานั่งท่าเดิมระยะหนึ่งจะรู้สึกปวด เมื่อย แล้วเราก็มักจะขยับเปลี่ยนท่าเอง แต่ระหว่างการใช้คอมพิวเตอร์ เรามักจะให้ความสนใจหรือมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ ในจอจนละเลยความรู้สึกปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อหลังจนลืมเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกาย กว่าจะรู้ตัว กล้ามเนื้อหลังซึ่ง มีการเกร็งตัวเป็นเวลานานจะรู้สึกปวดมาก การแก้ไขคือพยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ในระหว่างการทางานกับ เครื่องคอมพิวเตอร์
  • 4. 4 อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าแม้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สมัยใหม่ที่ประกอบไปด้วยหน้าจอจะมีประโยชน์มาก และกาลังกลายเป็นสิ่งจาเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจาวัน แต่โทษของการใช้งานมากเกินไปโดยไม่ระมัดระวังก็อาจ ก่อให้เกิดโทษมหันต์ในสัปดาห์หน้าเราจะกลับมาว่ากันต่อว่ามีอวัยวะส่วนใดอีกที่จะได้รับผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์ สารพัดประโยชน์นี้นานๆ การใช้คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นสิ่งปกติของคนจานวนมากไปแล้ว ไม่ว่าจะในรูปแบบของเดสก์ทอปหรือแล็ปท็อป งานประจาวันส่วนใหญ่ทาบนคอมพิวเตอร์และส่วนมากเวลาของเราถูกใช้ไปกับการมองภาพที่หน้าจอ และยังรวมถึง การใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และเนื่องจากการสัมผัสกับหน้าจอเหล่านี้เป็นเวลานานเราจึงมีความเสี่ยงต่อปัญหา สายตามากขึ้นและปัญหาเกี่ยวกับสายตาเหล่านี้เรียกว่า Computer Vision Syndrome การป้องกันปัญหาสุขภาพใน เรื่องนี้เป็นสิ่งสาคัญ ซึ่งสามารถทาได้โดยวิธีต่อไปนี้ ไปทดสอบสายตาและตรวจสุขภาพ : ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเมื่อคุณสังเกตเห็นว่าตัวเองมีน้าตาไหลบ่อยๆ ปวด ศีรษะและตาพร่ามัว แจ้งหมอที่ทาการตรวจเกี่ยวกับเวลาที่คุณใช้ไปบนหน้าจอทั้งที่บ้านและที่ทางาน ออกกาลังกายให้ดวงตา : คนที่ใช้คอมพิวเตอร์มีโอกาสสูงที่จะมีสายตาเบลอหรือเกิดการระคายเคืองในดวงตา ฝึกการ ออกกาลังกายแบบเรียบง่ายเช่นกระพริบซ้า ๆ กลิ้งตาไปมา และมองไปที่วัตถุที่ห่างไกลเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายตาที่ เกิดขึ้นเนื่องจากการสัมผัสกับหน้าจอดิจิตอลเป็นเวลานาน หยุดพักทุกๆ 20 นาที : หลีกเลี่ยงการทางานด้วยการมองไปที่หน้าจอเป็นเวลานาน หยุดพัก 20 วินาทีหลังจากผ่านไป ทุกๆ 20 นาที ถ้าคุณต้องทางานเป็นเวลานาน เพื่อจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงโรคเกี่ยวกับสายตาได้ในระดับหนึ่ง ให้แน่ใจว่าคุณนั่งอยู่ในแสงที่ดีในการทางาน : เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดของสายตา แสงที่ดีจึงมีความสาคัญมาก ใน การนั่งทางานจึงมีควรแสงสว่างในระดับที่พอดีไม่มืดหรือจ้ามากเกินไป ลดเวลาที่คุณใช้จ่ายไปกับหน้าจอ : คุณสามารถลดการใช้สายตาได้ด้วยการตัดเวลาที่คุณใช้ไปบนหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ หลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนของคุณเมื่อไปที่เตียงเพื่อจะนอน หลีกเลี่ยงการจ้องมองที่หน้าจอในที่มืดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ใช้เวลาบนหน้าจอเพื่อการทางานเท่านั้น จัดเรียงคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าจอแล็ปท็อป / เดสก์ท็อปมีระดับต่ากว่า ระดับสายตาเล็กน้อยถ้าและหน้าจอห่างจากใบหน้าประมาณ 20-28 นิ้ว สวมแว่นตาป้องกันแสงสะท้อนและปรับการตั้งค่าหน้าจอของคุณ : คุณรู้ว่าในท้องตลาดมีแว่นตาคอมพิวเตอร์ที่ ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อลดความเมื่อยล้าตา ปวดตา ปวดศีรษะ ใช้แก้วเช่นซึ่งจะช่วยให้การทางานอย่างต่อเนื่องได้ดี แว่นตาเหล่านี้กรองแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากแท็บเล็ต เดสก์ท็อป แล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน รวมทั้งปรับความสว่าง หน้าจอ ขนาดตัวอักษรและความคมชัดจนกว่าคุณจะพบการตั้งค่าที่ดีที่สุดสาหรับคุณ ทั้งหมดนี้คือการดูแลสุขภาพสายตาของคนในยุคใหม่อย่าง Computer Vision Syndrome เพื่อป้องกันปัญหาสายตา ที่เกิดขึ้นได้หากใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน -รวบรวมและสารวจข้อมูล พิจารณาและเรียบเรียงข้อมูล นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -คอมพิวเตอร์ งบประมาณ -200 บาท
  • 5. 5 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) ผู้ที่ได้อ่านโครงงานของข้าพเจ้าแล้วได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับภัยที่มาพร้อมกับการใช้คอมพิวเตอร์ และ วิธีการป้องกัน โดยข้าพเจ้ามีความคาดหวังว่าผู้ที่เข้ามาอ่านโครงงานจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยจากโครงงานของ ข้าพเจ้าและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง คอมพิวเตอร์ สุขศึกษา วิทยาศาสตร์ แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) https://www.poinsettcountyfair.com/วิธีป้องกันสายตาเสีย/ https://www.thairath.co.th/content/399914