1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2557
ชื่อโครงงาน STEM Education
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1 นางสาวอนัญลักษณ์ ไชยวุฒิ เลขที่ 4 ชั้น 6 ห้อง 7
2 นางสาววทันยา ตาสุวรรณ์ เลขที่ 5 ชั้น 6ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นางสาวอนัญลักษณ์ ไชยวุฒิ เลขที่ 4
2 นางสาววทันยา ตาสุวรรณ์ เลขที่ 5
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เสต็มศึกษา
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) STEM Education
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1 นางสาวอนัญลักษณ์ ไชยวุฒิ เลขที่ 4 ชั้น 6 ห้อง 7
2 นางสาววทันยา ตาสุวรรณ์ เลขที่ 5 ชั้น 6ห้อง 7
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
ที่มาและความสาคัขของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
โครงงานเรื่องนี้ได้จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้ศึกษามีกระบวนการทางความคิดที่เน้นการลงมือปฏิบัติโดยมองปัญหาที่ ต้องการจะประปรุง ดังนั้น STEM จึงเป็นมากกว่าการบูรณาการโดยทั่วๆไป แต่จะต้องเป็นการผสมผสาน เชื่อมโยง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Science) คณิตศาสตร์ (Mathematics) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และ เทคโนโลยี (Technology) เข้าด้วยกันเป็นก้อนเดียว เพื่อค้นหาคาตอบของปัญหาที่สนใจ ด้วยกระบวนการ STEM แล้วได้ คาตอบออกมาเป็นชิ้นงาน วิธีการหรือกระบวนการที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในทางปฏิบัติ นอกจากนี้จะ เห็นได้ว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นสิ่งสาคัญที่ผู้ศึกษาควรที่จะต้องมีก่อนอื่นใด เพราะเป็น พื้นฐานที่จะนาไปสู่กระบวนการ STEM ในลาดับต่อไป อาจกล่าวได้ว่า การเรียนการสอนแบบปกติในวิชา วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ยังมีอยู่ แต่ STEM จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ผู้ศึกษาได้คิดและเห็นว่าจะนาความรู้จาก การเรียนไปใช้ในชีวิตประจาวันและสร้างมูลค่าได้อย่างไรนั่นเอง

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจใน STEM Education
2. เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเสต็มศึกษามากยิ่งขึ้น
3. เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาตนเองในด้านการศึกษา
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
- ความหมายของ STEM Education และแนวทางการพัฒนาการศึกษาในอนาคต
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
-
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- เลือกประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ - เลือกหัวข้อโครงงาน
- ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
- จัดทาเป็น ppt. file ลงซีดี
- นาเสนอผลงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- อินเทอร์เน็ต
- โปรแกรม Microsoft PowerPoint
- โปรแกรม Microsoft Word
งบประมาณ
0 บาท

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั บ
ที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่
ผู้รับผิดชอบ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
1
คิดหัวข้อโครงงาน
ทางาน ร่วมกัน
2
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3
จัดทาโครงร่างงาน
4
ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน
5
ปรับปรุงทดสอบ
6
การทาเอกสารรายงาน
7
ประเมินผลงาน
8
นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ผู้ศึกษาสามารถเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดเพื่อเป็นแนวทางการจัดการศึกษาทีเน้นการบูรณาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยเน้นการนาความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตและการทางาน
สถานที่ดาเนินการ - บ้าน
- โรงเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- กลุ่มการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์
- กลุ่มการเรียนรู้สาระคณิตศาสตร์
- กลุ่มการเรียนรู้สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี
- กลุ่มการเรียนรู้สาขาวิศวกรรมศาสตร์

5. 5
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
ขอขอบคุณ
http://www.kukai.ac.th/Thai/doc/STEM-Education.pdf
http://www.edtechbooks.com/articles/42143437/%E2%80%9CSTEM%20Education%E2%80%9D%20%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2.html
http://www.chancoaching.rbru.ac.th/images/stem.pdf