The document defines the flipped classroom model as one where traditional lecture content is delivered at home via video and class time is used for applied learning activities. It explores how this changes the instructional landscape by making the home the lecture space and class the collaboration/problem solving space. Potential benefits discussed include allowing students to work at their own pace and enabling teachers to spend more one-on-one time with students, though concerns about the digital divide and lack of interaction are also raised. The document provides resources for implementing flipped learning and encourages teachers to reflect on how it could enhance their lessons.
The document defines the flipped classroom model as one where traditional lecture content is delivered at home via video and class time is used for applied learning activities. It explores how this changes the instructional landscape by making the home the lecture space and class the collaboration/problem solving space. Potential benefits discussed include allowing students to work at their own pace and enabling teachers to spend more one-on-one time with students, though concerns about the digital divide and lack of interaction are also raised. The document provides resources for implementing flipped learning and encourages teachers to reflect on how it could enhance their lessons.
1. การปฏิรูปการศึกษาไทยกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21 :
การใช้“ห้องเรียนกลับทาง”เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ภาสกร เรืองรอง1
, รุจโรจน์ แก้วอุไร2 *
พันธุ์ทิพย์ ลิมปะพันธุ์3, รัตนาภรณ์ ลอสวัสดิ์4, เพ็ญภรณ์ เหลี่ยวเจริญวัฒน์5,
วสันต์ ศรีหิรัญ6, วินัย ปานโท้7, ยุทธนา พันธ์มี8**
บทคัดย่อ
การปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทยนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลง โดยยึดบริบทสังคมเป็นหลัก มีการเปลี่ยนอย่าง
เป็นขั้นตอนทาให้ไม่เกิดความรุนแรง ซึ่งการปฏิรูปการศึกษานั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงสมาชิกของสังคมให้มีคุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์ ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ โดยเฉพาะการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ที่ผู้เรียนทุกคน
จาเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาหลักด้านวิชาการ หรือ 3Rs ซึ่งประกอบด้วย Reading (การ
อ่าน) Writing (การเขียน) และArithmetic (ความรอบรู้ด้านคณิตศาสตร์) ซึ่งนาไปสู่ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม 4Cs
ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ (Critical thinking) การสื่อสาร (Communication) การร่วมมือ (Collaboration) และความคิด
สร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะชีวิตและอาชีพ และทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางด้าน
การจัดการเรียนการสอนจากบริบทเดิมควรได้รับการเปลี่ยนแปลง “ห้องเรียนกลับทาง”จึงเป็นรูปแบบการจัดการเรียน
การสอนที่เหมาะสมกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ด้วยการที่ผู้เรียนได้มีการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากองค์ความรู้ที่ตนเองสร้างขึ้น โดยการแบ่งปันกับเพื่อนๆในชั้นเรียนผ่านการจัดกิจกรรม โดยครูเป็นผู้ชี้แนะ หรือเป็น
โค้ชให้กับผู้เรียน นาไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีมี
ประสิทธิภาพ แก่ผู้เรียน
คาสาคัญ การปฏิรูปการศึกษา การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ห้องเรียนกลับทาง การพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน
Educational reform in Thailand was changed by the context majorly. It had changed step to step but didn’t be
severe. Truly, educational reform was a change of social members to have desired characteristics and to response
national need especially 21st
century education which students should be improved their knowledge about academic
contents called 3Rs including Reading, Writing, and Arithmetic leaded to learning skills and innovation called 4Cs
included Critical thinking, Communication, Collaboration, and Creativity. Moreover, life and occupation skills and
*อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
**นิสิตปริญญาเอก สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
2. information technology skills were also included in 21st
century skills. From these aims, pedagogy should be changed
in appropriate way. The flipped classroom can be a choice for 21st
century education. Learners will have self-directed
learningand thendiscuss fromtheir knowledge to eachother and share to another learners in community. Teacher will
be a coach or guide for learners to get more information. From this model, it can be said that flipped classroom can be
applied and used for Thailand education to improve Thai primary education to get good and effective results.
Keywords: educational reform, 21st
century education, flipped classroom, Thai primary educational improvement
บทนา
เป็นที่ตระหนักว่า การศึกษาเป็นเครื่องมือสาคัญในการพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และพัฒนาประเทศใน
ทุกมิติ การมีระบบการศึกษาที่ดีนามาซึ่งความรู้ ความสามารถ มีความเคารพในสิทธิส่วนบุคคล และอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
สุขภายใต้ความหลากหลายของบริบทสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิต รวมถึงสร้างความสามารถในการแข่งขันบนเวที
นานาชาติ ซึ่งการที่จะมีระบบการศึกษาที่ดีได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัยด้านการมีส่วนร่วมจากทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และ
ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการเสริมแรงในการจัดการศึกษาของรัฐให้มีความเหมาะสม โดยคานึงถึงสภาพสังคม บริบท
ของการศึกษา และสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานี้จึงเป็นแรงผลักดันสู่การปฏิรูป
การศึกษา เพื่อปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมต่อสังคมไทยและสังคมโลก
ในประเทศไทยมีการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกในปีพ.ศ.2542 เริ่มต้นในสมัยรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย มีการ
ตราพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 เป็นการมุ่งสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในกระแสโลกาภิวัฒน์
ควบคู่ไปกับการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และในปีพุทธศักราช 2552 เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา
คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาโดยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมกันในทุก
ระดับประเภทการศึกษา จะเห็นว่าการปฏิรูปการศึกษานั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ โดยยึดบริบทสังคมเป็นหลัก มี
การเปลี่ยนอย่างเป็นขั้นตอนทาให้ไม่เกิดความรุนแรง หรือกระทบในทางเสียหาย น้อยที่สุด ซึ่งการปฏิรูปการศึกษานั้น
เป็นการเปลี่ยนแปลงสมาชิกของสังคมให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ[1]
วิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากจากอิทธิพลของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คนไทยมี
โอกาสรับข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้นและกว้างขึ้นและในทางสร้างสรรค์ โดยเทคโนโลยีได้นาเสนอโอกาสและทางเลือก