More Related Content
Similar to ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (20)
More from Wanphen Wirojcharoenwong (8)
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- 4. 4
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
เก็บข้อมูลจานวนมาก (Store Massive Amounts of Information)
ในปัจจุบันจะมีที่เก็บข้อมูลสารองที่มีความจุมากกว่าหนึ่งพันล้าน
ตัวอักษร
ย้ายข้อมูล (Move Information) โดยใช้การติดต่อสื่อสารผ่าน
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทาให้มีการเรียกเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกัน ทั่วโลกในปัจจุบันว่า ทางด่วน
สารสนเทศ (Information Superhighway)
ทางานซ้า (Repeatability) ช่วยลดปัญหาเรื่องความอ่อนล้าจากการ
ทางานของแรงงานคน นอกจากนี้ยังลดความผิดพลาดต่าง ๆ ได้ดีกว่า
5.
6.
7.
- 7. 7
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์
ที่มีวงจรไฟฟ้าอยู่ภายในเป็นส่วนใหญ่ สามารถจับต้องได้
ประกอบด้วยส่วนที่สาคัญ คือ หน่วยประมวลผลกลาง
หน่วยความจาหลัก หน่วยรับข้อมูลหน่วยแสดงผลหน่วยเก็บข้อมูล
สารอง
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
- 8. 8
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
Input Process Output
1. การรับข้อมูลเข้า (Input) หมายถึง ขั้นตอนการรับข้อมูลเข้า
สู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะอาศัยหน่วยรับข้อมูลเข้า (Input
Unit) ทาหน้าที่ในการรับข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
การทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยขั้นตอนการ
ทางานพื้นฐาน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอน คือ
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
- 12. 12
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หมายถึง หน่วยที่ทาหน้าที่รับข้อมูล
คาสั่งหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการโต้ตอบของผู้ใช้
โปรแกรมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ซึ่งสามารถป้ อนข้อมูล
คาสั่งหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ อุปกรณ์รับข้อมูล มีดังนี้
1) อุปกรณ์แบบกด (Keyed Device) ได้แก่ แป้ นพิมพ์หรือ keyboard
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
- 15. 15
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์
5) กราฟิกแทปเลท (Graphics Tablet) เป็นเครื่องอ่านพิกัดกราฟิก ทางาน
ลักษณะเดียวกับ ดิจิไตเซอร์ ต่างกันที่จะมีอักขระและคาสั่งพิเศษสาเร็จรูปอยู่บนแผ่น
อ่านพิกัด นิยมใช้สาหรับงานออกแบบสถาปัตยกรรม
6) จอภาพสัมผัส (Touch Screen) เป็นจอภาพชนิดพิเศษที่ให้ผู้ใช้งานใช้นิ้ว
สัมผัสบนจอภาพเพื่อป้ อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
- 17. 17
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
8) อุปกรณ์กราดภาพ (Scanning Devices) เป็นอุปกรณ์เพื่อใช้บันทึก
ข้อความ ภาพวาด หรือสัญลักษณ์พิเศษอื่น ๆ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีหลักการ
ทางาน คือ อุปกรณ์จะทาการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอลที่สามารถ
นาไปประมวลผลและแสดงผลบนจอภาพได้ได้แก่
สแกนเนอร์ (Scanner)
- สแกนเนอร์แบบเลื่อนกระดาษ (Sheet-Fed Scanner)
- สแกนเนอร์แบบแท่นนอน (Flatbed Scanner)
- สแกนเนอร์แบบมือถือ (Handheld Scanner)
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
- 20. 20
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) มีหน้าที่นา
คาสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจามาแปลความหมายและกระทาตาม
คาสั่งพื้นฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งแทนด้วยรหัสเลขฐานสอง
การทางานของคอมพิวเตอร์ ใช้หลักการเก็บคาสั่งไว้ที่หน่วยความจา
ซีพียูอ่านคาสั่งจากหน่วยความจามาแปล ความหมายและกระทาตามเรียงกันไปที
ละคาสั่ง
หน้าที่หลักของซีพียู คือควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ
ตลอดจนทาการประมวลผล
- 21. 21
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
หัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี คือ ชิปไมโครโปรเซสเซอร์หรือซีพียู มี
ทั้งแบบประมวลผลแบบ 32 บิต และ 64 บิต ความเร็วของซีพียูมีหน่วยที่ใช้วัด
ความเร็วคือ เมกะเฮิรตซ์หรือจิกะเฮิรตซ์ แบ่งกลุ่มตามการใช้งานได้แก่
กลุ่มที่ 1 ใช้ในสานักงาน เล่นอินเทอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง
กลุ่มที่ 2 เพื่อความบันเทิง แต่งภาพ เขียนแบบ 2D ทากราฟฟิค แต่ไม่
ถึงกับงาน 3D หรือใช้เล่นเกมส์แบบปกติกราฟิกไม่มาก
กลุ่มที่ 3 ทากราฟิกงานด้าน 3D งานตัดต่อวีดีโอ ภาพยนตร์ สตูดิโอ
ห้องอัดเพลง แต่งเสียง เขียนแบบ 3D เล่นเกมส์แบบละเอียดมาก
- 22. 22
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) มีส่วนประกอบ ดังนี้
2.หน่วยคานวณและตรรกะ
ALU
1.หน่วยควบคุม
CU
3. หน่วยความจาภายใน
MU
ทาหน้าที่ควบคุมการทางาน ควบคุมการเขียนอ่านข้อมูลระหว่าง
หน่วยความจา CPU ควบคุมกลไกการทางานทั้งหมดของระบบ
มีหน้าที่นาเอาข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสองมาประมวลผล
ทางคณิตศาสตร์ และตรรกะ
หรือรีจิสเตอร์ (Register) เป็นหน่วยความจาทาหน้าที่พักข้อมูล
ชั่วคราวเพื่อเตรียมนาประมวลผลในลาดับถัดใน CPU ซึ่งมีลักษณะ
คล้ายกับความทรงจาในสมองของมนุษย์นั่นเอง
- 24. 24
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยแสดงผล (Output Unit)
หน่วยแสดงผล หมายถึง หน่วยที่นาผลที่ได้
จากการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ออกแสดง
ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้บุคคลหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่
ทางานเกี่ยวข้องได้เข้าใจ โดยผ่านทางอุปกรณ์แสดงผล
(Output Devices) หน่วยแสดงผล แบ่งออกเป็น 2
ประเภท ได้แก่ หน่วยแสดงผลชั่วคราว (Soft Copy)
และ หน่วยแสดงผลถาวร (Hard Copy)
- 27. 27
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
2) หน่วยแสดงผลถาวร (Hard Copy)
เครื่องพิมพ์ (Printer)
- เครื่องพิมพ์แบบกระทบ (Impact Printer) ใช้การตอกให้คาร์บอนบน
ผ้าหมึกติดบนกระดาษตามรูปแบบที่ต้องการ
เครื่องพิมพ์อักษร (Character Printer)
เครื่องพิมพ์บรรทัด (Line Printer)
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยแสดงผล (Output Unit)
- 31. 31
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
แรม (Random Access Memory: RAM)
- เป็นอุปกรณ์หรือแผงวงจรที่ทาหน้าที่เก็บข้อมูลและโปรแกรม
คอมพิวเตอร์
- หน่วยความจาแรม บางครั้งเรียกว่าหน่วยความจาชั่วคราว (Volatile)
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยความจา (Memory)
- 33. 33
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
2) หน่ วยความจาสารอง (Secondary
Memory) หน่วยความจาสารองใช้เป็นส่วนเพิ่มความจาให้มี
ขนาดใหญ่มากขึ้น ทางานติดต่อยู่กับส่วนความจาหลัก
หน่วยความจาสารองมีความจุมากและมีราคาถูก แต่
เรียกหาข้อมูลได้ช้ากว่าส่วนความจาหลัก
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยความจา (Memory)
- 35. 35
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ออฟติคอลดิสก์ (Optical Disk)
- เป็นสื่อในการเก็บข้อมูล
- โดยใช้ลาแสงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูลซึ่งทามากจากแผ่นพลาสติกที่
เคลือบด้วยอะลูมิเนียม และอะคลีลิค ตัวอย่างของออฟติคอลดิสก์ ได้แก่
ซีดีรอม (CD-ROM )
ซีดีอาร์(CD-R)
ซีดีอาร์ดับบลิว (CD-RW)
ดีวีดีรอม (DVD-ROM)
ดีวีดีอาร์ดับบลิว (DVD-RW)
ดีวีดีแรม (DVD-RAM)
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ หน่วยความจา (Memory)
- 39. 39
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ ส่วนประกอบอื่น ๆ
การ์ดแสดงผล (VGA Card) เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่หลักๆ คือ
จะรับสัญญาณข้อมูลดิจิตอลมาจากหน่วยประมวลผลกลาง แล้ว
จึงทาการแปลงสัญญาณผ่านทางตัวแปลงสัญญาณภาพ
การ์ดเสียง ( Sound Card) เป็นแผงวงจรอิเลคทรอนิกส์ ที่ถูก
สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ร่วมกับคอมให้แสดงผลออกมาเป็นเสียง
การ์ดแลน (LAN Card) เป็นการ์ดที่ทาหน้าที่รับส่งข้อมูล
ผ่านสายนาสัญญาณเช่นสายเคเบิลหรือผ่านคลื่นวิทยุจาก
คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง
- 40. 40
ซอฟต์แวร์ (Software)
ซอฟต์แวร์ (Software)
ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคาสั่งที่ถูกเขียน
ขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางาน ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อม
ระหว่างผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ประเภทของซอฟต์แวร์
สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
1.
2.
- 41. 41
ซอฟต์แวร์ (Software)
1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ชุดของคาสั่งที่เขียนไว้เป็นคาสั่งสาเร็จรูป
ใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด
เพื่อควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่าง และอานวยความ
สะดวกให้กับผู้ใช้งาน
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมระบบที่รู้จักกันดีก็คือ DOS, Windows,
Unix, Linux เป็นต้น รวมทั้งโปรแกรมแปลคาสั่งที่เขียนใน
ภาษาระดับสูง
นอกจากนี้โปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบระบบ เช่น Norton’s
Utilities
- 42. 42
ซอฟต์แวร์ (Software)
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทาให้
คอมพิวเตอร์ทางานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การ
จัดเก็บข้อมูล เป็นต้น สามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน
ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปหรือซอฟต์แวร์สำหรับงำนทั่วปป
1.
2.
- 43. 43
ซอฟต์แวร์ (Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์
1. ซอฟต์แวร์สำหรับงำนเฉพำะด้ำน
คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทางานเฉพาะอย่าง เช่น โปรแกรมการ
ทาบัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมการทาสินค้าคงคลัง
แต่ละโปรแกรมก็มักจะมีเงื่อนไข หรือแบบฟอร์มแตกต่างกันออกไป
ตามความต้องการ หรือกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานที่ใช้
สามารถดัดแปลงแก้ไขเพิ่มเติม (Modifications) ในบางส่วนของ
โปรแกรมได้เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
- 46. 46
ซอฟต์แวร์ (Software)
ภาษาคอมพิวเตอร์
1. ภาษาระดับต่า (Low Level Language)
- เป็นภาษาหรือคาสั่งที่ใช้ในการสั่งงานหรือติดต่อกับเครื่องโดยตรง
- ภาษาเครื่องจะประกอบด้วยรหัสของเลขฐานสอง
- เทียบกับลักษณะของสัญญาณทางไฟฟ้าเข้ากับการทางานของเครื่อง
- ภาษาเครื่องจะมีกฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์ค่อนข้างจากัด
- โปรแกรมมีลักษณะค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
- เป็นภาษาสัญลักษณ์
- ใช้สัญลักษณ์ข้อความแทนกลุ่มของเลขฐานสอง
- ผู้เขียนโปรแกรมต้องจาความหมายสัญลักษณ์ที่ใช้แทนคาสั่งต่าง ๆ
- ข้อดี คือ การเขียนโปรแกรมเขียนง่ายกว่าภาษาเครื่อง
- ข้อเสีย คือ การเขียนโปรแกรมมีลักษณะคล้ายภาษาเครื่อง
ภาษาเครื่อง
(Machine Language)
ภาษาแอสแซมบลี
(Assembly Language)
- 47. 47
ซอฟต์แวร์ (Software)
ภาษาคอมพิวเตอร์
2. ภาษาระดับสูง (High Level Language)
เป็นภาษาที่ได้รับการพัฒนา ให้สามารถใช้ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
การเขียนภาษาไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์หรือลักษณะการทางานภายในของ
เครื่องคอมพิวเตอร์
ผู้เขียนโปรแกรมไม่จาเป็นต้องเข้าใจระบบการทางานภายในเครื่อง
มากนัก เพียงแต่เข้าใจกฎเกณฑ์ในกาเขียนแต่ละภาษาให้ดี
ซึ่งลักษณะคาสั่งจะคล้ายกับภาษาอังกฤษ
ภาษาระดับสูงจึงเป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันได้แก่ C, Basic
, Java , Php , Pyton
- 48. 48
ซอฟต์แวร์ (Software)
ภาษาคอมพิวเตอร์
3. ตัวแปลภาษา (Translator)
ตัวแปลภาษา มีหน้าที่ แปลภาษาระดับสูงที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ให้
เป็นภาษาเครื่องนั่นคือแปลโปรแกรมภาษาต้นฉบับให้อยู่ในรูปของโปรแกรมเรียกใช้
งานที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ สามารถทางานได้ แบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้
แอสแซมเบลอร์ (Assembler) เป็นตัวแปลภาษาแอสแซมบลี ซึ่งเป็น
ภาษาระดับต่าให้เป็นภาษาเครื่อง
คอมไพเลอร์ (Compiler) ใช้หลักการแปลโปรแกรมต้นฉบับทั้ง
โปรแกรมให้เป็นโปรแกรมเรียกใช้งาน
อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) แปลพร้อมกับทางานตามคาสั่งทีละ
คาสั่งตลอดทั้งโปรแกรม ทาให้แก้ไขโปรแกรมได้ง่าย และรวดเร็ว
1.
2.
3.
- 49. 49
ซอฟต์แวร์ (Software)
ภาษาคอมพิวเตอร์
3. ตัวแปลภาษา (Translator)
ข้อแตกต่างระหว่างคอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์
คอมไพเลอร์ (Compiler) อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter)
1. แปลทั้งโปรแกรมแล้วจึงทางานตามคาสั่งใน
โปรแกรมนั้น
1. แปลโปรแกรมทีละคาสั่งและทางานตามคาสั่ง
นั้นทันที
2. ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจามาก 2. ใช้เนื้อที่หน่วยความจาน้อย
3. มีการสร้างโปรแกรมเรียกใช้งาน (Execute
Program)
3. ไม่มีการสร้างโปรแกรมเรียกใช้งาน (Execute
Program)
4. ถ้าโปรแกรมมีการทางานแบบวนซ้า เครื่องจะ
นาโปรแกรมเรียกใช้งาน ไปใช้งานได้เลยโดยไม่
ต้องแปลซ้า ทาให้ทางานได้เร็วกว่า
4. ถ้าโปรแกรมมีการทางานแบบวนซ้า จะต้อง
แปลคาสั่งซ้าแล้วซ้าอีก ทาให้การทางานช้า
- 50. 50
บุคลากร (People ware)
• ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็ นไปตาม
เป้าหมายของหน่วยงาน
ผู้จัดกำรระบบ
(SystemManager)
• ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทาการ
วิเคราะห์ความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการใช้
คอมพิวเตอร์กับระบบงาน
นักวิเครำะห์ระบบ
(SystemAnalyst)
• ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้
ทางานตามความต้องการของผู้ใช้
โปรแกรมเมอร์
(Programmer)
ผู้ใช้ (User)
บุคลากร หมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อ ให้คอมพิวเตอร์ทางานตามที่ต้องการ แบ่ง
ออกได้ 4 ระดับ ดังนี้
• ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง
และวิธีการใช้งานโปรแกรม
- 51. มีข้อควรพิจารณา ดังนี้
1. ต้องการนา Computer มาใช้ทาอะไรบ้าง
2. ซีพียู (CPU) หรือ โปรเซสเซอร์ (Processor)
3. เมนบอร์ด (Main Board)
4. แรม (RAM) หรือ หน่วยความจา (Memory)
51
เทคนิคในกำรเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
- 52. 5. ฮาร์ดดิส (Harddisk)
6. การ์ดจอ (DisplayAdapter) หรือ กราฟิคการ์ด (Graphic
Card)
7. ไดร์ฟ Drive DVD
52
เทคนิคในกำรเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
- 53. 53
การใช้งานระบบปฏิบัติการที่น่าสนใจ
• พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์
• เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985)
• ครองความนิยมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
มากกว่า 90% ของการใช้งานระบบปฏิบัติการทั่วโลก
ไมโครซอฟท์วินโดวส์
(Microsoft Windows)
• เป็นระบบปฏิบัติการสาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แมค
อินทอช
• เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์
• เป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนต่อประสานกับผู้ใช้แบบ
กราฟิก (GUI) รายแรกที่ประสบความสาเร็จในเชิง
พาณิชย์
• เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมเป็นอันดับสองรองจาก
วินโดวส์
แมคโอเอส
(Mac OS)
- 54. 54
การใช้งานระบบปฏิบัติการที่น่าสนใจ
• เป็นเทคโนโลยีแบบเปิด (open system)
• เป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้องผูกติดกับ ระบบใดระบบหนึ่งหรือ
อุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน
• ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้
หลายคน ในเวลาเดียวกัน เรียกว่า มัลติยูสเซอร์
• สามารถทางานได้หลายๆงานใน เวลาเดียวกันในลักษณะที่เรียกว่า
มัลติทาสกิ้ง
ยูนิกซ์
(UNIX)
• เป็นตัวอย่างหนึ่งในฐานะซอฟต์แวร์เสรี และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส
• สามารถดูหรือนาโค้ดของลินุกซ์ไปใช้งาน แก้ไข และแจกจ่ายได้
อย่างเสรี
• ลินุกซ์นิยมจาหน่ายหรือแจกฟรีในลักษณะเป็นแพคเกจ
• โดยผู้จัดทาจะรวมซอฟต์แวร์สาหรับใช้งานในด้านอื่นเป็นชุดเข้า
ด้วยกัน
ลินุกซ์
(Linux)