More Related Content
Similar to Mis ความหมาย (20)
Mis ความหมาย
- 1. MIS ความหมาย
1.รศ.ดร. อนุมงคลศิริเวทินและ ผศ.ดร. สมบูรณ์วัลย์ เหมศาสตร์
คำจำกัดควำมอย่ำงกว้ำงขวำงที่เป็นสำระที่สำคัญของMISคือระบบการประมวลข้อสนเทศ (
InformationProcessing) หมำยควำมถึง
กำรนำข้อมูลมำประมวลผลเพื่อให้ได้ ข้อสนเทศ โดยออกแบบชัดเจนถึง แหล่งข้อมูล วิธีกำรและระยะเวลำ
ที่จะนำข้อมูล มำดำเนินกระบวนกำรเปลี่ยนสภำพข้อมูลเป็นข้อสนเทศ เพื่อประโยชน์ต่อกำรตัดสินใจ
ในกำรบริหำรงำนขององค์กรอย่ำงทันกำร
2. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอานวย( อาจารย์ประจาสาขาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์ฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ )
ระบบสำรสนเทศเพื่อกำรจัดกำรเป็นระบบที่เกี่ยวข้องระหว่ำงมนุษย์กับเทคโนโลยีด้ำนข่ำวสำรข้อมูล
ซึ่งประกอบด้วยกระบวนกำรรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ได้ สำรสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อกำรปฏิบัติงำน กำรบริหำร
กำรตัดสินใจภำยในองค์กร
3.วัชราภรณ์ อิสิชัยกุล ( อาจารย์ประจาภาควิชาบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย)
คำว่ำManagementInformationSystem หรือระบบข้อมูลเพื่อกำรบริหำรนั้น
ไม่มีคำจำกัดควำมที่แน่นอนตำยตัวเรำจึงจะเห็นได้ว่ำมีผู้ให้คำจำกัดควำมของMISไว้ต่ำงๆกันดังเช่น WalterI
Kennevan ได้ให้คำจำกัดควำมของMISไว้ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปดังนี้
“an organizedmethodof providingpast,present,andprojectioninformationrelating to
internal operationsandexternal intelligence.Itsupportsthe planning,control,andoperational
functionsof anorganizationbyfurnishinguniforminthe propertimeframe toassistthe decision-
makingprocess”
คาจากัดความอื่นๆ ของ MIS
3.1 The setof human andcapital resourceswithinthe organization,whichis
responsible forthe collectionandprocessingof datatoprovide informationthatisuseful toall level
of managementinplanningandcontrollingthe activitiesof the organization.
3.2 A MIS ( whethercomputer-basedormanual ) as a communicative processin
whichdata are accumulated,processed,stored,andtransmittedtoappropriate organizational
personnel forthe purpose of providinginformationonwhichtobase managementdecisions.As
such then,aninformationsystemconsistsof,atleast,a personof a certainpsychological type who
aces a problemwithinsame organizational contextforwhichhe needevidencetoarrive at a
solution,wherethe evidence ismade availablethroughsome mode of presentation.
( ดร.อนุมงคลศิริเวทิน/ ดร. สมบูรณ์วัลย์ เหมศาสตร์ )
- 3. หรือนโยบำย
กำรตัดสินใจถูกนำไปปฏิบัติ เกิดข้อมูลใหม่ เข้ำสู่กระบวนกำรประมวลผล
สิ่งที่เป็นปัญหาต่อกระบวนการตัดสินใจ
คือ กำรขำดข้อมูลทำให้ ผู้บริหำรต้องตัดสินใจด้วยควำมรู้ ควำมสำมำรถประสบกำรณ์ (ซึ่ง
อำจผิดพลำดถ้ำมีไม่เพียงพอ)และ เกินวิสัยที่ผู้บริหำรคนเดียวจะแสวงหำข้อมูลตำมลำพัง(
มำเป็นประโยชน์ต่อกำรตัดสินใจ)
MIS ถูกสร้างขึ้นเป็น แหล่ง สารสนเทศ ให้แก่ผู้บริหาร ระดับต่างๆ ดังนี้
1. ระดับOperational Control
เป็นกำรบริหำรงำนระดับล่ำงสุดที่ควบคุมกำรดำเนินงำนต่ำงๆให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ
2. ระดับManagerial Control
เป็นระดับที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดทำงบประมำณและกำรจัดสรรทรัพยำกรสำรสนเทศ
จะช่วยตัดสินใจกำรจัดสรรทรัพยำกรที่มีจำกัดให้แก่งำนประเภทต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง
3. ระดับStrategic Planning
เป็นระดับของกำรวำงนโยบำยที่จะทำให้วัตถุประสงค์บรรลุควำมสำเร็จสำรสนเทศจะช่วยกำรตัดสินใจ
ให้ดำเนินกำรในแนวทำงที่ถูกต้อง
MIS คือระบบการผลิต สารสนเทศ เพื่อการบริหาร
1. ข้อมูล และ แหล่งข้อมูล ถูกออกแบบอย่ำงเด่นชัด
2. มีวิธีกำรและระยะเวลำที่จะนำข้อมูลมำประมวลผล
3. สำรสนเทศเป็นประโยชน์ต่อกำรตัดสินใจในกำรบริหำรงำนขององค์กรได้ทันกำรณ์
4. สำรสนเทศสนับสนุนงำนกำรนริหำรได้ทุกระดับ
ลักษณะของ MIS
1. MIS ต้องสนับสนุนกำรบริหำรงำนในทุกระดับ
2. MIS ควรจะสำมำรถเชื่อมโยงหรือประสำนงำนระบบข้อมูลในหน่วยงำนย่อยต่ำงๆได้
3. MIS ต้องมีข้อมูลพร้อมที่จะถูกประมวลผลเพื่อให้คำตอบแก่ผู้บริหำรได้เสมอสำหรับควำมต้องกำรที่เรียกว่ำ
UnstructuredRequest
4. MIS ควรเป็นระบบซึ่งสำมำรถนำเทคนิคกำรวิจัยดำเนินงำนมำใช้ได้
5. MIS ควรมีลักษณะกำรจัดเก็บข้อมูลที่แน่นอนและไม่ซ้ำซ้อนกันโดยนัยมีกำรจัดเก็บข้อมูลไว้แห่งเดียว
เพื่อสะดวกต่อกำรแก้ไขปรับปรุง
ความล้มเหลวของ MIS
1. ผู้บริหำรไม่เห็นควำมสำคัญ
- 4. 2. สำรสนเทศที่ได้ ไม่ช่วยกำรบริหำรงำนเพียงถูกใช้ควบคุมงำนประจำวันเท่ำนั้น
3. กำรทำMISเป็น Total InformationSystem นั้นทำได้ยำกและส่วนใหญ่ เป็นไปไม่ได้
4. กำรสร้ำงMISใช้ต้นทุนสูงเกินควำมจำเป็นเช่นใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
แฟ้ มข้อมูล ( Data Files)
1. ส่วนประกอบได้แก่ FieldหรือData Itemกับระเบียน( Record)
2. ประเภท
2.1 แฟ้ มข้อมูลหลัก( Master File หรือDynamicFile )
2.2 แฟ้ มรำยกำรปรับปรุง(TransactionFile )
2.3 แฟ้ มอ้ำงอิง ( Reference File )
2.4 แฟ้ มข้อมูลเก่ำ( Historical File )
3. กำรปรับ( Updating)
3.1 เพิ่ม
3.2 ตัด
3.3 แก้ไข
4. กำรจัด( Organizing)
4.1 Serial หรือSequential
4.2 Direct
4.3 IndexedSequential
5. กำรประมวลผล(Processing) เช่นเดียวกับกำรจัด
6. แนวควำมคิดของระบบฐำนข้อมูลหลัก
6.1 กำรซ้ำซ้อนของข้อมูล
6.2 ควำมผิดพลำดของข้อมูล
6.3 ควำมพร้อมของข้อมูล
6.4 กำรควบคุมระบบข้อมูล
7. ปัญหำเมื่อมีกำรใช้ข้อมูล ร่วมกันในระบบฐำนข้อมูลหลัก
7.1 ควำมลับของข้อมูล
7.2 สิทธิส่วนบุคคล
7.3 เจ้ำของ / ผู้รับผิดชอบข้อมูล
7.4 กำรตรวจสอบข้อมูล
7.5 ผลกระทบจำกควำมผิดพลำด
รูปแบบของ MIS
- 5. ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่ำงๆ ขององค์กรนั้นๆ เช่น
ลักษณะกำรแบ่งงำน
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงหน่วยงำน
ควำมพร้อมของกิจกรรมต่ำงๆ
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1. MIS ย่อย ใช้เฉพำะในหน่วยงำนย่อย
2. MIS รวมใช้ทั้งองค์กร
เปรียบเทียบ ข้อดี – ข้อเสีย
MIS ย่อย
ข้อดี
1. ลักษณะของข้อมูลคุ้นเคยกับเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติประจำอยู่แล้ว
( เข้ำใจง่ำยผิดพลำดน้อย)
2. ใช้ บุคลำกรงบประมำณเวลำดำเนินกำรค่อนข้ำงน้อย
3. โอกำสสร้ำงMISได้สำเร็จอยู่ในระดับสูง
ข้อเสีย
1. ควำมพร้อมที่ไม่เท่ำกันของหน่วยงำนย่อยรวมทั้ง
กำรรวบรวมและควำมทันสมัยของข้อมูลเป็นอุปสรรคต่อกำรผลิตสำรสนเทศเป็นส่วนรวมที่ผู้บริหำรต้องกำร
2. ข้อมูลประเภทเดียวกันปรำกฏในหลำยหน่วยงำนย่อย
เป็น นัยแห่งควำมซ้ำซ้อนและควำมขัดแย้งทำให้ ขำดควำมน่ำเชื่อถือและเสียค่ำใช้จ่ำยสูง
MIS รวม
ข้อดี
1. เหมำะสำหรับองค์กรที่มีลักษณะควำมสัมพันธ์ระหว่ำงหน่วยงำนย่อยด้วยกัน
เป็นไปอย่ำงแน่นแฟ้ น
2. แก้ไขปัญหำควำมซ้ำซ้อนและกำรขัดแย้งของข้อมูลได้ง่ำย
ข้อเสีย
1. ขอบข่ำยของกำรดำเนินงำนสร้ำงMISกว้ำงกว่ำของหน่วยงำนย่อย
2. จำเป็นต้องสร้ำงหน่วยงำนใหม่ที่ต้องได้รับกำรจัดสรรงบประมำณและบุคลำกรเฉพำะ
3. โอกำสสร้ำงMISได้สำเร็จอยู่ในระดับต่ำ
ขั้นตอนของการสร้างMIS
1. วิเครำะห์ตรวจสอบควำมต้องกำรสำรสนเทศของผู้บริหำร
- 6. ( กำรใช้ประโยชน์ควำมจำเป็น)
2. วำงระบบกำรรวบรวมและผลิตสำรสนเทศ(แหล่งข้อมูล เวลำวิธี)
3. จัดทำคู่มืออธิบำยกำรเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
รวมทั้งคู่มือกำรใช้โปรแกรม(ในกรณี ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผล)
ปัจจัยแห่งความสาเร็จของ MIS
1. ผู้บริหาร
- ระบุควำมต้องกำรสำรสนเทศได้ชัดเจนและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
- สนับสนุนค่ำใช้จ่ำยในกำรวำงระบบกำรเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
2. ผู้ปฏิบัติ
- มีควำมรู้ / ประสบกำรณ์ ด้ำนกำรบริหำรงำนและด้ำนกำรวำงระบบ
- มีควำมสำมำรถในกำรประสำนงำนกำรสอบถำมควำมต้องกำรที่แท้จริง
และ อธิบำยให้ผู้บริหำรเข้ำใจถึงวิธีกำรใช้ประโยชน์จำกสำรสนเทศ
ลักษณะของข้อมูล หรือ สารสนเทศ
ในแนวควำมคิดของMIS ที่จำแนกตำมระดับของผู้บริหำรมีลักษณะเป็นรูปปิรำมิดท
ีีี่แบ่งออกเป็น 4 ชั้น
ชั้นที่ 4 กาหนดนโยบาย
สำรสนเทศเกี่ยวข้องกับข้อมูลภำยในองค์กร(ปริมำณข้อมูล ต่ำ)
ชั้นที่ 3 เกี่ยวกับกำรจัดทำงบประมำณหรือจัดสรรงบประมำณให้แก่หน่วยงำนย่อยต่ำงๆ
ชั้นที่ 2 ปริมำณข้อมูลน้อยลงผู้บริหำรใช้ สำรสนเทศของตนเอง
ชั้นที่ 1 ดาเนินงานประจา ( Routine ) เกิดข้อมูลมำกมำยเป็นฐำนของสำรสนเทศระดับสูง
- 7. ลักษณะอื่น ๆ ของ MIS
More Structure
หมำยถึงลักษณะของสำรสนเทศหรือลักษณะของกำรตัดสินใจ(ซึ่ง )มีตัวแบบ และโครงสร้ำงที่แน่ชัด
Less Structure
หมำยถึงลักษณะของสำรสนเทศหรือลักษณะของกำรตัดสินใจ(ซึ่ง )ควำมเด่นชัดแปรผกผันกับระดับ
Lowพ-level managementand clerical
หมำยถึงกำรบริหำรงำนหรือกำรจัดกำรในระดับล่ำง
Higher-level management
หมำยถึงกำรบริหำรงำนหรือกำรจัดกำรในระดับสูง
Programmed Decision
หมำยถึงลักษณะกำรตัดสินใจที่มีแนวทำงและหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้ำค่อนข้ำงแน่นอน
Non-programmedDecision
ควำมหมำยตรงข้ำมกับProgrammedDecision
EnvironmentData
หมำยถึงข้อมูลสภำพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกำรดำเนินงำนขององค์กรซึ่งบำงครั้งจำเป็นต้องจัดเข้ำอยู่ใน MIS
ด้วยเช่น
รำยได้เฉลี่ยต่อคน
จำนวนประชำกร
อัตรำเงินเฟ้ อฯลฯ
ความสัมพันธ์ ระหว่างการแบ่งหน่วยงานย่อย ขององค์กร กับ รูปแบบ ของ MIS
1. หน่วยงานย่อยใน หน่วยงานใหญ่ มี 2 แบบ คือ
1.1 หน่วยงำนใหญ่ ( System) แบ่งออกเป็นหลำย หน่วยงำนย่อย(Sub-system)
ซึ่งแต่ละหน่วยมีควำมสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่ำงแน่นแฟ้ นดังนั้นกำรประสำนระหว่ำงสำรสนเทศจึงแน่นแฟ้ นด้วย
MIS จึงควรเป็นแบบรวม
- 9. MIS จาเป็นต้องใช้ Computerหรือไม่
Computer
1. เป็นอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง
2. มีควำมสำมำรถในกำรเก็บ(จำ ) ข้อมูล ( จำ =เก็บรักษำ)
3. มีควำมสำมำรถในกำรคำนวณที่ถูกต้องอย่ำงรวดเร็ว
4. เอื้ออำนวยต่อกำรทำงำนที่มีปริมำณมำก
5. เป็นอุปกรณ์ที่มีรำคำสูง
6. มีควำมยุ่งยำกในกำรเปลี่ยนสภำพข้อมูลให้ (คอมพิวเตอร์ )เข้ำใจ
7. เสียค่ำใช้จ่ำยสูงในกำรเปลี่ยนสภำพข้อมูลตำมข้อ6
การศึกษาความเหมาะสม หรือ ความเป็นไปได้ ( FeasibilityStudy)
1. เปรียบเทียบประสิทธิภำพกำรทำงำน(Efficiency)
2. หำควำมคุ้มค่ำ( Effectiveness) ของค่ำใช้จ่ำยที่เกี่ยวกับ
- เครื่อง คอมพิวเตอร์
- กำรเตรียมสถำนที่
- กำรเตรียมบุคลำกร
การใช้ Computer ขึ้นอยู่กับ
- ปริมำณงำน
- งบประมำณ
- บุคลำกร
ตามทฤษฎี ใน MIS ไม่จาเป็นต้องใช้ Computer