More Related Content
Similar to 2558 project (20)
2558 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน รสนิยมของกาแฟ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว กัณฐิกา อุดมวัฒนาวรกุล เลขที่ 17 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาว กัณฐิกา อุดมวัฒนาวรกุล เลขที่ 17
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) : รสนิยมของกาแฟ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Coffee’s taste
ประเภทโครงงาน : โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นางสาว กัณฐิกา อุดมวัฒนาวรกุล
ชื่อที่ปรึกษา : ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : 30 กันยายน 2558 – 13 ธันวาคม 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันวงการกาแฟกาลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เห็นได้จากร้านกาแฟที่มีจานวน
เพิ่มขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองหรือนอกเมือง ซึ่งแต่ละร้านก็จะตกแต่งให้ดูสวย น่ารัก บรรยากาศดี
เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้ไปใช้บริการ และเนื่องด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทาให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสาหรับลูกค้าบาง
ท่านที่อยากจะไปนั่งดื่มกาแฟ หรือหาสถานที่นั่งทางานสงบๆ แต่ไม่รู้จะไปร้านไหนดี เพียงแค่ค้นหาคาว่า ร้าน
กาแฟ ในอินเทอร์เน็ตก็จะมีร้านกาแฟปรากฏขึ้นมามากมาย อีกทั้งยังมีบรรดานักชิมได้รีวิวร้านกาแฟนั้นๆ ไว้
แล้ว ทาให้เราตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
จากข้างต้นเราก็รู้แล้วว่า กาแฟได้รับความนิยมมากจริงๆ แต่เคยรู้หรือไม่ว่ากาแฟที่เราดื่มทุกวันนี้ กว่า
จะได้มาเป็นกาแฟแบบนี้ มันผ่านกรรมวิธีอย่างไรบ้าง ประวัติความเป็นมาอย่างไร และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทาให้
ข้าพเจ้าได้ทาโครงงานนี้เพื่อศึกษาเรื่องกาแฟ เริ่มตั้งแต่ประวัติ ประเภท การปลูก ไปจนถึงกาแฟที่ขายในร้าน
ด้วย เพื่อที่จะทาให้เรารู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับกาแฟมากขึ้นนั่นเอง
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของกาแฟ
2. เพื่อศึกษากรรมวิธีในการผลิตกาแฟ
3. เพื่อศึกษาประเภทของกาแฟ
4. เพื่อศึกษาค่านิยมของคนไทยที่มีอิทธิพลต่อกาแฟ
- 3. 3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
โครงงานนี้ศึกษาและอธิบายเกี่ยวกับกาแฟโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นประวัติ ประเภท ประโยชน์
กรรมวิธี จนกระทั่งค่านิยมของคนไทยที่นิยมดื่มกาแฟกันเป็นจานวนมาก ซึ่งจะศึกษาโดยละเอียดและเรียบ
เรียงให้มีเนื้อหาที่กะทัดรัด เข้าใจง่าย
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
- ประวัติความเป็นมา
กาแฟถูกค้นพบครั้งแรกโดยเด็กเลี้ยงแพะชาวอาบิสซีเนีย (ประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน)
ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 16 กาแฟถูกปลูกโดยชาวอาหรับเท่านั้น ชาวอาหรับหวงแหนพันธุ์กาแฟมาก จึงส่งออก
เฉพาะเมล็ดกาแฟที่คั่วสุกแล้วเท่านั้น แต่ในที่สุดเมล็ดกาแฟก็ออกมาสู่โลกกว้าง โดยการลักลอบนาออกมาโดย
ชาวอินเดียที่ไปแสวงบุญที่เมกกะ และก็ได้แพร่ขยายไปยังชวา เนเธอร์แลนด์ และทั่วยุโรปในที่สุด สาหรับทวีป
อเมริกานั้น ต้นกาแฟถูกนาไปอย่างยากลาบาก โดยทหารเรือฝรั่งเศสในต้นศตวรรษที่ 18 ในครั้งแรกนั้น มีต้น
กาแฟที่เหลือรอดชีวิตบนเรือมาขึ้นฝั่งอเมริกาได้เพียง 1 ต้น และก็ได้แพร่ขยายเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันดินแดนแห่ง
นี้ ได้กลายเป็นดินแดนที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในโลก
- ประเภทของกาแฟ
กาแฟดา : ชงด้วยวิธีการหยดน้า เสิร์ฟโดยไม่ใส่นม อาจเติมน้าตาลได้
เอสเพรสโซ : กาแฟที่มีรสแก่และเข้ม ซึ่งมีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้าผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่
บดละเอียด เอสเพรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะประเทศอิตาลีและ
ฝรั่งเศส รสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทาให้คอกาแฟดื่มเอสเพรสโซโดยไม่ปรุงด้วย
น้าตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต (แก้วแบบจอก) เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป
คาปูชิโน : เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทกาแฟซึ่งมีต้นกาเนิดมาจากประเทศอิตาลี คาปูชิโนมี
ส่วนประกอบหลักคือ เอสเพรสโซ และ นม ในประเทศอิตาลี ผู้คนมักดื่มคาปูชิโนเป็นอาหารเช้าโดยเฉพาะ
โดยอาจมีขนมปังแผ่นหรือคุกกี้ประกอบ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าวิถีชีวิตของชาวอิตาลีมักไม่ค่อยรับประทาน
อาหารเช้าแบบเป็นกิจลักษณะ คาปูชิโนและขนมปังเบาๆ แต่สาหรับต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย การดื่ม
คาปูชิโน ดื่มได้ทุกเวลาโดยไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก
ลาเต้ : เป็นภาษาอิตาลีแปลว่านม กาแฟลาเต้เริ่มเป็นที่นิยมนอกประเทศอิตาลีในช่วงต้น
ทศวรรษที่ 1980 ในการชงกาแฟลาเต้โดยบาริสต้า จะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนมและโฟมนมลงบน
กาแฟ ทาให้เกิดลวดลายต่าง ๆ เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (latte art) หรือศิลปะฟองนมในถ้วยกาแฟ
มอคค่า : เป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่าในประเทศเยเมน กาแฟ
มอคค่ามีสีและกลิ่นคล้ายชอคโกแลต อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทาให้กาแฟมอคค่าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
อเมริกาโน่ : อเมริกาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มอันมาจาก
เอสเพรสโซ อเมริกาโนเหมาะสาหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดา แต่ไม่แก่และหนักถึงขั้นเอสเพรสโซ คอกาแฟส่วน
ใหญ่นิยมดื่มอเมริกาโนโดยไม่ปรุงด้วยนมหรือน้าตาล แม้ที่มาของชื่อจะหมายถึงกาแฟสไตล์อเมริกา แต่
อเมริกาโนก็มิได้เป็นกาแฟที่ชาวอเมริกานิยมดื่ม จนกระทั่งยุครุ่งเรืองของร้านกาแฟแฟรนไชส์ สตาร์บัคส์ ในปี
พ.ศ. 2533 แต่ถึงกระนั้นอเมริกาโนก็ไม่จัดเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากนัก
กาแฟขาว : เป็นชาสมุนไพรชนิดหนึ่ง ค้นพบที่เมืองเบรุต นิยมดื่มกันมากในประเทศเลบานอน
และซีเรีย และนิยมทานคู่กับ ขนมหวาน ในประเทศทางยุโรปบางประเทศ จะกล่าวถึง ไวต์คอฟฟี ในลักษณะ
- 4. 4
ของกาแฟใส่นม ในขณะเดียวกันไวต์คอฟฟีในสหรัฐอเมริกาจะหมายถึง กาแฟที่กลั่นไว้นานจนมีสีคล้ายกับสี
เหลือง
- กรรมวิธีในการผลิตกาแฟ
การบ่ม : กาแฟหลายๆ ประเภทจะมีคุณภาพดีขึ้นเมื่อผ่านการบ่ม รสเปรี้ยวของมันจะลดลง
ในขณะที่ความกลมกลืนของรสชาติโดยรวมก็จะเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตหลายๆ รายมักจะขายเมล็ดกาแฟออกไป
หลังจากได้บ่มเอาไว้แล้วถึง 3 ปี
การคั่ว : กระบวนการคั่วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ในการที่จะได้กาแฟรสชาติดีสักถ้วยหนึ่ง. เมื่อถูก
คั่ว เมล็ดกาแฟสีเขียวก็จะพองออกจนเกือบจะมีขนาดเป็นสองเท่าของของเดิม พร้อมทั้งเปลี่ยนสีและความ
หนาแน่นไป เมื่อเมล็ดได้รับความร้อน มันจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและในที่สุดก็จะกลายเป็นสีน้าตาล
อ่อนๆ ในการคั่วแบบอ่อนๆ กาแฟจะเก็บรสชาติดั้งเดิมไว้ได้ดีกว่า รสชาติดั้งเดิมนี้จะขึ้นอยู่กับดินและสภาพ
อากาศในที่ที่ต้นกาแฟได้เติบโตขึ้นมา
การบด : ความละเอียดของกากที่ได้จากการบดมีผลอย่างมากต่อรสชาติ ยิ่งบดกาแฟละเอียด
เท่าไร ก็จะยิ่งได้รสชาติที่เข้มข้นและครบบริบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น เหตุผลหลักที่บางคนไม่บดละเอียดมากนัก คือ
เพื่อไม่ให้กากสามารถผ่านตัวกรองชนิดหยาบๆ ออกไปได้ (เช่น cafetiere) การผลิตกากกาแฟพร้อมชงมีสาม
วิธีด้วยกัน คือ การโม่ การสับ และการบดเป็นผง
การชง : การชงกาแฟมีหลากหลายวิธี ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทตามการให้น้ากับกากกาแฟ
ได้สี่ประเภทหลักๆ ดังนี้ การต้มเดือด การใช้ความดัน การใช้แรงโน้มถ่วง และการจุ่ม
- ความนิยมในการดื่มกาแฟของคนไทย
ในอดีตการดื่มกาแฟในสังคมไทยถือเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของกลุ่มชนชั้นสูง ก่อนจะแพร่ขยายลง
สู่ชนชั้นกลางและประชาชนทั่วไปในเวลาต่อมา ดังจะเห็นว่ามีร้านกาแฟเล็กๆ ปรากฏตัวขึ้นทั่วไปในบริเวณ
ชุมชนและย่านตลาดต่างๆ การมานั่งดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ กินขนมปังปิ้ง พร้อมวิเคราะห์เหตุบ้าน
การเมือง กลายเป็นกิจกรรมยามเช้าของผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกเดียวกัน กิจวัตรประจาวันเช่นนี้ได้พัฒนา
กลายเป็น “วัฒนธรรมท้องถิ่น” ที่เราเรียกกันว่า “สภากาแฟ” ไปในที่สุด
นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมการจิบกาแฟของคนไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสภากาแฟ
เล็กๆ ตามหมู่บ้านก็พัฒนาเติบโตขึ้นเป็น “ธุรกิจ” ที่ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้มีปัจจัย
หลายอย่างที่เป็นแรงกระตุ้นให้ธุรกิจกาแฟขยายตัว อาทิเช่น การเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยของ
“สตารบัคส์” กาแฟแบรนด์ดังระดับโลก ที่ช่วยให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจ และมีรสนิยมการดื่มกาแฟที่
พัฒนาขึ้น รวมถึงได้สร้างสรรค์วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ (Coffee Culture) จนร้านกาแฟกลายเป็นพื้นที่ที่ 3
(Third place) ที่เปิดกว้างให้ “คนเมืองยุคใหม่” ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พูดคุย และใช้เป็นสถานที่
ทางานอีกแห่ง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อเรื่องที่ต้องการศึกษา
2. เขียนโครงร่างของโครงงานเรื่องที่ต้องการศึกษา
3. ค้นคว้าหาและเก็บข้อมูลเรื่องที่ต้องการศึกษา
- 5. 5
4. รวบรวมข้อมูล
5. วิเคราะห์ข้อมูล
6. ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด
7. นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. โปรแกรม Microsoft Power Point
3. อินเทอร์เน็ต
4. รูปเล่มนาเสนอโครงงาน
งบประมาณ
รูปเล่มโครงงานประมาณ 80 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน กัณฐิกา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล กัณฐิกา
3 จัดทาโครงร่างงาน กัณฐิกา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน กัณฐิกา
5 ปรับปรุงทดสอบ กัณฐิกา
6 การทาเอกสารรายงาน กัณฐิกา
7 ประเมินผลงาน กัณฐิกา
8 นาเสนอโครงงาน กัณฐิกา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. ได้รู้ประวัติความเป็นมาของกาแฟ
2. เข้าใจกรรมวิธีในการผลิตกาแฟ
3. รู้ประเภทของกาแฟ
4. ได้รู้ว่านิยมของคนไทยดื่มกาแฟกันเป็นจานวนมาก
สถานที่ดาเนินการ
1. โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
2. บ้านผู้จัดทา
3. ห้องสมุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
- 6. 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา และวัฒนธรรม
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
Coffee. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.anatomy.dent.chula.ac.th/coffee.html. ๑๘
ธันวาคม ๒๕๕๘.
จากวัฒนธรรมนาเข้า สู่แบรนด์สินค้าส่งออก : ว่าด้วยเรื่องของ “กาแฟ” กับ “ชีวิตคนไทย”.
(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.tcdc.or.th/src/15144/. ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๘.