More Related Content
Similar to ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
Similar to ภารกิจระดับครูผู้ช่วย (20)
More from Piyatida Prayoonprom
More from Piyatida Prayoonprom (8)
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
- 3. ให้ ท่านศึกษาวิธีการจัดการเรี ยนรู้ ของครู แต่ ละคนต่ อไปนี
ครู บุญมี
เป็ นครูสอนวิชาภาษาไทย ในการสอนแต่ละชัวโมงครูจะใช้ วธีการ
ิ
บรรยาย ส่วนไหนทีสําคัญก็จะเน้ นยําให้ นกเรี ยนจดบันทึกและท่องซํา
ั
หลายครัง ทุกวันครูจะให้ นกเรี ยนท่องคําศัพท์วนละ 5 คํา พร้ อมทัง
ั ั
คัดลายมือมาส่ง สือทีครูใช้ ประจําคือ บทเรี ยนโปรแกรมและชุดการสอน
นอกจากนีเมือเรี ยนจบแต่ละบทครูบญมีก็จะทําการสอบเก็บคะแนน
ุ
ถ้ านักเรี ยนสอบตกก็จะให้ สอบใหม่จนกว่าจะผ่านตามเกณฑ์
- 4. ครู บุญช่ วย
เป็ นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ในการสอนแต่ละครังครูจะนําเข้ าสู่
บทเรี ยนโดยเชือมโยงเนือหาทีเรี ยนกับประสบการณ์เดิมของผู้เรี ยน เช่น
การใช้ คําถาม การยกตัวอย่างเหตุการณ์ในชีวิตประจําวัน ข่าวสารต่าง ๆ
เป็ นต้ น หลักจากนันครูจะแบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุมแล้ วมอบสถานการณ์
่
ปั ญหาหรื อภารกิจการเรี ยนรู้ให้ ผ้ เู รี ยนทุก ๆ กลุม นอกจากนีครูยงเตรี ยม
่ ั
แหล่งการเรี ยนรู้ตาง ๆ เช่น หนังสือ วีดิทศน์ เว็บไซต์ทเกียวข้ อง ฯลฯ
่ ั ี
เพือให้ ผ้ เู รี ยนค้ นหาคําตอบ และร่วมมือกันเรี ยนรู้มีการแลกเปลียนประสบการณ์
การลงมือทดลองเพือทดสอบแนวคิดของกลุม โดยมีครูเป็ นผู้ให้ คาแนะนํา
่ ํ
หากพบว่ามีผ้ เู รี ยนคนใดหรื อกลุมใดเข้ าคลาดเคลือนครูก็จะเข้ าไปอธิบาย
่
และกระตุ้นให้ คิด หลังจากได้ คําตอบแล้ วทุกกลุมก็จะนําเสนอแนวคิดความ
่
และร่วมกับสรุปบทเรียนเป็ นความเข้ าใจของตนเอง
- 5. ครู บุญชู
สามารถสอนให้ นกเรี ยนจําคําศัพท์ภาษาอังกฤษได้ โดยไม่ลม
ั ื
ซึงครูมีเทคนิคดังนี การแต่งเป็ นบทเพลง การใช้ คาคล้ องจอง การใช้ แผนภูมิ
ํ
รูปภาพประกอบเนือหาทีต้ องการให้ ผ้ เู รี ยนเข้ าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
องค์ประกอบ เช่น แผนผังแสดงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว
และทีน่าสนใจคือ การให้ ผ้ เู รี ยนจําคําศัพท์โดยใช้ การออกเสียงภาษาอังกฤษ
ทีเหมือนกับภาษาไทย เช่น pic กับ พริ ก และ bear กับ แบมือ พร้ อมมีรูป
ประกอบซึงเป็ นการเชือมโยงประสบการณ์เดิมทีผู้เรี ยนรู้จกมาช่วย
ั
ในการจดจําคําศัพท์
- 6. ภารกิจการเรี ยนรู้
1. ให้ ทานวิเคราะห์วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของครูแต่ละคนว่าอยูในกระบวนทัศน์
่ ่
การออกแบบการสอนใดและมีพืนฐานมาจากทฤษฎีการเรี ยนรู้ใดบ้ าง
พร้ อมอธิบายเหตุผล
- 7. ครู บุญมี
วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของครูบญมีอยูในกระบวนทัศน์การออกแบบ
ุ ่
การสอนแบบเดิม คือ จะออกแบบการสอนโดยเปรี ยบผู้เรี ยนเป็ นถังหรื อ
ภาชนะทีจะต้ องเท หรื อเติมความรู้ โดยครูผ้ สอน หนังสือเรี ยน ตํารา
ู
และสือการสอนต่างๆ
- 8. ลักษณะของกระบวนทัศน์การออกแบบการสอนดังกล่าวนีมีลกษณะที ั
สอดคล้ องกับแนวความคิดของกลุมพฤติกรรมนิยม ทีเชือว่าการเรี ยนรู้จะเกิดขึน
่
เมือผู้เรียนสร้ างความเชือมโยงระหว่างสิงเร้ าและการตอบสนอง ซึงถ้ าหากได้ รับ
การเสริ มแรงจะทําให้ มีการแสดงพฤติกรรมนันถีมากขึน ซึงจากแนวความคิด
ดังกล่าวนีบทบาทของผู้เรี ยนจึงเป็ นผู้ทีรอรับความรู้ ตลอดจนสิงเร้ าต่างๆทีจัดให้
ในขณะทีเรี ยนรู้ เช่น รางวัล การลงโทษหรื อแม้ แต่การเสริ มแรง และนอกจากนี
ยังพบว่าการออกแบบการสอนของกลุมพฤติกรรมนิยมจะมุงเน้ นการออกแบบ
่ ่
เพือให้ ผ้ เู รี ยนสามารถจดจําความรู้ให้ ได้ ในปริมาณมากทีสุด ซึงลักษณะฃ
ดังกล่าวนีก็ตรงกับรูปแบบการสอนของครูบญมีนนเอง ุ ั
- 9. ครู บุญช่ วย
วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของครูบญช่วยอยูในกระบวนทัศน์การออกแบบ
ุ ่
การสอนแบบใหม่ คือ จะออกแบบการสอนทีมุงเน้ นให้ ผ้ เู รี ยนเป็ นผู้สร้ าง
่
ความรู้ โดยการสังเกต ลงมือกระทํา และอธิบายความหมายของโลกรอบๆ
ตัวผู้เรี ยน
- 10. กระบวนทัศน์การออกแบบการสอนดังกล่าวนี มีพืนฐานมาจากทฤษฎี
การเรี ยนรู้ของคอนสตรัคติวิสต์ เพราะจากลักษณะของกระบวนทัศน์การออกแบบ
การสอนดังกล่าวนีมีลกษณะทีสอดคล้ องกับแนวความคิดของกลุมคอนสตรัคติวิสต์
ั ่
ทีเชือว่า การเรี ยนรู้จะเกิดขึนเมือผู้เรี ยนสร้ างความรู้อย่างตืนตัวด้ วยตนเอง โดย
พยามสร้ างความเข้ าใจนอกเหนือจากความรู้ทีได้ รับ โดยการสร้ างสิงแทนความรู้
ขึนมา ซึงต้ องอาศัยการเชือมโยงกับประสบการณ์เดิมของตนเอง ซึงความเชือ
ดังกล่าวนีก็มีลกษณะทีตรงตามรูปแบบการสอนของครูบญช่วย
ั ุ
- 11. ครู บุญชู
วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของครูบญชูอยูในกระบวนทัศน์การออกแบบ
ุ ่
การสอนแบบเดิม คือ ครูเป็ นผู้ให้ ข้อมูลทุกอย่างแก่ผ้ เู รียน โดยผู้เรี ยน
จะเป็ นผู้ทีรอรับความรู้จากครูเพียงฝ่ ายเดียว โดยครูจะเน้ นให้ ผ้ เู รี ยน
สามารถจัดเก็บความรู้ทมีอยูให้ เป็ นระบบและสามารถนําความรู้ทีมีอยู่
ี ่
มาใช้ ได้ อย่างง่าย ซึงครูจะเป็ นผู้ทีคอยบอกถึงวิธีการในการจัดเก็บข้ อมูล
ของนักเรี ยน โดยทีนักเรี ยนไม่ได้ คิดหาวิธีเอง
- 12. กระบวนทัศน์การออกแบบการสอนดังกล่าวนี มีพืนฐานมาจากทฤษฎี
การเรี ยนรู้ของกลุมพุทธิปัญญา เพราะจากลักษณะของกระบวนทัศน์การออกแบบ
่
การสอนดังกล่าวนีมีลกษณะทีสอดคล้ องกับแนวความคิดของกลุมคอนพุทธิปัญญา
ั ่
ทีเชือว่า การเรี ยนรู้เป็ นสิงทีมากกว่าผลของการเชือมโยงระหว่างสิงเร้ าและการ
ตอบสนอง โดยให้ ความสนใจในกระบวนการภายในทีเรี ยกว่า ความรู้ความเข้ าใจ
หรื อการรู้คิดของมนุษย์ ซึงตามแนวคิดดังกล่าวนีผู้เรี ยนจึงมีบทบาทเป็ นผู้ทีรอรับ
สารสนเทศ ในขณะทีครูมีบทบาทเป็ นผู้ทีนําเสนอสารสนเทศ ซึงจะพบว่า
บทบาทของครูและนักเรี ยนตามแนวคิดของกลุมพุทธิปัญญามีความสอดคล้ องกับ
่
บทบาทของครูและนักเรี ยนในชันเรี ยนของครูบญชู ุ
- 14. ครู บุญมี
ข้ อเด่ น ข้ อดี
ครูสอนโดยการบรรยาย ทําให้ ผ้ เู รี ยนได้ รับความรู้และแนวคิดทีหลากหลาย
ก่อนทีจะสรุปเป็ นข้ อคิดหรื อทางเลือกทีเหมาะสม
ครูเน้ นยําประเด็นทีสําคัญโดยการให้ ผ้ เู รี ยน ทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดความเข้ าใจในเนือหาได้ เป็ นอย่างดี
จดบันทึกและท่องจําซําหลายครัง รวมทังทําให้ เกิดการจดจําเนือหาได้ อย่างแม่นยํา
ครูให้ ผ้ เู รี ยนท่องคําศัพท์วนละ 5 คํา
ั ทําให้ ผ้ เู รี ยนจดจําคําศัพท์ได้ อย่างแม่นยํา รวมทังทําให้
รู้จกคําศัพท์มากขึนเรื อยๆ
ั
ครูให้ ผ้ เู รี ยนคัดลายมือส่ง ทําให้ ผ้ เู รี ยนได้ ฝึกฝนการเขียน ทําให้ เกิดการพัฒนา
ลายมือไปในทางทีดีขน ึ
ครูใช้ บทเรี ยนโปรแกรมและชุดการสอน ทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดความสนใจในการเรี ยนเป็ นอย่างดี
ครูมีการสอบเก็บคะแนนท้ ายบทเรี ยน ทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดการทบทวนความรู้ เพราะผู้เรี ยนจะต้ อง
มีการอ่านหนังสือก่อนการสอบ ซึงจะทําให้ ผ้ เู รี ยนได้
ทบทวนความรู้ทงหมดทีเคยเรี ยนมา
ั
- 15. ครู บุญช่ วย
ข้ อดี ข้ อเสีย
ผู้เรี ยนเกิดความเข้ าใจในเนือหาทีเรี ยนได้ อย่างลึกซึง ทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดความเข้ าใจในเนือหาทีเรี ยนได้
อย่างลึกซึง
ผู้เรี ยนได้ ฝึกทักษะในการทํางานเป็ นทีม ฝึ กระเบียบ ทําให้ นกเรี ยนได้ ฝึกทักษะในการทํางานเป็ นทีม
ั
วินยและความรับผิดชอบต่อหน้ าทีของตัวเด็กในการ ฝึ กระเบียบวินยและความรับผิดชอบต่อหน้ าทีของ
ั ั
เป็ นกลุม ทําให้ เด็กเกิดทักษะในการทํางานเป็ นทีม ตัวเด็กในการเป็ นกลุม ทําให้ เด็กเกิดทักษะในการ
่ ่
ทีดี รวมทังทําให้ เด็กเกิดทักษะในการเข้ าสังคม ทํางานเป็ นทีมทีดี รวมทังทําให้ เด็กเกิดทักษะใน
การเข้ าสังคม
- 16. ครู บุญช่ วย
ข้ อดี ข้ อเสีย
ผู้เรี ยนสามรถสืบค้ นข้ อมูลเพือนํามาใช้ ในการตอบ ทําให้ ผ้ เู รี ยนสามรถสืบค้ นข้ อมูลเพือนํามาใช้ ใน
คําถามได้ อย่างหลากหลาย การตอบคําถามได้ อย่างหลากหลาย
ผู้เรี ยนได้ เห็นถึงแนวความคิดทีแตกต่างและ ทําให้ ผ้ เู รี ยนได้ เห็นถึงแนวความคิดทีแตกต่างและ
หลากหลาย ซึงแนวความคิดเหล่านีจะช่วยให้ ผ้ เู รี ยน หลากหลาย ซึงแนวความคิดเหล่านีจะช่วยให้
สามารถนําเอาไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริ งได้ ผู้เรี ยนสามารถนําเอาไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริ งได้
ผู้เรี ยนเข้ าใจในเนือหาอย่างถูกต้ อง และทําให้ ผ้ เู รี ยน ทําให้ ผ้ เู รี ยนเกิดความเข้ าใจในเนือหาอย่าง
สามารถคิดและหาข้ อผิดพลาดได้ ด้วยตัวเอง ถูกต้ อง และทําให้ ผ้ เู รี ยนสามารถคิดและหา
ข้ อผิดพลาดได้ ด้วยตัวเอง
- 17. ครู บุญชู
ข้ อเด่ น ข้ อดี
ครูมีการแต่งคําศัพท์ภาษาอังกฤษเป็ นบทเพลง ทําให้ นกเรี ยนเกิดความสนใจ และสามารถจดจํา
ั
และมีการเรี ยงคําศัพท์โดยใช้ คําคล้ องจอง คําศัพท์ภาษาอังกฤษได้ อย่างแม่นยํา
ครูมีการใช้ แผนภูมิประกอบเนือหาทีต้ องการให้ ทําให้ ผ้ เู รี ยนเข้ าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
ผู้เรี ยนเข้ าใจ องค์ประกอบต่างๆของเนือหาได้ เป็ นอย่างดี
ครูให้ ผ้ เู รี ยนจดจําคําศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้ การ ทําให้ เด็กจดจําคําศัพท์ได้ ง่ายและรวดเร็ วมากขึน
ออกเสียงภาษาอังกฤษทีเหมือนกับภาษาไทย
- 18. ภารกิจการเรี ยนรู้
3. วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของใครทีสอดคล้ องกับพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มากทีสุด เพราะเหตุใด
- 19. วิธีการจัดการเรี ยนรู้ของครูบญช่วยมีความสอดคล้ องกับ
ุ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ. ศ. ๒๕๔๒ มากทีสุด เพราะการ
จัดการเรี ยนรู้ของครูบญช่วยจะเน้ นทีผู้เรี ยนเป็ นสําคัญ คือ จากวิธีการสอน
ุ
ของครูบญช่วยจะพบว่า ในการสอนแต่ละครังครูบญช่วยจะเชือมโยงเนือหา
ุ ุ
ให้ เข้ าประสบการณ์เดิมของผู้เรี ยน เพือให้ ผ้ เู รี ยนเกิดการเรี ยนรู้และเข้ าใจ
เนือหาในการเรี ยนได้ อย่างชัดเจนลึกซึง ซึงถือได้ วาครูบญช่วยให้ ความสําคัญ
่ ุ
กับตัวผู้เรี ยนเป็ นอย่างมาก
- 20. รวมทังครูบญช่วยยังมีการจัดกิจกรรมในชันเรียนโดยการมอบหมายให้ นกเรี ยน
ุ ั
ทํางานเป็ นกลุม โดยการให้ นกเรี ยนช่วยกันแก้ ปัญหาตามสถานการณ์ตางๆ
่ ั ่
และครูบญช่วยก็จะมีการจัดเตรียมแหล่งการเรี ยนรู้ตางๆให้ ผ้ เู รี ยน เพือทีผู้เรี ยน
ุ ่
จะได้ ใช้ ในการค้ นคว้ าข้ อมูลมาใช้ ในการตอบคําถาม ซึงตรงนีก็จะทําให้ ผ้ เู รี ยน
เกิดกระบวนการเรี ยนรู้ด้วยตนเองและสามารถสรุปเป็ นองค์ความรู้ได้ ด้วยตนเอง
ซึงนับได้ วาการสอนของครูบญช่วยสร้ างประโยชน์ให้ แก่ผ้ เู รี ยนเป็ นอย่างมาก และ
่ ุ
นอกจากนีถ้ าหากครูบญช่วยพบว่าผู้เรี ยนมีความเข้ าใจทีคลาดเคลือน ครูก็จะเข้ า
ุ
ไปอธิบายและกระตุ้นให้ ผ้ เู รี ยนคิดตาม โดยทีครูพยายามจะทําให้ ผ้ เู รี ยนค้ นหา
ข้ อผิดพลาดและค้ นพบแนวทางทีถูกต้ องด้ วยตัวของเด็กเอง ซึงการสอนเช่นนีก็
นับได้ วามีความสอดคล้ องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ. ศ. ๒๕๔๒
่
ในหมวดที 10 มาตรา 22 และมาตรา 24 ซึงมีข้อความดังนี
- 21. มาตรา 22 การจัดการศึกษาต้ องยึดหลักการว่าผู้เรี ยนทุกคนมี
ความสามารถเรี ยนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรี ยนมีความสําคัญทีสุด
กระบวนการจัดการศึกษาต้ องส่งเสริ มให้ ผ้ เู รี ยนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติ
และเต็มตามศักยภาพ
- 22. มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้ สถานศึกษาและหน่วยงานทีเกียวข้ องดาเนินการ ดังต่อไปนี
(1) จัดเนือหาสาระและกิจกรรมให้ สอดคล้ องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรี ยน โดย
คํานึงถึงความแตกต่างระหว่างระหว่างบุคคล
(2) ฝึ กทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มา
ใช้ เพือปองกันและแก้ ไขปั ญหา
้
(3) จัดกิจกรรมให้ ผ้ เู รียนได้ เรี ยนรู้จากประสบการณ์จริ งฝึ กการปฏิบติให้ ทาได้ คิดเป็ น
ั
ทําเป็ น รักการอ่านและเกิดการใฝ่ รู้อย่างต่อเนือง
(4) จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้ สดส่วนสมดุลกัน ั
รวมทังปลูกฝั งคุณธรรม ค่านิยมทีดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ ในทุกวิชา
(5) ส่งเสริมสนับสนุนให้ ผ้ สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้ อม สือการเรียน และ
ู
อํานวยความสะดวกเพือให้ ผ้ เู รี ยนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ รวมทังสามารถใช้ การวิจยเป็ นส่วนั
หนึงของกระบวนการเรียนรู้ ทังนีผู้สอนและผู้เรี ยนอาจเรียนรู้ไปพร้ อมกัน
(6) จัดการเรียนรู้ให้ เกิดขึนได้ ทกเวลาทุกสถานที มีการประสานความร่วมมือกับบิดามารดา
ุ
ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่ าย เพือร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
- 24. ผมเป็ นครูสอนคณิตศาสตร์ มาหลายปี ขณะสอนนักเรี ยนจะได้ ยิน
คําถามเสมอว่า "อาจารย์ (ครับ/ค่ะ)...เรี ยนเรื องนีไปทําไม เอาไปใช้ ประโยชน์
อะไรได้ บ้าง“ ก็ได้ แต่ตอบคําถามว่านําไปใช้ ในการเรี ยนต่อชันสูง และนําไป
ประยุกต์ใช้ ในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึงบางเนือหาก็มีโจทย์ปัญหาเป็ นแนวทางทําให้
พอรู้วาจะนําไปใช้ อะไรได้ บ้าง แต่บางเนือหาก็จะได้ ยินเสียงบ่นพึมพําว่า "เรียนก็
่
ยาก สูตรก็เยอะไม่ร้ ูจะเรียนไปทําไม ไม่เห็นได้ นําไปใช้ เลย" ในความเป็ นจริงดิฉน ั
คิดว่าหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ ของไทยน่าจะมีการ apply ให้ มากกว่านีในแต่ละ
เรื องทัง ม.ต้ น และม.ปลาย ผู้เรี ยนจะได้ ร้ ูวาถ้ าเรี ยนแล้ วสามารถนําไปใช้ ได้ จริ ง
่
ไม่วาจะเรี ยนต่อสายสามัญหรื อสายอาชีพและเห็นความสําคัญของวิชานีมากขึน
่
- 26. ความไม่ ชัดเจน
• คณิตศาสตร์ เป็ นวิชาค่อนข้ างเป็ นนามธรรม เพราะฉะนัน นักเรี ยนจึง
ไม่เข้ าใจว่าทําไม จึงต้ องเรี ยนคณิตศาสตร์ ตรงกันข้ ามกับวิชา
วิทยาศาสตร์ ซงเป็ นวิชาทีเป็ นรูปธรรม นักเรี ยนสามารถสัมผัสกับ
ึ
ความรู้ได้ จริ ง เช่น แรงโน้ มถ่วง ระบบในร่างกาย หรื อสารเคมีตางๆ
่
เมือได้ เห็นในสิงทีเป็ นรูปธรรมแล้ ว จึงเป็ นการง่าย ทีจะนําความรู้
เหล่านันไปใช้ ประโยชน์ในลําดับต่อไป
- 27. ขาดการเชือมโยง
• ครูผ้ สอนเองไม่ได้ นําความรู้ทีสอนไปเชือมกับปั ญหาทีนักเรียนพบ ทําให้
ู
ผู้เรี ยนมองไม่เห็นความเชือมโยงกันระหว่างคณิตศาสตร์ กบโลกทีเป็ นจริ ง
ั
ครูผ้ สอนไม่ได้ อธิบายว่าสามารถนําความรู้ทีได้ นนไปต่อยอดในการเรี ยนรู้
ู ั
ขันสูงเรื องใด ชันไหน จะนําคณิตศาสตร์ มาใช้ ในชีวตประจําวันได้ อย่างไร
ิ
- 28. ภารกิจการเรี ยนรู้
2. วิเคราะห์หาทฤษฎีการเรี ยนรู้ และการออกแบบการสอนทีสามารถ
แก้ ปัญหาได้
- 29. เนืองจากคณิตศาสตร์ เป็ นวิชาทีเป็ นนามธรรม วิธีการทีจะทําให้
คณิตศาสตร์ เป็ นรูปธรรมขึนมาได้ นน ต้ องใช้ วิธีการทีให้ นกเรี ยนสร้ าง
ั ั
ความรู้ขนมาด้ วยตัวเอง โดยอาศัยการเรียนรู้ และการออกแบบการสอน
ึ
ตามแนวคิดของกลุมคลุม คอนสตรัคติวิสต์ เพราะกระบวนการสร้ าง
่ ่
การเรี ยนรู้ด้วยตนเองของนักเรี ยนนัน จะทําให้ นกเรี ยนได้ เรี ยนรู้ถง
ั ึ
กระบวนการแก้ ปัญหา และสามารถนําความรู้นน ไปแก้ ปัญหาได้ จริ ง
ั
ในชีวตประจําวัน
ิ
- 30. การสร้ างกระบวนการการเรี ยนรู้
ปั ญหาทีก่อให้ เกิดความขัดแย้ ง
ทางปั ญญา
แก้ ปัญหาด้ วยตนเอง แก้ ปัญหาร่วมกัน
การปรับโครงสร้ าง การสร้ างโครงสร้ างใหม่
การสร้ างการเรียนรู้
- 31. การออกแบบการสอน
บทบาทของครูผ้ สอน
ู
ช่วยปรับโครงสร้ าง
ทางปั ญญา
ทําให้ เกิดภาวะเสียสมดุล ความขัดแย้ งทางปั ญญา
โครงสร้ างปั ญญาเดิม
ใช้ ไม่ได้
- 33. การออกแบบการเรี ยนรู้ ทเน้ นผู้เรี ยนเป็ นศูนย์ กลาง
ี
ลงมือปฏิบติด้วย
ั
เรียนรู้ร่วมกับผู้อืน ตนเอง
เรี ยนรู้จากสภาพ
จริ งและ
มีสือประกอบการ ประสบการณ์ตรง
เรียนรู้ เน้ นผู้เรี ยนเป็ น
ศูนย์กลาง เรี ยนรู้อย่างมี
แสดงออกอย่าง
อิสระ ความสุข
มีโอกาสใช้ ตรงกับความต้ องการ
กระบวนการคิด ความสนใจ และความ
ถนัด