ความหมายของการเรียนบนเครือข่าย และพัฒนาการและเทคโนโลยีการเรียนรู้บนเครือข่าย

1. ภารกิจการเรียนรู้ที่ 1
ความหมายของการเรียนบนเครือข่าย
และพัฒนาการและเทคโนโลยีการ
เรียนรู้บนเครือข่าย

2. สรุปความหมาย และรูปแบบ ของการ
เรียนบนเครือข่าย
ความหมาย
เป็นการจัดสภาพการเรียนการ
สอนบนเครือข่าย ผนวก
คุณสมบัติสื่อหลายมิติหรือ
ไฮเปอร์มีเดีย เข ้ากับ
คุณสมบัติของเครือข่าย
เวิลด์ไวด์เว็บ มาใช ้ประกอบ
กันเพื่อให ้เกิดประสิทธิภาพ
สูงสุด
ผู้เรียน อาจารย์หรือ
ผู้เชี่ยวชาญ และฐานข ้อมูล
ความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กันโดย
ผ่านระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงซึ่งกัน
รูปแบบ
€
• วิชาเอกเทศ (Stand-alone course หรือWeb based
course)
เป็นวิชาที่เนื้อหาและทรัพยากรทั้งหมดจะมีการ
นาเสนอบนเครือข่าย รวมถึงการสื่อสารกันเกือบ
ทั้งหมดระหว่างผู้สอนและผู้เรียนจะผ่านทาง
คอมพิวเตอร์ เช่น “ชั้นเรียนไซเบอร์” (Cyber class)
• วิชาที่ใช้สื่อบนเครือข่ายเสริม (Web supported
course)
เป็นการที่ผู้สอนและผู้เรียนจะพบกันใน
สถาบันการศึกษา แต่เนื้อหาเพิ่มเติม การทางานที่สั่ง
การทากิจกรรม และการติดต่อสื่อสารจะทากันบน
เครือข่าย
• ทรัพยากรการสอนบนเครือข่าย (Web
pedagogical resources)
เป็นการนาเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีข ้อมูลเกี่ยวข ้องกับ
เนื้อหาวิชามาใช ้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานั้น

3. สรุปวิวัฒนาการของเทคโนโลยี Web
1.0 - 4.0
โดยต่อมาก็มีการพัฒนาWeb 2.0เป็นการติดต่อ 2 ทาง (Two-way Communication) และผู้ใช้ยังมีส่วน
ร่วมในการสร้างสรรค์(Co-Creation) และนาเสนอ Content ไม่ใช่ Content Provider
เริ่มจากเว็บ web 1.0 คือ การใช้งานอินเทอร์เน็ต (Internet) ในอดีต เป็นการใช้ข้อมูลด้านเดียว (One way
Communication) ระหว่างเว็บ 1 เว็บจะมีผู้ใช้1 คนคือ web master หรือผู้สร้างเว็บเป็นผู้ให้ข้อมูล และ
ผู้เข้าชมเว็บเป็นผู้รับข้อมูล
ขยับก้าวเข้ามาสู้ช่วงของ Web 3.0 เป็นแนวคิดที่ได้มาจาก Web 2.0 ที่เกิดขึ้นมากมาย ให้เว็บไซต์นั้นสามารถ
จัดการข้อมูลจานวนมากได้โดยการเอาข้อมูลต่างๆที่มีอยู่มาจัดให้อยู่ในรูปแบบ Metadata ที่หมายถึง ข้อมูลที่
สามารถบอกรายละเอียดได้ทาให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
Web4.0 หรือที่เขาเรียกกันว่า "A Symbiotic web" คือเว็บไซต์ที่ทางานแบบ Artificial
Intelligence (AI) ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามมารถคิดได้มีความฉลาดมากขึ้น ในการอ่านทั้งเนื้อหา
ข้อความ และรูปภาพ หรือวีดีโอ ก็สามารถที่จะตอบสนองแล้วตัดสินใจได้ว่าจะ load ข้อมูลอะไร จากไหนที่จะให้
ประสิทธิภาพดีที่สุดมาให้ผู้ใช้งานก่อน

4. ความแตกต่างของ Web 1.0 – 4.0
Web1.0 Web2.0 Web3.0 Web4.0
- ให้ข้อมูลข่าวสารแบบ
สื่อสารทางเดียว
- ผู้ส่งสารเป็นผู้กาหนด
เนื้อหาเองทั้งหมด
- ผู้รับสารมีหน้าที่รับ
อย่างเดียวโต้ตอบกลับ
ไม่ได้
- การแก้ไขอัพเดตข้อมูล
ในหน้า web ทาได้
Webmaster
- ให้ข้อมูลความรู้แบบ
ตายตัว
- อ่านข้อมูลบนเว็บไซด์
ได้แต่แก้ไขไม่ได้
- สามารถแชร์รูปและ
แสดงความคิดเห็นได้
-สามารถสื่อสารตอบโต้
ได้ทั้งผู้สร้าง web และ
ผู้ใช้web
-เป็น web ของ
- เป็น web ที่มีข้อมูล
สารสนเทศมากมายและ
เป็น web สังคม มีการ
กลั่นกรองโดยสมาชิก
ของสังคม มีการพิมพ์และ
จัดเก็บข้อมูลแบบ
- สามารถคาดเดา
เหตุการณ์ต่างๆได้
-สามารถโต้ตอบกับ
มนุษย์ได้
- เป็น web ข้อมูล
- เป็น web ที่มีการ
ควบคุมข้อมูลสารสนเทศ
และเป็น web ที่ฉลาด
ถูกกลั่นกรองโดย-
ผู้เชี่ยวชาญ จัดเก็บทุก
อย่างเป็นแบบ Digital
1. เป็นโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ที่ขนาดเล็ก
เพื่อสนองความต้องการ
ใช้เว็บที่หลากหลาย
2. สามารถตอบสนอง
ความต้องการของคนโดย
การวิเคราะห์ทางเลือกที่ดี
ที่สุดให้ (IPA)
3. สามารถปรับ
พฤติกรรมให้เข้ากับผู้ใช้
4. เรียนรู้และจดจา
รูปแบบพฤติกรรมการใช้
งานของผู้ใช้แต่ละคน
และทาการ
วิเคราะห์ สืบค้น ประมวล
ผล นาเสนอเนื้อหา ด้วย
ตรรกะ

5. ตัวอย่าง
เทคโนโลยี
Web 1.0 –
4.0
Web 1.0
Web 2.0
Web 3.0 Web 4.0

6. นางสาวทิพาพร สีหานาม
573050207-1
นางสาวพิชญาภา ภูคาวงค์
573050667-7
นักศึกษา สาขาคอมพิวเตอร ์ศึกษา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้จั ด ทา

7. เป็ นส่วนห นึ่งของร าย วิช า
237318
การ ออกแ บบสิ่งแ วด ล ้อม
ทางการเรียนรู้บนเครือข่าย
ส อนโดย
ผ ศ . ดร . จารุณี ซ ามาตย์