ชนิดของคำในภาษาอังกฤษ, parts of speech, noun, pronoun, verb, adjective, adverb, preposition, conjunction, interjection, article, determiner, rap, คำนาม, คำสรรพนาม, กริยา, วิเศษณ์, กริยาวิเศษณ์, บุพบท, สันธาน, คำอุทาน, คำนำหน้านาม, แรพ,

1. เด็กอเมริกันก็ต้องเรียนเรื่อง Parts of Speech เหมือนกัน
(ฟังเด็กๆ แรพแล้วอาจมีกำาลังใจอีกนิด – เขาพูดอยู่ทุกวันก็ยังต้องเรียน)
1
Parts of Speech คือคำาชนิดต่างๆ หรือส่วนต่างๆ ของคำาพูดหรือภาษา
ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไป จะบอกว่ามี 8 ชนิดด้วยกัน
คือ noun, pronoun, verb, adjective, adverb, preposition, conjunction, interjection
บางคนก็บอกว่า มี 9 คือ มี article ที่ภาษาไทยไม่มี และมักใช้คำาว่า คำานำาหน้า
นาม a, an, the
บางคนก็บอกว่า มี 10 ด้วยซำ้า คือ มี determiner อย่าง this, some, those เป็นต้น
ด้วย
2
สำาหรับเรา ช่างเขาเถอะนะ ให้นักภาษาศาสตร์เขา study และ debate กันไป
แต่เราควรจะรู้จักไหม ก็ควรรู้จักพอประมาณเพื่อประโยชน์ในการเรียน
อย่างเช่น ควรจะรู้ว่าคำาว่า incredible ในประโยค That’s incredible! เป็น
adjective สิ่งนั้น/เรื่องนั้น(มีลักษณะ) ไม่น่าเชื่อ
ส่วนในประโยคนี้ ใช้คำาว่า incredibly ซึ่งเป็น adverb ขยายคำาว่า easy อีกต่อ
หนึ่ง That’s incredibly easy! สิ่งนั้น/เรื่องนั้น(มีลักษณะ) ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
3
พื้นๆ ก็คงพอเข้าใจ รู้จักบ้าง แต่แน่นอน เรียนไปๆ ทำาไมมันมีข้อยกเว้นเยอะ
จัง
ต้องบอกว่า...มันเป็นอย่างนั้นเอง
ก็อ่านไป ฟังไป จำาไป นั่นแหละ
ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เห็น ก็ลืมไป...เรื่องธรรมดาอีกเหมือนกัน
4
ไปเจอคลิปอธิบาย parts of speech ของวิชาภาษาอังกฤษ
นักเรียนเกรด 9 (ประมาณมัธยมสาม) ของคุณ Gail Weinhold
ที่โรงเรียน Hopkins West Jr. High ในรัฐ Minnesota ทำาไว้
เลยขอแชร์มา
ฟังสนุกๆ คำาหรือประโยคอาจไม่ค่อยมีความหมาย (make
sense) นัก ขอให้เข้าใจว่า เป็นเพราะเขาเน้นสัมผัส (rhyme)
คือให้คำาคล้องจองกัน
5
https://www.youtube.com/watch?
v=_oySfiNE9s4https://www.youtube.com/watch?
v=_oySfiNE9s4

2. Every name is called a NOUN,
as FIELD or FOUNTAIN, STREET or TOWN.
ชื่อของทุกอย่างๆ เรียกว่า NOUN (คำานาม)
อย่างเช่น FIELD หรือ FOUNTAIN, STREET หรือ TOWN.
(ทุ่งนา นำ้าพุ ถนน เมือง)
In place of nouns the PRONOUNS stand
as HE or SHE can clap their hands.
PRONOUNS (คำาสรรพนาม) คือคำาที่ใช้แทนคำานาม
อย่างเช่นคำาว่า HE หรือ SHE (ในประโยคที่ว่า) He or SHE can clap their hands.
เขาหรือเธอตบมือของตัวเองได้
(คำาว่า their ในที่นี้ เป็น possessive adjective คือคำาวิเศษณ์ที่แสดงความเป็น
เจ้าของ ขยายคำาว่า hands ไม่
ใช่ pronoun)
An ADJECTIVE describes a thing,
as MAGIC wand or BRIDAL ring.
ADJECTIVE (คำาวิเศษณ์) บรรยาย (บอกลักษณะ) ของสิ่งหนึ่งๆ
อย่างเช่น MAGIC (ที่ขยายคำาว่า) wand หรือ BRIDAL (ที่ขยายคำาว่า) ring
(a magic wand คือไม้กายสิทธิ์ อย่างที่นางฟ้าใช้ในเทพนิยาย a bridal ring คือ
แหวนสำาหรับเจ้าสาว)
A VERB means action – something done:
to READ, to WRITE, to JUMP, to RUN.
VERB (คำากริยา) แสดงถึง การกระทำา – สิ่งใดสิ่งหนึ่งถูกกระทำาลงไป:
(อย่างเช่น) to READ, to WRITE, to JUMP, to RUN
How things are run the ADVERBS tell
as QUICKLY, SLOWLY, BAD, and WELL.
ADVERBS (กริยาวิเศษณ์) เป็นตัวบอกว่าสิ่งต่างๆ ดำาเนินไปในลักษณะไหน
อย่างไร
อย่างเช่น QUICKLY, SLOWLY, BADLY, WELL
(อย่างรวดเร็ว อย่างช้าๆ อย่างเลว อย่างดี)
The PREPOSITION shows relation
As IN the street or AT the station.
PREPOSITION (คำาบุพบท) แสดงถึงความสัมพันธ์
อย่างเช่นคำาว่า in ใน IN the street หรือคำาว่า at ใน AT the station
(ในถนน หรือ ที่สถานี)
CONJUNCTIONS join in many ways:

3. Sentences, words, or phrase and phrase
CONJUNCTIONS (คำำสันธำน) (ทำำหน้ำที่) เชื่อมได้หลำยแบบ
(เชื่อม) ประโยคต่ำงๆ (เชื่อม) คำำต่ำงๆ หรือ (เชื่อม) วลีกับวลี (เข้ำด้วยกัน)
The INTERJECTION cries out “HARK!”
I need an exclamation mark!
INTERJECTION (คำำอุทำน) ร้องออกมำว่ำ “ฟัง!”
ฉัน (คำำอุทำน) ต้องกำรเครื่องหมำยตกใจ (เครื่องหมำยอัศเจรีย์)!
Eight parts of speech, I think I’ve got it!
Now all that’s left is Pop, Lock and Drop it!
คำำชนิดต่ำงๆ แปดชนิด ฉันคิดว่ำฉันเข้ำใจมันละ
ครำวนี้ ทั้งหมดที่เหลือก็คือ Pop, Lock and Drop it!
6
• "Pop, Lock & Drop It" เป็นชื่อเพลงสไตล์หนึ่งที่เรียกว่ำ
crunk (จำก crazy drunk) โดยแรพเพอร์ชื่อ Huey ฮิวอี้
ออกมำในปี 2006 ติดอันดับ 98 ของ Billboard Hot
100
• ถึงแม้จะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับท่ำเต้น แต่ก็ถกเถียงกันอยู่ว่ำ
หมำยถึงกำรเต้นหรือกระบวนกำรของกำรยิงปืนพกกันแน่
บำงครั้ง สำำนวน "pop, lock and drop it" จะใช้เป็น
slang ที่บรรยำยถึงกระบวนกำรยิง