SlideShare a Scribd company logo
1 of 31
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
โรคมะเร็ง[Cancon]
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาความเป็นมาของโรคมะเร็ง
2.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของโรคมะเร็ง
3.เพื่อศึกษาแนวทางการรักษา
4.เพื่อสารวจบุคคลที่เข้าข่ายหรือเป็นโรคมะเร็งทาในขอบเขตที่กาหนดไว้
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อโรคชื่อนี้ เป็นโรคที่อยู่กับคนไทยมานานแสนาน มะเร็ง หรือทางการแพทย์ว่า เนื้อ
งอกร้าย (อังกฤษ: malignant tumor) เป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ที่
ผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อเป็นเนื้องอกร้าย และมีศักยภาพในการ
รุกรานร่างกายส่วนข้างเคียง มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังร่างกายส่วนที่อยู่ห่างไกลได้ผ่านระบบน้าเหลือง
หรือกระแสเลือด แต่ไม่ใช่เนื้องอกทุกชนิดจะเป็นมะเร็ง เพราะเนื้องอกไม่ร้ายจะไม่ลุกลามไปยังอวัยวะ
ข้างเคียงและไม่กระจายไปทั่วร่างกาย อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็งที่เป็นไปได้รวมถึงมีก้อนเนื้อ
เกิดใหม่, มีเลือดออกผิดปกติ, มีการไอเป็นเวลานาน, การสูญเสียน้าหนักที่อธิบายไม่ได้, และการ
เปลี่ยนแปลงในการขับถ่ายของลาไส้และอื่น ๆแต่อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาอื่น ๆ ได้
เช่นกัน มีมะเร็งที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่ทราบแล้วกว่า 100 ชนิด
สาเหตุของมะเร็งนั้นมีหลากหลาย ซับซ้อนและเข้าใจเพียงบางส่วนเท่านั้น มีหลายปัจจัยที่ทราบแล้วว่า
เพิ่มปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ได้แก่ การสูบบุหรี่ (อัตราการตาย 22%) ปัจจัยด้านอาหาร, การขาดกิจกรรมการ
ออกกาลังกาย, โรคอ้วน, และการบริโภคแอลกอฮอล์ (อัตราการตายรวมกัน 10%) นอกนั้นเป็นการติด
เชื้อบางอย่าง, การสัมผัสรังสี, และมลภาวะสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศกาลังพัฒนา เกือบ 20% ของ
โรคมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อเช่นโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิด B, ชนิด C, และ human papillomavirus.
โดยทั่วไปก่อนที่มะเร็งจะพัฒนาขึ้น การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของยีนจะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 5–10%
ของมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทาให้ยีน
เสียหายโดยตรง
หรืออาจประกอบกับความบกพร่องทางพันธุกรรมที่มีอยู่เดิมในเซลล์ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์
เป็นมะเร็งได้ มะเร็งราว 5–10% สามารถติดตามไปยังความบกพร่องทางพันธุกรรมแต่
กาเนิดโดยตรง
มะเร็งสามารถตรวจพบได้หลายวิธี รวมทั้งการมีอาการและอาการแสดงบางอย่าง การตรวจ
คัดกรองโรค จากนั้น จะต้องทาการสร้างภาพทางการแพทย์ เมื่อตรวจพบว่ามีโอกาสเป็น
มะเร็งแล้ว จะมีการวินิจฉัยเพื่อยืนยันโดยการตรวจตัวอย่างชิ้นเนื้อ (อังกฤษ: biopsy)
มะเร็งหลายประเภทสามารถป้ องกันได้โดยการไม่สูบบุหรี่, รักษาน้าหนักตัวเพื่อสุขภาพที่ดี,
ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, กินอาหารประเภทผักผลไม้และธัญพืชมาก ๆ, ฉีด
วัคซีนป้ องกันโรคติดเชื้อบางอย่าง, ไม่กินเนื้อแดงมากเกินไป, และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ
แสงแดดมากเกินไป การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ผ่านการตรวจคัดกรองจะเป็นประโยชน์สาหรับ
โรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลาไส้ใหญ่ ประโยชน์ของการตรวจคัดกรองสาหรับมะเร็งเต้านม
ยังมีความขัดแย้งโรคมะเร็งมักจะได้รับการรักษาผสมกันของการรักษาด้วยรังสีบางอย่าง, การ
ผ่าตัด, การรักษาด้วยเคมีบาบัด, และการรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายการจัดการกับการ
ปวดและอาการอื่นเป็นส่วนสาคัญของการดูแล การดูแลแบบประคับประคองเป็นสิ่งสาคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่ วยที่โรคมีการพัฒนาไปมาก[1] โอกาสของการอยู่รอดขึ้นอยู่กับชนิด
ของโรคมะเร็งและระยะของโรคในช่วงเริ่มต้นของการ
Agenda
Style
มะเร็ง คือ
มะเร็งมีกี่ระยะ
อาการ
การป้ องกัน
การรักษา
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
โรคมะเร็ง คือ
โรคมะเร็ง คือ?
มะเร็งเป็นโรคที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ แต่โดยส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยที่เป็น
ผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก และจะพบได้สูงในผู้ป่วยที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
“มะเร็ง” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย” เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของเซลล์ที่มีความผิดปกติ คือ
เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ก่อเป็นเนื้อร้าย และรุกรานไปยังอวัยวะส่วนข้างเคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วน
ต่างๆ ของร่างกายที่อยู่ห่างไกล ผ่านระบบน้าเหลืองหรือกระแสเลือด
มะเร็ง หรือทางการแพทย์ว่า เนื้องอกร้าย (อังกฤษ: malignant tumor) เป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์
ที่ผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ก่อเป็นเนื้องอกร้าย และมีศักยภาพในการรุกรานร่างกายส่วนข้างเคียงมะเร็งอาจ
แพร่กระจายไปยังร่างกายส่วนที่อยู่ห่างไกลได้ผ่านระบบน้าเหลืองหรือกระแสเลือด แต่ไม่ใช่เนื้องอกทุกชนิดจะเป็นมะเร็ง เพราะเนื้องอกไม่
ร้ายจะไม่ลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงและไม่กระจายไปทั่วร่างกาย อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็งที่เป็นไปได้รวมถึงมีก้อนเนื้อเกิด
ใหม่, มีเลือดออกผิดปกติ, มีการไอเป็นเวลานาน, การสูญเสียน้าหนักที่อธิบายไม่ได้, และการเปลี่ยนแปลงในการขับถ่าย
ของลาไส้และอื่น ๆแต่อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาอื่น ๆ ได้เช่นกัน มีมะเร็งที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่ทราบแล้วกว่า 100 ชนิด
สาเหตุของมะเร็งนั้นมีหลากหลาย ซับซ้อนและเข้าใจเพียงบางส่วนเท่านั้น มีหลายปัจจัยที่ทราบแล้วว่าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ได้แก่ การสูบบุหรี่ (อัตราการตาย 22%) ปัจจัยด้านอาหาร, การขาด
กิจกรรมการออกกาลังกาย, โรคอ้วน, และการบริโภคแอลกอฮอล์ (อัตราการตายรวมกัน 10%) นอกนั้นเป็นการติดเชื้อบางอย่าง, การสัมผัสรังสี, และมลภาวะสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศกาลัง
พัฒนา เกือบ 20% ของโรคมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อเช่นโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิด B, ชนิด C, และ human papillomavirus. โดยทั่วไปก่อนที่มะเร็งจะพัฒนาขึ้น การเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
ของยีนจะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 5–10% ของมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทาให้ยีนเสียหายโดยตรง หรืออาจประกอบกับความบกพร่อง
ทางพันธุกรรมที่มีอยู่เดิมในเซลล์ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้ มะเร็งราว 5–10% สามารถติดตามไปยังความบกพร่องทางพันธุกรรมแต่กาเนิดโดยตรง
มะเร็งสามารถตรวจพบได้หลายวิธี รวมทั้งการมีอาการและอาการแสดงบางอย่าง การตรวจคัดกรองโรค จากนั้น จะต้องทาการสร้างภาพทางการแพทย์ เมื่อตรวจพบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งแล้ว
จะมีการวินิจฉัยเพื่อยืนยันโดยการตรวจตัวอย่างชิ้นเนื้อ (อังกฤษ: biopsy)
มะเร็งหลายประเภทสามารถป้ องกันได้โดยการไม่สูบบุหรี่, รักษาน้าหนักตัวเพื่อสุขภาพที่ดี, ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, กินอาหารประเภทผักผลไม้และธัญพืชมาก ๆ, ฉีดวัคซีน
ป้ องกันโรคติดเชื้อบางอย่าง, ไม่กินเนื้อแดงมากเกินไป, และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ผ่านการตรวจคัดกรองจะเป็นประโยชน์สาหรับโรคมะเร็งปาก
มดลูกและมะเร็งลาไส้ใหญ่ ประโยชน์ของการตรวจคัดกรองสาหรับมะเร็งเต้านมยังมีความขัดแย้งโรคมะเร็งมักจะได้รับการรักษาผสมกันของการรักษาด้วยรังสีบางอย่าง, การผ่าตัด, การรักษา
ด้วยเคมีบาบัด, และการรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายการจัดการกับการปวดและอาการอื่นเป็นส่วนสาคัญของการดูแล การดูแลแบบประคับประคองเป็นสิ่งสาคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่ วยที่
โรคมีการพัฒนาไปมาก[1] โอกาสของการอยู่รอดขึ้นอยู่กับชนิดของโรคมะเร็งและระยะของโรคในช่วงเริ่มต้นของการรักษา ในเด็กอายุต่ากว่า 15 ที่วินิจฉัยอัตราการรอดตายในช่วงห้าปีใน โลกที่
พัฒนาแล้วโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 80% สาหรับโรคมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกาอัตราการรอดตายห้าปีเฉลี่ยอยู่ที่ 66%
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
โรคมะเร็งมีกี่ระยะ
ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ
หรือ แผลมะเร็งมี
ขนาดเล็ก และยังไม่
ลุกลาม
ระยะที่ 2 : ก้อนเนื้อ
หรือ แผลมะเร็งมี
ขนาดใหญ่ขึ้น เริ่ม
ลุกลามภายในเนื้อเยื่อ
หรืออวัยวะ
ระยะที่ 3 : ก้อนเนื้อ หรือ
แผลมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้น
เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ
หรืออวัยวะข้างเคียง และ
ลุกลามเข้าต่อมน้าเหลือง
ที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อหรือ
อวัยวะที่เป็นมะเร็ง
ระยะที่ 4 : ก้อนเนื้อ
หรือ แผลมะเร็งมี
ขนาดโตมาก และ
(หรือ) ลุกลามเข้า
เนื้อเยื่อหรืออวัยวะ
ข้างเคียง จนทะลุ
โรคมะเร็งมีกี่ระยะ?
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงต่างจากมะเร็ง
(เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย) อย่างไร
ไม่ใช่ว่าเนื้องอกทุกชนิดจะต้องเป็นมะเร็ง “เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง” (Benign tumor) เป็น
เนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง เพราะเซลล์ของเนื้องอกชนิดนี้จะแบ่งตัวช้า และไม่ค่อยมีการแทรกตัวเข้า
ไประหว่างเซลล์ปกติ ไม่ค่อยมีการทาลายเซลล์ปกติใกล้เคียง และไม่สามารถแทรกตัวทะลุเข้า
ไปในหลอดน้าเหลืองและหลอดเลือดได้จึงทาให้ไม่มีโอกาสที่เซลล์เนื้องอกจะแพร่กระจายไป
เติบโตเป็นก้อนเนื้อที่อวัยวะส่วนอื่นที่อยู่ไกลออกไปได้เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงสามารถผ่าตัด
รักษาให้หายขาดได้
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงต่างจากมะเร็ง (เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย) อย่างไร
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
อาการ
อาการและอาการแสดง
ในระยะเริ่มต้นของมะเร็งผู้ป่ วยจะยังไม่มีอาการ ต่อเมื่อขนาดของก้อนเริ่มโตขึ้นหรือเริ่มเกิดเป็นแผลจึง
อาจจะมีอาการหรืออาการแสดงได้ ขึ้นอยู่กับชนิดและตาแหน่งของมะเร็ง อาการส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่
มีความจาเพาะ สามารถพบได้บ่อยในภาวะอื่นที่ไม่ใช่มะเร็ง จึงถือได้ว่ามะเร็งเป็นโรคนักเลียนแบบอย่าง
หนึ่ง ผู้ป่ วยมะเร็งส่วนใหญ่จึงมักได้รับการรักษาภาวะอื่นมาระยะหนึ่งก่อน ก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่า
เป็นมะเร็ง[27]
อาการเฉพาะที่[แก้]
ผู้ป่ วยอาจมีอาการเฉพาะที่จากผลของตัวก้อนที่ขยายขนาดขึ้น ตัวอย่างเช่น ผลจากก้อนของมะเร็งปอด
อาจกดเบียดหลอดลม ทาให้ผู้ป่ วยมีอาการไอ หรือเกิดปอดอักเสบได้ง่ายขึ้น มะเร็งหลอดอาหารทาให้
เกิดการตีบแคบของหลอดอาหาร ทาให้ผู้ป่ วยมีอาการกลืนลาบากหรือกลืนเจ็บ มะเร็งลาไส้ใหญ่และไส้
ตรงอาจทาให้เกิดการตีบแคบหรือการอุดกั้นของลาไส้ ทาให้มีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติไป ก้อนในเต้า
นมหรืออัณฑะอาจปรากฏเป็นก้อนให้ผู้ป่วยสังเกตได้ชัดเจน อาการบางอย่างอาจเกิดจากการเกิดแผลที่
ก้อนมะเร็ง เช่น ในปอดอาจทาให้มีอาการไอเป็นเลือด ในลาไส้ทาให้ผู้ป่ วยค่อย ๆ เสียเลือดจนมีอาการ
ซีด หรือเลือดออกมากจนเห็นเป็นเลือดปนมากับอุจจาระได้ ในกระเพาะปัสสาวะอาจทาให้มีอาการ
ปัสสาวะเป็นเลือด และในมดลูกทาให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น ผู้ป่ วยระยะลุกลามบาง
รายอาจมีอาการเจ็บจากตัวก้อนได้ แต่ในระยะแรกที่ก้อนเพิ่งเริ่มขยายขนาดผู้ป่วยมักไม่มีอาการเจ็บจาก
ตัวก้อน มะเร็งบางชนิดอาจทาให้เกิดของเหลวสะสมในโพรงร่างกาย เช่นในช่องอก หรือช่องท้องได้
อาการที่เป็นระบบ เป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไปเนื่องจากผลกระทบที่อยู่ไกลจากตาแหน่งของโรคมะเร็งที่
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายโดยหรือเป็นการแพร่กระจายของโรค อาการเหล่านี้อาจรวมถึง:..
การสูญเสียน้าหนักโดยไม่ได้ตั้งใจ, เป็นไข้, เหนื่อยมากเกินไป, และมีการเปลี่ยนแปลงกับผิว มะเร็ง
ต่อมน้าเหลืองชนิดแพร่กระจายช้า(อังกฤษ: Hodgkin disease), โรคเม็ดโลหิตขาวผิดปกติ
(อังกฤษ: leukemias), และโรคมะเร็งตับหรือโรคมะเร็งไตอาจทาให้เกิดไข้ถาวรไม่ทราบที่มา
[27]
มะเร็งบางชนิดอาจทาให้เกิดกลุ่มอาการเฉพาะของระบบที่เรียกว่าปรากฏการณ์
paraneoplastic ตัวอย่างเช่นการปรากฏตัวของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย
(อังกฤษ: myasthenia gravis) ในเนื้องอกต่อมไทมัส (อังกฤษ: thymoma) และ
อาการปลายนิ้วโต (อังกฤษ: clubbing) ในโรคมะเร็งปอด[27]
การแพร่กระจายบทความหลัก: Metastasis
มะเร็งสามารถแพร่กระจายจากจุดกาเนิดเดิมของมันโดยการแพร่กระจายเฉพาะที่, การแพร่กระจายผ่าน
ทางน้าเหลืองไปยังต่อมน้าเหลืองในภูมิภาคหรือผ่านทางเลือด (การแพร่กระจาย แบบ
haematogenous) ไปยังเนื้อเยื่ออื่นที่ไกลออกไป การแพร่กระจายทั้งหมดนี้เรียกว่า
metastasis เมื่อมะเร็งแพร่กระจายไปตามเส้นทาง haematogenous มันก็มักจะ
แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย อย่างไรก็ตาม 'เมล็ดพันธุ์' มะเร็งจะเจริญเติบโตได้ดีใน 'ดิน' บางจุดที่เลือก
โดยเฉพาะเท่านั้น เป็นสมมติฐานของการแพร่กระจายโรคมะเร็งในรูปของ'ดินและเมล็ดพันธ์' อาการ
ของการเกิดโรคมะเร็งในระยะแพร่กระจายขึ้นอยู่กับตาแหน่งของเนื้องอกและอาจรวมถึงต่อมน้าเหลือง
โต (ซึ่งสามารถรู้สึกได้หรือบางครั้งก็เห็นได้ใต้ผิวหนังและมักจะแข็ง), ตับโตหรือม้ามโตซึ่งสามารถ
รู้สึกได้ในช่องท้อง, รู้สึกเจ็บปวดหรือเศษหักของกระดูกและอาการทางระบบประสาท
การติดเชื้อ
ทั่วโลกประมาณ 18% ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง
เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อ[4] สัดส่วนนี้แตกต่างกันไปใน
ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกจากที่สูง 25% ในทวีปแอฟริกา
จนถึงน้อยกว่า 10% ในประเทศที่พัฒนาแล้ว[4] ไวรัสเป็น
เชื้อโรคปกติของการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แต่
แบคทีเรียและปรสิตยังอาจสร้างผลกระทบกับโรคมะเร็งได้
เช่นกัน
ไวรัสที่สามารถทาให้เกิดมะเร็งได้เรียกว่า oncovirus ซึ่งรวมถึง
humam papillomavirus (มะเร็งปากมดลูก), Epstein-Barr
ไวรัส (โรค B-cell lymphoproliferative และโรคมะเร็งโพรงหลัง
จมูก), herpesvirus sarcoma ของ Kaposi (เนื้องอก Kaposi
และ primary effusion lymphomas), ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัส
ตับอักเสบ C (มะเร็งตับ), และ human T -cell ไวรัส-1
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemias T-cell) การติดเชื้อ
แบคทีเรียยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เท่าที่เห็นในมะเร็ง
กระเพาะอาหารที่เกิดจาก Helicobacter pylori[45] การติดเชื้อ
ปรสิตเกี่ยวข้องอย่างมากกับโรคมะเร็งรวมถึง Schistosoma
haematobium (มะเร็งเซลล์ squamous ของกระเพาะปัสสาวะ)
และพยาธิใบไม้ในตับ, Opisthorchis viverrini และ Clonorchis
sinensis (มะเร็งท่อน้าดี)[46]
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
การป้ องกัน
การป้ องกัน
85% 35% 65% 45%
การป้ องกันโรคมะเร็งมีการกาหนดเป็นมาตรการที่จริงจังเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง[71] ส่วนใหญ่ของผู้ป่ วย
โรคมะเร็งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม และจานวนมากแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้เป็นการ
เลือกวิถีชีวิตที่สามารถควบคุมได้ดังนั้นโรคมะเร็งถือว่าเป็นโรคที่สามารถป้ องกันได้เป็นส่วนใหญ่[72] มากกว่า
30% ของการเสียชีวิตจากมะเร็งสามารถป้ องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ :. ยาสูบ, การมีน้าหนักเกิน
/ โรคอ้วน, อาหารที่ไม่เพียงพอ, ขาดการออกกาลังกาย, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, การติดเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์,
และมลพิษทางอากาศ[73] สาเหตุด้านสิ่งแวดล้อมไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมดเช่นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติของ
รังสีที่เป็นพื้นหลัง และกรณีอื่น ๆ ของโรคมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่
จะป้ องกันโรคมะเร็งได้ทุกกรณี
ในขณะที่มีคาแนะนาเรื่องการบริโภคอาหารจานวนมากได้รับการนาเสนอเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง แต่
หลักฐานที่จะสนับสนุนคาแนะนานั้นไม่ค่อยชัดเจน[9][74] ปัจจัยการบริโภคอาหารขั้นต้นที่เพิ่มความเสี่ยงคือ
การเป็นโรคอ้วนและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานผักและผลไม้ใน
ปริมาณที่ต่าและเนื้อแดงในปริมาณที่สูงไม่ได้รับการยืนยัน[75][76] ในรายงานของ meta-analysis ปี 2014
ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างผักและผลไม้กับโรคมะเร็ง[77] การบริโภคกาแฟมีล่วนเกี่ยวข้องกับการลดความ
เสี่ยงของโรคมะเร็งตับ[78] การศึกษาได้เชื่อมโยงการบริโภคมากเกินไปของเนื้อสีแดงหรือเนื้อผ่านการ
กระบวนการเข้ากับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม, มะเร็งลาไส้ใหญ่, และมะเร็งตับอ่อน ซึ่งเป็น
ปรากฏการณ์หนึ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุให้พบสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกที่อุณหภูมิสูง[79][80] คาแนะนา
เกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อป้ องกันโรคมะเร็งมักจะรวมถึงการให้ความสาคัญกับผัก ผลไม้ ธัญพืช และ
ปลา และหลีกเลี่ยงเนื้อผ่านกระบวนการและเนื้อแดง (เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อแกะ) ไขมันสัตว์และ
คาร์โบไฮเดรตกลั่น[9][74]
อาหาร
การป้ องกัน
ยา
แนวคิดที่ว่ายาสามารถใช้ในการป้ องกันโรคมะเร็งได้เป็นที่น่าสนใจ และมีหลักฐานสนับสนุนการใช้ยาใน
ไม่กี่สถานการณ์ที่กาหนดไว้[81] ในประชากรทั่วไป ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช้สตีรอยด์ (อังกฤษ: Non-
steroidal anti-inflammatory drug (NSAIDs)) อาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่ แต่เนื่องจาก
มันมีผลกระทบแบบ side effect ต่อหัวใจและหลอดเลือดและระบบทางเดินอาหาร ยาดังกล่าวจึงอาจ
ก่อให้เกิดอันตรายโดยรวมเมื่อนามาใช้[82] แอสไพรินถูกพบว่าสามารถลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจาก
โรคมะเร็งได้ประมาณ 7%[83] COX-2 inhibitor อาจลดอัตราการก่อตัวของติ่งเนื้อ (อังกฤษ: polyp) ใน
ผู้ที่มีโรคติ่งเนื้อเมือกมากของเนื้องอกไม่ร้ายที่เนื้อเยื่อบุผิวที่มีโครงสร้างคล้ายต่อม (อังกฤษ: familial
adenomatous polyposis) อย่างไรก็ตาม มันมีผลกระทบเช่นเดียวกับยากลุ่ม NSAIDs[84] การใช้ยา
tamoxifen หรือ raloxifene เป็นประจาวันได้แสดงให้เห็นถึงการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
ในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง[85] เมื่อเอาประโยชน์มาเทียบกับอันตรายสาหรับยายับยั้งเอนไซม์ชื่อ 5-alpha-
reductase inhibitor เช่นตัวยา finasteride แล้ว ประโยชน์ยังไม่ชัดเจน[86]
วิตามินยังไม่ได้ถูกพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้ องกันโรคมะเร็งได้[87] แม้ว่าระดับเลือดต่าของวิตามินดีจะ
มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็ง[88][89] ความสัมพันธ์นี้จะเป็นสาเหตุหรือไม่และ
อาหารเสริมวิตามินดีสามารถช่วยในการป้ องกันหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการค้นหาความจริงอย่างแน่วแน่
[90] การเสริมเบต้าแคโรทีนมีการค้นพบว่าใช้เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งปอดในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง[91] การ
เสริมกรดโฟลิกยังไม่พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้ องกันโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่แต่อาจเพิ่มติ่งลาไส้ใหญ่
[92][93] ยังไม่มีความชัดเจนว่าการเสริมซีลีเนียมมีประโยชน์[94]
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
การรักษา
การรักษา
Right Atrium
Tricuspid
Valve
Right Ventricle
Left
Ventricle
Left
Atrium
Aortic
Valve
Mitral
ValvePulmonary
Valve
Pulmonary
Artery
Coronary
Artery
Aorta
เคมีบาบัดคือการรักษาโรคมะเร็งที่ใช้ยาต้านมะเร็งพิษ (อังกฤษ: cytotoxic anti-neoplastic drug) (ยาเคมีบาบัด (อังกฤษ: chemotherapeutic agents)) หนึ่งตัวหรือมากกว่า
เป็นส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์มาตรฐาน เคมีบาบัดจะครอบคลุมยาต้านมะเร็งใด ๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ในวงกว้างเช่น alkylating agents และ antimetabolites[113] ยาเคมี
บาบัดแบบดั้งเดิมทาหน้าที่ฆ่าเซลล์ที่แบ่งอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของเซลล์มะเร็งส่วนใหญ่
การรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายเป็นรูปแบบหนึ่งของยาเคมีบาบัดที่เล็งเป้ าหมายไปที่โมเลกุลเฉพาะที่แตกต่างกันระหว่างเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติ การรักษาที่ตรงเป้ าหมาย
ครั้งแรกที่จะได้รับการพัฒนาขึ้นจะปิดกั้นโมเลกุลที่เป็นตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม ตัวอย่างธรรมดาอีกกรณีหนึ่งก็คือระดับชั้น
ของสารยับยั้ง Bcr-Abl ซึ่งจะใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว myelogenous เรื้อรัง (CML)[114] ปัจจุบันมีการรักษาโดยกาหนดเป้ าหมายเพื่อรักษามะเร็งเต้านม, เนื้องอก
ไขกระดูกหลายจุด (อังกฤษ: multiple myeloma), โรคมะเร็งต่อมน้าเหลือง, มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งผิวหนังและมะเร็งอื่น ๆ
ประสิทธิภาพของยาเคมีบาบัดขึ้นอยู่กับชนิดของโรคมะเร็งและระยะของโรค เมื่อใช้ร่วมกับการ
ผ่าตัด เคมีบาบัดได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในหลายชนิดมะเร็งที่แตกต่างกัน ได้แก่ :. มะเร็งเต้า
นม, มะเร็งลาไส้ใหญ่, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งกระดูก, มะเร็งอัณฑะ, มะเร็งรังไข่และมะเร็งปอด
บางอย่าง[116] ประสิทธิภาพโดยรวมมีช่วงจากอยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็งบางชนิดเช่น
leukemias บางชนิด[117][118] จนถึงไม่สัมฤทธิ์ผลเช่นในบางขนิดของเนื้องอกในสมอง[119] จนถึงไม่
จาเป็นในมะเร็งอื่น ๆ เช่นมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เนื้องอกส่วนใหญ่[120] ประสิทธิภาพของยาเคมี
บาบัดมักจะถูกจากัดโดยความเป็นพิษต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย ถึงแม้ในขณะที่มันเป็นไปไม่ได้
ที่จะให้ยาเคมีบาบัดสามารถรักษาโรคได้อย่างถาวร เคมีบาบัดอาจจะมีประโยชน์ในการลดอาการ
เช่นอาการปวดหรือเพื่อลดขนาดของเนื้องอกที่ไม่ทางานในความหวังว่าการผ่าตัดจะเป็นไปได้ใน
อนาคต
การรักษา
การรักษาด้วยการฉายรังสีจะเกี่ยวข้องกับการใช้รังสีในความพยายามที่จะรักษา
หรือปรับปรุงอาการของโรคมะเร็ง มันทางานโดยการทาลายดีเอ็นเอของเนื้อเยื่อ
มะเร็งที่นาไปสู่การตายของเซลล์ เพื่อป้ องกันเนื้อเยื่อที่ดี (เช่นผิวหนังหรืออวัยวะที่
รังสีจะต้องฉายผ่านระหว่างการรักษาเนื้องอก) ลาแสงรังสีที่มีการปรับรูปร่างจะถูก
เล็งไปที่หลาย ๆ มุมของจุดสัมผัสกับเนื้องอกเพื่อให้จุดนั้นดูดซึมรังสีมากกว่า
พื้นที่โดยรอบของเนื้อเยื่อที่ดี เช่นเดียวกับการรักษาด้วยเคมีบาบัด โรคมะเร็งที่
แตกต่างกันมีการตอบสนองต่อรังสีที่แตกต่างกัน[121][122][123]
การรักษาด้วยการฉายรังสีถูกใช้ประมาณครึ่งหนึ่งของทุกกรณีและแหล่งสร้างรังสี
อาจมาจากแหล่งภายในร่างกายในรูปแบบของการฝังแร่
(อังกฤษ: brachytherapy) หรือจากแหล่งสร้างรังสีภายนอก การฉายรังสี
โดยทั่วไปส่วนใหญ่ใช้รังสีเอกซ์พลังงานต่าสาหรับการรักษามะเร็งผิวหนังในขณะที่
ลาแสงเอ็กซ์เรย์พลังงานสูงจะใช้ในการรักษาโรคมะเร็งภายในร่างกาย[124] รังสีโดย
ปกติจะใช้เสริมการผ่าตัดหรือเสริมเคมีบาบัด แต่บางประเภทของโรคมะเร็งเช่น
โรคมะเร็งศีรษะและลาคอในระยะเริ่มต้นอาจจะใช้เพียงการฉายรังสีอย่างเดียว
[125] สาหรับการแพร่กระจายไปที่กระดูกและสร้างความเจ็บปวดพบว่าการฉายรังสี
มีประสิทธิภาพประมาณ 70% ของผู้ป่ วย
การดูแลแบบประคับประคอง
การดูแลแบบประคับประคองหมายถึงการรักษาที่พยายามที่จะทาให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นและอาจจะ
หรืออาจจะไม่สามารถใช้ร่วมกับความพยายามที่จะรักษาโรคมะเร็ง การดูแลแบบประคับประคอง
รวมถึงการดาเนินการเพื่อลดความทุกข์ทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางจิตวิญญาณและจิตสังคม
ที่ผู้ป่วยต้องเผชิญอันเนื่องมาจากโรคมะเร็ง ซึ่งแตกต่างจากการรักษาที่มีวัตถุประสงค์ที่จะฆ่า
เซลล์มะเร็งโดยตรง เป้ าหมายหลักของการดูแลแบบประคับประคองคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิต
ของบุคคลนั้น
http://www.free-powerpoint-templates-design.com
การตั้งครรภ์
พราะโรคมะเร็งเป็นโรคส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุ มันก็ไม่ได้พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์
โรคมะเร็งส่งผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ใน 1,000 คน[168] โรคมะเร็งที่
พบมากที่สุดในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นเช่นเดียวกับโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดที่พบ
ในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ในช่วงวัยการคลอดบุตร ได้แก่: มะเร็งเต้านม มะเร็งปาก
มดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมน้าเหลือง, มะเร็งรังไข่ และโรคมะเร็งลาไส้
ใหญ่[168]
การวินิจฉัยโรคมะเร็งใหม่ในหญิงตั้งครรภ์เป็นเรื่องยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการ
บางอย่างปกติจะถือว่าจะเป็นความรู้สึกไม่สบายธรมดาทีีี่ เกี่ยวข้องกับการ
ตั้งครรภ์[168] เป็นผลให้เป็นโรคมะเร็งโดยทั่วไปถูกค้นพบในระยะของโรคที่ค่อนข้าง
สายกว่าค่าเฉลี่ยในหญิงตั้งครรภ์หลายกรณีหรือเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน บางขั้นตอน
ของการถ่ายภาพเช่น MRIs, CT สแกน, ultrasounds และ mammograms (การ
เอ็กซ์เรย์เต้านม) ที่มีเครื่องป้ องกันรังสีให้กับทารกในครรภ์จะได้รับการพิจารณาว่า
มีความปลอดภัยเมื่อทาการถ่ายภาพในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่บางระบบอื่น ๆ
เช่น PET scan ไม่ปลอดภัย
.
การรักษาโดยทั่วไปจะดาเนินการเช่นเดียวกับผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์[168] อย่างไรก็ตามการฉาย
รังสีและยาที่ใช้สารกัมมันตรังสีตามปกติจะมีการหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าปริมาณยาสาหรับทารกในครรภ์อาจเกิน 100 CGY ในบางกรณี บางส่วนของการรักษาหรือ
ทั้งหมดจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงหลังคลอดถ้าโรคมะเร็งได้รับการวินิจฉัยในช่วงปลายของการ
ตั้งครรภ์ การคลอดที่เร็วขึ้นเพื่อเริ่มต้นการรักษาให้เร็วขึ้นไม่ใช่เป็นสิ่งผิดปกติ การผ่าตัด
โดยทั่วไปมีความปลอดภัย แต่การผ่าตัดกระดูกเชิงกรานในช่วงไตรมาสแรกอาจทาให้เกิดการ
แท้งบุตร การรักษาบางอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเคมีบาบัดบางอย่างที่ใช้ในช่วงไตรมาสแรก
อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดข้อบกพร่องกับการคลอด (อังกฤษ: birth defect) และการ
สูญเสียการตั้งครรภ์ (อังกฤษ: pregnancy loss) (การแท้งที่เกิดขึ้นเองและการคลอดแบบ
ทารกตายในครรภ์).[168]
การเลือกที่จะทาแท้งจะไม่จาเป็นและสาหรับรูปแบบและระยะของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดจะไม่
ช่วยการอยู่รอดของแม่ให้ดีขึ้นหรือได้รับการรักษาจนหายขาด[168] ในไม่กี่กรณี เช่นมะเร็งมดลูก
ระยะก้าวหน้า การตั้งครรภ์ไม่สามารถเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และในกรณีอื่น ๆ เช่นโรคมะเร็ง
เม็ดเลือดขาวเฉียบพลันที่ถูกค้นพบในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ หญิงที่ตั้งครรภ์อาจเลือกที่จะทา
แท้งเพื่อที่เธอจะเริ่มต้นการรักษาด้วยเคมีบาบัดในเชิงรุกโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเกิด
ข้อบกพร่องตอนคลอด
การตั้งครรภ์
LOREM IPSUM DOLOR SIT AMET, CU USU AGAM INTEGRE IMPEDIT.
LOREM IPSUM
DOLOR SIT AMET
สมาชิก
นาย ปกป้ อง วังมณี เลขที่ 5
THANK YOUInsert the Sub Title of Your Presentation
Fully Editable Shapes
Right Atrium
Tricuspid
Valve
Right Ventricle
Left
Ventricle
Left
Atrium
Aortic
Valve
Mitral
ValvePulmonary
Valve
Pulmonary
Artery
Coronary
Artery
Aorta
Fully Editable Shapes
You can Resize without
losing quality
You can Change Fill
Color &
Line Color
www.allppt.com
FREE
PPT
TEMPLATES
Fully Editable Icon Sets: A
You can Resize without
losing quality
You can Change Fill
Color &
Line Color
www.allppt.com
FREE
PPT
TEMPLATES
Fully Editable Icon Sets: B
You can Resize without
losing quality
You can Change Fill
Color &
Line Color
www.allppt.com
FREE
PPT
TEMPLATES
Fully Editable Icon Sets: C

More Related Content

Similar to Blood donation power point templates

บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมAnny Na Sonsawan
 
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมAnny Na Sonsawan
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaWan Ngamwongwan
 
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)daeng
 
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต  วัฒนศัพท์มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต  วัฒนศัพท์
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์daeng
 
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม Utai Sukviwatsirikul
 
โรคมะเร็ง
โรคมะเร็งโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งsantti2055
 
โรคเอดส์
โรคเอดส์โรคเอดส์
โรคเอดส์tichana
 
โรคเอดส์
โรคเอดส์โรคเอดส์
โรคเอดส์tichana
 
โรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมโรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมRoongroeng
 
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็กCPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็กThorsang Chayovan
 
พันธุกรรม2
พันธุกรรม2พันธุกรรม2
พันธุกรรม2wijitcom
 
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษา
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษา
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษาsportrnm
 
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...pitsanu duangkartok
 

Similar to Blood donation power point templates (20)

การรักษามะเร็งปากมดลูก
การรักษามะเร็งปากมดลูกการรักษามะเร็งปากมดลูก
การรักษามะเร็งปากมดลูก
 
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
 
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านมบทความเรื่องมะเร็งเต้านม
บทความเรื่องมะเร็งเต้านม
 
Breast cancer
Breast cancerBreast cancer
Breast cancer
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
 
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)
มะเร็งตับ (ผศ.นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์)
 
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต  วัฒนศัพท์มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต  วัฒนศัพท์
มะเร็งตับ โดย นพ.วาฑิต วัฒนศัพท์
 
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม
วิระพล ภิมาลย์, เภสัชกรรมบำบัดโรคมะเร็งเต้านม
 
โรคมะเร็ง
โรคมะเร็งโรคมะเร็ง
โรคมะเร็ง
 
Cx ca
Cx caCx ca
Cx ca
 
Cx ca
Cx caCx ca
Cx ca
 
โรคเอดส์
โรคเอดส์โรคเอดส์
โรคเอดส์
 
โรคเอดส์
โรคเอดส์โรคเอดส์
โรคเอดส์
 
โรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมโรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรม
 
Tumor Marker
Tumor MarkerTumor Marker
Tumor Marker
 
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็กCPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
CPG มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
 
พันธุกรรม2
พันธุกรรม2พันธุกรรม2
พันธุกรรม2
 
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษา
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษา
พฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับเพศศึกษา
 
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...
cancer therapy by pitsanu_duangkartok ...
 
2560 project
2560 project2560 project
2560 project
 

More from mearnfunTamonwan (12)

Sen3
Sen3Sen3
Sen3
 
Sen(3)
Sen(3)Sen(3)
Sen(3)
 
5555
55555555
5555
 
2562 final-project 23-40
2562 final-project 23-402562 final-project 23-40
2562 final-project 23-40
 
Computer project (1)
Computer project (1)Computer project (1)
Computer project (1)
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
White and black introduction to minimalist design presentation
White and black introduction to minimalist design presentationWhite and black introduction to minimalist design presentation
White and black introduction to minimalist design presentation
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)
 
Project com 612
Project com 612Project com 612
Project com 612
 

Blood donation power point templates

  • 3. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อโรคชื่อนี้ เป็นโรคที่อยู่กับคนไทยมานานแสนาน มะเร็ง หรือทางการแพทย์ว่า เนื้อ งอกร้าย (อังกฤษ: malignant tumor) เป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ ผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อเป็นเนื้องอกร้าย และมีศักยภาพในการ รุกรานร่างกายส่วนข้างเคียง มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังร่างกายส่วนที่อยู่ห่างไกลได้ผ่านระบบน้าเหลือง หรือกระแสเลือด แต่ไม่ใช่เนื้องอกทุกชนิดจะเป็นมะเร็ง เพราะเนื้องอกไม่ร้ายจะไม่ลุกลามไปยังอวัยวะ ข้างเคียงและไม่กระจายไปทั่วร่างกาย อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็งที่เป็นไปได้รวมถึงมีก้อนเนื้อ เกิดใหม่, มีเลือดออกผิดปกติ, มีการไอเป็นเวลานาน, การสูญเสียน้าหนักที่อธิบายไม่ได้, และการ เปลี่ยนแปลงในการขับถ่ายของลาไส้และอื่น ๆแต่อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาอื่น ๆ ได้ เช่นกัน มีมะเร็งที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่ทราบแล้วกว่า 100 ชนิด สาเหตุของมะเร็งนั้นมีหลากหลาย ซับซ้อนและเข้าใจเพียงบางส่วนเท่านั้น มีหลายปัจจัยที่ทราบแล้วว่า เพิ่มปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ได้แก่ การสูบบุหรี่ (อัตราการตาย 22%) ปัจจัยด้านอาหาร, การขาดกิจกรรมการ ออกกาลังกาย, โรคอ้วน, และการบริโภคแอลกอฮอล์ (อัตราการตายรวมกัน 10%) นอกนั้นเป็นการติด เชื้อบางอย่าง, การสัมผัสรังสี, และมลภาวะสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศกาลังพัฒนา เกือบ 20% ของ โรคมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อเช่นโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิด B, ชนิด C, และ human papillomavirus. โดยทั่วไปก่อนที่มะเร็งจะพัฒนาขึ้น การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของยีนจะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 5–10% ของมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทาให้ยีน เสียหายโดยตรง หรืออาจประกอบกับความบกพร่องทางพันธุกรรมที่มีอยู่เดิมในเซลล์ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นมะเร็งได้ มะเร็งราว 5–10% สามารถติดตามไปยังความบกพร่องทางพันธุกรรมแต่ กาเนิดโดยตรง มะเร็งสามารถตรวจพบได้หลายวิธี รวมทั้งการมีอาการและอาการแสดงบางอย่าง การตรวจ คัดกรองโรค จากนั้น จะต้องทาการสร้างภาพทางการแพทย์ เมื่อตรวจพบว่ามีโอกาสเป็น มะเร็งแล้ว จะมีการวินิจฉัยเพื่อยืนยันโดยการตรวจตัวอย่างชิ้นเนื้อ (อังกฤษ: biopsy) มะเร็งหลายประเภทสามารถป้ องกันได้โดยการไม่สูบบุหรี่, รักษาน้าหนักตัวเพื่อสุขภาพที่ดี, ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, กินอาหารประเภทผักผลไม้และธัญพืชมาก ๆ, ฉีด วัคซีนป้ องกันโรคติดเชื้อบางอย่าง, ไม่กินเนื้อแดงมากเกินไป, และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ แสงแดดมากเกินไป การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ผ่านการตรวจคัดกรองจะเป็นประโยชน์สาหรับ โรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลาไส้ใหญ่ ประโยชน์ของการตรวจคัดกรองสาหรับมะเร็งเต้านม ยังมีความขัดแย้งโรคมะเร็งมักจะได้รับการรักษาผสมกันของการรักษาด้วยรังสีบางอย่าง, การ ผ่าตัด, การรักษาด้วยเคมีบาบัด, และการรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายการจัดการกับการ ปวดและอาการอื่นเป็นส่วนสาคัญของการดูแล การดูแลแบบประคับประคองเป็นสิ่งสาคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่ วยที่โรคมีการพัฒนาไปมาก[1] โอกาสของการอยู่รอดขึ้นอยู่กับชนิด ของโรคมะเร็งและระยะของโรคในช่วงเริ่มต้นของการ
  • 6. โรคมะเร็ง คือ? มะเร็งเป็นโรคที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ แต่โดยส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยที่เป็น ผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก และจะพบได้สูงในผู้ป่วยที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป “มะเร็ง” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย” เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของเซลล์ที่มีความผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ก่อเป็นเนื้อร้าย และรุกรานไปยังอวัยวะส่วนข้างเคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วน ต่างๆ ของร่างกายที่อยู่ห่างไกล ผ่านระบบน้าเหลืองหรือกระแสเลือด มะเร็ง หรือทางการแพทย์ว่า เนื้องอกร้าย (อังกฤษ: malignant tumor) เป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ ที่ผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ก่อเป็นเนื้องอกร้าย และมีศักยภาพในการรุกรานร่างกายส่วนข้างเคียงมะเร็งอาจ แพร่กระจายไปยังร่างกายส่วนที่อยู่ห่างไกลได้ผ่านระบบน้าเหลืองหรือกระแสเลือด แต่ไม่ใช่เนื้องอกทุกชนิดจะเป็นมะเร็ง เพราะเนื้องอกไม่ ร้ายจะไม่ลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงและไม่กระจายไปทั่วร่างกาย อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็งที่เป็นไปได้รวมถึงมีก้อนเนื้อเกิด ใหม่, มีเลือดออกผิดปกติ, มีการไอเป็นเวลานาน, การสูญเสียน้าหนักที่อธิบายไม่ได้, และการเปลี่ยนแปลงในการขับถ่าย
  • 7. ของลาไส้และอื่น ๆแต่อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาอื่น ๆ ได้เช่นกัน มีมะเร็งที่ส่งผลต่อมนุษย์ที่ทราบแล้วกว่า 100 ชนิด สาเหตุของมะเร็งนั้นมีหลากหลาย ซับซ้อนและเข้าใจเพียงบางส่วนเท่านั้น มีหลายปัจจัยที่ทราบแล้วว่าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ได้แก่ การสูบบุหรี่ (อัตราการตาย 22%) ปัจจัยด้านอาหาร, การขาด กิจกรรมการออกกาลังกาย, โรคอ้วน, และการบริโภคแอลกอฮอล์ (อัตราการตายรวมกัน 10%) นอกนั้นเป็นการติดเชื้อบางอย่าง, การสัมผัสรังสี, และมลภาวะสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศกาลัง พัฒนา เกือบ 20% ของโรคมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อเช่นโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิด B, ชนิด C, และ human papillomavirus. โดยทั่วไปก่อนที่มะเร็งจะพัฒนาขึ้น การเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ของยีนจะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 5–10% ของมะเร็งเกิดจากการติดเชื้อทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทาให้ยีนเสียหายโดยตรง หรืออาจประกอบกับความบกพร่อง ทางพันธุกรรมที่มีอยู่เดิมในเซลล์ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้ มะเร็งราว 5–10% สามารถติดตามไปยังความบกพร่องทางพันธุกรรมแต่กาเนิดโดยตรง มะเร็งสามารถตรวจพบได้หลายวิธี รวมทั้งการมีอาการและอาการแสดงบางอย่าง การตรวจคัดกรองโรค จากนั้น จะต้องทาการสร้างภาพทางการแพทย์ เมื่อตรวจพบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งแล้ว จะมีการวินิจฉัยเพื่อยืนยันโดยการตรวจตัวอย่างชิ้นเนื้อ (อังกฤษ: biopsy) มะเร็งหลายประเภทสามารถป้ องกันได้โดยการไม่สูบบุหรี่, รักษาน้าหนักตัวเพื่อสุขภาพที่ดี, ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, กินอาหารประเภทผักผลไม้และธัญพืชมาก ๆ, ฉีดวัคซีน ป้ องกันโรคติดเชื้อบางอย่าง, ไม่กินเนื้อแดงมากเกินไป, และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ผ่านการตรวจคัดกรองจะเป็นประโยชน์สาหรับโรคมะเร็งปาก มดลูกและมะเร็งลาไส้ใหญ่ ประโยชน์ของการตรวจคัดกรองสาหรับมะเร็งเต้านมยังมีความขัดแย้งโรคมะเร็งมักจะได้รับการรักษาผสมกันของการรักษาด้วยรังสีบางอย่าง, การผ่าตัด, การรักษา ด้วยเคมีบาบัด, และการรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายการจัดการกับการปวดและอาการอื่นเป็นส่วนสาคัญของการดูแล การดูแลแบบประคับประคองเป็นสิ่งสาคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่ วยที่ โรคมีการพัฒนาไปมาก[1] โอกาสของการอยู่รอดขึ้นอยู่กับชนิดของโรคมะเร็งและระยะของโรคในช่วงเริ่มต้นของการรักษา ในเด็กอายุต่ากว่า 15 ที่วินิจฉัยอัตราการรอดตายในช่วงห้าปีใน โลกที่ พัฒนาแล้วโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 80% สาหรับโรคมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกาอัตราการรอดตายห้าปีเฉลี่ยอยู่ที่ 66%
  • 9. ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ หรือ แผลมะเร็งมี ขนาดเล็ก และยังไม่ ลุกลาม ระยะที่ 2 : ก้อนเนื้อ หรือ แผลมะเร็งมี ขนาดใหญ่ขึ้น เริ่ม ลุกลามภายในเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะ ระยะที่ 3 : ก้อนเนื้อ หรือ แผลมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะข้างเคียง และ ลุกลามเข้าต่อมน้าเหลือง ที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อหรือ อวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะที่ 4 : ก้อนเนื้อ หรือ แผลมะเร็งมี ขนาดโตมาก และ (หรือ) ลุกลามเข้า เนื้อเยื่อหรืออวัยวะ ข้างเคียง จนทะลุ โรคมะเร็งมีกี่ระยะ?
  • 11. ไม่ใช่ว่าเนื้องอกทุกชนิดจะต้องเป็นมะเร็ง “เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง” (Benign tumor) เป็น เนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง เพราะเซลล์ของเนื้องอกชนิดนี้จะแบ่งตัวช้า และไม่ค่อยมีการแทรกตัวเข้า ไประหว่างเซลล์ปกติ ไม่ค่อยมีการทาลายเซลล์ปกติใกล้เคียง และไม่สามารถแทรกตัวทะลุเข้า ไปในหลอดน้าเหลืองและหลอดเลือดได้จึงทาให้ไม่มีโอกาสที่เซลล์เนื้องอกจะแพร่กระจายไป เติบโตเป็นก้อนเนื้อที่อวัยวะส่วนอื่นที่อยู่ไกลออกไปได้เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงสามารถผ่าตัด รักษาให้หายขาดได้ เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงต่างจากมะเร็ง (เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย) อย่างไร
  • 13. อาการและอาการแสดง ในระยะเริ่มต้นของมะเร็งผู้ป่ วยจะยังไม่มีอาการ ต่อเมื่อขนาดของก้อนเริ่มโตขึ้นหรือเริ่มเกิดเป็นแผลจึง อาจจะมีอาการหรืออาการแสดงได้ ขึ้นอยู่กับชนิดและตาแหน่งของมะเร็ง อาการส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่ มีความจาเพาะ สามารถพบได้บ่อยในภาวะอื่นที่ไม่ใช่มะเร็ง จึงถือได้ว่ามะเร็งเป็นโรคนักเลียนแบบอย่าง หนึ่ง ผู้ป่ วยมะเร็งส่วนใหญ่จึงมักได้รับการรักษาภาวะอื่นมาระยะหนึ่งก่อน ก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นมะเร็ง[27] อาการเฉพาะที่[แก้] ผู้ป่ วยอาจมีอาการเฉพาะที่จากผลของตัวก้อนที่ขยายขนาดขึ้น ตัวอย่างเช่น ผลจากก้อนของมะเร็งปอด อาจกดเบียดหลอดลม ทาให้ผู้ป่ วยมีอาการไอ หรือเกิดปอดอักเสบได้ง่ายขึ้น มะเร็งหลอดอาหารทาให้ เกิดการตีบแคบของหลอดอาหาร ทาให้ผู้ป่ วยมีอาการกลืนลาบากหรือกลืนเจ็บ มะเร็งลาไส้ใหญ่และไส้ ตรงอาจทาให้เกิดการตีบแคบหรือการอุดกั้นของลาไส้ ทาให้มีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติไป ก้อนในเต้า นมหรืออัณฑะอาจปรากฏเป็นก้อนให้ผู้ป่วยสังเกตได้ชัดเจน อาการบางอย่างอาจเกิดจากการเกิดแผลที่ ก้อนมะเร็ง เช่น ในปอดอาจทาให้มีอาการไอเป็นเลือด ในลาไส้ทาให้ผู้ป่ วยค่อย ๆ เสียเลือดจนมีอาการ ซีด หรือเลือดออกมากจนเห็นเป็นเลือดปนมากับอุจจาระได้ ในกระเพาะปัสสาวะอาจทาให้มีอาการ ปัสสาวะเป็นเลือด และในมดลูกทาให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น ผู้ป่ วยระยะลุกลามบาง รายอาจมีอาการเจ็บจากตัวก้อนได้ แต่ในระยะแรกที่ก้อนเพิ่งเริ่มขยายขนาดผู้ป่วยมักไม่มีอาการเจ็บจาก ตัวก้อน มะเร็งบางชนิดอาจทาให้เกิดของเหลวสะสมในโพรงร่างกาย เช่นในช่องอก หรือช่องท้องได้
  • 14. อาการที่เป็นระบบ เป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไปเนื่องจากผลกระทบที่อยู่ไกลจากตาแหน่งของโรคมะเร็งที่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายโดยหรือเป็นการแพร่กระจายของโรค อาการเหล่านี้อาจรวมถึง:.. การสูญเสียน้าหนักโดยไม่ได้ตั้งใจ, เป็นไข้, เหนื่อยมากเกินไป, และมีการเปลี่ยนแปลงกับผิว มะเร็ง ต่อมน้าเหลืองชนิดแพร่กระจายช้า(อังกฤษ: Hodgkin disease), โรคเม็ดโลหิตขาวผิดปกติ (อังกฤษ: leukemias), และโรคมะเร็งตับหรือโรคมะเร็งไตอาจทาให้เกิดไข้ถาวรไม่ทราบที่มา [27] มะเร็งบางชนิดอาจทาให้เกิดกลุ่มอาการเฉพาะของระบบที่เรียกว่าปรากฏการณ์ paraneoplastic ตัวอย่างเช่นการปรากฏตัวของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย (อังกฤษ: myasthenia gravis) ในเนื้องอกต่อมไทมัส (อังกฤษ: thymoma) และ อาการปลายนิ้วโต (อังกฤษ: clubbing) ในโรคมะเร็งปอด[27] การแพร่กระจายบทความหลัก: Metastasis มะเร็งสามารถแพร่กระจายจากจุดกาเนิดเดิมของมันโดยการแพร่กระจายเฉพาะที่, การแพร่กระจายผ่าน ทางน้าเหลืองไปยังต่อมน้าเหลืองในภูมิภาคหรือผ่านทางเลือด (การแพร่กระจาย แบบ haematogenous) ไปยังเนื้อเยื่ออื่นที่ไกลออกไป การแพร่กระจายทั้งหมดนี้เรียกว่า metastasis เมื่อมะเร็งแพร่กระจายไปตามเส้นทาง haematogenous มันก็มักจะ แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย อย่างไรก็ตาม 'เมล็ดพันธุ์' มะเร็งจะเจริญเติบโตได้ดีใน 'ดิน' บางจุดที่เลือก โดยเฉพาะเท่านั้น เป็นสมมติฐานของการแพร่กระจายโรคมะเร็งในรูปของ'ดินและเมล็ดพันธ์' อาการ ของการเกิดโรคมะเร็งในระยะแพร่กระจายขึ้นอยู่กับตาแหน่งของเนื้องอกและอาจรวมถึงต่อมน้าเหลือง โต (ซึ่งสามารถรู้สึกได้หรือบางครั้งก็เห็นได้ใต้ผิวหนังและมักจะแข็ง), ตับโตหรือม้ามโตซึ่งสามารถ รู้สึกได้ในช่องท้อง, รู้สึกเจ็บปวดหรือเศษหักของกระดูกและอาการทางระบบประสาท
  • 15. การติดเชื้อ ทั่วโลกประมาณ 18% ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อ[4] สัดส่วนนี้แตกต่างกันไปใน ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกจากที่สูง 25% ในทวีปแอฟริกา จนถึงน้อยกว่า 10% ในประเทศที่พัฒนาแล้ว[4] ไวรัสเป็น เชื้อโรคปกติของการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ แบคทีเรียและปรสิตยังอาจสร้างผลกระทบกับโรคมะเร็งได้ เช่นกัน ไวรัสที่สามารถทาให้เกิดมะเร็งได้เรียกว่า oncovirus ซึ่งรวมถึง humam papillomavirus (มะเร็งปากมดลูก), Epstein-Barr ไวรัส (โรค B-cell lymphoproliferative และโรคมะเร็งโพรงหลัง จมูก), herpesvirus sarcoma ของ Kaposi (เนื้องอก Kaposi และ primary effusion lymphomas), ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัส ตับอักเสบ C (มะเร็งตับ), และ human T -cell ไวรัส-1 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemias T-cell) การติดเชื้อ แบคทีเรียยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เท่าที่เห็นในมะเร็ง กระเพาะอาหารที่เกิดจาก Helicobacter pylori[45] การติดเชื้อ ปรสิตเกี่ยวข้องอย่างมากกับโรคมะเร็งรวมถึง Schistosoma haematobium (มะเร็งเซลล์ squamous ของกระเพาะปัสสาวะ) และพยาธิใบไม้ในตับ, Opisthorchis viverrini และ Clonorchis sinensis (มะเร็งท่อน้าดี)[46]
  • 17. การป้ องกัน 85% 35% 65% 45% การป้ องกันโรคมะเร็งมีการกาหนดเป็นมาตรการที่จริงจังเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง[71] ส่วนใหญ่ของผู้ป่ วย โรคมะเร็งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม และจานวนมากแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้เป็นการ เลือกวิถีชีวิตที่สามารถควบคุมได้ดังนั้นโรคมะเร็งถือว่าเป็นโรคที่สามารถป้ องกันได้เป็นส่วนใหญ่[72] มากกว่า 30% ของการเสียชีวิตจากมะเร็งสามารถป้ องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ :. ยาสูบ, การมีน้าหนักเกิน / โรคอ้วน, อาหารที่ไม่เพียงพอ, ขาดการออกกาลังกาย, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, การติดเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์, และมลพิษทางอากาศ[73] สาเหตุด้านสิ่งแวดล้อมไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมดเช่นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติของ รังสีที่เป็นพื้นหลัง และกรณีอื่น ๆ ของโรคมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ จะป้ องกันโรคมะเร็งได้ทุกกรณี ในขณะที่มีคาแนะนาเรื่องการบริโภคอาหารจานวนมากได้รับการนาเสนอเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง แต่ หลักฐานที่จะสนับสนุนคาแนะนานั้นไม่ค่อยชัดเจน[9][74] ปัจจัยการบริโภคอาหารขั้นต้นที่เพิ่มความเสี่ยงคือ การเป็นโรคอ้วนและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานผักและผลไม้ใน ปริมาณที่ต่าและเนื้อแดงในปริมาณที่สูงไม่ได้รับการยืนยัน[75][76] ในรายงานของ meta-analysis ปี 2014 ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างผักและผลไม้กับโรคมะเร็ง[77] การบริโภคกาแฟมีล่วนเกี่ยวข้องกับการลดความ เสี่ยงของโรคมะเร็งตับ[78] การศึกษาได้เชื่อมโยงการบริโภคมากเกินไปของเนื้อสีแดงหรือเนื้อผ่านการ กระบวนการเข้ากับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม, มะเร็งลาไส้ใหญ่, และมะเร็งตับอ่อน ซึ่งเป็น ปรากฏการณ์หนึ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุให้พบสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกที่อุณหภูมิสูง[79][80] คาแนะนา เกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อป้ องกันโรคมะเร็งมักจะรวมถึงการให้ความสาคัญกับผัก ผลไม้ ธัญพืช และ ปลา และหลีกเลี่ยงเนื้อผ่านกระบวนการและเนื้อแดง (เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อแกะ) ไขมันสัตว์และ คาร์โบไฮเดรตกลั่น[9][74] อาหาร
  • 18. การป้ องกัน ยา แนวคิดที่ว่ายาสามารถใช้ในการป้ องกันโรคมะเร็งได้เป็นที่น่าสนใจ และมีหลักฐานสนับสนุนการใช้ยาใน ไม่กี่สถานการณ์ที่กาหนดไว้[81] ในประชากรทั่วไป ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช้สตีรอยด์ (อังกฤษ: Non- steroidal anti-inflammatory drug (NSAIDs)) อาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่ แต่เนื่องจาก มันมีผลกระทบแบบ side effect ต่อหัวใจและหลอดเลือดและระบบทางเดินอาหาร ยาดังกล่าวจึงอาจ ก่อให้เกิดอันตรายโดยรวมเมื่อนามาใช้[82] แอสไพรินถูกพบว่าสามารถลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจาก โรคมะเร็งได้ประมาณ 7%[83] COX-2 inhibitor อาจลดอัตราการก่อตัวของติ่งเนื้อ (อังกฤษ: polyp) ใน ผู้ที่มีโรคติ่งเนื้อเมือกมากของเนื้องอกไม่ร้ายที่เนื้อเยื่อบุผิวที่มีโครงสร้างคล้ายต่อม (อังกฤษ: familial adenomatous polyposis) อย่างไรก็ตาม มันมีผลกระทบเช่นเดียวกับยากลุ่ม NSAIDs[84] การใช้ยา tamoxifen หรือ raloxifene เป็นประจาวันได้แสดงให้เห็นถึงการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม ในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง[85] เมื่อเอาประโยชน์มาเทียบกับอันตรายสาหรับยายับยั้งเอนไซม์ชื่อ 5-alpha- reductase inhibitor เช่นตัวยา finasteride แล้ว ประโยชน์ยังไม่ชัดเจน[86] วิตามินยังไม่ได้ถูกพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้ องกันโรคมะเร็งได้[87] แม้ว่าระดับเลือดต่าของวิตามินดีจะ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็ง[88][89] ความสัมพันธ์นี้จะเป็นสาเหตุหรือไม่และ อาหารเสริมวิตามินดีสามารถช่วยในการป้ องกันหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการค้นหาความจริงอย่างแน่วแน่ [90] การเสริมเบต้าแคโรทีนมีการค้นพบว่าใช้เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งปอดในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง[91] การ เสริมกรดโฟลิกยังไม่พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้ องกันโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่แต่อาจเพิ่มติ่งลาไส้ใหญ่ [92][93] ยังไม่มีความชัดเจนว่าการเสริมซีลีเนียมมีประโยชน์[94]
  • 20. การรักษา Right Atrium Tricuspid Valve Right Ventricle Left Ventricle Left Atrium Aortic Valve Mitral ValvePulmonary Valve Pulmonary Artery Coronary Artery Aorta เคมีบาบัดคือการรักษาโรคมะเร็งที่ใช้ยาต้านมะเร็งพิษ (อังกฤษ: cytotoxic anti-neoplastic drug) (ยาเคมีบาบัด (อังกฤษ: chemotherapeutic agents)) หนึ่งตัวหรือมากกว่า เป็นส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์มาตรฐาน เคมีบาบัดจะครอบคลุมยาต้านมะเร็งใด ๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ในวงกว้างเช่น alkylating agents และ antimetabolites[113] ยาเคมี บาบัดแบบดั้งเดิมทาหน้าที่ฆ่าเซลล์ที่แบ่งอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของเซลล์มะเร็งส่วนใหญ่ การรักษาด้วยการกาหนดเป้ าหมายเป็นรูปแบบหนึ่งของยาเคมีบาบัดที่เล็งเป้ าหมายไปที่โมเลกุลเฉพาะที่แตกต่างกันระหว่างเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติ การรักษาที่ตรงเป้ าหมาย ครั้งแรกที่จะได้รับการพัฒนาขึ้นจะปิดกั้นโมเลกุลที่เป็นตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม ตัวอย่างธรรมดาอีกกรณีหนึ่งก็คือระดับชั้น ของสารยับยั้ง Bcr-Abl ซึ่งจะใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว myelogenous เรื้อรัง (CML)[114] ปัจจุบันมีการรักษาโดยกาหนดเป้ าหมายเพื่อรักษามะเร็งเต้านม, เนื้องอก ไขกระดูกหลายจุด (อังกฤษ: multiple myeloma), โรคมะเร็งต่อมน้าเหลือง, มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งผิวหนังและมะเร็งอื่น ๆ ประสิทธิภาพของยาเคมีบาบัดขึ้นอยู่กับชนิดของโรคมะเร็งและระยะของโรค เมื่อใช้ร่วมกับการ ผ่าตัด เคมีบาบัดได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในหลายชนิดมะเร็งที่แตกต่างกัน ได้แก่ :. มะเร็งเต้า นม, มะเร็งลาไส้ใหญ่, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งกระดูก, มะเร็งอัณฑะ, มะเร็งรังไข่และมะเร็งปอด บางอย่าง[116] ประสิทธิภาพโดยรวมมีช่วงจากอยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็งบางชนิดเช่น leukemias บางชนิด[117][118] จนถึงไม่สัมฤทธิ์ผลเช่นในบางขนิดของเนื้องอกในสมอง[119] จนถึงไม่ จาเป็นในมะเร็งอื่น ๆ เช่นมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เนื้องอกส่วนใหญ่[120] ประสิทธิภาพของยาเคมี บาบัดมักจะถูกจากัดโดยความเป็นพิษต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย ถึงแม้ในขณะที่มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะให้ยาเคมีบาบัดสามารถรักษาโรคได้อย่างถาวร เคมีบาบัดอาจจะมีประโยชน์ในการลดอาการ เช่นอาการปวดหรือเพื่อลดขนาดของเนื้องอกที่ไม่ทางานในความหวังว่าการผ่าตัดจะเป็นไปได้ใน อนาคต
  • 21. การรักษา การรักษาด้วยการฉายรังสีจะเกี่ยวข้องกับการใช้รังสีในความพยายามที่จะรักษา หรือปรับปรุงอาการของโรคมะเร็ง มันทางานโดยการทาลายดีเอ็นเอของเนื้อเยื่อ มะเร็งที่นาไปสู่การตายของเซลล์ เพื่อป้ องกันเนื้อเยื่อที่ดี (เช่นผิวหนังหรืออวัยวะที่ รังสีจะต้องฉายผ่านระหว่างการรักษาเนื้องอก) ลาแสงรังสีที่มีการปรับรูปร่างจะถูก เล็งไปที่หลาย ๆ มุมของจุดสัมผัสกับเนื้องอกเพื่อให้จุดนั้นดูดซึมรังสีมากกว่า พื้นที่โดยรอบของเนื้อเยื่อที่ดี เช่นเดียวกับการรักษาด้วยเคมีบาบัด โรคมะเร็งที่ แตกต่างกันมีการตอบสนองต่อรังสีที่แตกต่างกัน[121][122][123] การรักษาด้วยการฉายรังสีถูกใช้ประมาณครึ่งหนึ่งของทุกกรณีและแหล่งสร้างรังสี อาจมาจากแหล่งภายในร่างกายในรูปแบบของการฝังแร่ (อังกฤษ: brachytherapy) หรือจากแหล่งสร้างรังสีภายนอก การฉายรังสี โดยทั่วไปส่วนใหญ่ใช้รังสีเอกซ์พลังงานต่าสาหรับการรักษามะเร็งผิวหนังในขณะที่ ลาแสงเอ็กซ์เรย์พลังงานสูงจะใช้ในการรักษาโรคมะเร็งภายในร่างกาย[124] รังสีโดย ปกติจะใช้เสริมการผ่าตัดหรือเสริมเคมีบาบัด แต่บางประเภทของโรคมะเร็งเช่น โรคมะเร็งศีรษะและลาคอในระยะเริ่มต้นอาจจะใช้เพียงการฉายรังสีอย่างเดียว [125] สาหรับการแพร่กระจายไปที่กระดูกและสร้างความเจ็บปวดพบว่าการฉายรังสี มีประสิทธิภาพประมาณ 70% ของผู้ป่ วย
  • 22. การดูแลแบบประคับประคอง การดูแลแบบประคับประคองหมายถึงการรักษาที่พยายามที่จะทาให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นและอาจจะ หรืออาจจะไม่สามารถใช้ร่วมกับความพยายามที่จะรักษาโรคมะเร็ง การดูแลแบบประคับประคอง รวมถึงการดาเนินการเพื่อลดความทุกข์ทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางจิตวิญญาณและจิตสังคม ที่ผู้ป่วยต้องเผชิญอันเนื่องมาจากโรคมะเร็ง ซึ่งแตกต่างจากการรักษาที่มีวัตถุประสงค์ที่จะฆ่า เซลล์มะเร็งโดยตรง เป้ าหมายหลักของการดูแลแบบประคับประคองคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิต ของบุคคลนั้น
  • 24. พราะโรคมะเร็งเป็นโรคส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุ มันก็ไม่ได้พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ โรคมะเร็งส่งผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ใน 1,000 คน[168] โรคมะเร็งที่ พบมากที่สุดในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นเช่นเดียวกับโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดที่พบ ในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ในช่วงวัยการคลอดบุตร ได้แก่: มะเร็งเต้านม มะเร็งปาก มดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมน้าเหลือง, มะเร็งรังไข่ และโรคมะเร็งลาไส้ ใหญ่[168] การวินิจฉัยโรคมะเร็งใหม่ในหญิงตั้งครรภ์เป็นเรื่องยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการ บางอย่างปกติจะถือว่าจะเป็นความรู้สึกไม่สบายธรมดาทีีี่ เกี่ยวข้องกับการ ตั้งครรภ์[168] เป็นผลให้เป็นโรคมะเร็งโดยทั่วไปถูกค้นพบในระยะของโรคที่ค่อนข้าง สายกว่าค่าเฉลี่ยในหญิงตั้งครรภ์หลายกรณีหรือเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน บางขั้นตอน ของการถ่ายภาพเช่น MRIs, CT สแกน, ultrasounds และ mammograms (การ เอ็กซ์เรย์เต้านม) ที่มีเครื่องป้ องกันรังสีให้กับทารกในครรภ์จะได้รับการพิจารณาว่า มีความปลอดภัยเมื่อทาการถ่ายภาพในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่บางระบบอื่น ๆ เช่น PET scan ไม่ปลอดภัย . การรักษาโดยทั่วไปจะดาเนินการเช่นเดียวกับผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์[168] อย่างไรก็ตามการฉาย รังสีและยาที่ใช้สารกัมมันตรังสีตามปกติจะมีการหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าปริมาณยาสาหรับทารกในครรภ์อาจเกิน 100 CGY ในบางกรณี บางส่วนของการรักษาหรือ ทั้งหมดจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงหลังคลอดถ้าโรคมะเร็งได้รับการวินิจฉัยในช่วงปลายของการ ตั้งครรภ์ การคลอดที่เร็วขึ้นเพื่อเริ่มต้นการรักษาให้เร็วขึ้นไม่ใช่เป็นสิ่งผิดปกติ การผ่าตัด โดยทั่วไปมีความปลอดภัย แต่การผ่าตัดกระดูกเชิงกรานในช่วงไตรมาสแรกอาจทาให้เกิดการ แท้งบุตร การรักษาบางอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเคมีบาบัดบางอย่างที่ใช้ในช่วงไตรมาสแรก อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดข้อบกพร่องกับการคลอด (อังกฤษ: birth defect) และการ สูญเสียการตั้งครรภ์ (อังกฤษ: pregnancy loss) (การแท้งที่เกิดขึ้นเองและการคลอดแบบ ทารกตายในครรภ์).[168] การเลือกที่จะทาแท้งจะไม่จาเป็นและสาหรับรูปแบบและระยะของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดจะไม่ ช่วยการอยู่รอดของแม่ให้ดีขึ้นหรือได้รับการรักษาจนหายขาด[168] ในไม่กี่กรณี เช่นมะเร็งมดลูก ระยะก้าวหน้า การตั้งครรภ์ไม่สามารถเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และในกรณีอื่น ๆ เช่นโรคมะเร็ง เม็ดเลือดขาวเฉียบพลันที่ถูกค้นพบในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ หญิงที่ตั้งครรภ์อาจเลือกที่จะทา แท้งเพื่อที่เธอจะเริ่มต้นการรักษาด้วยเคมีบาบัดในเชิงรุกโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเกิด ข้อบกพร่องตอนคลอด การตั้งครรภ์ LOREM IPSUM DOLOR SIT AMET, CU USU AGAM INTEGRE IMPEDIT. LOREM IPSUM DOLOR SIT AMET
  • 25. สมาชิก นาย ปกป้ อง วังมณี เลขที่ 5
  • 26. THANK YOUInsert the Sub Title of Your Presentation
  • 27. Fully Editable Shapes Right Atrium Tricuspid Valve Right Ventricle Left Ventricle Left Atrium Aortic Valve Mitral ValvePulmonary Valve Pulmonary Artery Coronary Artery Aorta
  • 29. You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color www.allppt.com FREE PPT TEMPLATES Fully Editable Icon Sets: A
  • 30. You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color www.allppt.com FREE PPT TEMPLATES Fully Editable Icon Sets: B
  • 31. You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color www.allppt.com FREE PPT TEMPLATES Fully Editable Icon Sets: C