More Related Content
Similar to ใบงานที่ 7 ประยุกต์ใช้งาน
Similar to ใบงานที่ 7 ประยุกต์ใช้งาน (20)
More from Aungkana Na Na (20)
ใบงานที่ 7 ประยุกต์ใช้งาน
- 1. ใบงานที ๗ "โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน (Application)
โครงงานประเภทการประยุ Application)"
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานทีใช้
คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพือประยุกต์ใช้งานจริ งในชีวตประจําวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์
ิ
สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์
ํ
สําหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี*จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื อ
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึงอาจเป็ นการคิดสร้างสิ งของขึ*นใหม่ หรื อปรับปรุ งเปลียนแปลงของเดิม
่
ทีมีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิภาพสู งขึ*น โครงงานลักษณะนี*จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ
ะนี
ของผูใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลทีได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ งของนั*นๆ ต่อจากนั*นต้องมี
้
การทดสอบการทํางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความ
สมบูรณ์ โครงงานประเภทนี*ผเู ้ รี ยนต้องใช้ความรู ้เกียวกับเครื องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม
และเครื องมือต่างๆ ทีเกียวข้อง
ตัวอย่างโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
1. ระบบบริ หารจัดการข้อมูลผูเ้ รี ยนของโรงเรี ยน
2. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่ วนบุคคล
3. ระบบจองตัวรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
;
4. ระบบแนะนําเส้นทางเดินรถประจําทาง
5. โปรแกรมสังเคราะห์เสี ยงสําหรับคนตาบอดบนรถประจําทาง
6. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
7. โฮมเพจส่ วนบุคคล
8. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื*องต้น
9. โปรแกรมพจนานุกรมไทย งกฤษ
รมไทย-อั
- 2. ตัวอย่ างโครงงาน
ชื อโครงงาน ซียูเท็กซ์ ไทล์ : ซอฟต์ แวร์ ออกแบบลายผ้ าสามมิติ CU Textile Design
ชื อผู้ทาโครงงาน
ํ นางสาวอัจฉริ ยา วิเศษเกษม , นายณัฐ ศรี กฤษณพล , นายอาชว์ สรรพ
อาษา
ชื ออาจารย์ ทปรึกษา
ี ผูช่วยศาสตราจารย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ
้
สถาบันการศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
ระดับชัE น ปริ ญญาตรี
หมวดวิชา คอมพิวเตอร์
วัน/เดือน/ปี ทําโครงงาน 1/1/2541
บทคัดย่ อ อุตสาหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมสิ งทอและ
เครื องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื องหนัง และอุตสาหกรรมอัญ
มณี และเครื องประดับ ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว
ปั จจุบนประเทศไทยมีโรงงานแฟชัน ไม่ตากว่า 10,207 โรงงาน คนงาน
ั ํ
ประมาณ 1.58 ล้านคน และมี มูลค่าการส่ งออกในปี 2545 ประมาณ
346,822.3 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 6.2 ของ GDP
ปั ญหาทีประสบของอุตสาหกรรมแฟชันในปั จจุบน คือ ปั ญหาแนวโน้ม
ั
การส่ งออกทีลดลงอย่างต่อเนือง ตั*งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดยปั จจัยของการ
ถดถอย ได้แก่ ผูประกอบการของไทยส่ วนใหญ่เป็ นเพียงผูรับจ้างผลิต
้ ้
หรื อ
โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM)
ผลิตสิ นค้าคุณภาพระดับล่าง และไม่สร้างมูลค่าเพิม รวมทั*งมีการ
แข่งขันสู งขึ*นจากประเทศทีมีตนทุนและค่าจ้างแรงงานตํา เช่น จีน
้
เวียดนามและอินโดนีเซี ย เป็ นเหตุให้คณะรัฐมนตรี ตระหนักถึง
ความสําคัญของการส่ งเสริ มอุตสาหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบใน
กิจกรรมการเปิ ดตัวโครงการกรุ งเทพฯเมืองแฟชัน โดยคําสังจาก
กระทรวงอุตสาหกรรม เพือสร้างธุ รกิจ จากการทีประเทศไทยมี
ภาพลักษณ์โดดเด่นด้านแฟชัน และเพือให้ตราสิ นค้าไทยเป็ นทียอมรับ
รวมทั*งสร้างมูลค่าเพิมในการส่ งออก งบประมาณและรายได้ รวมทั*งเป็ น
- 3. ศูนย์กลางแฟชันอย่างแท้จริ ง
หนึงในกิจกรรมทีสามารถส่ งเสริ มอุตสาหกรรมดังกล่าว คือการวิจยและ ั
พัฒนา ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพือเพิมมูลค่าของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ
อย่างยิงอุตสาหกรรมสิ งทอและเครื องนุ่งห่มนั*น การเพิมศักยภาพของ
ขั*นตอนการออกแบบลายผ้าสามารถเพิมมูลค่าของผลิตภัณฑ์
เครื องนุ่งห่มได้อย่างสู ง จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาเครื องมือในลักษณะ
โปรแกรมจําลองลายผ้าสามมิติข* ึน เพือช่วยพัฒนาขีดความสามารถใน
การออกแบบลายผ้าสําหรับนักออกแบบหรื อดีไซเนอร์ ให้ผลิตสิ นค้าทีมี
รู ปแบบและคุณภาพระดับสากล อีกทั*งยังลดระยะเวลา ค้นทุน และความ
ผิดพลาดในการผลิต
การออกแบบลายผ้า (Textile design) เป็ นการผสมผสานกันระหว่าง
เทคนิค การผลิต และความคิดสร้างสรรค์ ให้ตรงกับ ความต้องการของ
ผูบริ โภค ซึ งลวดลายผ้าในปั จจุบนแบ่งเป็ น 2 ประเภท คือ ลวดลายทีเกิด
้ ั
จากสี และลวดลายทีเกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย หากลวดลายทีเกิด
จากสี น* นหลุดไป ผ้าก็ยงคงเป็ นผืนผ้าและใช้ประโยชน์ได้ เรี ยกลวดลาย
ั ั
่
ประเภทนี*วา ลวดลายตกแต่ง (Decorative design) เกิดจากการย้อม และ
พิมพ์พลิกแพลงแบบต่างๆ ส่ วนลวดลายทีเกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย
หากดึงเอาเส้นด้าย ทีเป็ นลวดลายออก ลายผ้าบริ เวณนั*นจะเสื อมสภาพ
ไป ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ เรี ยกว่าลวดลายโครงสร้าง (Structural)
ซึ งเกิดจากการทอ
การออกแบบสิ งทอนี* เริ มต้นจากการพิจารณาวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย
เส้นด้าย ผ้า และการตกแต่ง แล้วจึงเริ มออกแบบลวดลายผ้าซึ งถือเป็ น
ขั*นตอนทีสําคัญทีสุ ด เพราะเป็ นขั*นตอนทีจะตัดสิ นว่า ผ้าจะสวยงามและ
ตรงตามความต้องการของผูบริ โภคหรื อไม่ การปฏิบติงานแต่ละขั*นตอน
้ ั
จึงต้องอาศัยผูชานาญเพือให้เกิดความผิดพลาดน้อยทีสุ ด ซึ งโปรแกรม
้ํ
จําลองลายผ้าสามมิติ จะช่วยให้ผผลิตเห็นโครงร่ างของลายผ้าที
ู้
ออกแบบไว้ ในลักษณะเสมือนจริ ง เป็ น สามมิติ เพือให้เห็นจุดบกพร่ อง
ของการออกแบบนั*นๆ อย่างชัดเจน และสามารถแก้ไขได้โดยสะดวก
ก่อนนําเข้าสู่ กระบวนการผลิต ซึ งเป็ นการลดค่าใช้จ่ายของ
ผูประกอบการ และยังสนับสนุนการเชื อมโยงวงจรการผลิตให้มี
้
- 4. ศักยภาพในภาคธุ รกิจอุตสาหกรรมมากขึ*น
ในปั จจุบน มีซอฟต์แวร์ ซึงสามารถใช้งานในการออกแบบลายผ้าได้ เช่น
ั
Photoshop หรื อการจําลองสามมิติโดยโปรแกรมมายา (Maya) หรื อ ทรี ดี
สตูดิโอแม๊กซ์ (3D Studio Max) รวมทั*ง อราห์วฟ แคด แคม (Aearah
ี
Weave CAD CAM) ซึ งเป็ นโปรแกรมจําลองลายผ้าโดยเฉพาะ แต่
โปรแกรมดังกล่าวอาจทําให้ผผลิตต้องใช้ตนทุนทางด้านเวลาสู งยิงขึ*น
ู้ ้
เพือจัดการศึกษาและอบรบโปรแกรมหลายโปรแกรมประกอบกัน
รวมทั*งต้องอาศัยความชํานาญมากกว่า เนื องจากไม่มีเครื องมือ ทีอํานวย
ความสะดวก ในการออกแบบลายผ้าโดยเฉพาะ อีกทั*งมีปัญหาทางด้าน
ลิขสิ ทธิs (license) ทําให้มีตนทุนในการผลิตสู งขึ*น จะเห็นได้วา
้ ่
โปรแกรมออกแบบลายผ้าสามมิติ สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่าง
ครบถ้วน และนอกจากนี*ยงเป็ นการส่ งเสริ มวงการอุตสาหกรรมแฟชัน
ั
ของประเทศไทยซึ งเป็ นอุตสาหกรรมทีสําคัญของเมืองไทยให้กาวหน้า ้
ยิงขึ*นอีกด้วย
ทีมา : http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0
%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B
8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%
AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/
https://sites.google.com/site/luksaduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-khxmphiwtexr