More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 253801
Similar to งานนำเสนอ1 253801 (20)
งานนำเสนอ1 253801
- 2. ใบงำนที่2
ควำมหมำยและควำมสำคัญของโครงงำนคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและ
เนื้อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้
เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมี
ความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้ าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์
จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรียน
การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์
คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
- 3. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มา
ประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทาง
วิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการ
พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนา
โปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่
ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้
คาปรึกษาของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรู้ความชานาญ และมีทักษะ
ในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่า
อื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
-เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ
-ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
-กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
-ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
-สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาก
ขึ้น
- 5. ใบงานที่3
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ำยของโครงงำน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน
หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผล
ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้
จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
- 8. ใบงานที่ 4
โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม
บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคาถามคาตอบไว้
พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่า
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน
แบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขา
คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจ
คัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
- 9. ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน
และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์
ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน
เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดย
ผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น
การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลัก
ภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 10. เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ
หน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน
แบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน
ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้
สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็น
หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลัก
ภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน
โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก
โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
- 12. ใบงำนที่ 5
โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำเครื่องมือ”
ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย
กลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช้วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอนซึ่งอาจเป็น
การพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้
สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก
มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล
หลักภาษาไทยและสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของ
คนไทยพวน โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรม
สานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
- 15. ใบงำนที่ 6
โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี”
โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์
ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริง
ได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร
ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด
แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏี
ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้
ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่อง
นั้นๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว กำร
ทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำ ปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็น
ต้น
- 16. ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี”
1.กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเลี้ยงปลำนิลด้วยคอมพิวเตอร์
2.กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเพำะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3.กำรทำนำยอุณหภูมิจำกข้อมูลที่ผ่ำนมำ
4.กำรทดลองผสมสำรเคมีต่ำงๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
5.ปัจจัยต่ำงๆ กับกำรเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
6.ผลกำรปลูกข้ำวในสภำวะแวดล้อมที่ต่ำงกัน
7.กำรเปรียบเทียบเทคนิคของกำรย่อขนำดแฟ้ มข้อมูล
8.โปรแกรมสังเครำะห์เสียงพูดเบื้องต้น
9.โปรแกรมจำลองกำรทำงำนของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- 17. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้ เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ชวยในกำร จำลอง
กำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่สำมำรถ ทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และ
เป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่อง ที่ตอง
กำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยูในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งกำร
จำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมี
ควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้นกำรทำโครงงำนประเภทนี้ มีจุดสำระคัญอยูที่ผู้ทำต้องมีควำมรูในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี
ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี
1. กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆ ในกำรเลี้ยงปลำนิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. กำรทดลองปัจจัยต่ำงๆในกำรเพำะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. กำรทดลองผสมสำรเคมีต่ำงๆด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่ำงๆกับกำรเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลกำรปลูกข้ำวในสภำวะแวดล้อมที่ต่ำงกัน
- 19. ใบงำนที่ 7
โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน”
ควำมหมำยโครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน
โครงงำนประยุกต์ใช้งำน หมายถึง โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ
ประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน
อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสีและซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้าง
สิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 20. มีการนาเอามัลติมีเดียไปประยุกต์ใช้งานในหลายๆ ด้าน เช่น
·ด้านการศึกษา
- ด้านการศึกษานั้นได้นาเอามัลติมีเดียไปพัฒนาใช้และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดเครื่องมือช่วย สอนต่างๆ
มากมาย และเกิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่วยสอนในรูปแบบต่างๆ
- สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยเป็นเครื่องมือช่วย รวบรวม วิเคราะห์ ออกแบบ สร้าง จัดการ ใช้งานและ
ประเมินผล
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ลักษณะมัลติมีเดีย
- เผยแพร่การเรียนบนเว็บ เช่น e-Learning เป็นต้น
- เกิดการเรียนรู้ทางไกล
· ด้านการฝึกอบรม
- มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน เรียกว่า e-Training มีส่วนช่วยให้พัฒนาศักยภาพทาง บุคลากรเป็น
อย่างมาก
- ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา ข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา
- 21. · ด้านความบันเทิง
- มัลติมีเดียได้รับความแพร่หลายในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่น ภาพยนต์ คาราโอเกะ เกมส์ ข่าว ละคร เป็นต้น
- เว็บไซต์ทีวี
- เกมส์ออนไลน์
· ด้านธุรกิจ มีความสะดวกเป็นอย่างมาก
- นาเสนองาน นาเสนอสินค้า
- ประชุมทางไกล ทาให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
· ด้านการประชาสัมพันธ์ มัลติมีเดียได้เป็นปัจจัยหลักสาคัญ
- นาเสนอ และเผยแพร่ข่าวสาร
- การโฆษณาและการถ่ายทอด
- ตู้ประชาสัมพันธ์
· ด้านความเป็นจริงเสมือน
- ความจริงเสมือนเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของวงการเทคโนโลยีมัลติมีเดีย สามารถเลียนแบบการเรียนรู้ และสัมผัสผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกแห่งความเป็น
จริงเสมือน
· ด้านโมบายเทคโนโลยี ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น
- เทคโนโลยีมัลติมีเดียในโทรศัพท์เคลื่อนที่ รูปแบบการใช้โมบายเทคโนโลยี M-Billing M-Commerce M-Banking M-
Entertainment M-Messaging
- 23. ใบงำนที่ 8
โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์”
โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์ ”
โครงงานพัฒนาเกมโครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้
หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่าง
มีหลักการโครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้
เล่น พร้อมทั้งให้ความรู ้้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่
และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆตัวอย่างโครงงานการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เค้าโครงโครงงาน
กราฟประยุกต์เป็นลายผ้าด้วยโปรแกรม GSP
- 24. โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูป
ซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็น
ต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้
ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุม
ต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและ
ด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพ
แจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็นต้น
- 26. ใบงานที่ 9 ปัญหำและควำมจำเป็นในกำรทำโครงงำน
1. ไปเที่ยวศูนย์กำรค้ำ เพื่อแก้ปัญหา การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน และซื้อเครื่องใช้ประจาตัว
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อนและได้เครื่องใช้
ประจาตัว
2. ทำควำมสะอำดบ้ำน เพื่อแก้ปัญหา เมื่อบ้านสกปรก ต้องการรักษาความสะอาด และความน่าอยู่
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อให้บ้านของเราดูสะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
3. ดูทีวี เพื่อแก้ปัญหา เรียนมาเหนื่อยๆ อยากพักผ่อนเพื่อคลายความเครียด
ได้ประโยชน์ คือ ได้ความผ่อนคลาย ก่อนที่จะไปทาอย่างอื่น มี
อารมณ์ที่ร่าเริง และ ยังทาให้สมองของเราปลอดโปล่ง โล่งสบายมากยิ่งขึ้น
4. ซื้อจักรยำนยนต์ เพื่อแก้ปัญหา การเดินทางที่มีระยะทางที่ไกลหรือต้องเผชิญกับปัญหารถติด
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความยากลาบาก และสะดวกสบายใน
การเดินทาง
5. ทำนำ เพื่อแก้ปัญหาการเกิดความโหยหิว ต้องการที่จะมีอาหารทานตลอด
ปี
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อกาจัดความหิว ได้ข้าวที่มากพอที่จะขายเพื่อ
หารายได้ หรือนา ข้าวนั้นมารับประทานภายในครอบครัว
- 27. 6. มำเรียนหนังสือ เพื่อแก้ปัญหา การไม่เข้าใจกับเรื่องเรียนต่างๆ ในหลายๆวิชา
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อใหเกิดความรู้ความเข้าใจ กับสาขาวิชาที่ได้เรียนมาและ
นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
7. ตั้งใจเรียน เพื่อแก้ปัญหาความขี้เกียจ ความไม่เอาใจใส่ในความรู้ ที่อาจารณ์ได้สั่งสอน
ได้ประโยชน์ คือ ได้รับความรู้อย่างเต็มเปี่ยม และทาให้ตัวเรามีความขยัน
ความ เอาใจใส่ในการเรียนมากยิ่งขึ้น
8. เรียนภำษำอังกฤษ เพื่อแก้ปัญหาการสนทนากับชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยของเรา
ได้ประโยชน์ คือ นาความรู้ที่เราเรียนภาษาอังกฤษมาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้นั้น
ก็คือ การนาภาษาอังกฤษไปพูดไปสนทนากับชาวต่างชาติให้มากๆ เพื่อที่จะใช้เรานั้น มีความมกล้าและกล้าสนทนา
กับชาวต่างชาติถึงแม้ว่าจะพูดถูกหรือผิด
9. เรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาการใช้งานที่ยังไม่เข้าใจในโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ต่างๆ
ได้ประโยชน์ คือ ได้เรียนรู้ถึงการใช้การเข้าถึงโปรแกรมต่างๆในการใช้
คอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน เพื่อที่จะได้สร้างโปรแกรม สร้างเว็บไซค์ต่างๆได้
10. สมัครงำน เพื่อแก้ปัญหาแรงงานไม่มีที่ทางานเมื่อจบการศึกษาแล้ว .
ได้ประโยชน์ คือ ได้มีที่ทางาน ที่เลี้ยงชีพตนเอง และครอบครัวในภายภาค
หน้า ทาให้มีการงานการเงินเก็บไว้ใช้ให้ลูกให้หลานในอนาคตต่อไป
- 29. ใบงำนที่ 10 เรื่อง คิดวิเครำะห์สร้ำงทำงเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ให้นักเรียนเลือกกระบวนกำรหรือกิจกรรมที่ต้องน่ำจะทำได้ เมื่อทำกิจกรรมต่อไปนี้
1. ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บ้ำน
วิธีที่ 1 ปลูกในกระถำงดินเผำ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ... พื้นที่มีจากัด ...
วิธีที่ 2 ปลูกในกระบะไม้
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นไม้ดอกที่สามารถปลูกในกระบะได้
วิธีที่ 3 ปลูกในร่องสวน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ .....เป็นไม้ดอกที่สามารถเจริญเติบโตในดินร่วน และยึดเกาะดิน
ได้ดี
วิธีที่ 4 ปลูกพื้นที่ข้ำงบ้ำน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ .....เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงาม
- 30. 2. เก็บอำหำรให้อยู่ได้นำน ๆ
วิธีที่ 1 ดองเค็ม
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นอาหารที่สามารถดองได้
วิธีที่ 2 ผึ่งลมให้แห้ง
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นผักที่เน่าเสียง่าย
วิธีที่ 3 แช่แข็ง
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ....เป็นอาหารพวกเนื้อสัตว์
วิธีที่ 4 ห่อไว้ในผ้ำชื้นๆ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ..เป็นพวกผักกาด ต้นหอม กะหล่าปลี
- 31. 3. ตกแต่งห้องเรียนให้สวยงำม
วิธีที่ 1 บริเวณหน้ำห้องเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ .....เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
วิธีที่ 2 บริเวณหลังห้องเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นสิ่งที่ใช้พื้นที่น้อย
วิธีที่ 3 บริเวณนอกห้องเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นสิ่งที่มีความสวยงาม
วิธีที่ 4 บริเวณโต๊ะเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นสิ่งที่ให้ความรู้
- 32. 4.ดูแลสุขภำพของตนเอง
วิธีที่ 1 ออกกำลังกำย
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ..เป็นการออกกาลังกายที่สามารถที่บ้านได้
วิธีที่ 2 รับประทำนอำหำรให้ครบ 5 หมู่
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน
วิธีที่ 3 หลับผักผ่อนให้เพียงพอ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ..ใช้เวลานอนที่เหมาะสมกับชีวิตประจาวัน
วิธีที่ 4 ใส่เสื้อผ้ำที่สะอำด
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...ต้องไม่เป็นเสื้อผ้าที่หมักหมม
- 34. ใบงำนที่ 11 เรื่อง กำหนดและลำดับขั้นตอนกำรปฏิบัติ
ให้นักเรียนเรียงลำดับขั้นตอนกำรทำงำนจำกกิจกรรมที่กำหนดให้ต่อไปนี้ (สำมำรถสืบค้นจำกแหล่ง
เรียนรู้ ได้)
1. กำรสำรวจสภำพน้ำที่คูเมือง
ขั้นที่ 1 เตรียมเครื่องมือทีใช้ในสารวจ ได้แก่ เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้า อุปกรณ์สาหรับเก็บตัวอย่าง
น้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิเคราะห์ (ทั้งในส่วนของภาคสนามและห้องปฏิบติการ)
ขั้นที่ 2 เดินทางไปที่คูเมือง ตาแหน่งที่ 1 ด้านทิศเหนือด้วยรถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องมือสารวจ
ขั้นที่ 3 ลงมือทาการสารวจสภาพน้า โดยการเก็บตัวอย่างน้า เพื่อตรวจวัดดัชนีคุณภาพน้า 9 ดัชนี
ได้แก่ ความเป็นกรด-ด่าง (pH), ออกซิ เจนละลายในน้า (DO), ของแข็งทั้งหมด
(TS), แบคทีเรียกลุ่มฟีคัล (Fecal Coliforms), ไนเตรท , ฟอสเฟต , ความขุ่น
(Turbidity), อุณหภูมิของน้า(Temp), ค่าบีโอดี (BOD)
ขั้นที่ 4 ทาการสรุปผลการสารวจสภาพน้า โดยใช้ดัชนีคุณภาพน้า (Water Quality
Index : WQI) เป็นตัวบ่งบอกสภาพน้า
- 35. 2. กำรทำร่มกระดำษสำที่บ่อสร้ำง
ขั้นที่ 1 หาข้อมูลเกียวกับสถาที่และการเดินทาง พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลการทาร่มกระดาษสาไว้
บ้าง เพื่อจะสอบถามข้อมูลการทาร่มกระดาษสาที่จะนามาซึงข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ขั้นที่ 2 เตรียมอุปกรณ์ ได่แก่ อุปกรณ์การจดบันทึก อุปกรณ์บนทึกเสียงและ
ภาพ
ขั้นที่ 3 ออกเดินทางไปยังสถานที่ทาร่มกระดาษสา(ที่บ่อสร้าง)
ขั้นที่ 4 ทาการศึกษาการทาร่มกระดาษสา และสอบถามข้อมูลจากผู้รู้ในการทาร่มกระดาษสา
พร้อมเก็บภาพ
ขั้นที่ 5 ทาการสรุปองค์ความรู้ ที่ได้
- 36. 3. กำรตรวจคุณภำพดิน
ขั้นที่ 1 กาหนดสถานที่ที่จะทาการตรวจคุณภาพดิน
ขั้นที่ 2 เตรี ยมเครื องมือทีใช้ในการตรวจคุณภาพดิน ได้แก่ เครื่องมือตรวจคุณภาพดิน
ขั้นที 3 เดินทางไปยังพื้นที่ที่จะทาการตรวจคุณภาพดิน โดยทาการตรวจเนื้อดิน ปฏิกิริยาของ
ดิน ปริมาณของธาตุอาหารพืชที่เป็นประโยชน์ได้ในดิน
ขั้นที่ 4 ทาการสรุปผลการตรวจคุณภาพดิน