Ac01
- 1. วิชา การบัญชีตนทุน (Cost Accounting)
บทที่ 1 ความรูทั่วไปเกี่ยวกับการบัญชีตนทุน
-วัตถุประสงคของการบัญชีตนทุน
1.เพื่อใหทราบถึงตนทุนการผลิตสินคาหรือบริการ
2.เพื่อใชในการคํานวณมูลคาสินคาคงเหลือ
3.เพื่อใชในการวางแผนและควบคุม
4.เพื่อใชเปนเครื่องมือในการตัดสินใจ
5.การกําหนดราคาขายสินคา
ความสัมพันธของการบัญชีตนทุนกับการบัญชีการเงิน และบัญชีบริหาร
เปาหมายของการบันทึกบัญชีคือการเก็บรวบรวมขอมูลทางการเงินเพื่อใชในการตัดสินใจตามภาวะ
เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งขอบเขตของหลักการบัญชีจะแบงเปน 3 สวนหลักคือ บัญชีการเงิน บัญชี
บริหาร และบัญชีตนทุน
บัญชีการเงิน เปนการจัดทําบัญชีเกี่ยวกับ สินทรัพย หนี้สิน สวนของเจาของ รายได และคาใชจาย
เพื่อใหทราบถึงฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของกิจการ ไดแก งบดุล งบกําไรขาดทุน งบ
กําไรสะสม และงบกระแสเงินสด
บัญชีบริหาร เนนขอมูลที่เปนอดีต ปจจจุบัน และคาดการณในอนาคตแลวนํามาวิเคราะหเพื่อการ
วางแผน ควบคุม ประเมินผล การวัดผลการดําเนินงาน และการตัดสินใจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
บัญชีตนทุน เปนสวนหนึ่งของทั้งบัญชีการเงินและบัญชีบริหารเพราะเปนการเก็บรวบรวม วิเคราะห
และรายงานขอมูลเกี่ยวกับตนทุนในอดีต ปจจุบันและอนาคต
ความหมายของตนทุน คาใชจาย และขาดทุน
ตนทุน หมายถึง มูลคาของทรัพยากรที่วัดออกมาเปนหนวยเงินตราที่ไดสูญเสียไปเพื่อใหไดสินคา
สินทรัพย หรือบริการตางๆ
คาใชจาย หมายถึง ตนทุนที่ถูกใชประโยชนไปบางสวนหรือทั้งหมดในงวดบัญชีนั้นและกิจการไดใช
ประโยชนทั้งหมดแลวในขณะนั้นทําใหสภาพการเปนตนทุนไดจบลง
- 2. ขาดทุน หมายถึง ตนทุนที่ถูกใชไปโดยไมกอใหเกิดประโยชนกับกิจการ เชน สินคาชํารุดเสียหายที่เกิด
จากการผลิตหรือจัดเก็บ ทําใหไมสามารถขายไดในราคาปกติหรือขายไมไดเลยทําใหเกิดผลขาดทุน
การจําแนกตนทุนตามวัตถุประสงคของการใชตนทุน
เมื่อเขาใจถึงความหมายของตนทุน คาใชจาย และขาดทุนแลว ตอไปจะอธิบายถึงการจําแนกตนทุนตาม
ลักษณะตางๆและตามวัตถุประสงคของการใชตนทุน ซึ่งสามารถแบงไดเปน 8 ประเภท ดังนี้
1.การจําแนกตนทุนตามสวนประกอบของผลิตภัณฑ
2.การจําแนกตนทุนตามปริมาณกิจกรรม
3.การจําแนกตนทุนตามระยะเวลา
4.การจําแนกตนทุนตามลักษณะการดําเนินงาน
5.การจําแนกตนทุนตามความสัมพันธกับหนวยตนทุน
6.การจําแนกตนทุนเพื่อการควบคุมและวัดผลการปฏิบัติงาน
7.การจําแนกตนทุนโดยพิจารณาจากชวงเวลาในการคํานวณกําไร
8.การจําแนกตนทุนเพื่อการตัดสินใจ
สถาบันและหนวยงานทางวิชาชีพที่มีบทบาทตอการพัฒนาบัญชีตนทุน
สถาบันและหนวยงานทางวิชาชีพบัญชีที่มีบทบาทตอการพัฒนาขอมูลทางบัญชีตนทุนใหเปนขอมูลที่มี
ความทันสมัยทันตอเหตุการณ และมีความนาเชื่อถือ เพื่อใชในการตัดสินใจของผูบริหารนั้นมีทั้ง
สถาบันและหนวยงานทางวิชาชีพทั้งในประเทศและตางประเทศที่ควรรูจัก คือ
1.สภาวิชาชีพบัญชี
2.คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี
3.สมาคมนักบัญชีบริหาร
4.สถาบันผูสอบบัญชีรับอนุญาตแหงประเทศสหรัฐอเมริกา
5.คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีการเงิน
6.สมาพันธการบัญชีอเมริกัน
- 3. 7.สภานักบัญชีนานาชาติ
8.สถาบันนักบัญชีบริหารรับอนุญาต
บทที่ 2 ระบบบัญชีตนทุนและการจัดทํางบการเงิน
การดําเนินธุรกิจในปจจุบันไมวาจะเปนธุรกิจผลิตสินคา ธุรกิจซื้อขายสินคา และธุรกิจบริการ มีวิธีการ
จัดหาสินคาและบริการแตกตางกัน ทําใหตองทําความเขาใจในการคํานวณตนทุนการผลิตสินคาและ
บริการใหถูกตอง
การคํานวณตนทุนของธุรกิจผลิตสินคา
งบตนทุนการผลิต
งบกําไรขาดทุน
งบดุล
ระบบการบัญชีตนทุน
ในกระบวนการผลิตสินคาของธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อที่จะตอบสนองความตองการของลูกคา สามารถ
แยกไดเปน 2 ประเภท คือ
1.ระบบบัญชีตนทุนงานสั่งทํา
2.ระบบตนทุนชวงหรือตนทุนกระบวนการ
บทที่ 3 การบัญชีตนทุนวัตถุดิบ
ความหมายและประเภทของวัตถุดิบ
วัตถุดิบ คือ สวนประกอบสําคัญในการผลิตที่จะถูกเปลี่ยนสภาพกลายมาเปนสินคาสําเร็จรูป โดยทั่วไป
ตนทุนของวัตถุดิบในการผลิตสินคาแบงออกเปน 2 ลักษณะ คือ
1.วัตถุดิบทางตรง
2.วัตถุดิบทางออม
- 4. การวางแผนและควบคุมวัตถุดิบ
การรักษาระดับวัตถุดิบคงเหลือใหอยูในระดับที่เหมาะสมนับวาเปนวัตถุประสงคหนึ่งที่สําคัญที่สุดใน
การควบคุมวัตถุดิบ
ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ) เปนแนวความคิดในการสั่งซื้อวัตถุดิบวาการซื้อ
วัตถุดิบแตละครั้งควรมีจํานวนเทาใดจึงจะทําใหมีตนทุนรวมต่ําที่สุด โดยเปรียบเทียบระหวางคาใชจาย
ในการสั่งซื้อและคาใชจายในการเก็บรักษา ซึ่งคาใชจายทั้งสองประเภทนี้มีความสัมพันธในทิศทาง
ตรงกันขาม
จุดสั่งซื้อวัตถุดิบ เมื่อฝายบริหารทราบถึงปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุดแลวจะตองพิจารณา
ตอไปวาจะทําการสั่งซื้อเมื่อวัตถุดิบนั้นเหลืออยูในปริมาณเทาใด ซึ่งการหาจุดสั่งซื้อนั้นกิจการตอง
ทราบ
1.ระยะเวลาในการจัดหาวัตถุดิบ
2.อัตราการใชวัตถุดิบ
3.สินคาที่ตองมีไวเพื่อความปลอดภัย
ปริมาณการสั่งซื้อในกรณีที่มีสวนลด การที่ผูขายตองการขายสินคาในแตละครั้งเปนจํานวน
มากนั้น วิธีหนึ่งที่นิยมใชในปจจุบันคือการใหสวนลด ซึ่งมีการกําหนดเงื่อนไขเพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะสงผลตอ
ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด
การจัดซื้อและการบันทึกบัญชีวัตถุดิบ กิจการจะตองทําการสั่งซื้อวัตถุดิบใหเพียงพอที่จะใชใน
การผลิต สวนใหญผูควบคุมวัตถุดิบหรือพนักงานผูลงบัญชีพัสดุจะมีหนาที่รับผิดชอบการรับจายวัตถุดิบ
และดูแลปริมาณวัตถุดิบที่มีอยู
การเบิกใชและบันทึกบัญชีวัตถุดิบ เมื่อผูมีอํานาจในการเบิกใชวัตถุดิบหรือแผนกผลิตตองการ
เบิกวัตถุดิบไปใชในการผลิตสินคาจะตองออกใบเบิกวัตถุดิบ ซึ่งใบเบิกวัตถุดิบที่จัดทําขึ้นนั้นมี 4 ฉบับ
การคํานวณตนทุนวัตถุดิบใชไปและการตีราคาวัตถุดิบคงเหลือ ในการดําเนินงานของกิจการ
ผลิตสินคาขายตองมีการสั่งซื้อวัตถุดิบเขามาผลิตซึ่งในทางปฏิบัติวัตถุดิบที่ซื้อเขามามีมากมายหลายชนิด
และแตละชนิดราคาที่ซื้อเขามาแตละครั้งไมเทากัน
การตีราคาวัตถุดิบคงเหลือราคาทุน วิธีการคํานวณราคาวัตถุดิบคงเหลือตามราคาทุนตาม
มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 31 เรื่องสินคาคงเหลือ กําหนดวิธีการคํานวณ 3 วิธี ดังนี้
- 5. 1.วิธีตามราคาที่แทจริง
2.วิธีซื้อกอนใชกอน
3.วิธีถัวเฉลี่ยถวงน้ําหนัก
การตีราคาวัตถุดิบคงเหลือตามราคาตลาดหรือราคาทุน ที่ต่ํากวา
บทที่ 4 การบัญชีคาแรงงาน
ความหมายและประเภทคาแรงงาน
คาแรงงาน หมายถึง คาจาง และเงินเดือน ที่จายใหแกพนักงานหรือลูกจางของกิจการ สําหรับคาจางนั้น
กิจการจะจายเปนรายชั่วโมง รายวัน หรือรายชิ้นที่ผลิตได นอกจากนี้กิจการที่ผลิตสินคาตองทําการแบง
ตนทุนแรงงานออกเปน 2 ประเภท คือ คาแรงงานทางตรง และคาแรงงานทางออม
การจัดเก็บเวลาทํางาน สําหรับกิจการที่มีขนาดใหญ ในการบริหารงานเกี่ยวกับจัดหา วางแผน
และควบคุมแรงงาน จะมีแผนกตางๆที่รับผิดชอบ ไดแก แผนกบุคคลากร ทําหนาที่ในการจัดหาและจัดจาง
แรงงานรวมถึงการฝกอบรมฝมือแรงงานและการจัดสวัสดิการตางๆใหกับพนักงาน
สําหรับกิจการที่มีขนาดใหญ ในการบริหารงานเกี่ยวกับจัดหา วางแผน และควบคุมแรงงาน
การคํานวณและจําแนกประเภทคาแรงงาน สําหรับกิจการที่มีขนาดใหญนั้นเปนหนาที่ของ
แผนกคิดคาแรงงาน สวนกิจการที่มีขนาดเล็กนั้นจะมอบหมายใหเจาหนาที่คนใดคนหนึ่งมารับผิดชอบงาน
ดังกลาว การคํานวณคาแรงงานโดยทั่วไปจะประกอบดวยสวนสําคัญ 2 สวน คือ การคํานวณคาแรงงาน
ขั้นตน และการคํานวณคาแรงงานสุทธิ
การบัญชีเกี่ยวกับคาแรงงาน โดยทั่วไปการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับคาแรงงานประเภทตางๆ ประกอบดวย 3
ขั้นตอน คือ
1.บันทึกคาแรงงานขั้นตน รายการหักตางๆและเงินไดสุทธิ
2.การบันทึกการจําแนกประเภทคาแรงงาน
- 6. บทที่ 5 การบัญชีคาใชจายในการผลิต
ลักษณะของพฤติกรรมตนทุนคาใชจายการผลิต
ตนทุนตางๆที่เกิดขึ้นจากการผลิตในโรงงานที่ไมสามารถคิดเขาเปนตนทุนการผลิตของผลิตภัณฑใด
ผลิตภัณฑหนึ่งไดโดยตรงเรียกวา คาใชจายในการผลิต
การวิเคราะหคาใชจายการผลิตที่มีลักษณะเปนตนทุนกึ่งผันแปร
กิจการตองทําการแยกตนทุนทุกรายการออกเปนตนทุนคงที่และตนทุนผันแปรเพื่อที่จะใชใน
การวางแผนควบคุมรวมถึงการนําตนทุนไปใชในการตัดสินใจ ซึ่งกิจการหาวิธีหรือเทคนิคตางๆ ในการแยก
ตนทุนคาใชจายการผลิตที่มีลักษณะเปนตนทุนกึ่งผันแปรออกเปนตนทุนคงที่และตนทุนผันแปร ซึ่งวิธีที่
นิยมใชโดยทั่วไปมีดังนี้
1.วิธีการสังเกต
2.วิธีทางวิศวกรรม
3.วิธีแตมสูงต่ํา
4.วิธีการประมาณดวยตาหรือวิธีประมาณจากกราฟ
5.วิธีกําลังสองนอยที่สุด
คาใชจายการผลิตในวิธีตนทุนจริงและวิธีตนทุนปกติ การคิดคาใชจายการผลิตดวยวิธีตนทุน
จริง เปนการคํานวณตนทุนการผลิตจากตนทุนการผลิตที่เกิดขึ้นจริง
การเลือกหนวยตัวหารในการหาอัตราคาใชจายการผลิต การจะใชหนวยใดเปนตัวหารในการ
หาอัตราคาใชจายการผลิตคิดเขางานนั้นตองมีความสัมพันธกับคาใชจายการผลิตมากที่สุด และการคํานวณ
อัตราคาใชจายการผลิตตองทําไดโดยงายและสะดวกรวมถึงตัวหารที่นํามาใชนั้นสามารถวัดไดโดยงายดวย
เชนกันซึ่งหนวยตัวหารที่นิยมนํามาใชในการคํานวณหาอัตราคาใชจายการผลิตไดแก จํานวนหนวยสินคาที่
ผลิต ตนทุนวัตถุดิบทางตรง ตนทุนคาแรงงานทางตรง ชั่วโมงแรงงานทางตรง และชั่วโมงการทํางานของ
เครื่องจักร
การประมาณระดับการผลิต มีหลักการที่สามารถทําไดดังนี้
1.การประมาณตามระดับการผลิตตามทฤษฎีหรือระดับการผลิตตามอุดมคติ
2.การประมาณตามระดับการผลิตที่ปฏิบัติได
- 8. การบัญชีเกี่ยวกับสินคาเสีย สิ่งที่หลีกเลี่ยงไมไดในการผลิตสินคาคือ สินคาเสีย ซึ่งสาเหตุที่ทํา
ใหเกิดสินคาเสียอาจจะเกิดจากการผลิตที่ไมมีประสิทธิภาพ แรงงานขาดความชํานาญ เครื่องจักรชํารุด เปน
ตน เมื่อมีสินคาเสียเกิดขึ้นตองมีการรายงานโดยระบุรายละเอียดตางๆ
การบัญชีเกี่ยวกับสินคามีตําหนิ สินคามีตําหนิเปนสินคาที่ทําการผลิตแลวไมไดมาตรฐานหรือ
คุณภาพตามที่ตองการแตสามารถที่จะปรับปรุงหรือซอมแซมใหอยูในสภาพดีได เมื่อกิจการทํา
การผลิตสินคาแลวมีสินคามีตําหนิเกิดขึ้น ถากิจการเลือกขายสินคามีตําหนินั้นในราคาที่ต่ํากวา
ปกติการบันทึกบัญชีคลายกับการบันทึกบัญชีสินคาเสีย แตถากิจการเลือกปรับปรุงซอมแซม
สินคาใหอยูในสภาพปกติก็สามารถที่จะขายสินคานี้ไดในราคาปกติ การบัญชีเกี่ยวกับสินคามี
ตําหนินั้นแบงสินคามีตําหนิเปน 2 ลักษณะ เชนเดียวกับสินคาเสีย คือ สินคามีตําหนิตามปกติ
และสินคามีตําหนิผิดปกติ
บทที่ 7 การบัญชีตนทุนชวงการผลิต
ลักษณะของการบัญชีตนทุน
1.มีการจัดเก็บและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับการผลิตและจัดทํารายงานตนทุนการผลิตเปนแผนก
หรือเปนศูนยตนทุน(Cost Center) ชวงการผลิต
2.ตนทุนวัตถุดิบ คาแรงงาน และคาใชจายในการผลิตที่เกิดขึ้นจริงในแตละแผนกหรือแตละ
ศูนยตนทุนจะถูกสะสมไวในบัญชีงานระหวางทํา
3.รวบรวมขอมูลเกี่ยวกับหนวยผลิตเสร็จจากแผนกนั้นๆในกรณีที่มีงานระหวางทําคงเหลือใน
ตอนตนงวดและปลายงวดจะตองทําการปรับงานระหวางทําใหอยูในรูปของหนวยเทียบสําเร็จรูป
(Equivalent Unit)
4.คํานวณตนทุนตอหนวยของแตละแผนกหรือศูนยตนทุนในแตละงวด
5.ตนทุนของหนวยที่ผลิตเสร็จจะโอนออกจากบัญชีงานระหวางทําของแผนกที่ผลิตเสร็จไปยัง
บัญชีงานระหวางทําของแผนกตอไปหรือบัญชีสินคาสําเร็จรูป ตนทุนการผลิตจากแผนกตางๆ จะถูกสะสม
ตั้งแตแผนกแรกจนถึงแผนกสุดทายที่ทําการผลิตสินคานั้นเสร็จเปนสินคาสําเร็จรูป ซึ่งตนทุนทั้งหมดที่
สะสมนั้นคือตนทุนของสินคาสําเร็จรูป
6.การสะสมตนทุนรวมและตนทุนตอหนวยในแผนกหนึ่งๆ หรือหลายๆแผนกจะถูกแสดงไว
ในงบตนทุนการผลิตหรือรายงานตนทุนการผลิต ซึ่งงบตนทุนการผลิตอาจจะจัดทําแยกตามแผนกผลิตใน
กรณีที่มีหลายแผนก ถากิจการมีแผนกผลิตเพียง 2-3 แผนก อาจจัดทํารายงานตนทุนทุกแผนกรวมไวในงบ
ตนทุนการผลิตเดียวกัน
- 9. ระบบชวงการผลิตมีรูปแบบการผลิตที่นิยมนํามาใชในกิจการมีอยู 3 รูปแบบ ดังนี้
1. กระบวนการผลิตแบบเรียงลําดับ (Sequential Processing)
2. การผลิตแบบขนาน (Parallel Processing)
3. การผลิตแบบจําแนก (Selective Processing)
การบันทึกตนทุนของระบบตนทุนชวงการผลิต
1.การบันทึกวัตถุดิบ
มีการรวบรวมวัตถุดิบที่ใชเปนแผนกโดยระบุรายละเอียดวาเบิกวัตถุดิบชนิดใด จํานวนเทาใด แตไมตอง
จําแนกวาวัตถุดิบที่เบิกใชนั้นเปนวัตถุดิบทางตรงหรือทางออม ซึ่งการบันทึกบัญชีจะเปดบัญชีงานระหวาง
ทําแยกเปนแผนกเทากับจํานวนแผนกผลิต
2.การบันทึกคาแรงงาน
จะทําเชนเดียวกับการบันทึกวัตถุดิบ แตการบันทึกคาแรงงานจะไมยุงยากเหมือนกับระบบตนทุนงานสั่งทําที่
ตองแยกคนงานวาทํางานใด รุนใด จํานวนกี่ชั่วโมง เพราะในระบบตนทุนชวงการผลิตมีการแบงแยกคนงาน
เปนแผนกอยูแลวจึงสามารถบันทึกชั่วโมงการทํางานจากบัตรบันทึเวลาทํางาน (Time Tickets) และบัตรลง
เวลา (Clock Cards) ไดเลย แตถาพบวามีคาแรงงานที่ไมสามารถเขาแผนกใดแผนกหนึ่งได เขน เงินเดือน
ของผูจัดการโรงงาน ใหบันทึกในบัญชีคาใชจายการผลิต
3.การบันทึกคาใชจายการผลิต คาใชจายการผลิตที่เกิดขึ้นในระบบตนทุนชวงจะแตกตางจาก
ระบบตนทุนงานสั่งทํา กลาวคือระบบตนทุนงานสั่งทําคิดคาใชจายการผลิตจัดสรรลวงหนา สวนระบบ
ตนทุนชวงอาจจะบันทึกคาใชจายการผลิตที่เกิดขึ้นจริงเพราะการรวบรวมตนทุนมักจะทําตอนสิ้นงวดหรือ
สิ้นรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง นอกจากนี้การรวบรวมคาใชจายการผลิตแยกตามแผนกผลิต ถามีคาใชจายใด
ที่ไมสามารถระบุวาเปนของแผนกใดแผนกหนึ่งโดยเฉพาะ เชน เงินเดือนผูจัดการโรงาน คาเชา คาน้ํา คาไฟ
เปนตน ใหปนสวนคาใชจายเหลานี้แกแผนกผลิตตามหลักเกณฑ
- 10. หนวยเทียบเทาสําเร็จรูป
การผลิตสินคาในแตละครั้งของระบบตนทุนชวงการผลิตมักจะตองผานแผนกผลิตหลายแผนก ซึ่งในแตละ
แผนกรวบรวมตนทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นแลวคํานวณหาตนทุนตอหนวยแลวทําการโอนตนทุนเหลานี้ไปยัง
แผนกถัดไปทําเชนนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงแผนกสุดทายจนเปนตนทุนสินคาสําเร็จรูป
บทที่ 8 ระบบตนทุนชวงการผลิต
กรณีที่มีงานระหวางทําตนงวด
ในกรณีที่ไมมีงานระหวางทําตนงวด การคํานวณหาตนทุนในระบบตนทุนชวงสามารถทําได
โดยงาย เพราะตนทุนทั้งหมดเกิดขึ้นในงวดบัญชีเดียวกันสงผลใหตนทุนตอหนวยมีราคาเดียว แตถามีงาน
ระหวางทําตนงวด ตนทุนตอหนวยในงวดบัญชีกอนอาจจะไมเทากับตนทุนตอหนวยที่ผลิตในงวดปจจุบัน
เปนผลมาจากตนทุนวัตถุดิบทางตรง คาแรงงานทางตรง และคาใชจายการผลิตในแตละงวดไมเทากัน ทําให
เกิดปญหาที่ตองพิจารณา
การคํานวณดวยวิธีถัวเฉลี่ยถวงน้ําหนัก
วิธีนี้จะนําเอาตนทุนของงานระหวางทําตนงวดรวมกับตนทุนที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีปจจุบันจะ
ไดตนทุนการผลิตทั้งหมดแลวหารดวยหนวยเทียบเทาสําเร็จรูปของแผนกผลิตจะไดตนทุนการผลิตตอหนวย
ตามวิธีถัวเฉลี่ยถวงน้ําหนัก ซึ่งวิธีนี้ใชหลักการที่วางานระหวางทําตนงวดถือเปนสวนหนึ่งของตนทุนการ
ผลิตในงวดบัญชีปจจุบันโดยไมสนใจวาจะผลิตจากงวดบัญชีกอนมาแลวเปนสัดสวนเทาใด วิธีนี้สงผลให
ตนทุนการผลิตตอหนวยจะไมมีความแตกตางกันระหวางงานที่ยกมาจากงวดบัญชีกอนกับงานที่ผลิตในงวด
ปจจุบัน
การคํานวณดวยวิธีเขากอนออกกอน
วิธีนี้จะคิดตนทุนงานระหวางทําตนงวดแยกออกจากตนทุนการผลิตที่ผลิตในงวดปจจุบันโดย
มีหลักการ คือ จะใหงานระหวางทําตนงวดเปนงานที่ผลิตเสร็จไปกอนเปนอันดับแรกแลวจึงคิดตนทุนของ
หนวยที่ผลิตเสร็จในงวดปจจุบัน จึงทําใหเกิดหนวยผลิตและตนทุนเปน 2 สวน คือ สวนของงานที่คงเหลือ
มาจากงวดบัญชีกอนกับงานที่เริ่มผลิตในงวดปจจุบัน ซึ่งจะแตกตางจากการคํานวณตนทุนดวยวิธีแบบถัว
เฉลี่ยถวงน้ําหนักที่มีตนทุนการผลิตเพียงชุดเดียว
- 11. บทที่ 9 ผลิตภัณฑรวมและผลิตภัณฑพลอยได
ผลิตภัณฑรวม
หมายถึง ผลิตภัณฑตั้งแต 2 ชนิดที่เกิดขึ้นพรอมกันโดยใชวัตถุดิบทางตรง คาแรงงานทางตรง
คาใชจายการผลิตรวมกันและปริมาณที่ไดรวมถึงมูลคาของผลิตภัณฑแตละชนิดใกลเคียงกัน ขอสังเกตที่จะ
สรุปวา ผลผลิตเหลานั้นเปนผลิตภัณฑรวมโดยพิจารณาจากเงื่อนไขดังนี้
การจัดสรรตนทุนใหผลิตภัณฑรวม
สําหรับวิธีการจัดสรรตนทุนรวมใหกับผลิตภัณฑรวมตางๆสามารถทําไดหลายวิธีซึ่งแตละ
กิจการจะใชวิธีใดขึ้นอยูกับลักษณะของผลิตภัณฑ ขอมูลที่ไดรับ นโยบายของกิจการ เปนตน วิธีที่ใชมี 4
วิธีการดวยกัน คือ
1.การจัดสรรตนทุนรวมตามราคาตลาดหรือมูลคาขายของผลิตภัณฑรวม(Sales Value)
2.การจัดสรรตนทุนรวมตามปริมาณหนวยของผลผลิต(Physical Measures)
3.การจัดสรรตนทุนรวมตามตนทุนถัวเฉลี่ยตอหนวย(Average Unit Cost)
4.การจัดสรรตนทุนรวมโดยการถัวเฉลี่ยถวงน้ําหนัก(Weighted Average Cost)
การบัญชีสําหรับผลิตภัณฑพลอยได
การบัญชีสําหรับผลิตภัณฑพลอยได มีแนวความคิดเปนที่ยอมรับอยู 2 แนวความคิด คือ
1.ใหบันทึกบัญชีผลิตภัณฑพลอยไดโดยไมมีการจัดสรรตนทุนรวมที่เกิดขึ้นจึงไมมีการบันทึก
ตนทุนและสินคาคงเหลือของผลิตภัณฑพลอยไดแตใหบันทึกไวที่บัตรตรวจนับแทน
2.ใหมีการจัดสรรตนทุนรวมเปนตนทุนผลิตภัณฑพลอยไดและใหนําตนทุนของผลิตภัณฑพลอยได
ไปลดยอดตนทุนการผลิตสินคาในบัญชีงานระหวางทํา
บทที่ 10 การบัญชีตนทุนมาตรฐาน
ประโยชนของตนทุนมาตรฐาน
1.ใชเปนขอมูลในการจัดทํางบประมาณ เมื่อกิจการไดกําหนดตนทุนมาตรฐานเอาไวลวงหนาทําให
สามารถนํามาปรับเปนงบประมาณในแตละงวดได
- 13. การวิเคราะหผลตางคาแรงทางตรง (Direct Labor Variance Analysis) การวิเคราะหผลตาง
คาแรงงานทางตรงจะทําการประเมินเชนเดียวกับการวิเคราะหผลตางวัตถุดิบทางตรง โดยประเมินใน 2
ลักษณะ คือ การวิเคราะหผลตางดานอัตราคาแรงงาน และการวิเคราะหผลตางดานประสิทธิภาพคาแรง
การวิเคราะหผลตางคาใชจายการผลิต (Manufacturing Overhead Variance Analysis) เปนการ
เปรียบเทียบระหวางตนทุนคาใชจายการผลิตตามมาตรฐานกับตนทุนคาใชจายการผลิตที่เกิดขึ้นจริง
สามารถทําได 4 วิธี คือ การวิเคราะหผลตางคาใชจายการผลิตแบบผลตางเดียว แบบ 2 ผลตาง แบบ 3
ผบตาง แบบ 4 ผลตาง