More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 (20)
More from HamHam' Kc (13)
งานนำเสนอ1
- 1. การเขียนคำาสั่งควบคุมขั้นพื้น
ฐาน
นาย พิธิวัต ศรี
มานพ ม.6/1
เลขที่ 11
นาย นขรินทร์ อัตถ
จรรยากุล ม.6/1 เลขที่
15
นาย พรปฐม รวมสุข
ม.6/1
เลขที่ 17
นางสาว มานิดา ครุธนาค
ม.6/1 เลขที่
26
นางสาว กนกกาญจน์ กองจันทร์
- 2. • 1.ลักษณะการทำางานของภาษาซี
• ลักษณะการทำางานของภาษาซี
• ภาษาซีเป็นภาษาที่มีการพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง
ภาษาซีรุ่นแรกทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการคอส
(cos) ปัจจุบันทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
(Windows) ภาษาซีใช้วิธีแปลรหัสคำาสั่งให้เป็นเลข
ฐานสองเรียกว่า คอมไพเลอร์ การศึกษาภูมิหลังการ
เป็นมาของภาษาซีและกระบวนการแปลภาษาจะช่วย
ให้ผู้ใช้ภาษาซีในรุ่นและบริษัทผู้ผลิตแตกต่างกัน
สามารถใช้ภาษาได้อย่างเข้าใจมากขึ้น
- 3. • 1.1.ความเป็นมาของภาษาซี
• ภาษาซีได้รับการพัฒนาเมื่อปี ค.ศ.1972 โดยนายเดน
นิส ริตซี่ ตั้งชื่อว่าซีเพราะพัฒนามาจากภาษา BCLP
และภาษา B ในช่วงแรกใช้ทดลองเขียนคำาสั่งควบคุมใน
ห้องปฏิบัติการเบล (Bell Laboratoorics) เท่านั้น เมื่อปี
ค.ศ.1978 นายไบรอัน เคอร์นิกฮัน และ นายเดนนิส
ริตซี่ ร่วมกันกำาหนดนิยามรายละเอียดของภาษาซี เผย
แพร่ความรู้โดยจัดทำาหนังสือ The C Programming
Language มีหลายบริษัท ให้ความสนใจนำาไปพัฒนาต่อ
จนมีภาษาซีหลายรูปแบบและแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยัง
ไม่มีมาตรฐานคำาสั่งเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ดัง
นั้นเมื่อปี ค.ศ.1988 นายริตซี่ ได้ร่วมกับสถาบันกำาหนด
มาตรฐาน ANSI สร้างมาตรฐานภาษาซีขึ้นมามีผลให้
โปรแกรมคำาสั่งที่สร้างด้วยภาษาซีสังกัดบริษัทใดๆก็ตาม
ที่ใช้คำาสั่งมาตรฐานของภาษาสามารถนำามาทำางานร่วม
กันได้
- 6. • 2.การแปลรหัสคำาสั่งเป็นภาษาเครื่อง (Compile) หรือ
การบิวด์ (Build) เครื่องจะตรวจสอบคำาสั่งทีละคำาสั่ง
เพื่อวิเคราะห์ว่าใช้งานได้ถูกต้องตามรูปแบบไวยากรณ์
ที่ภาษาซีกำาหนดไว้หรือหากมีข้อผิดพลาดจะแจ้งให้
ทราบ หากไม่มีข้อผิดพลาดจะไปกระบวนการ3
• 3.การเชื่อมโยงโปรแกรม (Link) ภาษาซีมีฟังก์ชัน
มาตรฐานให้ใช้งาน เช่น printf() ซึ่งจัดเก็บไว้ใน
เฮดเดอร์ไพล์ หรือเรียกว่า ไลบรารี ในตำาแหน่งที่
กำาหนดชื่อแตกต่างกันไป ผู้ใช้ต้องศึกษาและเรียกใช้
เฮดเดอร์ไฟล์กับฟังก์ชันให้สัมพันธ์เรียกว่าเชื่อมโยงกับ
ไลบรารี กระบวนการนี้ได้ผลลัพธ์เป็นไฟล์ชนิด .exe
- 8. • 2.1ส่วนหัวของโปรแกรม(Header File)
• หรือเรียกว่าฟรีโปรเซสเซอร์ไดเรกที ใช้ระบุชื่อเฮดเด
อร์ ควบคุมการทำางานของฟังก์ชันมาตรฐานที่ถูกเรียก
ใช้งานในส่วน main( ) เฮดเดอร์ไฟล์มีชนิดเป็น h.
จัดเก็บในไลบรารีฟังก์ชัน ผู้เขียนคำาสั่งต้องศึกษาว่า
ฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่นั้นอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ชื่ออะไร จึง
จะเรียกใช้งานได้ถูกต้อง
- 9. • 2.2 ส่วนฟังก์ชันหลัก (Main Function)
• เป็นส่วนเขียนคำาสั่งควบคุมการทำางานภายในขอบเขต
เครื่องหมาย{ }ของฟังก์ชันหลักคือ main( ) ต้องเขียน
คำาสั่งตามลำาดับขั้นตอนจากกระบวนการวิเคราะห์ระบบ
งานเบื้องต้นและขั้นวางแผนลำาดับการทำางานที่ได้จัด
ทำาไว้ล่วงหน้า เช่น ลำาดับการทำางานด้วยแผนผัง
โปรแกรมเพื่อลดข้อผิดพลาดในขั้นตอนลำาดับคำาสั่ง
ควบคุมงาน ในส่วนนี้พึงระมัดระวังเรื่องเดียวคือต้องใช้
งานคำาสั่งตามรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาซีที่กำาหนด
ไว้
- 12. • 4.ใน 1 บรรทัดพิมพ์ได้มากกว่า1 คำาสั่ง แต่นิยม
บรรทัดละ 1 คำาสั่ง เพราะว่าอ่านโปรแกรมง่ายเมื่อมีข้อ
ผิดพลาด ย่อมตรวจสอบและค้นหาเพื่อแก้ไขได้เร็ว
• 5.การพิมพ์คำาสั่ง หากมีส่วนย่อยนิมยมเคาะเยื้องเข้าไป
เพื่ออ่านโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เมื่อมีข้อผิดพลาดย่อม
ตรวจสอบและแก้ไขได้รวดเร็ว
- 13. • 3. คำาสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำา
• การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำาคอมพิวเตอร์ ภาษา
กำาหนดให้ดำาเนินการผ่านซื้อ (identifier) ที่ผู้สร้าง
งานโปรแกรมเป็นผู้กำาหนดเอง ระบบคอมพิวเตอร์จะจัด
เก็บชื่อและตำาแหน่งที่อยู่ (address) ในหน่วยความจำา
เพื่ออ้างอิงนำาข้อมูลที่จัดเก็บนั้นมาใช้งาน การกำาหนด
ชื่อที่ใช้เก็บข้อมูลต้องทำาภายใต้กฎเกณฑ์ และต้อง
ศึกษาวิธีกำาหนดลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ภาษา
กำาหนดไว้ ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลมี 2 แบบคือ แบบ
ค่าคงที่และแบบตัวแปร ทั้งนี้ก่อนที่จะเขียนคำาสั่ง
กำาหนดการจัดเก็บข้อมูล ควรมีความรู้ในเรื่องชนิด
ข้อมูลก่อน
- 16. • 4.1 คำำสั่งแสดงผล printf ( )
• ประสิทธิภำพคำำสั่ง : ใช้แสดงผลสิ่งต่อไปนี้เช่น
ข้อควำม ข้อมูลจำกค่ำคงที่ หรือตัวแปลที่จอภำพ
• 4.2คำำสั่งรับข้อมูล : รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ แล้วจัด
เก็บลงหน่วยควำมจำำ ของตัวแปล
- 17. • 4.3คำำสั่งประมวลผล : expreeion
• ประสิทธิภำพคำำสั่ง : เขียนคำำสั่งแบบนิพจน์
เพื่อประมวลผล แล้วนำำข้อมูลทีได้ไปจัดเก็บ ใน
หน่วยควำมจำำของตัวแปล ที่ต้องกำำหนดชื่อและ
ชนิดข้อมูลไว้แล้ว
- 21. • 5.คำำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพำะอักขระ
• ภำษำซีมีคำำสั่งแสดงผลและรับข้อมูลเฉพำะข้อมูล
ประเภท 1 อักขระ (char) ดังนี้
• 5.1 คำำสั่ง putchar ( ) 5.2 คำำสั่ง getchar ( )
• 5.3 คำำสั่ง getch ( ) 5.4 คำำสั่ง getche ( )
- 22. • 5.1 คำำสั่ง putchar ( )
• แสดงข้อมูลจำกหน่อยควำมจำำของตัวแปร ทำงจอภำพ
ครั้งละ1อักขระเท่ำนั้น
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1. ‘กำำหนดค่ำ A’เก็บในตัวแปรประเภท char
ชื้อ word1 ‘และกำำหนดค่ำ 1’ เก็บในตัวแปรชื่อ
word2 ด้วยคำำสั่ง char word1=‘A’ , word2=‘1’
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลทีละ 1
อักขระโดยไม่ต้องใช้สัญลักษณ์ขึ้นบรรทัดใหม่ ด้วย
คำำสั่ง ยputchar(word1); putchar(word2); จึง
พิมพ์คำำว่ำ A1 ที่จอภำพ
- 23. • 5.2 คำำสั่ง getchar ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดง
อักขระที่จอภำพ จำกนั้นต้องกดแป้นพิมพ์ที่ Enter เพื่อนำำ
ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำด้วย
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ
ด้วยคำำสั่ง
• Printf (“Key 1 Character=”) ;
• Word = getchar ( ) ;
• หมำยถึงป้อนอักขระ 1 ตัว เช่น a จะแสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำ
จอด้วย แล้วต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำข้อมูลบันทึกลง
หน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำม
จำำ wordจึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• Printf (“You key Character is =%cn”,word) ;
- 24. • 5.3 คำำสั่ง getch ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ แต่ไม่ปรำกฏอักษรบน
จอภำพและไม่ต้องกดแป้น Enter
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ
ด้วยคำำสั่ง
• printf (“Key 1 Character =” ) ;
• word = getch ( ) ;
• หมำยถึงป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะไม่
แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ ไม่ต้องกดแป้ น Enter เพื่อนำำข้อมูล
บันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำมจำำ
word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• printf (“Key 1 Character =%cn”,word ) ;
- 25. • 5.4 คำำสั่ง getche ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดงอักษรบน
จอภำพ และไม่ต้องกดแป้น Enter
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วย
คำำสั่ง
• printf (“Key 1 Character =” ) ;
• word = getcher ( ) ;
• หมำยถึงกำรป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะ
แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ และไม่ต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำ
ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลเพื่อแสดงค่ำจำก
หน่วยควำมจำำ word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• printf (“Key 1 Character =
%cn”,word ) ;
- 27. • 6.1 คำำสั่ง puts() แสดงผลเฉพำะประเภทข้อควำม
ทำงจอภำพครั้งละ 1 ข้อควำม
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งกำำหนดค่ำข้อควำมในตัวแปรชื่อ
word
• Char word [15] = “*Example*”;
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลในลักษณะ
ข้อควำมด้วย puts
• Puts (word) ;
• Puts (“*************”);
- 28. • 6.2 คำำสั่ง gets( ) รับข้อมูล ข้อควำมจำกแป้น
พิมพ์และต้องกดแป้น Enter
• รูปแบบ 1ไม่นำำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยควำมจำำของ
ตัวแปร
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งให้รับข้อมูลนิดข้อควำมจำก
แป้นพิมพ์และต้องกดแป้น Enter เพื่อนนำำ
ข้อควำมบันทึกลงตัวแปรชนิดข้อควำมด้วยคำำสั่ง
gets (word);
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมให้แสดงผลลักษณะ
ข้อควำมด้วย printf (You name is =