หลักการแก้ปัญหาและการพัฒนาโปรแกรม

2. 1. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
- ระบุข้อมูลนาออก
- ระบุข้อมูลนาเข้า
- รายละเอียดของปัญหา
2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
3. การดาเนินการแก้ปัญหา
4. การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ

3.  ประกอบ 3 ขั้นตอน
1. การระบุข้อมูลนาออก คือ สิ่งที่โจทย์ต้องการให้แก้ปัญหา
2. การระบุข้อมูลน้าเข้า คือ สิ่งที่โจทย์กาหนดให้มาตั้งแต่แรก
3. รายละเอียดของปัญหา คือ การพิจารณาความต้องการของปัญหา

4.  เป็นการตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือใดในการแก้ปัญหา ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการ
ออกแบบขั้นตอนวิธี เช่น
รหัสจาลอง เป็นการเขียนอธิบายด้วยคาพูดง่ายๆ เป็นขั้นๆ
ผังงาน เป็นการใช้สัญลักษณ์ในการแสดงรายละเอียดของปัญหา
ข้อดีของการใช้เครื่องมือช่วยในการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา คือ จะสามารถ
ตรวจสอบความถูกต้อง หาจุดผิดพลาดและแก้ไขขั้นตอนในการแก้ปัญหาที่
ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว

5.  เป็นขั้นตอนการใช้โปรแกรมประยุกต์หรือเขียนโปรแกรมขึ้นเองโดยใช้
ภาษาคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะในการใช้งานโปรแกรม
ซึ่งจะสาเร็จได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความชัดเจนถูกต้องของวิธี
แก้ปัญหาที่ได้ออกแบบไว้และความสามารถในการเขียนหรือใช้งานโปรแกรม
หรือภาษาคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้พัฒนาควรคานึงถึงความยืดหยุ่นของโปรแกรมที่
ได้ออกแบบขึ้นด้วย เพื่อให้รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

6.  ขั้นตอนนี้เป็นตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการแก้ปัญหา รวมทั้งโปรแกรมที่
พัฒนาขึ้นให้ผลลัพธ์ถูกต้อง โดยต้องตรวจสอบว่าขั้นตอนวิธีที่สร้างขึ้น
สอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหาซึ่งได้แก่ ข้อมูลเข้า ข้อมูลออกที่ได้ระบุไว้
หากทดสอบโปรแกรมแล้วยังให้ผลลัพธ์ที่ยังไม่ถูกต้อง ก็ต้องมีการปรับปรุง
วิธีการในการแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพที่สุด

7. 1. การกาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
2. การเขียนผังงานและซูโดโค้ด
3. การเขียนโปรแกรม
4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
5. การทาเอกสารและบารุงรักษาโปรแกรม

8. เป็นขั้นตอนแรกที่นักเขียนโปรแกรมจะต้องทาการให้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา
ต่างๆ ให้ ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย 3 ขั้นตอน
1. กาหนดขอบเขตของปัญหา
2. กาหนดลักษณะของข้อมูลเข้าและออกจากระบบ
3. กาหนดวิธีการประมวลผล

9.  เมื่อวิเคราะห์ปัญหาได้แล้ว เราจะมาเขียนเป็นลาดับขั้นตอนการทางานของ
โปรแกรมที่เรียกว่า อัลกอริทึม ซึ่งอาจจะเขียนในรูปของรหัสจาลองหรือหรือ
ผังงาน
 รหัสลาลองหรือซูโดโค้ด จะเป็นคาอธิบายขั้นตอนการทางานของโปรแกรม เป็น
คาย่อไม่มีรูปแบบเฉพาะตัว
 ผังงาน จะใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนการทางานและทิศทางของโปรแกรม

10.  เป็นการเขียนโปรแกรมเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้โดยเปลี่ยน
ขั้นตอนการทางานให้อยู่ในรูปรหัสของภาษาคอมพิวเตอร์ โดยการเขียน
โปรแกรมแต่ละภาษาจะต้องทาตามหลักไวยากรณ์ที่กาหนดไว้ในภาษานั้น

11.  ขั้นตอนนี้เป็นทดสอบความถูกต้องของโปรแกรมที่เขียนขึ้น หาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรมว่ามีหรือไม่
 จุดผิดพลาดของโปรแกรม เรียกว่า บัก (BUG)
 การแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้อง เรียกว่า ดีบัก (Debug)
 ข้อผิดพลาดของการเขียนโปรแกรม มี 2 ประเภท
- Syntax Error
- Logic Error

12.  ขั้นตอนนี้จะทาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
สะดวกในการตรวจสอบข้อผิดพลาด โดยจัดทาเป็นเอกสารประกอบโปรแกรม
ขึ้นมา ซึ่งแบ่งได้2 ประเภท
1. คู่มือการใช้
2. คู่มือโปรแกรมเมอร์
ในการบารุงรักษาโปรแกรม จะเป็นหน้าที่ของผู้เขียนโปรแกรมทาการตรวจสอบการ
ใช้โปรแกรมจริง เพื่อหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดในภายหลัง รวมถึงการพัฒนา
โปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ

13.  http://krununnaphat2011.wordpress.com/

14.  หลักการแก้ปัญหา
- การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
 ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
- การกาหนดและวิเคราะห์ปัญหา

15.  ปัญหา มาโรงเรียนสาย
 เหตุผลที่เลือกปัญหานี้ เพราะถูกทาโทษ
1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
ข้อมูลนาออก แก้ปัญหาการมาโรงเรียนสาย เพื่อจะได้ไม่ถูกทาโทษ
ข้อมูลนาเข้า มาโรงเรียนสาย
รายละเอียดของปัญหา ต้องการหาวิธีการแก้ไขการมาโรงเรียนสาย

16. 2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
คือ เข้านอนให้เร็วขึ้น ๆ ไม่ดูทีวีดึก
3. การดาเนินการแก้ปัญหา
คือ จัดตารางเวลา ว่าใช้เวลาทาการบ้าน อ่านหนังสือ กี่ชั่วโมง ดูทีวีกี่ชั่วโมง
ต้องเข้านอนกี่ทุ่ม
4. การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ
คือ นาตารางเวลาที่จัดไว้มาปฏิบัติ หากทาตามแล้วสามารถไปโรงเรียนได้
ทันเวลาแสดงว่าวิธีการนี้ใช้ได้ หากนามาใช้ไม่ได้ผลก็ให้กลับขั้นตอนที่2 เลือก
ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาใหม่

17.  ปัญหา คอมพิวเตอร์ติดไวรัส
 เหตุผลที่เลือกปัญหานี้ เพราะคอมพิวเตอร์ทางานได้ช้า มีปัญหา
1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
ข้อมูลนาออก แก้ปัญหาการติดไวรัสของคอมพิวเตอร์ เพื่อจะได้ทางานได้
สะดวกมากขึ้น
ข้อมูลนาเข้า คอมพิวเตอร์ติดไวรัส
รายละเอียดของปัญหา ต้องการหาวิธีการแก้ไขคอมพิวเตอร์ติดไวรัส

18. 2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
คือ ติดตั้งโปรแกรม antivirus , ลง windows ใหม่ ,
update antivirus
3. การดาเนินการแก้ปัญหา
คือ ทาการ update antivirus เป็นประจาและสแกนอุปกรณ์ที่ใช้
กับเครื่องคอมพิวเตอรทุกครั้ง
4. การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ
คือ ใช้วิธีการตามข้างต้น หากทาตามแล้วเครื่องไม่มีไวรัสหรือไวรัสไม่เกิดขึ้น
ใหม่ หากนามาใช้ไม่ได้ผลก็ให้กลับขั้นตอนที่2 เลือกขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
ใหม่

19.  1. การกาหนดและวิเคราะห์ปัญหา
คอมพิวเตอร์ติดไวรัส
2. เขียนผังงานและซูโดโค้ด
เริ่มต้น
ตรวจสอบว่าโปรแกรม antivirus มีการ update เป็นปัจจุบันรึเปล่า
ถ้าใช่ สแกนไวรัสกับอุปกรณ์ ก่อนใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่ใช่ ไป update โปรแกรม antivirus ให้เป็นปัจจุบัน
จบ

20.  3. การเขียนโปรแกรม
เขียนโปรแกรมในส่วนการเรียกการ update antivirus หรือเขียน
โปรแกรม antivirus ขึ้นมาใหม่
4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
นาโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาทดสอบว่าใช้งานได้ดีหรือเป็นปกติหรือไม่ ถ้าไม่ก็
นาไปปรับปรุง พัฒนาต่อไป
5. จัดทาคู่มือการใช้งานโปรแกรม พร้อมการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในกรณีที่
โปรแกรมทีปัญหา