SlideShare a Scribd company logo
1 of 17
ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียล โดย ครูสุจินต์  เย้าดุสิต โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช
[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object],[object Object]
สมบัติของเลขยกกำลัง ทฤษฎีบท   เมื่อ  a , b  เป็นจำนวนจริงที่ไม่เป็นศูนย์ และ  m , n  เป็นจำนวนเต็ม 1)  a m .a n  = a m+n   2)  (a m ) n  = a mn   3)  (ab) n  = a n b n 4)  (a / b) n  = a n / b n   5)  a m / a n  = a m-n ตัวอย่าง   จงหาค่าของ   (2 -3 x 2 y 4 /2 x -1 ) -2
2 .   รากที่  n  ในระบบจำนวนจริง และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ บทนิยาม   เมื่อ  x , y  เป็นจำนวนจริง  y  เป็นรากที่สองของ  x  ก็ต่อเมื่อ  y 2  = x สมบัติของรากที่สอง 1)  เมื่อ  x    0   , y    0 ตัวอย่าง   จงหาค่าของ  วิธีทำ  2)   เมื่อ  x    0   , y > 0
3.  เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ บทนิยาม   เมื่อ  a  เป็นจำนวนจริง  n  เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า  1  และ  a  มีรากที่  n ตัวอย่าง   จงทำให้ส่วนไม่ติดกรณฑ์ บทนิยาม   เมื่อ  a  เป็นจำนวนจริง  p , q  เป็นจำนวนเต็มที่  (p,q) = 1 , q > 0  และ  R  โดยที่  p < 0  แล้ว  a  ต้องไม่เป็นศูนย์
4.  ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล บทนิยาม   ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล คือ  f = {(x,y)  R  R  /  y = a x  , a>0 , a  1} y   ข้อสังเกต   1)  กราฟของ  y = a x   ผ่านจุด  (0,1)  เสมอ   2)  ถ้า  a > 1  แล้ว  y = a x   เป็นฟังก์ชันเพิ่ม 3)  ถ้า  0  < a < 1  แล้ว  y = a x   เป็นฟังก์ชันลด 4)  y = a x   เป็นฟังก์ชัน  1-1  จาก  R  ไป  R + 5 )  โดยสมบัติของฟังก์ชัน  1-1  จะได้  a x  = a y   ก็ต่อเมื่อ   x = y
5.  ฟังก์ชันลอการิทึม จาก  f = {(x,y)   R  R  /  y = a x  , a>0 , a  1}  ซึ่งเป็นฟังก์ชัน  1-1  จาก  R  ไป  R + จึงมีฟังก์ชันอินเวอร์สคือ  f -1  = {(x,y)   R +  R  /  x = a y  , a>0 , a  1}  จาก  x = a y   สามารถเขียนในรูป  y = f(x)  ได้ โดยกำหนดเป็น  y = log a x เช่น  9  = 3 2   เขียนในรูปลอการิทึมเป็น  2  = log 3 9 32 = 2 5  เขียนในรูปลอการิทึมเป็น  5 = log 2 32 บทนิยาม   ฟังก์ชันลอการิทึมคือฟังก์ชันที่เขียนอยู่ในรูป f = {(x,y)   R +  R  /  y = log a x , a>0 , a  1}  เช่น  y = log 2 x  , f(x) = log 5 x
y x ข้อสังเกต   1)  กราฟของ  y = log a x  ผ่านจุด  (1,0)  เสมอ 2)  ถ้า  a > 1  แล้ว  y = log a x  เป็นฟังก์ชันเพิ่ม   ถ้า  0  < a < 1  แล้ว  y = log a x  เป็นฟังก์ชันลด 3)  y = log a x  เป็นฟังก์ชัน  1-1  จาก  R +   ไปทั่วถึง  R 4)  โดยสมบัติของฟังก์ชัน  1-1  จะได้  log a x = log a y  ก็ต่อเมื่อ  x = y
สมบัติของลอการิทึม เมื่อ  a , M , N  เป็นจำนวนจริงบวกที่  a   1  และ  k  เป็นจำนวนจริง 1)  log a MN  =  log a M + log a N 2)  log a  M /  N = log a M – log a N 3)  log a  M k   =  k log a M 4)  log a  a  =  1 5)  log a  1  =  0 6)  log a kM = 1 / k log a M 7)  log b  a  =  1 /  log a b
6.  การหาค่าของลอการิทึม ลอการิทึมสามัญ  หมายถึงลอการิทึมฐาน  10   ซึ่งนิยมเขียนโดยไม่มีฐานกำกับ เช่น  log 10 7  เขียนแทนด้วย  log 7 log 10 15  เขียนแทนด้วย  log 15 พิจารณาค่าของลอการิทึมของจำนวนเต็มที่สามารถเขียนในรูป  10 n   เมื่อ  n   I  log 10  = log 10 1  = 1 log 100 = log 10 2  = 2 log 1000 = log 10 3  = 3 ดังนั้น  log 10 n  = n
จำนวนจริงบวก  N   ใดๆ สามารถเขียนในรูป  N 0 x 10 n   ได้เสมอ เมื่อ  1  < N 0 <10  และ  n  เป็นจำนวนเต็ม   เนื่องจาก  N  =  N 0 x 10 n ดังนั้น  log N  =  log (N 0 x 10 n ) =  log N 0 + log 10 n =  log N 0  + n log N 0   เรียกว่า แมนทิสซา  (mantissa)  ของ  log N n  เรียกว่า แคแรกเทอริสติก  (characteristic)  ของ  log N
ตัวอย่าง  จงหาค่าของ  log 45 2 0   พร้อมทั้งบอก แมนทิสซาและแคแรกเทอริสติก วิธีทำ   เนื่องจาก  log 45 2 0  =  log (4.5 2 x 10 3 ) =  log 4.5 2  + log 10 3 =  0.65 51  + 3 =  3.6542 ดังนั้น  log 4510  =  3.65 51 แมนทิสซาของ  log 45 2 0  คือ  0.6551 แคแรกเทอริสติกของ  log 45 2 0  คือ  3
แอนติลอการิทึม ตัวอย่าง   กำหนดให้  log N = 2.5159  จงหาค่า  N วิธีทำ   เนื่องจาก  log N  =  2.5159 =  0.5159 + 2 =  log 3.28 + log 10 2 =  log (3.28 x 10 2 ) =  log 328 ดังนั้น  N  =  328
7.  การเปลี่ยนฐานของลอการิทึม กำหนดให้  y  =  log b x จะได้   x  =  b y log a  x  =  log a  b y log a  x  =  y log a  b y  = ดังนั้น  log b x  =   ตัวอย่าง   จงหาค่าของ  log 2 24
ลอการิทึมธรรมชาติ  (Natural logarithms) ลอการิทึมธรรมชาติ คือลอการิทึมฐาน  e  เมื่อ  e  เป็นสัญลักษณ์แทนจำนวนอตรรกยะ ซึ่งมีค่าประมาณ  2.7182818  หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  “ ลอการิทึมแบบเนเปียร์ ”   (Napierian Logarithms)   ในการเขียนลอการิทึมธรรมชาติจะไม่นิยมเขียนฐานกำกับ ดังนี้ log e x  เขียนแทนด้วย  ln x log e 3  เขียนแทนด้วย  ln 3 log e 20  เขียนแทนด้วย  ln 20 การหาค่าลอการิทึมธรรมชาติทำได้โดยการเปลี่ยนฐานให้เป็นลอการิทึมสามัญ ซึ่ง  log e = log 2.7182818 = 0.4343 ตัวอย่าง   จงหาค่าของ  ln 25
8.  สมการเอ็กซ์โพเนนเชียลและสมการลอการิทึม สมการเอ็กซ์โพเนนเชียล  คือสมการที่มีตัวแปรเป็นเลขชี้กำลัง ในการหาคำตอบของสมการ ทำได้โดยใช้สมบัติของฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียลและสมบัติของฟังก์ชันลอการิทึม ตัวอย่าง   จงหาเซตคำตอบของสมการ  2 x .2 2x+1  = 4 x-2 วิธีทำ   2 x+2x+1   =  (2 2 ) x-2 2 3x+1   =  2 2x-4 จะได้  3x+1  =  2x-4 x  =  -5 ดังนั้น  คำตอบของสมการ คือ  {-5} ตัวอย่าง   จงหาเซตคำตอบของสมการ  4 x  + 2 x+1  – 24 = 0
สมการลอการิทึม  คือสมการที่มีลอการิทึมของตัวแปร การหาคำตอบของสมการทำได้ โดยใช้สมบัติของฟังก์ชันลอการิทึม ตัวอย่าง   จงหาเซตคำตอบของสมการ  log 2 (x-2) + log 2 (x-3) = 1 วิธีทำ   log 2 (x-2) + log 2 (x-3) = 1 log 2 (x-2)(x-3)  =  log 2 2 จะได้  (x-2)(x-3)  =  2 x 2 - 5x + 4  =  0 (x-1)(x-4)  =  0 x  =  1 , 4 ดังนั้น  คำตอบของสมการ   คือ  {4}  เพราะว่า เมื่อตรวจคำตอบ  x = 1  หาค่าไม่ได้

More Related Content

What's hot

ฟังก์ชันประกอบ
ฟังก์ชันประกอบฟังก์ชันประกอบ
ฟังก์ชันประกอบY'Yuyee Raksaya
 
สรุปความน่าจะเป็น
สรุปความน่าจะเป็นสรุปความน่าจะเป็น
สรุปความน่าจะเป็นkrulerdboon
 
ฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นY'Yuyee Raksaya
 
พีชคณิตของฟังก์ชัน
พีชคณิตของฟังก์ชันพีชคณิตของฟังก์ชัน
พีชคณิตของฟังก์ชันY'Yuyee Raksaya
 
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรม
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรมสรุปสูตร ลำดับและอนุกรม
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรมPatteera Praew
 
ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)kroojaja
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมguestc3a629f6
 

What's hot (11)

Expo
ExpoExpo
Expo
 
ฟังก์ชันประกอบ
ฟังก์ชันประกอบฟังก์ชันประกอบ
ฟังก์ชันประกอบ
 
Pat1 expo&log
Pat1 expo&logPat1 expo&log
Pat1 expo&log
 
Function3
Function3Function3
Function3
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
สรุปความน่าจะเป็น
สรุปความน่าจะเป็นสรุปความน่าจะเป็น
สรุปความน่าจะเป็น
 
ฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้นฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟังก์ชันเชิงเส้น
 
พีชคณิตของฟังก์ชัน
พีชคณิตของฟังก์ชันพีชคณิตของฟังก์ชัน
พีชคณิตของฟังก์ชัน
 
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรม
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรมสรุปสูตร ลำดับและอนุกรม
สรุปสูตร ลำดับและอนุกรม
 
ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
 

Similar to 7

Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Chay Nyx
 
Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Chay Nyx
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมguestc3a629f6
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมguest5ec5625
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันJiraprapa Suwannajak
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005CUPress
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005CUPress
 
บทที่ 2 อนุกรม
บทที่ 2 อนุกรมบทที่ 2 อนุกรม
บทที่ 2 อนุกรมpimxo19
 
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมaass012
 
กฎของเลขยกกำลัง
กฎของเลขยกกำลังกฎของเลขยกกำลัง
กฎของเลขยกกำลังNiwat Namisa
 
ฟังก์ชัน1
ฟังก์ชัน1ฟังก์ชัน1
ฟังก์ชัน1Inmylove Nupad
 
Sequence and series 01
Sequence and series 01Sequence and series 01
Sequence and series 01manrak
 
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6 สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6 sensehaza
 

Similar to 7 (20)

Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)
 
Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)Expor&log1 (1)
Expor&log1 (1)
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึมการวิเคราะห์อัลกอริทึม
การวิเคราะห์อัลกอริทึม
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005
 
บทที่ 2 อนุกรม
บทที่ 2 อนุกรมบทที่ 2 อนุกรม
บทที่ 2 อนุกรม
 
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
 
กฎของเลขยกกำลัง
กฎของเลขยกกำลังกฎของเลขยกกำลัง
กฎของเลขยกกำลัง
 
Real
RealReal
Real
 
ฟังก์ชัน1
ฟังก์ชัน1ฟังก์ชัน1
ฟังก์ชัน1
 
Mo 5
Mo 5Mo 5
Mo 5
 
Sequence and series 01
Sequence and series 01Sequence and series 01
Sequence and series 01
 
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6 สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
 

More from beer04875

ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชน
ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชนศาสตร์ภาครัฐ+เอกชน
ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชนbeer04875
 
Biomolecules 2551 (student edition)
Biomolecules 2551 (student edition)Biomolecules 2551 (student edition)
Biomolecules 2551 (student edition)beer04875
 

More from beer04875 (8)

ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชน
ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชนศาสตร์ภาครัฐ+เอกชน
ศาสตร์ภาครัฐ+เอกชน
 
3
33
3
 
2
22
2
 
6
66
6
 
5
55
5
 
Body
BodyBody
Body
 
Vector
VectorVector
Vector
 
Biomolecules 2551 (student edition)
Biomolecules 2551 (student edition)Biomolecules 2551 (student edition)
Biomolecules 2551 (student edition)
 

7

  • 1. ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียล โดย ครูสุจินต์ เย้าดุสิต โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช
  • 2.
  • 3. สมบัติของเลขยกกำลัง ทฤษฎีบท เมื่อ a , b เป็นจำนวนจริงที่ไม่เป็นศูนย์ และ m , n เป็นจำนวนเต็ม 1) a m .a n = a m+n 2) (a m ) n = a mn 3) (ab) n = a n b n 4) (a / b) n = a n / b n 5) a m / a n = a m-n ตัวอย่าง จงหาค่าของ (2 -3 x 2 y 4 /2 x -1 ) -2
  • 4. 2 . รากที่ n ในระบบจำนวนจริง และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ บทนิยาม เมื่อ x , y เป็นจำนวนจริง y เป็นรากที่สองของ x ก็ต่อเมื่อ y 2 = x สมบัติของรากที่สอง 1) เมื่อ x  0 , y  0 ตัวอย่าง จงหาค่าของ วิธีทำ 2) เมื่อ x  0 , y > 0
  • 5. 3. เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ บทนิยาม เมื่อ a เป็นจำนวนจริง n เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า 1 และ a มีรากที่ n ตัวอย่าง จงทำให้ส่วนไม่ติดกรณฑ์ บทนิยาม เมื่อ a เป็นจำนวนจริง p , q เป็นจำนวนเต็มที่ (p,q) = 1 , q > 0 และ  R โดยที่ p < 0 แล้ว a ต้องไม่เป็นศูนย์
  • 6. 4. ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล บทนิยาม ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล คือ f = {(x,y)  R  R / y = a x , a>0 , a  1} y ข้อสังเกต 1) กราฟของ y = a x ผ่านจุด (0,1) เสมอ 2) ถ้า a > 1 แล้ว y = a x เป็นฟังก์ชันเพิ่ม 3) ถ้า 0 < a < 1 แล้ว y = a x เป็นฟังก์ชันลด 4) y = a x เป็นฟังก์ชัน 1-1 จาก R ไป R + 5 ) โดยสมบัติของฟังก์ชัน 1-1 จะได้ a x = a y ก็ต่อเมื่อ x = y
  • 7. 5. ฟังก์ชันลอการิทึม จาก f = {(x,y)  R  R / y = a x , a>0 , a  1} ซึ่งเป็นฟังก์ชัน 1-1 จาก R ไป R + จึงมีฟังก์ชันอินเวอร์สคือ f -1 = {(x,y)  R +  R / x = a y , a>0 , a  1} จาก x = a y สามารถเขียนในรูป y = f(x) ได้ โดยกำหนดเป็น y = log a x เช่น 9 = 3 2 เขียนในรูปลอการิทึมเป็น 2 = log 3 9 32 = 2 5 เขียนในรูปลอการิทึมเป็น 5 = log 2 32 บทนิยาม ฟังก์ชันลอการิทึมคือฟังก์ชันที่เขียนอยู่ในรูป f = {(x,y)  R +  R / y = log a x , a>0 , a  1} เช่น y = log 2 x , f(x) = log 5 x
  • 8. y x ข้อสังเกต 1) กราฟของ y = log a x ผ่านจุด (1,0) เสมอ 2) ถ้า a > 1 แล้ว y = log a x เป็นฟังก์ชันเพิ่ม ถ้า 0 < a < 1 แล้ว y = log a x เป็นฟังก์ชันลด 3) y = log a x เป็นฟังก์ชัน 1-1 จาก R + ไปทั่วถึง R 4) โดยสมบัติของฟังก์ชัน 1-1 จะได้ log a x = log a y ก็ต่อเมื่อ x = y
  • 9. สมบัติของลอการิทึม เมื่อ a , M , N เป็นจำนวนจริงบวกที่ a  1 และ k เป็นจำนวนจริง 1) log a MN = log a M + log a N 2) log a M / N = log a M – log a N 3) log a M k = k log a M 4) log a a = 1 5) log a 1 = 0 6) log a kM = 1 / k log a M 7) log b a = 1 / log a b
  • 10. 6. การหาค่าของลอการิทึม ลอการิทึมสามัญ หมายถึงลอการิทึมฐาน 10 ซึ่งนิยมเขียนโดยไม่มีฐานกำกับ เช่น log 10 7 เขียนแทนด้วย log 7 log 10 15 เขียนแทนด้วย log 15 พิจารณาค่าของลอการิทึมของจำนวนเต็มที่สามารถเขียนในรูป 10 n เมื่อ n  I log 10 = log 10 1 = 1 log 100 = log 10 2 = 2 log 1000 = log 10 3 = 3 ดังนั้น log 10 n = n
  • 11. จำนวนจริงบวก N ใดๆ สามารถเขียนในรูป N 0 x 10 n ได้เสมอ เมื่อ 1 < N 0 <10 และ n เป็นจำนวนเต็ม เนื่องจาก N = N 0 x 10 n ดังนั้น log N = log (N 0 x 10 n ) = log N 0 + log 10 n = log N 0 + n log N 0 เรียกว่า แมนทิสซา (mantissa) ของ log N n เรียกว่า แคแรกเทอริสติก (characteristic) ของ log N
  • 12. ตัวอย่าง จงหาค่าของ log 45 2 0 พร้อมทั้งบอก แมนทิสซาและแคแรกเทอริสติก วิธีทำ เนื่องจาก log 45 2 0 = log (4.5 2 x 10 3 ) = log 4.5 2 + log 10 3 = 0.65 51 + 3 = 3.6542 ดังนั้น log 4510 = 3.65 51 แมนทิสซาของ log 45 2 0 คือ 0.6551 แคแรกเทอริสติกของ log 45 2 0 คือ 3
  • 13. แอนติลอการิทึม ตัวอย่าง กำหนดให้ log N = 2.5159 จงหาค่า N วิธีทำ เนื่องจาก log N = 2.5159 = 0.5159 + 2 = log 3.28 + log 10 2 = log (3.28 x 10 2 ) = log 328 ดังนั้น N = 328
  • 14. 7. การเปลี่ยนฐานของลอการิทึม กำหนดให้ y = log b x จะได้ x = b y log a x = log a b y log a x = y log a b y = ดังนั้น log b x = ตัวอย่าง จงหาค่าของ log 2 24
  • 15. ลอการิทึมธรรมชาติ (Natural logarithms) ลอการิทึมธรรมชาติ คือลอการิทึมฐาน e เมื่อ e เป็นสัญลักษณ์แทนจำนวนอตรรกยะ ซึ่งมีค่าประมาณ 2.7182818 หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ ลอการิทึมแบบเนเปียร์ ” (Napierian Logarithms) ในการเขียนลอการิทึมธรรมชาติจะไม่นิยมเขียนฐานกำกับ ดังนี้ log e x เขียนแทนด้วย ln x log e 3 เขียนแทนด้วย ln 3 log e 20 เขียนแทนด้วย ln 20 การหาค่าลอการิทึมธรรมชาติทำได้โดยการเปลี่ยนฐานให้เป็นลอการิทึมสามัญ ซึ่ง log e = log 2.7182818 = 0.4343 ตัวอย่าง จงหาค่าของ ln 25
  • 16. 8. สมการเอ็กซ์โพเนนเชียลและสมการลอการิทึม สมการเอ็กซ์โพเนนเชียล คือสมการที่มีตัวแปรเป็นเลขชี้กำลัง ในการหาคำตอบของสมการ ทำได้โดยใช้สมบัติของฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียลและสมบัติของฟังก์ชันลอการิทึม ตัวอย่าง จงหาเซตคำตอบของสมการ 2 x .2 2x+1 = 4 x-2 วิธีทำ 2 x+2x+1 = (2 2 ) x-2 2 3x+1 = 2 2x-4 จะได้ 3x+1 = 2x-4 x = -5 ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ {-5} ตัวอย่าง จงหาเซตคำตอบของสมการ 4 x + 2 x+1 – 24 = 0
  • 17. สมการลอการิทึม คือสมการที่มีลอการิทึมของตัวแปร การหาคำตอบของสมการทำได้ โดยใช้สมบัติของฟังก์ชันลอการิทึม ตัวอย่าง จงหาเซตคำตอบของสมการ log 2 (x-2) + log 2 (x-3) = 1 วิธีทำ log 2 (x-2) + log 2 (x-3) = 1 log 2 (x-2)(x-3) = log 2 2 จะได้ (x-2)(x-3) = 2 x 2 - 5x + 4 = 0 (x-1)(x-4) = 0 x = 1 , 4 ดังนั้น คำตอบของสมการ คือ {4} เพราะว่า เมื่อตรวจคำตอบ x = 1 หาค่าไม่ได้