SlideShare a Scribd company logo
ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิกส์ ชุดที่7
1.ข้อใดมีเลขนัยสำคัญ 3 ตัวทุกตัว
(1) 0.001, 1.005, 1.0 103
(2) 0.001, 1.005, 1.03 103
(3) 0.101, 1.05, 1.03 10-3
(4) 0.112, 1.500, 1.030 103
2.ชำยคนหนึ่งวิ่งออกกำลังกำย รอบสนำมฟุตบอลที่มีระยะทำงรวม 1 รอบเท่ำกับ 400 เมตร ช่วงแรก
เขำวิ่งด้วยอัตรำเร็วคงตัว 4 เมตรต่อวินำที เมื่อวิ่งได้ครบ 2 รอบ เขำรู้สึกเหนื่อยจึงเดินต่อด้วยอัตรำเร็ว 1
เมตรต่อวินำทีอีก 1 รอบ จงหำอัตรำเร็วเฉลี่ยในกำรออกกำลังกำยของชำยคนนี้
(1) 2 เมตรต่อวินำที
(2) 3 เมตรต่อวินำที
(3) 4.5 เมตรต่อวินำที
(4) 5 เมตรต่อวินำที
3.โยนก้อนหินขึ้นไปในอำกำศในแนวดิ่ง (โดยไม่คิดแรงต้ำนของอำกำศ) ข้อใดกล่ำวผิด
(1) ควำมเร็วของก้อนหินที่จุดสูงสุดเท่ำกับศูนย์
(2) ควำมเร่งของก้อนหินที่จุดสูงสุดเท่ำกับศูนย์
(3) เวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ขึ้นเท่ำกับเวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ลง
(4) แรงที่กระทำกับก้อนหินมีค่ำคงที่ตลอดเวลำที่ลอยในอำกำศ
4.โยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่งด้วยควำมเร็วต้น 20 เมตรต่อวินำที นำนเท่ำไรก้อนหินจึงจะตกกลับลงมำที่
ระดับเดิม
(1) 1 วินำที
(2) 1.414 วินำที
(3) 2 วินำที
(4) 4 วินำที
5.วัตถุมวล 5 กิโลกรัม วำงอยู่บนพื้นเอียง ทำมุม 37 กับแนวระดับดังรูป ค่ำสัมประสิทธิ์ควำมเสียดทำน
จลน์ระหว่ำงวัตถุกับพื้นเท่ำกับ 0.25 จงหำขนำดของแรง F ที่ใช้ดึงวัตถุให้เคลื่อนที่ขึ้นด้วยควำมเร็วคงตัว
(กำหนดให้ = 3/5 และ = 4/5 )
(1) 10 นิวตัน
(2) 30 นิวตัน
(3) 40 นิวตัน
(4) 50 นิวตัน
6.วัตถุ มวล 1 กิโลกรัมและวัตถุ มวล 3 กิโลกรัม ผูกติดกันด้วยเชือกดังรูป วำงอยู่บนพื้นรำบที่
ไม่มีควำมฝืด ออกแรง F คงที่ขนำด 8 นิวตันดึงเชือก จงหำว่ำวัตถุมวล 1 กิโลกรัม จะเคลื่อนที่ด้วย
อัตรำเร่งเท่ำไร
(1) 1
(2) 2
(3) 4
(4) 8
7.นักกีฬำทุ่มน้ำหนัก ทุ่มก้อนเหล็กมวล 5 กิโลกรัม ออกไปในทิศทำงทำมุม 37 กับแนวรำบ ด้วย
ควำมเร็วต้น 20 เมตรต่อวินำที จงหำควำมเร็วของก้อนเหล็กที่ตำแหน่งสูงสุด
(1) 0 เมตรต่อวินำที
(2) 12 เมตรต่อวินำที
(3) 16 เมตรต่อวินำที
(4) 20 เมตรต่อวินำที
8.ในกำรเคลื่อนที่เป็นวงกลมของวัตถุในแนวรำบด้วยอัตรำเร็วคงตัว ข้อใดกล่ำวผิด
(1) ควำมเร็วของกำรเคลื่อนที่ไม่คงตัว
(2) ควำมเร่งของกำรเคลื่อนที่คงตัวตลอดเวลำ
(3) ควำมถี่ของกำรเคลื่อนที่คงตัว
(4) เวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ครบรอบคงตัว
9.ในกำรแข่งขันรถยนต์ ใช้ยำงรถยนต์ที่มีค่ำสัมประสิทธิ์ ควำมเสียดทำนระหว่ำงยำงรถกับถนนเท่ำกับ 1.2
จงหำว่ำรถจะวิ่งเข้ำโค้งแนวรำบที่รัศมีควำมโค้ง 60 เมตร ด้วยอัตรำเร็วเท่ำไร
(1) 60 เมตรต่อวินำที
(2) 50 เมตรต่อวินำที
(3) 72 เมตรต่อวินำที
(4) 26.8 เมตรต่อวินำที
10.ลูกตุ้มนำฬิกำสองอันแขวนไว้ด้วยเชือกเบำ ควำมยำวเชือกของลูกตุ้มอันที่สองยำวเป็น 2 เท่ำของอัน
แรก ลูกตุ้มนำฬิกำอันที่สองจะใช้เวลำในกำรแกว่งครบรอบเป็นกี่เท่ำของอันแรก
(1) 2.0 เท่ำ
(2) 1.0 เท่ำ
(3) 0.5 เท่ำ
(4) 1.4 เท่ำ
11.จงหำงำนในกำรออกแรง F ในแนวระดับขนำด 100 นิวตัน ลำกกล่องมวล 5 กิโลกรัม ให้เคลื่อนที่
ไปได้ระยะทำง 2 เมตร
(1) 200 จูล
(2) 100 จูล
(3) 500 จูล
(4) 1000 จูล
12.ลูกมะพร้ำวมวล 1 กิโลกรัม ร่วงจำกต้นสูง 20 เมตร ขณะที่ลูกมะพร้ำวกระทบพื้นจะมีพลังงำนจลน์
เท่ำไร
(1) 20 จูล
(2) 200 จูล
(3) 14 จูล
(4) 100 จูล
13.รถยนต์มวล 1500 กิโลกรัม วิ่งบนถนนด้วยอัตรำเร็ว 72 กิโลกรัมต่อชั่วโมง จะมีโมเมนตัมเท่ำไร
(1) 30,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที
(2) 54,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที
(3) 15,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที
(4) 108,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที
14.วัตถุก้อนที่ 1 เคลื่อนที่เข้ำชนกับวัตถุก้อนที่ 2 ที่อยู่นิ่งบนพื้นรำบลื่น หลังกำรชนวัตถุทั้งสองเคลื่อนที่
ติดกันไป ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกำรชนนี้
(1) โมเมนตัมก่อนกำรชนกันเท่ำกับโมเมนตัมหลังกำรชนกัน
(2) พลังงำนกลรวมก่อนกำรชนกันเท่ำกับพลังงำนกลรวมหลังกำรชน
(3) พลังงำนจลน์รวมก่อนกำรชนกันเท่ำกับพลังงำนจลน์รวมหลังกำรชน
(4) สรุปไม่ได้เนื่องจำกข้อมูลไม่เพียงพอ
15.แดงและดำออกกำลังกำยด้วยกำรวิ่งจำกชั้นล่ำงขึ้นไปบนตึกสูง ถ้ำแดงวิ่งขึ้นไปได้ 5 ชั้นในเวลำ 10
นำทีแต่ดำวิ่งได้ 7 ชั้นในเวลำ 15 นำที ให้ตึกแต่ละชั้นมีควำมสูงเท่ำกัน ข้อสรุปใดสรุปได้ถูกต้อง
(1) แดงมีกำลังมำกกว่ำดำ
(2) แดงมีกำลังน้อยกว่ำดำ
(3) แดงมีกำลังเท่ำกับดำ
(4) ไม่ทรำบมวลแต่ละคนคงหำคำตอบไม่ได้
16.ชำยคนหนึ่งถือดัมเบลไว้สองมือ ยืนบนเก้ำอี้ที่หมุนได้อย่ำงเสรีไม่มีแรงเสียดทำนมีแกนหมุนในแนวดิ่ง
ขณะที่เขำกำงมือออก โมเมนต์ควำมเฉื่อยของเขำรวมกับเก้ำอี้เท่ำกับ 3 กิโลกรั และหมุนด้วยควำมเร็ว
เชิงมุม 2 เรเดียนต่อวินำที เมื่อเขำหุบแขนเข้ำหำตัวจะมีโมเมนต์ควำมเฉื่อยรวมเท่ำกับ 1.2 กิโลกรั จะมี
อัตรำเร็วเชิงมุมในกำรหมุนขณะหุบแขนเท่ำไร
(1) 0.8 เรเดียนต่อวินำที
(2) 1.8 เรเดียนต่อวินำที
(3) 5.0 เรเดียนต่อวินำที
(4) 7.2 เรเดียนต่อวินำที
17.กระสุนปืนมวล 10 กรัม ถูกยิงด้วยอัตรำเร็ว 400 เมตรต่อวินำที เข้ำไปฝังในเนื้อไม้ลึก 5 เซนติเมตร
จงหำงำนในกำรต้ำนกระสุนปืนของเนื้อไม้
(1) 800 จูล
(2) 200 จูล
(3) 400 จูล
(4) 1600 จูล
18.แผ่นไม้กลมรัศมี 0.5 เมตร มวล 2 กิโลกรัม และโมเมนต์ควำมเฉื่อย 0.25 กิโลกรัม เคลื่อนที่ในแนว
ตรงแบบกลิ้งไปโดยไม่มีกำรลื่นไถล โดยมีควำมเร็วของศูนย์กลำงมวล 4 เมตรต่อวินำที จงหำพลังงำนจลน์
ของแผ่นไม้นี้ เมื่อเคลื่อนที่โดยหมุนรอบจุดศูนย์กลำงมวล
(1) 8 จูล
(2) 16 จูล
(3) 24 จูล
(4) 32 จูล
19.แท่งโลหะทรงกระบอกมวล 1 กิโลกรัม รัศมี 0.2 เมตร มีโมเมนต์ควำมเฉื่อย 0.04 กิโลกรัม มีเชือกพัน
รอบผิวนอกปลำยเชือกด้ำนหนึ่งยึดกับผนัง ดังรูป เมื่อปล่อยให้เคลื่อนที่ลงมำในแนวดิ่งแท่งโลหะจะหมุนรอบ
ตัวเอง โดยระนำบของกำรหมุนคงตัวตลอดกำรเคลื่อนที่จนศูนย์กลำงมวลต่ำกว่ำเดิม1 เมตร จงหำควำมเร็ว
ของแท่งโลหะทรงกระบอกนี้(กำหนดให้ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลกเท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2)
(1) 3.16 เมตรต่อวินำที
(2) 3.65 เมตรต่อวินำที
(3) 1.58 เมตรต่อวินำที
(4) 1.83 เมตรต่อวินำที
20.วัตถุหนัก 4 นิวตันและW ผูกไว้ด้วยเชือกและอยู่ในสมดุลในลักษณะดังรูป ถ้ำสัมประสิทธิ์ควำมเสียดทำน
สถิตระหว่ำงวัตถุกับพื้นเท่ำกับ 0.4 จงหำ W ที่มำกที่สุดที่ทำให้วัตถุทั้งสองยังคงอยู่นิ่งเช่นเดิม
(1) 10 นิวตัน
(2) 12 นิวตัน
(3) 14 นิวตัน
(4) 16 นิวตัน
21.ลวดทองแดงสองเส้น A และ B มีควำมยำวเท่ำกัน แต่ลวด A มีเส้นผ่ำนศูนย์กลำงเป็นสองเท่ำของลวด B
ถ้ำลวดทั้งสองถูกดึงออกด้วยแรงเท่ำกัน จงหำอัตรำส่วนระหว่ำงควำมเค้นดึงของลวด A ต่อลวด B
(1) 0.25
(2) 0.5
(3) 2.0
(4) 4.0
22.จำกรูป ภำชนะทั้งสำมใบบรรจุของเหลวชนิดเดียวกันที่ระดับควำมสูง h เท่ำกันและพื้นที่ของก้นภำชนะมี
ขนำดเท่ำกัน ข้อควำมต่อไปนี้ข้อใดถูกต้อง
ก.ควำมดันเกจที่ก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน
ข.ควำมดันสัมบูรณ์ที่ก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน
ค.แรงดันของเหลวกระทำต่อก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน
(1) ข้อ ก และ ข้อ ข ถูก
(2) ข้อ ก และ ข้อ ค ถูก
(3) ข้อ ข และ ข้อ ค ถูก
(4) ถูกทุกข้อ
23.ขำข้ำงหนึ่งของแอนอมิเตอร์ถูกต่อเข้ำกับภำชนะที่บรรจุแก๊สชนิดหนึ่งปรำกฏว่ำระดับปรอทในขำทั้งข้ำงสูง
5 เซนติเมตร และ 15 เซนติเมตร ดังรูป ถ้ำควำมดันของอำกำศภำยนอกขณะนั้นเท่ำกับ 105 พำสคัล แก๊สใน
ภำชนะมีควำมดันเท่ำใด (กำหนดให้ ควำมหนำแน่นปรอทเท่ำกับ 13.6 103 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร และ
ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2)
(1) 0.136 105 พำสคัล
(2) 1.36 105 พำสคัล
(3) 1.136 105 พำสคัล
(4) 2.36 105 พำสคัล
24.นำไม้รูปลูกบำศก์มีควำมยำวด้ำนละ 0.5 เมตร มีควำมหนำแน่น 800 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร ไปลอยน้ำ
ที่มีควำมหนำแน่น 1000 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร จะต้องใช้แรงเท่ำใดกดที่แท่งไม้ เพื่อให้แท่งไม้จมมิดน้ำ
พอดี(กำหนดให้ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2)
(1) 125 นิวตัน
(2) 250 นิวตัน
(3) 375 นิวตัน
(4) 500 นิวตัน
25.ถ้ำน้ำในท่อประปำที่ไหลผ่ำนมำตรวัดเข้ำบ้ำน มีอัตรำกำรไหล 60 ลิตรต่อนำที จงหำอัตรำเร็วของน้ำในท่อ
ประปำเมื่อไหลผ่ำนท่อที่มีเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 2 เซนติเมตร
(1) 10/pi เมตรต่อวินำที
(2) 15/pi เมตรต่อวินำที
(3) 20/pi เมตรต่อวินำที
(4) 25/pi เมตรต่อวินำที
26.ถังน้ำมันขนำดใหญ่มีรูรั่วที่ระยะลึก 10 เมตร จำกผิวน้ำมัน ถ้ำถังน้ำมันปิดสนิทและควำมดันที่ผิวน้ำมัน
เท่ำกับ 3 105 พำสคัล และควำมดันบรรยำกำศเท่ำกับ 1.0 105 พำสคัลจงหำอัตรำเร็วของน้ำมันที่พุ่ง
ออกจำกถัง(กำหนดให้ ควำมหนำแน่นของน้ำมันเท่ำกับ 500 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร และควำมเร่งโน้มถ่วง
ของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2)
(1) 10 เมตรต่อวินำที
(2) 10 10 เมตรต่อวินาที
(3) 10 5 เมตรต่อวินาที
(4) 10 2 เมตรต่อวินาที
27.ใส่ก้อนอะลูมิเนียมมวล 50 กรัม อุณหภูมิ 100 องศำเซลเซียส ลงในน้ำมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 25 องศำ
เซลเซียส ซึ่งอยู่ในภำชนะฉนวนปิดมิดชิด เมื่อถึงสมดุลควำมร้อน อุณหภูมิของสำรทั้งสอง มีค่ำเป็นเท่ำใด
[กำหนดให้ ควำมจุจำเพำะของน้ำและอะลูมิเนียมมีค่ำเท่ำกับ 4000 จูลต่อ (กิโลกรัมเซลเซียส) และ (1000 จูล
ต่อ (กิโลกรัมเซลเซียส) ตำมลำดับ]
(1) 33 องศำเซลเซียส
(2) 34 องศำเซลเซียส
(3) 35 องศำเซลเซียส
(4) 36 องศำเซลเซียส
28.บอลลูนที่ภำยในบรรจุแก๊สไฮโดรเจน ขณะอยู่ที่พื้นมีอุณหภูมิ 27 องศำเซลเซียส มีปริมำตร 1.8 10-2
ลูกบำศก์เมตร และมีควำมดัน 1.0 105 พำสคัล ถ้ำบอลลูนลูกนี้ลอยสูงขึ้น จนอุณหภูมิของแก๊สภำยใน
ลดลงเหลือ 17 องศำเซลเซียส ควำมดันลดลงเหลือ 0.8 105 พำสคัล ลูกบอลลูนจะมีปริมำตรเท่ำใด
(1) 1.42 10-2 ลูกบำศก์เมตร
(2) 1.75 10-2 ลูกบำศก์เมตร
(3) 2.18 10-2 ลูกบำศก์เมตร
(4) 2.55 10-2 ลูกบำศก์เมตร
29.แก๊สปริมำณหนึ่งอยู่ในกระบอกสูบถูกอัดจนมีควำมดันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของควำมดันเดิมโดยมีอุณหภูมิ
คงตัว ข้อควำมต่อไปนี้ ข้อใดถูกต้อง
ก. ปริมำตรของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของปริมำตรเดิม
ข. ปริมำตรของแก๊สในภำวะใหม่มีค่ำลดลงครึ่งหนึ่งของปริมำตรเดิม
ค. จำนวนโมลของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของจำนวนโมลเดิม
ง. จำนวนโมลของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเท่ำกับของจำนวนโมลเดิม
(1) ข้อ ก และ ข้อ ค
(2) ข้อ ข และ ข้อ ค
(3) ข้อ ก และ ข้อ ง
(4) ข้อ ข และ ข้อ ง
30.แก๊สในกระบอกสูบรับควำมร้อนจำกภำยนอก 142 จูล ขณะที่แก๊สขยำยตัวทำงำนต่อระบบภำยนอก
160 จูล พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น หรือลดลงเท่ำใด และอุณหภูมิของแก๊สเพิ่มขึ้นหรือลดลง
(1) พลังงำนภำยในของแก๊สลดลง 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สลดลง
(2) พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สลดลง
(3) พลังงำนภำยในของแก๊สลดลง 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สเพิ่มขึ้น
(4) พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น 18 จูล และอุณหภูมมิของแก๊สเพิ่มขึ้น
31.คลื่นในทะเลซัดเข้ำหำฝั่งด้วยอัตรำเร็ว 3 เมตรต่อวินำที ถ้ำระยะระหว่ำงสันคลื่นที่ถัดกันเท่ำกับ 6
เมตร จะมีคลื่นเข้ำกระทบฝั่งกี่ลูกในเวลำ 1 นำที
(1) 18 ลูก
(2) 30 ลูก
(3) 360 ลูก
(4) 1080 ลูก
32.คลื่นดลสองคลื่นในเส้นเชือก กำลังเคลื่อนที่เข้ำหำกันด้วยอัตรำเร็ว 2 เซนติเมตรต่อวินำที ณ เวลำ
ขณะหนึ่ง คลื่นดลทั้งสองอยู่ห่ำงกัน 6 เซนติเมตร ดังรูป เมื่อเวลำผ่ำนไป 2.5 วินำที ตำแหน่งสันคลื่นทั้ง
สองอยู่ห่ำงกันเท่ำใด
(1) 2 เซนติเมตร
(2) 3 เซนติเมตร
(3) 4 เซนติเมตร
(4) 5 เซนติเมตร
33.จำกรูป แสดงภำพกำรแทรกสอดของคลื่นผิวน้ำที่เกิดจำกแหล่งกำเนินอำพันธ์ S1 และ S2 มี P เป็น
จุดบนเส้นบัพ ถ้ำ S1P เท่ำกับ 10 เซนติเมตรและ S2P เท่ำกับ 7 เซนติเมตร ถ้ำอัตรำเร็วของคลื่นทั้ง
สองเท่ำกับ 30 เซนติเมตรต่อวินำที แหล่งกำเนินคลื่นทั้งสองมีควำมถี่เท่ำใด
(1) 3 เฮิรตซ์
(2) 4 เฮิรตซ์
(3) 5 เฮิรตซ์
(4) 6 เฮิรตซ์
34.ในกำรทดลองคลื่นนิ่งบนเส้นเชือก ถ้ำควำมถี่ของคลื่นนิ่งเป็น 475 เฮิรตซ์ และอัตรำเร็วของคลื่นในเส้น
เชือกเท่ำกับ 380 เมตรต่อวินำที ตำแหน่งบัพสองตำแหน่งที่อยู่ถัดกันจะห่ำงกันเท่ำใด
(1) 0.2 เมตร
(2) 0.4 เมตร
(3) 0.6 เมตร
(4) 0.8 เมตร
35.ถ้ำอำกำศมีอุณหภูมิ 0 C ควำมเร็วเสียงในอำกำศมีค่ำเท่ำไร
(1) 330 เมตร/วินำที
(2) 331 เมตร/วินำที
(3) 340 เมตร/วินำที
(4) 343 เมตร/วินำที
36.แดงยืนห่ำงจำกลำโพง 40 เมตรจะพอดีได้ยินเสียงจำกลำโพง ถ้ำเขำเดินเข้ำไปยืนที่ตำแหน่งห่ำงจำก
ลำโพง 10 เมตร จะได้ยินเสียงกี่วัตต์/ตำรำงเมตร
(1) 2 x10ยกกำลัง12
(2) 4 x 10ยกกำลัง12
(3) 8 x10ยกกำลัง12
(4) 16 x10ยกกำลัง12
37.ถ้ำให้เสียงที่มีควำมถี่ 600 เฮิรตซ์ เป็นควำมถี่ฮำร์โมนิคลำดับที่หนึ่ง จงหำค่ำสูงสุด (nmax) ของ
ลำดับฮำร์โมนิคที่ n ที่หูคนเรำได้ยิน
(1) nmax = 33
(2) nmax = 20
(3) nmax = 16
(4) nmax = 10
38.รถไฟ A จอดนิ่งอยู่ในสถำนีแต่รถไฟ B แล่นเข้ำมำหำแล้วเคลื่อนหนีออกไป ถ้ำทั้งสองเปิดหวูดด้วย
ควำมถี่เดียวกัน ข้อสรุปต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) ขณะที่รถไฟ B แล่นเข้ำมำ คนในรถไฟ A ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ B มีควำมยำวคลื่นสั้นลง
(2) ขณะที่รถไฟ B แล่นหนี้ไป คนในรถไฟ A ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ B มีควำมยำวคลื่นมำกลง
(3) ขณะที่รถไฟ B แล่นเข้ำมำ คนในรถไฟ B ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ A มีควำมยำวคลื่นสั้นลง
(4) ขณะที่รถไฟ B แล่นหนีมำ คนในรถไฟ B ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ A มีควำมถี่น้อยลง
39.ถ้ำมีวัตถุจริงวำงอยู่หน้ำกระจกดังต่อไปนี้ ข้อสรุปใดถูกต้องที่สุด
ก.กระจกรำบจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ
ข.กระจกเว้ำจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ
ค.กระจกนูนจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ
(1) ข้อ ก ถูกต้อง
(2) ข้อ ก และ ข้อ ข ถูกต้อง
(3) ข้อ ก และ ข้อ ค ถูกต้อง
(4) ถูกหมดทั้ง ก ข และ ค
40.ถ้ำเรำฉำยแสงเลเซอร์ในแนวตรงจำกอำกำศผ่ำนไปยังแก้วหนำแล้วทะลุผ่ำนเข้ำไปในน้ำโดยไม่มีกำร
เบี่ยงเบนของแนวทำงเดินแสงเลย ข้อสรุปข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) ควำมยำวคลื่นของแสงเลเซอร์ในน้ำยำวกว่ำในแก้ว
(2) ควำมยำวแสงเลเซอร์ในอำกำศยำวกว่ำในน้ำ
(3) ควำมถี่ของแสงเลเซอร์ในแก้วสูงกว่ำในน้ำ
(4) ควำมเร็วคลื่นของแสงเลเซอร์ในน้ำน้อยกว่ำในอำกำศ
41.ถ้ำนำเลนส์บำง 2 ชิ้นมำประกบกัน ชิ้นแรกเป็นเลนส์นูนมีกำลัง 5 ไดออปเตอร์และชิ้นที่สองเป็นเลนส์
เว้ำที่มีกำลัง 3 ไดออปเตอร์ จะได้เลนส์ประกบที่มีระยะโฟกัสรวมกี่เซนติเมตร
(1) 50
(2) 20
(3) 16.7
(4) 12.5
42.กล้องถ่ำยรูปมีเลนส์หน้ำกล้องที่มีระยะโฟกัสเท่ำกับ 41 เซนติเมตร ถ้ำระยะจำกเลนส์ถึงแผ่นฟิล์ม
บันทึกภำพอยู่ในช่วง 4.0 – 4.2 เซนติเมตร จงหำระยะใกล้ที่สุดของระยะวัตถุที่กล้องนี้จะยังคงถ่ำยภำพได้
ชัดเจน
(1) 0.25 เมตร
2) 0.80 เมตร
(3) 0.84 เมตร
(4) 1.25 เมตร
43.ถ้ำนำลูกพิทมวล 4 กรัมผูกด้วยเชือกเบำแล้วนำไปแขวนในบริเวณที่มีสนำมไฟฟ้ำคงที่ในแนวรำบแล้วทำ
ให้ลูกพิทถูกแรงจำกสนำมกระทำจนเชือกที่แขวนเอียงและนิ่งอยู่ที่มุม 45 กับแนวดิ่งถ้ำลูกพิทมีประจุ +2
นำโนคูลอมบ์ จงหำขนำดของสนำมไฟฟ้ำ (กำหนดให้ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตร/ )
(1) 2 x 10ยกกำลัง7 นิวตัน/คูลอมบ์
(2) 4 x10ยกกำลัง7 นิวตัน/คูลอมบ์
(3) 2 x10ยกกำลัง4 นิวตัน/คูลอมบ์
(4) 6 x10ยกกำลัง4 นิวตัน/คูลอมบ์
44.ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อสรุปที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่ำสนำมและศักย์ไฟฟ้ำของทรงกลมโลหะที่มีประจุ
(1) ที่ตำแหน่งภำยนอกทรงกลม ขนำดของสนำมไฟฟ้ำแปรผันตรงกับกำลังสองของระยะห่ำงจำกใจ
กลำงทรงกลม
(2) ที่ตำแหน่งภำยในทรงกลม ขนำดของสนำมไฟฟ้ำมีค่ำคงที่
(3) ที่ตำแหน่งภำยนอกทรงกลม ค่ำของศักย์ไฟฟ้ำแปรผันตรงกับระยะห่ำงจำกใจกลำงทรงกลม
(4) ที่ตำแหน่งภำยในทรงกลม ค่ำของศักย์ไฟฟ้ำมีค่ำคงที่
45.ต่อควำมต้ำนทำน 8 โอห์มเข้ำกับแบตเตอรี่ 6 โวลต์แล้ววัดกระแสที่ไหลผ่ำนในวงจรได้ 0.6 แอมแปร์
จงหำค่ำควำมต้ำนทำนภำยในของแบตเตอรี่
(1) 0.2
(2) 0.8
(3) 2.0
(4) 8.0
46.จำกข้อควำมต่อไปนี้ ข้อใดสรุปได้ถูกต้องมำกที่สุด
(1) ถ้ำนำตัวต้ำนทำน 2 ตัวมำต่อแบบอนุกรมกันจะมีควำมต้ำนทำนรวมลดลง
(2) ถ้ำนำตัวเก็บประจุ 2 ตัวมำต่อแบบอนุกรมกันจะมีควำมจุรวมเพิ่มขึ้น
(3) ถ้ำนำตัวต้ำนทำนมำต่อแบบอนุกรมกับตัวเก็บประจุแล้วต่อกับแบตเตอรี่กระแสตรงจะไม่มี
กระแสไหลในวงจรได้เลย
(4) ถ้ำนำตัวต้ำนทำนมำต่อแบบอนุกรมกับตัวเก็บประจุแล้วต่อกับแบตเตอรี่กระแสตรง แล้วทิ้งไว้
เป็นเวลำนำน ๆ ตัวเก็บประจุจะมีควำมต่ำงศักย์เท่ำกับค่ำแรงเคลื่อนไฟฟ้ำของแบตเตอรี่
47.ถ้ำมีอนุภำคขนำดเล็กเคลื่อนที่ตรงเข้ำไปในสนำมแม่เหล็กด้วยควำมเร็วคงที่แล้วผ่ำนออกมำด้วยควำมเร็ว
เดิมโดยไม่เกิดแรงใด ๆ กระทำต่ออนุภำค ข้อสรุปใดไม่ถูกต้องที่สุด
(1) อนุภำคตัวนี้ไม่มีประจุ
(2) อนุภำคตัวนี้เคลื่อนที่เข้ำไปในแนวตั้งฉำกกับทิศทำงสนำมแม่เหล็ก
(3) อนุภำคตัวนี้เคลื่อนที่เข้ำไปในแนวขนำนกับทิศทำงสนำมแม่เหล็ก
(4) อนุภำคตัวนี้มีมวลมำกเกินไปจนสนำมแม่เหล็กไม่มีผลต่อกำรเคลื่อนที่
48.นำขดลวดเหนี่ยวนำ (L) ต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำน (R) แล้วต่อเข้ำกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ำกระแสสลับ
ข้อควำมต่อไปนี่ข้อใดถูกต้อง
(1) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสนำหน้ำกระแสที่ไหลผ่ำนขดลวดเหนี่ยวนำ
(2) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสตำมหลังกระแสที่ไหลผ่ำนขดลวดเหนี่ยวนำ
(3) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสตำมหลังควำมต่ำงศักย์ที่ตกคร่อมขดลวดเหนี่ยวนำ
(4) แรงเคลื่อนไฟฟ้ำของแหล่งกำเนิดไฟฟ้ำมีเฟสตำมหลังควำมต่ำงศักย์ที่ตกคร่อมขดลวดเหนี่ยวนำ
49.บ้ำนหลังหนึ่งมีหลอดไฟ 40 วัตต์ จำนวน 5 ดวง มีพัดลมที่มีกำลังไฟฟ้ำ 200 วัตต์ 1 ตัว และเตำ
รีด 1800 วัตต์ 1 ตัว ถ้ำคนในบ้ำนเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ำในบ้ำนทั้งหมดที่กล่ำวมำพร้อมกันจะมีกระแสไฟฟ้ำ
ไหลเข้ำมำในบ้ำนทั้งหมดกี่แอมแปร์
(1) 5
(2) 7
(3) 10
(4) 15
50.ในภำพเป็นสัญญำณค่ำควำมต่ำงศักย์กระแสสลับที่ขึ้นกับเวลำ จงหำค่ำควำมต่ำงศักย์รำกกำลังสองเฉลี่ย
ของสัญญำณไฟฟ้ำนี้
(1) 7.1 โวลต์
(2) 10.0 โวลต์
(3) 14.1 โวลต์
(4) 20.0 โวลต์

More Related Content

What's hot

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่  2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่  2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
jirupi
 
08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน
กิตติพงษ์ เสียงเสนาะ
 
งานพลังงาน
งานพลังงานงานพลังงาน
งานพลังงาน
Chakkrawut Mueangkhon
 
โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3Papang Rakchanoke
 
โมเมนตัม
โมเมนตัมโมเมนตัม
โมเมนตัม
Chakkrawut Mueangkhon
 
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงานตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
กิตติพงษ์ เสียงเสนาะ
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์weerawato
 
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133cD67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
kamonwan66_
 
สรุปสูตรแรง
สรุปสูตรแรงสรุปสูตรแรง
สรุปสูตรแรง
bassoftballbassoftball
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
 

What's hot (12)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่  2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่  2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
 
08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน08งานและพลังงาน
08งานและพลังงาน
 
งานพลังงาน
งานพลังงานงานพลังงาน
งานพลังงาน
 
โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3โมเมนตัมและพลังงาน3
โมเมนตัมและพลังงาน3
 
โมเมนตัม
โมเมนตัมโมเมนตัม
โมเมนตัม
 
P05
P05P05
P05
 
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงานตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์
 
Lesson02
Lesson02Lesson02
Lesson02
 
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133cD67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
D67d8ab4f4c10bf22aa353e27879133c
 
สรุปสูตรแรง
สรุปสูตรแรงสรุปสูตรแรง
สรุปสูตรแรง
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 

Similar to ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิกส์ ชุดที่7

โหลดPdf
โหลดPdfโหลดPdf
โหลดPdf
Chanwit Chu-pon
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมthanakit553
 
เรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานเรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานApinya Phuadsing
 
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนเรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนthanakit553
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549saiyok07
 
เรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลเรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลApinya Phuadsing
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนpumarin20012
 

Similar to ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิกส์ ชุดที่7 (10)

Phy
PhyPhy
Phy
 
12การชนและโมเมนตัม
12การชนและโมเมนตัม12การชนและโมเมนตัม
12การชนและโมเมนตัม
 
โหลดPdf
โหลดPdfโหลดPdf
โหลดPdf
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
 
เรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงานเรื่องที่5งานและพลังงาน
เรื่องที่5งานและพลังงาน
 
P07
P07P07
P07
 
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนเรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
 
เรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกลเรื่องที่11คลื่นกล
เรื่องที่11คลื่นกล
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 

ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิกส์ ชุดที่7

  • 1. ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วยภาค ข วิชาฟิกส์ ชุดที่7 1.ข้อใดมีเลขนัยสำคัญ 3 ตัวทุกตัว (1) 0.001, 1.005, 1.0 103 (2) 0.001, 1.005, 1.03 103 (3) 0.101, 1.05, 1.03 10-3 (4) 0.112, 1.500, 1.030 103 2.ชำยคนหนึ่งวิ่งออกกำลังกำย รอบสนำมฟุตบอลที่มีระยะทำงรวม 1 รอบเท่ำกับ 400 เมตร ช่วงแรก เขำวิ่งด้วยอัตรำเร็วคงตัว 4 เมตรต่อวินำที เมื่อวิ่งได้ครบ 2 รอบ เขำรู้สึกเหนื่อยจึงเดินต่อด้วยอัตรำเร็ว 1 เมตรต่อวินำทีอีก 1 รอบ จงหำอัตรำเร็วเฉลี่ยในกำรออกกำลังกำยของชำยคนนี้ (1) 2 เมตรต่อวินำที (2) 3 เมตรต่อวินำที (3) 4.5 เมตรต่อวินำที (4) 5 เมตรต่อวินำที 3.โยนก้อนหินขึ้นไปในอำกำศในแนวดิ่ง (โดยไม่คิดแรงต้ำนของอำกำศ) ข้อใดกล่ำวผิด (1) ควำมเร็วของก้อนหินที่จุดสูงสุดเท่ำกับศูนย์ (2) ควำมเร่งของก้อนหินที่จุดสูงสุดเท่ำกับศูนย์ (3) เวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ขึ้นเท่ำกับเวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ลง (4) แรงที่กระทำกับก้อนหินมีค่ำคงที่ตลอดเวลำที่ลอยในอำกำศ 4.โยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่งด้วยควำมเร็วต้น 20 เมตรต่อวินำที นำนเท่ำไรก้อนหินจึงจะตกกลับลงมำที่ ระดับเดิม (1) 1 วินำที (2) 1.414 วินำที (3) 2 วินำที (4) 4 วินำที
  • 2. 5.วัตถุมวล 5 กิโลกรัม วำงอยู่บนพื้นเอียง ทำมุม 37 กับแนวระดับดังรูป ค่ำสัมประสิทธิ์ควำมเสียดทำน จลน์ระหว่ำงวัตถุกับพื้นเท่ำกับ 0.25 จงหำขนำดของแรง F ที่ใช้ดึงวัตถุให้เคลื่อนที่ขึ้นด้วยควำมเร็วคงตัว (กำหนดให้ = 3/5 และ = 4/5 ) (1) 10 นิวตัน (2) 30 นิวตัน (3) 40 นิวตัน (4) 50 นิวตัน 6.วัตถุ มวล 1 กิโลกรัมและวัตถุ มวล 3 กิโลกรัม ผูกติดกันด้วยเชือกดังรูป วำงอยู่บนพื้นรำบที่ ไม่มีควำมฝืด ออกแรง F คงที่ขนำด 8 นิวตันดึงเชือก จงหำว่ำวัตถุมวล 1 กิโลกรัม จะเคลื่อนที่ด้วย อัตรำเร่งเท่ำไร (1) 1 (2) 2 (3) 4 (4) 8 7.นักกีฬำทุ่มน้ำหนัก ทุ่มก้อนเหล็กมวล 5 กิโลกรัม ออกไปในทิศทำงทำมุม 37 กับแนวรำบ ด้วย ควำมเร็วต้น 20 เมตรต่อวินำที จงหำควำมเร็วของก้อนเหล็กที่ตำแหน่งสูงสุด (1) 0 เมตรต่อวินำที (2) 12 เมตรต่อวินำที (3) 16 เมตรต่อวินำที (4) 20 เมตรต่อวินำที 8.ในกำรเคลื่อนที่เป็นวงกลมของวัตถุในแนวรำบด้วยอัตรำเร็วคงตัว ข้อใดกล่ำวผิด (1) ควำมเร็วของกำรเคลื่อนที่ไม่คงตัว (2) ควำมเร่งของกำรเคลื่อนที่คงตัวตลอดเวลำ (3) ควำมถี่ของกำรเคลื่อนที่คงตัว (4) เวลำที่ใช้ในกำรเคลื่อนที่ครบรอบคงตัว
  • 3. 9.ในกำรแข่งขันรถยนต์ ใช้ยำงรถยนต์ที่มีค่ำสัมประสิทธิ์ ควำมเสียดทำนระหว่ำงยำงรถกับถนนเท่ำกับ 1.2 จงหำว่ำรถจะวิ่งเข้ำโค้งแนวรำบที่รัศมีควำมโค้ง 60 เมตร ด้วยอัตรำเร็วเท่ำไร (1) 60 เมตรต่อวินำที (2) 50 เมตรต่อวินำที (3) 72 เมตรต่อวินำที (4) 26.8 เมตรต่อวินำที 10.ลูกตุ้มนำฬิกำสองอันแขวนไว้ด้วยเชือกเบำ ควำมยำวเชือกของลูกตุ้มอันที่สองยำวเป็น 2 เท่ำของอัน แรก ลูกตุ้มนำฬิกำอันที่สองจะใช้เวลำในกำรแกว่งครบรอบเป็นกี่เท่ำของอันแรก (1) 2.0 เท่ำ (2) 1.0 เท่ำ (3) 0.5 เท่ำ (4) 1.4 เท่ำ 11.จงหำงำนในกำรออกแรง F ในแนวระดับขนำด 100 นิวตัน ลำกกล่องมวล 5 กิโลกรัม ให้เคลื่อนที่ ไปได้ระยะทำง 2 เมตร (1) 200 จูล (2) 100 จูล (3) 500 จูล (4) 1000 จูล 12.ลูกมะพร้ำวมวล 1 กิโลกรัม ร่วงจำกต้นสูง 20 เมตร ขณะที่ลูกมะพร้ำวกระทบพื้นจะมีพลังงำนจลน์ เท่ำไร (1) 20 จูล (2) 200 จูล (3) 14 จูล (4) 100 จูล
  • 4. 13.รถยนต์มวล 1500 กิโลกรัม วิ่งบนถนนด้วยอัตรำเร็ว 72 กิโลกรัมต่อชั่วโมง จะมีโมเมนตัมเท่ำไร (1) 30,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที (2) 54,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที (3) 15,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที (4) 108,000 กิโลกรัม เมตรต่อวินำที 14.วัตถุก้อนที่ 1 เคลื่อนที่เข้ำชนกับวัตถุก้อนที่ 2 ที่อยู่นิ่งบนพื้นรำบลื่น หลังกำรชนวัตถุทั้งสองเคลื่อนที่ ติดกันไป ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกำรชนนี้ (1) โมเมนตัมก่อนกำรชนกันเท่ำกับโมเมนตัมหลังกำรชนกัน (2) พลังงำนกลรวมก่อนกำรชนกันเท่ำกับพลังงำนกลรวมหลังกำรชน (3) พลังงำนจลน์รวมก่อนกำรชนกันเท่ำกับพลังงำนจลน์รวมหลังกำรชน (4) สรุปไม่ได้เนื่องจำกข้อมูลไม่เพียงพอ 15.แดงและดำออกกำลังกำยด้วยกำรวิ่งจำกชั้นล่ำงขึ้นไปบนตึกสูง ถ้ำแดงวิ่งขึ้นไปได้ 5 ชั้นในเวลำ 10 นำทีแต่ดำวิ่งได้ 7 ชั้นในเวลำ 15 นำที ให้ตึกแต่ละชั้นมีควำมสูงเท่ำกัน ข้อสรุปใดสรุปได้ถูกต้อง (1) แดงมีกำลังมำกกว่ำดำ (2) แดงมีกำลังน้อยกว่ำดำ (3) แดงมีกำลังเท่ำกับดำ (4) ไม่ทรำบมวลแต่ละคนคงหำคำตอบไม่ได้ 16.ชำยคนหนึ่งถือดัมเบลไว้สองมือ ยืนบนเก้ำอี้ที่หมุนได้อย่ำงเสรีไม่มีแรงเสียดทำนมีแกนหมุนในแนวดิ่ง ขณะที่เขำกำงมือออก โมเมนต์ควำมเฉื่อยของเขำรวมกับเก้ำอี้เท่ำกับ 3 กิโลกรั และหมุนด้วยควำมเร็ว เชิงมุม 2 เรเดียนต่อวินำที เมื่อเขำหุบแขนเข้ำหำตัวจะมีโมเมนต์ควำมเฉื่อยรวมเท่ำกับ 1.2 กิโลกรั จะมี อัตรำเร็วเชิงมุมในกำรหมุนขณะหุบแขนเท่ำไร (1) 0.8 เรเดียนต่อวินำที (2) 1.8 เรเดียนต่อวินำที (3) 5.0 เรเดียนต่อวินำที (4) 7.2 เรเดียนต่อวินำที
  • 5. 17.กระสุนปืนมวล 10 กรัม ถูกยิงด้วยอัตรำเร็ว 400 เมตรต่อวินำที เข้ำไปฝังในเนื้อไม้ลึก 5 เซนติเมตร จงหำงำนในกำรต้ำนกระสุนปืนของเนื้อไม้ (1) 800 จูล (2) 200 จูล (3) 400 จูล (4) 1600 จูล 18.แผ่นไม้กลมรัศมี 0.5 เมตร มวล 2 กิโลกรัม และโมเมนต์ควำมเฉื่อย 0.25 กิโลกรัม เคลื่อนที่ในแนว ตรงแบบกลิ้งไปโดยไม่มีกำรลื่นไถล โดยมีควำมเร็วของศูนย์กลำงมวล 4 เมตรต่อวินำที จงหำพลังงำนจลน์ ของแผ่นไม้นี้ เมื่อเคลื่อนที่โดยหมุนรอบจุดศูนย์กลำงมวล (1) 8 จูล (2) 16 จูล (3) 24 จูล (4) 32 จูล 19.แท่งโลหะทรงกระบอกมวล 1 กิโลกรัม รัศมี 0.2 เมตร มีโมเมนต์ควำมเฉื่อย 0.04 กิโลกรัม มีเชือกพัน รอบผิวนอกปลำยเชือกด้ำนหนึ่งยึดกับผนัง ดังรูป เมื่อปล่อยให้เคลื่อนที่ลงมำในแนวดิ่งแท่งโลหะจะหมุนรอบ ตัวเอง โดยระนำบของกำรหมุนคงตัวตลอดกำรเคลื่อนที่จนศูนย์กลำงมวลต่ำกว่ำเดิม1 เมตร จงหำควำมเร็ว ของแท่งโลหะทรงกระบอกนี้(กำหนดให้ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลกเท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2) (1) 3.16 เมตรต่อวินำที (2) 3.65 เมตรต่อวินำที (3) 1.58 เมตรต่อวินำที (4) 1.83 เมตรต่อวินำที 20.วัตถุหนัก 4 นิวตันและW ผูกไว้ด้วยเชือกและอยู่ในสมดุลในลักษณะดังรูป ถ้ำสัมประสิทธิ์ควำมเสียดทำน สถิตระหว่ำงวัตถุกับพื้นเท่ำกับ 0.4 จงหำ W ที่มำกที่สุดที่ทำให้วัตถุทั้งสองยังคงอยู่นิ่งเช่นเดิม (1) 10 นิวตัน (2) 12 นิวตัน (3) 14 นิวตัน (4) 16 นิวตัน
  • 6. 21.ลวดทองแดงสองเส้น A และ B มีควำมยำวเท่ำกัน แต่ลวด A มีเส้นผ่ำนศูนย์กลำงเป็นสองเท่ำของลวด B ถ้ำลวดทั้งสองถูกดึงออกด้วยแรงเท่ำกัน จงหำอัตรำส่วนระหว่ำงควำมเค้นดึงของลวด A ต่อลวด B (1) 0.25 (2) 0.5 (3) 2.0 (4) 4.0 22.จำกรูป ภำชนะทั้งสำมใบบรรจุของเหลวชนิดเดียวกันที่ระดับควำมสูง h เท่ำกันและพื้นที่ของก้นภำชนะมี ขนำดเท่ำกัน ข้อควำมต่อไปนี้ข้อใดถูกต้อง ก.ควำมดันเกจที่ก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน ข.ควำมดันสัมบูรณ์ที่ก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน ค.แรงดันของเหลวกระทำต่อก้นภำชนะทุกใบเท่ำกัน (1) ข้อ ก และ ข้อ ข ถูก (2) ข้อ ก และ ข้อ ค ถูก (3) ข้อ ข และ ข้อ ค ถูก (4) ถูกทุกข้อ 23.ขำข้ำงหนึ่งของแอนอมิเตอร์ถูกต่อเข้ำกับภำชนะที่บรรจุแก๊สชนิดหนึ่งปรำกฏว่ำระดับปรอทในขำทั้งข้ำงสูง 5 เซนติเมตร และ 15 เซนติเมตร ดังรูป ถ้ำควำมดันของอำกำศภำยนอกขณะนั้นเท่ำกับ 105 พำสคัล แก๊สใน ภำชนะมีควำมดันเท่ำใด (กำหนดให้ ควำมหนำแน่นปรอทเท่ำกับ 13.6 103 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร และ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2) (1) 0.136 105 พำสคัล (2) 1.36 105 พำสคัล (3) 1.136 105 พำสคัล (4) 2.36 105 พำสคัล
  • 7. 24.นำไม้รูปลูกบำศก์มีควำมยำวด้ำนละ 0.5 เมตร มีควำมหนำแน่น 800 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร ไปลอยน้ำ ที่มีควำมหนำแน่น 1000 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร จะต้องใช้แรงเท่ำใดกดที่แท่งไม้ เพื่อให้แท่งไม้จมมิดน้ำ พอดี(กำหนดให้ ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2) (1) 125 นิวตัน (2) 250 นิวตัน (3) 375 นิวตัน (4) 500 นิวตัน 25.ถ้ำน้ำในท่อประปำที่ไหลผ่ำนมำตรวัดเข้ำบ้ำน มีอัตรำกำรไหล 60 ลิตรต่อนำที จงหำอัตรำเร็วของน้ำในท่อ ประปำเมื่อไหลผ่ำนท่อที่มีเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 2 เซนติเมตร (1) 10/pi เมตรต่อวินำที (2) 15/pi เมตรต่อวินำที (3) 20/pi เมตรต่อวินำที (4) 25/pi เมตรต่อวินำที 26.ถังน้ำมันขนำดใหญ่มีรูรั่วที่ระยะลึก 10 เมตร จำกผิวน้ำมัน ถ้ำถังน้ำมันปิดสนิทและควำมดันที่ผิวน้ำมัน เท่ำกับ 3 105 พำสคัล และควำมดันบรรยำกำศเท่ำกับ 1.0 105 พำสคัลจงหำอัตรำเร็วของน้ำมันที่พุ่ง ออกจำกถัง(กำหนดให้ ควำมหนำแน่นของน้ำมันเท่ำกับ 500 กิโลกรัมต่อลูกบำศก์เมตร และควำมเร่งโน้มถ่วง ของโลก เท่ำกับ 10 เมตรต่อวินำที2) (1) 10 เมตรต่อวินำที (2) 10 10 เมตรต่อวินาที (3) 10 5 เมตรต่อวินาที (4) 10 2 เมตรต่อวินาที
  • 8. 27.ใส่ก้อนอะลูมิเนียมมวล 50 กรัม อุณหภูมิ 100 องศำเซลเซียส ลงในน้ำมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 25 องศำ เซลเซียส ซึ่งอยู่ในภำชนะฉนวนปิดมิดชิด เมื่อถึงสมดุลควำมร้อน อุณหภูมิของสำรทั้งสอง มีค่ำเป็นเท่ำใด [กำหนดให้ ควำมจุจำเพำะของน้ำและอะลูมิเนียมมีค่ำเท่ำกับ 4000 จูลต่อ (กิโลกรัมเซลเซียส) และ (1000 จูล ต่อ (กิโลกรัมเซลเซียส) ตำมลำดับ] (1) 33 องศำเซลเซียส (2) 34 องศำเซลเซียส (3) 35 องศำเซลเซียส (4) 36 องศำเซลเซียส 28.บอลลูนที่ภำยในบรรจุแก๊สไฮโดรเจน ขณะอยู่ที่พื้นมีอุณหภูมิ 27 องศำเซลเซียส มีปริมำตร 1.8 10-2 ลูกบำศก์เมตร และมีควำมดัน 1.0 105 พำสคัล ถ้ำบอลลูนลูกนี้ลอยสูงขึ้น จนอุณหภูมิของแก๊สภำยใน ลดลงเหลือ 17 องศำเซลเซียส ควำมดันลดลงเหลือ 0.8 105 พำสคัล ลูกบอลลูนจะมีปริมำตรเท่ำใด (1) 1.42 10-2 ลูกบำศก์เมตร (2) 1.75 10-2 ลูกบำศก์เมตร (3) 2.18 10-2 ลูกบำศก์เมตร (4) 2.55 10-2 ลูกบำศก์เมตร 29.แก๊สปริมำณหนึ่งอยู่ในกระบอกสูบถูกอัดจนมีควำมดันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของควำมดันเดิมโดยมีอุณหภูมิ คงตัว ข้อควำมต่อไปนี้ ข้อใดถูกต้อง ก. ปริมำตรของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของปริมำตรเดิม ข. ปริมำตรของแก๊สในภำวะใหม่มีค่ำลดลงครึ่งหนึ่งของปริมำตรเดิม ค. จำนวนโมลของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่ำของจำนวนโมลเดิม ง. จำนวนโมลของแก๊สในสภำวะใหม่มีค่ำเท่ำกับของจำนวนโมลเดิม (1) ข้อ ก และ ข้อ ค (2) ข้อ ข และ ข้อ ค (3) ข้อ ก และ ข้อ ง (4) ข้อ ข และ ข้อ ง
  • 9. 30.แก๊สในกระบอกสูบรับควำมร้อนจำกภำยนอก 142 จูล ขณะที่แก๊สขยำยตัวทำงำนต่อระบบภำยนอก 160 จูล พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น หรือลดลงเท่ำใด และอุณหภูมิของแก๊สเพิ่มขึ้นหรือลดลง (1) พลังงำนภำยในของแก๊สลดลง 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สลดลง (2) พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สลดลง (3) พลังงำนภำยในของแก๊สลดลง 18 จูล และอุณหภูมิของแก๊สเพิ่มขึ้น (4) พลังงำนภำยในของแก๊สเพิ่มขึ้น 18 จูล และอุณหภูมมิของแก๊สเพิ่มขึ้น 31.คลื่นในทะเลซัดเข้ำหำฝั่งด้วยอัตรำเร็ว 3 เมตรต่อวินำที ถ้ำระยะระหว่ำงสันคลื่นที่ถัดกันเท่ำกับ 6 เมตร จะมีคลื่นเข้ำกระทบฝั่งกี่ลูกในเวลำ 1 นำที (1) 18 ลูก (2) 30 ลูก (3) 360 ลูก (4) 1080 ลูก 32.คลื่นดลสองคลื่นในเส้นเชือก กำลังเคลื่อนที่เข้ำหำกันด้วยอัตรำเร็ว 2 เซนติเมตรต่อวินำที ณ เวลำ ขณะหนึ่ง คลื่นดลทั้งสองอยู่ห่ำงกัน 6 เซนติเมตร ดังรูป เมื่อเวลำผ่ำนไป 2.5 วินำที ตำแหน่งสันคลื่นทั้ง สองอยู่ห่ำงกันเท่ำใด (1) 2 เซนติเมตร (2) 3 เซนติเมตร (3) 4 เซนติเมตร (4) 5 เซนติเมตร 33.จำกรูป แสดงภำพกำรแทรกสอดของคลื่นผิวน้ำที่เกิดจำกแหล่งกำเนินอำพันธ์ S1 และ S2 มี P เป็น จุดบนเส้นบัพ ถ้ำ S1P เท่ำกับ 10 เซนติเมตรและ S2P เท่ำกับ 7 เซนติเมตร ถ้ำอัตรำเร็วของคลื่นทั้ง สองเท่ำกับ 30 เซนติเมตรต่อวินำที แหล่งกำเนินคลื่นทั้งสองมีควำมถี่เท่ำใด (1) 3 เฮิรตซ์ (2) 4 เฮิรตซ์ (3) 5 เฮิรตซ์ (4) 6 เฮิรตซ์
  • 10. 34.ในกำรทดลองคลื่นนิ่งบนเส้นเชือก ถ้ำควำมถี่ของคลื่นนิ่งเป็น 475 เฮิรตซ์ และอัตรำเร็วของคลื่นในเส้น เชือกเท่ำกับ 380 เมตรต่อวินำที ตำแหน่งบัพสองตำแหน่งที่อยู่ถัดกันจะห่ำงกันเท่ำใด (1) 0.2 เมตร (2) 0.4 เมตร (3) 0.6 เมตร (4) 0.8 เมตร 35.ถ้ำอำกำศมีอุณหภูมิ 0 C ควำมเร็วเสียงในอำกำศมีค่ำเท่ำไร (1) 330 เมตร/วินำที (2) 331 เมตร/วินำที (3) 340 เมตร/วินำที (4) 343 เมตร/วินำที 36.แดงยืนห่ำงจำกลำโพง 40 เมตรจะพอดีได้ยินเสียงจำกลำโพง ถ้ำเขำเดินเข้ำไปยืนที่ตำแหน่งห่ำงจำก ลำโพง 10 เมตร จะได้ยินเสียงกี่วัตต์/ตำรำงเมตร (1) 2 x10ยกกำลัง12 (2) 4 x 10ยกกำลัง12 (3) 8 x10ยกกำลัง12 (4) 16 x10ยกกำลัง12 37.ถ้ำให้เสียงที่มีควำมถี่ 600 เฮิรตซ์ เป็นควำมถี่ฮำร์โมนิคลำดับที่หนึ่ง จงหำค่ำสูงสุด (nmax) ของ ลำดับฮำร์โมนิคที่ n ที่หูคนเรำได้ยิน (1) nmax = 33 (2) nmax = 20 (3) nmax = 16 (4) nmax = 10
  • 11. 38.รถไฟ A จอดนิ่งอยู่ในสถำนีแต่รถไฟ B แล่นเข้ำมำหำแล้วเคลื่อนหนีออกไป ถ้ำทั้งสองเปิดหวูดด้วย ควำมถี่เดียวกัน ข้อสรุปต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้อง (1) ขณะที่รถไฟ B แล่นเข้ำมำ คนในรถไฟ A ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ B มีควำมยำวคลื่นสั้นลง (2) ขณะที่รถไฟ B แล่นหนี้ไป คนในรถไฟ A ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ B มีควำมยำวคลื่นมำกลง (3) ขณะที่รถไฟ B แล่นเข้ำมำ คนในรถไฟ B ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ A มีควำมยำวคลื่นสั้นลง (4) ขณะที่รถไฟ B แล่นหนีมำ คนในรถไฟ B ได้รับคลื่นเสียงจำกรถไฟ A มีควำมถี่น้อยลง 39.ถ้ำมีวัตถุจริงวำงอยู่หน้ำกระจกดังต่อไปนี้ ข้อสรุปใดถูกต้องที่สุด ก.กระจกรำบจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ ข.กระจกเว้ำจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ ค.กระจกนูนจะให้แต่ภำพเสมือนเสมอ (1) ข้อ ก ถูกต้อง (2) ข้อ ก และ ข้อ ข ถูกต้อง (3) ข้อ ก และ ข้อ ค ถูกต้อง (4) ถูกหมดทั้ง ก ข และ ค 40.ถ้ำเรำฉำยแสงเลเซอร์ในแนวตรงจำกอำกำศผ่ำนไปยังแก้วหนำแล้วทะลุผ่ำนเข้ำไปในน้ำโดยไม่มีกำร เบี่ยงเบนของแนวทำงเดินแสงเลย ข้อสรุปข้อใดไม่ถูกต้อง (1) ควำมยำวคลื่นของแสงเลเซอร์ในน้ำยำวกว่ำในแก้ว (2) ควำมยำวแสงเลเซอร์ในอำกำศยำวกว่ำในน้ำ (3) ควำมถี่ของแสงเลเซอร์ในแก้วสูงกว่ำในน้ำ (4) ควำมเร็วคลื่นของแสงเลเซอร์ในน้ำน้อยกว่ำในอำกำศ 41.ถ้ำนำเลนส์บำง 2 ชิ้นมำประกบกัน ชิ้นแรกเป็นเลนส์นูนมีกำลัง 5 ไดออปเตอร์และชิ้นที่สองเป็นเลนส์ เว้ำที่มีกำลัง 3 ไดออปเตอร์ จะได้เลนส์ประกบที่มีระยะโฟกัสรวมกี่เซนติเมตร (1) 50 (2) 20 (3) 16.7 (4) 12.5
  • 12. 42.กล้องถ่ำยรูปมีเลนส์หน้ำกล้องที่มีระยะโฟกัสเท่ำกับ 41 เซนติเมตร ถ้ำระยะจำกเลนส์ถึงแผ่นฟิล์ม บันทึกภำพอยู่ในช่วง 4.0 – 4.2 เซนติเมตร จงหำระยะใกล้ที่สุดของระยะวัตถุที่กล้องนี้จะยังคงถ่ำยภำพได้ ชัดเจน (1) 0.25 เมตร 2) 0.80 เมตร (3) 0.84 เมตร (4) 1.25 เมตร 43.ถ้ำนำลูกพิทมวล 4 กรัมผูกด้วยเชือกเบำแล้วนำไปแขวนในบริเวณที่มีสนำมไฟฟ้ำคงที่ในแนวรำบแล้วทำ ให้ลูกพิทถูกแรงจำกสนำมกระทำจนเชือกที่แขวนเอียงและนิ่งอยู่ที่มุม 45 กับแนวดิ่งถ้ำลูกพิทมีประจุ +2 นำโนคูลอมบ์ จงหำขนำดของสนำมไฟฟ้ำ (กำหนดให้ควำมเร่งโน้มถ่วงของโลก เท่ำกับ 10 เมตร/ ) (1) 2 x 10ยกกำลัง7 นิวตัน/คูลอมบ์ (2) 4 x10ยกกำลัง7 นิวตัน/คูลอมบ์ (3) 2 x10ยกกำลัง4 นิวตัน/คูลอมบ์ (4) 6 x10ยกกำลัง4 นิวตัน/คูลอมบ์ 44.ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อสรุปที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่ำสนำมและศักย์ไฟฟ้ำของทรงกลมโลหะที่มีประจุ (1) ที่ตำแหน่งภำยนอกทรงกลม ขนำดของสนำมไฟฟ้ำแปรผันตรงกับกำลังสองของระยะห่ำงจำกใจ กลำงทรงกลม (2) ที่ตำแหน่งภำยในทรงกลม ขนำดของสนำมไฟฟ้ำมีค่ำคงที่ (3) ที่ตำแหน่งภำยนอกทรงกลม ค่ำของศักย์ไฟฟ้ำแปรผันตรงกับระยะห่ำงจำกใจกลำงทรงกลม (4) ที่ตำแหน่งภำยในทรงกลม ค่ำของศักย์ไฟฟ้ำมีค่ำคงที่ 45.ต่อควำมต้ำนทำน 8 โอห์มเข้ำกับแบตเตอรี่ 6 โวลต์แล้ววัดกระแสที่ไหลผ่ำนในวงจรได้ 0.6 แอมแปร์ จงหำค่ำควำมต้ำนทำนภำยในของแบตเตอรี่ (1) 0.2 (2) 0.8 (3) 2.0 (4) 8.0
  • 13. 46.จำกข้อควำมต่อไปนี้ ข้อใดสรุปได้ถูกต้องมำกที่สุด (1) ถ้ำนำตัวต้ำนทำน 2 ตัวมำต่อแบบอนุกรมกันจะมีควำมต้ำนทำนรวมลดลง (2) ถ้ำนำตัวเก็บประจุ 2 ตัวมำต่อแบบอนุกรมกันจะมีควำมจุรวมเพิ่มขึ้น (3) ถ้ำนำตัวต้ำนทำนมำต่อแบบอนุกรมกับตัวเก็บประจุแล้วต่อกับแบตเตอรี่กระแสตรงจะไม่มี กระแสไหลในวงจรได้เลย (4) ถ้ำนำตัวต้ำนทำนมำต่อแบบอนุกรมกับตัวเก็บประจุแล้วต่อกับแบตเตอรี่กระแสตรง แล้วทิ้งไว้ เป็นเวลำนำน ๆ ตัวเก็บประจุจะมีควำมต่ำงศักย์เท่ำกับค่ำแรงเคลื่อนไฟฟ้ำของแบตเตอรี่ 47.ถ้ำมีอนุภำคขนำดเล็กเคลื่อนที่ตรงเข้ำไปในสนำมแม่เหล็กด้วยควำมเร็วคงที่แล้วผ่ำนออกมำด้วยควำมเร็ว เดิมโดยไม่เกิดแรงใด ๆ กระทำต่ออนุภำค ข้อสรุปใดไม่ถูกต้องที่สุด (1) อนุภำคตัวนี้ไม่มีประจุ (2) อนุภำคตัวนี้เคลื่อนที่เข้ำไปในแนวตั้งฉำกกับทิศทำงสนำมแม่เหล็ก (3) อนุภำคตัวนี้เคลื่อนที่เข้ำไปในแนวขนำนกับทิศทำงสนำมแม่เหล็ก (4) อนุภำคตัวนี้มีมวลมำกเกินไปจนสนำมแม่เหล็กไม่มีผลต่อกำรเคลื่อนที่ 48.นำขดลวดเหนี่ยวนำ (L) ต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำน (R) แล้วต่อเข้ำกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ำกระแสสลับ ข้อควำมต่อไปนี่ข้อใดถูกต้อง (1) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสนำหน้ำกระแสที่ไหลผ่ำนขดลวดเหนี่ยวนำ (2) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสตำมหลังกระแสที่ไหลผ่ำนขดลวดเหนี่ยวนำ (3) กระแสไฟฟ้ำที่ไหลผ่ำนตัวต้ำนทำนมีเฟสตำมหลังควำมต่ำงศักย์ที่ตกคร่อมขดลวดเหนี่ยวนำ (4) แรงเคลื่อนไฟฟ้ำของแหล่งกำเนิดไฟฟ้ำมีเฟสตำมหลังควำมต่ำงศักย์ที่ตกคร่อมขดลวดเหนี่ยวนำ 49.บ้ำนหลังหนึ่งมีหลอดไฟ 40 วัตต์ จำนวน 5 ดวง มีพัดลมที่มีกำลังไฟฟ้ำ 200 วัตต์ 1 ตัว และเตำ รีด 1800 วัตต์ 1 ตัว ถ้ำคนในบ้ำนเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ำในบ้ำนทั้งหมดที่กล่ำวมำพร้อมกันจะมีกระแสไฟฟ้ำ ไหลเข้ำมำในบ้ำนทั้งหมดกี่แอมแปร์ (1) 5 (2) 7 (3) 10 (4) 15