SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
Download to read offline
รายงาน
เรื่อง ภาวะโลกร้อน
จัดทำโดย
1.นำย พงศภัค กมลศรี เลขที่ 1
2.นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล เลขที่ 2
3.นำย กันตนิษฐ์ วังศรี เลขที่ 4
4.นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล เลขที่ 5
5.นำย ณัฐภัทร มีแก้ว เลขที่ 9
มัธยมศึกษำปีที่5/4
อำจำรย์ที่ปรึกษำ
นำยทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
รำยงำนเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำภำษำไทย
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ กำญจนบุรี
ภำคเรียนที่1 ปีกำรศึกษำ2559
สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำเขต 8
คานา
รำยงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำIS จัดทำขึ้นมำเพื่อศึกษำเกี่ยวกับ ภำวะโลกร้อน ศึกษำเพื่อหำ
ควำมรู้เกี่ยวกับปัญหำโลกร้อนและทำงแก้ไขของปัญหำโลกร้อน
ผู้จัดทา
นำย พงศภัค กมลศรี
นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล
นำย กันตนิษฐ์วังศรี
นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล
นำย ณัฐภัทร มีแก้ว
สารบัญ
สำรบัญ…………………………………………………………………………ก
คำนำ……………………………………………………………………………ข
กิตติกรรมประกำศ……………………………………………………………..ค
บทที่1…………………………………………………………………………..1
บทที่2..................................................................................................................2
บทที่3…………………………………………………………………………..4
บทที่4…………………………………………………………………………..7
บทที่5…………………………………………………………………………..9
บรรณำนุกรม………………………………………………………………….13
ภำคผนวก……………………………………………………………………..1 4
ผู้จัดทำ…………………………………………………………………………19
กิตติกรรมประกาศ
รำยงำน เรื่อง ภำวะโลกร้อน สำเร็จลุล่วงได้ด้วยควำมกรุณำและควำมช่วยเหลืออย่ำงสูงยิ่งจำก
อำจำรย์มำริณ จำนแก้ว อำจำรย์ที่ปรึกษำ ที่ได้กรุณำให้คำปรึกษำแนะนำ และตรวจสอบ แก้ไข ข้อพกพร่อง
ทุกขั้นตอนของกำรจัดทำโครงงำน คณะผู้จัดทำโครงงำนขอขอบพระคุณเป็นอย่ำงสูง
ขอขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ เพื่อนนักเรียน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่ำนที่ไม่ได้กล่ำวนำมไว้ณ ที่นี้ ที่ได้
ให้กำลังใจและมีส่วนช่วยเหลือให้โครงงำนฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี
ท้ำยที่สุด คณะผู้จัดทำรำยงำนหวังว่ำรำยงำนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจไม่มำกก็น้อย
บทที่ 1
ผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศ
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก็ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลำย เมื่อน้ำแข็งจำนวนมำกละลำยลงก็ทำให้ปริมำณ
น้ำทะเลในโลกของเรำนั้นสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงเลยก็คือทำให้น้ำท่วม สถำนที่ๆเรำรู้จักกันหลำยๆที่ก็จะ
จมมิดอยู่ใต้ท้องทะเล อย่ำงเช่น หมู่เกำะมัลดีฟส์ และกรุงเทพมหำนครเมืองหลวงของเรำก็เช่นกัน
นอกจำกนั้นปริมำณน้ำที่เพิ่มขึ้นมำบวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้ระบบนิเวศของท้องทะเลเปลี่ยนไป
ทำให้สัตว์น้ำจำนวนมำกปรับตัวไม่ได้และจะต้องตำยลงไป ตอนนี้ที่เห็นอยู่กันทั่วโลกก็คือปรำกฏกำรณ์
ฟอกขำวของปะกำรัง เกิดจำกกำรที่โพลิปของปะกำรังนั้นตำยเพรำะปรับตัวเข้ำกับสภำพแวดล้อมไม่ได้
เหลือไว้แต่ส่วนที่เป็นโครงสร้ำงสีขำวไร้ซึ่งชีวิต ไม่ต่ำงอะไรกับโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่ตำยแล้ว ซึ่ง
ปะกำรังนั้นเป็นแหล่งอนุบำลสัตว์น้ำที่สำคัญมำก ถ้ำไม่มีปะกำรังสัตว์น้ำต่ำงๆก็จะลดจำนวนลงไป และบำง
ชนิดอำจสูญพันธุ์ไปในที่สุด
อีกผลกระทบที่พวกเรำเห็นได้อย่ำงชัดเจนเลยก็คือภัยพิบัติจำกธรรมชำติที่เกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงมำกขึ้น
เป็นเพรำะสภำพอำกำศเปลี่ยนแปลงไป ฤดูหนำวสั้นลง ฤดูร้อนยำวนำนขึ้น และเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
น้ำจำกทะเลและจำกแหล่งน้ำต่ำงๆก็เกิดกำรระเหยมำกขึ้น ปริมำณน้ำฝนที่ตกลงมำก็จะมีปริมำณที่สูงขึ้นจน
ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลำยพื้นที่ ต่อไปอำหำรและน้ำสะอำดก็จะขำดแคลน เพรำะว่ำพืชผลปลูกได้ยำกขึ้นจำก
กำรที่อำกำศเปลี่ยนไป ซ้ำยังมีภัยพิบัติมำคอยทำลำยพื้นที่เพำะปลูกและพืชผลให้เสียหำยอีกด้วย
ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ
อย่ำงที่กล่ำวไปในหัวข้อที่แล้ว เมื่อสัตว์น้ำมีจำนวนน้อยลงก็ทำให้สูญเสียรำยได้จำกกำรจับสัตว์น้ำ แหล่ง
ท่องเที่ยวใต้น้ำที่เคยสวยงำมที่เคยมีก็หมดไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกำรท่องเที่ยว อีกทั้งกำรเกษตรก็
ได้รับผลกระทบไปด้วย ปริมำณพืชผลที่เคยผลิตได้มำกมำยก็ลดน้อยไป ส่งผลให้อำหำรกำรกินแพงขึ้น และ
สินค้ำขำดตลำดภัยพิบัติที่รุนแรงยังส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยแก่โรงงำนและแหล่งอุตสำหกรรมอีกด้วย
ผลกระทบในด้านของสุขภาพ
อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นนั้นส่งผลให้เกิดสภำวะที่เหมำะสมของกำรดำรงชีวิตของแบคทีเรียและศัตรูพืช
หลำยๆชนิด ซึ่งทำให้ในอนำคตจะมีผู้ที่ติดเชื้อและล้มป่วยมำกขึ้น ยกตัวอย่ำงโรคไข้เลือดออกที่ทุกคนรู้จัก
กันดี รวมไปถึงไข้มำลำเรีย อหิวำตกโรคก็จะระบำดเพิ่มขึ้นมำก
บทที่2
วิธีการเเก้ไขเเละป้องกันภาวะโลกร้อน
กำรลดภำวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำ เรำทุกคนก็ต่ำงมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหำนี้ขึ้น เพรำะ
เพียงแค่เรำหำยใจอยู่เฉยๆก็ปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ออกมำแล้ว ยังไม่รวมถึงกิจกรรมต่ำงๆมำกมำยที่
เรำทำอยู่ทุกๆ ทุกอย่ำงที่เรำทำจะส่งผลดีต่อโลก และมันยังมีเวลำอยู่ถ้ำไม่เริ่มที่ตัวเรำก่อนก็ไม่รู้จะให้ไปเริ่ม
จำกตรงไหน แค่เรำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบำงอย่ำงของเรำทำอยู่ในวันๆหนึ่ง ก็สำมำรถช่วยลดภำวะโลก
ร้อนได้แล้ว ผมเชื่อว่ำมันใกล้ตัวทุกท่ำนมำก และสำมำรถลงมือทำได้เลยด้วยซ้ำ
สภำพภูมิอำกำศของโลกที่เปลี่ยนแปลง นำมำซึ่งปัญหำต่ำงๆมำกมำยและเป็นสิ่งใกล้ตัวเรำทุกคน ไม่ว่ำจะ
เป็นปัญหำกรำสะสมของฝุ่นละอองขนำดเล็กในช่วงหน้ำแล้งของทุกปี ปัญหำน้ำทะเลกัดเซำะชำยฝั่งทะเล
ของไทย ฝนตกหนัก ปัญหำน้ำท่วม โคลนถล่ม ภัยแล้ง หรือแม้กระทั่ง ภำวะแมลงปีกแข็งจำนวนมำกทำลำย
พืชผลทำงกำรเกษตรฯลฯ ดังนั้นประชำชนทุกคนต้องให้ควำมร่วมมือในกำรที่จะช่วยลดภำวะโลกร้อน
เพื่อที่จะช่วยลดผลกระทบต่ำงๆที่อำจจะเกิดขึ้นตำมมำ นั่นคือต้องมีพฤติกรรมที่เหมำะสมในกำรบริโภค
ทรัพยำกรธรรมชำติและร่วมือกันในกำรลดของเสียต่ำงๆ ดั่งนี้
-กำรลดกำรใช้พลังงำนเชื้อเพลิง(น้ำมัน) เนื่องจำกมีกำรใช้เกินควำมจำเป็น ขำดควำมเอำใจใส่ รอบครอบ ไม่
คิดก่อนใช้ทำให้เกิดกำรรั่วไหลสูญเปล่ำโดยรู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์หำกมีกำรใช้เชื้อเพลิงที่เหมำะสมนอกจำกจะ
ลดค่ำใช้จ่ำยให้กับประชำชนและลดกำรใช้พลังงำนเชื้อเพลิงยังสำมำรถลดปริมำณก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์
ที่เป็นสำเหตุหลักที่ทำให้เกิดภำวะโลกร้อนได้อีดด้วย เช่น ตรวขเช็คลมยำงเป็นประจำ
-ลดกำรใช้น้ำ น้ำเป้นทรัพยำกรที่มีอยู่ในธรรมชำติมีควำมสำคัญอย่ำงยิ่งในกำรใช้ในชีวิตประจำวันของ
มนุษย์ดังนั้นหำกมีกำรใช้น้ำอย่ำงไม่ประหยัดน้ำสะอำดอำจมีไม่เพียงพอต่อควำมต้องกำรของมนุษย์เช่น ใช้
น้ำอย่ำงประหยัด อำบน้ำใช้ฝักบัว ไม่ควรล้ำงรถบ่อยครั้งจนเกินไป ล้ำงจำนในภำชนะที่ขังน้ำไว้ใช้สบู่เหลว
แทนสบู่ก้อนเวลำกำรล้ำงมือ เป็นต้น
-ลดกำรใช้ไฟฟ้ำ ไฟฟ้ำเป็นปัจจัยสำคัญอย่ำงยิ่งต่อกำรดำเนินชีวิตและกำรประกอบกิจกำรต่ำงๆกำรประหยัด
ไฟฟ้ำที่ทุกคนสำมำรถทำได้เช่น ปิดสวิตซ์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้ำทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งำน เลือกซื้อ
เครื่องใช้ไฟฟ้ำที่ได้มำตรฐำน ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงำน อย่ำเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เมื่อไม่ใช้งำนเป็นต้น
-กำรลดกำรใช้พลังงำนอื่นๆ เช่น อย่ำใช้กระดำษหน้ำเดียววทิ้ง หลีหเลี่ยงกำรใช้จำนกระดำษ รู้จักแยกแยะ
ประเภทขยะ งด เลิกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งเลย กระตุ้นเตือนให้ผู้อื่นช่วยกันประหยัดพลังงำน เป็น
ต้น
-กำรส่งเสริมกำรใช้พลังงำนหมุนเวียน เป็นพลังงำนที่ได้มำจำกกระแสพลังงำนที่ต่อเนื่องและเกิดซ้ำๆใน
สิ่งแวดล้อม แหล่งของพลังงำนหมุนเวียน คือ พลังงำนแสงอำทิตย์ ลม น้ำ ชีวมวล ก๊ำซชีวภำพ เป็นต้น
-ขี่จักรยำน ประหยัดพลังงำน แถมได้สุขภำพดี รถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้ำนบ้ำงก็ได้ แล้วออกมำขี่จักรยำน
ใช้รถโดยสำรประจำทำง หรือเดินเมื่อต้อง ไปทำกิจกรรม หรือธุระใกล้ๆ บ้ำน เพรำะกำรขับรถยนต์น้อยลง
หมำยถึงกำรใช้น้ำมันลดลง และลดกำรปล่อยคำร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพรำะน้ำมันทุกๆ 1 แกลลอน ที่
ประหยัดได้จะลดคำร์บอนไดออกไซด์ได้ประมำณ 9 กิโลกรัมเลยนะ
-ทำงเดียวกัน ไปด้วยกัน บ้ำนใกล้กันไปด้วยกันสิ ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool ช่วยประหยัดน้ำมัน
และยังเป็นกำรลดจำนวนรถติดบนถนนช่วยลดกำรปล่อยคำร์บอนไดออกไซด์ทำงอ้อม แถมที่สำคัญ ยังได้
เพื่อนใหม่ด้วยนะ
-เวลำซื้อของพยำยำมไม่รับภำชนะที่เป็นโฟม หรือกรณีที่เป็นพลำสติก เช่นขวดน้ำพยำยำมนำกลับมำใช้อีก
เนื่องจำกพลำสติกเหล่ำนี้ทำกำรย่อยสลำยยำก ต้องใช้ปริมำณควำมร้อน เหมือนกับตอนที่ผลิตมันมำ ซึ่งจะ
ก่อให้เกิดควำมร้อนกับโลกของเรำเรำสำมำรถนำกลับมำใช้เป็นภำชนะใส่น้ำแทนกระติกน้ำได้
บทที่3
สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน
สำเหตุหลักของกำรเกิด ภำวะโลกร้อน นี้ก็ไม่ใช่ใครครับ ก็คือ มนุษย์ครับ ที่เป็นต้นเหตุในกำรเพิ่มปริมำณ
ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์จำกกำรเผำไหม้ เชื้อเพลิงต่ำงๆ กำรขนส่ง และกำรผลิต ในโรงงำนอุตสำหกรรม
รวมไปถึงกำรเพิ่มก๊ำซกลุ่มไนตรัส- ออกไซด์ และคลอโรฟลูออโรคำร์บอน (CFC) เข้ำไปในชั้นบรรยำกำศ
พร้อมๆ กับกำรตัดไม้ ทำลำยป่ ำอย่ำงต่อเนื่องและกำรตัดต้นไม้นี้เอง ทำให้กลไกในกำรดึงก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์ออกไปจำกระบบบรรยำกำศถูกลดทอนประสิทธิภำพลง ทำให้แสงอำทิตย์ส่องทะลุ
ผ่ำนชั้นบรรยำกำศมำสู่พื้นโลกได้มำกขึ้น ซึ่งคำร์บอนไดออกไซด์ที่มำกขึ้นนี้ ได้เพิ่มกำรกักเก็บควำมร้อนไว้
ในชั้นบรรยำกำศของโลกมำกขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นภำวะโลกร้อนดังเช่นปัจจุบัน เรำคงทรำบแล้วว่ำสภำวะ
โลกร้อนเกิดจำกกำรที่มีแก๊สเรือนกระจกในบรรยำกำศมำกเกินไป แก๊สเรือนกระจกตัวหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่
คำร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจำกกำรเผำไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้งำน มนุษย์เองเป็นผู้ปล่อยแก๊สนี้ออกมำเป็น
จำนวนมำกเพื่อนำพลังงำนมำใช้ ยิ่งเรำใช้พลังงำนมำกเท่ำใด ก็ยิ่งได้แก๊สเรือนกระจกออกมำมำกขึ้นเป็นเงำ
ตำมตัว หำกเรำพิจำรณำอัตรำกำรใช้พลังงำนในช่วงครึ่งศรวรรษที่ผ่ำนมำ จะพบว่ำ สอดคล้องกับกำรเพิ่ม
ปริมำณแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศเป็นอย่ำงดี และไม่มีแนวโน้มว่ำจะลดลงในระยะเวลำอันใกล้นี้
ปรำกฏกำรณ์ต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันนี้ ที่จริงแล้วเป็นกระบวนกำรรักษำตัวเองของโลก หำกเป็นสภำวะที่
เกิดขึ้นตำมธรรมชำติ โลกจะกลับมำสู่สภำวะสมดุลได้ในเวลำไม่นำนนัก แต่เนื่องจำกมนุษย์เรำเร่งผลิตแก๊ส
เรือนกระจกออกมำมำกเกินขีดควำมสำมำรถ ของโลกที่จะเยียวยำตนเองได้ทัน กำรเกิดสภำวะโลกร้อนอย่ำง
รวดเร็วและรุนแรงจึงเกิดขึ้น กล่ำวโดยสรุปก็คือ สำเหตุที่ทำให้เกิดสภำวะโลกร้อนในครั้งนี้ ก็คือ มนุษย์
ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas)
เป็นก๊ำซที่มีคุณสมบัติในกำรดูดซับคลื่นรังสีควำมร้อน หรือรังสีอินฟำเรดได้ดี ก๊ำซเหล่ำนี้มีควำมจำเป็นต่อ
กำรรักษำอุณหภูมิในบรรยำกำศของโลกให้คงที่ ซึ่งหำกบรรยำกำศโลกไม่มีก๊ำซเรือนกระจกในชั้น
บรรยำกำศ ดังเช่นดำวเครำำะห์ดวงอื่นๆในระบบสุริยะแล้ว จะทำให้อุณหภูมิในตอนกลำงวันนั้นร้อนจัด
และในตอนกลำงคืนนั้นหนำวจัด เนื่องจำกก๊ำซเหล่ำนี้ดูดคลื่นรังสีควำมร้อนไว้ในเวลำกลำงวัน แล้วค่อยๆ
แผ่รังสีควำมร้อนออกมำในเวลำกลำงคืน ทำให้อุณหภูมิในบรรยำกำศโลกไม่เปลี่ยนแปลงอย่ำงฉับพลัน มี
ก๊ำซจำนวนมำกที่มีคุณสมบัติในกำรดูดซับคลื่นรังสีควำมร้อน และถูกจัดอยู่ในกลุ่มก๊ำซเรือนกระจก ซึ่งมีทั้ง
ก๊ำซที่เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติและเกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์ ก๊ำซเรือนกระจกที่สำคัญคือ ไอน้ำ ก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์ โอโซน มีเทนและไนตรัสออกไซด์ สำรซีเอฟซี เป็นต้น แต่ก๊ำซเรือนกระจกที่ถูก
ควบคุมโดยพิธีสำรเกียวโต มีเพียง 6 ชนิด โดยจะต้องเป็นก๊ำซที่เกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์(anthropogenic
greenhouse gas emission) เท่ำนั้น
ทั้งนี้ ยังมีก๊ำซเรือนกระจกที่เกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง คือ
สารซีเอฟซี (CFC หรือ Chlorofluorocarbon)
ซึ่งใช้เป็นสำรทำควำมเย็นและใช้ในกำรผลิตโฟม แต่ไม่ถูกกำหนดในพิธีสำรเกียวโต เนื่องจำกเป็นสำรที่ถูก
จำกัดกำรใช้ในพิธีสำรมอนทรีออลแล้ว
กิจกรรมต่ำง ๆ ของมนุษย์กำลังเพิ่มปริมำณก๊ำซเรือนกระจกเหล่ำนี้ (อำจยกเว้นไอน้ำ)
- กำรเผำไหม้เชื้อเพลิงจำกถ่ำนหิน น้ำมันและก๊ำซธรรมชำติ
- กำรตัดไม้ทำลำยป่ำทำให้เกิดก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์
- กำรทำกำรเกษตรและกำรปศุสัตว์ปล่อยก๊ำซมีเทนและไนตรัสออกไซด์
- ควันจำกท่อไอเสียรถยนต์ปล่อยก๊ำซโอโซน
นอกจำกนี้ กระบวนกำรแปรรูปอุตสำหกรรมปล่อยสำรฮำโลคำร์บอน (CFCs, HFCs, PFCs) กำรเพิ่มขึ้นของ
ก๊ำซเรือนกระจกนั้น ส่งผลให้ชั้นบรรยำกำศมีควำมสำมำรถในกำรกักเก็บรังสีควำมร้อนได้มำกขึ้น ผลที่
ตำมมำคือ อุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นบรรยำกำศที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่กำรเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกนั้น ไม่ได้เพิ่มขึ้น
เป็นเส้นตรงกับปริมำณก๊ำซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งก๊ำซเรือนกระจกแต่ละชนิดยังมีศักยภำพในกำรทำ
ให้เกิดภำวะเรือนกระจก (Global Warming Potential: GWP) ที่แตกต่ำงกัน
ค่ำศักยภำพในกำรทำให้เกิดภำวะโลกร้อนนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภำพในกำรแผ่รังสีควำมร้อนของโมเลกุล
และขึ้นอยู่กับอำยุของก๊ำซนั้นๆ ในบรรยำกำศ และจะคิดเทียบกับกำรแผ่รังสีควำมร้อนของก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์ในช่วงระยะเวลำหนึ่ง เช่น 20 ปี 50 ปี หรือ 100 ปี
ค่ำ GWP ของก๊ำซเรือนกระจกต่ำงๆ ในช่วงเวลำ 100 ปี ของก๊ำซเรือนกระจกต่ำงๆ เป็นดังนี้
1.ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์มีอำยุในชั้นบรรยำกำศ 200-4501 ปี
2.มีเทน 9-1523 ปี
3.ไนตรัสออกไซด์120-296 ปี
4.CFC 1,210-10,600 ปี
5.เตตะฟลูออโรมีเทน 5,700-50,000 ปี
6.ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์3,200-22,000 ปี
บทที่4
การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
กำรลดภำวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำ เรำทุกคนก็ต่ำงมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหำนี้ขึ้น เพรำะ
เพียงแค่เรำหำยใจอยู่เฉยๆก็ปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ออกมำแล้ว ยังไม่รวมถึงกิจกรรมต่ำงๆมำกมำยที่
เรำทำอยู่ทุกๆวัน ถึงเวลำที่เรำต้องเลิกคิดว่ำภำวะโลกร้อนไม่ใช่ธุระของเรำ แล้วหันมำร่วมมือกัน..มำเป็น
ส่วนหนึ่งในกำรแก้ปัญหำโลกร้อนกันเถอะ
ถ้ำท่ำนคิดว่ำกำรลดภำวะโลกร้อนนั้นมันทำได้ยำก หรือคิดว่ำท่ำนคนเดียวช่วยโลกไม่ได้ หรือว่ำจะทำ
ตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว และมันยังมีเวลำอยู่ถ้ำไม่เริ่มที่ตัวเรำก่อนก็ไม่รู้จะให้ไปเริ่มจำกตรงไหน แค่
เรำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบำงอย่ำงของเรำทำอยู่ในวันๆหนึ่ง ก็สำมำรถช่วยลดภำวะโลกร้อนได้แล้ว ผมจะ
ยกตัวอย่ำงให้ดู
1. พกผ้ำเช็ดหน้ำ แทนที่จะใช้กระดำษทิชชู สมัยนี้มีกระดำษทิชชูห่อสวยๆพกง่ำยๆออกมำ หลำยคนใช้มัน
แทนผ้ำเช็ดหน้ำ เพรำะว่ำมันสะดวกและห่อมันก็น่ำรักด้วย แต่กระดำษทิชชูผลิตมำจำกต้นไม้ ยิ่งใช้มำกก็ยิ่ง
ต้องตัดมำก ถ้ำไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้ำเช็ดหน้ำดีกว่ำ
2. กำรชำร์ตแบตมือถือ กำรชำร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงำนไปโดยเปล่ำประโยชน์ถึง 95%
เพรำะว่ำมักจะเสียบสำยค้ำงไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่ำนรู้ไหมว่ำถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่ำถ้ำไม่ถอดออกมันก็
จะยังกินไฟอยู่ฉะนั้นเวลำแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสำยออก แต่ถ้ำยังเสียบหม้อแปลงกับเต้ำเสียบค้ำงไว้มันก็ยัง
กินไฟอยู่ดี เพรำะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด
3. ประหยัดน้ำ อย่ำใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ำมีโอกำสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้ำน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอำกำศ
น้ำที่ไหลออกมำจะมีฟองอำกำศออกมำด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่ำก๊อกธรรมดำถึง
ครึ่งหนึ่ง ถ้ำนึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตำมห้ำง น้ำที่ไหลออกมำจะเป็นแบบนั้น และเวลำใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้ำน
เรำก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่ำของฟรี หรือเวลำไปพักตำมโรงแรมก็อย่ำคิดว่ำใช้ให้คุ้ม เพรำะว่ำทำ
แบบนี้แหละโลกถึงร้อน
4. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ำที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ำมีโอกำสก็เปลี่ยน
หลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่ำ แต่ก็ประหยัดไฟกว่ำ
มำก แถมอำยุกำรใช้งำนก็ยำวกว่ำเยอะ ซึ่งในระยะยำวก็จะคุ้มกว่ำแน่นอน
5. ลดใช้ถุงพลำสติก ถุงพลำสติกทำให้เรำสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่ำงมำกมำย กว่ำถุงที่เรำใช้
จะย่อยสลำยไป ตัวเรำนั้นย่อยสลำยก่อนมันไปนำนแล้ว เพรำะฉะนั้นเวลำที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้แต่ถ้ำต้อง
ใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลำจ่ำยตลำดก็ให้ใช้ถุงผ้ำแทน
6. ใช้จักรยำน เวลำที่ท่ำนไปทำธุระใกล้ๆบ้ำน อำจจะไปซื้อของ จ่ำยตลำด นอกจำกจะประหยัดน้ำมันในยุค
ที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่ำนได้ออกกำลังกำย มีสุขภำพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้ำฟิตเนสแพงๆ
7. ลดกำร Shopping หลำยคนนั้นกำร Shopping เป็นอะไรที่มีควำมสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดกำรซื้อแบบ
สิ้นเปลืองลงบ้ำง บำงทีก็ซื้อๆไปอย่ำงนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บำงชิ้นอำจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่
อยำกซื้อ..อะไรที่คิดว่ำไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอำแค่อันที่เรำจะใส่จริงๆ เพรำะว่ำมันต้องใช้
พลังงำนมำกมำยในอุตสำหกรรมพวกนี้
8. ปลูกต้นไม้ผมว่ำมนุษย์ทุกคนชอบธรรมชำติ เวลำที่เรำได้เห็นสถำนที่ที่มีธรรมชำติงดงำม ไม่ว่ำจะเป็นป่ำ
ไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชำยหำดที่ขำวสะอำด เรำจะรู้สึกสบำยใจและชอบมัน แต่ว่ำพวกเรำก็ไม่ได้ช่วยกัน
รักษำมัน เพรำะฉะนั้นถ้ำมีเวลำก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้อำจจะเป็นที่สวนหน้ำบ้ำนได้หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็
ปลูกตรงนั้น ใส่กระถำงไว้ก็ได้นอกจำกจะทำให้บ้ำนดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊ำซพิษในอำกำศได้อีกด้วย
เป็นต้น
บทที่5
ก๊าซที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
ไอน้า (H2O)
เป็นก๊ำซเรือนกระจกที่มีมำกที่สุดบนโลก มีอยู่ในอำกำศประมำณ 0- 4% ขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ
ภูมิอำกำศ และอุณหภูมิ ในบริเวณเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรและชำยทะเลจะมีไอน้ำอยู่มำก ส่วนในบริเวณ
เขตหนำวแถบขั้วโลก อุณหภูมิต่ำ จะมีไอน้ำในบรรยำกำศเพียงเล็กน้อย ไอน้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ไอ
น้ำเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรน้ำในธรรมชำติ น้ำสำมำรถเปลี่ยนสถำนะไปมำทั้ง 3 สถำนะ จึงเป็นตัวพำและ
กระจำยควำมร้อนแก่บรรยำกำศและพื้นผิว ไอน้ำเกิดจำกโดยฝีมือมนุษย์2 วิธี คือ จำกกำรเผำไหม้เชื้อเพลิง
หรือก๊ำซธรรมชำติ และจำกกำรหำยใจและคำยน้ำของสัตว์และพืชในกำรทำเกษตรกรรม
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
ในยุคเริ่มแรกของโลกและระบบสุริยะ มีก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ในบรรยำกำศถึง 98%เนื่องจำกดวง
อำทิตย์ยังมีขนำดเล็กและแสงอำทิตย์ยังไม่สว่ำงเท่ำทุกวันนี้ ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ช่วยทำให้โลกอบอุ่น
เหมำะสำหรับเป็นถิ่นที่อยู่อำศัยของสิ่งมีชีวิต ครั้นกำลเวลำผ่ำนไปดวงอำทิตย์มีขนำดใหญ่ขึ้น น้ำฝนได้
ละลำยคำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศลงมำยังพื้นผิว แพลงก์ตอนบำงชนิดและพืชตรึงก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศ มำสร้ำงเป็นอำหำรโดยกำรสังเครำะห์ด้วยแสง ทำให้ภำวะเรือนกระจกลดลง
โดยธรรมชำติก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นจำกกำรหลอมละลำยของหินปูน ซึ่งโผล่ขึ้นมำจำกปล่องภูเขำ
ไฟและกำรหำยใจของสิ่งมีชีวิต
ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์มีปริมำณเพิ่มขึ้น เนื่องจำกกำรเผำไหม้ในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น กำรเผำไหม้เชื้อเพลิง
โรงงำนอุตสำหกรรม กำรเผำป่ำเพื่อใช้พื้นที่สำหรับอยู่อำศัยและกำรทำปศุสัตว์เป็นต้น โดยกำรเผำป่ำเป็น
กำรปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยำกำศได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจำกต้นไม้มีคุณสมบัติในกำร
ตรึงก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยำกำศ ดังนั้นเมื่อพื้นที่ป่ ำลดน้อยลง ก๊ำซ
คำร์บอนไดออกไซด์จึงลอยขึ้นไปสะสมอยู่ในบรรยำกำศได้มำกยิ่งขึ้น และทำให้พลังงำนควำมร้อนสะสม
บนผิวโลกและในบรรยำกำศเพิ่มขึ้นประมำณ 1.56 วัตต์/ตำรำงเมตร (ปริมำณนี้ยังไม่คิดรวมผลกระทบที่
เกิดขึ้นทำงอ้อม)
จำกตัวเลขที่ได้สำรวจล่ำสุดนั้นเรียงตำมลำดับประเทศที่ปล่อยควันพิษของโลกมีปริมำณสะสมมำตั้งแต่ปี
1950 ดังนี้
ก๊าซมีเทน (CH4)
เกิดขึ้นจำกกำรย่อยสลำยของซำกสิ่งมีชีวิต แม้ว่ำมีก๊ำซมีเทนอยู่ในอำกำศเพียง 1.7 ppmแต่ก๊ำซมีเทนมี
คุณสมบัติของก๊ำซเรือนกระจกสูงกว่ำก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ กล่ำวคือด้วยปริมำตรที่เท่ำกัน ก๊ำซมีเทน
สำมำรถดูดกลืนรังสีอินฟรำเรดได้ดีกว่ำก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์
ก๊ำซมีเทนมีปริมำณเพิ่มขึ้นเนื่องจำกกำรทำนำข้ำว ปศุสัตว์และกำรเผำไหม้มวลชีวภำพ กำรเผำไหม้เชื้อเพลิง
ประเภทถ่ำนหิน น้ำมัน และก๊ำซธรรมชำติ กำรเพิ่มขึ้นของก๊ำซมีเทนส่งผลกระทบโดยตรงต่อภำวะเรือน
กระจกมำกเป็นอันดับ 2 รองจำกก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ พลังงำนรวมที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 0.47 วัตต์/ตำรำง
เมตร
ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O)
ปกติก๊ำซชนิดนี้ในธรรมชำติเกิดจำกกำรย่อยสลำยซำกสิ่งมีชิวิตโดยแบคทีเรีย แต่ที่มีเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
เนื่องมำจำกอุตสำหกรรมที่ใช้กรดไนตริกในกระบวนกำรผลิต เช่น อุตสำหกรรมผลิตเส้นใยไนลอน
อุตสำหกรรมเคมีและพลำสติกบำงชนิด เป็นต้น ก๊ำซไนตรัสออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำร
เพิ่มพลังงำนควำมร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมำณ 0.14 วัตต์/ตำรำงเมตร นอกจำกนั้นเมื่อก๊ำซไนตรัส
ออกไซด์ลอยขึ้นสู่บรรยำกำศชั้นสตรำโตสเฟียร์ มันจะทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน ทำให้เกรำะป้องกัน
รังสีอัลตรำไวโอเล็ตของโลกลดน้อยลง
สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC)
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ "ฟรีออน" (Freon) มิได้เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติ แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์มี
แหล่งกำเนิดมำจำกโรงงำนอุตสำหกรรม และอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น
เครื่องปรับอำกำศ และสเปรย์เป็นต้น
สำร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีควำมสำมำรถในกำรทำลำยโอโซน
ตำมปกติสำร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยำกับสำรอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตรำไวโอเล็ตใน
บรรยำกำศชั้นสตรำโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน เกิด
ก๊ำซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊ำซออกซิเจน หำกคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลำยก๊ำซโอโซน 1
โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหำ แต่ทว่ำคลอรีน 1 อะตอม สำมำรถทำลำยก๊ำซโอโซน 1 โมเลกุล
ได้นับพันครั้ง เนื่องจำกเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยำกับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีน
อะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยำลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นกำรทำลำยโอโซนอย่ำงต่อเนื่อง
ปัจจุบันแม้ว่ำจะมีกำรจำกัดกำรใช้ก๊ำซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่ำปีก่อน แต่ปริมำณสำร
คลอโรฟลูออโรคำร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยำกำศ ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีพลังงำนควำมร้อนสะสม
บนพื้นผิวโลกประมำณ 0.28 วัตต์ต่อตำรำงเมตร
โอโซน (O3)
เป็นก๊ำซที่ประกอบด้วยธำตุออกซิเจนจำนวน 3 โมเลกุล มีอยู่เพียง 0.0008% ในบรรยำกำศ โอโซนไม่ใช่ก๊ำซ
ที่มีเสถียรภำพสูง มันมีอำยุอยู่ในอำกำศได้เพียง 20 - 30 สัปดำห์ แล้วสลำยตัว โอโซนเกิดจำกก๊ำซออกซิเจน
(O2) ดูดกลืนรังสีอุลตรำไวโอเล็ตแล้วแตกตัวเป็นออกซิเจนอะตอมเดี่ยว (O) จำกนั้นออกซิเจนอะตอมเดี่ยว
รวมตัวกับก๊ำซออกซิเจนและโมเลกุลชนิดอื่น (M)ที่ทำหน้ำที่เป็นตัวกลำง แล้วให้ผลผลิตเป็นก๊ำซโอโซน
ออกมำ ก๊ำซโอโซนมี 2 บทบำท ขึ้นอยู่ว่ำมันวำงตัวอยู่ที่ใด
โอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ (Stratosphere Ozone)
เป็นเกรำะป้องกันรังสีอุลตรำไวโอเล็ต (UV) ซึ่งเป็นอันตรำยต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก ในธรรมชำติโอโซนที่
เกิดขึ้นบนพื้นผิวมีเพียง 10% โอโซนส่วนใหญ่ในชั้นสตรำโตสเฟี ยร์รวมตัวเป็นชั้นบำง ๆ ที่ระยะสูง
ประมำณ 20 - 30 กิโลเมตร ทำหน้ำที่กรองรังสีอุลตรำไวโอเล็ตจำกดวงอำทิตย์ออกไป 99% ก่อนถึงพื้นโลก
หำกร่ำงกำยมนุษย์ได้รับรังสีนี้มำกเกินไป จะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ส่วนจุลินทรีย์ขนำดเล็ก อย่ำงเช่น
แบคทีเรียก็จะถูกฆ่ำตำย
โอโซนในชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere Ozone)
เป็นก๊ำซพิษที่เป็นอันตรำยต่อร่ำงกำย และมีคุณสมบัติเป็นก๊ำซเรือนกระจกมำกที่สุด โดยดูดกลืนรังสี
อินฟรำเรด ทำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมำณ 2.85 วัตต์/ตำรำงเมตร โอโซนในชั้นนี้
เกิดจำกกำรเผำไหม้มวลชีวภำพและกำรสันดำปของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจำกกำรจรำจรติดขัด
เครื่องยนต์เครื่องจักร และโรงงำนอุตสำหกรรม ซึ่งปะปนอยู่ในหมอกควัน เมื่อโอโซนอยู่ในบรรยำกำศชั้น
ล่ำงหรือเหนือพื้นผิว มันจะให้โทษมำกกว่ำให้คุณ เนื่องจำกเป็นพิษต่อร่ำงกำย
การลดลงของโอโซน
นักวิทยำศำสตร์ได้ตรวจพบรูโหว่ขนำดใหญ่ของชั้นโอโซนเหนือทวีปแอนตำร์คติก บริเวณขั้วโลกใต้
เกิดขึ้นจำกกระแสลมพัดคลอรีนเข้ำมำสะสมในก้อนเมฆในชั้นสตรำโตสเฟียร์ในช่วงฤดูหนำวรำวเดือน
พฤษภำคม - กันยำยน (อนึ่งขั้วโลกเหนือไม่มีเมฆในชั้นสตรำโตสเฟียร์ เนื่องจำกอุณหภูมิไม่ต่ำพอที่จะทำให้
เกิดกำรควบแน่นของไอน้ำในอำกำศ) เมื่อถึงเดือนตุลำคม ซึ่งแสงอำทิตย์กระทบเข้ำกับก้อนเมฆ ทำให้
คลอรีนอะตอมอิสระแยกตัวออกและทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน ทำให้เกิดรูโหว่ขนำดใหญ่ของชั้นโอโซน
เรียกว่ำ "รูโอโซน" (Ozone hole)
บรรณานุกรม
http://hilight.kapook.com/view/5233
http://www.greentheearth.info/
http://thaipublica.org/wp-content/uploads/2012/11/climate-change3-3.png
ภาคผนวก
งานย่อย8
งาน powerpoint
การจัดทางานกลุ่ม
ผู้จัดทา
1.นำย พงศภัค กมลศรี ม.5/4 เลขที่ 1
2.นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล ม.5/4 เลขที่ 2
3.นำย กันตนิษฐ์ วังศรี ม.5/4 เลขที่ 4
4.นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล ม.5/4 เลขที่ 5
5.นำย ณัฐภัทร มีแก้ว ม.5/4 เลขที่ 9

More Related Content

What's hot

ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมTangkwa Pawarisa
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1Chok Ke
 
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียพัน พัน
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนyudohappyday
 
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงาน
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงานตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงาน
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงานพัน พัน
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานKanistha Chudchum
 
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์Jiraporn
 
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)Iam Champooh
 
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)Prapatsorn Chaihuay
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกFah Philip
 
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนbambam bam
 
โครงงานIs3
โครงงานIs3โครงงานIs3
โครงงานIs3Arisa Srising
 
โครงงานโทษแอลกอฮอล์
โครงงานโทษแอลกอฮอล์โครงงานโทษแอลกอฮอล์
โครงงานโทษแอลกอฮอล์พัน พัน
 
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียน
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียนเรื่องปัญหาท้องในวัยเรียน
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียนพัน พัน
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทchaipalat
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)Pongpan Pairojana
 
โครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะโครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะPang Pond
 

What's hot (20)

ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
 
โครงงานระบบกรองน้ำ
โครงงานระบบกรองน้ำโครงงานระบบกรองน้ำ
โครงงานระบบกรองน้ำ
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
 
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสียปัญหาน้ำเน่าเสีย
ปัญหาน้ำเน่าเสีย
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
 
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงาน
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงานตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงาน
ตัวอย่างส่วนประกอบของโครงงาน
 
หน่วยที่ 10 โคลงนิราศนรินทร์
หน่วยที่ 10 โคลงนิราศนรินทร์หน่วยที่ 10 โคลงนิราศนรินทร์
หน่วยที่ 10 โคลงนิราศนรินทร์
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงาน
 
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
 
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)
ISโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา(ใหม่)
 
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
 
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
 
โครงงานIs3
โครงงานIs3โครงงานIs3
โครงงานIs3
 
โครงงานโทษแอลกอฮอล์
โครงงานโทษแอลกอฮอล์โครงงานโทษแอลกอฮอล์
โครงงานโทษแอลกอฮอล์
 
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียน
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียนเรื่องปัญหาท้องในวัยเรียน
เรื่องปัญหาท้องในวัยเรียน
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
 
หน้าปก
หน้าปกหน้าปก
หน้าปก
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
 
โครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะโครงงานคัดแยกขยะ
โครงงานคัดแยกขยะ
 

More from พัน พัน

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการพัน พัน
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีพัน พัน
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรพัน พัน
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยพัน พัน
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศพัน พัน
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้พัน พัน
 

More from พัน พัน (20)

เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการ
 
เรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซีเรื่องภาษาซี
เรื่องภาษาซี
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
เรื่องด้านคอมพิวเตอร์
 
เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องคอมพิวเตอร์
เรื่องคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
การปริ้น
การปริ้นการปริ้น
การปริ้น
 
Office
OfficeOffice
Office
 
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
ปัญหาทรัพยากรป่าไม้
 
ยาเสพติด
ยาเสพติดยาเสพติด
ยาเสพติด
 

เรื่องภาวะโลกร้อน

  • 1. รายงาน เรื่อง ภาวะโลกร้อน จัดทำโดย 1.นำย พงศภัค กมลศรี เลขที่ 1 2.นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล เลขที่ 2 3.นำย กันตนิษฐ์ วังศรี เลขที่ 4 4.นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล เลขที่ 5 5.นำย ณัฐภัทร มีแก้ว เลขที่ 9 มัธยมศึกษำปีที่5/4 อำจำรย์ที่ปรึกษำ นำยทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม รำยงำนเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำภำษำไทย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ กำญจนบุรี ภำคเรียนที่1 ปีกำรศึกษำ2559 สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำเขต 8
  • 2. คานา รำยงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำIS จัดทำขึ้นมำเพื่อศึกษำเกี่ยวกับ ภำวะโลกร้อน ศึกษำเพื่อหำ ควำมรู้เกี่ยวกับปัญหำโลกร้อนและทำงแก้ไขของปัญหำโลกร้อน ผู้จัดทา นำย พงศภัค กมลศรี นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล นำย กันตนิษฐ์วังศรี นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล นำย ณัฐภัทร มีแก้ว
  • 3. สารบัญ สำรบัญ…………………………………………………………………………ก คำนำ……………………………………………………………………………ข กิตติกรรมประกำศ……………………………………………………………..ค บทที่1…………………………………………………………………………..1 บทที่2..................................................................................................................2 บทที่3…………………………………………………………………………..4 บทที่4…………………………………………………………………………..7 บทที่5…………………………………………………………………………..9 บรรณำนุกรม………………………………………………………………….13 ภำคผนวก……………………………………………………………………..1 4 ผู้จัดทำ…………………………………………………………………………19
  • 4. กิตติกรรมประกาศ รำยงำน เรื่อง ภำวะโลกร้อน สำเร็จลุล่วงได้ด้วยควำมกรุณำและควำมช่วยเหลืออย่ำงสูงยิ่งจำก อำจำรย์มำริณ จำนแก้ว อำจำรย์ที่ปรึกษำ ที่ได้กรุณำให้คำปรึกษำแนะนำ และตรวจสอบ แก้ไข ข้อพกพร่อง ทุกขั้นตอนของกำรจัดทำโครงงำน คณะผู้จัดทำโครงงำนขอขอบพระคุณเป็นอย่ำงสูง ขอขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ เพื่อนนักเรียน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่ำนที่ไม่ได้กล่ำวนำมไว้ณ ที่นี้ ที่ได้ ให้กำลังใจและมีส่วนช่วยเหลือให้โครงงำนฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี ท้ำยที่สุด คณะผู้จัดทำรำยงำนหวังว่ำรำยงำนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจไม่มำกก็น้อย
  • 5. บทที่ 1 ผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก็ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลำย เมื่อน้ำแข็งจำนวนมำกละลำยลงก็ทำให้ปริมำณ น้ำทะเลในโลกของเรำนั้นสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงเลยก็คือทำให้น้ำท่วม สถำนที่ๆเรำรู้จักกันหลำยๆที่ก็จะ จมมิดอยู่ใต้ท้องทะเล อย่ำงเช่น หมู่เกำะมัลดีฟส์ และกรุงเทพมหำนครเมืองหลวงของเรำก็เช่นกัน นอกจำกนั้นปริมำณน้ำที่เพิ่มขึ้นมำบวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้ระบบนิเวศของท้องทะเลเปลี่ยนไป ทำให้สัตว์น้ำจำนวนมำกปรับตัวไม่ได้และจะต้องตำยลงไป ตอนนี้ที่เห็นอยู่กันทั่วโลกก็คือปรำกฏกำรณ์ ฟอกขำวของปะกำรัง เกิดจำกกำรที่โพลิปของปะกำรังนั้นตำยเพรำะปรับตัวเข้ำกับสภำพแวดล้อมไม่ได้ เหลือไว้แต่ส่วนที่เป็นโครงสร้ำงสีขำวไร้ซึ่งชีวิต ไม่ต่ำงอะไรกับโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่ตำยแล้ว ซึ่ง ปะกำรังนั้นเป็นแหล่งอนุบำลสัตว์น้ำที่สำคัญมำก ถ้ำไม่มีปะกำรังสัตว์น้ำต่ำงๆก็จะลดจำนวนลงไป และบำง ชนิดอำจสูญพันธุ์ไปในที่สุด อีกผลกระทบที่พวกเรำเห็นได้อย่ำงชัดเจนเลยก็คือภัยพิบัติจำกธรรมชำติที่เกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงมำกขึ้น เป็นเพรำะสภำพอำกำศเปลี่ยนแปลงไป ฤดูหนำวสั้นลง ฤดูร้อนยำวนำนขึ้น และเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น น้ำจำกทะเลและจำกแหล่งน้ำต่ำงๆก็เกิดกำรระเหยมำกขึ้น ปริมำณน้ำฝนที่ตกลงมำก็จะมีปริมำณที่สูงขึ้นจน ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลำยพื้นที่ ต่อไปอำหำรและน้ำสะอำดก็จะขำดแคลน เพรำะว่ำพืชผลปลูกได้ยำกขึ้นจำก กำรที่อำกำศเปลี่ยนไป ซ้ำยังมีภัยพิบัติมำคอยทำลำยพื้นที่เพำะปลูกและพืชผลให้เสียหำยอีกด้วย ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ
  • 6. อย่ำงที่กล่ำวไปในหัวข้อที่แล้ว เมื่อสัตว์น้ำมีจำนวนน้อยลงก็ทำให้สูญเสียรำยได้จำกกำรจับสัตว์น้ำ แหล่ง ท่องเที่ยวใต้น้ำที่เคยสวยงำมที่เคยมีก็หมดไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกำรท่องเที่ยว อีกทั้งกำรเกษตรก็ ได้รับผลกระทบไปด้วย ปริมำณพืชผลที่เคยผลิตได้มำกมำยก็ลดน้อยไป ส่งผลให้อำหำรกำรกินแพงขึ้น และ สินค้ำขำดตลำดภัยพิบัติที่รุนแรงยังส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยแก่โรงงำนและแหล่งอุตสำหกรรมอีกด้วย ผลกระทบในด้านของสุขภาพ อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นนั้นส่งผลให้เกิดสภำวะที่เหมำะสมของกำรดำรงชีวิตของแบคทีเรียและศัตรูพืช หลำยๆชนิด ซึ่งทำให้ในอนำคตจะมีผู้ที่ติดเชื้อและล้มป่วยมำกขึ้น ยกตัวอย่ำงโรคไข้เลือดออกที่ทุกคนรู้จัก กันดี รวมไปถึงไข้มำลำเรีย อหิวำตกโรคก็จะระบำดเพิ่มขึ้นมำก บทที่2 วิธีการเเก้ไขเเละป้องกันภาวะโลกร้อน กำรลดภำวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำ เรำทุกคนก็ต่ำงมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหำนี้ขึ้น เพรำะ เพียงแค่เรำหำยใจอยู่เฉยๆก็ปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ออกมำแล้ว ยังไม่รวมถึงกิจกรรมต่ำงๆมำกมำยที่ เรำทำอยู่ทุกๆ ทุกอย่ำงที่เรำทำจะส่งผลดีต่อโลก และมันยังมีเวลำอยู่ถ้ำไม่เริ่มที่ตัวเรำก่อนก็ไม่รู้จะให้ไปเริ่ม จำกตรงไหน แค่เรำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบำงอย่ำงของเรำทำอยู่ในวันๆหนึ่ง ก็สำมำรถช่วยลดภำวะโลก ร้อนได้แล้ว ผมเชื่อว่ำมันใกล้ตัวทุกท่ำนมำก และสำมำรถลงมือทำได้เลยด้วยซ้ำ สภำพภูมิอำกำศของโลกที่เปลี่ยนแปลง นำมำซึ่งปัญหำต่ำงๆมำกมำยและเป็นสิ่งใกล้ตัวเรำทุกคน ไม่ว่ำจะ เป็นปัญหำกรำสะสมของฝุ่นละอองขนำดเล็กในช่วงหน้ำแล้งของทุกปี ปัญหำน้ำทะเลกัดเซำะชำยฝั่งทะเล ของไทย ฝนตกหนัก ปัญหำน้ำท่วม โคลนถล่ม ภัยแล้ง หรือแม้กระทั่ง ภำวะแมลงปีกแข็งจำนวนมำกทำลำย พืชผลทำงกำรเกษตรฯลฯ ดังนั้นประชำชนทุกคนต้องให้ควำมร่วมมือในกำรที่จะช่วยลดภำวะโลกร้อน เพื่อที่จะช่วยลดผลกระทบต่ำงๆที่อำจจะเกิดขึ้นตำมมำ นั่นคือต้องมีพฤติกรรมที่เหมำะสมในกำรบริโภค ทรัพยำกรธรรมชำติและร่วมือกันในกำรลดของเสียต่ำงๆ ดั่งนี้ -กำรลดกำรใช้พลังงำนเชื้อเพลิง(น้ำมัน) เนื่องจำกมีกำรใช้เกินควำมจำเป็น ขำดควำมเอำใจใส่ รอบครอบ ไม่ คิดก่อนใช้ทำให้เกิดกำรรั่วไหลสูญเปล่ำโดยรู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์หำกมีกำรใช้เชื้อเพลิงที่เหมำะสมนอกจำกจะ
  • 7. ลดค่ำใช้จ่ำยให้กับประชำชนและลดกำรใช้พลังงำนเชื้อเพลิงยังสำมำรถลดปริมำณก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นสำเหตุหลักที่ทำให้เกิดภำวะโลกร้อนได้อีดด้วย เช่น ตรวขเช็คลมยำงเป็นประจำ -ลดกำรใช้น้ำ น้ำเป้นทรัพยำกรที่มีอยู่ในธรรมชำติมีควำมสำคัญอย่ำงยิ่งในกำรใช้ในชีวิตประจำวันของ มนุษย์ดังนั้นหำกมีกำรใช้น้ำอย่ำงไม่ประหยัดน้ำสะอำดอำจมีไม่เพียงพอต่อควำมต้องกำรของมนุษย์เช่น ใช้ น้ำอย่ำงประหยัด อำบน้ำใช้ฝักบัว ไม่ควรล้ำงรถบ่อยครั้งจนเกินไป ล้ำงจำนในภำชนะที่ขังน้ำไว้ใช้สบู่เหลว แทนสบู่ก้อนเวลำกำรล้ำงมือ เป็นต้น -ลดกำรใช้ไฟฟ้ำ ไฟฟ้ำเป็นปัจจัยสำคัญอย่ำงยิ่งต่อกำรดำเนินชีวิตและกำรประกอบกิจกำรต่ำงๆกำรประหยัด ไฟฟ้ำที่ทุกคนสำมำรถทำได้เช่น ปิดสวิตซ์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้ำทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งำน เลือกซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้ำที่ได้มำตรฐำน ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงำน อย่ำเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เมื่อไม่ใช้งำนเป็นต้น -กำรลดกำรใช้พลังงำนอื่นๆ เช่น อย่ำใช้กระดำษหน้ำเดียววทิ้ง หลีหเลี่ยงกำรใช้จำนกระดำษ รู้จักแยกแยะ ประเภทขยะ งด เลิกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งเลย กระตุ้นเตือนให้ผู้อื่นช่วยกันประหยัดพลังงำน เป็น ต้น -กำรส่งเสริมกำรใช้พลังงำนหมุนเวียน เป็นพลังงำนที่ได้มำจำกกระแสพลังงำนที่ต่อเนื่องและเกิดซ้ำๆใน สิ่งแวดล้อม แหล่งของพลังงำนหมุนเวียน คือ พลังงำนแสงอำทิตย์ ลม น้ำ ชีวมวล ก๊ำซชีวภำพ เป็นต้น -ขี่จักรยำน ประหยัดพลังงำน แถมได้สุขภำพดี รถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้ำนบ้ำงก็ได้ แล้วออกมำขี่จักรยำน ใช้รถโดยสำรประจำทำง หรือเดินเมื่อต้อง ไปทำกิจกรรม หรือธุระใกล้ๆ บ้ำน เพรำะกำรขับรถยนต์น้อยลง หมำยถึงกำรใช้น้ำมันลดลง และลดกำรปล่อยคำร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพรำะน้ำมันทุกๆ 1 แกลลอน ที่ ประหยัดได้จะลดคำร์บอนไดออกไซด์ได้ประมำณ 9 กิโลกรัมเลยนะ -ทำงเดียวกัน ไปด้วยกัน บ้ำนใกล้กันไปด้วยกันสิ ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool ช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นกำรลดจำนวนรถติดบนถนนช่วยลดกำรปล่อยคำร์บอนไดออกไซด์ทำงอ้อม แถมที่สำคัญ ยังได้ เพื่อนใหม่ด้วยนะ -เวลำซื้อของพยำยำมไม่รับภำชนะที่เป็นโฟม หรือกรณีที่เป็นพลำสติก เช่นขวดน้ำพยำยำมนำกลับมำใช้อีก เนื่องจำกพลำสติกเหล่ำนี้ทำกำรย่อยสลำยยำก ต้องใช้ปริมำณควำมร้อน เหมือนกับตอนที่ผลิตมันมำ ซึ่งจะ ก่อให้เกิดควำมร้อนกับโลกของเรำเรำสำมำรถนำกลับมำใช้เป็นภำชนะใส่น้ำแทนกระติกน้ำได้
  • 8. บทที่3 สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน สำเหตุหลักของกำรเกิด ภำวะโลกร้อน นี้ก็ไม่ใช่ใครครับ ก็คือ มนุษย์ครับ ที่เป็นต้นเหตุในกำรเพิ่มปริมำณ ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์จำกกำรเผำไหม้ เชื้อเพลิงต่ำงๆ กำรขนส่ง และกำรผลิต ในโรงงำนอุตสำหกรรม รวมไปถึงกำรเพิ่มก๊ำซกลุ่มไนตรัส- ออกไซด์ และคลอโรฟลูออโรคำร์บอน (CFC) เข้ำไปในชั้นบรรยำกำศ พร้อมๆ กับกำรตัดไม้ ทำลำยป่ ำอย่ำงต่อเนื่องและกำรตัดต้นไม้นี้เอง ทำให้กลไกในกำรดึงก๊ำซ คำร์บอนไดออกไซด์ออกไปจำกระบบบรรยำกำศถูกลดทอนประสิทธิภำพลง ทำให้แสงอำทิตย์ส่องทะลุ ผ่ำนชั้นบรรยำกำศมำสู่พื้นโลกได้มำกขึ้น ซึ่งคำร์บอนไดออกไซด์ที่มำกขึ้นนี้ ได้เพิ่มกำรกักเก็บควำมร้อนไว้ ในชั้นบรรยำกำศของโลกมำกขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นภำวะโลกร้อนดังเช่นปัจจุบัน เรำคงทรำบแล้วว่ำสภำวะ โลกร้อนเกิดจำกกำรที่มีแก๊สเรือนกระจกในบรรยำกำศมำกเกินไป แก๊สเรือนกระจกตัวหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่ คำร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจำกกำรเผำไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้งำน มนุษย์เองเป็นผู้ปล่อยแก๊สนี้ออกมำเป็น จำนวนมำกเพื่อนำพลังงำนมำใช้ ยิ่งเรำใช้พลังงำนมำกเท่ำใด ก็ยิ่งได้แก๊สเรือนกระจกออกมำมำกขึ้นเป็นเงำ ตำมตัว หำกเรำพิจำรณำอัตรำกำรใช้พลังงำนในช่วงครึ่งศรวรรษที่ผ่ำนมำ จะพบว่ำ สอดคล้องกับกำรเพิ่ม ปริมำณแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศเป็นอย่ำงดี และไม่มีแนวโน้มว่ำจะลดลงในระยะเวลำอันใกล้นี้ ปรำกฏกำรณ์ต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันนี้ ที่จริงแล้วเป็นกระบวนกำรรักษำตัวเองของโลก หำกเป็นสภำวะที่ เกิดขึ้นตำมธรรมชำติ โลกจะกลับมำสู่สภำวะสมดุลได้ในเวลำไม่นำนนัก แต่เนื่องจำกมนุษย์เรำเร่งผลิตแก๊ส เรือนกระจกออกมำมำกเกินขีดควำมสำมำรถ ของโลกที่จะเยียวยำตนเองได้ทัน กำรเกิดสภำวะโลกร้อนอย่ำง รวดเร็วและรุนแรงจึงเกิดขึ้น กล่ำวโดยสรุปก็คือ สำเหตุที่ทำให้เกิดสภำวะโลกร้อนในครั้งนี้ ก็คือ มนุษย์ ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas)
  • 9. เป็นก๊ำซที่มีคุณสมบัติในกำรดูดซับคลื่นรังสีควำมร้อน หรือรังสีอินฟำเรดได้ดี ก๊ำซเหล่ำนี้มีควำมจำเป็นต่อ กำรรักษำอุณหภูมิในบรรยำกำศของโลกให้คงที่ ซึ่งหำกบรรยำกำศโลกไม่มีก๊ำซเรือนกระจกในชั้น บรรยำกำศ ดังเช่นดำวเครำำะห์ดวงอื่นๆในระบบสุริยะแล้ว จะทำให้อุณหภูมิในตอนกลำงวันนั้นร้อนจัด และในตอนกลำงคืนนั้นหนำวจัด เนื่องจำกก๊ำซเหล่ำนี้ดูดคลื่นรังสีควำมร้อนไว้ในเวลำกลำงวัน แล้วค่อยๆ แผ่รังสีควำมร้อนออกมำในเวลำกลำงคืน ทำให้อุณหภูมิในบรรยำกำศโลกไม่เปลี่ยนแปลงอย่ำงฉับพลัน มี ก๊ำซจำนวนมำกที่มีคุณสมบัติในกำรดูดซับคลื่นรังสีควำมร้อน และถูกจัดอยู่ในกลุ่มก๊ำซเรือนกระจก ซึ่งมีทั้ง ก๊ำซที่เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติและเกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์ ก๊ำซเรือนกระจกที่สำคัญคือ ไอน้ำ ก๊ำซ คำร์บอนไดออกไซด์ โอโซน มีเทนและไนตรัสออกไซด์ สำรซีเอฟซี เป็นต้น แต่ก๊ำซเรือนกระจกที่ถูก ควบคุมโดยพิธีสำรเกียวโต มีเพียง 6 ชนิด โดยจะต้องเป็นก๊ำซที่เกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์(anthropogenic greenhouse gas emission) เท่ำนั้น ทั้งนี้ ยังมีก๊ำซเรือนกระจกที่เกิดจำกกิจกรรมของมนุษย์ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง คือ สารซีเอฟซี (CFC หรือ Chlorofluorocarbon) ซึ่งใช้เป็นสำรทำควำมเย็นและใช้ในกำรผลิตโฟม แต่ไม่ถูกกำหนดในพิธีสำรเกียวโต เนื่องจำกเป็นสำรที่ถูก จำกัดกำรใช้ในพิธีสำรมอนทรีออลแล้ว กิจกรรมต่ำง ๆ ของมนุษย์กำลังเพิ่มปริมำณก๊ำซเรือนกระจกเหล่ำนี้ (อำจยกเว้นไอน้ำ) - กำรเผำไหม้เชื้อเพลิงจำกถ่ำนหิน น้ำมันและก๊ำซธรรมชำติ - กำรตัดไม้ทำลำยป่ำทำให้เกิดก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ - กำรทำกำรเกษตรและกำรปศุสัตว์ปล่อยก๊ำซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ - ควันจำกท่อไอเสียรถยนต์ปล่อยก๊ำซโอโซน นอกจำกนี้ กระบวนกำรแปรรูปอุตสำหกรรมปล่อยสำรฮำโลคำร์บอน (CFCs, HFCs, PFCs) กำรเพิ่มขึ้นของ ก๊ำซเรือนกระจกนั้น ส่งผลให้ชั้นบรรยำกำศมีควำมสำมำรถในกำรกักเก็บรังสีควำมร้อนได้มำกขึ้น ผลที่ ตำมมำคือ อุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นบรรยำกำศที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่กำรเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกนั้น ไม่ได้เพิ่มขึ้น เป็นเส้นตรงกับปริมำณก๊ำซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งก๊ำซเรือนกระจกแต่ละชนิดยังมีศักยภำพในกำรทำ ให้เกิดภำวะเรือนกระจก (Global Warming Potential: GWP) ที่แตกต่ำงกัน
  • 10. ค่ำศักยภำพในกำรทำให้เกิดภำวะโลกร้อนนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภำพในกำรแผ่รังสีควำมร้อนของโมเลกุล และขึ้นอยู่กับอำยุของก๊ำซนั้นๆ ในบรรยำกำศ และจะคิดเทียบกับกำรแผ่รังสีควำมร้อนของก๊ำซ คำร์บอนไดออกไซด์ในช่วงระยะเวลำหนึ่ง เช่น 20 ปี 50 ปี หรือ 100 ปี ค่ำ GWP ของก๊ำซเรือนกระจกต่ำงๆ ในช่วงเวลำ 100 ปี ของก๊ำซเรือนกระจกต่ำงๆ เป็นดังนี้ 1.ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์มีอำยุในชั้นบรรยำกำศ 200-4501 ปี 2.มีเทน 9-1523 ปี 3.ไนตรัสออกไซด์120-296 ปี 4.CFC 1,210-10,600 ปี 5.เตตะฟลูออโรมีเทน 5,700-50,000 ปี 6.ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์3,200-22,000 ปี
  • 11. บทที่4 การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน กำรลดภำวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำ เรำทุกคนก็ต่ำงมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหำนี้ขึ้น เพรำะ เพียงแค่เรำหำยใจอยู่เฉยๆก็ปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ออกมำแล้ว ยังไม่รวมถึงกิจกรรมต่ำงๆมำกมำยที่ เรำทำอยู่ทุกๆวัน ถึงเวลำที่เรำต้องเลิกคิดว่ำภำวะโลกร้อนไม่ใช่ธุระของเรำ แล้วหันมำร่วมมือกัน..มำเป็น ส่วนหนึ่งในกำรแก้ปัญหำโลกร้อนกันเถอะ ถ้ำท่ำนคิดว่ำกำรลดภำวะโลกร้อนนั้นมันทำได้ยำก หรือคิดว่ำท่ำนคนเดียวช่วยโลกไม่ได้ หรือว่ำจะทำ ตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว และมันยังมีเวลำอยู่ถ้ำไม่เริ่มที่ตัวเรำก่อนก็ไม่รู้จะให้ไปเริ่มจำกตรงไหน แค่ เรำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบำงอย่ำงของเรำทำอยู่ในวันๆหนึ่ง ก็สำมำรถช่วยลดภำวะโลกร้อนได้แล้ว ผมจะ ยกตัวอย่ำงให้ดู 1. พกผ้ำเช็ดหน้ำ แทนที่จะใช้กระดำษทิชชู สมัยนี้มีกระดำษทิชชูห่อสวยๆพกง่ำยๆออกมำ หลำยคนใช้มัน แทนผ้ำเช็ดหน้ำ เพรำะว่ำมันสะดวกและห่อมันก็น่ำรักด้วย แต่กระดำษทิชชูผลิตมำจำกต้นไม้ ยิ่งใช้มำกก็ยิ่ง ต้องตัดมำก ถ้ำไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้ำเช็ดหน้ำดีกว่ำ 2. กำรชำร์ตแบตมือถือ กำรชำร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงำนไปโดยเปล่ำประโยชน์ถึง 95% เพรำะว่ำมักจะเสียบสำยค้ำงไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่ำนรู้ไหมว่ำถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่ำถ้ำไม่ถอดออกมันก็ จะยังกินไฟอยู่ฉะนั้นเวลำแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสำยออก แต่ถ้ำยังเสียบหม้อแปลงกับเต้ำเสียบค้ำงไว้มันก็ยัง กินไฟอยู่ดี เพรำะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด 3. ประหยัดน้ำ อย่ำใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ำมีโอกำสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้ำน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอำกำศ น้ำที่ไหลออกมำจะมีฟองอำกำศออกมำด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่ำก๊อกธรรมดำถึง
  • 12. ครึ่งหนึ่ง ถ้ำนึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตำมห้ำง น้ำที่ไหลออกมำจะเป็นแบบนั้น และเวลำใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้ำน เรำก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่ำของฟรี หรือเวลำไปพักตำมโรงแรมก็อย่ำคิดว่ำใช้ให้คุ้ม เพรำะว่ำทำ แบบนี้แหละโลกถึงร้อน 4. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ำที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ำมีโอกำสก็เปลี่ยน หลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่ำ แต่ก็ประหยัดไฟกว่ำ มำก แถมอำยุกำรใช้งำนก็ยำวกว่ำเยอะ ซึ่งในระยะยำวก็จะคุ้มกว่ำแน่นอน 5. ลดใช้ถุงพลำสติก ถุงพลำสติกทำให้เรำสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่ำงมำกมำย กว่ำถุงที่เรำใช้ จะย่อยสลำยไป ตัวเรำนั้นย่อยสลำยก่อนมันไปนำนแล้ว เพรำะฉะนั้นเวลำที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้แต่ถ้ำต้อง ใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลำจ่ำยตลำดก็ให้ใช้ถุงผ้ำแทน 6. ใช้จักรยำน เวลำที่ท่ำนไปทำธุระใกล้ๆบ้ำน อำจจะไปซื้อของ จ่ำยตลำด นอกจำกจะประหยัดน้ำมันในยุค ที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่ำนได้ออกกำลังกำย มีสุขภำพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้ำฟิตเนสแพงๆ 7. ลดกำร Shopping หลำยคนนั้นกำร Shopping เป็นอะไรที่มีควำมสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดกำรซื้อแบบ สิ้นเปลืองลงบ้ำง บำงทีก็ซื้อๆไปอย่ำงนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บำงชิ้นอำจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่ อยำกซื้อ..อะไรที่คิดว่ำไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอำแค่อันที่เรำจะใส่จริงๆ เพรำะว่ำมันต้องใช้ พลังงำนมำกมำยในอุตสำหกรรมพวกนี้ 8. ปลูกต้นไม้ผมว่ำมนุษย์ทุกคนชอบธรรมชำติ เวลำที่เรำได้เห็นสถำนที่ที่มีธรรมชำติงดงำม ไม่ว่ำจะเป็นป่ำ ไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชำยหำดที่ขำวสะอำด เรำจะรู้สึกสบำยใจและชอบมัน แต่ว่ำพวกเรำก็ไม่ได้ช่วยกัน รักษำมัน เพรำะฉะนั้นถ้ำมีเวลำก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้อำจจะเป็นที่สวนหน้ำบ้ำนได้หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ ปลูกตรงนั้น ใส่กระถำงไว้ก็ได้นอกจำกจะทำให้บ้ำนดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊ำซพิษในอำกำศได้อีกด้วย เป็นต้น
  • 13. บทที่5 ก๊าซที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน ไอน้า (H2O) เป็นก๊ำซเรือนกระจกที่มีมำกที่สุดบนโลก มีอยู่ในอำกำศประมำณ 0- 4% ขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอำกำศ และอุณหภูมิ ในบริเวณเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรและชำยทะเลจะมีไอน้ำอยู่มำก ส่วนในบริเวณ เขตหนำวแถบขั้วโลก อุณหภูมิต่ำ จะมีไอน้ำในบรรยำกำศเพียงเล็กน้อย ไอน้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ไอ น้ำเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรน้ำในธรรมชำติ น้ำสำมำรถเปลี่ยนสถำนะไปมำทั้ง 3 สถำนะ จึงเป็นตัวพำและ กระจำยควำมร้อนแก่บรรยำกำศและพื้นผิว ไอน้ำเกิดจำกโดยฝีมือมนุษย์2 วิธี คือ จำกกำรเผำไหม้เชื้อเพลิง หรือก๊ำซธรรมชำติ และจำกกำรหำยใจและคำยน้ำของสัตว์และพืชในกำรทำเกษตรกรรม ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในยุคเริ่มแรกของโลกและระบบสุริยะ มีก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ในบรรยำกำศถึง 98%เนื่องจำกดวง อำทิตย์ยังมีขนำดเล็กและแสงอำทิตย์ยังไม่สว่ำงเท่ำทุกวันนี้ ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ช่วยทำให้โลกอบอุ่น เหมำะสำหรับเป็นถิ่นที่อยู่อำศัยของสิ่งมีชีวิต ครั้นกำลเวลำผ่ำนไปดวงอำทิตย์มีขนำดใหญ่ขึ้น น้ำฝนได้ ละลำยคำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศลงมำยังพื้นผิว แพลงก์ตอนบำงชนิดและพืชตรึงก๊ำซ คำร์บอนไดออกไซด์ในอำกำศ มำสร้ำงเป็นอำหำรโดยกำรสังเครำะห์ด้วยแสง ทำให้ภำวะเรือนกระจกลดลง โดยธรรมชำติก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นจำกกำรหลอมละลำยของหินปูน ซึ่งโผล่ขึ้นมำจำกปล่องภูเขำ ไฟและกำรหำยใจของสิ่งมีชีวิต ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์มีปริมำณเพิ่มขึ้น เนื่องจำกกำรเผำไหม้ในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น กำรเผำไหม้เชื้อเพลิง โรงงำนอุตสำหกรรม กำรเผำป่ำเพื่อใช้พื้นที่สำหรับอยู่อำศัยและกำรทำปศุสัตว์เป็นต้น โดยกำรเผำป่ำเป็น กำรปล่อยก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยำกำศได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจำกต้นไม้มีคุณสมบัติในกำร
  • 14. ตรึงก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยำกำศ ดังนั้นเมื่อพื้นที่ป่ ำลดน้อยลง ก๊ำซ คำร์บอนไดออกไซด์จึงลอยขึ้นไปสะสมอยู่ในบรรยำกำศได้มำกยิ่งขึ้น และทำให้พลังงำนควำมร้อนสะสม บนผิวโลกและในบรรยำกำศเพิ่มขึ้นประมำณ 1.56 วัตต์/ตำรำงเมตร (ปริมำณนี้ยังไม่คิดรวมผลกระทบที่ เกิดขึ้นทำงอ้อม) จำกตัวเลขที่ได้สำรวจล่ำสุดนั้นเรียงตำมลำดับประเทศที่ปล่อยควันพิษของโลกมีปริมำณสะสมมำตั้งแต่ปี 1950 ดังนี้ ก๊าซมีเทน (CH4) เกิดขึ้นจำกกำรย่อยสลำยของซำกสิ่งมีชีวิต แม้ว่ำมีก๊ำซมีเทนอยู่ในอำกำศเพียง 1.7 ppmแต่ก๊ำซมีเทนมี คุณสมบัติของก๊ำซเรือนกระจกสูงกว่ำก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ กล่ำวคือด้วยปริมำตรที่เท่ำกัน ก๊ำซมีเทน สำมำรถดูดกลืนรังสีอินฟรำเรดได้ดีกว่ำก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ก๊ำซมีเทนมีปริมำณเพิ่มขึ้นเนื่องจำกกำรทำนำข้ำว ปศุสัตว์และกำรเผำไหม้มวลชีวภำพ กำรเผำไหม้เชื้อเพลิง ประเภทถ่ำนหิน น้ำมัน และก๊ำซธรรมชำติ กำรเพิ่มขึ้นของก๊ำซมีเทนส่งผลกระทบโดยตรงต่อภำวะเรือน กระจกมำกเป็นอันดับ 2 รองจำกก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ พลังงำนรวมที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 0.47 วัตต์/ตำรำง เมตร ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ปกติก๊ำซชนิดนี้ในธรรมชำติเกิดจำกกำรย่อยสลำยซำกสิ่งมีชิวิตโดยแบคทีเรีย แต่ที่มีเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน เนื่องมำจำกอุตสำหกรรมที่ใช้กรดไนตริกในกระบวนกำรผลิต เช่น อุตสำหกรรมผลิตเส้นใยไนลอน อุตสำหกรรมเคมีและพลำสติกบำงชนิด เป็นต้น ก๊ำซไนตรัสออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำร เพิ่มพลังงำนควำมร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมำณ 0.14 วัตต์/ตำรำงเมตร นอกจำกนั้นเมื่อก๊ำซไนตรัส ออกไซด์ลอยขึ้นสู่บรรยำกำศชั้นสตรำโตสเฟียร์ มันจะทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน ทำให้เกรำะป้องกัน รังสีอัลตรำไวโอเล็ตของโลกลดน้อยลง สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC)
  • 15. หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ "ฟรีออน" (Freon) มิได้เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติ แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์มี แหล่งกำเนิดมำจำกโรงงำนอุตสำหกรรม และอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอำกำศ และสเปรย์เป็นต้น สำร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีควำมสำมำรถในกำรทำลำยโอโซน ตำมปกติสำร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยำกับสำรอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตรำไวโอเล็ตใน บรรยำกำศชั้นสตรำโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน เกิด ก๊ำซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊ำซออกซิเจน หำกคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลำยก๊ำซโอโซน 1 โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหำ แต่ทว่ำคลอรีน 1 อะตอม สำมำรถทำลำยก๊ำซโอโซน 1 โมเลกุล ได้นับพันครั้ง เนื่องจำกเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยำกับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีน อะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยำลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นกำรทำลำยโอโซนอย่ำงต่อเนื่อง ปัจจุบันแม้ว่ำจะมีกำรจำกัดกำรใช้ก๊ำซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่ำปีก่อน แต่ปริมำณสำร คลอโรฟลูออโรคำร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยำกำศ ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีพลังงำนควำมร้อนสะสม บนพื้นผิวโลกประมำณ 0.28 วัตต์ต่อตำรำงเมตร โอโซน (O3) เป็นก๊ำซที่ประกอบด้วยธำตุออกซิเจนจำนวน 3 โมเลกุล มีอยู่เพียง 0.0008% ในบรรยำกำศ โอโซนไม่ใช่ก๊ำซ ที่มีเสถียรภำพสูง มันมีอำยุอยู่ในอำกำศได้เพียง 20 - 30 สัปดำห์ แล้วสลำยตัว โอโซนเกิดจำกก๊ำซออกซิเจน (O2) ดูดกลืนรังสีอุลตรำไวโอเล็ตแล้วแตกตัวเป็นออกซิเจนอะตอมเดี่ยว (O) จำกนั้นออกซิเจนอะตอมเดี่ยว รวมตัวกับก๊ำซออกซิเจนและโมเลกุลชนิดอื่น (M)ที่ทำหน้ำที่เป็นตัวกลำง แล้วให้ผลผลิตเป็นก๊ำซโอโซน ออกมำ ก๊ำซโอโซนมี 2 บทบำท ขึ้นอยู่ว่ำมันวำงตัวอยู่ที่ใด โอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ (Stratosphere Ozone) เป็นเกรำะป้องกันรังสีอุลตรำไวโอเล็ต (UV) ซึ่งเป็นอันตรำยต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก ในธรรมชำติโอโซนที่ เกิดขึ้นบนพื้นผิวมีเพียง 10% โอโซนส่วนใหญ่ในชั้นสตรำโตสเฟี ยร์รวมตัวเป็นชั้นบำง ๆ ที่ระยะสูง ประมำณ 20 - 30 กิโลเมตร ทำหน้ำที่กรองรังสีอุลตรำไวโอเล็ตจำกดวงอำทิตย์ออกไป 99% ก่อนถึงพื้นโลก หำกร่ำงกำยมนุษย์ได้รับรังสีนี้มำกเกินไป จะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ส่วนจุลินทรีย์ขนำดเล็ก อย่ำงเช่น แบคทีเรียก็จะถูกฆ่ำตำย
  • 16. โอโซนในชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere Ozone) เป็นก๊ำซพิษที่เป็นอันตรำยต่อร่ำงกำย และมีคุณสมบัติเป็นก๊ำซเรือนกระจกมำกที่สุด โดยดูดกลืนรังสี อินฟรำเรด ทำให้เกิดพลังงำนควำมร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมำณ 2.85 วัตต์/ตำรำงเมตร โอโซนในชั้นนี้ เกิดจำกกำรเผำไหม้มวลชีวภำพและกำรสันดำปของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจำกกำรจรำจรติดขัด เครื่องยนต์เครื่องจักร และโรงงำนอุตสำหกรรม ซึ่งปะปนอยู่ในหมอกควัน เมื่อโอโซนอยู่ในบรรยำกำศชั้น ล่ำงหรือเหนือพื้นผิว มันจะให้โทษมำกกว่ำให้คุณ เนื่องจำกเป็นพิษต่อร่ำงกำย การลดลงของโอโซน นักวิทยำศำสตร์ได้ตรวจพบรูโหว่ขนำดใหญ่ของชั้นโอโซนเหนือทวีปแอนตำร์คติก บริเวณขั้วโลกใต้ เกิดขึ้นจำกกระแสลมพัดคลอรีนเข้ำมำสะสมในก้อนเมฆในชั้นสตรำโตสเฟียร์ในช่วงฤดูหนำวรำวเดือน พฤษภำคม - กันยำยน (อนึ่งขั้วโลกเหนือไม่มีเมฆในชั้นสตรำโตสเฟียร์ เนื่องจำกอุณหภูมิไม่ต่ำพอที่จะทำให้ เกิดกำรควบแน่นของไอน้ำในอำกำศ) เมื่อถึงเดือนตุลำคม ซึ่งแสงอำทิตย์กระทบเข้ำกับก้อนเมฆ ทำให้ คลอรีนอะตอมอิสระแยกตัวออกและทำปฏิกิริยำกับก๊ำซโอโซน ทำให้เกิดรูโหว่ขนำดใหญ่ของชั้นโอโซน เรียกว่ำ "รูโอโซน" (Ozone hole)
  • 20.
  • 21.
  • 23.
  • 25. ผู้จัดทา 1.นำย พงศภัค กมลศรี ม.5/4 เลขที่ 1 2.นำย ภำณุวัฒน์ พำนิชกุล ม.5/4 เลขที่ 2 3.นำย กันตนิษฐ์ วังศรี ม.5/4 เลขที่ 4 4.นำย ธนลักษณ์ ธัญญำพล ม.5/4 เลขที่ 5 5.นำย ณัฐภัทร มีแก้ว ม.5/4 เลขที่ 9