More Related Content
Similar to โครงงานอิเล็ก6
Similar to โครงงานอิเล็ก6 (20)
More from Wichai Likitponrak
More from Wichai Likitponrak (20)
โครงงานอิเล็ก6
- 1. รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
“สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
จัดทาโดย
1. นายธิติ ประเสริฐจิตสรร
2. นายวิทวัส ใจจิตร์มั่น
3. นางสาวชลธิชา โชติประพาฬ
4. นายวัชรพล จันทรมาศ
5. นายจิรพันธ์ จุติลาภถาวร
ครูที่ปรึกษา
นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์
ระดับมัธยมศึกษาศึกษาตอนปลาย
- 2. บทคัดย่อ
ขยะเทคโนโลยีนั้น นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจานวนของประชากรและความก้าวหน้าทางด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ้าหากไม่มีการกาจัดให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ปัญหาความสกปรกต่างๆ และ
ความเป็นพิษจากสิ่งตกค้างเจือปนในสิ่งแวดล้อมย่อมจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้ามองกันอย่างผิวเผิน
แล้ว ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อมนุษย์รุนแรงมากนัก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงไม่ชัดเจน แต่
ในความเป็นจริงแล้ว ขยะเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมากและจะมีผลกระทบต่อ
สุขภาพอนามัยของมนุษย์ด้วย ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม จึงเกิดแนวทางในการป้องกันและการแก้ไขปัญหา
เริ่มต้นด้วย การสร้างจิตสานึกแก่มนุษย์ให้รู้จักรับผิดชอบในการรักษาความสะอาด ทั้งในบ้านเรือนของตัวเอง
และภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง สถานที่ทางาน หรือที่สาธารณะอื่น ๆ ให้รู้จักทิ้งขยะมูลฝอยลงใน
ภาชนะให้เป็นที่เป็นทาง ไม่มักง่ายทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ทั้งนี้เป็นการช่วยให้พนักงานเก็บขยะนาไปยัง สถานที่
กาจัดได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีแนวทางสาคัญคือการแปรรูปของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ หรือ
กระบวนการที่เรียกว่า "รีไซเคิล" คือ การนาเอาของเสียที่ผ่านการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ที่อาจเหมือนเดิม
หรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ ของใช้แล้วจากภาคอุตสาหกรรม นากลับมาใช้ใหม่ "การรีไซเคิล" เป็นหนึ่งในวิธีการลด
ขยะ ลดมลพิษให้กับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกไม่ให้ถูก
นามาใช้สิ้นเปลืองมากเกินไปอันจะส่งผลในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้สมาชิกกลุ่มโครงงานจึงมี
ความสนใจที่จะนาขยะกลับมารีไซเคิลและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการออกแบบออกแบบและสร้าง
ประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ซึ่งผลที่ได้รับจากการ
ดาเนินงาน คือ ทักษะกระบวนการทางานเป็นทีม ,การลดปริมาณขยะภายในโรงเรียน และ การแสดงศักยภาพ
ความสามารถในการออกแบบและสร้างประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สาร
พันธุกรรม DNA”
- 3. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานฉบับนี้สาเร็จได้ด้วยความอนุเคราะห์จากบุคคลหลายท่าน ซึ่งไม่อาจจะนามากล่าวได้ทั้งหมดใน
ที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้อานวยการสกุล ทองเอียด โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ ที่ท่านมอบโอกาสและ
สนับสนุนให้กลุ่มโครงงานสามารถดาเนินการจนประสบความสาเร็จ นอกจากนี้สมาชิกกลุ่มโครงงานใคร่
ขอขอบคุณคุณครูที่ปรึกษาโครงงาน คือ คุณครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เสียสละ
เวลาคอยช่วยเหลือให้คาปรึกษา ให้ความรู้เพิ่มเติม ให้คาแนะนาตรวจทานและแก้ไขข้อบกพร่องด้วยความเอา
ใจใส่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งโครงงานเสร็จสมบูรณ์ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้ปกครองของสมาชิกในกลุ่ม
โครงงานที่ให้ความอนุเคราะห์ในด้านสถานที่และงบประมาณในการทาโครงงาน และเพื่อนๆ ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ทุกคนที่คอยให้กาลังใจและช่วยเหลือจนทาให้โครงงานนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
กลุ่มโครงงานวิทยาศาสตร์ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
- 4. สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
บทที่ 1 บทนา 1-2
- ที่มาและความสาคัญ
- วัตถุประสงค์
- สมมติฐาน
- ตัวแปรในการศึกษา
- ขอบเขตการศึกษา
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-7
- ปัญหาจากขยะเทคโนโลยี
- สาเหตุที่ทาให้เกิดปัญหาขยะเทคโนโลยี
- การแก้ไขปัญหาขยะเทคโนโลยี
- การรีไซเคิล
บทที่ 3 วัสดุ-อุปกรณ์และขั้นตอนการดาเนินงาน 8
- วัสดุ-อุปกรณ์
- ขั้นตอนการสร้างเครื่องมมือ
บทที่ 4 ผลการดาเนินโครงงาน 9-14
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินโครงงาน 15-16
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
- 5. บทที่ 1 บทนา
ที่มาและความสาคัญ
ขยะเทคโนโลยีนั้น นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจานวนของประชากรและความก้าวหน้าทางด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ้าหากไม่มีการกาจัดให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ปัญหาความสกปรกต่างๆ และ
ความเป็นพิษจากสิ่งตกค้างเจือปนในสิ่งแวดล้อมย่อมจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้ามองกันอย่างผิวเผิน
แล้ว ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อมนุษย์รุนแรงมากนัก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงไม่ชัดเจน แต่
ในความเป็นจริงแล้ว ขยะเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมากและจะมีผลกระทบต่อ
สุขภาพอนามัยของมนุษย์ด้วย ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม จึงเกิดแนวทางในการป้องกันและการแก้ไขปัญหา
ของขยะมูลฝอย เริ่มต้นด้วย การสร้างจิตสานึกแก่มนุษย์ให้รู้จักรับผิดชอบในการรักษาความสะอาด ทั้งใน
บ้านเรือนของตัวเอง และภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง สถานที่ทางาน หรือที่สาธารณะอื่น ๆ ให้รู้จัก
ทิ้งลงในภาชนะให้เป็นที่เป็นทาง ไม่มักง่ายทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ทั้งนี้เป็นการช่วยให้พนักงานเก็บขยะนาไปยัง
สถานที่กาจัดได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีแนวทางสาคัญคือการแปรรูปของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่
หรือกระบวนการที่เรียกว่า "รีไซเคิล" คือ การนาเอาของเสียที่ผ่านการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ที่อาจเหมือนเดิม
หรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ ของใช้แล้วจากภาคอุตสาหกรรม นากลับมาใช้ใหม่ "การรีไซเคิล" เป็นหนึ่งในวิธีการลด
ขยะ ลดมลพิษให้กับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกไม่ให้ถูก
นามาใช้สิ้นเปลืองมากเกินไปอันจะส่งผลในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้สมาชิกกลุ่มโครงงานจึงมี
ความสนใจที่จะนาขยะกลับมารีไซเคิลและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการออกแบบออกแบบและสร้าง
ประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ซึ่งผลที่ได้รับจากการ
ดาเนินงาน คือ ทักษะกระบวนการทางานเป็นทีม ,การลดปริมาณขยะภายในโรงเรียน และ การแสดงศักยภาพ
ความสามารถในการออกแบบและสร้างประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สาร
พันธุกรรม DNA”
วัตถุประสงค์
1. เพื่อการลดปริมาณขยะเทคโนโลยีภายในโรงเรียนและชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์โดยการ
นามาใช้ในการออกแบบและสร้างประดิษฐ์ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
2.เพื่อศึกษาและประยุกต์ใช้ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆมาออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะ
เทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
- 6. 3. เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และการสร้างสรรค์ผลงานการการออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี
“สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ให้เกิดการนาไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย
สมมติฐาน
ขยะเทคโนโลยีแต่ละประเภทมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันซึ่งสามารถนามาออกแบบและสร้าง
สิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ได้จริงอย่างเหมาะสม
ตัวแปรในการศึกษา
ตัวแปรต้น : ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆ
ตัวแปรตาม : สิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
ขอบเขตการศึกษา
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้ลดปริมาณขยะเทคโนโลยีภายในโรงเรียนและชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์โดยการนามาใช้
ในการออกแบบและสร้างประดิษฐ์ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
2.ได้ศึกษาและประยุกต์ใช้ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆมาออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์ลดโลกร้อนจากขยะ
เทคโนโลยี “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
3. ได้เผยแพร่องค์ความรู้และการสร้างสรรค์ผลงานการการออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี
“สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ให้เกิดการนาไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย
ตัวแปรต้น
ขยะเทคโนโลยีชนิดต่างๆ
ตัวแปรตาม
สิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี “สื่อการ
เรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
- 7. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาจากขยะเทคโนโลยี
ขยะเทคโนโลยีนั้น นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจานวนของประชากร ถ้าหากไม่มีการกาจัดขยะเทคโนโลยี
ให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ปัญหาความสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากขยะเทคโนโลยี จะต้องเกิดขึ้นอย่าง
แน่นอน ถ้ามองกันอย่างผิวเผินแล้ว ขยะเทคโนโลยีนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อมนุษย์มากนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อมนุษย์ ยังอยู่ในขั้นที่ไม่รุนแรงมากนัก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงไม่ชัดเจนเท่าไร แต่
ในความเป็นจริงแล้ว ขยะเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมากและจะมีผลกระทบต่อ
สุขภาพอนามัยของมนุษย์ด้วย
ขยะเทคโนโลยีนั้นเป็นแหล่งวัสดุดิบชั้นรองที่มีค่า หากมีการดูแล จัดการอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม
หากไม่ดูแลจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว ก็นับเป็นแหล่งพิษที่ร้ายแรงได้ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว
ในปัจจุบัน ทาให้มีต้นทุนเบื้องต้นที่ต่า และยังมีการหมดอายุตามที่กาหนด ทาให้เกิดปัญหารวดเร็วมากขึ้นทั่ว
โลก ปัจจุบันมีวิธีการแก้ปัญหาเชิงเทคนิคหลายประการ แต่จะต้องมีการวางกรอบในเชิงกฎหมาย มีระบบ
จัดเก็บ ระบบขนส่ง และบริการอื่นๆ ที่ต้องใช้ก่อนจะนาไปสู่การดาเนินการทางเทคนิค ขยะเทคโนโลยีใน
อเมริกาที่นาไปถมที่ดินนั้น มีสัดส่วนราว 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ในจานวนนี้ เป็นขยะพิษถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ด้วยสภาพการทางานและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีในบางประเทศของเอเชียและแอฟริกา ทามีการ
ส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทิ้งหรือกาจัดในประเทศเหล่านั้น ซึ่งโดยมากจะเป็นไปโดยผิดกฎหมาย ในประเทศไทย
เราก็มีข่าวการส่งขยะเข้ามาทางเรืออยู่เสมอๆ กรณีเช่นนี้น่าจะมีการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่บางคนใน
หน่วยงานบางแห่งของรัฐด้วย ในกัมพูชาก็มีข่าวถูกนาขยะมาทิ้งเช่นกัน
- 8. สาหรับในเดลลีและบังกาลอร์ของอินเดีย และในเมืองกุ้ยหยู มณฑลซานโถว ของจีน มีพื้นที่จัดการขยะ
อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การเผา ถอดชิ้นส่วน และทาลายโดยไม่มีการควบคุม ย่อมก่อให้เกิด
ปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพผู้คนทั่วไป ได้แก่ผลกระทบต่อสุขภาพ และความปลอดภัยในการประกอบ
อาชีพ ที่มีผลต่อผู้เกี่ยวข้องโดยตรง อันเนื่องมาจากวิธีการกาจัดขยะเหล่านั้น สาหรับการค้าขยะเทคโนโลยีนั้น
มีระเบียบควบคุมโดยสนธิสัญญา (Basel Convention)
ขยะเทคโนโลยีนั้นมีผลเสียเกี่ยวข้องกับเรื่องของสารพิษบางอย่าง โดยเฉพาะหากจัดการไม่ดี พิษเหล่านี้
มักจะเป็นโลหะหนัก ชนิดที่มีมากได้แก่ ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม นอกจากนี้ยังมีสารหนู กามะถัน และ
สารเคมีอีกเป็นจานวนมาก แม้กระทั่งจอมอนิเตอร์สาหรับคอมพิวเตอร์โดยทั่วไป ก็มีตะกั่วอยู่ถึง 6 เปอร์เซ็นต์
โดยน้าหนัก ส่วนมากจะอยู่ในแก้วของจอภาพ CRT กล่าวโดยสรุปว่า มีธาตุต่างๆ ในขยะเทคโนโลยีมากขึ้น 38
ชนิดด้วยกัน ความไม่อยู่ยั่งยืนของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่
ทาให้ต้องมีการรีไซเคิลหรืออาจนากลับมาใช้ใหม่ (หากจัดการได้เหมาะสม) สาหรับขยะเทคโนโลยีทั้งหลาย
สาเหตุที่ทาให้เกิดปัญหาขยะเทคโนโลยี
1. ความมักง่ายและขาดความสานึกถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเห็นได้จากการทิ้งขยะ
เทคโนโลยีลงตามพื้น หรือแหล่งน้า โดยไม่ทิ้งลงในถังรองรับที่จัดไว้ให้ และโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งลักลอบนา
สิ่งปฏิกูลไปทิ้งตามที่ว่างเปล่า
2. การผลิตหรือใช้สิ่งของมากเกินความจาเป็น เช่น การผลิตสินค้าที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชิ้น และการซื้อ
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จานวนมาก ทาให้มีขยะเทคโนโลยีปริมาณมาก
3.การเก็บและทาลาย หรือนาขยะเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ไม่มีประสิทธิภาพ จึงมีขยะตกค้างไปทั่วบริเวณจนก่อ
ปัญหามลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
การแก้ไขปัญหาขยะเทคโนโลยี
ขยะเทคโนโลยีมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทาให้เกิดการปนเปื้อนของพื้นดิน แหล่งน้าและ
อากาศ ทาให้บ้านเมืองไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เป็นที่เจริญของผู้ที่ได้พบเห็น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของ
ประชาชน โดยทั่วไป การแก้ไขปัญหาของขยะเทคโนโลยี จึงควรปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขผลเสียที่จะ
เกิดขึ้น สาหรับการป้องกันและแก้ไขที่ดีควรพิจารณา ถึงต้นเหตุที่ก่อให้เกิดขยะเทคโนโลยีขึ้นมา ซึ่งก็คงจะ
หมายถึง มนุษย์ หรือผู้สร้างขยะเทคโนโลยี นั้นเอง การป้องกันและการแก้ไขปัญหาของขยะเทคโนโลยี เริ่มต้น
ด้วย การสร้างจิตสานึกแก่มนุษย์ให้รู้จักรับผิดชอบในการรักษาความสะอาด ทั้งในบ้านเรือนของตัวเอง และ
ภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง สถานที่ทางาน หรือที่สาธารณะอื่น ๆ ให้รู้จักทิ้งขยะเทคโนโลยีลงใน
- 9. ภาชนะให้เป็นที่เป็นทาง ไม่มักง่ายทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ทั้งนี้เป็นการช่วยให้พนักงานเก็บขยะนาไปยัง สถานที่
กาจัดได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
การรีไซเคิล
การแปรรูปของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ หรือกระบวนการที่เรียกว่า "รีไซเคิล" คือ การนาเอาของเสียที่
ผ่านการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ที่อาจเหมือนเดิม หรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ ของใช้แล้วจากภาคอุตสาหกรรม นา
กลับมาใช้ใหม่ "การรีไซเคิล" เป็นหนึ่งในวิธีการลดขยะ ลดมลพิษให้กับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและ
ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกไม่ให้ถูกนามาใช้สิ้นเปลืองมากเกินไป
การแปรรูปของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่มีกระบวนการอยู่ 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การเก็บรวบรวม2. การ
แยกประเภทวัสดุแต่ละชนิดออกจากกัน 3. การผลิตหรือปรับปรุง 4. การนามาใช้ประโยชน์ในขั้นตอนการผลิต
หรือปรับปรุงนั้น วัสดุที่แตกต่างชนิดกัน จะมีกรรมวิธีในการผลิต แตกต่างกัน เช่น ขวด แก้วที่ต่างสี พลาสติกที่
ต่างชนิด หรือกระดาษที่เนื้อกระดาษ และสีที่แตกต่างกัน ต้องแยกประเภทออกจากกัน
การรีไซเคิล ทาให้โลกมีจานวนขยะลดน้อยลง และช่วยลดปริมาณการนาทรัพยากรธรรมชาติ มาใช้
เป็นวัตถุดิบในโรงงานอุตสาหกรรมให้น้อยลง ลดการถลุงแร่บริสุทธิ์ และลดปริมาณการโค่นทาลายป่าไม้ลงด้วย
การหมุนเวียนนามาผลิตใหม่ยังเป็นการลดการใช้พลังงานจากใต้ภิภพ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่อากาศและลดภาวะการเกิดฝนกรด สาหรับประเทศไทยนั้น จากการศึกษาของกรม
ควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม พบว่า ศักยภาพของวัสดุเหลือใช้ที่สามารถ
นากลับมาใช้ประโยชน์ได้จากมูลฝอยที่เก็บขนได้ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศมีประมาณ
ร้อยละ 16-34 ของปริมาณมูลฝอยที่เก็บได้ แต่มีเพียงร้อยละ 7 หรือประมาณ 2,360 ตันต่อวันเท่านั้น ที่มีการ
นากลับมาใช้ประโยชน์ การนากลับมาใช้ใหม่ จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับชีวิตเพิ่มคุณค่าให้กับ
สิ่งแวดล้อมและช่วยถนอมรักษาทรัพยากรธรรมชาติของโลกไว้ได้ดีที่สุด ในหนทางหนึ่ง
ตัวต้านทาน (Resistor)
- 12. บทที่ 3 วัสดุ-อุปกรณ์และขั้นตอนการดาเนินงาน
วัสดุ-อุปกรณ์
- สายไฟขนาดเล็กสีต่างๆจากอุปกรณ์ที่เสียแล้ว
- power supply ที่เสียแล้ว
- แผ่นวงจรเมนบอร์ดที่เสียแล้ว
- ไขควงขนาดต่างๆ
- ตัวเก็บประจุขนาดต่างๆ
- ปืนยิงกาวยางและแท่งกาวยาง
- ตัวลัดสายไฟขนาดต่างๆ
- อุปกรณ์เครื่องเขียนใช้ร่างแบบและเขียนลวดลาย
- เส้นลวดขนาดกลาง
- ท่อเหล็กสายไฟที่เสียแล้ว
ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
(1) รวมกลุ่มสมาชิกโครงงานที่มีความสนใจทาโครงงานวิทยาศาสตร์ : การออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์จาก
ขยะเทคโนโลยี
(2) เลือกหัวข้อในการออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี คือ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สาร
พันธุกรรม DNA”
(3) ร่วมกันออกแบบพร้อมระบุวัสดุจากขยะเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับ หัวข้อ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สาร
พันธุกรรม DNA”
(4) นาแบบสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยีมาปรึกษาครูที่ปรึกษาโครงงานเพื่อขอคาแนะนาและนาไปปรับปรุง
รูปแบบให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
(5) ดาเนินการรวบรวมและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องตามแบบสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี “สื่อ
การเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ที่ได้วางแผนไว้ทั้งในภายในและภายนอกโรงเรียน
(6) สมาชิกกลุ่มจัดทาสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยีตามที่รูปแบบที่ได้วางแผนไว้ในหัวข้อ “สื่อการเรียนรู้
เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” พร้อมกับปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเสร็จเป็นที่สมบูรณ์
(7) นาเสนอสิ่งประดิษฐ์จากขยะเทคโนโลยี ในหัวข้อ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ที่เสร็จ
สมบูรณ์แล้วทั้งด้านความหมายและความคิดรวบยอดเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ต่อไป
- 19. บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินโครงงาน
ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
1. ลักษณะโดยภาพรวมของผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 100 คน
สถานะ จานวน (คน) ร้อยละ
ครู 20 20.0
นักเรียน 80 80.0
รวม 100 100.0
เพศ จานวน (คน) ร้อยละ
ชาย 30 30.0
หญิง 70 70.0
รวม 100 100.0
ระดับชั้น จานวน (คน) ร้อยละ
มัธยมศึกษาปีที่ 1 10 12.5
มัธยมศึกษาปีที่ 2 12 15.0
มัธยมศึกษาปีที่ 3 13 16.3
มัธยมศึกษาปีที่ 4 15 18.7
มัธยมศึกษาปีที่ 5 10 12.5
มัธยมศึกษาปีที่ 6 20 25.0
รวม 80 100.0
2. ร้อยละความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามแยกเป็นรายข้อสอบถาม
ข้อสอบถาม
ระดับความพึงพอใจ
แปลผลน้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด
จานวน
(คน)
ร้อย
ละ
จานวน
(คน)
ร้อยละ จานวน
(คน)
ร้อยละ จานวน
(คน)
ร้อยละ จานวน
(คน)
ร้อยละ
1. รูปแบบของสื่อการเรียนรู้
เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
0 0.0 0 0.0 23 23.0 42 42.0 35 35.0 ระดับมาก
2. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการ
ประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้
0 0.0 0 0.0 24 24.0 44 44.0 32 32.0 ระดับมาก
- 20. 3. ขนาดของสื่อการเรียนรู้
เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
0 0.0 0 0.0 31 31.0 35 35.0 34 34.0 ระดับมาก
4. ความรู้ที่ได้รับจากสื่อการ
เรียนรู้สารพันธุกรรม DNA
0 2.0 6 6.0 28 28.0 35 35.0 31 31.0 ระดับมาก
5. ความเหมาะต่อการเรียนรู้
ของผู้เรียนในปัจจุบัน
0 0.0 0 0.0 18 18.0 49 49.0 33 33.0 ระดับมาก
6. ลาดับขั้นตอนการนาเสนอ
องค์ความรู้จากสื่อ
0 0.0 5 5.0 25 25.0 38 38.0 36 36.0 ระดับมาก
7. ความสะดวกในการเรียนรู้
จากสื่อสารพันธุกรรม DNA
0 0.0 0 0.0 29 29.0 37 37.0 34 34.0 ระดับมาก
8. ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้
สื่อการเรียนรู้
0 0.0 0 0.0 20 20.0 37 37.0 43 43.0 ระดับมาก
ที่สุด
9. สื่อการเรียนรู้รีไซเคิลเป็น
มิตรกับสิ่งแวดล้อม
0 0.0 0 0.0 14 14.0 37 37.0 49 49.0 ระดับมาก
ที่สุด
10. ภาพรวมของสื่อการเรียนรู้
เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
0 0.0 0 0.0 20 20.0 32 32.0 49 49.0 ระดับมาก
ที่สุด
3. ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามแยกเป็นรายข้อสอบถาม
ข้อสอบถาม
ระดับความพึงพอใจ
แปลผลค่าเฉลี่ย
(X)
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(SD)
1. รูปแบบของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA 4.12 0.796 ระดับมาก
2. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้ 4.08 0.852 ระดับมาก
3. ขนาดของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA 4.03 0.893 ระดับมาก
4. ความรู้ที่ได้รับจากสื่อการเรียนรู้สารพันธุกรรม DNA 3.91 0.942 ระดับมาก
5. ความเหมาะต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในปัจจุบัน 4.15 0.830 ระดับมาก
6. ลาดับขั้นตอนการนาเสนอองค์ความรู้จากสื่อ 4.17 0.890 ระดับมาก
7. ความสะดวกในการเรียนรู้จากสื่อสารพันธุกรรม DNA 4.05 0.951 ระดับมาก
8. ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้สื่อการเรียนรู้ 4.23 0.838 ระดับมาก
9. สื่อการเรียนรู้รีไซเคิลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.35 0.783 ระดับมาก
10. ภาพรวมของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA 4.33 0.922 ระดับมาก
-
- 21. จากผลการประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” พบว่า ผู้ตอบ
แบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นนักเรียน (ร้อยละ 80) เพศหญิง (ร้อยละ 70) กาลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 เป็นส่วนใหญ่ (ร้อยละ 25.0) ซึ่งมีความพึงพอใจเกี่ยวกับ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
อยู่ในระดับมากทั้ง 10 ประเด็น โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจมากไปหาน้อย ดังนี้
ลาดับที่ 1 สื่อการเรียนรู้รีไซเคิลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.35 (SD=0.783)
ลาดับที่ 2 ภาพรวมของสื่อการเรียนรู้ สารพันธุกรรม DNA มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.33 (SD=0.922)
ลาดับที่ 3 ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้สื่อการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.23 (SD=0.838)
ลาดับที่ 4 ลาดับขั้นตอนการนาเสนอองค์ความรู้จากสื่อ มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.17 (SD=0.890)
ลาดับที่ 5 ความเหมาะต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในปัจจุบัน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.15 (SD=0.830)
ลาดับที่ 6 รูปแบบของสื่อการเรียนรู้ สารพันธุกรรม DNA มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.12 (SD=0.796)
ลาดับที่ 7 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.08 (SD=0.852)
ลาดับที่ 8 ความสะดวกในการเรียนรู้จากสื่อพันธุกรรมDNAมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.05 (SD=0.951)
ลาดับที่ 9 ขนาดของสื่อการเรียนรู้ สารพันธุกรรม DNA มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ เท่ากับ 4.03 (SD=0.893)
ลาดับที่10ความรู้ที่ได้รับจากสื่อการเรียนรู้สารพันธุกรรมDNAมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจเท่ากับ3.91 (SD=0.942)
สรุปผลการประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” มีค่าเฉลี่ย
ความพึงพอใจรวมเท่ากับ 4.14 (SD=0.870) ซึ่งอยู่ในระดับมาก
กราฟแท่งแสดงค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ "สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA " ตามรายข้อสอบถาม
3.6
3.7
3.8
3.9
4
4.1
4.2
4.3
4.4
ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10
- 24. แบบสอบถามความพึงพอใจเกี่ยวกับ “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
คาชี้แจง โปรดทาเครื่องหมาย ลงใน พร้อมเขียนข้อเสนอแนะเพิ่มเติมให้ตรงตามความเป็นจริง
ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว (กรุณาตอบให้ครบเพื่อการประเมินผลอย่างถูกต้องสมบูรณ์)
1. สถานะ ครู (ไม่ต้องตอบข้อ 3) นักเรียน (ต้องตอบข้อ 3)
2. เพศ ชาย หญิง
3. ระดับชั้น ม.1 ม.2 ม.3
ม.4 ม.5 ม.6
ตอนที่ 2 แบบสอบถามระดับความพึงพอใจ (กรุณาตอบให้ครบเพื่อการประเมินผลอย่างถูกต้องสมบูรณ์)
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม (กรุณาเขียนเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงพัฒนาอย่างแท้จริง)
...................................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................................
เรื่อง
ระดับความพึงพอใจ
มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด
1. รูปแบบของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
2. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้
3. ขนาดของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
4. ความรู้ที่ได้รับจากสื่อการเรียนรู้สารพันธุกรรม DNA
5. ความเหมาะต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในปัจจุบัน
6. ลาดับขั้นตอนการนาเสนอองค์ความรู้จากสื่อ
7. ความสะดวกในการเรียนรู้จากสื่อสารพันธุกรรม DNA
8. ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้สื่อการเรียนรู้
9. สื่อการเรียนรู้รีไซเคิลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
10. ภาพรวมของสื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA
ขอบคุณผู้ตอบแบบสอบถามทุกคนที่ตอบแบบสอบถามนี้ตามความเป็นจริง เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
ปรับปรุง “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA” ต่อไป
สมาชิกโครงงาน “สื่อการเรียนรู้ เรื่อง สารพันธุกรรม DNA”
เลขที่แบบสอบถาม……………………