1. บทที่ 1
ความรู้เ บื้อ งต้น เกี่ย วกับ การบัญ ชี
จงเลือ กคำา ตอบที่ถ ูก ต้อ งที่ส ุด
1. ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการบัญชี
ก. เพื่อจดบันทึกรายการค้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยเรียงลำาดับก่อนหลัง
และจำาแนกประเภทของรายการค้าไว้อย่างสมบูรณ์
ข. เพื่อให้การจดบันทึกรายการค้านั้นถูกต้อง เป็นไปตามหลักการ
บัญชี และตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี
ค. เพือแสดงผลการดำาเนินงานในรอบระยะเวลาหนึง และแสดงฐานะ
่ ่
การเงินของกิจการในระยะเวลาหนึ่ง
ง. ช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถ ควบคุมดูแล รักษาสินทรัพย์ของ
กิจการได้
2. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี
ก. ช่วยให้ทราบผลการดำาเนิ นงานของกิจการ ในระยะเวลาใด
เวลาหนึ่ งว่ามีผลกำาไร หรือขาดทุนเป็นจำานวนเงินเท่าใด
ข. ข้อมูลทางการบัญชีเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ช่วยในการกำาหนด
นโยบายในการวางแผนและช่วยในการตัดสินใจต่าง ๆ ในการบริหาร
งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค. ในการเขียนตัวหนังสือและตัวเลข นักบัญชีที่ดีควรเขียนให้
ชัดเจนอ่านง่าย และสะอาด เรียบร้อย
ง. ข้อมูลทางบัญชีที่จดบันทึกไว้ สามารถช่วยในการตรวจสอบหา
ข้อผิดพลาด ในการดำาเนินงานได้
3. การบัญชีมีกี่ยุค
ก. 2 ยุค ข. 3 ยุค
ค. 4 ยุค ง. 5 ยุค
4. ยุคใดมีการจดบันทึก ข้อมูลทางบัญชี เนืองจากการลงทุนในการค้า
่
ก. ยุคก่อนระบบบัญชีคู่ ข. ยุคระบบบัญชีคู่
ค. ในปลายศตวรรษที่ 13 ง. ยุคปัจจุบันในศตวรรษที่ 20
5. ข้อใดไม่ใช่ข้อแนะนะในการเรียนบัญชี
ก. ควรอ่านเนื้อหาวิชาการบัญชีแต่ละเรื่อง โดยละเอียดอย่างน้อย 2
ครั้งเนื้อหาตอนใดไม่เข้าใจต้องสอบถามผู้สอนทันที อย่าปล่อยให้เลย
ไป มิฉะนั้นจะไม่เข้าใจในเรื่องต่อ ๆ ไป
ข. ทำาแบบฝึกหัดทุกข้อด้วยตนเอง เพื่อฝึกฝนให้การทำางานนั้น มี
ประสิทธิภาพถูกต้องรวดเร็ว และแม่นยำา
ค. คุณสมบัติที่จำาเป็นในการทำาบัญชี คือต้องมีความละเอียด
รอบคอบ และความถูกต้องแม่นยำาในตัวเลข

2. ง. ต้องฝึกหัดให้เป็นผู้ที่ทำางานมีความเยือกเย็น
6. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการจัดทำาแม่บทการบัญชี
ก. เป็นแนวทางสำาหรับคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีในการ
พัฒนามาตรฐานการบัญชีในอนาคต และในการทบทวนมาตรฐานการ
บัญชีที่มีในปัจจุบัน
ข. เป็นแนวทางสำาหรับผู้สอบบัญชีในการนำามาตรฐานการบัญชีมา
ปฏิบัติ รวมทั้งเป็นแนวทางในการปฏิบัติสำาหรับเรื่องที่ยังไม่มีมาตรฐาน
การบัญชีรองรับ
ค. เป็นข้อสมมติที่ถอว่างบการเงินต้องจัดทำาขึ้นภายใต้เกณฑ์คงค้าง
ื
โดยต้องรับรู้รายการและเหตุการณ์ทางบัญชีเมื่อเกิดรายการ
ง. เป็นแนวทางสำาหรับผู้สอบบัญชีในการแสดงความเห็นต่องบการ
เงินว่าได้จัดทำาขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีหรือไม่
7. ข้อสมมติตามแม่บทการบัญชีมีกี่วิธี
ก. 2 วิธี ข. 3 วิธี
ค. 4 วิธี ง. 5 วิธี
8. Accrual Basis คืออะไร
ก. การดำาเนินงานต่อเนื่อง ข. เกณฑ์คงค้าง
ค. ข้อสมมติฐานทางการบัญชี ง. แม่บทการบัญชี
9. Accounting Framework คืออะไร
ก. เกณฑ์สำาหรับการจัดทำาและนำาเสนองบการเงิน
ข. ข้อกำาหนดทางการบัญชีเป็นที่ยอมรับกันโดยไม่มีการพิสูจน์
ค. เป็นข้อสมมติที่ถือว่างบการเงินต้องจัดทำาขึ้นภายใต้เกณฑ์คงค้าง
ง. เป็นข้อสมมติที่ถือว่างบการเงินควรจัดทำาภายใต้ข้อสมมติของการ
ดำาเนินงานอย่างต่อเนื่องและดำารงอยู่ต่อไปในอนาคต
10. ข้อใดคือ สมมติฐานทางการบัญชี
ก. เกณฑ์สำาหรับการจัดทำาและนำาเสนองบการเงิน
ข. ข้อกำาหนดทางการบัญชีเป็นที่ยอมรับกันโดยไม่มีการพิสูจน์
ค. เป็นข้อสมมติที่ถอว่างบการเงินต้องจัดทำาขึ้นภายใต้เกณฑ์คง
ื
ค้าง
ง. เป็นข้อสมมติที่ถอว่างบการเงินควรจัดทำาภายใต้ข้อสมมติของ
ื
การดำาเนินงานอย่างต่อเนื่องและดำารงอยู่ต่อไปในอนาคต
11. ข้อใดคือ Going Concern
ก. เกณฑ์สำาหรับการจัดทำาและนำาเสนองบการเงิน
ข. ข้อกำาหนดทางการบัญชีเป็นที่ยอมรับกันโดยไม่มีการพิสูจน์
ค. เป็นข้อสมมติที่ถือว่างบการเงินต้องจัดทำาขึ้นภายใต้เกณฑ์คง
ค้าง
ง. เป็นข้อสมมติที่ถือว่างบการเงินควรจัดทำาภายใต้ข้อสมมติของ
การดำาเนินงานอย่างต่อเนื่องและดำารงอยู่ต่อไปในอนาคต

3. 12. ข้อใดไม่ใช่วิธี การเขียน วัน เดือน ปี ตามวิธีการของบัญชี
ก. ถ้าอยู่ในคนละหน้าเดียวกันให้เขียน พ.ศ. เพียงครั้งเดียวลง
ในช่อง พ.ศ. ของทุกหน้า
ข. การเขียน เดือน นิยมเขียนอักษรย่อ ของแต่ละเดือน
ถ้าอยู่ในเดือนเดียวกันให้เขียน เดือน เพียงครั้งเดียวในแต่ละหน้าบัญชี
ค. วัน ให้เขียนวันที่ เรียงตามลำาดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน
ง. การเขียน วัน เดือน ปี ในรูปแบบของบัญชี จะต้องเขียน ปี
พ.ศ. ……… เดือน วันที่ แต่เวลาอ่าน วัน เดือน ปี