SlideShare a Scribd company logo
1 of 32
บทที่  13  ฟิสิกส์ยุคใหม่ 1.  ทฤษฎีสัมพัทธภาพ 2.  อะตอมและนิวเคลียส 3.  กลศาสตร์ควอนตัมเบื้องต้น 4.  นิวเคลียร์ฟิสิกส์ 5.  จักรวาลวิทยา
13.1  ทฤษฎีสัมพัทธภาพ  (Relativity)   1 . หลักสัมพัทธภาพของนิวตัน 2 . ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ 3 . ผลของสัมพัทธภาพพิเศษ 4 . การแปลงสมการแบบลอเรนซ์ 5 . โมเมนตัมสัมพัทธภาพและสัมพัทธภาพในรูปกฏของนิวตัน 6 . พลังงานสัมพัทธภาพ 7 . 8. ปรากฏการณ์คอมพ์ตัน การผลิตคู่และการประลัยคู่
[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],สรุป ทฤษฎีสัมพันธภาพ กรอบอ้างอิงเฉื่อย  เป็นกรอบที่ไม่มีความเร่ง  สัมพัทธภาพพิเศษ     กรอบอ้างอิงไม่เฉื่อย  เป็นกรอบที่มีความเร่ง  สัมพัทธภาพทั่วไป   ,[object Object],[object Object],[object Object]
2.  การหดของความยาว  กล่าวได้ดังนี้    “ ความยาวของวัตถุท่อนหนึ่ง ซึ่งวัดในกรอบอ้างอิงเฉื่อยที่เคลื่อนที่กรอบหนึ่ง  (L obs )    จะสั้นกว่าความยาวของวัตถุท่อนเดียวกัน เมื่อวัดในกรอบอ้างอิงเฉื่อยที่อยู่นิ่ง   อีกกรอบหนึ่ง  (L prop ) ”   โดยมีความสัมพันธ์ดังนี้ 1.  การยืดของเวลา  มีใจความดังนี้   “ ช่วงเวลาของเหตุการณ์  2   ครั้ง ซึ่งวัดในกรอบอ้างอิงเฉื่อยที่เคลื่อนที่กรอบหนึ่ง  (t obs )  จะนานกว่าช่วงเวลาของเหตุการณ์  2   ครั้งเดียวกันนี้ ซึ่งวัดในกรอบอ้างอิงเฉื่อยที่อยู่นิ่งอีกกรอบหนึ่ง  (t prop ) ”   กล่าวคือ ,[object Object],โดยที่
[object Object],การแปลงแบบกาลิเลโอ ( จะใช้ได้กับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ากว่าแสงมากๆ เท่านั้น ) การแปลงแบบลอเรนซ์ ,[object Object]
[object Object],ถ้า โดยที่ เมื่อ  u  = (u x , u y , u z )   เป็นอัตราเร็วของวัตถุซึ่งวัดในกรอบ  S   และ  u   = (u  x , u  y , u  z )  เป็นอัตราเร็วของวัตถุวัดในกรอบ  S 
[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],E k  =   m 0 c 2   +  m 0 c 2 p   =   m 0 u E =   m 0 c 2  = mc 2 E   =  E R  + E k ,[object Object],E 2   = m 0 2 c 4  + (pc) 2  = E R 2  +   (pc) 2 E 2  = ( m 0 c 2  ) 2   +   ( pc) 2 E k  =  (  -1) m 0 c 2   โดยที่  E   =   m 0 c 2   = mc 2   แทนพลังงานสัมพันธภาพรวมของอนุภาคตัวหนึ่ง E R  = m 0 c 2   แทนพลังงานนิ่ง   (rest energy)  ของอนุภาคตัวเดียวกัน E k  = (  -1) m 0 c 2   แทนพลังงานจลน์สัมพันธภาพของอนุภาคตัวนี้
[object Object],[object Object],ความยาวคลื่นที่เลื่อนไปของคอมพ์ตัน เมื่อ  เป็นความยาวคลื่นของรังสีเอ็กซ์ก่อนกระทบแท่งกราไฟต์  และ  เป็นความยาวคลื่นของรังสีเอ็กซ์หลังการกระเจิงจากแท่งกราไฟต์แล้ว การผลิตคู่จะเกิดขึ้นเมื่อพลังงานของโฟตอนจะต้องไม่น้อยกว่าผลบวกของพลังงานของมวลสารขณะอยู่นิ่งของอนุภาคทั้งสอง เมื่อ  m 0 c 2   คือพลังงานมวลหยุดนิ่งของอิเลคตรอนหรือโพสิตรอน  = 0.511  MeV  min   คือความถี่น้อยที่สุดของโฟตอนที่เกิดการผลิตคู่ได้  ,[object Object],[object Object],จากการผลิตคู่ พลังงานที่เหลือจะกลายเป็นพลังงานจลน์ของอิเลคตรอนและโพสิตรอน  เมื่อโพสิตรอน พบอิเลคตรอนจะ รวมกั น เกิดเป็นโฟตอนทันที  2-3  ตัวเรียก ว่า   การประลัย   (Annihilation)   โพสิตรอนอาจรวมกับอิเลคตรอนทั้งๆ ที่ยังมีความเร็วอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะรวมเมื่อหยุดนิ่งหรือหมดความเร็วแล้ว
13.2  อะตอมและนิวเคลียส  ,[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
2.  อิเลกตรอนจะรับหรือคายพลังงานเมื่อมีการเปลี่ยนวงโคจรโดยที่                                     =  ความถี่โฟตอนที่อะตอมดูดหรือแผ่ออกมา   มีความยาวคลื่น       =  พลังงานอิเลกตรอนก่อนเปลี่ยนวงโคจร       =  พลังงานอิเลกตรอนหลังเปลี่ยนวงโคจร   ถ้า          เป็น   +   หมายถึง   คายพลังงาน -  หมายถึง   ดูดพลังงาน   แบบจำลองอะตอมของบอร์ ประสบความสำเร็จในการอธิบายเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน บอร์สันนิษฐานว่าวงโคจรแต่ละวงเป็นวงกลม และมีแรงดึงดูดระหว่างอิเลกตรอนกับโปรตอน 1.  อิเลกตรอนสามารถอยู่ได้ในวงโคจร ที่ไม่ต่อเนื่องโดยมีโมเมนตัมเชิงมุม      m  =  มวลของอิเลกตรอน   = 9.1x10 -31  kg  v  =  อัตราเร็วเชิงเส้นของอิเลกตรอน   r  =  รัศมีวงโคจรของอิเลกตรอน   n  =  เลขจำนวนเท่า   (1, 2, 3, ...)         h  =  ค่าคงที่ของแพลงค์  =  6.6261x10 -34   J.s         สรุป พลังงานในแต่ละวง รัศมีแต่ละวงโคจร   ( หน่วยเป็น  m) =  ค่าคงที่ของริดเบอร์ก
[object Object],n  =  เลขควอนตัมที่กำหนดวงโคจรหลักของอิเลกตรอน  =  1,  2,  3, 4, 5, 6, …  ชื่อ  K, L, M, N, O, P, … มีจำนวนอิเลกตรอนได้สูงสุด  = 2n 2   l   =  เลขควอนตัมที่กำหนดวงโคจรย่อยของอิเลกตรอน   =  0, 1, 2, 3 , 4, 5, … , (n-1) ชื่อ  s, p, d, f, g, h, …  มีจำนวนอิเลกตรอนที่เข้าไปอยู่ในวงโคจรย่อยๆ นี้ได้  = 2 ( 2 l  +1)  s  =  เลขควอนตัมเนื่องจากอิเลกตรอนมีขนาดแล้วหมุนรอบตัวเอง   ทำ ให้มีโมเมนตัมของตัวมันเอง มีค่าเท่ากับ  ½
[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],หมายเหตุ   เมซอน และ บารีออน เรียกรวมว่าเป็น  ฮาดรอน   ( hadrons) ,[object Object]
13.3  กลศาสตร์ควอนตัมเบื้องต้น ,[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
สรุป   กลศาสตร์ควอนตัมเบื้องต้น ,[object Object],เมื่อ  I  เป็นพลังงานที่แผ่ออกมาจากวัตถุดำพื้นที่  1 m 2   ใน  1   วินาที     คือ ค่าคงที่สเตฟาน - โบลซ์มานน์  = 5.67x10 -8  W.m -2  K -4 … .. Stefan-Boltzmann Law ..... Wein’s displacement law E  =  nh    เมื่อ  E   เป็นพลังงานของออสซิลเลเตอร์ ,  n   เป็นเลขควอนตัมมีค่าเป็นเลขจำนวนเต็ม ,  h   เป็นค่าคงที่ของ แ พลงค์  =  6.625x10 -34  J.s   และ     คือค่าความถี่ของการสั่น  ข้อสมมติฐานของแพลงค์   :  ออสซิลเลเตอร์ที่สั่นจะมีพลังงานเป็นค่าใดๆ ไม่ได้ โดยจะมีค่าจำกัดเป็นช่วงๆ   ออสซิลเลเตอร์ที่มีความถี่     จะมีพลังงานเป็น .....  กฏการแผ่รังสีของแพลงค์
[object Object],โดยที่  (E k ) max =  พลังงานจลน์สูงสุดของโฟโตอิเลกตรอน  =  ½ mv 2 max   = eV 0 e =  ค่าประจุไฟฟ้าของอิเลกตรอน  = 1.6x10 -19  C V 0  =  ค่าศักย์หยุดยั้ง  ( V )  = h  /e – W/e W  =  ค่าฟังก์ชันงานของโลหะ มีค่าต่างกันแล้วแต่ชนิดของโลหะ … . สมการโฟโตอิเลกตริกของไอน์สไตน์ เป็นขบวนการที่อิเลกตรอนหลุดออกจากผิวโลหะเมื่อแสงตกกระทบบนผิวโลหะ ไอน์สไตน์ประสบความสำเร็จในการอธิบายปรากฏการณ์นี้โดยการขยายสมมติฐานทางควอนตัมของแพลงค์กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ในแบบจำลองนี้แสงถูกมองว่าเป็นลำของโฟตอน ซึ่งมีพลังงาน  E = h    เมื่อ    เป็นความถี่ และ  h   เป็นค่าคงที่ของแพลงค์  ถ้าพลังงานจลน์เป็นศูนย์   จะได้ค่าความถี่เป็นค่าความถี่ขีดเริ่ม   0  = W/h
[object Object],แบบจำลองอะตอมของบอร์ประสบความสำเร็จในการอธิบายเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน ข้อสมมติฐานหนึ่งคือ อิเลกตรอนสามารถอยู่ได้ในวงโคจรที่ไม่ต่อเนื่อง โดยมีโมเมนตัมเชิงมุม  mvr   เท่ากับผลคูณของลำดับชั้นของวงโคจรกับ  h/2    บอร์สันนิษฐานค่าวงโคจรแต่ละวงเป็นวงกลมและมีแรงดึงดูดระหว่างอิเลกตรอนกับโปรตอน  พลังงานของแต่ละสถานะควอนตัมหาได้จาก แทนค่า  m, e,   0 , h  ลงในสมการนี้ แล้วหารด้วย  e  เพื่อทำให้เป็นหน่วย  eV  จะได้ n = 1, 2, 3, … ถ้าอิเลกตรอนในอะตอมไฮโดรเจนย้ายจากวงโคจรซึ่งมีเลขควอนตัม  n i   ไปยังวงโคจรที่มีเลขควอนตัม  n f   และถ้า  n f  < n i   อะตอมจะแผ่โฟตอนซึ่งมีความถี่เป็น โดย ค่าคงที่ของริดเบอร์ก
[object Object],[object Object],เกิดจากการขยายแสงโดยกระตุ้นให้ปล่อยรังสีออกมา แสงเลเซอร์เป็นแสงที่มีความเข้มและพลังงานสูงมาก มีความกว้างของลำแสงแคบมาก สามารถจะรวมลำแสงส่องมายังจุดเดียวกันได้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้มากมาย รังสีเอกซ์เกิดจากการที่อิเลคตรอนวิ่งไปชนเป้าที่เป็นโลหะ   ทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า   ( เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่น )
p =  โมเมนตัมของโฟตอน   m =  มวลอนุภาค   v =  ความเร็วอนุภาค     =  ความยาวคลื่น   ทวิภาพของเดอบรอยล์   &quot; คลื่นแสดงสมบัติของอนุภาคได้   และอนุภาคก็แสดงสมบัติของคลื่นได้ &quot;  วัตถุมวล  m   มีความเร็ว  v   จะมีความยาวคลื่น แสงความยาวคลื่น     จะมีโมเมนตัม ,[object Object], x   =  ความไม่แน่นอนของการวัดตำแหน่ง    p   =  ความไม่แน่นอนของการวัดโมเมนตัม   ,[object Object]
[object Object],[object Object],[object Object],แก้สมการนี้จะได้สมการทั่วไปเป็น
13.4  นิวเคลียร์ฟิสิกส์ ,[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
สรุป นิวเคลียร์ฟิสิกส์ ,[object Object],[object Object],สัญญลักษณ์ของธาตุเขียนได้เป็น   โดยที่   A  =  atomic mass no. ( จำนวน   p + n)   Z  =  atomic no.  ( จำนวน   p)  ,[object Object],[object Object],N   เป็นจำนวนนิวเคลียสที่เวลา  t  ใดๆ  N 0   เป็นจำนวนนิวเคลียสตอนเริ่มต้น  t = 0  λ   เป็นค่าคงตัวการสลายตัว  (s -1 )
กัมมันตภาพของธาตุกัมมันตรังสีใดๆ อาจเขียนได้ว่า ,[object Object],มีหน่วยเป็น   Bq (Bequerel)  แต่เดิมใช้หน่วยเป็น   Ci (Curie)  โดยที่ 1 Ci  =  3.7 X 10 10  dps  =  3.7 X 10 10  Bq เมื่อ   A 0  =  กัมมันตภาพเมื่อเวลาเริ่มต้น   (t = 0)   A  =  กัมมันตภาพเมื่อเวลาผ่านไป   t ,[object Object]
[object Object],สมการนี้เรียกว่า สมการสมดุลกัมมันตรังสีแบบถาวร (Secular Equilibrium) ,[object Object],นิวเคลียสเหมือนหยดของเหลว คือมีความตึงผิวสูง และพื้นผิวเคลื่อนไหวได้  นิวคลีออนอยู่ในนิวเคลียสได้ด้วยแรงยึดที่เรียกว่า  แรงนิวเคลียร์  สามารถนำไปสร้างสูตรหาพลังงานยึดเหนี่ยวที่ให้ผลถูกต้องที่สุด และใช้อธิบายกระบวนการแบ่งแยกตัว  ( ฟิชชัน )  ของนิวเคลียสได้ดีที่สุด
[object Object],นิวคลีออนจะต้องมีสถานะควอนตัม  (quantum  states)   ที่แน่นอน การเรียงตัวของนิวคลีออนจะจัดอยู่เป็นชั้นๆ และปฏิบัติไปตาม หลักการไม่ซ้อนกันของพอลลี   (Paulo’s exclusion principle)  โดยที่แต่ละสถานะพลังงานนิวคลีออนจะถูกกำหนดด้วย  เลขควอนตัม   ( quantum number)   n   และ   l   แบบจำลองนิวเคลียสดังกล่าวนี้เรียกว่า  แบบจำลองชั้น  (shell  model) เมื่อคิดถึง อันตรกิริยาสปิน - ออร์บิต   (spin-orbit  interaction)  ด้วยแล้วจะมีผลทำให้ระดับพลังงานตามค่าของ  n   และ  l   แยกออกเป็นหลังงานย่อยตามค่าของ  j   ซึ่งเป็นเลขควอนตัมเนื่องจากอันตรกิริยาสปิน - ออร์บิต  โดยที่ค่าของ  j   =  (   l     ½  ) n  =  เลขควอนตัมที่กำหนดวงโคจรหลักของอิเลกตรอน  =  1,  2,  3, 4, 5, 6, …  ชื่อ  K, L, M, N, O, P, … มีจำนวนอิเลกตรอนได้สูงสุด  = 2n 2   l   =  เลขควอนตัมที่กำหนดวงโคจรย่อยของอิเลกตรอน   =  0, 1, 2, 3 , 4, 5, … , (n-1) ชื่อ  s, p, d, f, g, h, …  มีจำนวนอิเลกตรอนที่เข้าไปอยู่ในวงโคจรย่อยๆ นี้ได้  = 2 ( 2 l  +1)
[object Object],ในการยิงนิวเคลียสด้วยอนุภาค   a  เข้าชนนิวเคลียส   x  ได้นิวเคลียส   y  และ   อนุภาค   b  a + x ----> y + b พลังงานจากการสลายตัว   C =  ความเร็วแสง   = 3x10 8  m/s  ถ้า   Q  เป็น   +  หมายถึง   คายพลังงาน   Q  เป็น   -  หมายถึง   ดูดพลังงาน   ,[object Object],[object Object],[object Object],หรือ   x (a , b) y
ประเภทของปฏิกิริยานิวเคลียร์   ยิงนิวตรอนเข้าไปในนิวเคลียส   นิวเคลียส   แตกออกเป็น   2  ส่วนและได้นิวตรอน   2-3   ตัว   วิ่งเข้าไปชนนิวเคลียสอื่น   เป็น   chain reaction  2.  ฟิชชัน   (fission) 1.  ฟิวชัน   (fusion) เป็นปฏิกิริยารวมตัวของนิวเคลียส ธาตุเบาเป็นนิวเคลียสที่หนักกว่า
[object Object],ปฏิกิริยาการรวมตัว ,[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
13.5  จักรวาลวิทยา  (Cosmology) 1.  เอกภพ 2.  ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์เชิงสัมพัทธภาพ 3.  กฏของฮับเบิล 4.  ทฤษฎีบิกแบง
[object Object],[object Object],[object Object],สรุป จักรวาลวิทยา
V = Hr ,[object Object],[object Object],[object Object],เมื่อ  H  =  ค่าคงที่ฮับเบิล     1.7 x 10 -2   เมตรต่อ ( วินาที – ปีแสง )     1.8 x 10 -18   ต่อวินาที
เอกสารอ้างอิง ,[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]

More Related Content

What's hot

ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4Wijitta DevilTeacher
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์Chakkrawut Mueangkhon
 
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กเรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กApinya Phuadsing
 
Ch 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistryCh 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistrykruannchem
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2Wijitta DevilTeacher
 

What's hot (14)

ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 4
 
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอมแบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
 
P16
P16P16
P16
 
แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าสถิต
แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าสถิตแรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าสถิต
แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าสถิต
 
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กเรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
 
Physics atom part 1
Physics atom part 1Physics atom part 1
Physics atom part 1
 
514 102 electric 53
514 102 electric 53514 102 electric 53
514 102 electric 53
 
ไฟฟ้าสถิต [Compatibility mode]
ไฟฟ้าสถิต [Compatibility mode]ไฟฟ้าสถิต [Compatibility mode]
ไฟฟ้าสถิต [Compatibility mode]
 
Physics atom part 3
Physics atom part 3Physics atom part 3
Physics atom part 3
 
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิตไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
 
Ch 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistryCh 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistry
 
Physics2 1
Physics2 1Physics2 1
Physics2 1
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 2
 

Similar to มิ่ง111

Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]numpueng
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3Wijitta DevilTeacher
 
Atomic model ruth &amp; bohr
Atomic model ruth &amp; bohrAtomic model ruth &amp; bohr
Atomic model ruth &amp; bohrSaipanya school
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าwongteamjan
 
เรื่อง รังสีเอ็กซ์
เรื่อง  รังสีเอ็กซ์เรื่อง  รังสีเอ็กซ์
เรื่อง รังสีเอ็กซ์Somporn Laothongsarn
 
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด ณรรตธร คงเจริญ
 
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1thanakit553
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1Chakkrawut Mueangkhon
 
9789740330721
97897403307219789740330721
9789740330721CUPress
 
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการเรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการSomporn Laothongsarn
 
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียส
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียสโครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียส
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียสสุริยะ ไฝชัยภูมิ
 
โครงงานไฟฟ้า
โครงงานไฟฟ้าโครงงานไฟฟ้า
โครงงานไฟฟ้าrattanapon
 
summer 2010 (student preso)
summer 2010 (student preso)summer 2010 (student preso)
summer 2010 (student preso)Roppon Picha
 

Similar to มิ่ง111 (20)

Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
 
Physics atom part 3
Physics atom part 3Physics atom part 3
Physics atom part 3
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 3
 
Atomic model ruth &amp; bohr
Atomic model ruth &amp; bohrAtomic model ruth &amp; bohr
Atomic model ruth &amp; bohr
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
เรื่อง รังสีเอ็กซ์
เรื่อง  รังสีเอ็กซ์เรื่อง  รังสีเอ็กซ์
เรื่อง รังสีเอ็กซ์
 
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
 
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
 
Physics atom part 5
Physics atom part 5Physics atom part 5
Physics atom part 5
 
Atom 3
Atom 3Atom 3
Atom 3
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
 
9789740330721
97897403307219789740330721
9789740330721
 
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการเรื่อง  ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
 
Physics atom part 1
Physics atom part 1Physics atom part 1
Physics atom part 1
 
Electrostatic
ElectrostaticElectrostatic
Electrostatic
 
Nuclear
NuclearNuclear
Nuclear
 
Atomic structures m4
Atomic structures m4Atomic structures m4
Atomic structures m4
 
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียส
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียสโครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียส
โครงสร้างของอะตอมและนิวเคลียส
 
โครงงานไฟฟ้า
โครงงานไฟฟ้าโครงงานไฟฟ้า
โครงงานไฟฟ้า
 
summer 2010 (student preso)
summer 2010 (student preso)summer 2010 (student preso)
summer 2010 (student preso)
 

มิ่ง111

  • 1. บทที่ 13 ฟิสิกส์ยุคใหม่ 1. ทฤษฎีสัมพัทธภาพ 2. อะตอมและนิวเคลียส 3. กลศาสตร์ควอนตัมเบื้องต้น 4. นิวเคลียร์ฟิสิกส์ 5. จักรวาลวิทยา
  • 2. 13.1 ทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Relativity) 1 . หลักสัมพัทธภาพของนิวตัน 2 . ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ 3 . ผลของสัมพัทธภาพพิเศษ 4 . การแปลงสมการแบบลอเรนซ์ 5 . โมเมนตัมสัมพัทธภาพและสัมพัทธภาพในรูปกฏของนิวตัน 6 . พลังงานสัมพัทธภาพ 7 . 8. ปรากฏการณ์คอมพ์ตัน การผลิตคู่และการประลัยคู่
  • 3.
  • 4.
  • 5.
  • 6.
  • 7.
  • 8.
  • 9.
  • 10. 2. อิเลกตรอนจะรับหรือคายพลังงานเมื่อมีการเปลี่ยนวงโคจรโดยที่                                   = ความถี่โฟตอนที่อะตอมดูดหรือแผ่ออกมา มีความยาวคลื่น     = พลังงานอิเลกตรอนก่อนเปลี่ยนวงโคจร    = พลังงานอิเลกตรอนหลังเปลี่ยนวงโคจร ถ้า       เป็น + หมายถึง คายพลังงาน - หมายถึง ดูดพลังงาน แบบจำลองอะตอมของบอร์ ประสบความสำเร็จในการอธิบายเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน บอร์สันนิษฐานว่าวงโคจรแต่ละวงเป็นวงกลม และมีแรงดึงดูดระหว่างอิเลกตรอนกับโปรตอน 1. อิเลกตรอนสามารถอยู่ได้ในวงโคจร ที่ไม่ต่อเนื่องโดยมีโมเมนตัมเชิงมุม     m = มวลของอิเลกตรอน = 9.1x10 -31 kg v = อัตราเร็วเชิงเส้นของอิเลกตรอน r = รัศมีวงโคจรของอิเลกตรอน n = เลขจำนวนเท่า (1, 2, 3, ...)         h = ค่าคงที่ของแพลงค์ = 6.6261x10 -34  J.s         สรุป พลังงานในแต่ละวง รัศมีแต่ละวงโคจร ( หน่วยเป็น m) = ค่าคงที่ของริดเบอร์ก
  • 11.
  • 12.
  • 13.
  • 14.
  • 15.
  • 16.
  • 17.
  • 18.
  • 19.
  • 20.
  • 21.
  • 22.
  • 23.
  • 24.
  • 25.
  • 26. ประเภทของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ยิงนิวตรอนเข้าไปในนิวเคลียส นิวเคลียส แตกออกเป็น 2 ส่วนและได้นิวตรอน 2-3 ตัว วิ่งเข้าไปชนนิวเคลียสอื่น เป็น chain reaction 2. ฟิชชัน (fission) 1. ฟิวชัน (fusion) เป็นปฏิกิริยารวมตัวของนิวเคลียส ธาตุเบาเป็นนิวเคลียสที่หนักกว่า
  • 27.
  • 28. 13.5 จักรวาลวิทยา (Cosmology) 1. เอกภพ 2. ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์เชิงสัมพัทธภาพ 3. กฏของฮับเบิล 4. ทฤษฎีบิกแบง
  • 29.
  • 30.
  • 31.
  • 32.