More Related Content
Similar to การให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนาผลงานตนเองโดยใช้ Google site (20)
การให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนาผลงานตนเองโดยใช้ Google site
- 2. วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง : การให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนาผลงานตนเองโดยใช้ Google Site
1. ความเป็นมาและความสาคัญของการวิจัย
ความท้าทายด้านการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ในการเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับชีวิตในศตวรรษ
ที่ 21 เป็นเรื่องสาคัญของกระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีการ
ดารงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง ครูจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเตรียม
ความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะสาหรับการออกไปดารงชีวิตในโลกในศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนไปจาก
ศตวรรษที่ 20 และ 19 โดยทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สาคัญที่สุด คือ ทักษะการเรียนรู้ (Learning
Skill) ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กในศตวรรษที่ 21 นี้ มีความรู้
ความสามารถ และทักษะจาเป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน
ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี มีความจาเป็นเนื่อง
ด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่อและเทคโนโลยีมากมาย ผู้เรียนจึงต้องมี
ความสามารถในการแสดงทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ ปฏิบัติงานได้หลากหลาย โดยอาศัย
ความรู้ในหลายด้าน ดังนี้ ความรู้ด้านสารสนเทศ ความรู้เกี่ยวกับสื่อ ความรู้ด้านเทคโนโลยี
2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนาผลงานตนเองโดยใช้
Google Site
3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
สามารถนาข้อสนเทศที่ได้จากการวิจัยไปปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
มากขึ้น
4. วิธีดาเนินการวิจัย
4.1 ประชากร
ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
กาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ที่เรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์ กับครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
จานวนทั้งหมด 157 คน
4.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามการให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนาผลงานตนเอง
โดยใช้ Google Site
4.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
ให้นักเรียนทาแบบสอบถามแบบออนไลน์ ตาม Link ต่อไปนี้
http://goo.gl/LLiHd4
- 3. 4.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิจัย
ในการให้ระดับความพึงพอใจสาหรับแบบสอบถามกาหนดมาตรส่วนระดับค่าความพึงพอใจไว้
5 ระดับ คือ
5 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมากที่สุด
4 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมาก
3 หมายถึง ระดับความพึงพอใจปานกลาง
2 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อย
1 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด
ในการแปลผลคะแนนเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้เกณฑ์ค่าคะแนนเฉลี่ยแต่ละช่วงตาม
แบบของ จอห์น ดับบลิว เบสท์ (John W.Best) มีเกณฑ์ดังนี้
คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 4.50 -5.00 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมากที่สุด
คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 3.50 -4.49 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมาก
คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 2.50 -3.49 หมายถึง ระดับความพึงพอใจปานกลาง
คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 1.50 -2.49 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อย
คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 1.00 -1.49 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด
ค่าเฉลี่ย (Arithmetic mean) ( X ) ใช้คานวณค่าเฉลี่ยของตัวแปร เพื่อดูแนวโน้มของระดับ
ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม
ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) (SD) ใช้คานวณเพื่อวัดการกระจาย
ระดับความคิดเห็นของข้อมูลความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม
5. ผลการวิจัย
จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 157 คน
เพศชาย 46 คน เพศหญิง 111 คน
ตาราง แสดงผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนต่อการให้นักเรียนแก้ไขและ
พัฒนาผลงานตนเองโดยใช้ Google Site
ข้อ รายการประเมิน S.D. ระดับการประเมิน
1 นักเรียนสามารถประเมินผลงานตนเองได้ตลอดเวลา 3.96 0.82 มาก
2 นักเรียนสามารถศึกษารายละเอียดของงานที่ต้องทาส่ง
ได้ตลอดเวลา
3.99 0.86 มาก
3 นักเรียนสามารถตรวจสอบคะแนนของตนเองได้
ตลอดเวลา
4.40 0.78 มาก
4 นักเรียนสามารถติดตามการส่งงานของตนเอง 4.34 0.78 มาก
5 นักเรียนสามารถใช้วิธีการที่หลากหลายในการส่งงานได้
ตลอดเวลา
4.05 0.81 มาก
6 นักเรียนสามารถสอบถามครูได้ตลอดเวลา 3.60 1.05 มาก
7 นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าและอ่านเพิ่มเติมได้ 3.82 0.84 มาก
- 4. ข้อ รายการประเมิน S.D. ระดับการประเมิน
8 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบงานของตนเองกับผู้อื่น 4.11 0.79 มาก
9 นักเรียนสามารถแก้ไขหรือปรับปรุงงานของตนเองได้
ตลอดเวลา
4.10 0.81 มาก
10 นักเรียนคิดว่า Google site มีประโยชน์ต่อการเรียน
ของตนเอง
3.97 0.83 มาก
11 นักเรียนสามารถบันทึกงานไว้ใน Google Site 3.97 0.91 มาก
ค่าเฉลี่ยของการประเมิน 4.03 0.84 มาก
6. สรุปผล และอภิปรายผล
ผลการวิจัยครั้งนี้จะเห็นได้ว่าความพึงพอใจของนักเรียนต่อการให้นักเรียนแก้ไขและพัฒนา
ผลงานตนเองโดยใช้ Google Site อยู่ในระดับมาก ( = 4.03) โดยประเด็นที่ได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ย
สูงสุดคือนักเรียนสามารถตรวจสอบคะแนนของตนเอง ( =4.40) รองลงมาคือนักเรียนสามารถติดตาม
การส่งงานของตนเอง ( = 4.34)
7. เอกสารอ้างอิง
jiraporn_pakorn, 2558, ทักษะการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21, (ออนไลน์), แหล่งที่มา:
http://www.vcharkarn.com/varticle/60454, สืบค้นวันที่ 1 สิงหาคม 2559
อารมณ์ สนามภู่, 2545, เอกสารคาสอน รายวิชาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวิจัย, คณะครุ
ศาสตร์ สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, ราชบุรี, หน้า 129-136, 232-241.
8. การเผยแพร่
https://krusongsak.wordpress.com/about/งานวิจัยในชั้นเรียน/