โภชนาการ2. สารอาหาร ( NUTRITION )
• หมายถึงสิ่ งที่เป็ นองค์ประกอบพื้นฐานของอาหาร
• แบ่งประเภท ความสามารถในการให้พลังงาน
– สารอาหารที่ให้พลังงาน
• คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
– สารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน
• เกลือแร่ วิตามิน และ น้ า
3. คาร์ โบไฮเดรต ( CARBOHYDRATE )
• เป็ นสารอาหารทีประกอบ
่
• ด้ วยธาตุ C H และ O
• โดยมี อัตราส่ วนระหว่ าง
• H:O =2 : 1
• เป็ นสารอาหารหลักในการ
สลายให้ พลังงานแก่ สิ่งมีชีวต
ิ
4. คาร์ โบไฮเดรต ( CARBOHYDRATE )
• ประเภทคาร์ โบไฮเดรต
– นาตาลโมเลกุลเดียว ( MONOSACCHARIDE )
้ ่
• 3 C นาตาล Triose ( C3H6O3 ) เช่ นนาตาล ฟอสโฟกลีเซอรัลดี
้ ้
ไฮด์
– เป็ นนาตาล ตัวแรกทีได้ จากกระบวนการสั งเคราะห์ แสง
้ ่
• 4 C นาตาล Tetrose ( C4H8O4 ) เช่ นนาตาลอีรีโทส
้ ้
• 5 C นาตาล Pentose ( C5H10O5 ) เช่ นนาตาลไรโบส
้ ้
– ดีออกซิไรโบส ( C5H10O4 ) ซึ่งเป็ นองค์ ประกอบของสารพันธุกรรม
• 6 C นาตาล Hexose ( C6H12O6 ) ได้ แก่กลูโคส ฟรุกโตส และ
้
– กาแลคโตส
7. นาตาลโมเลกุลเดียว ( MONOSACCHARIDE )
้ ่
• พบในองุ่น
• หรือเรียกว่ านาตาลองุ่น
้
กลูโคส • เป็ นนาตาลทีมีมากทีสุด
้ ่ ่
ในธรรมชาติ
สู ตรโมเลกุล C6H12O6 • เป็ นองค์ ประกอบหลักทั้ง
C กลูโคสสามารถ สลายให้ พลังงานได้ แป้ ง ไกลโคเจน และ
D กลูโคสไม่ สามารถสลายให้ พลังงานได้ เซลลูโลส
8. นาตาลโมเลกุลเดียว ( MONOSACCHARIDE )
้ ่
นาตาล กาแลคโตส
้
CH2OH • มักไม่ ค่อยพบเป็ นอิสระ
C O
OH H OH • มักรวมกับกลูโคสเป็ น
C C • นาตาลแลคโตส ซึ่งพบ
้
H H
OH H
• ในนานม้
C C • เป็ นองค์ ประกอบของวุ้น
H OH
• ทีสกัดมาจากสาหร่ ายสี
่
แดง
9. นาตาลโมเลกุลเดียว ( MONOSACCHARIDE )
้ ่
นาตาล ฟรุ กโตส
้
• เป็ นนาตาลทีมรสหวาน
้ ่ ี
มากทีสุด ่
• พบมากในนาผึง ้ ้
• ซึ่งนาผึง มี ฟรุกโตส
้ ้
• เป็ น องค์ ประกอบ 40
%
• ให้ พลังงาน แก่ ตวอสุ จิ
ั
10. โอลิโกแซกคาร์ ไรด์ ( OLIGOSACCHARIDE )
เป็ นนาตาลทีเ่ กิดจากนาตาลโมเลกุลเดียว 2 โมเลกุล
้ ้ ่
รวมกันทางเคมี โดยมีแรง หยึด เหนี่ยวทางเคมี หรือ
มี
พันธะเคมีชนิดทีเ่ รียกว่ า glycoside bond จาก
ปฏิกริยา รวมตัวจะเกิดนา ( H2 O ) ขึนมา 1
ิ ้ ้
โมเลกุล
19. ความสาคัญของคาร์ โบไฮเดรต
• เป็ นแหล่งให้พลังงานแก่สิ่งมีชีวตที่สาคัญ
ิ
ที่สุด โดยเฉพาะกลูโคสเปรี ยบเป็ น energy
pool
• เป็ นอาหารสะสมเช่น แป้ ง และไกลโคเจน
• เป็ นโครงสร้างของสิ่ งมีชีวต เช่น วุน ไคติน
ิ ้
และ เซลลูโลส
21. ไขมัน ( LYPID )
• ไขมันเป็ นสารอาหารหลัก
ที่จาเป็ นต่อการดารงชีวต ิ
ชนิดหนึ่งไขมันเป็ น lypid
ชนิดหนึ่งที่มี สถานะเป็ น
ของแข็งที่อุณหภูมิหอง้
• ส่ วน oil เป็ นไขมันที่เป็ น
ประกอบด้วยธาตุ C H และ O ของเหลวที่อุณหภูมิหอง ้
22. ประเภทของไขมันแบ่งออกเป็ น 3 ประเภท
1. ไขมันธรรมดา ( SIMPLE LYPID )
ได้แก่ ไขมัน ( fat ) น้ ามัน ( Oil ) ไข ( wax )
ประกอบด้วย กลีเซอรอล + fatty acid
2. ไขมันเชิงประกอบ ( COMPOUND LIPID ) เป็ น
ไขมัน ธรรมดามีหมู่ธาตุอื่นเป็ นองค์ประกอบ
3. อนุพนธ์ไขมัน ( DERIVED LIPID ) เกิดจากการ
ั
สลายของไขมันธรรมดา หรื อไขมันเชิงประกอบ
24. โครงสร้างของโมเลกุลของไขมัน
• H
• H - C - O H O H - C = O - R + H2O
• H - C - OH OH-C = O-R + H2O
• H - C - O H O H - C = O - R + H 2O
• H
ไตรกลีเซอไรด์ ( TRIGLYCERIDE
26. ชนิดของไขมัน
• แบ่ง ตามความต้องการของร่ างกาย
• กรดไขมันทีจาเป็ นต่ อร่ างกาย คือกรดไขมันที่
่
ร่ างกายขาดไม่ ได้ มผลต่ อการเจริญเติบโต ของร่ างกาย
ี
และร่ างกายไม่ สามารถสั งเคราะห์ ขนมาได้ ได้ แก่ กรดไล
ึ้
โนเลอิกกรดโนเลอิก ถ้ าขาดมีอาการผิวหนังแตกและติด
เชื้อง่ าย
• กรดไขมันที่ไม่ จาเป็ นจ่ อร่ างกาย คือกรดไขมันที่
ร่ างกายสามารถสั งเคราะห์ ได้
27. ชนิดของไขมัน
• แบ่ งตามระดับความอิมตัว
่
• กรดไขมันที่ไม่ อมตัว หมายถึงกรดไขมันที่ C ใน
ิ่
โมเลกุล จับเกาะอยู่ไม่ เต็มที่ หรือ Bond แบบคู่สามารถที่
จะรับ H เข้ าไปในโมเลกุลได้ อก ี
• กรดไขมันแบบอิมตัว หมายถึงกรดไขมัน ที่ C จับกัน
่
อย่ างเต็มที่ หรือ Bond แบบเดียว โมเลกุล ของ H ไม่
่
สามารถ เข้ าไปจับในโมเลกุลได้
29. B และ C เป็ นกรดไขมันที่ไม่ อมตัว
ิ่
30. ไขมันเชิงประกอบ ( COMPOUND
LIPID)
เป็ นไขมันธรรมดา + ธาตุหมู่อน ๆ แบ่ งเป็ น
่ื
ฟอสโฟไลปิ ด เป็ นไขมันที่มีฟอสเฟต + แอ
ลกอฮอร์ พบ ในเซลล์ เนื้อเยือประสาท
่
ไกลโคไลปิ ด เป็ นไขมันธรรมดา +
คาร์โบไฮเดรต พบมากในเซลล์สมอง เส้นประสาท
ไต ตับ
ไลโพโปรตีน เป็ นไขมันธรรมดา + โปรตีน พบมาก
32. สเตอรอยด์ (STEROID )
• เป็ นอนุพนธ์ ของไขมันมีสูตรโครงสร้างแตกต่างจาก
ั
ไขมัน คือ มี C ของสเตอรอยด์เรี ยงกันเป็ นวง 4 วงและ
อาจมี C ที่เป็ นแขนงออกไปอีก มีความสาคัญต่อ
สิ่ งมีชีวต พบในต่อมต่าง ๆ เช่นต่อมหมวกไต ในอวัยะ
ิ
เพศชายและเพศหญิง สร้างฮอร์โมนที่เป็ นสเตอรอยด์
หลายชนิด รวมทั้งคลอเลสเตอรอล เออร์โกสเตอรอล
เป็ นสเตอรอยด์ที่ร่างกายสังเคราะห์วตามิน D
ิ
33. อนุพนธ์ ไขมัน ( DERIVED LIPID )
ั
• เกิดจากการสลายของไขมันธรรมดา หรื อไขมันเชิง
ประกอบ
• สเตอรอยด์ (STEROID ) เป็ นส่ วนประกอบ ของ
ฮอร์โมนเพศ
• เทอเปน ( TERPENE ) พบในน้ ามันหอมระเหย
จากพืช
34. กรดไขมันที่อิ่มตัวและไม่อิ่มตัว
• กรดไขมันที่อ่ิมตัว • กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว
• กรดคลอริ ค • กรดโอเลอิก
• กรดไมรี สติก • กรดไลโนเลนิก
• กรดปาลมิติก • กรดไลโนเลอิก
• กรดสเตียริ ก • กรดอะราชิโดนิก
35. หน้าที่ของไขมัน
• ป้ องกัน อวัยวะภายใน
• เป็ นโครงสร้างของเยือหุมเซลล์
่ ้
• เป็ นฉนวนป้ องกันความร้อน
• สามารถเปลี่ยนเป็ นวิตามิน D ได้
• เป็ นตัวทาละลายวิตามิน A D E K
• ให้พลังงานมากที่สุด คือ 9 กิโลแคลอรี ต่อ ไขมัน 1 กรัม
• เป็ นส่ วนประกอบของอวัยวะต่าง ๆ เช่นระบบประสาท
ของ สัตว์ ที่ มีกระดูกสันหลัง
37. โปรตีน ( PROTEIN )
่
• โปรตีนเป็ นสารอาหารที่ มีอยูในสิ่ งมีชีวตทั้งพืช
ิ
และสัตว์ มี ความสาคัญในการเสริ มสร้างการ
เจริ ญเติบโตและซ่อมแซมส่ วนต่าง ๆของร่ างกาย
ตลอดจนควบ คุมความเป็ นกรด ด่างในเลือด และ
่
รักษาระดับของเหลวภายในร่ างกาย ให้อยูในภาวะ
ปกติ
• โปรตีน ภาษากรี ก แปลว่า มาเป็ นที่ หนึ่ง
46. ลาดับการเรี ยงตัวกันของกรด อะมิโนทาให้เกิด
โปรตีน 4 แบบ
• เป็ นการเชื่อมต่ อกันของ
โครงสร้ างปฐมภูมิ กรดอะมิโนทีทาให้ เกิด
่
โครงสร้ างเป็ นสายยาว
โครงสร้ างแบบนีของโปรตีน
้
สามารถนามาเป็ นเกณฑ์ ใน
การจาแนกความสาพันธ์ ของ
สิ่ งมีชีวตได้
ิ
• โปรตีนที่มีโครงสร้ างเป็ นสาย
47. ลาดับการเรี ยงตัวกันของกรด อะมิโนทาให้เกิด
โปรตีน 4 แบบ
• เป็ นโครงสร้างที่มีลกษณะเป็ น
ั
โครงสร้ าง
ทุตยภูมิ
ิ เกลียวหรื อลูกคลื่นเนื่องจากแรง
ดึงดูดของพันธะไฮโดเจนภายใน
โพลีเพปไทด์เส้นเดียวกัน
• เช่นแอลฟาเคราตินจากขนแกะ
ไมโอซิ น จากกล้ามเนื้อ
• อิพิเดอร์มิน จากผิวหนัง
48. ลาดับการเรี ยงตัวกันของกรด อะมิโนทาให้เกิด
โปรตีน 4 แบบ
• เป็ นโครงสร้างที่สายโปลีเพป
ไตท์ขดไปมา มีลกษณะกลม
ั
( globular protein )
เนื่องจาก
• มีแรงดึงดูดระหว่างพันธะ
ไฮโดรเจน
โครงสร้ างตติยภูมิ • เช่นไมโอโกลบินในเซลล์
49. ลาดับการเรี ยงตัวกันของกรด อะมิโนทาให้เกิด
โปรตีน 4 แบบ
• เป็ นโครงสร้างที่โปรตีนเกิด
• จากโพลีเพปไตท์มากกว่า 1
เส้น มารวมกลุ่มเป็ นกลุ่มด้วย
แรงแวนเดอร์วาลล์ทาให้
สามารถเปลี่ยนโครงสร้างให้
เหมาะสมกับหน้าที่ของโปรตีน
โครงสร้างจตุรภูมิ เหล่านั้นได้ เช่นฮีโมโกลบิน
50. กรด อะมิโนแบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ
• กรดอะมิโนที่จาเป็ น ( essential amino acids )
• เป็ นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ข้ ึนมาใช้
ต้องได้รับจากอาหาร มี 8 ชนิด
• กรด อะมิโนที่ไม่จาเป็ น ( nonessential amino acids )
• เป็ นกรด อะมิโนที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ มี 11
ชนิด
51. กรดอะมิโนทีจาเป็ นมี 8 ชนิด
่
• ลิวซีน • ฟี นิลอลานีน
• ไอโซลิวซีน • ทริโอนีน
• ไลซีน • ทริปโตเฟน
• เมไธโอนีน • วาลีน
52. หน้ าที่ และความสาคัญของโปรตีน
• เป็ นองค์ประกอบและโครงสร้างของร่ างกาย
• ซ่อมแซมส่ วนที่สึกหรอต่อร่ างกาย
• โปรตีนบางชนิดทาหน้าที่พิเศษเฉพาะ
– เป็ น เอนไซม์ เร่ ง ปฏิกริ ยาในเซลล์สิ่งมีชีวต
ิ
– เป็ นฮอร์โมน เช่น อินซูลิน เอสโทรเจน
– เป็ น Antibody ทาลายสิ่ งแปลกปลอมในร่ างกาย
– เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เช่น โปรตีน actin myosin
53. เกลือแร่ ( mineral )
• ร่ างกายของคนเรา
ประกอบด้วยธาตุ C H O
และ N ประมาณ 96 %
และ อีก
• 4 % เป็ นแร่ ธาตุอื่น ๆ แร่
ธาตุต่าง ๆ เหล่านี้เป็ น
ส่ วนประกอบของอาหาร
56. โปตัสเซียม ( K )
• การหดตัวของกล้ามเนื้อ
• การเกิดกระแสประสาท
• การเต้นของหัวใจ
• ถ้าขาดจะทาให้การ
กระตุนของประสาทช้า
้
ลง หัวใจเต้นช้าลง
57. โซเดียม ( Na )
• รักษาสมดุลของ
ของเหลวภายในเซลล์
• รักษาระดับ pH
• การเกิดกระแสประสาท
• ถ้าขาด จะเป็ นตะคริ ว
• เกลือแกง • กล้ามเนื้อชักกระตุก
58. แมกนีเซียม ( Mg )
• คุมการทางานของ
กล้ามเนื้อประสาท
• ส่ วนประกอบของ
โครงสร้างของกระดูก
• ถ้าขาด กล้ามเนื้อจะชัก
กระตุก เพ้อ สัน ่
ผักใบเขียวทุกชนิด • อาจตายได้( วัยรุ่ นมัก
ขาด)
59. คลอรีน ( Cl )
• เป็ นอิออนประจุลบที่มี
ความสาคัญที่สุดของ
ร่ างกาย
• เป็ นส่ วนประกอบของ
HCL ในกระเพาะอาหาร
• รักษาระดับ pH
• ถ้าขาดจะทาให้อาเจียร
เกลือแกง
60. เหล็ก ( Fe )
• ส่ วนประกอบของ
ฮีโมโกลบิน
่
• 2/3 ของธาตุอยูในเลือด
่
• 1/3 อยูใน ตับ ม้าม
ไขกระดูก
มะเขือพวง ถั่วเหลือง ไข่ แดง ตับ • ถ้าขาดเป็ นโรคโลหิตจาง
61. ไอโอดีน ( I )
• เป็ นส่ วนประกอบ ของ
ฮอร์โมน
• ถ้าขาด
• วัยเด็กจะแคระแกรน
• ผูใหญ่จะเป็ โรคคอพอก
้
อาหารทะเล เกลือสมุทร
62. วิตามิน ( VITAMIN )
• เพราะมีความจาเป็ นต่อร่ างกาย
โดยวิตามินจะมีบทบาทต่อร่ างกาย
ในด้าน
– ช่วยป้ องกันและต้านทานโรค
– เป็ นองค์ประกอบของเอนไซม์
– เป็ นปัจจัยในกระบวนการทาง
เป็ นสารอินทรีย์ทร่างกาย
ี่ สรี ระ เช่นวิตามิน D เกี่ยวข้อง
ต้ องการน้ อยมากแต่ ขาดไม่ ได้ กับการดูดซึมของ Ca+
63. ประเภทของวิตามิน
• วิตามินที่ละลายในน้า • วิตามินที่ละลายในไขมัน
• ได้ แก่ วตามิน B C F
ิ • ได้แก่วตามิน A D E K
ิ
• Carnitine , Biotin • สะสมในร่ างกายถ้ามี
• ไม่ สะสมในร่ างกายถ้ ามี มากจะเป็ นผลเสี ยต่อ
มากร่ างกายจะขับออก ร่ างกาย
ทางปัสสาวะ
64. วิตามิน A ( Retinol )
• ช่ วยการมองเห็น
• เยือบุอวัยวะต่ าง ๆทางาน
่
เป็ นปกติ
• ถ้ าขาด เป็ นโรค
• ตาบอดกลางคืน
ผักผลไม้สีเหลือง
• ผิวหนังแห้ ง เป็ นตุ่ม
น้ ามันตับปลา นม ไข่แดง
65. วิตามิน D ( CALCIFERAL )
• ช่วยดูดซึ ม Ca , P จาก
ลาไส้
• การกระชับของ Ca , P
ของกระดูก
• ถ้าขาด เด็ก จะกระดูกอ่อน
นามันตับปลา ไข่ แ ดง นม เนย • ผูใหญ่ จะฟันผุ
้ ้
66. วิตามิน E
• ทาให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง
• ทาให้ป้องกันการ เป็ นหมัน
ในสัตว์ตวผู้
ั
• ถ้าขาด จะเป็ นโรคโลหิ ต
จางชนิดเม็ดเลือดแดงแตก
ง่าย เป็ น หมันในสัตว์ตวผู ้
ั
น้ ามันพืช ถัว
่
67. วิตามิน K
• สร้างโปรตีนที่เกี่ยวกับ
การแข็งตัวของเลือดคือ
โปรทรอมบิน
• ถ้าขาดเลือดจะออกง่าย
และไม่แข็งตัว
เห็ด ข้ าวโพด
68. วิตามิน B 1
• เป็ นส่ วนประกอบของโค
เอนไซม์ในกระบวนการ
หายใจระดับเซลล์
• ถ้าขาด เป็ นโรคเหน็บชา
• ประสาทผิดปกติ
• อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
ข้ าวซ้ อมมือ ถัวเหลือง นม ยีสต์ เนือหมู
่ ้
69. วิตามิน บี 2
• เป็ นส่ วนประกอบของ
โคเอนไซม์ FAD
• ถ้าขาด เป็ นโรค
• ปากนกกระจอก
• ตาสู ้แสงไม่ได้
ตับ เนือสั ตว์ ผักใบเขียว ไข่ นม
้ • ผิวหนังแตก
70. สรุปเกียวกับวิตามิน
่
• วิตามินที่ร่างกาย
ต้ องการมากทีสุดคือ
่
วิตามิน C
• ส่ วนวิตามินที่ต้อง
การน้ อย ที่ สุ ดคือ
วิตามิน D
71. สรุปเกียวกับวิตามิน
่
• วิตามินที่ร่างกายสังเคราะห์ได้
เองโดยตรง คือ วิตามิน C
สร้างได้จากตับ และต่อม
หมวกไตชั้นนอก
• วิตามิน D สร้างจากสารคลอ
่ ิ
เลสเตอรอล ที่อยูใต้ผวหนังเมื่อ
ได้รับแสง อุลตราไวโอเลต
72. สรุปเกียวกับวิตามิน
่
• วิตามินที่สงเคราะห์ได้
ั
จากแบคทีเรี ยลาไส้ใหญ่
คือ B12 K
• วิตามินที่ทาหน้าที่
เกี่ยวกับเม็ดเลือดแดง
คือ B6 B12 และ E
73. เอกสารอ้างอิง
• ชีว วิทยา เล่มที่ 1
เชาวน์ ชิโนรักษ์ พรรณี ชีโนรักษ์
ภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
• ชีว วิทยาของร่ างกาย
ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ กนกธร ปิ ยะ
ธารงรัตน์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะ
วิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อันดับ
1 / 2542
74. เอกสารอ้างอิง
• BIOCONCEPT
Department of Zoo logy Faculty of
Science Kasetsart University
• ชีววิทยา 1
• ปรีชา - นงลักษณ์ สุ วรรณพินิจ
• สานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
• หนังสื อแบบเรียนชีววิทยา ว041
ของกระทรวงศึกษาธิการ