SlideShare a Scribd company logo
1 of 30
ขนมไทย เป็นขนมหวาน มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถือเป็น
เอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้า
นาน ในสมัยก่อนขนมไทยจะทาเฉพาะเวลามีงานสาคัญ
เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในงานเทศกาล งานประเพณี งานทาง
ศาสนา หรือการประกอบพิธีกรรมต่างๆ แต่ที่เห็นมีขนม
หลากหลายกินทุกวัน หลังสารับคาวหวานหรือกินเป็นของว่าง
ก็ล้วนแต่คิดประดิดประดอยขึ้นภายหลังแล้วทั้งสิ้น รวมถึง
ขนมจากต่างชาติที่เข้ามาโดยผ่านความสัมพันธ์ทางการเมือง
ก็ถูกดัดแปลง ให้มีรูปรส ลักษณะเป็นแบบไทยๆจนบางทีนึก
กันไปว่าเป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิมก็มี แต่แท้ที่จริงแล้วขนมไทย
แท้ๆนั้น จะมีส่วนประกอบเพียงสามอย่าง คือ แป้ ง น้าตาล
มะพร้าว โดยการทาขนมไทยนี้เป็นการบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย
ของคนไทย ในเรื่องความอดทนใจเย็น ละเอียดลออ และช่าง
สังเกต ทั้งยังได้แฝงความหมายอันลึกซึ้งไว้ในชื่อของขนมไทย
แต่ละชนิดด้วย
ก
ข
คำนำ
สำรบัญ
ขนมเทียน
ขนมสำลี่
ขนมถ ้วย
ขนมทองหยิบ
ขนมชั้น
ขนมไข่
ขนมตะโก ้
ขนมหม ้อแกง
ขนมเปียกปูน
ขนมเม็ดขนุน
ขนมทองหยอด
ขนมลูกชุบ
อ ้ำงอิง
จัดทำโดย
หน้า
ก
ข
1
3
5
7
9
11
13
15
17
19
21
23
25
26
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* แป้ งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
*น้าตาลโตนด 2 ถ้วยตวง
(สาหรับทาตัวแป้ ง)
*น้าตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง
(สาหรับทาไส้)
* ถั่วเขียวกะเทาะเปลือกนึ่ง 2 ถ้วยตวง
* น้าตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกไทย 1 ช้อนชา
* น้ามัน 3 ช้อนโต๊ะ
* มะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง
* เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
1
1. เริ่มจากทาตัวแป้ งก่อนโดย นาน้าตาลโตนดไปเคี่ยวจนเหนียว
แล้วจึงนาไปนวดกับแป้ งข้าวเหนียวจนเข้ากันดี
2. เตรียมทาไส้หวาน โดยนาน้าตาลโตนดเคี่ยวกับมะพร้าวจนแห้ง
จึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ สาหรับไส้เค็ม ให้นา
น้ามันใส่กระทะไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่ถั่วนึ่ง,
พริกไทย, เกลือและน้าตาลทราย ผัดจนหอมและส่วนผสมเข้ากัน
ทั่วจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
3. ห่อขนมโดยตัดใบตองเป็นแผ่นๆ เช็ดให้สะอาดและทาด้วย
น้ามันนิดหน่อย ตักแป้ งใส่แล้วห่อไส้เค็มหรือไส้หวานตามชอบ
จากนั้นนาแป้ งอีก ก้อนวางลงบนไส้ ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม นาไป
นึ่งประมาณ 30 นาทีจนสุกดี
2
3
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* แป้ งสาลี 1 ถ้วยตวง
* น้าตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง
* ไข่เป็ด 10 ฟอง
* สีผสมอาหารตามใจชอบ
(บางสีอาจใช้ดอกไม้หรือใบไม้ได้
เช่น สีเขียว - ใบเตย,
สีม่วง - ดอกอัญชัญ)
* ลูกเกด (สาหรับแต่งหน้าขนม)
4
1. ตอกไข่ใส่ชาม แล้วใช้ส้อมตีแรงๆ ระหว่างตีนั้นก็ใส่น้าตาลทรายลง
ไปด้วย ตีไข่จนขึ้นเป็นสีขาวนวล
2. ร่อนแป้ งสาลี แล้วนาไปผสมในไข่ คนเบาๆจนแป้ งละลายดีจึงใส่สี
ผสมอาหารลงไป (ไม่ควรใส่มาก ควรผสมให้เป็นสีโทนอ่อน จะน่า
รับประทานมากกว่าสีเข้ม)
3. นากระดาษปูลงในถาดที่จะใช้นึ่งขนม จากนั้นเทแป้ งลงในถาด (หรือ
แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้) และแต่งหน้าด้วยลูกเกด (แล้วแต่ความชอบ)
4. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้าเดือด จึงนาถาด (หรือแบบพิมพ์) ที่ใส่แป้ งลงไป
นึ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้าแป้ งหนาอาจต้องใช้เวลา นึ่งนานขึ้น (20-
25 นาที) เมื่อสุกดีแล้วจึงยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นตัดเป็นชิ้นๆ จัดใส่จานเส
ริฟ
5
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
ส่วนผสมทาตัวขนมถ้วย
* แป้ งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
* แป้ งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
* หางกะทิ 1 ถ้วย
* น้าตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
* น้าใบเตย 1/4 ถ้วย
ส่วนผสมทาหน้าขนม
* แป้ งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวกะทิ 1 ถ้วย
* เกลือ 1/2 ช้อนชา
6
1. เตรียมทาตัวขนมโดย นาหางกะทิไปผสมกับแป้ งข้าวเจ้า, แป้ ง
เท้ายายม่อม, น้าตาลปี๊บและน้าใบเตย นวดจนเข้ากันดี นาไปกรอง
ด้วยผ้าข้าวบางและพักไว้
2. เตรียมทาหน้าขนมโดยนาหัวกะทิผสมกับแป้ งข้าวเจ้าและเกลือ คน
จนละลายดีจึงนาไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้
3. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้าเดือดจึงเรียงถ้วยตะไลลงไป นึ่งจนถ้วยตะไลร้อน
จึงเริ่มหยอดตัวขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) ลงไปประมาณ 3/4
ถ้วยตะไล จากนั้นจึงปิดฝาหม้อและนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 3 - 5 นาที
จากนั้นจึงหยอดหน้าขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปในถ้วย
ตะไล จนเต็มและนึ่งต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
4. รอจนเย็นแล้วจึงนาไปเสริฟ เวลาเสริฟสามารถเสริฟทั้งถ้วยตะไล
หรือใช้ไม้พายแคะออกจากถ้วยแล้วจัดเรียงใส่จาน
7
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
*ไข่เป็ด 8 ฟอง
(ใช้เฉพาะไข่แดง)
* น้าเปล่า 6 ถ้วยตวง
* น้าตาลทราย 3 ถ้วยตวง
(เคล็ดลับ :
อัตราส่วนมาตรฐานทั่วไป
น้า 1 ส่วน : น้าตาล 1/2 ส่วน)
8
1. ผสมน้าเปล่าและน้าตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นาไปตั้ง
บนไฟอ่อนจนละลายปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นนาไปกรองด้วย ผ้าขาวบาง
หนึ่งครั้ง
2. นาน้าเชื่อมที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กะพอให้
น้าเชื่อมร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือดพล่าน
3. ใส่ไข่แดงลงในถ้วย ตีจนขึ้นฟู เมื่อน้าเชื่อมร้อนได้ที่ ใช้ช้อนตักไข่
แดงที่ตีจนฟู หยอดลงในน้าเชื่อม ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับ
หน้าสักครั้งเพื่อให้สุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นจึงตักขึ้น
4. รอจนหายร้อน จึงจับจีบโดยใช้นิ้วมือหยิบ 5 หยิบแล้วใส่ลงใน
ถ้วยตะไลหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้
9
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* แป้ งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
* แป้ งท้าวยายมอม 2 ถ้วยตวง
* น้าตาลทราย 5 ถ้วยตวง
* น้าลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
* กะทิ 6 ถ้วยตวง
น้าดอกอัญชัญ 2 ช้อนโต๊ะ
(หรือน้าใบเตยคั้นสด,
หรือใช้สีผสมอาหาร
ตามแต่สีที่ต้องการ)
10
1. นาดอกอัญชันล้างน้าให้สะอาด นาไปปั่นใส่น้าแล้วกรองด้วยผ้าขาว
บาง เพื่อเตรียมน้าดอกอัญชัญ ใส่น้าและกรองด้วยผ้าขาวบาง กรณี
ต้องการสีอื่น อาจใช้สีผสมอาหารแทน
2. นาน้าลอยดอกมะลิไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ผสมน้าตาลทรายลงไป คนจน
ละลายดีเสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
3. นาแป้ งทั้งสองชนิด ผสมกับกะทิ นวดให้เหนียว จากนั้นใส่น้าลอย
ดอกมะลิที่ผสมน้าตาลแล้วลงไปผสมให้เข้ากัน
4. แบ่งแป้ งที่ผสมแล้วออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกแบ่งไว้ทาสีขาว และ
ส่วนที่สอง ไว้ทาสีม่วงโดยเติมน้าดอกอัญชัน (น้าใบเตยหรือสีผสม
อาหาร)ลงไปคนให้เข้ากัน
5. นาถาดที่ต้องการใส่บนลังถึงตั้งบนไฟแรง ๆ พอน้าเดือดเปิดฝา ตัก
แป้ งสีขาวเทใส่ลงในถาดเกลี่ยให้ทั่วถาดบางที่สุด ปิดฝาเพื่อให้สุก
ประมาณ 5 นาที เปิดดูแป้ งจะมีลักษณะใส จากนั้นตักแป้ งสีม่วง (หรือ
สีที่ผสมลงไป) ใส่ลงไป อีก ทาสลับกันจนแป้ งหมด
6. นึ่งจนขนมสุกทั้งหมด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจึง
ตัดเป็นชิ้นเพื่อเสริฟ
11
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
*แป้ งสาลี 950 กรัม
* ไข่เป็ด 25 ฟอง
* น้าตาลทราย 2 กิโลกรัม
* กลิ่นวานิลา 1 ถ้วยตวง
* น้าเปล่า 1 ถ้วยตวง
12
1. ตีไข่กับน้าจนไข่ขึ้นฟู จากนั้นจึงใส่น้าตาลทรายลงไป ตีจน
น้าตาลละลาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
2. นาส่วนผสมไข่ไปใส่ในตระแกรงล่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก
เมื่อล่อนเสร็จแล้วนาแป้ งลงไปผสม ตีจนไข่ขึ้นฟูอีกครั้ง
หลังจากนั้นจึงเติมกลิ่นวานิลา
3. นาส่วนผสมแป้ งและไข่ที่ทาเสร็จไปหยอดลงในแบบหรือ
พิมพ์ที่เตรียมไว้ (อย่าใส่จนเต็มแบบ เพราะ เมื่ออบแล้วตัว
ขนมจะฟูขึ้นอีก ควรใส่ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบก็พอ) ควรทา
น้ามันบางๆที่ผิวแบบเพื่อไม่ให้ติด
13
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
สาหรับทาตัวตะโก้
* แป้ งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง
* น้ากลิ่นมะลิ 3 ถ้วยตวง
* น้าตาลทราย 2 ถ้วยตวง
* น้าใบเตยคั้น 1/2 ถ้วยตวง
* แห้วต้มหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
*กระทงหรือแบบสาหรับใส่ขนม
สาหรับทาหน้าตะโก้
* แป้ งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
* กะทิ 2 ถ้วยตวง
* เกลือป่น 1 ช้อนชา
14
1. เตรียมทาตัวตะโก้ โดยผสมแป้ งถั่วเขียว, น้าตาลทราย, น้า
ใบเตยและ น้ากลิ่นมะลิ เข้าด้วยกันในหม้อ และนาไปตั้งบนไฟ
ร้อนปานกลาง กวนจนสุกและข้น
2. จากนั้นใส่แห้วจีนต้มที่หั่นเตรียมไว้ลงไปในหม้อ กวนต่ออีก
สักครู่จึงปิดไฟ ตักตัวตะโก้หยอดในกระทงหรือแบบพิมพ์ที่
เตรียมไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบ
3. เตรียมทาหน้าตะโก้ โดยผสมแป้ งข้าวเจ้า, กะทิ และเกลือป่น
เข้าด้วยกันในหม้อขนาดเล็ก จากนั้นนาไปตั้งบนไฟร้อนปาน
กลาง กวนจนข้นพอดี จึงปิดไฟ
4. หยอดหน้าตะโก้ลงบนกระทงหรือแบบให้เต็ม ทิ้งไว้ให้เย็น
จัดใส่จานเสริฟเป็นของว่างได้ทันที
15
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
*ถั่วเขียว 250 กรัม
(เผือก, เม็ดบัว, อื่นๆ)
* น้าเปล่า 4 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้าตาลปี๊บ 250 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* ไข่เป็ด 3 ฟอง
* หอมแดงซอยละเอียด 3 ลูก
* ใบเตย 3 ใบ
16
1 นาหอมแดงไปเจียวในน้ามันจนเหลืองและกรอบ
2. นาถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ในน้าและนาไปนึ่งจนสุก หรือถ้าใช้เผือก
ก็ปอกเปลือกและนาไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงนาเผือกไปยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ
3. ในชามขนาดกลาง, ผสมไข่ น้าตาลปี๊บและเกลือ แล้วขยาโดยใช้
ใบเตยให้เข้ากันดี น้าตาลละลายหมด จากนั้นจึงใส่หัวกะทิลงไป ขยา
ต่ออีกจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงนาไปกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่ง
สกปรกออก
4. เอาถั่วหรือเผือกใส่ลงไปในส่วนผสมที่กรองแล้ว และใส่น้ามันที่เหลือ
จากการเจียวหอมแดง คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
5. นาส่วนผสมที่ได้ไปกวนด้วยไฟร้อนปานกลางในกระทะทองเหลือง
ถ้ากวนมากเมื่อนาไปอบจะ ไม่น่าทานเพราะจะแตกมัน ที่เรานามากวน
ก็เพื่อป้ องกันไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้นเมื่อนาไปอบเนื่องจากไข่กับกะทิ ไม
เข้ากันดี
6. นาส่วนผสมที่กวนแล้วไปอบ โดยใส่ถาดหรือแบบที่ต้องการ ใช้ความ
ร้อน อบประมาณ 30 - 40 นาที
7. ถ้าอบโดยใส่ถาดไว้ เวลาเสริฟก็ตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดตามความ
เหมาะสม
17
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* แป้ งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
*แป้ งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
* น้าตาลมะพร้าว 400 กรัม
น้ากาบมะพร้าวเผา
3/4 ถ้วยตวง
น้ากะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้าปูนใส 4 ถ้วยตวง
* เนื้อมะพร้าวฝอย 1 1/2 ถ้วย
(คลุกเกลือนิดหน่อย
ไว้สาหรับโรยหน้า)
18
1. นำกำบมะพร้ำวไปเผำไฟพอไหม้นิดหน่อยจึงนำไปจุ่มลงในน้ำ
สะอำด ทิ้งไว้ให้กำบมะพร้ำวแห้ง จึงนำไปโขลกให้ละเอียด และร่อนจน
ได้ผงละเอียด แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำสะอำด 3/4 ถ้วยตวง
2. ผสมแป้ งข้ำวเจ้ำและ แป้ งเท้ำยำยม่อม กับน้ำกะทิ, น้ำปูนใส, น้ำ
กำบมะพร้ำว (ที่ทำในขั้นตอนที่ 1)และ น้ำตำลมะพร้ำว ผสมจนทุก
อย่ำงละลำยเข้ำกันดีจึงนำไปกรองด้วยผ้ำขำวบำง
3. เมื่อกรองเสร็จแล้ว เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง
(หรือกระทะเทพลอนก็ได้) นำไปตั้งไฟกวนโดยใช้ไฟแรง กวนสักพักพอ
แป้ งจับตัวกันเป็นก้อน จึงลดไฟลงและ กวนต่อจนส่วนผสมข้นและ
เหนียว จึงเทใส่ถำดเกลี่ยหน้ำให้เรียบหรือเทใส่แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้
4. ถ้ำเทใส่ถำด รอจนส่วนผสมเย็นจึงตัดเป็นชิ้น โรยด้วยเนื้อมะพร้ำว
ฝอย ตักเป็นชิ้นใส่จำนเสริฟ หรือเสริฟทั้งถำดแล้วแต่ควำมเหมำะสม
19
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม
*น้าตาลทราย 200 กรัม
(สาหรับผสมถั่ว)
*น้าตาลทราย 3 ถ้วยตวง
(สาหรับทาน้าเชื่อม)
*น้ากะทิ 400 กรัม
*น้าเปล่า 3 ถ้วยตวง
(สาหรับทาน้าเชื่อม)
* ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
20
1. นำถั่วเขียวเลำะเปลือกมำทำควำมสะอำด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมำณ 2
ชั่วโมง จำกนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลำประมำณ 15 นำที)
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้ ำ พร้อมกับน้ำตำล
ทรำยและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ำกันดี
3. จำกนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟ
ลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลำ
ประมำณ 20 - 30 นำที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้น
จะไม่สำมำรถนำไปปั้นได้)
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ำกันเป็นเนื้อเดียว
จำกนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน
5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตำลและน้ำเปล่ำ นำไปเคี่ยวในกระทะ
ทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยำงมะตูม
จึงปิดไฟ
6. ตอกไข่และเลือกเอำเฉพำะไข่แดงมำรวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก
จำกนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึง
นำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยำยำมอย่ำให้ติดกัน พอใส่ลงไปมำกแล้วจึงนำ
กระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมำพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ด
ขนุนที่ปั้นไว้หมด
7. จัดเม็ดขนุนใส่จำน เสริฟทำนเป็นของว่ำงในวันสบำย
21
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
*ไข่เป็ด 18 ฟอง
• แป้ งทองหยอด 1 ถ้วยตวง
• (หรือแป้ งข้าวเจ้า)
* น้าตาลทราย 5 ถ้วยตวง
* น้าลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง
22
1ผสมน้าลอยดอกไม้กับน้าตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง
แล้วนาไปตั้งไฟแรงให้เดือด เคี่ยวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
จากนั้นจึงแบ่งน้าเชื่อมส่วนหนึ่งออกมาสาหรับแช่ทองหยอดที่
สุกแล้ว
2. ต่อยไข่ แยกไข่ขาวออก ใช้เฉพาะไข่แดง โดยนาไข่แดงไป
กรองในผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก จากนั้นจึงตีไข่แดงให้ขึ้น
ฟู จากนั้นค่อยๆผสม แป้ งทองหยอดลงไปและคนให้แป้ งและไข่
แดงเข้ากัน
3. นาไข่แดงที่ผสมแป้ งเรียบร้อยไปหยอดในน้าเชื่อม สาหรับวิธี
หยอดนั้นให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลาง หยิบส่วนผสมมา
เป็นลูกขนาดพอประมาณ แล้วจึงสบัดลงไปในน้าเชื่อม ทาเช่นนี้
จนเต็มกระทะทองเหลือง จากนั้นรอจนทองหยอดสุกจึงตัก
ออกมาพักใส่ในน้าเชื่อมที่แยกไว้ก่อนหน้านี้ (ทองหยอดที่สุกจะ
ลอยขึ้น)
4. จัดทองหยอดใส่จานเสริฟเป็นของว่างหรือของทานเล่นในวัน
พักผ่อนสบายๆ
23
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ถั่วเขียว 450 กรัม
* น้าตาลทราย 200 กรัม (สาหรับผสมถั่ว)
* น้าตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สาหรับทาน้าวุ้น)
*น้ากะทิ 400 กรัม
* วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
* น้าเปล่า 3 ถ้วยตวง (สาหรับทาน้าวุ้น)
* สีผสมอาหาร
(อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง,
สีเหลืองและน้าเงิน),
จานสีและพู่กัน
* ไม้จิ้มฟัน
(สาหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้าวุ้น)
* โฟม
(สาหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทา ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)
24
1. นาถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทาความสะอาด และแช่น้าทิ้งไว้ประมาณ
ประมาน 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนาไปนึ่งให้สุก
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นาไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้ า พร้อมกับ
น้าตาลทรายและน้ากะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง และตั้งบนไฟอ่อนๆ
ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ)
เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จ
เรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้า
5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้
เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ
6. ทาน้าวุ้นโดยผสมน้าเปล่า, ผงวุ้นและน้าตาล ลงในหม้อ นาไปตั้ง
บนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่าเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด
ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง
7. นาถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้าวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง
ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้าวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง
8. นาลูกชุบออกจากไม้จิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วย
กรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที
25
http://www.ezythaicooking.com/thai
_dessert_recipes.html
26
ขนมทไทย 3.1

More Related Content

What's hot

โครงงานเรื่อง อาหารไทย
โครงงานเรื่อง อาหารไทยโครงงานเรื่อง อาหารไทย
โครงงานเรื่อง อาหารไทยEakkamol Dechudom
 
พุทรากวน
พุทรากวนพุทรากวน
พุทรากวนSunisa Kerdkhaw
 
อาหารไทย 6.1 30
อาหารไทย 6.1 30อาหารไทย 6.1 30
อาหารไทย 6.1 30rattanaae
 
อาหารไทย
อาหารไทยอาหารไทย
อาหารไทยBoOm mm
 
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้greatzaza007
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารBank Kitsana
 
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบสูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบSEoZa
 
เคล็ดลับอาหารไทย
เคล็ดลับอาหารไทยเคล็ดลับอาหารไทย
เคล็ดลับอาหารไทยnewintarasayan
 
การเตรียมวัตถุดิบ
การเตรียมวัตถุดิบการเตรียมวัตถุดิบ
การเตรียมวัตถุดิบSasiprapha Srisaeng
 
การหุงข้าว
การหุงข้าวการหุงข้าว
การหุงข้าวbenznattapon
 

What's hot (14)

โครงงานเรื่อง อาหารไทย
โครงงานเรื่อง อาหารไทยโครงงานเรื่อง อาหารไทย
โครงงานเรื่อง อาหารไทย
 
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdfโครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
 
พุทรากวน
พุทรากวนพุทรากวน
พุทรากวน
 
ใบงาน 9 -16
ใบงาน 9 -16ใบงาน 9 -16
ใบงาน 9 -16
 
อาหารไทย 6.1 30
อาหารไทย 6.1 30อาหารไทย 6.1 30
อาหารไทย 6.1 30
 
อาหารไทย
อาหารไทยอาหารไทย
อาหารไทย
 
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
 
ตำราอาหารไทย.ppt
ตำราอาหารไทย.pptตำราอาหารไทย.ppt
ตำราอาหารไทย.ppt
 
เลขที่ 2 33
เลขที่ 2 33เลขที่ 2 33
เลขที่ 2 33
 
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบสูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
 
เคล็ดลับอาหารไทย
เคล็ดลับอาหารไทยเคล็ดลับอาหารไทย
เคล็ดลับอาหารไทย
 
การเตรียมวัตถุดิบ
การเตรียมวัตถุดิบการเตรียมวัตถุดิบ
การเตรียมวัตถุดิบ
 
การหุงข้าว
การหุงข้าวการหุงข้าว
การหุงข้าว
 

Similar to ขนมทไทย 3.1

งานคอมเสร็จแล้ว
งานคอมเสร็จแล้วงานคอมเสร็จแล้ว
งานคอมเสร็จแล้วMatthew Tewin
 
ขนมไทย
ขนมไทยขนมไทย
ขนมไทยBiobiome
 
ประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารNongploy Siriporn
 
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววังPrachoom Rangkasikorn
 
งานนำเสนอลูกชุบ
งานนำเสนอลูกชุบงานนำเสนอลูกชุบ
งานนำเสนอลูกชุบPatcharee Kongpun
 
สูตรหมูปิ้ง
สูตรหมูปิ้งสูตรหมูปิ้ง
สูตรหมูปิ้งekkawit sittiwa
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทย
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทยโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทย
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทยMiemie Pimmie
 
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นมารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นManit Wongmool
 
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพKu cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพVorawut Wongumpornpinit
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1narueporn
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1narueporn
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1niran_mwk
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรกnarueporn
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรกnarueporn
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรกnarueporn
 
Earth23066666666666666
Earth23066666666666666Earth23066666666666666
Earth23066666666666666earth0612
 

Similar to ขนมทไทย 3.1 (20)

งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
งานคอมเสร็จแล้ว
งานคอมเสร็จแล้วงานคอมเสร็จแล้ว
งานคอมเสร็จแล้ว
 
ขนมไทย
ขนมไทยขนมไทย
ขนมไทย
 
ประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหาร
 
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
175+01010341 a+กระหรี่พัฟท์ไส้ไก่+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
 
งานนำเสนอลูกชุบ
งานนำเสนอลูกชุบงานนำเสนอลูกชุบ
งานนำเสนอลูกชุบ
 
สูตรหมูปิ้ง
สูตรหมูปิ้งสูตรหมูปิ้ง
สูตรหมูปิ้ง
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทย
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทยโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทย
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ขนมไทย
 
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นมารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น
มารยาทในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น
 
ลูกชุบ
ลูกชุบลูกชุบ
ลูกชุบ
 
ขนมญี่ปุ่น
ขนมญี่ปุ่นขนมญี่ปุ่น
ขนมญี่ปุ่น
 
THAIFOODS
THAIFOODSTHAIFOODS
THAIFOODS
 
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพKu cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ
Ku cookbook เมนูอร่อย อาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรก
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรก
 
หน้าแรก
หน้าแรกหน้าแรก
หน้าแรก
 
Earth23066666666666666
Earth23066666666666666Earth23066666666666666
Earth23066666666666666
 

ขนมทไทย 3.1

  • 1.
  • 2. ขนมไทย เป็นขนมหวาน มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถือเป็น เอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้า นาน ในสมัยก่อนขนมไทยจะทาเฉพาะเวลามีงานสาคัญ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในงานเทศกาล งานประเพณี งานทาง ศาสนา หรือการประกอบพิธีกรรมต่างๆ แต่ที่เห็นมีขนม หลากหลายกินทุกวัน หลังสารับคาวหวานหรือกินเป็นของว่าง ก็ล้วนแต่คิดประดิดประดอยขึ้นภายหลังแล้วทั้งสิ้น รวมถึง ขนมจากต่างชาติที่เข้ามาโดยผ่านความสัมพันธ์ทางการเมือง ก็ถูกดัดแปลง ให้มีรูปรส ลักษณะเป็นแบบไทยๆจนบางทีนึก กันไปว่าเป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิมก็มี แต่แท้ที่จริงแล้วขนมไทย แท้ๆนั้น จะมีส่วนประกอบเพียงสามอย่าง คือ แป้ ง น้าตาล มะพร้าว โดยการทาขนมไทยนี้เป็นการบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย ของคนไทย ในเรื่องความอดทนใจเย็น ละเอียดลออ และช่าง สังเกต ทั้งยังได้แฝงความหมายอันลึกซึ้งไว้ในชื่อของขนมไทย แต่ละชนิดด้วย ก
  • 3. ข คำนำ สำรบัญ ขนมเทียน ขนมสำลี่ ขนมถ ้วย ขนมทองหยิบ ขนมชั้น ขนมไข่ ขนมตะโก ้ ขนมหม ้อแกง ขนมเปียกปูน ขนมเม็ดขนุน ขนมทองหยอด ขนมลูกชุบ อ ้ำงอิง จัดทำโดย หน้า ก ข 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 26
  • 4. เครื่องปรุง + ส่วนผสม * แป้ งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม *น้าตาลโตนด 2 ถ้วยตวง (สาหรับทาตัวแป้ ง) *น้าตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง (สาหรับทาไส้) * ถั่วเขียวกะเทาะเปลือกนึ่ง 2 ถ้วยตวง * น้าตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ * พริกไทย 1 ช้อนชา * น้ามัน 3 ช้อนโต๊ะ * มะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง * เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา 1
  • 5. 1. เริ่มจากทาตัวแป้ งก่อนโดย นาน้าตาลโตนดไปเคี่ยวจนเหนียว แล้วจึงนาไปนวดกับแป้ งข้าวเหนียวจนเข้ากันดี 2. เตรียมทาไส้หวาน โดยนาน้าตาลโตนดเคี่ยวกับมะพร้าวจนแห้ง จึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ สาหรับไส้เค็ม ให้นา น้ามันใส่กระทะไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่ถั่วนึ่ง, พริกไทย, เกลือและน้าตาลทราย ผัดจนหอมและส่วนผสมเข้ากัน ทั่วจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น 3. ห่อขนมโดยตัดใบตองเป็นแผ่นๆ เช็ดให้สะอาดและทาด้วย น้ามันนิดหน่อย ตักแป้ งใส่แล้วห่อไส้เค็มหรือไส้หวานตามชอบ จากนั้นนาแป้ งอีก ก้อนวางลงบนไส้ ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม นาไป นึ่งประมาณ 30 นาทีจนสุกดี 2
  • 6. 3 เครื่องปรุง + ส่วนผสม * แป้ งสาลี 1 ถ้วยตวง * น้าตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง * ไข่เป็ด 10 ฟอง * สีผสมอาหารตามใจชอบ (บางสีอาจใช้ดอกไม้หรือใบไม้ได้ เช่น สีเขียว - ใบเตย, สีม่วง - ดอกอัญชัญ) * ลูกเกด (สาหรับแต่งหน้าขนม)
  • 7. 4 1. ตอกไข่ใส่ชาม แล้วใช้ส้อมตีแรงๆ ระหว่างตีนั้นก็ใส่น้าตาลทรายลง ไปด้วย ตีไข่จนขึ้นเป็นสีขาวนวล 2. ร่อนแป้ งสาลี แล้วนาไปผสมในไข่ คนเบาๆจนแป้ งละลายดีจึงใส่สี ผสมอาหารลงไป (ไม่ควรใส่มาก ควรผสมให้เป็นสีโทนอ่อน จะน่า รับประทานมากกว่าสีเข้ม) 3. นากระดาษปูลงในถาดที่จะใช้นึ่งขนม จากนั้นเทแป้ งลงในถาด (หรือ แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้) และแต่งหน้าด้วยลูกเกด (แล้วแต่ความชอบ) 4. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้าเดือด จึงนาถาด (หรือแบบพิมพ์) ที่ใส่แป้ งลงไป นึ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้าแป้ งหนาอาจต้องใช้เวลา นึ่งนานขึ้น (20- 25 นาที) เมื่อสุกดีแล้วจึงยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นตัดเป็นชิ้นๆ จัดใส่จานเส ริฟ
  • 8. 5 เครื่องปรุง + ส่วนผสม ส่วนผสมทาตัวขนมถ้วย * แป้ งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย * แป้ งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ * หางกะทิ 1 ถ้วย * น้าตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย * น้าใบเตย 1/4 ถ้วย ส่วนผสมทาหน้าขนม * แป้ งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ * หัวกะทิ 1 ถ้วย * เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • 9. 6 1. เตรียมทาตัวขนมโดย นาหางกะทิไปผสมกับแป้ งข้าวเจ้า, แป้ ง เท้ายายม่อม, น้าตาลปี๊บและน้าใบเตย นวดจนเข้ากันดี นาไปกรอง ด้วยผ้าข้าวบางและพักไว้ 2. เตรียมทาหน้าขนมโดยนาหัวกะทิผสมกับแป้ งข้าวเจ้าและเกลือ คน จนละลายดีจึงนาไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้ 3. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้าเดือดจึงเรียงถ้วยตะไลลงไป นึ่งจนถ้วยตะไลร้อน จึงเริ่มหยอดตัวขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) ลงไปประมาณ 3/4 ถ้วยตะไล จากนั้นจึงปิดฝาหม้อและนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นจึงหยอดหน้าขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปในถ้วย ตะไล จนเต็มและนึ่งต่อไปอีกประมาณ 5 นาที 4. รอจนเย็นแล้วจึงนาไปเสริฟ เวลาเสริฟสามารถเสริฟทั้งถ้วยตะไล หรือใช้ไม้พายแคะออกจากถ้วยแล้วจัดเรียงใส่จาน
  • 10. 7 เครื่องปรุง + ส่วนผสม *ไข่เป็ด 8 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง) * น้าเปล่า 6 ถ้วยตวง * น้าตาลทราย 3 ถ้วยตวง (เคล็ดลับ : อัตราส่วนมาตรฐานทั่วไป น้า 1 ส่วน : น้าตาล 1/2 ส่วน)
  • 11. 8 1. ผสมน้าเปล่าและน้าตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นาไปตั้ง บนไฟอ่อนจนละลายปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นนาไปกรองด้วย ผ้าขาวบาง หนึ่งครั้ง 2. นาน้าเชื่อมที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กะพอให้ น้าเชื่อมร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือดพล่าน 3. ใส่ไข่แดงลงในถ้วย ตีจนขึ้นฟู เมื่อน้าเชื่อมร้อนได้ที่ ใช้ช้อนตักไข่ แดงที่ตีจนฟู หยอดลงในน้าเชื่อม ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับ หน้าสักครั้งเพื่อให้สุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นจึงตักขึ้น 4. รอจนหายร้อน จึงจับจีบโดยใช้นิ้วมือหยิบ 5 หยิบแล้วใส่ลงใน ถ้วยตะไลหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้
  • 12. 9 เครื่องปรุง + ส่วนผสม * แป้ งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง * แป้ งท้าวยายมอม 2 ถ้วยตวง * น้าตาลทราย 5 ถ้วยตวง * น้าลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง * กะทิ 6 ถ้วยตวง น้าดอกอัญชัญ 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้าใบเตยคั้นสด, หรือใช้สีผสมอาหาร ตามแต่สีที่ต้องการ)
  • 13. 10 1. นาดอกอัญชันล้างน้าให้สะอาด นาไปปั่นใส่น้าแล้วกรองด้วยผ้าขาว บาง เพื่อเตรียมน้าดอกอัญชัญ ใส่น้าและกรองด้วยผ้าขาวบาง กรณี ต้องการสีอื่น อาจใช้สีผสมอาหารแทน 2. นาน้าลอยดอกมะลิไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ผสมน้าตาลทรายลงไป คนจน ละลายดีเสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น 3. นาแป้ งทั้งสองชนิด ผสมกับกะทิ นวดให้เหนียว จากนั้นใส่น้าลอย ดอกมะลิที่ผสมน้าตาลแล้วลงไปผสมให้เข้ากัน 4. แบ่งแป้ งที่ผสมแล้วออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกแบ่งไว้ทาสีขาว และ ส่วนที่สอง ไว้ทาสีม่วงโดยเติมน้าดอกอัญชัน (น้าใบเตยหรือสีผสม อาหาร)ลงไปคนให้เข้ากัน 5. นาถาดที่ต้องการใส่บนลังถึงตั้งบนไฟแรง ๆ พอน้าเดือดเปิดฝา ตัก แป้ งสีขาวเทใส่ลงในถาดเกลี่ยให้ทั่วถาดบางที่สุด ปิดฝาเพื่อให้สุก ประมาณ 5 นาที เปิดดูแป้ งจะมีลักษณะใส จากนั้นตักแป้ งสีม่วง (หรือ สีที่ผสมลงไป) ใส่ลงไป อีก ทาสลับกันจนแป้ งหมด 6. นึ่งจนขนมสุกทั้งหมด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจึง ตัดเป็นชิ้นเพื่อเสริฟ
  • 14. 11 เครื่องปรุง + ส่วนผสม *แป้ งสาลี 950 กรัม * ไข่เป็ด 25 ฟอง * น้าตาลทราย 2 กิโลกรัม * กลิ่นวานิลา 1 ถ้วยตวง * น้าเปล่า 1 ถ้วยตวง
  • 15. 12 1. ตีไข่กับน้าจนไข่ขึ้นฟู จากนั้นจึงใส่น้าตาลทรายลงไป ตีจน น้าตาลละลาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที 2. นาส่วนผสมไข่ไปใส่ในตระแกรงล่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก เมื่อล่อนเสร็จแล้วนาแป้ งลงไปผสม ตีจนไข่ขึ้นฟูอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเติมกลิ่นวานิลา 3. นาส่วนผสมแป้ งและไข่ที่ทาเสร็จไปหยอดลงในแบบหรือ พิมพ์ที่เตรียมไว้ (อย่าใส่จนเต็มแบบ เพราะ เมื่ออบแล้วตัว ขนมจะฟูขึ้นอีก ควรใส่ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบก็พอ) ควรทา น้ามันบางๆที่ผิวแบบเพื่อไม่ให้ติด
  • 16. 13 เครื่องปรุง + ส่วนผสม สาหรับทาตัวตะโก้ * แป้ งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง * น้ากลิ่นมะลิ 3 ถ้วยตวง * น้าตาลทราย 2 ถ้วยตวง * น้าใบเตยคั้น 1/2 ถ้วยตวง * แห้วต้มหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง *กระทงหรือแบบสาหรับใส่ขนม สาหรับทาหน้าตะโก้ * แป้ งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง * กะทิ 2 ถ้วยตวง * เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • 17. 14 1. เตรียมทาตัวตะโก้ โดยผสมแป้ งถั่วเขียว, น้าตาลทราย, น้า ใบเตยและ น้ากลิ่นมะลิ เข้าด้วยกันในหม้อ และนาไปตั้งบนไฟ ร้อนปานกลาง กวนจนสุกและข้น 2. จากนั้นใส่แห้วจีนต้มที่หั่นเตรียมไว้ลงไปในหม้อ กวนต่ออีก สักครู่จึงปิดไฟ ตักตัวตะโก้หยอดในกระทงหรือแบบพิมพ์ที่ เตรียมไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบ 3. เตรียมทาหน้าตะโก้ โดยผสมแป้ งข้าวเจ้า, กะทิ และเกลือป่น เข้าด้วยกันในหม้อขนาดเล็ก จากนั้นนาไปตั้งบนไฟร้อนปาน กลาง กวนจนข้นพอดี จึงปิดไฟ 4. หยอดหน้าตะโก้ลงบนกระทงหรือแบบให้เต็ม ทิ้งไว้ให้เย็น จัดใส่จานเสริฟเป็นของว่างได้ทันที
  • 18. 15 เครื่องปรุง + ส่วนผสม *ถั่วเขียว 250 กรัม (เผือก, เม็ดบัว, อื่นๆ) * น้าเปล่า 4 ถ้วยตวง * หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง * น้าตาลปี๊บ 250 กรัม * เกลือป่น 1/4 ช้อนชา * ไข่เป็ด 3 ฟอง * หอมแดงซอยละเอียด 3 ลูก * ใบเตย 3 ใบ
  • 19. 16 1 นาหอมแดงไปเจียวในน้ามันจนเหลืองและกรอบ 2. นาถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ในน้าและนาไปนึ่งจนสุก หรือถ้าใช้เผือก ก็ปอกเปลือกและนาไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงนาเผือกไปยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ 3. ในชามขนาดกลาง, ผสมไข่ น้าตาลปี๊บและเกลือ แล้วขยาโดยใช้ ใบเตยให้เข้ากันดี น้าตาลละลายหมด จากนั้นจึงใส่หัวกะทิลงไป ขยา ต่ออีกจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงนาไปกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่ง สกปรกออก 4. เอาถั่วหรือเผือกใส่ลงไปในส่วนผสมที่กรองแล้ว และใส่น้ามันที่เหลือ จากการเจียวหอมแดง คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี 5. นาส่วนผสมที่ได้ไปกวนด้วยไฟร้อนปานกลางในกระทะทองเหลือง ถ้ากวนมากเมื่อนาไปอบจะ ไม่น่าทานเพราะจะแตกมัน ที่เรานามากวน ก็เพื่อป้ องกันไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้นเมื่อนาไปอบเนื่องจากไข่กับกะทิ ไม เข้ากันดี 6. นาส่วนผสมที่กวนแล้วไปอบ โดยใส่ถาดหรือแบบที่ต้องการ ใช้ความ ร้อน อบประมาณ 30 - 40 นาที 7. ถ้าอบโดยใส่ถาดไว้ เวลาเสริฟก็ตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดตามความ เหมาะสม
  • 20. 17 เครื่องปรุง + ส่วนผสม * แป้ งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง *แป้ งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ * น้าตาลมะพร้าว 400 กรัม น้ากาบมะพร้าวเผา 3/4 ถ้วยตวง น้ากะทิ 1 ถ้วยตวง * น้าปูนใส 4 ถ้วยตวง * เนื้อมะพร้าวฝอย 1 1/2 ถ้วย (คลุกเกลือนิดหน่อย ไว้สาหรับโรยหน้า)
  • 21. 18 1. นำกำบมะพร้ำวไปเผำไฟพอไหม้นิดหน่อยจึงนำไปจุ่มลงในน้ำ สะอำด ทิ้งไว้ให้กำบมะพร้ำวแห้ง จึงนำไปโขลกให้ละเอียด และร่อนจน ได้ผงละเอียด แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำสะอำด 3/4 ถ้วยตวง 2. ผสมแป้ งข้ำวเจ้ำและ แป้ งเท้ำยำยม่อม กับน้ำกะทิ, น้ำปูนใส, น้ำ กำบมะพร้ำว (ที่ทำในขั้นตอนที่ 1)และ น้ำตำลมะพร้ำว ผสมจนทุก อย่ำงละลำยเข้ำกันดีจึงนำไปกรองด้วยผ้ำขำวบำง 3. เมื่อกรองเสร็จแล้ว เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทพลอนก็ได้) นำไปตั้งไฟกวนโดยใช้ไฟแรง กวนสักพักพอ แป้ งจับตัวกันเป็นก้อน จึงลดไฟลงและ กวนต่อจนส่วนผสมข้นและ เหนียว จึงเทใส่ถำดเกลี่ยหน้ำให้เรียบหรือเทใส่แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ 4. ถ้ำเทใส่ถำด รอจนส่วนผสมเย็นจึงตัดเป็นชิ้น โรยด้วยเนื้อมะพร้ำว ฝอย ตักเป็นชิ้นใส่จำนเสริฟ หรือเสริฟทั้งถำดแล้วแต่ควำมเหมำะสม
  • 22. 19 เครื่องปรุง + ส่วนผสม * ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม *น้าตาลทราย 200 กรัม (สาหรับผสมถั่ว) *น้าตาลทราย 3 ถ้วยตวง (สาหรับทาน้าเชื่อม) *น้ากะทิ 400 กรัม *น้าเปล่า 3 ถ้วยตวง (สาหรับทาน้าเชื่อม) * ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
  • 23. 20 1. นำถั่วเขียวเลำะเปลือกมำทำควำมสะอำด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมำณ 2 ชั่วโมง จำกนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลำประมำณ 15 นำที) 2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้ ำ พร้อมกับน้ำตำล ทรำยและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ำกันดี 3. จำกนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟ ลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลำ ประมำณ 20 - 30 นำที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้น จะไม่สำมำรถนำไปปั้นได้) 4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ำกันเป็นเนื้อเดียว จำกนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน 5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตำลและน้ำเปล่ำ นำไปเคี่ยวในกระทะ ทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยำงมะตูม จึงปิดไฟ 6. ตอกไข่และเลือกเอำเฉพำะไข่แดงมำรวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก จำกนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึง นำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยำยำมอย่ำให้ติดกัน พอใส่ลงไปมำกแล้วจึงนำ กระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมำพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ด ขนุนที่ปั้นไว้หมด 7. จัดเม็ดขนุนใส่จำน เสริฟทำนเป็นของว่ำงในวันสบำย
  • 24. 21 เครื่องปรุง + ส่วนผสม *ไข่เป็ด 18 ฟอง • แป้ งทองหยอด 1 ถ้วยตวง • (หรือแป้ งข้าวเจ้า) * น้าตาลทราย 5 ถ้วยตวง * น้าลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง
  • 25. 22 1ผสมน้าลอยดอกไม้กับน้าตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง แล้วนาไปตั้งไฟแรงให้เดือด เคี่ยวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงแบ่งน้าเชื่อมส่วนหนึ่งออกมาสาหรับแช่ทองหยอดที่ สุกแล้ว 2. ต่อยไข่ แยกไข่ขาวออก ใช้เฉพาะไข่แดง โดยนาไข่แดงไป กรองในผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก จากนั้นจึงตีไข่แดงให้ขึ้น ฟู จากนั้นค่อยๆผสม แป้ งทองหยอดลงไปและคนให้แป้ งและไข่ แดงเข้ากัน 3. นาไข่แดงที่ผสมแป้ งเรียบร้อยไปหยอดในน้าเชื่อม สาหรับวิธี หยอดนั้นให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลาง หยิบส่วนผสมมา เป็นลูกขนาดพอประมาณ แล้วจึงสบัดลงไปในน้าเชื่อม ทาเช่นนี้ จนเต็มกระทะทองเหลือง จากนั้นรอจนทองหยอดสุกจึงตัก ออกมาพักใส่ในน้าเชื่อมที่แยกไว้ก่อนหน้านี้ (ทองหยอดที่สุกจะ ลอยขึ้น) 4. จัดทองหยอดใส่จานเสริฟเป็นของว่างหรือของทานเล่นในวัน พักผ่อนสบายๆ
  • 26. 23 เครื่องปรุง + ส่วนผสม * ถั่วเขียว 450 กรัม * น้าตาลทราย 200 กรัม (สาหรับผสมถั่ว) * น้าตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สาหรับทาน้าวุ้น) *น้ากะทิ 400 กรัม * วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ * น้าเปล่า 3 ถ้วยตวง (สาหรับทาน้าวุ้น) * สีผสมอาหาร (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้าเงิน), จานสีและพู่กัน * ไม้จิ้มฟัน (สาหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้าวุ้น) * โฟม (สาหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทา ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)
  • 27. 24 1. นาถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทาความสะอาด และแช่น้าทิ้งไว้ประมาณ ประมาน 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนาไปนึ่งให้สุก 2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นาไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้ า พร้อมกับ น้าตาลทรายและน้ากะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี 3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น 4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ) เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จ เรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้า 5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้ เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ 6. ทาน้าวุ้นโดยผสมน้าเปล่า, ผงวุ้นและน้าตาล ลงในหม้อ นาไปตั้ง บนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่าเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง 7. นาถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้าวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้าวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง 8. นาลูกชุบออกจากไม้จิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วย กรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที
  • 29. 26