More Related Content
Similar to 1 2-52-112 (7)
More from กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์
More from กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์ (20)
1 2-52-112
- 1. คำาพิพากษา (ต. ๒๒)
(อุทธรณ์)
คดีห มายเลขดำา ที่ อ.
๗๓๖/๒๕๔๙
ในพระปรมาภิไ ธยพระ ่ อ.
คดีห มายเลขแดงที
มหากษัต ริย ์
ศาล
ปกครองสูง สุด
วันที่ ๓ เดือน
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
นางอุเลียน ขันอุด ผู้ฟ้องคดี
ทา
ระหว่
าง
ผู้อำานวยการโรงพยาบาลนาดี ที่ ๑
ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้ถูกฟ้อง
ปราจีนบุรี ที่ ๓ คดี
เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำาสั่งโดยไม่
ชอบด้วยกฎหมาย
(อุทธรณ์คำาพิพากษา)
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ยื่นอุทธรณ์คำาพิพากษา ในคดี
หมายเลขดำาที่ ๑๙๘๘/๒๕๔๕
- 2. 2
หมายเลขแดงที่ ๑๑๙๔/๒๕๔๙ ของศาลปกครองชันต้น (ศาล ้
ปกครองกลาง)
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง
พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน
สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ แต่ง
ี
ตังให้ผฟองคดีดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล กลุมงานการ
้ ู้ ้ ่
พยาบาล สังกัดโรงพยาบาลนาดี ต่อมา ผูถกฟ้องคดีที่ ๑
้ ู
ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดี /ไปปฏิบัติ...
ไปปฏิบัติงานตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึงเป็นผู้ใต้บังคับ
่
บัญชาของหัวหน้าและ
รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล อันเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง
การปฏิบัติงานและลดชั้น
การใช้ความรู้ความสามารถของผู้ฟ้องคดี และเป็นการไม่ถูก
ต้อง เนื่องจากอำานาจในการบริหารงานบุคคลเป็นอำานาจของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องทุกข์ตอ ่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมา เมื่อ
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน
ในตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอกเช่นเดิม แต่ได้ลดทอนหน้าที่
้ ่
ความรับผิดชอบลง โดยแยก
งานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ออกจากงานใน
ความรับผิดชอบของหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ กลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เช่น การไม่ให้ผู้ฟ้องคดีได้รับ
การพิจารณาเลือนขันเงินเดือน การกล่าวหาว่าผูฟองคดีละทิง
่ ้ ้ ้ ้
หน้าทีทำาให้ผฟองคดีถกดูหมิน เกลียดชัง และขาดโอกาสใน
่ ู้ ้ ู ่
การสร้างประโยชน์ให้แก่ทางราชการ
- 3. 3
ขอให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ทีให้ผฟองคดีไปปฏิบตงานใน
่ ู้ ้ ั ิ
ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก และคำาสังผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
้ ่ ่ ้ ู
๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
งานในตำาแหน่งหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
มีคำาสััั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามให้การว่า เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มี
คำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ มอบหมายให้ผฟองคดีไปปฏิบตงาน
ู้ ้ ั ิ
ตำาแหน่งหัวหน้างานผูปวยนอก ผู้ฟ้องคดีได้ขอความเป็นธรรมต่อ
้ ่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีหนังสือแจ้งให้
สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง
แล้วปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ
ผิดชอบของผู้ฟ้องคดีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
ในการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลนาดี เพื่อให้การ
ดำาเนินงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
ทำาให้การดำาเนินการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขบรรลุ
วัตถุประสงค์ ผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ
้ ู
ของผู้ฟ้องคดีโดยมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็น
การกลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เห็นสมควรยุติเรื่อง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒
เห็นชอบตามที่เสนอ
สำาหรับการปฏิบัติงานของผู้ฟ้องคดีในระหว่างเดือนธันวาคมบ...
/ทำาให้พ
๒๕๔๓ ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๔๔ นั้น ผู้ฟ้องคดีรับผิดชอบฝ่าย
บริหารคุณภาพมีหน้าที่จัดตั้งและดำารงไว้ซึ่งการพัฒนา
ด้านคุณภาพองค์กร แต่ผลการดำาเนินการพัฒนาคุณภาพดัง
กล่าวกลับไม่มีความก้าวหน้า ทำาให้พบปัญหามากมาย เมื่อผู้
ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ
และเปลี่ยนตัวผู้แทนดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๔ ถึง
เดือนมิถุนายน ๒๕๔๕
- 4. 4
ก็สามารถพัฒนาคุณภาพทุกระบบในโรงพยาบาลได้ ส่วนการที่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ไม่มอบหมายหน้าทีงานบริหารห้องบัตรและงานประชาสัมพันธ์ให้ผู้
่
ฟ้องคดีนน เนืองจากได้รบ
ั้ ่ ั
การร้องเรียนจากผู้รับบริการ และได้มีการเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างภายในโรงพยาบาลชุมชนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อ
ผู้รับบริการและหน่วยงาน และเพื่อตอบสนองนโยบายของ
กระทรวงสาธารณสุข สำาหรับการพิจารณาความดีความชอบ
เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๔ นั้น คณะกรรมการพิจารณาความดี
ความชอบของข้าราชการและลูกจ้างประจำาปีงบประมาณ ๒๕๔๕
ได้ดำาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธการทีกำาหนดในกฎ ก.พ.
ี ่
แล้ว และทีผฟองคดีอางว่าป่วยเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ นั้น
่ ู้ ้ ้
ในวันดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มีการเจ็บป่วยจริง แต่ละเลยต่อ
การปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทาง
ราชการ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ พิจารณาดำาเนิน
การโดยแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ส่วน
กรณีที่ผู้ฟ้องคดีขอกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
นั้น ปัจจุบันผู้ฟ้องคดี
ยังดำารงตำาแหน่งดังกล่าวมิได้มีการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด
ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำาให้การว่า คำาสั่งโรงพยาบาลนาดี
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งที่มิชอบ
ด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นคำาสั่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่ง
และหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อันเป็นอำานาจเฉพาะของ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้ฟ้องคดี
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง กรณีได้รับมอบหมาย
ให้เป็นผูแทนฝ่ายบริหารคุณภาพอันเป็นนโยบายของกระทรวง
้
สาธารณสุขนัน ไม่เป็นความจริง เพราะกระทรวงสาธารณสุข
้
ไม่มีนโยบายให้โรงพยาบาลชุมชนต้องทำาเป็นมาตรฐาน ISO
/ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑...
- 5. 5
แต่มีแนวทางในการนำาระบบคุณภาพมาใช้ในโรงพยาบาล และ
มีการสนับสนุน
ให้โรงพยาบาลทุกแห่งดำาเนินการพัฒนาคุณภาพสู่ HA
(Hospital Accreditation) โดยให้สถาบันพัฒนาและรับรอง
คุณภาพโรงพยาบาลเป็นผู้ดำาเนินการ และที่อ้างว่าผู้ฟ้องคดี
บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอกนั้น ผู้ฟ้อง
คดีมีความเหมาะสมกับตำาแหน่งดังกล่าวมากกว่าผู้อื่น ประกอบ
กับโรงพยาบาลนาดียังมีปัญหาต่างๆ มากมาย
แม้โรงพยาบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแต่ลักษณะงาน
โดยทั่วไปยังคงเหมือนเดิม ส่วนที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอ้างว่า ผู้
ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ นั้น ก็เป็นแต่เพียง
ในกรอบตำาแหน่งตามบัญชี
ถือจ่ายเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งการดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล
จะต้องพิจารณางาน
ในตำาแหน่งที่ปฏิบัติด้วย เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้ผู้ฟ้องคดีทำา
หน้าที่คอยเรียกและจัดลำาดับคนไข้เข้าห้องตรวจเท่านั้น ย่อม
เป็นการลดระดับความรู้และความสามารถ และไม่เป็นธรรมต่อผู้
ฟ้องคดี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การเพิ่มเติมว่า คำาสั่งโรง
พยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งโรงพยาบาลนาดี ที่
๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ เป็นคำาสั่งที่ชอบแล้ว
เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน
มีความรับผิดชอบต่องานทุกด้าน ทั้งการควบคุม กำากับ การ
บริหารงานภายในโรงพยาบาลตามนโยบายและวัตถุประสงค์
ของกระทรวงสาธารณสุข การปรับเปลี่ยนหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีมี
เหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าว
หาแต่อย่างใด
และกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในปีงบประมาณ ๒๕๔๕ ให้
- 7. 7
ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คดีนผถกฟ้องคดีที่ ๒ อาศัยอำานาจตาม
ี้ ู้ ู
มาตรา ๕๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕
ออกคำาสั่งที่ ๒๖๕/๒๕๔๑
ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ย้ายผูฟองคดีจากตำาแหน่งพยาบาล
้ ้
วิชาชีพ ๗ (ด้านการพยาบาล)
งานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ กลุ่มงานการพยาบาล ไปดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) กลุ่มงานการ
พยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้ง
จ่ายตั้งแต่วันออกคำาสั่ง ผู้ฟ้องคดีจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งดังกล่าว ต่อมา ผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดีมีคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่งตั้งผู้ฟ้องคดีให้รับผิดชอบการ
ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก โดยไม่ได้ระบุเลขที่
ตำาแหน่งไว้ในคำาสั่ง ซึงตำาแหน่งดังกล่าวเป็นตำาแหน่งเลขที่
่
๑๖๙๗๓ มีข้าราชการตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๖ (ด้านการ
พยาบาล) ดำารงตำาแหน่งอยู่ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตังให้้
ข้าราชการรายอื่น ตำาแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ (ด้านการ
พยาบาล) มาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้
ฟ้องคดี และแต่งตั้งพยาบาลวิชาชีพ ๗ อีก ๒ คน ให้ทำาหน้าที่
รองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
ซึงตำาแหน่งรองหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลไม่มีกำาหนดไว้ใน
่
กรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดีแต่อย่างใด การที่ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ จึงเป็นการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นการ
เฉพาะคราวตามความจำาเป็น และตามอำานาจการปกครองบังคับ
บัญชาที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอยู่ เมื่อหมดความจำาเป็นแล้วผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ต้องสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับ
การแต่งตั้งจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ ได้ยกเลิกคำาสั่งดังกล่าวเพื่อให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่
- 8. 8
ในตำาแหน่งทีได้รับแต่งตั้ง ซึงเท่ากับเป็นการออกคำาสั่งย้ายผู้
่ ่
ฟ้องคดีออกจากตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลไปแต่งตั้งให้ปฏิบัติ
หน้าที่ในตำาแหน่งอื่น
ซึงอำานาจในการบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการโรงพยาบาล
่
นาดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัดสำานักงานสาธารณสุข
จังหวัดปราจีนบุรี อันเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคเป็นอำานาจ
ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระ
ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๒ ไม่ได้มอบอำานาจให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปฏิบัติ
ราชการแทนตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลง
วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงไม่มอำานาจออกคำาสัง
้ ี ่
แต่งตังผูฟ้องคดีให้ไปปฏิบตหน้าทีหัวหน้างานผู้ป่วยนอก และคำาสั่ง
้ ้ ั ิ ่
ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔
ยังเป็นการมอบหมายงานให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติไม่ตรงตาม
ตำาแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย คำาสั่งของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ต่อมา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกคำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม
๒๕๔๕ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้
ลดงานบางส่วนลง ซึ่งเป็นการมอบหมายงานให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานโดยไม่ตรงตามตำาแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเช่น
เดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ คำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
๗๖/๒๕๔๔ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
ศาลปกครองชันต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสังของผูถูก
้ ่ ้
ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่ง
ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่แต่งตั้งและมอบ
หมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก และให้ผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงานในตำาแหน่ง
หัวหน้าพยาบาลตามคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑
/ยังเป็นการ...
- 9. 9
ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่
สุด
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อุทธรณ์ว่า คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔
ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นคำาสั่งมอบหมายงานภายในให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หวหน้างานผูปวยนอก ไม่ใช่เป็นการบรรจุ
ั ้ ่
แต่งตังและย้ายข้าราชการ อีกทังเป็นงานเฉพาะคราวตามความ
้ ้
จำาเป็นและตามอำานาจปกครองบังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องคดีที่
๑
เมื่อหมดความจำาเป็นอาจปรับเปลี่ยนหน้าที่เพื่อประโยชน์ของ
ทางราชการต่อไป จึงถือว่าเป็นคำาสั่งมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่
ภายในและเป็นคำาสั่งภายในโรงพยาบาลนาดี
ซึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้รับมอบอำานาจให้เป็นผู้บังคับบัญชา
่
ข้าราชการและลูกจ้างในฐานะผูอำานวยการกอง ตามข้อ ๑.๒.๒
้
ของคำาสังสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗
่
ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ประกอบกับหนังสือสำานักงาน
ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๑/๒๒๗
ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เรื่อง การมอบหมายให้
ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจในการแต่งตังหรือมอบหมายหน้าที่
้
ความรับผิดชอบให้ขาราชการและลูกจ้างประจำาทีอยูในบังคับ
้ ่ ่
บัญชาทำาหน้าทีหวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่างๆ
่ ั ่
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการในโรงพยาบาลได้ ผู้ถูกฟ้อ/ทัดที่ ยม...
งคดีเที๑
มิได้มีเจตนาไม่สุจริตหรือ
เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด และการที่ผู้ฟ้องคดีได้รับมอบหมายให้
เป็นผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพ แต่ปรากฏว่าผลการดำาเนินงาน
ไม่มีความก้าวหน้า ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำาแหน่งดัง
กล่าว ซึ่งเมือเปลี่ยนผู้แทนฝ่ายบริหารคุณภาพก็สามารถพัฒนา
่
คุณภาพระบบ
ในโรงพยาบาลนาดี โดยได้รับการประเมินและผ่านการประเมิน
- 10. 10
เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๕ ทัดเทียมโรงพยาบาลอื่น และการที่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ฟ้อง
คดีก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหารจัดการ
ภายในโรงพยาบาลนาดี และการปรับเปลี่ยนหน้าที่ดังกล่าวเพื่อ
ให้สอดคล้องกับนโยบายใช้คนให้เหมาะสมกับงาน
จึงไม่จำาเป็นต้องใช้อำานาจของผู้มีอำานาจบรรจุแต่งตั้งตาม
มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงมีอำานาจ
ที่จะมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก
โรงพยาบาลนาดีได้ ตามที่
ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่ศาล
ปกครองชั้นต้นวินิจฉัยให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปดำารงตำาแหน่งตามคำา
สังจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
่
นัน ขออุทธรณ์ว่า ปัจจุบันผู้ฟ้องคดียังคงดำารงตำาแหน่งหัวหน้า
้
พยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗
ด้านการพยาบาล) ตามเดิมมิได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งโยก
ย้ายแต่ประการใด
และที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้างานผู้ป่วยนอกไม่ถือว่าเป็นการลดระดับความรู้ ความ
สามารถ และไม่เป็นธรรมประการใด และเมื่อเป็นการปรับ
เปลี่ยนหน้าที่ภายในหน่วยงาน จึงไม่จำาเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่
ปฏิบัติควบคู่ไปกับตำาแหน่งตามกรอบตำาแหน่ง ตาม จ.๑๘ ตาม
ระเบียบของทางราชการแต่อย่างใด
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจอันชอบด้วยกฎหมายที่จะบริหาร
ราชการภายในองค์กรของ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ สำาหรับคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่
๗๖/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
หน้าที่เช่นเดียวกับคำาสั่งที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๔๔ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโรง
พยาบาลชุมชน โดยแยกงานอุบัติเหตุฉุกเฉินออกจากงานผู้
- 11. 11
ป่วยนอก ส่วนงานภารกิจอื่น ๆ ด้านการพยาบาลไม่ได้กำาหนด
หลักเกณฑ์ตายตัว แต่อยู่ในดุลพินิจของแต่ละโรงพยาบาลที่จะ
จัดโครงสร้างให้เหมาะสม โรงพยาบาลนาดีจึงรวมงาน
ประชาสัมพันธ์ งานห้องบริการ ห้องบัตร
งานตรวจสอบสิทธิและการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ
ของผู้รับบริการเข้าด้วยกัน
ซึงโครงสร้างดังกล่าวไม่ขัดกับโครงสร้างที่กระทรวง
่
สาธารณสุขกำาหนดแต่อย่างใด
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่ตามคำา
สั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวัน
ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้
บังคับบัญชา ประกอบกับหนังสือสำานักงาน ก.พ. ที่ นร
๑๐๐๑/๒๒๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ คำาสั่งของผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงมิใช่
การบรรจุและแต่งตั้งตามนัยมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่ง
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่
อย่างใด ทั้งนี้ โดยคำานึงถึงเหตุผลความจำาเป็น
เพือประโยชน์ของทางราชการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวมา คำาสังของผู้
่ ่
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และ
คำาสั่งที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงชอบด้วย
กฎหมายแล้ว หากให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า
พยาบาลจะก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่ทางราชการได้
ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำาพิพากษา
ของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง
ผู้ฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า ในการปฏิบัติราชการจะมีกฎ
ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ฯลฯ ที่ข้าราชการจะต้องประพฤติ
ปฏิบัติตาม การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างคำาสั่งสำานักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม
๒๕๓๗ เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชาว่าผู้
/ข้าราชการ...
/แต่...
- 12. 12
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอำานาจแต่งตั้งหรือ
มอบหมายหน้าทีความรับผิดชอบให้ขาราชการ ลูกจ้างทีอยูในบังคับ
่ ้ ่ ่
บัญชาทำาหน้าที่
หัวหน้ากลุมงาน หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่าง ๆ เพือปฏิบตหน้าที่
่ ่ ั ิ
ราชการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เห็นว่าไม่
จำาเป็นที่ต้องให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบตำาแหน่ง
ตาม จ. ๑๘ ตามระเบียบของทางราชการนั้น การกระทำาของผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าว
จึงเป็นการกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้าง
ว่าคำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑
ตุลาคม ๒๕๔๔ เป็นการมอบหมายงานเป็นการภายใน
ไม่ใช่การบรรจุแต่งตั้งและย้ายข้าราชการ อีกทั้งเป็นงานเฉพาะ
คราวตามความจำาเป็นก็เป็น
ข้อกล่าวอ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะงานผู้ป่วยนอกเป็นภารกิจหลัก
ของทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่
งานชั่วครั้งชั่วคราวหรืองานตามโครงการแต่อย่างใด ประกอบ
กับคำาสั่งสำานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗
ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเพือให้การ
่
ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้าง และการรับผิดชอบ
ในการปฏิบตราชการของหน่วยงานในสังกัดสำานักงานปลัด
ั ิ
กระทรวงสาธารณสุข เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ จึงต้องมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปปฏิบัติหน้าที่
หัวหน้าพยาบาลตามเดิม จึงจะชอบด้วยกฎหมาย และที่ผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ อ้างว่า โรงพยาบาลนาดีได้ผ่านการประเมินการ
พัฒนาคุณภาพ HA จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ
โครงการก็เป็นการให้ข้อมูล
ที่เป็นเท็จ เพราะตามข้อเท็จจริงโรงพยาบาลในจังหวัด
ปราจีนบุรียังไม่ผ่านการประเมิน HA แม้แต่แห่งเดียว เนืองจาก ่
การทีจะผ่านการประเมินดังกล่าวจะต้องได้รบการประเมินผ่านขัน
่ ั ้
ที่ ๓ แต่โรงพยาบาลนาดีผ่านเพียงขั้นที่ ๑ และกำาลังอยู่ใน
- 13. 13
ระหว่างการประเมินขั้นที่ ๒ เท่านั้น การใช้ดุลพินิจของผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ จึงมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการตามที่
กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำา
พิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
ศาลปกครองสูงสุดออกนังพิจารณาคดี โดยได้รบฟัง
่ ั
สรุปข้อเท็จจริงของ
ตุลาการเจ้าของสำานวน และคำาชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำาแถลง
การณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี
ศาลปกครองสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมด
ในสำานวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง
ประกอบแล้ว
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำาแหน่ง
พยาบาลวิชาชีพ ๗ สังกัดโรงพยาบาลนาดี สำานักงาน
สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรีที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑
เรื่อง ย้ายข้าราชการ
โดยให้ผฟองคดีไปดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาล
ู้ ้
วิชาชีพ ๗) กลุมงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและ
่
อัตราเงินเดือนตามตัวไปตั้งจ่าย ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
โรงพยาบาลนาดี ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติงาน
ในหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานในโรง
พยาบาลนาดีเป็นไปด้วย
ความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือ
ลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๕ ร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๒ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนตำาแหน่ง
การปฏิบตงานและลดขันตำาแหน่งผูฟ้องคดีจากหัวหน้าฝ่ายเป็น
ั ิ ้ ้
หัวหน้างาน อันเป็นการกลันแกล้งผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มี
่
/ลงวันที่...
- 14. 14
หนังสือลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๔๕ แจ้งผู้ฟ้องคดีว่า
ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียนแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า
ข้อกล่าวหาดังกล่าว
เกิดความคลาดเคลื่อน เนื่องจากผู้บริหารโรงพยาบาลนาดี ได้
ปรับเปลี่ยนหน้าที่
ความรับผิดชอบเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบริหาร
จัดการภายในโรงพยาบาลนาดี การปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับ
ผิดชอบมีเหตุผลอันสมควร ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง
ตามข้อกล่าวหาแต่ประการใด ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
โรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ให้
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการโรงพยาบาลนาดี โดยให้
ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคำา
สั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕
ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็น
คำาสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ซึงเป็น
่
อำานาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยเฉพาะ จึงขอให้
เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ทั้งสองคำาสั่งดังกล่าว และให้ผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่งให้
ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำารงตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามเดิม
ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็น
ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ว่า คำาสั่งผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ ๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้
ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่
แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เป็นคำา
สั่งทีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระ
ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติให้การ
บรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและการแต่ง
/ที่เกี่ยวกับ...
- 15. 15
ตั้งให้ดำารงตำาแหน่ง ให้ผู้มีอำานาจดังต่อไปนี้เป็นผู้สั่งบรรจุและ
แต่งตั้ง
(๗) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ ๗ ลงมา
ในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ซึงมิใช่หัวหน้าส่วนราชการ
่
ประจำาจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้บังคับบัญชา
เป็นผู้มีอำานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และคำาสั่งสำานักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุข
ที่ ๔๔๐๖/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ เรื่อง มอบ
หมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา กำาหนดว่า ข้อ ๑ ให้
บุคคลผู้ดำารงตำาแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
และลูกจ้างในฐานะผู้อำานวยการกอง คือ ๑.๒ ราชการบริหาร
ส่วนภูมิภาค
๑.๒.๒ ผู้อำานวยการโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน
ขนาด ๓๐ เตียงขึ้นไป ข้อ ๓ การเป็นผู้บังคับบัญชาตามคำาสั่งนี้
หมายความเฉพาะการบังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างของ
หน่วยงานหรือที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานซึ่งตนเป็นผู้อำานวยการ
หรือหัวหน้าของหน่วยงานนั้น ประกอบกับคำาสั่งจังหวัด
ปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ เรื่อง
การมอบอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการ
จังหวัด
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและนายอำาเภอ ปฏิบัติ
ราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า ข้อ ๒ มอบอำานาจให้
รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด
และนายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้
ั ิ
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการ
อนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น
๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสั่งนี้ไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ
ซึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
่
ราชการจังหวัด ได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล
ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ
- 16. 16
การพิจารณาโทษทางวินัย และคำาสังจังหวัดปราจีนบุรที่
่ ี
๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เรือง การมอบ ่
อำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัดให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัด
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัด
และนายอำาเภอปฏิบัติราชการแทนและกำากับดูแล กำาหนดว่า
ข้อ ๒ มอบอำานาจให้
รองผูวาราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดและ
้ ่
นายอำาเภอปฏิบตราชการแทน ดังนี้ ๒.๔ มอบอำานาจให้หัวหน้า
ั ิ
ส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งการอนุญาต การ
อนุมติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำาเนินการอื่น ข้อ ๓ เพื่อ
ั
ให้การปฏิบัติราชการ
ตามคำาสั่งมอบอำานาจบังเกิดผลดี และบรรลุวัตถุประสงค์ที่วาง
ไว้ให้ถือปฏิบัติ
ดังนี้ ๓.๑ การมอบอำานาจตามคำาสังนีไม่รวมถึงการปฏิบตราชการ
่ ้ ั ิ
ซึงผูวาราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
่ ้ ่
ราชการจังหวัดได้แก่ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคล
ที่เกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และ
การพิจารณาโทษทางวินัย
ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มีคำาสั่ง
จังหวัดปราจีนบุรี
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ให้ผู้ฟ้องคดีไปดำารง
ตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๗) (ด้านการ
พยาบาล) กลุ่มงานการพยาบาล โดยตัดโอนตำาแหน่งและอัตรา
เงินเดือน ต่อมา ผูถูกฟ้องคดีที่ ๑ ซึงเป็นผูบงคับบัญชาผูฟ้องคดีมคำา
้ ่ ้ ั ้ ี
สังโรงพยาบาลนาดี
่
ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติ
หน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก ซึ่งตำาแหน่งดังกล่าวมีข้าราชการ
ระดับ ๖ ถือครองอยู่ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็น
ไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล และผู้ถูก
ฟ้องคดีที่ ๑ ได้แต่งตั้งให้ข้าราชการระดับ ๗ รายอื่นมาปฏิบัติ
/และคำาสั่ง...
- 17. 17
หน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลแทนผู้ฟ้องคดี
และให้ข้าราชการระดับ ๗ อีก ๒ คนทำาหน้าที่รองหัวหน้ากลุ่ม
งานการพยาบาล ซึ่งตำาแหน่งรองหัวหน้าดังกล่าวไม่มีกำาหนด
ไว้ในกรอบอัตรากำาลังของโรงพยาบาลนาดี และต่อมา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งโรงพยาบาลนาดีที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลง
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานผู้ป่วยนอก แต่ได้ลด
บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบลง เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ
ว่า โรงพยาบาลนาดีเป็นโรงพยาบาลชุมชนในสังกัด
สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ซึงเป็นราชการส่วนภูมภาค
่ ิ
อำานาจในการบรรจุและแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตั้งแต่ระดับ
้
๗ ลงมา จึงเป็นอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตามมาตรา ๕๒ วรรคหนึ่ง (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒
ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒ และคำาสั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่
๘๗๑/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ทีมอบอำานาจให้ ่
หัวหน้าส่วนราชการประจำาจังหวัดมีอำานาจในการสั่งอนุญาต
การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ
หรือการดำาเนินการอื่น โดยไม่รวมถึงการปฏิบัติราชการ ซึงผู้ ่
ว่าราชการจังหวัดสงวนไว้โดยเฉพาะ และต้องนำาเสนอผู้ว่า
ราชการจังหวัดได้แก่ ข้อ ๓.๑.๔ การบริหารงานบุคคลที่เกี่ยว
กับการบรรจุแต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบ และการ
พิจารณาโทษทางวินัย ดังนัน การทีผถกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสังที่
้ ่ ู้ ู ่
๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ให้ผฟองคดีปฏิบัติหน้าที่
ู้ ้
หัวหน้างานผู้ป่วยนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานของโรงพยาบาล
นาดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างภายในโรง
พยาบาลนาดีมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในหน่วย
งานตามความจำาเป็นและตามอำานาจบังคับบัญชาทีมอยู่ อย่างไร
่ ี
- 18. 18
ก็ตาม แม้การมอบหมายให้เจ้าหน้าทีปฏิบตหน้าทีเป็นการเฉพาะ
่ ั ิ ่
ตามความจำาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ เป็นอำานาจ
ของผู้บังคับบัญชาที่จะกำาหนดได้ แต่การมอบหมายงานดัง
กล่าวจะต้องมีความเหมาะสม
มีเหตุผล และมีกำาหนดระยะเวลาตามสมควร เมื่อข้อเท็จจริง
ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
มีคำาสั่งให้ผู้ฟ้องคดีไปปฏิบัติหน้าที่ในตำาแหน่งที่ตำ่ากว่า
ตำาแหน่งที่ครองอยู่ โดยมิได้กำาหนดระยะเวลาในการปฏิบัติ
หน้าที่ไว้ และให้บุคคลอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ฟ้องคดี ย่อม
แสดงให้เห็นว่าผูถกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ประสงค์จะให้ผฟองคดีดำารง
้ ู ู้ ้
ตำาแหน่งตามคำาสังจังหวัดปราจีนบุรี
่
ที่ ๒๖๕/๒๕๔๑ อีกต่อไป กรณีจึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำาสั่ง
แต่งตั้ง (ย้าย) ผู้ฟ้องคดี คำาสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าวจึง
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่มีอำานาจ
บรรจุแต่งตังบุคคลให้ดำารงตำาแหน่งตังแต่ระดับ ๗ ลงมา ตาม
้ ้
มาตรา ๕๒ วรรคหนึง (๗) แห่งพระราชบัญญัตระเบียบ
่ ิ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบคำาสังจังหวัด ่
ปราจีนบุรี ที่ ๑๗๙๒/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๒
อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
จึงฟังไม่ขึ้น และการที่ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีคำาสั่งที่
๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ แต่งตังเจ้าหน้าทีระดับ ้ ่
ปฏิบตการภายในโรงพยาบาลนาดี โดยให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าที่
ั ิ ู้ ้ ั ิ
หัวหน้างานผูปวยนอกตามคำาสังเดิมทีไม่ชอบด้วยกฎหมายนัน คำา
้ ่ ่ ่ ้
สังของผูถกฟ้องคดีที่ ๑
่ ้ ู
ที่ ๗๖/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ จึงเป็นคำาสั่งที่ไม่
ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
ประเด็นนี้จึงฟังไม่ขึ้น ด้วยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมา
ทีศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่
่
๑ ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลงวันที่
๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ และคำาสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๗๖/๒๕๔๕
/ที่แต่งตั้ง...
- 19. 19
ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๕
ทีแต่งตังและมอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตหน้าทีหวหน้างานผูปวย
่ ้ ู้ ้ ั ิ ่ ั ้ ่
นอก และให้ผถกฟ้องคดีที่ ๑ มอบหมายให้ผฟองคดีปฏิบตงาน
ู้ ู ู้ ้ ั ิ
ในตำาแหน่งหัวหน้าพยาบาลตามคำาสังของผูถกฟ้องคดีที่ ๒ ที่
่ ้ ู
๒๖๕/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๑ ภายในสามสิบวันนับแต่
วันทีคดีถงทีสดนัน ชอบแล้ว
่ ึ ่ ุ ้
พิพากษายืน
นายนพดล เฮงเจริญ
ตุลาการเจ้าของสำานวน
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
นายพีระพล เชาวน์ศิริ
ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
นายไพบูลย์ เสียงก้อง
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
ตุลาการผู้แถลงคดี : นายประนัย
วณิชชานนท์
วันที่อ่าน ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
นาลิณี : ผู้พิมพ์