กฎหมายนิติกรรม
- 5. 2. องค์ประกอบของนิติกรรม
2.1 เป็นการแสดงเจตนาของบุคคล
• นิติกรรมต้องเป็นการกระทาของ
บุคคล แต่หากเป็นการกระทาของ
สัตว์หรือสิ่งของย่อมไม่เป็นนิติกรรม
เช่น ลิงหรือหุ่นยนต์ไปซื้อขนมเค้ก
ย่อมไม่ใช่การกระทาของบุคคลจึงไม่
เป็นนิติกรรม
2.2 เป็นการกระทาที่ชอบด้วยกฎหมาย
• นิติกรรมต้องเป็นการกระทาที่ชอบ
หรือถูกกฎหมาย หากบุคคลแสดง
เจตนาทานิติกรรมโดยไม่ชอบด้วย
กฎหมาย แม้บุคคลนั้นจะประสงค์ให้
เกิดผลผูกพันก็ตาม กฎหมายนั้นก็จะ
โมฆะ เช่น ทานิติกรรมซื้อขายยาบ้า
จ้างมือปืนฆ่าคน เป็นต้น
- 6. 2. องค์ประกอบของนิติกรรม (ต่อ)
2.3 การผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
• หากบุคคลกระทาการโดยไม่มุ่ง
ผูกพันทางกฎหมายต่อบุคคลอื่น ไม่
ว่าจะเป็นการพูดเล่น การแสดง
อัธยาศัยไมตรีทางสังคม การกระทา
เหล่านี้ย่อมไม่เป็นนิติกรรม เช่น
คุณครูสัญญาว่าจะพาไปเที่ยวเกาหลี
แล้วลืมทาตามที่สัญญาไว้
พูดจาล้อเล่นว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวและ
ดูหนัง เป็นต้น
2.4 เป็นการกระทาโดยสมัครใจ
• การแสดงเจตนาออกมาโดยอิสระและ
ตรงกับความรู้สึกนึกคิด ปราศจาก
ความสาคัญผิดหรือถูกทากลฉ้อฉล
หลอกลวงหรือขู่เข็ญบังคับ
- 7. 2. องค์ประกอบของนิติกรรม (ต่อ)
2.5 เป็นการกระทาที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวแห่งสิทธิ
• การเคลื่อนไหวแห่งสิทธิ ได้แก่ การก่อ เปลี่ยนแปลง โอน
สงวน หรือระงับสิทธิ เช่น ทานิติกรรมซื้อขายเป็นการโอน
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อและโอน
กรรมสิทธิ์ในเงินจากผู้ซื้อไปยังผู้ขายหรือชาระหนี้ทาให้
ระงับลง เป็นต้น
- 8. 3. ประเภทของนิติกรรม
• 3.1 แบ่งตามฝ่ ายที่เข้าทานิติกรรม
1) นิติกรรมฝ่ ายเดียว หมายถึง นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคล
เพียงฝ่ายเดียว เช่น การทาพินัยกรรม การปลดหนี้ การบอกเลิกสัญญา การชาระหนี้
เป็นต้น
2) นิติกรรมหลายฝ่ าย หมายถึง นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคล
ตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาเช่าทรัพย์เป็นต้น
- 9. 3. ประเภทของนิติกรรม (ต่อ)
• 3.2 แบ่งตามเวลาที่นิติกรรมมีผล
1) นิติกรรมที่มีผลในระหว่างที่ผู้ทานิติกรรมมีชีวิตอยู่ หมายถึง นิติกรรมที่ผู้ทา
นิติกรรมมีเจตนาจะให้มีผลในระหว่างที่ตนยังมีชีวิตอยู่ อาจเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียว
หรือสองฝ่ายก็ได้
2) นิติกรรมที่มีผลเมื่อผู้ทานิติกรรมตายแล้ว หมายถึง นิติกรรมที่เกิดขึ้นแล้วใน
ขณะที่ผู้ทานิติกรรมยังมีชีวิตอยู่ เช่น การทาพินัยกรรม นิติกรรมที่กาหนดเงื่อนเวลา
ไว้ให้มีผลเมื่อผู้ทานิติกรรมถึงแก่ความตาย
- 10. 3. ประเภทของนิติกรรม (ต่อ)
• 3.3 แบ่งตามวิธีการที่ทาให้นิติกรรมสมบูรณ์
1) นิติกรรมที่สมบูรณ์ด้วยการแสดงเจตนา หมายถึง นิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์
และใช้บังคับได้ทันทีเมื่อมีการแสดงเจตนาของผู้ทานิติกรรม เช่นสัญญาจ้าง
แรงงาน สัญญาจ้างทาของ สัญญาเช่าทรัพย์เป็นต้น
2) นิติกรรมที่สมบูรณ์เมื่อได้ทาตามแบบที่กฎหมายกาหนด หมายถึง นิติกรรมที่
ลาพังเพียงแต่การแสดงเจตนาของผู้ทานิติกรรมยังไม่ทาให้นิติกรรมนั้นสมบูรณ์
นิติกรรมนั้นสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ทานิติกรรมได้ทาให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมาย
กาหนดไว้
- 12. ความหมายโมฆะกรรม
• โมฆะกรรม คือ การที่นิติกรรมเสียเปล่าไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ ในทางกฎหมายมา
ตั้งแต่ทานิติกรรม ความเสียเปล่านั้นเกิดขึ้นทันทีที่มีการทานิติกรรมที่กฎหมาย
กาหนดให้มีผลเป็นโมฆะ
- 13. 4. 1 โมฆะกรรม
4.1.1 เหตุที่ทาให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ
• วัตถุประสงค์
• แบบ
• การแสดงเจตนาซ่อนเร้น
• การแสดงเจตนาลวง
• การแสดงเจตนาโดยสาคัญใน
สาระสาคัญ
4.1.2 ผลของโมฆะกรรม
• นิติกรรมที่ตกเป็นโมฆะจะเสียเปล่า
โดยไม่ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย
ใดๆ ทั้งสิ้น สิทธิและหน้าที่ระหว่าง
คู่กรณีมีผลเสมือนไม่ได้ทานิติกรรม
นิติกรรมที่เป็นโมฆะกรรมจึงไม่อาจ
ให้สัตยาบันแก่กันได้ซึ่งแตกต่างจาก
นิติกรรมที่เป็นโมฆียะ
- 14. ความหมายโมฆียะกรรม
• โมฆียกรรม คือ นิติกรรมที่กฎหมายให้ถือว่าสมบูรณ์อยู่จนกว่าจะถูกบอกล้าง
เนื่องจากเหตุที่ทาให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะนั้นยังบกพร่องไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่
จะทาให้นิติกรรมนั้นตกเป็นโมฆะ
- 15. 4.2 โมฆียะกรรม
4.2.1 เหตุที่ทาให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ
• ความสามารถ
• การแสดงเจตนาโดยสาคัญใน
คุณสมบัติ
• การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉล
• การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่
4.2.2 ผลของโมฆียะกรรม
• นิติกรรมที่ตกเป็นโมฆียะย่อมมีผล
สมบูรณ์จนกว่าจะถูกบอกล้าง โดย
ผู้ทานิติกรรมที่ตกเป็นโมฆียะย่อม
สามารถเลือกได้ว่าจะให้สัตยาบัน
เพื่อให้นิติกรรมนั้นมีผลสมบูรณ์
ตลอดไป หรือจะบอกล้างให้นิติกรรม
นั้นเสียเปล่าตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งจะทาให้
สถานะทางกฎหมายกลับคืนสู่ฐานะ
เดิมก่อนทานิติกรรม
- 18. 6. เงื่อนไขและเงื่อนเวลา
6.1 เงื่อนไข
• เงื่อนไข หมายถึง ข้อความที่บังคับให้
นิติกรรมเป็นผลหรือสิ้นผลต่อเมื่อมี
เหตุการณ์อันไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้น
1) เงื่อนไขบังคับก่อน ถ้าข้อความที่
ระบุไว้ในเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นนิติ
กรรมก็จะมีผล
2) เงื่อนไขบังคับหลัง ถ้าข้อความที่
ระบุไว้ในหลังเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น
นิติกรรมก็จะสิ้นผลไป
6.2 เงื่อนเวลา
• เงื่อนเวลา หมายถึง ข้อความที่บังคับ
ไว้ให้นิติกรรมเป็นผลหรือสิ้นผล
ต่อเมื่อถึงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง
ในอนาคต
1) เงื่อนเวลาเริ่มต้น ระยะเวลาที่
กาหนดทานิติกรรม เมื่อครบกาหนด
นิติกรรมก็จะมีผลบังคับใช้
2) เงื่อนเวลาสิ้นสุด เมื่อครบกาหนด
นิติกรรมนั้นก็จะสิ้นผลไป
- 19. 7. อายุความ
• อายุความ หมายถึง กาหนดระยะเวลาที่กฎหมายกาหนดให้เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิ
เรียกร้องของตนด้วยการฟ้องร้องต่อศาล หากเจ้าหนี้ไม่ได้ใช้สิทธิของตนภายใน
เวลาที่กฎหมายกาหนดสิทธิเรียกร้องดังกล่าวก็จะขาดอายุความ
- 21. แบบทดสอบ
• ข้อที่ 1. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของ
นิติกรรม
ก. เป็นการแสดงเจตนาของบุคคล
ข. เป็นการกระทาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ค. เป็นการกระทาโดยโดนบังคับ
ง. เป็นการกระทาโดยสมัครใจ
เฉลย ค. เป็นการกระทาโดยโดนบังคับ
เหตุผล เพราะองค์ประกอบของนิติ
กรรมมี 5 ประการ ดังนี้คือ
1. เป็นการแสดงเจตนาของบุคคล
2. เป็นการกระทาที่ชอบด้วยกฎหมาย
3. เป็นการกระทาที่มุ่งผูกนิติสัมพันธ์
ระหว่างบุคคล
4. เป็นการกระทาโดยสมัครใจ
5. เป็นการกระทาที่ก่อให้เกิดการ
เคลื่อนไหวแห่งสิทธิ
- 22. แบบทดสอบ (ต่อ)
• ข้อที่ 2 เปเป้ ขับรถชนตั๊ก จนตั๊กขาหัก
กรณีนี้เปเป้ เองไม่ได้สมัครใจจะให้
เกิดผลทางกฎหมายแต่อย่างใด แต่
กฎหมายได้กาหนดให้การกระทาของเป
เป้ เป็นละเมิดและมีความผูกพันกันตาม
กฎหมายที่จะต้องชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทนให้ตั๊ก ประโยคนี้หมายถึงข้อใด
ก. นิติกรรม
ข.นิติเหตุ
ค.นิติศาสตร์
ง.การแสดงเจตนาของบุคคล
• เฉลย ข. นิติเหตุ
เหตุผล เพราะนิติเหตุ หมายถึง เหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นจากการกระทาของบุคคลหรือเกิดขึ้น
ตามธรรมชาติ ซึ่งเหตุการณ์นั้นไม่มีผู้ใด
สมัครใจจะให้เกิดผลทางกฎหมาย แต่
กฎหมายได้กาหนดให้เหตุการณ์เหล่านั้นมี
ผลทางกฎหมายและก่อให้เกิดความ
เคลื่อนไหวแห่งสิทธิขึ้น
- 23. แบบทดสอบ (ต่อ)
• ข้อที่ 3. ข้อใดถือว่าเป็นนิติกรรมที่
เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของ
บุคคลเพียงฝ่ายเดียว
ก. การทาพินัยกรรม
ข. สัญญาซื้อขาย
ค. สัญญากู้ยืมเงิน
ง. สัญญาให้โดยเสน่หา
• เฉลย ก. การทาพินัยกรรม
เหตุผล เพราะการทาพินัยกรรมเป็น
การแสดงเจตนาของบุคคลเพียงฝ่าย
เดียว ซึ่งแตกต่างกับสัญญาซื้อขาย
สัญญากู้ยืมเงิน และสัญญาให้โดย
เสน่หา ที่ต้องแสดงเจตนาของบุคคล
ตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป
- 24. แบบทดสอบ (ต่อ)
• ข้อที่ 4. เงื่อนเวลามีกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท
ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท
ง. 5 ประเภท
• เฉลย ก. 2 ประเภท
เหตุผล เพราะ เงื่อนเวลามี 2 ประเภท
คือ เงื่อนเวลาเริ่มต้น กับเงื่อนเวลา
สิ้นสุด
- 25. แบบทดสอบ (ต่อ)
• ข้อที่ 5. แดงทาสัญญาขายหนังสือ
ให้แก่ดา โดยมีข้อตกลงว่าหากแดง
สามารถสอบเข้าเรียนในคณะ
นิติศาสตร์ได้ก็ให้นิติกรรมขาย
หนังสือดังกล่าวมีผล ประโยค
ดังกล่าวถือเป็นเงื่อนไขแบบใด
ก. เงื่อนไขบังคับก่อน
ข. เงื่อนไขบังคับหลัง
ค. เงื่อนไขเริ่มต้น
ง. เงื่อนไขสิ้นสุด
• เฉลย ก. เงื่อนไขบังคับก่อน
เหตุผล เพราะเงื่อนไขบังคับก่อนคือ
ข้อความที่ระบุเหตุการณ์อันไม่
แน่นอนไว้และถ้าเหตุการณ์นั้น
เกิดขึ้นนิติกรรมก็จะมีผล ดังนั้น หาก
แดงสามารถสอบเข้าเรียนในคณะ
นิติศาสตร์ได้ นิติกรรมดังกล่าวก็จะมี
ผลทันที ดาต้องคืนหนังสือแก่แดง
และแดงต้องคืนเงินค่าหนังสือให้ดา