More Related Content
Similar to การสำรวจแบบสำรวจการใช้โทรศัพท์ของ (20)
การสำรวจแบบสำรวจการใช้โทรศัพท์ของ
- 1. คณะผู้จัดทำ
1. นายชิษณุชา อองตัน ชั้น ม.6/2 เลขที่ 4
2. นางสาวณัฐพร อันฤทธิ์ชั้น ม.6/2 เลขที่ 10
3. นางสาวนฤมล กลมเกลียว ชั้น ม.6/2 เลขที่ 11
4. นางสาววรรณิศา แสนคา ชั้น ม.6/2 เลขที่ 16
5. นางสาวมุทิตา กุระกัน ชั้น ม.6/2 เลขที่ 23
6. นางสาวระลินทิพย์นนท์ขุนทด ชั้น ม.6/2 เลขที่ 29
7. นางสาวสุพนิต อธิการนนท์ชั้น ม.6/2 เลขที่ 32
8. นางสาวสุพัตรา บุราญ ชั้น ม.6/2 เลขที่ 35
9. นางสาวปานดวงใจ บุระตะ ชั้น ม.6/2 เลขที่ 40
- 2. เนื่องจากนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา ส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือถือ ( Smart phone ) ใช้กันทุก
คน การใช้โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าสาคัญมากหากไม่มีการสื่อสารก็จะเกิดความไม่รู้
เหตุการณ์ ข่าวสารบ้านเมืองว่ามีความคืบหน้าอย่างไรทั้งนี้โทรศัพท์มือถือยังมีแอพพลิเคชั่น
มากมาย เช่น Facebook Instagram Line Messenger Youtube อื่นๆ
- 3. สรุปว่าการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 128 คน คิดเป็น
เปอร์เซ็นต์ 55.7% เป็นเพศชาย จานวน 102 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 44.3 % และส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
จานวน 69 คน 30 % ต่อมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 50 คน 21.7 % ต่อมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
จานวน 30 คน 13 % ต่อมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 30 คน 13 % ต่อมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
จานวน 27 คน 11.7% และเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 24 คน 10.4%
- 4. ค่าเฉลี่ยด้านการสื่อสาร มีค่าเท่ากับ 3.58 อยู่ในระดับมาก ด้านการบันเทิง มีค่าเท่ากับ 3.69 อยู่ในระดับ มากด้านสังคมออนไลน์
มีค่าเท่ากับ 3.27 อยู่ในระดับ ปานกลาง ด้านการศึกษาหาความรู้ มีค่าเท่ากับ 4.14 อยู่ในระดับ มาก
- 5. เนื่องจากนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา ส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือถือ ( Smart phone ) ใช้กันทุกคน
การใช้โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าสาคัญมากหากไม่มีการสื่อสารก็จะเกิดความไม่รู้
เหตุการณ์ ข่าวสารบ้านเมืองว่ามีความคืบหน้าอย่างไรทั้งนี้โทรศัพท์มือถือยังมีแอพพลิเคชั่น
มากมาย
การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละวันนั้นจึงเป็ นสาเหตุให้คณะผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษา พฤติกรรมการใช้
โทรศัพท์ของนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา เพื่อได้รับรู้ว่านักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยามีความ
จาเป็ นใช้โทรศัพท์ในด้านในด้านต่างๆ มากน้อยเพียงใด สามารถบ่งชี้ได้ถึงแบบสารวจที่คณะได้
จัดทาขึ้นหากมีการใช้โทรศัพท์มากแต่หากไม่เกิดประโยชน์ทางคณะผู้วิจัยจะควบคุมและรณรงค์ให้
รู้จักใช้รู้จักประโยชน์ของมือถือให้มากขึ้น
- 8. ขอบเขตด้ำนประชำกร
ประชำกร
จานวนนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ จานวน 1800 คน
กลุ่มตัวอย่ำง
นักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ จานวน 320 คน
ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ
เรื่องที่จะศึกษาในครั้งนี้ได้กาหนดแบบสอบถามขึ้นมา และได้กาหนดขอบเขตของเนื้อหำไว้ ดดังน้
-การใช ้โทรศัพท์มือถือของนักเรียนในแต่ละวัน
-การใช ้โทรศัพท์มือถือเกิดประโยชน์อย่างไร
-การศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลของนักเรียนในการทางานมีมำกน้อยเพยงใด
- 9. ระยะเวลำในกำรดำเนินงำน
การศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 วันที่ 1 พฤศจิกายน
นิยำมศัพท์เฉพำะ
-นักเรียน หมายถึง นักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ
-โทรศัพท์มือถือ หมายถึง เครื่องมือสื่อสารที่นักเรียนใช ้กันในชีวิตประจาวันโดยสามารถใช้ศึกษาหาความรู้
ทางอินเทอร ์เน็ต เครื่องมือที่ช่วยในความสะดวกสบายต่อผู้ใช ้งาน
-แอพพลิเคชั่น หมายถึง โปรแกรมอานวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้าน
ตอบสนองต่อผู้ใช ้งานเป็นอย่างมาก
-การใช ้โทรศัพท์ในแต่ละวัน หมายถึง การใช ้งานจากโทรศัพท์ของแต่ละตัวบุคคลว่ามีการใช ้งานมาก น้อย
- 10. ในการวิจัยครั้งนี้ คณะผู้จัดทาได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
แบบสอบถาม คือ เครื่องมือชนิดหนึ่งที่สร ้างขึ้นมาเพื่อวัดความคิดเห็นต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของคาถามเป็นชุดๆ
เพื่อวัดสิ่งที่ต้องการวัด ใช ้วัดทางด้านจิตพิสัย โดยการสร ้างแบบสอบถามของเรื่อง การใช ้โทรศัพท์มือถือในแต่ละวันของ
นักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา มีดังนี้
1. กาหนดจุดมุ่งหมายของแบบสอบถาม สร้างแบบสอบถามจะต้องระบุจุดมุ่งหมายของแบบสอบถามให้ชัดเจน ระบุ
ได้ว่าแบบสอบถามจะถูกนาไปใช ้ในเรื่องอะไร
2. กาหนดประเด็นหลัก หรือพฤติกรรมหลักที่จะวัดให้ครบถ้วนครอบคลุมว่าจะมีประเด็นอะไรบ้าง หรืออาจเรียกว่า
เป็นการกาหนดกรอบแนวคิดหรือโครงสร ้างแบบสอบถาม
3. กาหนดชนิดหรือรูปแบบของแบบสอบถามโดยเลือกให้เหมาะสมกับเรื่องที่จะวัดและลักษณะของผู้เรียน
4. กาหนดจานวนข้อความคาถาม โดยกาหนดแบ่งออกเป็น4กลุ่มย่อยๆ แต่ละแบบสอบถามสามารถคลุมประเด็น
หลัก และประเด็นย่อยอะไรบ้าง
5. สร ้างข้อคาถามตามจุดมุ่งหมาย ฃนิดหรือรูปแบบ จานวนข้อในประเด็นต่างๆที่กาหนดไว้ตามโครงสร ้างของ
แบบสอบถาม
6. นาแบบสอบถามไปสร ้าง คิวอาร ์โค้ดโดยใช ้แอพพลิเคชั่นLINE ในการแสกนทาแบบสอบถามควรตรวจทานเพื่อ
การแก้ไข ปรับปรุง โดยแบ่งออกเป็น2ตอนคือ
6.1) ตอนแรกตรวจทานโดยผู้สร้างแบสอบถามเอง
6.2) ตอนที่สอง ตรวจสอบพิจารณาให้คาแนะนาและวิจารณ์โดยครูผู้สอน
7. นาแบบสอบถามไปทดลอง การนาไปทดลองใช ้ควรนาไปทดลองกับกลุ่มที่มีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกับกลุ่ม
- 14. ทางคณะวิจัยได้สารวจและรวบรวมข้อมูลมาจากแบบสอบถามมีการแสกนคิวอาร ์โค้ด ในแอพฯ
LINE โดยให้นักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยาทาแบบสอบถามทางที่คณะวิจัยได้จัดทาขึ้นตามลิงค์ใน
คิวอาร ์โค้ด แบบสอบถามที่ทางคณะวิจัยได้จัดทาขึ้นตามลิงค์ในคิวอาร ์โค้ด แบบสอบถามของ
ทางคณะวิจัยมีตัวอย่างในการทาแบบสอบถาม2ส่วนเป็ นแบบสอบถามโดยกดคาตอบลงในช่อง
ของแต่ละคาถามตามความเป็ นจริงระบุเพศตนเองว่าเป็นชายหรือหญิง ระบุระดับชั้นที่ศึกษาใน
โรงเรียนศรีวิไล แบ่งออกเป็ นระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6ตอบ
- 18. จากตารางได้ข้อสรุปว่าการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ
ส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิง จานวน 128 คน คิดเป็ นเปอร ์เซ็นต์55.7% เป็ นเพศชาย จานวน
102 คน คิดเป็ นเปอร ์เซ็นต์44.3 % และส่วนใหญ่เป็ นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จานวน
69 คน 30 % ต่อมาเป็ นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 50 คน 21.7 % ต่อมาเป็ น
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 30 คน 13 % ต่อมาเป็ นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
จานวน 30 คน 13 % ต่อมาเป็ นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 27 คน 11.7% และ
เป็ นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 24 คน 10.4% ค่าเฉลี่ยด้านการสื่อสาร มีค่าเท่ากับ
3.58 อยู่ในระดับมาก ด้านการบันเทิง มีค่าเท่ากับ 3.69 อยู่ในระดับ มากด้านสังคมออนไลน์ มี
ค่าเท่ากับ 3.27 อยู่ในระดับ ปานกลาง ด้านการศึกษาหาความรู้ มีค่าเท่ากับ 4.14 อยู่ใน
ระดับ มาก
ปัญหาและอุปสรรคในการค้นคว้า –
ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
การประเมินผลงานชิ้นนี้สามารถนาไปต่อยอดได้อีก เช่น นาแบบสารวจการใช้
โทรศัพท์มือถือของบุคลอื่นๆ ไปทดสอบหรือสอบถาม ประชานชนทั่วประเทศ