SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
Download to read offline
แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 8
1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้กำรเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นกำรตกแบบเสรี กำหนดให้ กำรเคลื่อนที่ทุกข้อ
ไม่คิดแรงต้ำนอำกำศ
1. โยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่ง
2. ปล่อยลูกกอล์ฟจำกยอดตึกให้ตกลงมำในแนวดิ่ง
3. ยิงลูกปืนจำกยอดหน้ำผำออกไปในแนวระดับ
4. ผูกถุงทรำยเข้ำกับสปริงในแนวดิ่งซึ่งตึงไว้กับเพดำน ดันถุงทรำบขึ้นแล้วปล่อย
2. วัตถุ A มีมวล 10 กิโลกรัม วำงอยู่นิ่งบนพื้น ส่วนวัตถุ B ซึ่งมีมวลเท่ำกัน กำลังตกลงสู่พื้นโลก
ถ้ำไม่คิดแรงต้ำนของอำกำศ และกำหนดให้ทั้ง A และ B อยู่ในบริเวณที่ขนำดสนำมโน้มถ่วง
ของโลกเท่ำกับ 9.8 นิวตัน/กิโลกรัม ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. วัตถุทั้งสองมีน้ำหนักเท่ำกัน
2. วัตถุทั้งสองมีอัตรำเร่งในแนวดิ่งเท่ำกัน คือ 9.8 เมตร/วินำที 2
3. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ A มีขนำดเท่ำกับ 98 นิวตัน
4. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ B มีขนำดเท่ำกับ 98 นิวตัน
3. จำกแผนภำพแสดงลักษณะของเส้นสนำมแม่เหล็กที่เกิดจำกแท่งแม่เหล็กสองแท่ง ข้อใดบอกถึง
ขั้วแม่เหล็กที่ตำแหน่ง A , B , C และ D ได้ถูกต้อง
1. A และ C เป็นขั้วเหนือ B และ D เป็นขั้วใต้
2. A และ D เป็นขั้วเหนือ B และ C เป็นขั้วใต้
3. B และ C เป็นขั้วเหนือ A และ D เป็นขั้วใต้
4. B และ D เป็นขั้วเหนือ A และ C เป็นขั้วใต้
4. บริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม ABCD เป็นบริเวณที่มีสนำมแม่เหล็กสม่ำเสมอซึ่งมีทิศพุ่งออกตั้งฉำกกับ
กระดำษดังรูป ข้อใดต่อไปนี้ที่ทำให้อนุภำคโปรตอนเคลื่อนที่เบนเข้ำหำด้ำน AB ได้
1. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน AD ในทิศตั้งฉำกกับเส้น AD
2. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน BC ในทิศตั้งฉำกกับเส้น BC
3. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน AD ในทิศตั้งฉำกกับเส้น AC
4. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน DC ในทิศตั้งฉำกกับเส้น DB
5. วำงอนุภำคอิเล็กตรอนในบริเวณซึ่งมีเฉพำะสนำมไฟฟ้ำที่มีทิศไปทำงขวำดังรูป อนุภำคอิเล็กตรอน
จะมีกำรเคลื่อนที่เป็นไปตำมข้อใด
1. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนขึ้นข้ำงบน
2. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนลงข้ำงล่ำง
3. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงขวำ
4. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงซ้ำย
6. อนุภำคโปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน อนุภำคในข้อใดที่เมื่อนำไปวำงในสนำมไฟฟ้ำแล้ว
จะมีแรงไฟฟ้ำกระทำ
1. นิวตรอน 2. โปรตอนและนิวตรอน
3. โปรตอนและอิเล็กตรอน 4. โปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน
7. แรงในข้อใดต่อไปนี้เป็นแรงประเภทเดียวกันกับแรงที่ทำให้ลูกแอปเปิลตกลงสู่พื้นโลก
1. แรงที่ทำให้ดวงจันทร์อยู่ในวงโคจรรอบโลก
2. แรงที่ทำให้อิเล็กตรอนอยู่ในอะตอมได้
3. แรงที่ทำให้โปรตอนหลำยอนุภำคอยู่รวมกัน
4. แรงที่ทำให้ป้ำยแม่เหล็กติดอยู่บนฝำตู้เย็น
8. กำรเคลื่อนที่ของข้อใดต่อไปนี้ที่ควำมเร่งของวัตถุเป็นศูนย์
1. กำรเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วยอัตรำเร็วคงตัว
2. กำรตกลงตรง ๆ ในแนวดิ่งโดยไม่มีแรงต้ำนอำกำศ
3. กำรเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงในแนวระดับด้วยอัตรำเร็วคงตัว
4. กำรไถลลงเป็นเส้นตรงบนพื้นเอียงลื่นที่ไม่มีแรงเสียดทำน
9. รถยนต์คนหนึ่งแล่นด้วยอัตรำเร็วคงตัว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทำงที่รถยนต์คันนี้แล่นได้
ในเวลำ 6 นำที เป็นไปตำมข้อใด
1. 0.3 กิโลเมตร 2. 2.0 กิโลเมตร
3. 3.3 กิโลเมตร 2. 120 กิโลเมตร
10. เด็กคนหนึ่งวิ่งเป็นเส้นตรงไปทำงขวำ 20 เมตร ในเวลำ 4 วินำที จำกนั้นก็หันกลับแล้ววิ่งเป็น
เส้นตรงไปทำงซ้ำยอีก 2 เมตร ในเวลำ 1 วินำที ขนำดควำมเร็วเฉลี่ยของเด็กคนนี้เป็นไปตำมข้อใด
1. 3.5 เมตรต่อวินำที 2. 3.6 เมตรต่อวินำที
3. 6.0 เมตรต่อวินำที 2. 7.0 เมตรต่อวินำที
11. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้วัตถุมีกำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย
1. แขวนลูกตุ้มด้วยเชือกในแนวดิ่ง ผลักลูกตุ้มให้แกว่งเป็นวงกลม โดยเส้นเชือกทำมุมคงตัวกับ
แนวดิ่ง
2. แขวนลูกตุ้มด้วยเชือกในแนวดิ่งดึงลูกตุ้มออกมำจนเชือกทำมุมกับแนวดิ่งเล็กน้อยแล้วปล่อยมือ
3. ผูกวัตถุกับปลำยสปริงในแนวระดับ ตรึงอีกด้ำนของปลำยสปริงไว้ ดึงวัตถุให้สปริงยืดออก
เล็กน้อย แล้วปล่อยมือ
4. ผูกวัตถุกับปลำยสปริงในแนวดิ่ง ตรึงอีกด้ำนของปลำยสปริงไว้ ดึงวัตถุให้สปริงยืดออก
เล็กน้อย แล้วปล่อยมือ
12. ผูกวัตถุด้วยเชือกแล้วเหวี่ยงให้เคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวระนำบดิ่ง ขณะที่วัตถุเคลื่อนที่มำถึง
ตำแหน่งสูงสุดของวงกลม ดังแสดงในรูป แรงชนิดใดในข้อต่อไปนี้ที่ทำน้ำที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลำง
1. แรงดึงเชือก
2. น้ำหนักของวัตถุ
3. แรงดึงเชือกบวกกับน้ำหนักของวัตถุ
4. ที่ตำแหน่งนั้น แรงสู่ศูนย์กลำงเป็นศูนย์
13. กำรเตะลูกบอลอกไป ทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ดังรูป และกำหนดให้ทิศขึ้นเป็น
บวก กรำฟในข้อใดต่อไปนี้บรรยำยควำมเร่งในแนวดิ่งของลูกบอลได้ถูกต้อง ถ้ำไม่คิดแรงต้ำน
อำกำศ
14. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับคลื่นตำมยำว
1. เป็นคลื่นที่ของตัวกลำงมีกำรสั่นในแนวเดียวกับกำรเคลื่อนที่ของคลื่น
2. เป็นคลื่นที่เคลื่อนที่ไปตำมแนวยำวของตัวกลำง
3. เป็นคลื่นที่ไม่ต้องอำศัยตัวกลำงในกำรเคลื่อนที่
4. เป็นคลื่นที่อนุภำคของตัวกลำงมีกำรสั่นได้หลำยแนว
15. ข้อใดต่อไปนี้ที่มีผลทำให้อัตรำเร็วของคลื่นเสียงในอำกำศเปลี่ยนแปลงได้
1. ลดควำมถี่ 2. เพิ่มควำมยำวคลื่น
3. เพิ่มแอมพลิจูด 4. ลดอุณหภูมิ
16. สมบัติตำมข้อใดของคลื่นเสียงที่เกี่ยวข้องกับกำรเกิดบีตส์
1. กำรสะท้อน 2. กำรหักเห
3. กำรเลี้ยวเบน 4. กำรแทรกสอด
17. ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ค้ำงคำวอำศัยคลื่นเสียงในย่ำนอินฟรำโซนิกในกำรบอกทิศทำงและจับเหยื่อ
2. สุนัขสำมำรถได้ยินเสียงที่มีควำมถี่ในย่ำนอัตรำโซนิกได้
3. เสียงที่มีควำมถี่ในย่ำนอินฟรำโซนิกจะมีควำมถี่ต่ำกว่ำควำมถี่ที่มนุษย์สำมำรถได้ยิน
4. คลื่นเสียงในย่ำยอัลตรำโซนิกสำมำรถใช้ทำควำมสะอำดเครื่องมือแพทย์
18. เครื่องโซนำร์ในเรือประมงได้รับสัญญำณสะท้อนจำกท้องทะเล หลังจำกส่งสัญญำณลงไปเป็น
เวลำ 0.4 วินำที ถ้ำอัตรำเร็วเสียงในน้ำเป็น 1,500 เมตรต่อวินำที ทะเลมีควำมลึกเท่ำเท่ำกับข้อใด
1. 150 เมตร 2. 300 เมตร
3. 600 เมตร 4. 900 เมตร
19. คลื่นในข้อใดต่อไปนี้ที่มีควำมยำวคลื่นสั้นที่สุด
1. คลื่นวิทยุ 2. คลื่นอินฟรำเรด
3. คลื่นไมโครเวฟ 4. คลื่นแสงที่ตำมองเห็น
20. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับไอโซโทปสองไอโซโทปของธำตุชนิดเดียวกัน
1. มีจำนวนนิวคลีออนเท่ำกัน 2. มีเลขมวลเท่ำกัน
3. มีเลขอะตอมเท่ำกัน 4. มีจำนวนนิวตรอนเท่ำกัน
21. ธำตุหรือไอโซโทปในข้อใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิกิริยำนิวเคลียร์ฟิวชันที่เกิดขึ้นที่ดวงอำทิตย์
1. ไฮโดรเจน 2. ดิวเทอเรียม
3. ทริเทียม 4. ฮีเลียม
22. รังสีในข้อใดใช้สำหรับฉำยฆ่ำเชื้อโรคในเครื่องมือทำงกำรแพทย์
1. รังสีแกมมำ 2. รังสีบีตำ
3. รังสีอินฟรำเรด 4. รังสีแอลฟำ
23. รถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนที่จำกหยุดนิ่งไปบนเส้นตรง เวลำผ่ำนไป 4 วินำที มีควำมเร็วเป็น 8 เมตร/
วินำทีถ้ำอัตรำเร็วเพิ่มขึ้นอย่ำงสม่ำเสมอ รถยนต์คันนี้มีควำมเร่งท่ำใด
1. 2 m/s 2. 4 m/s
3. 12m/s 4.14 m/s
24. เด็กคนหนึ่งเดินไปทำงทิศเหนือได้ระยะทำง 30 เมตร จำกนั้นเดินไปทำงทิศตะวันออกได้ระยะทำง
400 เมตร ใช้เวลำเดินทำงทั้งหมด 500 วินำที เด็กคนนี้เดินด้วยอัตรำเร็วเฉลี่ยกี่เมตร/วินำที
1. 0.2 m/s 2. 1.0 m/s
3.1.4 m/s 4. 2.0 m/s
24. ยิงวัตถุจำกหน้ำผำออกไปในแนวระดับ ปริมำณใดของวัตถุมีค่ำคงที่
1.อัตรำเร็ว 2. ควำมเร็ว
3.ควำมเร็วในแนวดิ่ง 4.ควำมเร็วในแนวระดับ
25. เหวี่ยงจุกยำงให้เคลื่อนที่เป็นแนววงกลมในระนำบระดับศีรษะ 20 รอบใช้เวลำ 5 วินำที จุกยำง
เคลื่อนที่ด้วยควำมเร็วเท่ำใด
1. 0.25 รอบ/วินำที 2. 4 รอบ/วินำที
3. 5 รอบ/วินำที 4. 10 รอบ/วินำที
26. กำรเคลื่อนที่ใดที่แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีทิศตั้งฉำกกับทิศของกำรเคลื่อนที่ตลอดเวลำ
1. กำรเคลื่อนที่ในแนวตรง 2. กำรเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วย
อัตรำเร็วคงที่
3. กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ 4. กำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย
27. กำรเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง กรำฟในข้อใดแสดงว่ำวัตถุกำลังเคลื่อนที่ด้วยควำมเร็วคงตัว(ตอบข้อ4)
28. สนำมแม่เหล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของเคลื่อนแสงนั้น มีทิศทำงตำมข้อใด
1. ขนำนกับทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของแสง
2. ขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ แต่ตั้งฉำกกับทิศกำรเคลื่อนที่ของแสง
3. ตั้งฉำกกับทั้งสนำมไฟฟ้ำและทิศกำรเคลื่อนที่ของแสง
4. ตั้งฉำกกับสนำมไฟฟ้ำแต่ขนำนกับทิศของกำรเคลื่อนที่ของแสง
29. โดยปกติเข็มทิศจะวำงตัวตำมแนวทิศเหนือ-ใต้ เมื่อนำเข็มทิศมำวำงใกล้ๆ กับกึ่งกลำงแท่งแม่เหล็ก
ที่ตำแหน่งดังรูป เข็มทิศจะชี้ในลักษณะใด(ตอบข้อที่4)
30. ลำอนุภำค P และ Q เมื่อเคลื่อนที่ผ่ำนสนำมแม่เหล็ก B ที่มีทิศพุ่งออกตั้งฉำกกับกระดำษมีกำร
เบี่ยงเบนดังรูป ถ้ำนำอนุภำคทั้งสองไปวำงไว้ในบริเวณที่มีสนำมฟ้ำสม่ำเสมอ แนวกำรเคลื่อนที่
จะเป็นอย่ำงไร
1. เคลื่อนที่ไปทำงเดียวกันในทิศทำงเดียวกันในทิศทำงตำมเส้นสนำมไฟฟ้ำ
2. เคลื่อนที่ไปทำงเดียวกันในทิศทำงตรงข้ำมกับสนำมไฟฟ้ำ
3. เคลื่อนที่ในทิศตรงข้ำมกันโดยอนุภำค P ไปทำงเดียวกับสนำมไฟฟ้ำ
4. เคลื่อนที่ในทิศตรงข้ำมกันโดยอนุภำค Q ไปทำงเดียวกับสนำมไฟฟ้ำ
31. อนุภำคแอลฟำ อนุภำคบีตำ รังสีแกมมำ เมื่อเคลื่อนที่ในสนำมแม่เหล็ก ข้อใดไม่เกิดกำรเบน
1. อนุภำคแอลฟำ 2. อนุภำคบีตำ
3. รังสีแกมมำ 4. อนุภำคแอลฟำและบีตำ
32. วำงลวดไว้ในสนำมแม่เหล็กดังรูป เมื่อให้กระแสไฟฟ้ำเข้ำไปในเส้นลวดตัวนำจะเกิดแรงเนื่องจำก
สนำมแม่เหล็กกระทำต่อลวดนี้ในทิศทำงใด
1. ไปทำงซ้ำย (เข้ำหำ N) 2. ไปทำงขวำ (เข้ำหำ S)
3. ลงข้ำงล่ำง 4. ขึ้นด้ำนบน
33. อนุภำคโปรตอนเคลื่อนที่เข้ำไปในทิศขนำนกับสนำมแม่เหล็กซึ่งมีทิศพุ่งเข้ำกระดำษ แนวกำร
เคลื่อนที่ของอนุภำคโปรตอนเป็นอย่ำงไร
1. วิ่งต่อไปเป็นเส้นตรงด้วยควำมเร็วคงตัว 2. เบนไปทำงขวำ
3. เบนไปทำงซ้ำย 4. วิ่งต่อไปเป็นส้นตรงและถอยหลัง
กลับในที่สุด
34. มนุษย์อวกำศสองคนปฏิบัติกำรภำรกิจบนพื้นผิวดวงจันทร์ สื่อสำรกันด้วยวิธีใดสะดวกที่สุด
1. คลื่นเสียงธรรมดำ 2. คลื่นเสียงอัลตรำซำวด์
3. คลื่นวิทยุ 4. คลื่นโซนำร์
35. เมื่อคลื่นเคลื่อนจำกตัวกลำงที่หนึ่งไปตังกลำงที่สองโดยอัตรำเร็วของคลื่นลดลง ถำมว่ำสำหรับคลื่น
ในตัวกลำงที่สอง ข้อควำมใดถูกต้อง
1. ควำมถี่เพิ่มขึ้น 2. ควำมถี่ลดลง
3. ควำมยำวคลื่นมำกขึ้น 4. ควำมยำวคลื่นลดลง
36. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำที่นิยมใช้ในรีโมทควบคุมกำรทำงำนของเครื่องโทรทัศน์คือข้อใด
1. อินฟรำเรด 2. ไมโครเวฟ
3. คลื่นวิทยุ 4. อัลตรำไวโอเลต
37. ระดับเสียงและคุณภำพเสียงขึ้นอยู่กับสมบัติใดตำมข้อใด
1. ควำมถี่ รูปร่ำงคลื่น 2. รูปร่ำงคลื่น ควำมถี่
3. แอมพลิจูด ควำมถี่ 4. ควำมถี่ แอมพลิจูด
38. ถ้ำกระทุ่มน้ำเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลูกปิงปองที่ลอยอยู่ห่ำงออกไปจะเคลื่อนที่อย่ำงไร
1. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ออกห่ำงไปมำกขึ้น 2. ลูกปิงปองเคลื่อนที่เข้ำมำหำ
3. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ขึ้น-ลงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม 4. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ไปด้ำนข้ำง
39. ข้อใดต่อไปนี้เป็นวัตถุประสงค์ของกำรบุผนังของโรงงำนภำพยนตร์ด้วยวัสดุกลืนเสียง
1. ลดควำมถี่ของเสียง 2. ลดควำมดังของเสียง
3. ลดกำรสะท้อนของเสียง 4. ลดกำรหักเหของเสียง
40. กิจกรรมกำรศึกษำที่เปรียบเทียบกำรสลำยกัมมันตรังสีกับกำรทอดลูกเต๋ำนั้น จำนวนลูกเต๋ำที่ถูกคัด
ออกเทียบได้กับปริมำณใด
1. เวลำครึ่งชีวิต 2. จำนวนนิวเคลียสตั้งต้น
3.จำนวนนิวเคลียสที่เหลืออยู่ 4. จำนวนนิวเคลียสที่สลำย
41. รังสีใดที่นิยมใช้ในกำรอำบรังสีผลไม้
1. รังสีเอกซ์ 2. รังสีแกมมำ
3. รังสีบีตำ 4. รังสีแอลฟำ
42. ทิศของกระแสไฟฟ้ำตำมสำกลนิยมคิดจำกอะไร
1. ทิศที่โปรตอนเคลื่อนที่
2. ทิศที่อิเล็กตอนเคลื่อนที่
3. ทิศที่อิออนลบเคลื่อนที่หรือทิศที่ตรงข้ำมทิศที่อิออนบวกเคลื่อนที่
4. ทิศที่อนุภำคไฟฟ้ำบวกเคลื่อนที่หรือทิศตรงข้ำมกับที่อนุภำคไฟฟ้ำลบเคลื่อนที่
43.ข้อควำมในข้อใดผิด
1. กระแสไฟฟ้ำในสำรอิเล็กโทรไลต์เกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของไอออนบวกและไอออนลบ
2. กระแสไฟฟ้ำในหลอดบรรจุก๊ำซเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและไอออนบวก
3. กระแสไฟฟ้ำในโลหะเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระ
4. กระแสไฟฟ้ำในสำรกึ่งตัวนำเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระ
44. จำกกำรทดลองโดยใช้ผงตะไบเหล็กหำเส้นแรงแม่เหล็ก เรำจะทรำบ
1. ค่ำขนำดของสนำมแม่เหล็ก
2. ทิศทำงของสนำมแม่เหล็ก
3. ตำแหน่งจุดสะเทิน
4. ถูกทุกข้อ
45. บริเวณใดบนพื้นโลกที่มีควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กตำมแนวรำบมำกที่สุด
1. แถบทวีปยุโรป
2. แถบเส้นสูนย์สูตร
3. แถบขั้วโลกเหนือ
4. แถบขั้วโลกใต้
46. นักวิทยำศำสตร์ที่ค้นพบว่ำ มีรังสีชนิดหนึ่งที่ปล่อยออกมำจำกธำตุยูเรเนียมตลอดเวลำ
และถูกระบุว่ำเป็นคนที่ค้นพบกัมมันตภำพรังสีคนแรก มีชื่อว่ำอย่ำงไร ?
ก. มำรี กูรี
ข. ปีแอร์ กูรี
ค. แบ็กเกอเรล
ง. แชดวิก
47. กัมมันตภำพรังสี หมำยถึง อะไร ?
ก. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุเมื่อโดนแสงแดด
ข. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุได้เองอย่ำงต่อเนื่อง
ค. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุเมื่อแตกตัวเป็นประจุไฟฟ้ำ
ง. รังสีที่เกิดจำกกำรเปลี่ยนวงโคจรของอิเล็กตรอน
48. ธำตุที่มีคุณสมบัติแผ่รังสีได้เอง เรียกว่ำ อะไร ?
ก. ธำตุกัมมันตรังสี
ข. ธำตุประกอบ
ค. ธำตุรังสี
ง. รังสีธำตุ
49. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุกัมมันตรังสี มีกี่ชนิด อะไรบ้ำง ?
ก. 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีอินฟำเรด
ข. 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีแกมมำ
ค 4 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีแกมมำ รังสีอินฟำเรด
ง. 4 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีอินฟำเรด รังสีเอกซ์
50. ข้อใดคือคุณสมบัติของรังสี แอลฟำ ?
ก. เป็นนิวเคลียสของธำตุฮีเลียม มีประจุไฟฟ้ำ +2 มีมวล 4u มีอำนำจทะลุผ่ำนต่ำ
ข. อนุภำคที่มีประจุ -1 มีมวลเท่ำกับมวลอิเล็กตรอน มีอำนำจทะลุผ่ำนปำนกลำง
ค. เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ มีอำนำจทะลุผ่ำนมำกที่สุด
ง. เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ มีควำมถี่ต่ำมำก มีอำนำจทะลุผ่ำนต่ำที่สุด
ที่มำ
แนวข้อสอบภำค ข.(ออนไลน์).แหล่งที่มำ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vichamun&month=07-
2013&date=13&group=58&gblog=108

More Related Content

What's hot

แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2
แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2
แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2Montida Phayawet
 
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5Wan Ngamwongwan
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีสWijitta DevilTeacher
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่นKruNistha Akkho
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชลธิกาญจน์ จินาจันทร์
 
05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลังPhanuwat Somvongs
 
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)สำเร็จ นางสีคุณ
 
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1dnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการWichai Likitponrak
 
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์krupornpana55
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หายใจ
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หายใจบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หายใจ
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หายใจPinutchaya Nakchumroon
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมJariya Jaiyot
 
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีwebsite22556
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบส
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบสใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบส
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบสAomiko Wipaporn
 

What's hot (20)

แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2
แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2
แนวข้อสอบภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 2
 
Kingdom monera
Kingdom moneraKingdom monera
Kingdom monera
 
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5 dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
dnaกับลักษณะทางพันธุกรรมม.5
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
 
05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง
 
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
10แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 1)
 
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วิวัฒนาการ
 
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
 
แสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็นแสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็น
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หายใจ
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หายใจบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หายใจ
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หายใจ
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
 
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
 
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบส
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบสใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบส
ใบกิจกรรมที่ 7 การรักษาดุลยภาพของกรดเบส
 

Similar to แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 8

0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549saiyok07
 
โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3Papang Rakchanoke
 
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)rapinn
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียงKruanek007
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียงthanakit553
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียงKruanek007
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52joybh42
 
เรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลเรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลApinya Phuadsing
 
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆthanakit553
 

Similar to แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 8 (20)

o net-2552
o net-2552o net-2552
o net-2552
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
 
ฟิสิกส์
ฟิสิกส์ฟิสิกส์
ฟิสิกส์
 
Physics
PhysicsPhysics
Physics
 
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงานตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
 
20012554 1005492525
20012554 100549252520012554 1005492525
20012554 1005492525
 
2
22
2
 
โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3
 
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
P12
P12P12
P12
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียง
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียง
 
Earthscience
EarthscienceEarthscience
Earthscience
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
 
เสียง
เสียงเสียง
เสียง
 
เรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลเรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกล
 
P04
P04P04
P04
 
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 

แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 8

  • 1. แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 8 1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้กำรเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นกำรตกแบบเสรี กำหนดให้ กำรเคลื่อนที่ทุกข้อ ไม่คิดแรงต้ำนอำกำศ 1. โยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่ง 2. ปล่อยลูกกอล์ฟจำกยอดตึกให้ตกลงมำในแนวดิ่ง 3. ยิงลูกปืนจำกยอดหน้ำผำออกไปในแนวระดับ 4. ผูกถุงทรำยเข้ำกับสปริงในแนวดิ่งซึ่งตึงไว้กับเพดำน ดันถุงทรำบขึ้นแล้วปล่อย 2. วัตถุ A มีมวล 10 กิโลกรัม วำงอยู่นิ่งบนพื้น ส่วนวัตถุ B ซึ่งมีมวลเท่ำกัน กำลังตกลงสู่พื้นโลก ถ้ำไม่คิดแรงต้ำนของอำกำศ และกำหนดให้ทั้ง A และ B อยู่ในบริเวณที่ขนำดสนำมโน้มถ่วง ของโลกเท่ำกับ 9.8 นิวตัน/กิโลกรัม ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง 1. วัตถุทั้งสองมีน้ำหนักเท่ำกัน 2. วัตถุทั้งสองมีอัตรำเร่งในแนวดิ่งเท่ำกัน คือ 9.8 เมตร/วินำที 2 3. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ A มีขนำดเท่ำกับ 98 นิวตัน 4. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ B มีขนำดเท่ำกับ 98 นิวตัน 3. จำกแผนภำพแสดงลักษณะของเส้นสนำมแม่เหล็กที่เกิดจำกแท่งแม่เหล็กสองแท่ง ข้อใดบอกถึง ขั้วแม่เหล็กที่ตำแหน่ง A , B , C และ D ได้ถูกต้อง 1. A และ C เป็นขั้วเหนือ B และ D เป็นขั้วใต้ 2. A และ D เป็นขั้วเหนือ B และ C เป็นขั้วใต้ 3. B และ C เป็นขั้วเหนือ A และ D เป็นขั้วใต้ 4. B และ D เป็นขั้วเหนือ A และ C เป็นขั้วใต้ 4. บริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม ABCD เป็นบริเวณที่มีสนำมแม่เหล็กสม่ำเสมอซึ่งมีทิศพุ่งออกตั้งฉำกกับ กระดำษดังรูป ข้อใดต่อไปนี้ที่ทำให้อนุภำคโปรตอนเคลื่อนที่เบนเข้ำหำด้ำน AB ได้ 1. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน AD ในทิศตั้งฉำกกับเส้น AD 2. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน BC ในทิศตั้งฉำกกับเส้น BC 3. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน AD ในทิศตั้งฉำกกับเส้น AC 4. ยิงอนุภำคโปรตอนเข้ำไปในบริเวณ จำกทำงด้ำน DC ในทิศตั้งฉำกกับเส้น DB
  • 2. 5. วำงอนุภำคอิเล็กตรอนในบริเวณซึ่งมีเฉพำะสนำมไฟฟ้ำที่มีทิศไปทำงขวำดังรูป อนุภำคอิเล็กตรอน จะมีกำรเคลื่อนที่เป็นไปตำมข้อใด 1. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนขึ้นข้ำงบน 2. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนลงข้ำงล่ำง 3. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงขวำ 4. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงซ้ำย 6. อนุภำคโปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน อนุภำคในข้อใดที่เมื่อนำไปวำงในสนำมไฟฟ้ำแล้ว จะมีแรงไฟฟ้ำกระทำ 1. นิวตรอน 2. โปรตอนและนิวตรอน 3. โปรตอนและอิเล็กตรอน 4. โปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน 7. แรงในข้อใดต่อไปนี้เป็นแรงประเภทเดียวกันกับแรงที่ทำให้ลูกแอปเปิลตกลงสู่พื้นโลก 1. แรงที่ทำให้ดวงจันทร์อยู่ในวงโคจรรอบโลก 2. แรงที่ทำให้อิเล็กตรอนอยู่ในอะตอมได้ 3. แรงที่ทำให้โปรตอนหลำยอนุภำคอยู่รวมกัน 4. แรงที่ทำให้ป้ำยแม่เหล็กติดอยู่บนฝำตู้เย็น 8. กำรเคลื่อนที่ของข้อใดต่อไปนี้ที่ควำมเร่งของวัตถุเป็นศูนย์ 1. กำรเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วยอัตรำเร็วคงตัว 2. กำรตกลงตรง ๆ ในแนวดิ่งโดยไม่มีแรงต้ำนอำกำศ 3. กำรเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงในแนวระดับด้วยอัตรำเร็วคงตัว 4. กำรไถลลงเป็นเส้นตรงบนพื้นเอียงลื่นที่ไม่มีแรงเสียดทำน 9. รถยนต์คนหนึ่งแล่นด้วยอัตรำเร็วคงตัว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทำงที่รถยนต์คันนี้แล่นได้ ในเวลำ 6 นำที เป็นไปตำมข้อใด 1. 0.3 กิโลเมตร 2. 2.0 กิโลเมตร 3. 3.3 กิโลเมตร 2. 120 กิโลเมตร 10. เด็กคนหนึ่งวิ่งเป็นเส้นตรงไปทำงขวำ 20 เมตร ในเวลำ 4 วินำที จำกนั้นก็หันกลับแล้ววิ่งเป็น เส้นตรงไปทำงซ้ำยอีก 2 เมตร ในเวลำ 1 วินำที ขนำดควำมเร็วเฉลี่ยของเด็กคนนี้เป็นไปตำมข้อใด 1. 3.5 เมตรต่อวินำที 2. 3.6 เมตรต่อวินำที 3. 6.0 เมตรต่อวินำที 2. 7.0 เมตรต่อวินำที
  • 3. 11. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้วัตถุมีกำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย 1. แขวนลูกตุ้มด้วยเชือกในแนวดิ่ง ผลักลูกตุ้มให้แกว่งเป็นวงกลม โดยเส้นเชือกทำมุมคงตัวกับ แนวดิ่ง 2. แขวนลูกตุ้มด้วยเชือกในแนวดิ่งดึงลูกตุ้มออกมำจนเชือกทำมุมกับแนวดิ่งเล็กน้อยแล้วปล่อยมือ 3. ผูกวัตถุกับปลำยสปริงในแนวระดับ ตรึงอีกด้ำนของปลำยสปริงไว้ ดึงวัตถุให้สปริงยืดออก เล็กน้อย แล้วปล่อยมือ 4. ผูกวัตถุกับปลำยสปริงในแนวดิ่ง ตรึงอีกด้ำนของปลำยสปริงไว้ ดึงวัตถุให้สปริงยืดออก เล็กน้อย แล้วปล่อยมือ 12. ผูกวัตถุด้วยเชือกแล้วเหวี่ยงให้เคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวระนำบดิ่ง ขณะที่วัตถุเคลื่อนที่มำถึง ตำแหน่งสูงสุดของวงกลม ดังแสดงในรูป แรงชนิดใดในข้อต่อไปนี้ที่ทำน้ำที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลำง 1. แรงดึงเชือก 2. น้ำหนักของวัตถุ 3. แรงดึงเชือกบวกกับน้ำหนักของวัตถุ 4. ที่ตำแหน่งนั้น แรงสู่ศูนย์กลำงเป็นศูนย์ 13. กำรเตะลูกบอลอกไป ทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ดังรูป และกำหนดให้ทิศขึ้นเป็น บวก กรำฟในข้อใดต่อไปนี้บรรยำยควำมเร่งในแนวดิ่งของลูกบอลได้ถูกต้อง ถ้ำไม่คิดแรงต้ำน อำกำศ 14. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับคลื่นตำมยำว 1. เป็นคลื่นที่ของตัวกลำงมีกำรสั่นในแนวเดียวกับกำรเคลื่อนที่ของคลื่น 2. เป็นคลื่นที่เคลื่อนที่ไปตำมแนวยำวของตัวกลำง 3. เป็นคลื่นที่ไม่ต้องอำศัยตัวกลำงในกำรเคลื่อนที่ 4. เป็นคลื่นที่อนุภำคของตัวกลำงมีกำรสั่นได้หลำยแนว
  • 4. 15. ข้อใดต่อไปนี้ที่มีผลทำให้อัตรำเร็วของคลื่นเสียงในอำกำศเปลี่ยนแปลงได้ 1. ลดควำมถี่ 2. เพิ่มควำมยำวคลื่น 3. เพิ่มแอมพลิจูด 4. ลดอุณหภูมิ 16. สมบัติตำมข้อใดของคลื่นเสียงที่เกี่ยวข้องกับกำรเกิดบีตส์ 1. กำรสะท้อน 2. กำรหักเห 3. กำรเลี้ยวเบน 4. กำรแทรกสอด 17. ข้อใดไม่ถูกต้อง 1. ค้ำงคำวอำศัยคลื่นเสียงในย่ำนอินฟรำโซนิกในกำรบอกทิศทำงและจับเหยื่อ 2. สุนัขสำมำรถได้ยินเสียงที่มีควำมถี่ในย่ำนอัตรำโซนิกได้ 3. เสียงที่มีควำมถี่ในย่ำนอินฟรำโซนิกจะมีควำมถี่ต่ำกว่ำควำมถี่ที่มนุษย์สำมำรถได้ยิน 4. คลื่นเสียงในย่ำยอัลตรำโซนิกสำมำรถใช้ทำควำมสะอำดเครื่องมือแพทย์ 18. เครื่องโซนำร์ในเรือประมงได้รับสัญญำณสะท้อนจำกท้องทะเล หลังจำกส่งสัญญำณลงไปเป็น เวลำ 0.4 วินำที ถ้ำอัตรำเร็วเสียงในน้ำเป็น 1,500 เมตรต่อวินำที ทะเลมีควำมลึกเท่ำเท่ำกับข้อใด 1. 150 เมตร 2. 300 เมตร 3. 600 เมตร 4. 900 เมตร 19. คลื่นในข้อใดต่อไปนี้ที่มีควำมยำวคลื่นสั้นที่สุด 1. คลื่นวิทยุ 2. คลื่นอินฟรำเรด 3. คลื่นไมโครเวฟ 4. คลื่นแสงที่ตำมองเห็น 20. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับไอโซโทปสองไอโซโทปของธำตุชนิดเดียวกัน 1. มีจำนวนนิวคลีออนเท่ำกัน 2. มีเลขมวลเท่ำกัน 3. มีเลขอะตอมเท่ำกัน 4. มีจำนวนนิวตรอนเท่ำกัน 21. ธำตุหรือไอโซโทปในข้อใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิกิริยำนิวเคลียร์ฟิวชันที่เกิดขึ้นที่ดวงอำทิตย์ 1. ไฮโดรเจน 2. ดิวเทอเรียม 3. ทริเทียม 4. ฮีเลียม 22. รังสีในข้อใดใช้สำหรับฉำยฆ่ำเชื้อโรคในเครื่องมือทำงกำรแพทย์ 1. รังสีแกมมำ 2. รังสีบีตำ 3. รังสีอินฟรำเรด 4. รังสีแอลฟำ
  • 5. 23. รถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนที่จำกหยุดนิ่งไปบนเส้นตรง เวลำผ่ำนไป 4 วินำที มีควำมเร็วเป็น 8 เมตร/ วินำทีถ้ำอัตรำเร็วเพิ่มขึ้นอย่ำงสม่ำเสมอ รถยนต์คันนี้มีควำมเร่งท่ำใด 1. 2 m/s 2. 4 m/s 3. 12m/s 4.14 m/s 24. เด็กคนหนึ่งเดินไปทำงทิศเหนือได้ระยะทำง 30 เมตร จำกนั้นเดินไปทำงทิศตะวันออกได้ระยะทำง 400 เมตร ใช้เวลำเดินทำงทั้งหมด 500 วินำที เด็กคนนี้เดินด้วยอัตรำเร็วเฉลี่ยกี่เมตร/วินำที 1. 0.2 m/s 2. 1.0 m/s 3.1.4 m/s 4. 2.0 m/s 24. ยิงวัตถุจำกหน้ำผำออกไปในแนวระดับ ปริมำณใดของวัตถุมีค่ำคงที่ 1.อัตรำเร็ว 2. ควำมเร็ว 3.ควำมเร็วในแนวดิ่ง 4.ควำมเร็วในแนวระดับ 25. เหวี่ยงจุกยำงให้เคลื่อนที่เป็นแนววงกลมในระนำบระดับศีรษะ 20 รอบใช้เวลำ 5 วินำที จุกยำง เคลื่อนที่ด้วยควำมเร็วเท่ำใด 1. 0.25 รอบ/วินำที 2. 4 รอบ/วินำที 3. 5 รอบ/วินำที 4. 10 รอบ/วินำที 26. กำรเคลื่อนที่ใดที่แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีทิศตั้งฉำกกับทิศของกำรเคลื่อนที่ตลอดเวลำ 1. กำรเคลื่อนที่ในแนวตรง 2. กำรเคลื่อนที่แบบวงกลมด้วย อัตรำเร็วคงที่ 3. กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ 4. กำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย 27. กำรเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง กรำฟในข้อใดแสดงว่ำวัตถุกำลังเคลื่อนที่ด้วยควำมเร็วคงตัว(ตอบข้อ4)
  • 6. 28. สนำมแม่เหล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของเคลื่อนแสงนั้น มีทิศทำงตำมข้อใด 1. ขนำนกับทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของแสง 2. ขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ แต่ตั้งฉำกกับทิศกำรเคลื่อนที่ของแสง 3. ตั้งฉำกกับทั้งสนำมไฟฟ้ำและทิศกำรเคลื่อนที่ของแสง 4. ตั้งฉำกกับสนำมไฟฟ้ำแต่ขนำนกับทิศของกำรเคลื่อนที่ของแสง 29. โดยปกติเข็มทิศจะวำงตัวตำมแนวทิศเหนือ-ใต้ เมื่อนำเข็มทิศมำวำงใกล้ๆ กับกึ่งกลำงแท่งแม่เหล็ก ที่ตำแหน่งดังรูป เข็มทิศจะชี้ในลักษณะใด(ตอบข้อที่4) 30. ลำอนุภำค P และ Q เมื่อเคลื่อนที่ผ่ำนสนำมแม่เหล็ก B ที่มีทิศพุ่งออกตั้งฉำกกับกระดำษมีกำร เบี่ยงเบนดังรูป ถ้ำนำอนุภำคทั้งสองไปวำงไว้ในบริเวณที่มีสนำมฟ้ำสม่ำเสมอ แนวกำรเคลื่อนที่ จะเป็นอย่ำงไร 1. เคลื่อนที่ไปทำงเดียวกันในทิศทำงเดียวกันในทิศทำงตำมเส้นสนำมไฟฟ้ำ 2. เคลื่อนที่ไปทำงเดียวกันในทิศทำงตรงข้ำมกับสนำมไฟฟ้ำ 3. เคลื่อนที่ในทิศตรงข้ำมกันโดยอนุภำค P ไปทำงเดียวกับสนำมไฟฟ้ำ 4. เคลื่อนที่ในทิศตรงข้ำมกันโดยอนุภำค Q ไปทำงเดียวกับสนำมไฟฟ้ำ 31. อนุภำคแอลฟำ อนุภำคบีตำ รังสีแกมมำ เมื่อเคลื่อนที่ในสนำมแม่เหล็ก ข้อใดไม่เกิดกำรเบน 1. อนุภำคแอลฟำ 2. อนุภำคบีตำ 3. รังสีแกมมำ 4. อนุภำคแอลฟำและบีตำ
  • 7. 32. วำงลวดไว้ในสนำมแม่เหล็กดังรูป เมื่อให้กระแสไฟฟ้ำเข้ำไปในเส้นลวดตัวนำจะเกิดแรงเนื่องจำก สนำมแม่เหล็กกระทำต่อลวดนี้ในทิศทำงใด 1. ไปทำงซ้ำย (เข้ำหำ N) 2. ไปทำงขวำ (เข้ำหำ S) 3. ลงข้ำงล่ำง 4. ขึ้นด้ำนบน 33. อนุภำคโปรตอนเคลื่อนที่เข้ำไปในทิศขนำนกับสนำมแม่เหล็กซึ่งมีทิศพุ่งเข้ำกระดำษ แนวกำร เคลื่อนที่ของอนุภำคโปรตอนเป็นอย่ำงไร 1. วิ่งต่อไปเป็นเส้นตรงด้วยควำมเร็วคงตัว 2. เบนไปทำงขวำ 3. เบนไปทำงซ้ำย 4. วิ่งต่อไปเป็นส้นตรงและถอยหลัง กลับในที่สุด 34. มนุษย์อวกำศสองคนปฏิบัติกำรภำรกิจบนพื้นผิวดวงจันทร์ สื่อสำรกันด้วยวิธีใดสะดวกที่สุด 1. คลื่นเสียงธรรมดำ 2. คลื่นเสียงอัลตรำซำวด์ 3. คลื่นวิทยุ 4. คลื่นโซนำร์ 35. เมื่อคลื่นเคลื่อนจำกตัวกลำงที่หนึ่งไปตังกลำงที่สองโดยอัตรำเร็วของคลื่นลดลง ถำมว่ำสำหรับคลื่น ในตัวกลำงที่สอง ข้อควำมใดถูกต้อง 1. ควำมถี่เพิ่มขึ้น 2. ควำมถี่ลดลง 3. ควำมยำวคลื่นมำกขึ้น 4. ควำมยำวคลื่นลดลง 36. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำที่นิยมใช้ในรีโมทควบคุมกำรทำงำนของเครื่องโทรทัศน์คือข้อใด 1. อินฟรำเรด 2. ไมโครเวฟ 3. คลื่นวิทยุ 4. อัลตรำไวโอเลต 37. ระดับเสียงและคุณภำพเสียงขึ้นอยู่กับสมบัติใดตำมข้อใด 1. ควำมถี่ รูปร่ำงคลื่น 2. รูปร่ำงคลื่น ควำมถี่ 3. แอมพลิจูด ควำมถี่ 4. ควำมถี่ แอมพลิจูด 38. ถ้ำกระทุ่มน้ำเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลูกปิงปองที่ลอยอยู่ห่ำงออกไปจะเคลื่อนที่อย่ำงไร 1. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ออกห่ำงไปมำกขึ้น 2. ลูกปิงปองเคลื่อนที่เข้ำมำหำ 3. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ขึ้น-ลงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม 4. ลูกปิงปองเคลื่อนที่ไปด้ำนข้ำง
  • 8. 39. ข้อใดต่อไปนี้เป็นวัตถุประสงค์ของกำรบุผนังของโรงงำนภำพยนตร์ด้วยวัสดุกลืนเสียง 1. ลดควำมถี่ของเสียง 2. ลดควำมดังของเสียง 3. ลดกำรสะท้อนของเสียง 4. ลดกำรหักเหของเสียง 40. กิจกรรมกำรศึกษำที่เปรียบเทียบกำรสลำยกัมมันตรังสีกับกำรทอดลูกเต๋ำนั้น จำนวนลูกเต๋ำที่ถูกคัด ออกเทียบได้กับปริมำณใด 1. เวลำครึ่งชีวิต 2. จำนวนนิวเคลียสตั้งต้น 3.จำนวนนิวเคลียสที่เหลืออยู่ 4. จำนวนนิวเคลียสที่สลำย 41. รังสีใดที่นิยมใช้ในกำรอำบรังสีผลไม้ 1. รังสีเอกซ์ 2. รังสีแกมมำ 3. รังสีบีตำ 4. รังสีแอลฟำ 42. ทิศของกระแสไฟฟ้ำตำมสำกลนิยมคิดจำกอะไร 1. ทิศที่โปรตอนเคลื่อนที่ 2. ทิศที่อิเล็กตอนเคลื่อนที่ 3. ทิศที่อิออนลบเคลื่อนที่หรือทิศที่ตรงข้ำมทิศที่อิออนบวกเคลื่อนที่ 4. ทิศที่อนุภำคไฟฟ้ำบวกเคลื่อนที่หรือทิศตรงข้ำมกับที่อนุภำคไฟฟ้ำลบเคลื่อนที่ 43.ข้อควำมในข้อใดผิด 1. กระแสไฟฟ้ำในสำรอิเล็กโทรไลต์เกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของไอออนบวกและไอออนลบ 2. กระแสไฟฟ้ำในหลอดบรรจุก๊ำซเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและไอออนบวก 3. กระแสไฟฟ้ำในโลหะเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระ 4. กระแสไฟฟ้ำในสำรกึ่งตัวนำเกิดจำกกำรเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระ 44. จำกกำรทดลองโดยใช้ผงตะไบเหล็กหำเส้นแรงแม่เหล็ก เรำจะทรำบ 1. ค่ำขนำดของสนำมแม่เหล็ก 2. ทิศทำงของสนำมแม่เหล็ก 3. ตำแหน่งจุดสะเทิน 4. ถูกทุกข้อ 45. บริเวณใดบนพื้นโลกที่มีควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กตำมแนวรำบมำกที่สุด 1. แถบทวีปยุโรป 2. แถบเส้นสูนย์สูตร 3. แถบขั้วโลกเหนือ 4. แถบขั้วโลกใต้
  • 9. 46. นักวิทยำศำสตร์ที่ค้นพบว่ำ มีรังสีชนิดหนึ่งที่ปล่อยออกมำจำกธำตุยูเรเนียมตลอดเวลำ และถูกระบุว่ำเป็นคนที่ค้นพบกัมมันตภำพรังสีคนแรก มีชื่อว่ำอย่ำงไร ? ก. มำรี กูรี ข. ปีแอร์ กูรี ค. แบ็กเกอเรล ง. แชดวิก 47. กัมมันตภำพรังสี หมำยถึง อะไร ? ก. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุเมื่อโดนแสงแดด ข. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุได้เองอย่ำงต่อเนื่อง ค. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุเมื่อแตกตัวเป็นประจุไฟฟ้ำ ง. รังสีที่เกิดจำกกำรเปลี่ยนวงโคจรของอิเล็กตรอน 48. ธำตุที่มีคุณสมบัติแผ่รังสีได้เอง เรียกว่ำ อะไร ? ก. ธำตุกัมมันตรังสี ข. ธำตุประกอบ ค. ธำตุรังสี ง. รังสีธำตุ 49. รังสีที่แผ่ออกมำจำกธำตุกัมมันตรังสี มีกี่ชนิด อะไรบ้ำง ? ก. 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีอินฟำเรด ข. 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีแกมมำ ค 4 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีแกมมำ รังสีอินฟำเรด ง. 4 ชนิด คือ รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสีอินฟำเรด รังสีเอกซ์ 50. ข้อใดคือคุณสมบัติของรังสี แอลฟำ ? ก. เป็นนิวเคลียสของธำตุฮีเลียม มีประจุไฟฟ้ำ +2 มีมวล 4u มีอำนำจทะลุผ่ำนต่ำ ข. อนุภำคที่มีประจุ -1 มีมวลเท่ำกับมวลอิเล็กตรอน มีอำนำจทะลุผ่ำนปำนกลำง ค. เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ มีอำนำจทะลุผ่ำนมำกที่สุด ง. เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ มีควำมถี่ต่ำมำก มีอำนำจทะลุผ่ำนต่ำที่สุด