SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
คำาพิพากษา                                           (ต. ๒๒)
  (อุทธรณ์)

                                    คดีห มายเลขดำา ที่ อ.
                                    ๗๓๖/๒๕๔๙
                                 ในพระปรมาภิไ ธยพระ ่ อ.
                                    คดีห มายเลขแดงที
มหากษัต ริย ์
                                                        ศาล
ปกครองสูง สุด
                                       วันที่   ๓    เดือน
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
          นางอุเลียน ขันอุด                           ผู้ฟ้องคดี
          ทา
ระหว่
าง
           ผู้อำานวยการโรงพยาบาลนาดี ที่ ๑
           ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒
           นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด                   ผู้ถูกฟ้อง
           ปราจีนบุรี ที่ ๓                                  คดี
เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำาสั่งโดยไม่
ชอบด้วยกฎหมาย
      (อุทธรณ์คำาพิพากษา)

       ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ยื่นอุทธรณ์คำาพิพากษา ในคดี
หมายเลขดำาที่ ๑๙๘๘/๒๕๔๕
2

หมายเลขแดงที่ ๑๑๙๔/๒๕๔๙ ของศาลปกครองชันต้น (ศาล                ้
ปกครองกลาง)
              คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง
พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน
สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ แต่ง
                        ี
ตังให้ผฟองคดีดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล กลุมงานการ
  ้      ู้ ้                                            ่
พยาบาล สังกัดโรงพยาบาลนาดี ต่อมา ผูถกฟ้องคดีที่ ๑
                                              ้ ู
ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดี                                               /ไปปฏิบัติ...
ไปปฏิบัติงานตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึงเป็นผู้ใต้บังคับ
                                                       ่
บัญชาของหัวหน้าและ
รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล อันเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง
การปฏิบัติงานและลดชั้น
การใช้ความรู้ความสามารถของผู้ฟ้องคดี และเป็นการไม่ถูก
ต้อง เนื่องจากอำานาจในการบริหารงานบุคคลเป็นอำานาจของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องทุกข์ตอ    ่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมา เมื่อ
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน
ในตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอกเช่นเดิม แต่ได้ลดทอนหน้าที่
                              ้ ่
ความรับผิดชอบลง โดยแยก
งานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ออกจากงานใน
ความรับผิดชอบของหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ กลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เช่น การไม่ให้ผู้ฟ้องคดีได้รับ
การพิจารณาเลือนขันเงินเดือน การกล่าวหาว่าผูฟองคดีละทิง
                      ่   ้                                ้ ้          ้
หน้าทีทำาให้ผฟองคดีถกดูหมิน เกลียดชัง และขาดโอกาสใน
       ่         ู้ ้       ู     ่
การสร้างประโยชน์ให้แก่ทางราชการ
3

            ขอให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ทีให้ผฟองคดีไปปฏิบตงานใน
                                 ่   ู้ ้           ั ิ
ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก และคำาสังผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
                        ้ ่                ่ ้ ู
๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
งานในตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
มีคำาสััั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
            ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามให้การว่า เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มี
คำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ มอบหมายให้ผฟองคดีไปปฏิบตงาน
                                              ู้ ้          ั ิ
ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก ผู้ฟ้องคดีได้ขอความเป็นธรรมต่อ
                         ้ ่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีหนังสือแจ้งให้
สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง
แล้วปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ
ผิดชอบของผู้ฟ้องคดีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
ในการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลนาดี เพื่อให้การ
ดำาเนินงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
ทำาให้การดำาเนินการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขบรรลุ
วัตถุประสงค์ ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ
                  ้ ู
ของผู้ฟ้องคดีโดยมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็น
การกลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เห็นสมควรยุติเรื่อง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒
เห็นชอบตามที่เสนอ
สำาหรับการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีในระหว่างเดือนธันวาคมบ...
                                                        /ทำาให้พ
๒๕๔๓ ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๔๔ นั้น ผู้ฟ้องคดีรับผิดชอบฝ่าย
บริหารคุณภาพมีหน้าที่จัดตั้งและดำารงไว้ซึ่งการพัฒนา
ด้านคุณภาพองค์กร แต่ผลการดำาเนินการพัฒนาคุณภาพดัง
กล่าวกลับไม่มีความก้าวหน้า ทำาให้พบปัญหามากมาย เมื่อผู้
ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ
และเปลี่ยนตัวผู้แทนดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๔ ถึง
เดือนมิถุนายน ๒๕๔๕
4

ก็สามารถพัฒนาคุณภาพทุกระบบในโรงพยาบาลได้ ส่วนการที่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ไม่มอบหมายหน้าทีงานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ให้ผู้
                        ่
ฟ้องคดีนน เนืองจากได้รบ
            ั้      ่        ั
การร้องเรียนจากผู้รับบริการ และได้มีการเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างภายในโรงพยาบาลชุมชนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อ
ผู้รับบริการและหน่วยงาน และเพื่อตอบสนองนโยบายของ
กระทรวงสาธารณสุข สำาหรับการพิจารณาความดีความชอบ
เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๔ นั้น คณะกรรมการพิจารณาความดี
ความชอบของข้าราชการและลูกจ้างประจำาปีงบประมาณ ๒๕๔๕
ได้ดำาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธการทีกำาหนดในกฎ ก.พ.
                                       ี     ่
แล้ว และทีผฟองคดีอางว่าป่วยเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ นั้น
               ่ ู้ ้     ้
ในวันดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มีการเจ็บป่วยจริง แต่ละเลยต่อ
การปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทาง
ราชการ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ พิจารณาดำาเนิน
การโดยแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ส่วน
กรณีที่ผู้ฟ้องคดีขอกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
นั้น ปัจจุบันผู้ฟ้องคดี
ยังดำารงตำาแหน่งดังกล่าวมิได้มีการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด
               ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำาให้การว่า คำาสั่งโรงพยาบาลนาดี
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งที่มิชอบ
ด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นคำาสั่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่ง
และหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อันเป็นอำานาจเฉพาะของ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้ฟ้องคดี
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง กรณีได้รับมอบหมาย
ให้เป็นผูแทนฝ่ายบริหารคุณภาพอันเป็นนโยบายของกระทรวง
          ้
สาธารณสุขนัน ไม่เป็นความจริง เพราะกระทรวงสาธารณสุข
                      ้
ไม่มีนโยบายให้โรงพยาบาลชุมชนต้องทำาเป็นมาตรฐาน ISO




                                             /ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑...
5

แต่มีแนวทางในการนำาระบบคุณภาพมาใช้ในโรงพยาบาล และ
มีการสนับสนุน
ให้โรงพยาบาลทุกแห่งดำาเนินการพัฒนาคุณภาพสู่ HA
(Hospital Accreditation) โดยให้สถาบันพัฒนาและรับรอง
คุณภาพโรงพยาบาลเป็นผู้ดำาเนินการ และที่อ้างว่าผู้ฟ้องคดี
บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอกนั้น ผู้ฟ้อง
คดีมีความเหมาะสมกับตำาแหน่งดังกล่าวมากกว่าผู้อื่น ประกอบ
กับโรงพยาบาลนาดียังมีปัญหาต่างๆ มากมาย
แม้โรงพยาบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแต่ลักษณะงาน
โดยทั่วไปยังคงเหมือนเดิม ส่วนที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้
ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นั้น ก็เป็นแต่เพียง
ในกรอบตำาแหน่งตามบัญชี
ถือจ่ายเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งการดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล
จะต้องพิจารณางาน
ในตำาแหน่งที่ปฏิบัติด้วย เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้ผู้ฟ้องคดีทำา
หน้าที่คอยเรียกและจัดลำาดับคนไข้เข้าห้องตรวจเท่านั้น ย่อม
เป็นการลดระดับความรู้และความสามารถ และไม่เป็นธรรมต่อผู้
ฟ้องคดี
           ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การเพิ่มเติมว่า คำาสั่งโรง
พยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งโรงพยาบาลนาดี ที่
๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ เป็นคำาสั่งที่ชอบแล้ว
เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน
มีความรับผิดชอบต่องานทุกด้าน ทั้งการควบคุม กำากับ การ
บริหารงานภายในโรงพยาบาลตามนโยบายและวัตถุประสงค์
ของกระทรวงสาธารณสุข การปรับเปลี่ยนหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีมี
เหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าว
หาแต่อย่างใด
และกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในปีงบประมาณ ๒๕๔๕ ให้
6

สถานบริการ
กระทรวงสาธารณสุขผ่านการรับรองคุณภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง
โดยไม่ได้ระบุว่า
เป็นการรับรองคุณภาพแบบใด เนื่องจากโรงพยาบาลในจังหวัด
ปราจีนบุรีดำาเนินการ
ประกันคุณภาพจนได้รับการรับรองจากสถาบันที่ได้มาตรฐาน
เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลชุมชนแห่งอืน โรง        ่
พยาบาลนาดีจงเลือกทำาระบบคุณภาพ ISO ๙๐๐๑ : ๒๐๐๐ แต่
                     ึ
เนื่องจากการดำาเนินการไม่มีความก้าวหน้า จึงมีการเปลี่ยนผู้
แทนบริหารคุณภาพ
จากผู้ฟ้องคดีเป็นบุคคลอื่น ส่วนกรณีการพิจารณาความดีความ
ชอบของข้าราชการ
ได้ดำาเนินการตามวิธีการและหลักเกณฑ์ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วย
การเลื่อนขั้นเงินเดือน
พ.ศ. ๒๕๔๔ และการที่ผู้ฟ้องคดีลาป่วยโดยไม่มีการเสนอให้ผู้
บังคับบัญชามีความเห็นตามลำาดับ เป็นการไม่ปฏิบัติตาม
ระเบียบของทางราชการ จึงถือว่าเป็นการขาดราชการ
โดยไม่มเหตุอนสมควร ส่วนกรณีการดำารงตำาแหน่งตามคำาสัง
          ี        ั                                             ่
จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นัน             ้
เพือประโยชน์ของทางราชการ ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่จำาเป็นต้องให้
    ่                                   ้ ู
เจ้าหน้าทีปฏิบตงานควบคูไปกับตำาแหน่งตามกรอบตำาแหน่ง จ. ๑๘
            ่     ั ิ       ่
ตามระเบียบของทางราชการ
              ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ไม่ทำาคำา
ให้การเพิ่มเติม
              ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็น
ต้องวินิจฉัยว่าคำาสั่ง
ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔
และคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕
ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่     แต่งตั้
                                     งและมอบหมายให้ผู้ ฟ้องคดีปฏิบัติ
หน้าทีหัวหน้างานผูป่วยนอก
      ่                ้                       /ชอบด้วยกฎหมาย...
7

ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คดีนผถกฟ้องคดีที่ ๒ อาศัยอำานาจตาม
                                ี้ ู้ ู
มาตรา ๕๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕
ออกคำาสั่งที่ ๒๖๕/๒๕๔๑
ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ย้ายผูฟองคดีจากตำาแหน่งพยาบาล
                                      ้ ้
วิชาชีพ ๗ (ด้านการพยาบาล)
งานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ กลุ่มงานการพยาบาล ไปดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) กลุ่มงานการ
พยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้ง
จ่ายตั้งแต่วันออกคำาสั่ง ผู้ฟ้องคดีจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งดังกล่าว ต่อมา ผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดีมีคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่งตั้งผู้ฟ้องคดีให้รับผิดชอบการ
ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก โดยไม่ได้ระบุเลขที่
ตำาแหน่งไว้ในคำาสั่ง ซึงตำาแหน่งดังกล่าวเป็นตำาแหน่งเลขที่
                          ่
๑๖๙๗๓ มีข้าราชการตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๖ (ด้านการ
พยาบาล) ดำารงตำาแหน่งอยู่ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตังให้้
ข้าราชการรายอื่น ตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ (ด้านการ
พยาบาล) มาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้
ฟ้องคดี และแต่งตั้งพยาบาลวิชาชีพ ๗ อีก ๒ คน ให้ทำาหน้าที่
รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
ซึงตำาแหน่งรองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลไม่มีกำาหนดไว้ใน
  ่
กรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดีแต่อย่างใด การที่ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ จึงเป็นการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นการ
เฉพาะคราวตามความจำาเป็น และตามอำานาจการปกครองบังคับ
บัญชาที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอยู่ เมื่อหมดความจำาเป็นแล้วผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ต้องสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับ
การแต่งตั้งจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ ได้ยกเลิกคำาสั่งดังกล่าวเพื่อให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่
8

ในตำาแหน่งทีได้รับแต่งตั้ง ซึงเท่ากับเป็นการออกคำาสั่งย้ายผู้
              ่                 ่
ฟ้องคดีออกจากตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลไปแต่งตั้งให้ปฏิบัติ
หน้าที่ในตำาแหน่งอื่น
ซึงอำานาจในการบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการโรงพยาบาล
  ่
นาดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัดสำานักงานสาธารณสุข
จังหวัดปราจีนบุรี อันเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคเป็นอำานาจ
ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระ
ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๒ ไม่ได้มอบอำานาจให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปฏิบัติ
ราชการแทนตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลง
วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงไม่มอำานาจออกคำาสัง
                              ้                  ี            ่
แต่งตังผูฟ้องคดีให้ไปปฏิบตหน้าทีหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และคำาสั่ง
       ้ ้                ั ิ     ่
ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔

ยังเป็นการมอบหมายงานให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติไม่ตรงตาม
ตำาแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย คำาสั่งของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ต่อมา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม
๒๕๔๕ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้
ลดงานบางส่วนลง ซึ่งเป็นการมอบหมายงานให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานโดยไม่ตรงตามตำาแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเช่น
เดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ คำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
๗๖/๒๕๔๔ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
            ศาลปกครองชันต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสังของผูถูก
                         ้                           ่   ้
ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่ง
ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่แต่งตั้งและมอบ
หมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานในตำาแหน่ง
หัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑



                                                 /ยังเป็นการ...
9

ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่
สุด
            ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อุทธรณ์ว่า คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งมอบหมายงานภายในให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หวหน้างานผูปวยนอก ไม่ใช่เป็นการบรรจุ
                           ั          ้ ่
แต่งตังและย้ายข้าราชการ อีกทังเป็นงานเฉพาะคราวตามความ
       ้                          ้
จำาเป็นและตามอำานาจปกครองบังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑
เมื่อหมดความจำาเป็นอาจปรับเปลี่ยนหน้าที่เพื่อประโยชน์ของ
ทางราชการต่อไป จึงถือว่าเป็นคำาสั่งมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่
ภายในและเป็นคำาสั่งภายในโรงพยาบาลนาดี
ซึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้รับมอบอำานาจให้เป็นผู้บังคับบัญชา
   ่
ข้าราชการและลูกจ้างในฐานะผูอำานวยการกอง ตามข้อ ๑.๒.๒
                                    ้
ของคำาสังสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗
         ่
ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ประกอบกับหนังสือสำานักงาน
ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๑/๒๒๗
ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เรื่อง การมอบหมายให้
ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจในการแต่งตังหรือมอบหมายหน้าที่
                                            ้
ความรับผิดชอบให้ขาราชการและลูกจ้างประจำาทีอยูในบังคับ
                      ้                            ่ ่
บัญชาทำาหน้าทีหวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่างๆ
                  ่ ั        ่
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการในโรงพยาบาลได้ ผู้ถูกฟ้อ/ทัดที่ ยม...
                                                         งคดีเที๑
มิได้มีเจตนาไม่สุจริตหรือ
เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด และการที่ผู้ฟ้องคดีได้รับมอบหมายให้
เป็นผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ แต่ปรากฏว่าผลการดำาเนินงาน
ไม่มีความก้าวหน้า ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งดัง
กล่าว ซึ่งเมือเปลี่ยนผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพก็สามารถพัฒนา
             ่
คุณภาพระบบ
ในโรงพยาบาลนาดี โดยได้รับการประเมินและผ่านการประเมิน
10

เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๕ ทัดเทียมโรงพยาบาลอื่น และการที่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ฟ้อง
คดีก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหารจัดการ
ภายในโรงพยาบาลนาดี และการปรับเปลี่ยนหน้าที่ดังกล่าวเพื่อ
ให้สอดคล้องกับนโยบายใช้คนให้เหมาะสมกับงาน
จึงไม่จำาเป็นต้องใช้อำานาจของผู้มีอำานาจบรรจุแต่งตั้งตาม
มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจ
ที่จะมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก
โรงพยาบาลนาดีได้ ตามที่
ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่ศาล
ปกครองชั้นต้นวินิจฉัยให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำา
สังจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
  ่
นัน ขออุทธรณ์ว่า ปัจจุบันผู้ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งหัวหน้า
    ้
พยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗
ด้านการพยาบาล) ตามเดิมมิได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งโยก
ย้ายแต่ประการใด
และที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้างานผู้ป่วยนอกไม่ถือว่าเป็นการลดระดับความรู้ ความ
สามารถ และไม่เป็นธรรมประการใด และเมื่อเป็นการปรับ
เปลี่ยนหน้าที่ภายในหน่วยงาน จึงไม่จำาเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่
ปฏิบัติควบคู่ไปกับตำาแหน่งตามกรอบตำาแหน่ง ตาม จ.๑๘ ตาม
ระเบียบของทางราชการแต่อย่างใด
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจอันชอบด้วยกฎหมายที่จะบริหาร
ราชการภายในองค์กรของ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ สำาหรับคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
หน้าที่เช่นเดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโรง
พยาบาลชุมชน โดยแยกงานอุบัติเหตุฉุกเฉินออกจากงานผู้
11

ป่วยนอก ส่วนงานภารกิจอื่น ๆ ด้านการพยาบาลไม่ได้กำาหนด
หลักเกณฑ์ตายตัว แต่อยู่ในดุลพินิจของแต่ละโรงพยาบาลที่จะ
จัดโครงสร้างให้เหมาะสม โรงพยาบาลนาดีจึงรวมงาน
ประชาสัมพันธ์ งานห้องบริการ ห้องบัตร
งานตรวจสอบสิทธิและการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ
ของผู้รับบริการเข้าด้วยกัน
ซึงโครงสร้างดังกล่าวไม่ขัดกับโครงสร้างที่กระทรวง
   ่
สาธารณสุขกำาหนดแต่อย่างใด
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่ตามคำา
สั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวัน
ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้
บังคับบัญชา ประกอบกับหนังสือสำานักงาน ก.พ. ที่ นร
๑๐๐๑/๒๒๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ คำาสั่งของผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงมิใช่
การบรรจุและแต่งตั้งตามนัยมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่ง
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่
อย่างใด ทั้งนี้ โดยคำานึงถึงเหตุผลความจำาเป็น
เพือประโยชน์ของทางราชการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวมา คำาสังของผู้
     ่                                                     ่
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และ
คำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงชอบด้วย
กฎหมายแล้ว หากให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า
พยาบาลจะก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่ทางราชการได้
            ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำาพิพากษา
ของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง
            ผู้ฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า ในการปฏิบัติราชการจะมีกฎ
ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ฯลฯ ที่ข้าราชการจะต้องประพฤติ
ปฏิบัติตาม การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างคำาสั่งสำานักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม
๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชาว่าผู้


                                              /ข้าราชการ...


                                                      /แต่...
12

ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจแต่งตั้งหรือ
มอบหมายหน้าทีความรับผิดชอบให้ขาราชการ ลูกจ้างทีอยูในบังคับ
                  ่                  ้               ่ ่
บัญชาทำาหน้าที่
หัวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่าง ๆ เพือปฏิบตหน้าที่
            ่                                   ่      ั ิ
ราชการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เห็นว่าไม่
จำาเป็นที่ต้องให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบตำาแหน่ง
ตาม จ. ๑๘ ตามระเบียบของทางราชการนั้น การกระทำาของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าว
จึงเป็นการกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้าง
ว่าคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑
ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นการมอบหมายงานเป็นการภายใน
ไม่ใช่การบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการ อีกทั้งเป็นงานเฉพาะ
คราวตามความจำาเป็นก็เป็น
ข้อกล่าวอ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะงานผู้ป่วยนอกเป็นภารกิจหลัก
ของทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่
งานชั่วครั้งชั่วคราวหรืองานตามโครงการแต่อย่างใด ประกอบ
กับคำาสั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗
ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเพือให้การ
                                                   ่
ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้าง และการรับผิดชอบ
ในการปฏิบตราชการของหน่วยงานในสังกัดสำานักงานปลัด
              ั ิ
กระทรวงสาธารณสุข เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ จึงต้องมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้าพยาบาลตามเดิม จึงจะชอบด้วยกฎหมาย และที่ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ อ้างว่า โรงพยาบาลนาดีได้ผ่านการประเมินการ
พัฒนาคุณภาพ HA จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ
โครงการก็เป็นการให้ข้อมูล
ที่เป็นเท็จ เพราะตามข้อเท็จจริงโรงพยาบาลในจังหวัด
ปราจีนบุรียังไม่ผ่านการประเมิน HA แม้แต่แห่งเดียว เนืองจาก ่
การทีจะผ่านการประเมินดังกล่าวจะต้องได้รบการประเมินผ่านขัน
       ่                                    ั                ้
ที่ ๓ แต่โรงพยาบาลนาดีผ่านเพียงขั้นที่ ๑ และกำาลังอยู่ใน
13

ระหว่างการประเมินขั้นที่ ๒ เท่านั้น การใช้ดุลพินิจของผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ จึงมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการตามที่
กล่าวอ้างแต่อย่างใด
           ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำา
พิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น

              ศาลปกครองสูงสุดออกนังพิจารณาคดี โดยได้รบฟัง
                                        ่                   ั
สรุปข้อเท็จจริงของ
ตุลาการเจ้าของสำานวน และคำาชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำาแถลง
การณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี
              ศาลปกครองสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมด
ในสำานวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง
ประกอบแล้ว
              ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง
พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน
สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรีที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
เรื่อง ย้ายข้าราชการ
โดยให้ผฟองคดีไปดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาล
           ู้ ้
วิชาชีพ ๗) กลุมงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและ
                   ่
อัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้งจ่าย ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
โรงพยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน
ในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานในโรง
พยาบาลนาดีเป็นไปด้วย
ความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือ
ลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๕ ร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๒ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง
การปฏิบตงานและลดขันตำาแหน่งผูฟ้องคดีจากหัวหน้าฝ่ายเป็น
          ั ิ            ้            ้
หัวหน้างาน อันเป็นการกลันแกล้งผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มี
                             ่




                                                      /ลงวันที่...
14

หนังสือลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๔๕ แจ้งผู้ฟ้องคดีว่า
ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียนแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า
ข้อกล่าวหาดังกล่าว
เกิดความคลาดเคลื่อน เนื่องจากผู้บริหารโรงพยาบาลนาดี ได้
ปรับเปลี่ยนหน้าที่
ความรับผิดชอบเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหาร
จัดการภายในโรงพยาบาลนาดี การปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ
ผิดชอบมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง
ตามข้อกล่าวหาแต่ประการใด ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
โรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ให้
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการโรงพยาบาลนาดี โดยให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคำา
สั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕
ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็น
คำาสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ซึงเป็น
                                                         ่
อำานาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยเฉพาะ จึงขอให้
เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ทั้งสองคำาสั่งดังกล่าว และให้ผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่งให้
ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามเดิม
             ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็น
ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ว่า คำาสั่งผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่
แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เป็นคำา
สั่งทีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
      ่
             พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระ
ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติให้การ
บรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและการแต่ง




                                                   /ที่เกี่ยวกับ...
15

ตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ให้ผู้มีอำานาจดังต่อไปนี้เป็นผู้สั่งบรรจุและ
แต่งตั้ง
(๗) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ ๗ ลงมา
ในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ซึงมิใช่หัวหน้าส่วนราชการ
                                   ่
ประจำาจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้บังคับบัญชา
เป็นผู้มีอำานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และคำาสั่งสำานักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุข
ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบ
หมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา กำาหนดว่า ข้อ ๑ ให้
บุคคลผู้ดำารงตำาแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
และลูกจ้างในฐานะผู้อำานวยการกอง คือ ๑.๒ ราชการบริหาร
ส่วนภูมิภาค
๑.๒.๒ ผู้อำานวยการโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน
ขนาด ๓๐ เตียงขึ้นไป ข้อ ๓ การเป็นผู้บังคับบัญชาตามคำาสั่งนี้
หมายความเฉพาะการบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างของ
หน่วยงานหรือที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานซึ่งตนเป็นผู้อำานวยการ
หรือหัวหน้าของหน่วยงานนั้น ประกอบกับคำาสั่งจังหวัด
ปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ เรื่อง
การมอบอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการ
จังหวัด
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและนายอำาเภอ ปฏิบัติ
ราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า ข้อ ๒ มอบอำานาจให้
รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด
และนายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้
                     ั ิ
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการ
อนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น
๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสั่งนี้ไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ
ซึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
   ่
ราชการจังหวัด ได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล
ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ
16

การพิจารณาโทษทางวินัย และคำาสังจังหวัดปราจีนบุรที่
                                       ่                    ี
๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เรือง การมอบ     ่
อำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัด
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด
และนายอำาเภอปฏิบัติราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า
ข้อ ๒ มอบอำานาจให้
รองผูวาราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและ
          ้ ่
นายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้หัวหน้า
                   ั ิ
ส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการอนุญาต การ
อนุมติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น ข้อ ๓ เพื่อ
       ั
ให้การปฏิบัติราชการ
ตามคำาสั่งมอบอำานาจบังเกิดผลดี และบรรลุวัตถุประสงค์ที่วาง
ไว้ให้ถือปฏิบัติ
ดังนี้ ๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสังนีไม่รวมถึงการปฏิบตราชการ
                                    ่ ้                       ั ิ
ซึงผูวาราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
    ่ ้ ่
ราชการจังหวัดได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล
ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ
การพิจารณาโทษทางวินัย
              ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรี
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ให้ผู้ฟ้องคดีไปดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) (ด้านการ
พยาบาล) กลุ่มงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตรา
เงินเดือน ต่อมา ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ ซึงเป็นผูบงคับบัญชาผูฟ้องคดีมคำา
                       ้             ่      ้ ั           ้         ี
สังโรงพยาบาลนาดี
  ่
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
หน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึ่งตำาแหน่งดังกล่าวมีข้าราชการ
ระดับ ๖ ถือครองอยู่ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็น
ไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล และผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตั้งให้ข้าราชการระดับ ๗ รายอื่นมาปฏิบัติ




                                                      /และคำาสั่ง...
17

หน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้ฟ้องคดี
และให้ข้าราชการระดับ ๗ อีก ๒ คนทำาหน้าที่รองหัวหน้ากลุ่ม
งานการพยาบาล ซึ่งตำาแหน่งรองหัวหน้าดังกล่าวไม่มีกำาหนด
ไว้ในกรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดี และต่อมา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลง
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้ลด
บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบลง เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ
ว่า โรงพยาบาลนาดีเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัด
สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ซึงเป็นราชการส่วนภูมภาค
                                             ่              ิ
อำานาจในการบรรจุและแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ
                                ้
๗ ลงมา จึงเป็นอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒
ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ และคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่
๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ทีมอบอำานาจให้    ่
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งอนุญาต
การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ
หรือการดำาเนินการอื่น โดยไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ ซึงผู้     ่
ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
ราชการจังหวัดได้แก่ ข้อ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคลที่เกี่ยว
กับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และการ
พิจารณาโทษทางวินัย ดังนัน การทีผถกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสังที่
                                  ้   ่ ู้ ู              ่
๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผฟองคดีปฏิบัติหน้าที่
                                               ู้ ้
หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานของโรงพยาบาล
นาดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างภายในโรง
พยาบาลนาดีมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในหน่วย
งานตามความจำาเป็นและตามอำานาจบังคับบัญชาทีมอยู่ อย่างไร
                                                      ่ ี
18

ก็ตาม แม้การมอบหมายให้เจ้าหน้าทีปฏิบตหน้าทีเป็นการเฉพาะ
                                           ่ ั ิ               ่
ตามความจำาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ เป็นอำานาจ
ของผู้บังคับบัญชาที่จะกำาหนดได้ แต่การมอบหมายงานดัง
กล่าวจะต้องมีความเหมาะสม
มีเหตุผล และมีกำาหนดระยะเวลาตามสมควร เมื่อข้อเท็จจริง
ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
มีคำาสั่งให้ผู้ฟ้องคดีไปปฏิบัติหน้าที่ในตำาแหน่งที่ตำ่ากว่า
ตำาแหน่งที่ครองอยู่ โดยมิได้กำาหนดระยะเวลาในการปฏิบัติ
หน้าที่ไว้ และให้บุคคลอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ฟ้องคดี ย่อม
แสดงให้เห็นว่าผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ประสงค์จะให้ผฟองคดีดำารง
                    ้ ู                                     ู้ ้
ตำาแหน่งตามคำาสังจังหวัดปราจีนบุรี
                     ่
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ อีกต่อไป กรณีจึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
แต่งตั้ง (ย้าย) ผู้ฟ้องคดี คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึง
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่มีอำานาจ
บรรจุแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตังแต่ระดับ ๗ ลงมา ตาม
              ้                          ้
มาตรา ๕๒ วรรคหนึง (๗) แห่งพระราชบัญญัตระเบียบ
                        ่                                 ิ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบคำาสังจังหวัด        ่
ปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒
อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
จึงฟังไม่ขึ้น และการที่ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งที่
๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ แต่งตังเจ้าหน้าทีระดับ  ้              ่
ปฏิบตการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าที่
      ั ิ                                        ู้ ้            ั ิ
หัวหน้างานผูปวยนอกตามคำาสังเดิมทีไม่ชอบด้วยกฎหมายนัน คำา
                ้ ่              ่     ่                             ้
สังของผูถกฟ้องคดีที่ ๑
  ่       ้ ู
ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่
ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ประเด็นนี้จึงฟังไม่ขึ้น ด้วยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมา
ทีศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่
    ่
๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่
๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕


                                                          /ที่แต่งตั้ง...
19

ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ทีแต่งตังและมอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าทีหวหน้างานผูปวย
  ่     ้                ู้ ้     ั ิ       ่ ั     ้ ่
นอก และให้ผถกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตงาน
               ู้ ู                   ู้ ้      ั ิ
ในตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสังของผูถกฟ้องคดีที่ ๒ ที่
                                ่       ้ ู
๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่
วันทีคดีถงทีสดนัน ชอบแล้ว
     ่    ึ ่ ุ ้
         พิพากษายืน

นายนพดล เฮงเจริญ
ตุลาการเจ้าของสำานวน
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายพีระพล เชาวน์ศิริ
ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด

นายไพบูลย์ เสียงก้อง
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด


                           ตุลาการผู้แถลงคดี : นายประนัย
                                             วณิชชานนท์




                                วันที่อ่าน ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
                                                นาลิณี : ผู้พิมพ์

More Related Content

Viewers also liked

Viewers also liked (18)

สรุปรายงานการศึกษาดูงานฉือจี้
สรุปรายงานการศึกษาดูงานฉือจี้สรุปรายงานการศึกษาดูงานฉือจี้
สรุปรายงานการศึกษาดูงานฉือจี้
 
3.แนวทางตามระเบียบค่าตอบแทน1 ot
3.แนวทางตามระเบียบค่าตอบแทน1 ot3.แนวทางตามระเบียบค่าตอบแทน1 ot
3.แนวทางตามระเบียบค่าตอบแทน1 ot
 
8 แผนกลยุทธ์การบริหารบุคคล(พยาบาล)
8 แผนกลยุทธ์การบริหารบุคคล(พยาบาล)8 แผนกลยุทธ์การบริหารบุคคล(พยาบาล)
8 แผนกลยุทธ์การบริหารบุคคล(พยาบาล)
 
5.การประเมินบุคคล
5.การประเมินบุคคล5.การประเมินบุคคล
5.การประเมินบุคคล
 
4.ภาระงาน
4.ภาระงาน4.ภาระงาน
4.ภาระงาน
 
เรื่องเล่า ชาวบาดาล
เรื่องเล่า ชาวบาดาลเรื่องเล่า ชาวบาดาล
เรื่องเล่า ชาวบาดาล
 
Fullreport uk
Fullreport ukFullreport uk
Fullreport uk
 
10 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง10 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
1แนวคิดการบริหารทางการพยาบาล
 
11 พยาบาลกับความปลอดภัย-ปรับ
11 พยาบาลกับความปลอดภัย-ปรับ11 พยาบาลกับความปลอดภัย-ปรับ
11 พยาบาลกับความปลอดภัย-ปรับ
 
12.คู่มือการบริหารยาชัยบาดาล
12.คู่มือการบริหารยาชัยบาดาล12.คู่มือการบริหารยาชัยบาดาล
12.คู่มือการบริหารยาชัยบาดาล
 
9 ประเมินค่างาน
9 ประเมินค่างาน9 ประเมินค่างาน
9 ประเมินค่างาน
 
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
 
การพัฒนาคุณภาพจากการทบทวน
การพัฒนาคุณภาพจากการทบทวนการพัฒนาคุณภาพจากการทบทวน
การพัฒนาคุณภาพจากการทบทวน
 
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาลแนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
 
เทคนิค ชลบุรี
เทคนิค ชลบุรีเทคนิค ชลบุรี
เทคนิค ชลบุรี
 
2559 บุรีรัมย์
2559 บุรีรัมย์2559 บุรีรัมย์
2559 บุรีรัมย์
 
จริยธรรม
จริยธรรมจริยธรรม
จริยธรรม
 

Similar to 1 2-52-112

คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...Parun Rutjanathamrong
 
คำพิพากษาคดีนายเบนต์ วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยา
คำพิพากษาคดีนายเบนต์  วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยาคำพิพากษาคดีนายเบนต์  วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยา
คำพิพากษาคดีนายเบนต์ วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยาปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา
 
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลา
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลาคดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลา
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลายัย จุ๊
 
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้Parun Rutjanathamrong
 

Similar to 1 2-52-112 (7)

1 3-52-660
1 3-52-6601 3-52-660
1 3-52-660
 
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีสั่งทำลายไก่เพื่อป้องกันโรคระบาด แบบฟอร์มราชการจ...
 
คำพิพากษาคดีนายเบนต์ วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยา
คำพิพากษาคดีนายเบนต์  วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยาคำพิพากษาคดีนายเบนต์  วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยา
คำพิพากษาคดีนายเบนต์ วรรณสีทอง รพ.กรุงเทพพัทยา
 
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลา
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลาคดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลา
คดีตัวอย่าง กรณ๊ทนายยื่นเกินเวลา
 
การบริหารการพยาบาล
การบริหารการพยาบาลการบริหารการพยาบาล
การบริหารการพยาบาล
 
คำสั่งศาลปกครองคดีนายสมาน คงวารินทร์
คำสั่งศาลปกครองคดีนายสมาน  คงวารินทร์คำสั่งศาลปกครองคดีนายสมาน  คงวารินทร์
คำสั่งศาลปกครองคดีนายสมาน คงวารินทร์
 
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้
2556-541-คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีฝนรหัสประจำตัวผิด ปรับตกไม่ได้
 

More from กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์

ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ย
ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ยศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ย
ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ยกรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์
 

More from กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์ (20)

พระมงกุฎ.pptx
พระมงกุฎ.pptxพระมงกุฎ.pptx
พระมงกุฎ.pptx
 
Kanniga วพบ แพร่
Kanniga วพบ แพร่Kanniga วพบ แพร่
Kanniga วพบ แพร่
 
2 p safety kanniga 60
2 p safety kanniga 602 p safety kanniga 60
2 p safety kanniga 60
 
Kanniga 31 jan
Kanniga 31 janKanniga 31 jan
Kanniga 31 jan
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาลแนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
 
วันยาบาลชัยภูมิ
วันยาบาลชัยภูมิวันยาบาลชัยภูมิ
วันยาบาลชัยภูมิ
 
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
คู่มือบริหารกลุ่มการพยาบาล รพช.
 
เทคนิค
เทคนิคเทคนิค
เทคนิค
 
สรุปงานชมรม
สรุปงานชมรมสรุปงานชมรม
สรุปงานชมรม
 
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาลแนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
แนวทางการพัฒนาจริยธรรมของพยาบาล
 
เหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาบริการ
เหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาบริการเหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาบริการ
เหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาบริการ
 
Ppt เกณฑ์พยาบาล ระยอง (ปี 58)
Ppt เกณฑ์พยาบาล ระยอง (ปี 58)Ppt เกณฑ์พยาบาล ระยอง (ปี 58)
Ppt เกณฑ์พยาบาล ระยอง (ปี 58)
 
ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ย
ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ยศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ย
ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ รพ.ด่านมะขามเตี้ย
 
Sup kan 57
Sup kan 57Sup kan 57
Sup kan 57
 
Intro kan57
Intro kan57Intro kan57
Intro kan57
 
Fte kan57
Fte kan57Fte kan57
Fte kan57
 
Hrd kan57
Hrd kan57Hrd kan57
Hrd kan57
 
บริหารเชิงกลยุทธ์
บริหารเชิงกลยุทธ์บริหารเชิงกลยุทธ์
บริหารเชิงกลยุทธ์
 
กลุ่มการพยาบาล
กลุ่มการพยาบาลกลุ่มการพยาบาล
กลุ่มการพยาบาล
 

1 2-52-112

  • 1. คำาพิพากษา (ต. ๒๒) (อุทธรณ์) คดีห มายเลขดำา ที่ อ. ๗๓๖/๒๕๔๙ ในพระปรมาภิไ ธยพระ ่ อ. คดีห มายเลขแดงที มหากษัต ริย ์ ศาล ปกครองสูง สุด วันที่ ๓ เดือน เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒ นางอุเลียน ขันอุด ผู้ฟ้องคดี ทา ระหว่ าง ผู้อำานวยการโรงพยาบาลนาดี ที่ ๑ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้ถูกฟ้อง ปราจีนบุรี ที่ ๓ คดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำาสั่งโดยไม่ ชอบด้วยกฎหมาย (อุทธรณ์คำาพิพากษา) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ยื่นอุทธรณ์คำาพิพากษา ในคดี หมายเลขดำาที่ ๑๙๘๘/๒๕๔๕
  • 2. 2 หมายเลขแดงที่ ๑๑๙๔/๒๕๔๙ ของศาลปกครองชันต้น (ศาล ้ ปกครองกลาง) คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง จังหวัดปราจีนบุรที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ แต่ง ี ตังให้ผฟองคดีดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล กลุมงานการ ้ ู้ ้ ่ พยาบาล สังกัดโรงพยาบาลนาดี ต่อมา ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ้ ู ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดี /ไปปฏิบัติ... ไปปฏิบัติงานตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึงเป็นผู้ใต้บังคับ ่ บัญชาของหัวหน้าและ รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล อันเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง การปฏิบัติงานและลดชั้น การใช้ความรู้ความสามารถของผู้ฟ้องคดี และเป็นการไม่ถูก ต้อง เนื่องจากอำานาจในการบริหารงานบุคคลเป็นอำานาจของผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องทุกข์ตอ ่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมา เมื่อ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ให้ ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน ในตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอกเช่นเดิม แต่ได้ลดทอนหน้าที่ ้ ่ ความรับผิดชอบลง โดยแยก งานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ออกจากงานใน ความรับผิดชอบของหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เช่น การไม่ให้ผู้ฟ้องคดีได้รับ การพิจารณาเลือนขันเงินเดือน การกล่าวหาว่าผูฟองคดีละทิง ่ ้ ้ ้ ้ หน้าทีทำาให้ผฟองคดีถกดูหมิน เกลียดชัง และขาดโอกาสใน ่ ู้ ้ ู ่ การสร้างประโยชน์ให้แก่ทางราชการ
  • 3. 3 ขอให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ทีให้ผฟองคดีไปปฏิบตงานใน ่ ู้ ้ ั ิ ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก และคำาสังผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ้ ่ ่ ้ ู ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ งานในตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสััั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามให้การว่า เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มี คำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ มอบหมายให้ผฟองคดีไปปฏิบตงาน ู้ ้ ั ิ ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก ผู้ฟ้องคดีได้ขอความเป็นธรรมต่อ ้ ่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีหนังสือแจ้งให้ สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ ผิดชอบของผู้ฟ้องคดีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ในการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลนาดี เพื่อให้การ ดำาเนินงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทำาให้การดำาเนินการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขบรรลุ วัตถุประสงค์ ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ ้ ู ของผู้ฟ้องคดีโดยมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็น การกลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เห็นสมควรยุติเรื่อง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ เห็นชอบตามที่เสนอ สำาหรับการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีในระหว่างเดือนธันวาคมบ... /ทำาให้พ ๒๕๔๓ ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๔๔ นั้น ผู้ฟ้องคดีรับผิดชอบฝ่าย บริหารคุณภาพมีหน้าที่จัดตั้งและดำารงไว้ซึ่งการพัฒนา ด้านคุณภาพองค์กร แต่ผลการดำาเนินการพัฒนาคุณภาพดัง กล่าวกลับไม่มีความก้าวหน้า ทำาให้พบปัญหามากมาย เมื่อผู้ ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ และเปลี่ยนตัวผู้แทนดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๔ ถึง เดือนมิถุนายน ๒๕๔๕
  • 4. 4 ก็สามารถพัฒนาคุณภาพทุกระบบในโรงพยาบาลได้ ส่วนการที่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่มอบหมายหน้าทีงานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ให้ผู้ ่ ฟ้องคดีนน เนืองจากได้รบ ั้ ่ ั การร้องเรียนจากผู้รับบริการ และได้มีการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างภายในโรงพยาบาลชุมชนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อ ผู้รับบริการและหน่วยงาน และเพื่อตอบสนองนโยบายของ กระทรวงสาธารณสุข สำาหรับการพิจารณาความดีความชอบ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๔ นั้น คณะกรรมการพิจารณาความดี ความชอบของข้าราชการและลูกจ้างประจำาปีงบประมาณ ๒๕๔๕ ได้ดำาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธการทีกำาหนดในกฎ ก.พ. ี ่ แล้ว และทีผฟองคดีอางว่าป่วยเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ นั้น ่ ู้ ้ ้ ในวันดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มีการเจ็บป่วยจริง แต่ละเลยต่อ การปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทาง ราชการ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ พิจารณาดำาเนิน การโดยแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ส่วน กรณีที่ผู้ฟ้องคดีขอกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นั้น ปัจจุบันผู้ฟ้องคดี ยังดำารงตำาแหน่งดังกล่าวมิได้มีการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำาให้การว่า คำาสั่งโรงพยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งที่มิชอบ ด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นคำาสั่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่ง และหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อันเป็นอำานาจเฉพาะของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้ฟ้องคดี ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง กรณีได้รับมอบหมาย ให้เป็นผูแทนฝ่ายบริหารคุณภาพอันเป็นนโยบายของกระทรวง ้ สาธารณสุขนัน ไม่เป็นความจริง เพราะกระทรวงสาธารณสุข ้ ไม่มีนโยบายให้โรงพยาบาลชุมชนต้องทำาเป็นมาตรฐาน ISO /ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑...
  • 5. 5 แต่มีแนวทางในการนำาระบบคุณภาพมาใช้ในโรงพยาบาล และ มีการสนับสนุน ให้โรงพยาบาลทุกแห่งดำาเนินการพัฒนาคุณภาพสู่ HA (Hospital Accreditation) โดยให้สถาบันพัฒนาและรับรอง คุณภาพโรงพยาบาลเป็นผู้ดำาเนินการ และที่อ้างว่าผู้ฟ้องคดี บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอกนั้น ผู้ฟ้อง คดีมีความเหมาะสมกับตำาแหน่งดังกล่าวมากกว่าผู้อื่น ประกอบ กับโรงพยาบาลนาดียังมีปัญหาต่างๆ มากมาย แม้โรงพยาบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแต่ลักษณะงาน โดยทั่วไปยังคงเหมือนเดิม ส่วนที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้ ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นั้น ก็เป็นแต่เพียง ในกรอบตำาแหน่งตามบัญชี ถือจ่ายเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งการดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล จะต้องพิจารณางาน ในตำาแหน่งที่ปฏิบัติด้วย เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้ผู้ฟ้องคดีทำา หน้าที่คอยเรียกและจัดลำาดับคนไข้เข้าห้องตรวจเท่านั้น ย่อม เป็นการลดระดับความรู้และความสามารถ และไม่เป็นธรรมต่อผู้ ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การเพิ่มเติมว่า คำาสั่งโรง พยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งโรงพยาบาลนาดี ที่ ๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ เป็นคำาสั่งที่ชอบแล้ว เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน มีความรับผิดชอบต่องานทุกด้าน ทั้งการควบคุม กำากับ การ บริหารงานภายในโรงพยาบาลตามนโยบายและวัตถุประสงค์ ของกระทรวงสาธารณสุข การปรับเปลี่ยนหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีมี เหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าว หาแต่อย่างใด และกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในปีงบประมาณ ๒๕๔๕ ให้
  • 6. 6 สถานบริการ กระทรวงสาธารณสุขผ่านการรับรองคุณภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ได้ระบุว่า เป็นการรับรองคุณภาพแบบใด เนื่องจากโรงพยาบาลในจังหวัด ปราจีนบุรีดำาเนินการ ประกันคุณภาพจนได้รับการรับรองจากสถาบันที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลชุมชนแห่งอืน โรง ่ พยาบาลนาดีจงเลือกทำาระบบคุณภาพ ISO ๙๐๐๑ : ๒๐๐๐ แต่ ึ เนื่องจากการดำาเนินการไม่มีความก้าวหน้า จึงมีการเปลี่ยนผู้ แทนบริหารคุณภาพ จากผู้ฟ้องคดีเป็นบุคคลอื่น ส่วนกรณีการพิจารณาความดีความ ชอบของข้าราชการ ได้ดำาเนินการตามวิธีการและหลักเกณฑ์ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วย การเลื่อนขั้นเงินเดือน พ.ศ. ๒๕๔๔ และการที่ผู้ฟ้องคดีลาป่วยโดยไม่มีการเสนอให้ผู้ บังคับบัญชามีความเห็นตามลำาดับ เป็นการไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบของทางราชการ จึงถือว่าเป็นการขาดราชการ โดยไม่มเหตุอนสมควร ส่วนกรณีการดำารงตำาแหน่งตามคำาสัง ี ั ่ จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นัน ้ เพือประโยชน์ของทางราชการ ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่จำาเป็นต้องให้ ่ ้ ู เจ้าหน้าทีปฏิบตงานควบคูไปกับตำาแหน่งตามกรอบตำาแหน่ง จ. ๑๘ ่ ั ิ ่ ตามระเบียบของทางราชการ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ไม่ทำาคำา ให้การเพิ่มเติม ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็น ต้องวินิจฉัยว่าคำาสั่ง ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ แต่งตั้ งและมอบหมายให้ผู้ ฟ้องคดีปฏิบัติ หน้าทีหัวหน้างานผูป่วยนอก ่ ้ /ชอบด้วยกฎหมาย...
  • 7. 7 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คดีนผถกฟ้องคดีที่ ๒ อาศัยอำานาจตาม ี้ ู้ ู มาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ออกคำาสั่งที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ย้ายผูฟองคดีจากตำาแหน่งพยาบาล ้ ้ วิชาชีพ ๗ (ด้านการพยาบาล) งานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ กลุ่มงานการพยาบาล ไปดำารง ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) กลุ่มงานการ พยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้ง จ่ายตั้งแต่วันออกคำาสั่ง ผู้ฟ้องคดีจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำารง ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งดังกล่าว ต่อมา ผู้ถูกฟ้อง คดีที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดีมีคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่งตั้งผู้ฟ้องคดีให้รับผิดชอบการ ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก โดยไม่ได้ระบุเลขที่ ตำาแหน่งไว้ในคำาสั่ง ซึงตำาแหน่งดังกล่าวเป็นตำาแหน่งเลขที่ ่ ๑๖๙๗๓ มีข้าราชการตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๖ (ด้านการ พยาบาล) ดำารงตำาแหน่งอยู่ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตังให้้ ข้าราชการรายอื่น ตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ (ด้านการ พยาบาล) มาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้ ฟ้องคดี และแต่งตั้งพยาบาลวิชาชีพ ๗ อีก ๒ คน ให้ทำาหน้าที่ รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล ซึงตำาแหน่งรองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลไม่มีกำาหนดไว้ใน ่ กรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดีแต่อย่างใด การที่ผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ จึงเป็นการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นการ เฉพาะคราวตามความจำาเป็น และตามอำานาจการปกครองบังคับ บัญชาที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอยู่ เมื่อหมดความจำาเป็นแล้วผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ ต้องสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับ การแต่งตั้งจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ยกเลิกคำาสั่งดังกล่าวเพื่อให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่
  • 8. 8 ในตำาแหน่งทีได้รับแต่งตั้ง ซึงเท่ากับเป็นการออกคำาสั่งย้ายผู้ ่ ่ ฟ้องคดีออกจากตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลไปแต่งตั้งให้ปฏิบัติ หน้าที่ในตำาแหน่งอื่น ซึงอำานาจในการบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการโรงพยาบาล ่ นาดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัดสำานักงานสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี อันเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคเป็นอำานาจ ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๒ ไม่ได้มอบอำานาจให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปฏิบัติ ราชการแทนตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลง วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงไม่มอำานาจออกคำาสัง ้ ี ่ แต่งตังผูฟ้องคดีให้ไปปฏิบตหน้าทีหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และคำาสั่ง ้ ้ ั ิ ่ ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ยังเป็นการมอบหมายงานให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติไม่ตรงตาม ตำาแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย คำาสั่งของผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้ ลดงานบางส่วนลง ซึ่งเป็นการมอบหมายงานให้ ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานโดยไม่ตรงตามตำาแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเช่น เดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ คำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๔ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ศาลปกครองชันต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสังของผูถูก ้ ่ ้ ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่ง ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่แต่งตั้งและมอบ หมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานในตำาแหน่ง หัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ /ยังเป็นการ...
  • 9. 9 ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่ สุด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อุทธรณ์ว่า คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งมอบหมายงานภายในให้ ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หวหน้างานผูปวยนอก ไม่ใช่เป็นการบรรจุ ั ้ ่ แต่งตังและย้ายข้าราชการ อีกทังเป็นงานเฉพาะคราวตามความ ้ ้ จำาเป็นและตามอำานาจปกครองบังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เมื่อหมดความจำาเป็นอาจปรับเปลี่ยนหน้าที่เพื่อประโยชน์ของ ทางราชการต่อไป จึงถือว่าเป็นคำาสั่งมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ ภายในและเป็นคำาสั่งภายในโรงพยาบาลนาดี ซึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้รับมอบอำานาจให้เป็นผู้บังคับบัญชา ่ ข้าราชการและลูกจ้างในฐานะผูอำานวยการกอง ตามข้อ ๑.๒.๒ ้ ของคำาสังสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ่ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ประกอบกับหนังสือสำานักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๑/๒๒๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เรื่อง การมอบหมายให้ ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจในการแต่งตังหรือมอบหมายหน้าที่ ้ ความรับผิดชอบให้ขาราชการและลูกจ้างประจำาทีอยูในบังคับ ้ ่ ่ บัญชาทำาหน้าทีหวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่างๆ ่ ั ่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการในโรงพยาบาลได้ ผู้ถูกฟ้อ/ทัดที่ ยม... งคดีเที๑ มิได้มีเจตนาไม่สุจริตหรือ เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด และการที่ผู้ฟ้องคดีได้รับมอบหมายให้ เป็นผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ แต่ปรากฏว่าผลการดำาเนินงาน ไม่มีความก้าวหน้า ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งดัง กล่าว ซึ่งเมือเปลี่ยนผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพก็สามารถพัฒนา ่ คุณภาพระบบ ในโรงพยาบาลนาดี โดยได้รับการประเมินและผ่านการประเมิน
  • 10. 10 เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๕ ทัดเทียมโรงพยาบาลอื่น และการที่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ฟ้อง คดีก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหารจัดการ ภายในโรงพยาบาลนาดี และการปรับเปลี่ยนหน้าที่ดังกล่าวเพื่อ ให้สอดคล้องกับนโยบายใช้คนให้เหมาะสมกับงาน จึงไม่จำาเป็นต้องใช้อำานาจของผู้มีอำานาจบรรจุแต่งตั้งตาม มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจ ที่จะมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลนาดีได้ ตามที่ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่ศาล ปกครองชั้นต้นวินิจฉัยให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำา สังจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ่ นัน ขออุทธรณ์ว่า ปัจจุบันผู้ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งหัวหน้า ้ พยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗ ด้านการพยาบาล) ตามเดิมมิได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งโยก ย้ายแต่ประการใด และที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้างานผู้ป่วยนอกไม่ถือว่าเป็นการลดระดับความรู้ ความ สามารถ และไม่เป็นธรรมประการใด และเมื่อเป็นการปรับ เปลี่ยนหน้าที่ภายในหน่วยงาน จึงไม่จำาเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติควบคู่ไปกับตำาแหน่งตามกรอบตำาแหน่ง ตาม จ.๑๘ ตาม ระเบียบของทางราชการแต่อย่างใด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจอันชอบด้วยกฎหมายที่จะบริหาร ราชการภายในองค์กรของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ สำาหรับคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ หน้าที่เช่นเดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโรง พยาบาลชุมชน โดยแยกงานอุบัติเหตุฉุกเฉินออกจากงานผู้
  • 11. 11 ป่วยนอก ส่วนงานภารกิจอื่น ๆ ด้านการพยาบาลไม่ได้กำาหนด หลักเกณฑ์ตายตัว แต่อยู่ในดุลพินิจของแต่ละโรงพยาบาลที่จะ จัดโครงสร้างให้เหมาะสม โรงพยาบาลนาดีจึงรวมงาน ประชาสัมพันธ์ งานห้องบริการ ห้องบัตร งานตรวจสอบสิทธิและการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ ของผู้รับบริการเข้าด้วยกัน ซึงโครงสร้างดังกล่าวไม่ขัดกับโครงสร้างที่กระทรวง ่ สาธารณสุขกำาหนดแต่อย่างใด การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่ตามคำา สั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวัน ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้ บังคับบัญชา ประกอบกับหนังสือสำานักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๑/๒๒๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ คำาสั่งของผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงมิใช่ การบรรจุและแต่งตั้งตามนัยมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่ อย่างใด ทั้งนี้ โดยคำานึงถึงเหตุผลความจำาเป็น เพือประโยชน์ของทางราชการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวมา คำาสังของผู้ ่ ่ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และ คำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงชอบด้วย กฎหมายแล้ว หากให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า พยาบาลจะก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ทางราชการได้ ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำาพิพากษา ของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า ในการปฏิบัติราชการจะมีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ฯลฯ ที่ข้าราชการจะต้องประพฤติ ปฏิบัติตาม การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างคำาสั่งสำานักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชาว่าผู้ /ข้าราชการ... /แต่...
  • 12. 12 ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจแต่งตั้งหรือ มอบหมายหน้าทีความรับผิดชอบให้ขาราชการ ลูกจ้างทีอยูในบังคับ ่ ้ ่ ่ บัญชาทำาหน้าที่ หัวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่าง ๆ เพือปฏิบตหน้าที่ ่ ่ ั ิ ราชการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เห็นว่าไม่ จำาเป็นที่ต้องให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบตำาแหน่ง ตาม จ. ๑๘ ตามระเบียบของทางราชการนั้น การกระทำาของผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้าง ว่าคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นการมอบหมายงานเป็นการภายใน ไม่ใช่การบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการ อีกทั้งเป็นงานเฉพาะ คราวตามความจำาเป็นก็เป็น ข้อกล่าวอ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะงานผู้ป่วยนอกเป็นภารกิจหลัก ของทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่ งานชั่วครั้งชั่วคราวหรืองานตามโครงการแต่อย่างใด ประกอบ กับคำาสั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเพือให้การ ่ ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้าง และการรับผิดชอบ ในการปฏิบตราชการของหน่วยงานในสังกัดสำานักงานปลัด ั ิ กระทรวงสาธารณสุข เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ จึงต้องมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าพยาบาลตามเดิม จึงจะชอบด้วยกฎหมาย และที่ผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ อ้างว่า โรงพยาบาลนาดีได้ผ่านการประเมินการ พัฒนาคุณภาพ HA จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ โครงการก็เป็นการให้ข้อมูล ที่เป็นเท็จ เพราะตามข้อเท็จจริงโรงพยาบาลในจังหวัด ปราจีนบุรียังไม่ผ่านการประเมิน HA แม้แต่แห่งเดียว เนืองจาก ่ การทีจะผ่านการประเมินดังกล่าวจะต้องได้รบการประเมินผ่านขัน ่ ั ้ ที่ ๓ แต่โรงพยาบาลนาดีผ่านเพียงขั้นที่ ๑ และกำาลังอยู่ใน
  • 13. 13 ระหว่างการประเมินขั้นที่ ๒ เท่านั้น การใช้ดุลพินิจของผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ จึงมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการตามที่ กล่าวอ้างแต่อย่างใด ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำา พิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ศาลปกครองสูงสุดออกนังพิจารณาคดี โดยได้รบฟัง ่ ั สรุปข้อเท็จจริงของ ตุลาการเจ้าของสำานวน และคำาชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำาแถลง การณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี ศาลปกครองสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมด ในสำานวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง จังหวัดปราจีนบุรีที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ เรื่อง ย้ายข้าราชการ โดยให้ผฟองคดีไปดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาล ู้ ้ วิชาชีพ ๗) กลุมงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและ ่ อัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้งจ่าย ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง โรงพยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน ในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานในโรง พยาบาลนาดีเป็นไปด้วย ความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือ ลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๕ ร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ถูกฟ้อง คดีที่ ๒ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง การปฏิบตงานและลดขันตำาแหน่งผูฟ้องคดีจากหัวหน้าฝ่ายเป็น ั ิ ้ ้ หัวหน้างาน อันเป็นการกลันแกล้งผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มี ่ /ลงวันที่...
  • 14. 14 หนังสือลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๔๕ แจ้งผู้ฟ้องคดีว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียนแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว เกิดความคลาดเคลื่อน เนื่องจากผู้บริหารโรงพยาบาลนาดี ได้ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ ความรับผิดชอบเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหาร จัดการภายในโรงพยาบาลนาดี การปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ ผิดชอบมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง ตามข้อกล่าวหาแต่ประการใด ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง โรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ให้ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการโรงพยาบาลนาดี โดยให้ ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคำา สั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้อง คดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็น คำาสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ซึงเป็น ่ อำานาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยเฉพาะ จึงขอให้ เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ทั้งสองคำาสั่งดังกล่าว และให้ผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่งให้ ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามเดิม ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็น ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ว่า คำาสั่งผู้ถูกฟ้อง คดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เป็นคำา สั่งทีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติให้การ บรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและการแต่ง /ที่เกี่ยวกับ...
  • 15. 15 ตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ให้ผู้มีอำานาจดังต่อไปนี้เป็นผู้สั่งบรรจุและ แต่งตั้ง (๗) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ ๗ ลงมา ในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ซึงมิใช่หัวหน้าส่วนราชการ ่ ประจำาจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้บังคับบัญชา เป็นผู้มีอำานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และคำาสั่งสำานักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบ หมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา กำาหนดว่า ข้อ ๑ ให้ บุคคลผู้ดำารงตำาแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และลูกจ้างในฐานะผู้อำานวยการกอง คือ ๑.๒ ราชการบริหาร ส่วนภูมิภาค ๑.๒.๒ ผู้อำานวยการโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน ขนาด ๓๐ เตียงขึ้นไป ข้อ ๓ การเป็นผู้บังคับบัญชาตามคำาสั่งนี้ หมายความเฉพาะการบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างของ หน่วยงานหรือที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานซึ่งตนเป็นผู้อำานวยการ หรือหัวหน้าของหน่วยงานนั้น ประกอบกับคำาสั่งจังหวัด ปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ เรื่อง การมอบอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการ จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและนายอำาเภอ ปฏิบัติ ราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า ข้อ ๒ มอบอำานาจให้ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด และนายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้ ั ิ หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการ อนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น ๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสั่งนี้ไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ ซึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า ่ ราชการจังหวัด ได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ
  • 16. 16 การพิจารณาโทษทางวินัย และคำาสังจังหวัดปราจีนบุรที่ ่ ี ๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เรือง การมอบ ่ อำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด และนายอำาเภอปฏิบัติราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า ข้อ ๒ มอบอำานาจให้ รองผูวาราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและ ้ ่ นายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้หัวหน้า ั ิ ส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการอนุญาต การ อนุมติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น ข้อ ๓ เพื่อ ั ให้การปฏิบัติราชการ ตามคำาสั่งมอบอำานาจบังเกิดผลดี และบรรลุวัตถุประสงค์ที่วาง ไว้ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ ๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสังนีไม่รวมถึงการปฏิบตราชการ ่ ้ ั ิ ซึงผูวาราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า ่ ้ ่ ราชการจังหวัดได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ การพิจารณาโทษทางวินัย ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มีคำาสั่ง จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ให้ผู้ฟ้องคดีไปดำารง ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) (ด้านการ พยาบาล) กลุ่มงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตรา เงินเดือน ต่อมา ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ ซึงเป็นผูบงคับบัญชาผูฟ้องคดีมคำา ้ ่ ้ ั ้ ี สังโรงพยาบาลนาดี ่ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ หน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึ่งตำาแหน่งดังกล่าวมีข้าราชการ ระดับ ๖ ถือครองอยู่ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็น ไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล และผู้ถูก ฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตั้งให้ข้าราชการระดับ ๗ รายอื่นมาปฏิบัติ /และคำาสั่ง...
  • 17. 17 หน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้ฟ้องคดี และให้ข้าราชการระดับ ๗ อีก ๒ คนทำาหน้าที่รองหัวหน้ากลุ่ม งานการพยาบาล ซึ่งตำาแหน่งรองหัวหน้าดังกล่าวไม่มีกำาหนด ไว้ในกรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดี และต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลง วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้ลด บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบลง เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ ว่า โรงพยาบาลนาดีเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัด สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ซึงเป็นราชการส่วนภูมภาค ่ ิ อำานาจในการบรรจุและแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ ้ ๗ ลงมา จึงเป็นอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ และคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่ ๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ทีมอบอำานาจให้ ่ หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น โดยไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ ซึงผู้ ่ ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า ราชการจังหวัดได้แก่ ข้อ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคลที่เกี่ยว กับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และการ พิจารณาโทษทางวินัย ดังนัน การทีผถกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสังที่ ้ ่ ู้ ู ่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผฟองคดีปฏิบัติหน้าที่ ู้ ้ หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานของโรงพยาบาล นาดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างภายในโรง พยาบาลนาดีมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในหน่วย งานตามความจำาเป็นและตามอำานาจบังคับบัญชาทีมอยู่ อย่างไร ่ ี
  • 18. 18 ก็ตาม แม้การมอบหมายให้เจ้าหน้าทีปฏิบตหน้าทีเป็นการเฉพาะ ่ ั ิ ่ ตามความจำาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ เป็นอำานาจ ของผู้บังคับบัญชาที่จะกำาหนดได้ แต่การมอบหมายงานดัง กล่าวจะต้องมีความเหมาะสม มีเหตุผล และมีกำาหนดระยะเวลาตามสมควร เมื่อข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่งให้ผู้ฟ้องคดีไปปฏิบัติหน้าที่ในตำาแหน่งที่ตำ่ากว่า ตำาแหน่งที่ครองอยู่ โดยมิได้กำาหนดระยะเวลาในการปฏิบัติ หน้าที่ไว้ และให้บุคคลอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ฟ้องคดี ย่อม แสดงให้เห็นว่าผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ประสงค์จะให้ผฟองคดีดำารง ้ ู ู้ ้ ตำาแหน่งตามคำาสังจังหวัดปราจีนบุรี ่ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ อีกต่อไป กรณีจึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง แต่งตั้ง (ย้าย) ผู้ฟ้องคดี คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่มีอำานาจ บรรจุแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตังแต่ระดับ ๗ ลงมา ตาม ้ ้ มาตรา ๕๒ วรรคหนึง (๗) แห่งพระราชบัญญัตระเบียบ ่ ิ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบคำาสังจังหวัด ่ ปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงฟังไม่ขึ้น และการที่ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ แต่งตังเจ้าหน้าทีระดับ ้ ่ ปฏิบตการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าที่ ั ิ ู้ ้ ั ิ หัวหน้างานผูปวยนอกตามคำาสังเดิมทีไม่ชอบด้วยกฎหมายนัน คำา ้ ่ ่ ่ ้ สังของผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ่ ้ ู ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่ ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ประเด็นนี้จึงฟังไม่ขึ้น ด้วยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมา ทีศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ /ที่แต่งตั้ง...
  • 19. 19 ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ทีแต่งตังและมอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าทีหวหน้างานผูปวย ่ ้ ู้ ้ ั ิ ่ ั ้ ่ นอก และให้ผถกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตงาน ู้ ู ู้ ้ ั ิ ในตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสังของผูถกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ่ ้ ู ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่ วันทีคดีถงทีสดนัน ชอบแล้ว ่ ึ ่ ุ ้ พิพากษายืน นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการเจ้าของสำานวน ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายพีระพล เชาวน์ศิริ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด นายไพบูลย์ เสียงก้อง ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการผู้แถลงคดี : นายประนัย วณิชชานนท์ วันที่อ่าน ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ นาลิณี : ผู้พิมพ์