More Related Content
Similar to Activity3 (20)
Activity3
- 5. เปนโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการจําลองหรือทดลองของ
สาขาต่างๆ เพือให้ผู้ใช้งานได้เข้าใจ
การทํางาน และทดลองโครงงานต่างๆ ได้ ส่วนใหญ่จะเปนงานทีไม่
สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้โครงงานประเภทนีผู้เรียน
ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิด
ต่างๆ ในเรืองทีต้องการศึกษาให้ลึกซึงก่อนแล้วเสนอเปนแนวคิด
หลักการ แบบจําลอง พร้อมทังนําเสนอวิธีการจําลองทฤษฎีด้วย
คอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโครงงานประเภทนี เช่น การทดลองเรืองการ
ไหลของของเหลว, โปรแกรมจําลองการเกิดคลืนสึนามิ, โปรแกรม
จําลองสถานการณ์การบิน เปนต้น
3) โครงงานจําลองทฤษฎี
(Theory Simulation)
3) โครงงานจําลองทฤษฎี
(Theory Simulation)
- 7. เปนโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพือความรู้ และ/หรือความ
เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคํานวณเลขซึง
เกมทีพัฒนาขึนนีน่าจะเน้นให้เปนเกมทีไม่รุนแรงเน้นการใช้สมองเพือ
ฝกคิดอย่างมีหลักการโครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบลักษณะ
และกฎเกณฑ์การเล่นเพือให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อมทังให้ความรู้สอด
แทรกไปด้วยผู้พัฒนาควรจะได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียว
กับเกมต่างๆทีมีอยู่ทัวไปและนํามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึนใหม่เพือให้
เปนเกมทีแปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
5)โครงงานพัฒนาเกม
(Game Development)
5)โครงงานพัฒนาเกม
(Game Development)
- 9. โดยทัวไปเรืองทีจะนํามาพัฒนาเปนโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจาก
ปญหา คําถาม หรือความสนใจในเรืองต่างๆ จากการสังเกตสิงต่างๆ ทีเกียวข้อง
กับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิงต่างๆ รอบตัว ปญหาทีจะนํามาพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี
1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสาร
ต่างๆ
2. การไปเยียมชมสถานทีต่างๆ
3. การฟงบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทังการสนทนา
อภิปรายแลกเปลียนความคิดเห็นระหว่างเพือนนักเรียนหรือกับบุคคล
อืนๆ
4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
5. งานอดิเรกของนักเรียน
6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ในการ
ตัดสินใจ
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
- 13. เมือเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ทีปรึกษาแล้ว ก็เสมือน
ว่าการจัดทําโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึง ขันตอนต่อไปจะเปนการลงมือ
พัฒนาตามขันตอนทีวางแผนไว้ ดังนี
4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ต้องเตรียมเครืองคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ และวัสดุอืนๆ ทีจะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก
หรือบันทึกเปนแฟมข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สําหรับบันทึกการทํากิจกรรมต่างๆ
ระหว่างทําโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปญหาและแก้ไขได้หรือไม่
อย่างไร รวมทังข้อสังเกตต่างๆ ทีพบ
4.2 การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตามแผนงานทีวางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลียนแปลงหรือเพิมเติมได้ถ้า
พบว่าจะช่วยทําให้ผลงานดีขึน
2. จัดระบบการทํางานโดยทําส่วนทีเปนหลักสําคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทํา
ส่วนทีเปนส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพือให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึน และถ้ามี
การแบ่งงานกันทํา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชือมชินงานทีชัดเจนด้วย
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเปนระบบ
และครบถ้วน
4. การลงมือทําโครงงาน4. การลงมือทําโครงงาน
- 15. การเขียนรายงานเปนวิธีการสือความหมายเพือให้ผู้อืนได้เข้าใจแนวคิด วิธีดําเนิน
การศึกษาค้นคว้า ข้อมูลทีได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกียวกับโครงงาน
นัน ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาทีอ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรง
มา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี
5.1 ส่วนนํา ส่วนนํา เปนการให้ข้อมูลเกียวกับโครงงานนันซึงประกอบด้วย
1. ชือโครงงาน 3. ชืออาจารย์ทีปรึกษา 5. บทคัดย่อ
2. ชือผู้ทําโครงงาน 4. คําขอบคุณ
5.2 บทนํา บทนําเปนส่วนรายละเอียดของเนือหาของโครงงานซึงประกอบด้วย
1. ทีมาและความสําคัญของโครงงาน
2. เปาหมายของการศึกษาค้นคว้า
3. ขอบเขตของโครงงาน
5. การเขียนรายงาน5. การเขียนรายงาน
- 16. 5.3 หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เปนส่วนสรุปข้อมูลทีได้จากการ
ศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการทีจะนํามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึง
รวมถึงการระบุผลงานของผู้อืนทีนักเรียนนํามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิมเติม
ด้วย
5.4 วิธีดําเนินการ วิธีดําเนินการ อธิบายขันตอนการดําเนินงานโดยละเอียด
พร้อมทังระบุปญหาหรืออุปสรรคทีพบพร้อมทังวิธีการทีใช้แก้ไข พร้อมทังระบุวัสดุ
อุปกรณ์ทีต้องใช้ในการทํางาน
5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นําเสนอข้อมูลหรือระบบทีพัฒนาได้ โดยอาจ
แสดงเปนตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทังนีให้คํานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเปน
หลัก
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปทีได้
จากการทํา งาน ถ้ามีการตังสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลทีได้สนับสนุนหรือคัดค้าน
สมมติฐานทีตังไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนันยังควรกล่าวถึงการนํา ผลการทดลอง
หรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทําโครงงาน หรือข้อสังเกตทีสําคัญ หรือข้อ
ผิดพลาดบางประการทีเกิดขึนจากการทํา โครงงานนี รวมทังข้อเสนอแนะเพือการ
ปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรืองทํานองนีต่อไปในอนาคตด้วย
5. การเขียนรายงาน5. การเขียนรายงาน
- 17. 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ทีได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ทีนักเรียนได้รับ
จากการพัฒนาโครงงานนัน และประโยชน์ทีผู้ใช้จะได้รับจากการนําผลงานของโครงงาน
ไปใช้ด้วย
5.8 บรรณานุกรม บรรณานุกรม รวบรวมรายชือหนังสือ วารสาร เอกสาร
หรือเว็บไซด์ต่างๆ ทีผู้ทํา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพือศึกษาข้อมูลและรายละเอียด
ต่างๆ ทีนํามาใช้ประโยชน์ในการทํา โครงงานนีการเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูก
ต้องตามหลักการเขียนด้วย
5.9 การจัดทําคู่มือการใช้งาน หาโครงงานทีนักเรียนจัดทํา เปนการพัฒนาระบบ
ใหม่ขึนมา ให้นักเรียนจัดทําคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนันโดยละเอียด ซึงประกอบด้วย
1. ชือผลงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์
4. คุณลักษณะของผลงาน
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟงก์ชัน
5. การเขียนรายงาน5. การเขียนรายงาน
- 19. นาย เขมินท์ หลังดวงดี เลขที 35
นางสาว กนกรัตน์ ศักดิเหลือง เลขที 36
สมาชิก
แหล่งทีมา
https://kuenapa.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD
%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8
%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7/?fbclid=IwAR1hdgrnGblBWdkBi_7H6DzLGLyyh9K15fZoraJpbz3E44lV3hnQUJV-zBI
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.html