More Related Content
More from Aungkana Na Na (20)
7
- 1. โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน(Application)เป็ น โครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ ในการสร้างผลงานเพือ
ประยุกต์ใช้งานจริ งในชีวต ประจําวัน เช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์
ิ ํ
สําหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานงานประเภทนี5จะมีการประดิษฐ์
ํ
ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ งอาจจะสร้างใหม่หรื อปรับปรุ งดัดแปลงของเดิมทีมีอยู่
แล้วให้มี ประสิ ทธิ ภาพสู งขึ5นก็ได้ โครงงานลักษณะนี5จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ก่อน
้
แล้วนํา ข้อมูลทีได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ งของนั5น ๆ ต่อจากนั5นต้องมีการทดสอบการทํางาน
หรื อทดสอบคุณภาพของสิ งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี5นกเรี ยนต้อง
ั
ใช้ความรู ้เกียวกับเครื องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื องมือต่าง ๆ ทีเกียวข้อง รวมทั5งอาจใช้วธีทาง
ิ
วิศวกรรมฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ในการพัฒนาด้วย
ตัวอย่ างโครงงาน
ชื อโครงงาน ซี ยเู ท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์ ออกแบบลายผ้าสามมิติ CU Textile Design
ชื อผู้ทาโครงงาน นางสาวอัจฉริ ยา วิเศษเกษม , นายณัฐ ศรี กฤษณพล , นายอาชว์ สรรพอาษา
ํ
ชื ออาจารย์ ทปรึกษา
ี ผูช่วยศาสตราจารย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ
้
สถาบันการศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ระดับชั' น ปริ ญญาตรี
หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
วัน/เดือน/ปี ทําโครงงาน 1/1/2541
บทคัดย่ อ อุตสาหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมสิ งทอและเครื องนุ่งห่ม อุตสาหกรรม
รองเท้าและเครื องหนัง และอุตสาหกรรมอัญมณี และเครื องประดับ ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรม
แล้วปั จจุบนประเทศไทยมีโรงงานแฟชัน ไม่ตากว่า 10,207 โรงงาน คนงาน ประมาณ 1.58 ล้านคน และมี
ั ํ
มูลค่าการส่ งออกในปี 2545 ประมาณ 346,822.3 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 6.2 ของ GDPปั ญหาทีประสบของ
อุตสาหกรรมแฟชันในปั จจุบน คือ ปั ญหาแนวโน้มการส่ งออกทีลดลงอย่างต่อเนือง ตั5งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดย
ั
ปั จจัยของการถดถอย ได้แก่ ผูประกอบการของไทยส่ วนใหญ่เป็ นเพียงผูรับจ้างผลิต หรื อ
้ ้
โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM) ผลิตสิ นค้าคุณภาพระดับล่าง และไม่สร้างมูลค่าเพิม
รวมทั5งมีการแข่งขันสู งขึ5นจากประเทศทีมีตนทุนและค่าจ้างแรงงานตํา เช่น จีน เวียดนามและอินโดนีเซี ย
้
เป็ นเหตุให้คณะรัฐมนตรี ตระหนักถึงความสําคัญของการส่ งเสริ มอุตสาหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบใน
กิจกรรมการเปิ ดตัวโครงการกรุ งเทพฯเมืองแฟชัน โดยคําสังจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพือสร้างธุ รกิจ จาก
การทีประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นด้านแฟชัน และเพือให้ตราสิ นค้าไทยเป็ นทียอมรับ รวมทั5งสร้าง
มูลค่าเพิมในการส่ งออก งบประมาณและรายได้ รวมทั5งเป็ นศูนย์กลางแฟชันอย่างแท้จริ งหนึงในกิจกรรมที
- 2. สามารถส่ งเสริ มอุตสาหกรรมดังกล่าว คือการวิจยและพัฒนา ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพือเพิมมูลค่าของ
ั
ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิงอุตสาหกรรมสิ งทอและเครื องนุ่งห่มนั5น การเพิมศักยภาพของขั5นตอนการ
ออกแบบลายผ้าสามารถเพิมมูลค่าของผลิตภัณฑ์เครื องนุ่งห่มได้อย่างสู ง จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนา
เครื องมือในลักษณะโปรแกรมจําลองลายผ้าสามมิติข5 ึน เพือช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการออกแบบลาย
ผ้าสําหรับนักออกแบบหรื อดีไซเนอร์ ให้ผลิตสิ นค้าทีมีรูปแบบและคุณภาพระดับสากล อีกทั5งยังลด
ระยะเวลา ค้นทุน และความผิดพลาดในการผลิตการออกแบบลายผ้า (Textile design) เป็ นการผสมผสานกัน
ระหว่างเทคนิค การผลิต และความคิดสร้างสรรค์ ให้ตรงกับ ความต้องการของผูบริ โภค ซึ งลวดลายผ้าใน
้
ปั จจุบนแบ่งเป็ น 2 ประเภท คือ ลวดลายทีเกิดจากสี และลวดลายทีเกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย หาก
ั
ั ั ่
ลวดลายทีเกิดจากสี น5 นหลุดไป ผ้าก็ยงคงเป็ นผืนผ้าและใช้ประโยชน์ได้ เรี ยกลวดลายประเภทนี5วา ลวดลาย
ตกแต่ง (Decorative design) เกิดจากการย้อม และพิมพ์พลิกแพลงแบบต่างๆ ส่ วนลวดลายทีเกิดจากการ
ขัดกันของเส้นด้าย หากดึงเอาเส้นด้าย ทีเป็ นลวดลายออก ลายผ้าบริ เวณนั5นจะเสื อมสภาพไป ไม่สามารถใช้
ประโยชน์ได้ เรี ยกว่าลวดลายโครงสร้าง (Structural) ซึ งเกิดจากการทอ การออกแบบสิ งทอนี5 เริ มต้นจากการ
พิจารณาวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย เส้นด้าย ผ้า และการตกแต่ง แล้วจึงเริ มออกแบบลวดลายผ้าซึ งถือเป็ น
ขั5นตอนทีสําคัญทีสุ ด เพราะเป็ นขั5นตอนทีจะตัดสิ นว่า ผ้าจะสวยงามและตรงตามความต้องการของผูบริ โภค
้
หรื อไม่ การปฏิบติงานแต่ละขั5นตอน จึงต้องอาศัยผูชานาญเพือให้เกิดความผิดพลาดน้อยทีสุ ด ซึ งโปรแกรม
ั ้ํ
จําลองลายผ้าสามมิติ จะช่วยให้ผผลิตเห็นโครงร่ างของลายผ้าทีออกแบบไว้ ในลักษณะเสมือนจริ ง เป็ น สาม
ู้
มิติ เพือให้เห็นจุดบกพร่ องของการออกแบบนั5นๆ อย่างชัดเจน และสามารถแก้ไขได้โดยสะดวก ก่อนนําเข้า
สู่ กระบวนการผลิต ซึ งเป็ นการลดค่าใช้จ่ายของผูประกอบการ และยังสนับสนุนการเชือมโยงวงจรการผลิต
้
ให้มีศกยภาพในภาคธุ รกิจอุตสาหกรรมมากขึ5นในปั จจุบน มีซอฟต์แวร์ ซึงสามารถใช้งานในการออกแบบ
ั ั
ลายผ้าได้ เช่น Photoshop หรื อการจําลองสามมิติโดยโปรแกรมมายา (Maya) หรื อ ทรี ดีสตูดิโอแม๊กซ์ (3D
Studio Max) รวมทั5ง อราห์วีฟ แคด แคม (Aearah Weave CAD CAM) ซึ งเป็ นโปรแกรมจําลองลายผ้า
โดยเฉพาะ แต่โปรแกรมดังกล่าวอาจทําให้ผผลิตต้องใช้ตนทุนทางด้านเวลาสู งยิงขึ5น เพือจัดการศึกษาและ
ู้ ้
อบรบโปรแกรมหลายโปรแกรมประกอบกัน รวมทั5งต้องอาศัยความชํานาญมากกว่า เนืองจากไม่มีเครื องมือ
ทีอํานวยความสะดวก ในการออกแบบลายผ้าโดยเฉพาะ อีกทั5งมีปัญหาทางด้านลิขสิ ทธิq (license) ทําให้มี
่
ต้นทุนในการผลิตสู งขึ5น จะเห็นได้วา โปรแกรมออกแบบลายผ้าสามมิติ สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่าง
ครบถ้วน และนอกจากนี5ยงเป็ นการส่ งเสริ มวงการอุตสาหกรรมแฟชันของประเทศไทยซึ งเป็ นอุตสาหกรรม
ั
้
ทีสําคัญของเมืองไทยให้กาวหน้ายิงขึ5นอีกด้วย
ทีมา : http://namkwanmay.wordpress.com